ระหว่างที่ครึ่งหลับครึ่งตื่นได้ยินเสียงบาลีว่า มาตุลี

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย affinix, 6 กุมภาพันธ์ 2009.

  1. affinix

    affinix Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +49
    อยากรู้ว่าคืออะไรครับ

    ทำสมาธิก่อนนอนแล้วฝัน
    คือเป็นคำที่ตอนฝัีนไม่เคยรู้จักมาก่อน
    จำได้ว่ามันคล้าย ปิตุ.. มาก ก็เลยจำได้
     
  2. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,459
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,011
    ขอให้เพียรปฏิบัติต่อไปครับ ทุกอย่างกําลังดีเเล้วครับพี่ จขกท อนุโมทนาจ้า
     
  3. ศนิวาร

    ศนิวาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    7,337
    ค่าพลัง:
    +17,632
    ถ้าได้ยินเป็นคำว่า มาตุลี จริงๆ คำๆนี้เป็นชื่อของเทวดาชั้นดาวดึงส์ ทำหน้าที่ขับราชรถให้กับพระอินทร์ครับ
     
  4. krit59

    krit59 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    219
    ค่าพลัง:
    +346
    ปกติครับ
     
  5. affinix

    affinix Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +49
    ตอนที่ได้ยินคือตอนที่ครึ่งหลับครึ่งตื่น

    แบบ เหมือนคนที่กำลังจะตื่นรู้ตัวซึ่งจะมีความรู้สึกเหมือนมีเหน็บกินทั่วตัว สลับกับความรู้สึกดำดิ่งแบบคนกำลังจะหลับ สลับกันอยู่สามครั้ง

    แล้วก็ได้ยินเสี้ยงผู้ชายมีอายุหน่อยพูด

    ตอนนั้นพอไำด้ยินแล้วไม่รู้ความหมายก็เลยคิดว่า มันคล้ายๆ กับมาตุฆาตุ รึปิตุฆาติ รึเปล่า ญาติเราจะเป็นอะไรรึเปล่า

    แต่ถามแล้วแม่เราก็ไม่ได้เป็นอะไรน่ะครับ
     
  6. อย่ากด อนุโมทนา

    อย่ากด อนุโมทนา สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    113
    ค่าพลัง:
    +3
    ขอบังอาจเล่าไห้ฟัง ดังนี้ ในประวัติพระอาจารณ์ท่านหนึ่ง(ซึ่งไม่ขอเอ่ยนามเพราะเกรงจะถูกหาว่า ปรามาดแบบโง่ๆ)

    ลูกศิษของพระอาจารณ์ท่านเล่าไห้ฟังว่า ท่านได้คำภาษาบาลี ในสมาธิ จำไม่ได้ว่าคำว่าอะไรบ้าง ท่านไปถามหลวงปู่อาจารณ์ของท่านว่า หมายความว่าอย่างไร
    หลวงปู่ท่านตอบว่า (ชื่อของพระที่ถาม)เอ๊ย การที่จะได้คำภาษาบาลีจาก นิมิตหรือความฝันนั้น มันก็มีอยู่ แต่ ความหมาย หรือคำแปลนั้นก็แปลไห้ได้ แต่ความหมายที่แปลไห้นั้น จะไม่ตรงกับความหมายที่ผู้ได้นิมิตรควรรู้ . .
    เข้าใจไหมครับ เช่น ได้คำว่าขันติ(ทั้งที่ไม่เคยรู้จักหรือได้ยินมาก่อน)พอมาหาความหมาย ขันติก็แปลได้ว่า ความอดทน อดกลั้น แต่มันมีความหมายที่ต้องการไห้ผู้ที่ฝันหรือได้นิมิตรคำภาษาบาลีนั้นเข้าใจ มากกว่าคำแปลที่ว่าอดทน อดกลั้น
    เช่นอาจจะหมายถึงว่าไห้ท่านควรมีความอดทนไห้มากกว่านี้ เป็นต้น
     
  7. อย่ากด อนุโมทนา

    อย่ากด อนุโมทนา สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    113
    ค่าพลัง:
    +3
    ขอบังอาจเล่าไห้ท่าน จขกทฟัง เพื่อแลกเปลี่ยนเรื่องราวเกี่ยวกับความฝันที่ข้าพเจ้าได้ภาษาบาลีมา 2 คำ คือ โสรัจจะ และสุพัททะ ในฝัน2คำนี้เป็นชื่อเมือง
    ผมฝันว่า นั่งอยู่ในรถกับแฟน จอดนอนอยู่ข้างทางมืดๆ(ประมาณว่าจอดพักรถ)
    อยู่ดีๆรถมันก็ไหลๆไป ทั้งที่เราเข้าใจว่า เราห้ามล้อไว้ดีแล้ว และทางก็ไม่ไช่ทางลาดชัน
    ผมก็พยายามหยุดรถทุกทาง ทั้งเบรค และเกียร์ แต่ก็ไม่ได้ผล . . .
    รถก็ไหลไปตามทางเรื่อยๆ จนทิวทัศข้างทางและข้างหน้ารถ ที่แสงไฟส่องเห็น เห็นแต่ทุ่งหญ้าและทางลงเขา!! ไม่มีถนนอีกต่อไป
    และในที่สุด ก็เป็นอย่างที่คิด เหว!!.. รถที่ผมกับแฟนนั่ง ลอยละลิ่วคว้างอยู่กลางอากาศ
    จนในที่สุดก็ถึงพื้นดิน . . .(ในฝันรถยับเยินมาก)
    ผมก็ลองติดเครื่องรถ และมันก็ติและวิ่งได้ ขับไปสักนิดกเจอกองซากรถ เหมือนสุสานรถ
    ผมก็ขับเข้าไปจอดไกล้ๆ และลงรถมาสำรวจตัวเองเพราะคิดว่า คงตายแล้วแน่นอน
    ก็ไม่ได้เห็นมีอะไรผิดปรกติ แต่ก็รู้ว่าน่าจะตายแล้ว
    ก็มองหาผู้คนกะจะถามว่าทีนี่นี่ไหนหนอ ก็ไม่เจอไคร เลยเดินไปเรื่อยๆ2คนกับแฟน
    จนไปเจอชายคนหนึ่ง ไม่ได้ไส่เสื้อท่าทาง มอซอ ผมถามเขาว่าลุง ที่นี่ ที่ไหนหรือครับ
    แกก็ตอบแบบไม่ได้สนใจผมเพราะแกกำลังยุ่งอยู่กับการติดไฟ แกตอบว่า ที่นี้คือเมืองชื่อว่า โสรัจจะ . . .ผมถามว่า แล้วมีเมืองอื่นอีกไหม นี้ผมตายแล้วไช่ไหม
    แกตอบว่าไม่รู้ว่ามีอีกไหมเมืองอื่นๆ เพราะแกก็ไม่เคยได้ไปที่ไหนเพราะไปไหนไม่ได้ ..และถ้ามาที่นี่ก็น่าจะตายแล้ว แกตอบ
    ผมเลยขอบคุณแก และเดินต่อไปเรื่อยๆกับแฟน จนเจอชายอีกคนกำลังจัดโต๊ะ (ท่าทางเหมือนร้านค้า)ผมก็เลยตรงเข้าไปถามชายคนนั้นว่า มีเมืองอื่นอีกไหม เขาก็ตอบว่ามี
    ชื่อว่า สุพัททะ . .
    แล้วก็ชี้ทางไห้ ว่าเดินไปตามทางนี้เรื่อยๆ ก็ถึงเอง ผมดูทางแล้วก็เปลี่ยวชอบกล แต่ก็คงต้องไป เผื่อจะเจอผู้คน มากกว่านี้ ก็มองหาว่ามีรถไหมก็เจอรถจอดอยู่ แต่ไม่มีคนขับ ใจก็คิดว่าเราขโมยรถคันนี้ขับไปดีไหมนะ แต่ในที่สุดก็ไม่เอา กำลังจะชวนแฟนเดินไปด้วยกัน
    พอหันกลับมาหาแฟน แฟนผมขึ้นรถคันนั้นไปกับไครก็ไม่รู้เสียแล้ว
    ผมก็ใจ และเดินไปเรื่อยๆ จนถึง เมืองนี้ท่าทางเจริญกว่าที่แรกเหมือนชนบท กับเมืองหลวง
    แต่ก็ยังไม่เจอผู้คน ผมเดินไปเรื่อย ก็เจอรถคันที่แฟนนั่งออกมาจอดอยู่ แต่จอดอยู่ในรั้วตายข่ายเหล็ก(แบบกรงหมา)กำลังมองหาแฟน ผมก็ตื่น

    หลังจากที่ฝัน ผมก็มาหาความหมายของคำบาลีที่ได้ จากอินเตอเน็ตเนี่ยหละครับ และก้ได้ความหมายของคำว่า โสรัจจะ ซึ่งก็เข้าใจแล้วว่า ต้องการบอกอะไรเรา
    แต่ คำว่า สุพัททะนั้น หาไม่เจอครับ อาจเป็นไปได้ว่า พิมพ์ผิด หรือจำผิด
    อาจจะเป็นคำว่า สัพพัททะ ก็คือยังหาความหมายของคำๆนี้ไม่พบ
    จนวันหนึ่ง ได้ฟังเทปธรรมมะพุทธประวัติ ตอน พระอานนท์ พุทธอนุชา
    ก็ได้ยินคำๆนี้ ก็เลยได้รู้ความหมายของคำๆนี้ ที่ฝัน หรือ นิมิตรนั้นต้องการไห้เราได้รู้ แต่จนวันนี้ ก็ยังทำไม่ได้ อย่างฝัน หรือนิมิตรนั้นต้องการบอกไห้ทำเลย ก็จะพยายามต่อไป

    วันที่ฝันเรื่องนี้ยังไม่ได้ยินได้ฟังเรื่องประวัติหลวงปู่ที่ได้เล่าไว้ข้างบนนะครับ

    (ไม่เชื่อ อย่า ลบ หลู่ หึ หึ หึ ขำ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2009
  8. Masquerader

    Masquerader เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +323
    ผมก็เคยอยู่ครั้งหนึ่งครับเมื่อวัยประมาณ 15 ขวบ ผมเคยนอนอยู่ที่ดงกุหลาบ ตอนนั้นไปทำสวนกุหลายกับตาและยาย ที่กระท่อม หลังคามุงสังกะสี ณ สวนนั้น ข้างๆ วัดบางพระ จังหวัดนครปฐม

    ผมก็ทำสมาธิขณะนอนนั่นแหละ แต่ตอนนั้นไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรเกี่ยวกับสมาธิมากนัก ตามพาสาของเด็กที่ ก็เคยเข้าวัด ทำสมาธิบ้าง

    ขณะผมนอนอยู่ จู่ผม ก็พลันระลึก หรือเรียก คำว่า "วารี" ขึ้นมาในใจ และทันใดนั้นเอง ฝนก็ตกอย่างไม่มีปี่มีขุ่ย เทลงมาอย่างกับกระท่อมจะพังให้ได้เลย แต่ไม่ได้รู้สึกกลัวอะไร มีแต่ด้วยความประหลาดใจ และรู้สึกปลาบปลื้มนิดหน่อยว่าเราสามารถสั่งฝน หรือ รู้การณ์ล่วงหน้าได้หรือเปล่า ไม่นานก็หลับไป

    เหตุการณ์ก็เท่านี้หละครับ แค่อยากถามว่าใครเคยเป็นแบบนี้บ้างไหมเอ่ย?

    ปัจจุบันผมก็ยังฝึกสมาธิพอสมควรนะครับ ถี่เป็นช่วงๆ ก็ถือว่าไม่สม่ำเสมอเท่าไร แต่ก็พยายาม แต่ก็ไม่ได้เด่น หรือเห็นอะไรประหลาดนัก ประโยชน์จากการนั่งสมาธิ ก็ใช้ในชีวิตประจำวันทั้งนั้นครับ ไม่ได้มีความวิเศษอะไร ไม่ได้มีของเก่าอะไร

    คงเป็นเพราะยังมีความสงสัย และศรัทธาไม่เพียงพอนั่นแหละครับ ขอฝากปริศนาไว้หนึ่งอย่าง "ชีวิตประจำวันของเรานั้นแหละเป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินในการ พึงได้สิ่งต่างๆ"

    ขอให้ทุกท่านเจริญ ยิ่งๆ ขึ้นไป... "ความมานะ คือหนทางแห่งความสำเร็จ"
     
  9. โค้วโซ

    โค้วโซ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +12
    ผมฝันมาเป็นปีแล้วจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เข้าใจเลย

    ฝันว่ามีสามเณรองค์หนึ่งเดินเข้ามาหาแล้วบอกบทสวดให้แล้วก็ไป บทสวดมีว่า

    พุทโธ อรหัง ปันโน

    ธัมโม อรหัง ปันโน

    สังโฆ อรหัง ปันโน

    พอฟังจบก็สะดุ้งตื่น แล้วก็รีบจดไว้ เมื่อก่อนผมจะฝันบ่อยและพอตื่นขึ้นมาก็จะเป็น

    เวลาใกล้เคียงกันเกือบทุกครั้ง เลยเตรียมปากกาและกระดาษไว้พร้อมจะได้ไม่เสีย

    เวลานอนต่อเพราะมันประมาณตีสามอ่ะครับ
     
  10. 2ชาติตรัสรู้

    2ชาติตรัสรู้ គ្រប់គ្រាន់ รักษาดวงใจ.គ្រប់គ្រាន់

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +1,558
    โสรัจจะ คือ คำที่ต่อจากคำว่า ขันติ คือ ขันติ โสรัจจะ
    แปลว่า นอกจากท่านจะต้องมีความอดทนคือขันติแล้ว ท่านต้องมีโสรัจจะด้วยคือโสรัจจะคือ ความไม่โกรธแม้นที่ใจก็ไม่โกรธ ทำไห้ขันติงาม

    ส่วน สุภัททะ เป็นชื่อของพระ2องค์ในสมัยพระพุทธเจ้าเรื่องของทั้งสององค์อยู่ในตอนที่พระพุทธเจ้ากำลังจะปรินิพพาน
    องค์หนึ่งก่อนที่พระพุทธเจ้าจะปรินิพพาน ท่านได้มาถามปัญหากับพระพุทธเจ้า และได้ขอบวชและปฎิบัติธรรมทั้งคืนโดยตั้งใจว่า จะต้องตรัสรู้เป็นพระอรหัน ก่อนที่พระพุทธเจ้าจะปรินิพพาน และท่านก็ทำได้
    เป็นพระอรหันรูปสุดท้าย ในขณะที่พระพุทธเจ้ายังทรงพระชนอยู่
     
  11. 2ชาติตรัสรู้

    2ชาติตรัสรู้ គ្រប់គ្រាន់ รักษาดวงใจ.គ្រប់គ្រាន់

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +1,558
    ส่วนพระสุภัททะอีกรูปหนึ่งนั้น .
     

แชร์หน้านี้

Loading...