ดวงมหาสงครามโลก

"วิชาโหราศาสตร์ เป็นวิชาที่ใช้สถิติการโคจรของดวงดาวในจักรราศี เป็นหลักในการพยากรณ์ เหมือนกับวิชาอุตุนิยมวิทยา ที่ใช้สถิติของ สภาพความกดอากาศ อุณหภูมิ ความเร็วของลม ปริมาณก้อนเมฆ ฯลฯ ป็นหลักในการพยากรณ์ ดังนั้น ผลของคำพยากรณ์อาจจะเกิด หรือไม่เกิดก็ได้ " เพราะสรรพสิ่งต่าง ๆ ในโลกนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ดังพุทธพจน์ที่ว่า "นามะ รูปัง อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา" แปลว่า นามรูป ไม่เที่ยง (คือเปลี่ยนไป) เป็นทุกข์ (อาจมีสุขเจือปน แต่แล้วก็ลงท้ายด้วยทุกข์ทั้งสิ้น) และเมื่อเกิดขึ้นแล้วมันไม่คงทน ย่อมมีการดับสิ้น สูญสลาย หรือพลัดพรากไป

อ้าว ถ้าผลการพยากรณ์มันไม่แน่นอน แล้วเราจะมัวมาสนใจ มาดูดวงกันเพื่อหาสวรรค์วิมานอันใดเล่า ? ข้อนี้ ตอบง่ายมากครับ ตอบสั้น ๆ คือ "เพื่อความไม่ประมาท" เพราะความประมาทเป็นหนทางของความตายหรือความหายนะ" อย่างเช่น การพยากรณ์อากาศที่เราได้ยินกันทุกวัน วันละ ๓ เวลานั้น ก็เพื่อเตือนให้ประชาชนเตรียมพร้อมที่จะรับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นจากสภาพดินฟ้าอากาศ ถ้ารู้ว่าฝนจะตกวันนี้ และเรามีความจำเป็นต้องเดินทาง ก็ต้องมีการเตรียมร่มไว้กันฝน ตรวจดูสภาพรถว่า ที่ปัดน้ำฝน มันยังใช้การได้ดีอยู่หรือเปล่า ? สภาพยางเป็นอย่างไร เบรคเป็นอย่างไร ? ฯลฯ ถ้าฝนมันตกเราก็สบายใจที่ได้เตรียมการป้องกันไว้แล้ว แต่ถ้ามันไม่ตก มันก็ไม่เสียหายตรงไหน ? ไม่ใช่หรือ ? อย่าไปด่ากรมอุตุ ฯ เขาเลยครับ ว่า ทำนายไม่แม่น หรือมาหลอกลวงเราให้วุ่นวาย เพราะสภาพดินฟ้าอากาศนั้นมันแปรปรวนได้เสมอ

แม้ปัจจุบันจะมีภาพถ่ายดาวเทียม ถ่ายให้เห็นทิศทางการเคลื่อนไหวของก้อนเมฆ มีเครื่องมือที่ทันสมัยในการตรวจวัดสภาพความกดอากาศ อุณหภูมิ ฯลฯ แต่สิ่งเหล่านี้มันเปลี่ยนแปลงได้เสมอทุกเวลา ชนิดที่แจ้งให้ประชาชนทราบไม่ทันถึงการเปลี่ยนแปลงคำพยากรณ์เลยทีเดียว

ดวงชะตาของบุคคล หรือสรรพสิ่งในโลกนี้ก็เช่นเดียวกันครับ มันมีสิ่งที่เรียกว่า "กรรม" หรือ "การกระทำ" มาตัดรอน มาเปลี่ยนแปลงให้คำพยากรณ์เกิดการเปลี่ยนแปลงไปได้ทุกเมื่อ กรรมที่ว่านั้นมีทั้งกรรมในอดีต และกรรมปัจจุบัน ยิ่งกรรมปัจจุบันด้วยแล้ว มนุษย์เราคิดค้นวิธีที่จะแก้กรรมกันให้วุ่น และจากประสบการณ์ของกระผม ที่ศึกษาวิชาแขนงนี้มานานถึง ๒๐ ปีเต็ม เชื่อแน่นอนว่า เราสามารถที่จะแก้กรรมได้ อย่างน้อยก็ผ่อนหนักเป็นเบาได้บ้างไม่มากก็น้อย เว้นแต่ บุคคลผู้นั้นทำกรรมอันหนักหนาสาหัส ชนิดที่เรียกว่า "อนันตริยกรรม" (ฆ่าพ่อแม่ ฆ่าพระอรหันต์ ฯลฯ) หรือทำกรรมนั้นซ้ำซากสม่ำเสมอ ที่เรียกว่า "อาจิณกรรม" แล้วเจ้ากรรมนายเวรเขาผูกแค้นเอาไว้มาก อย่างนี้ก็ยากนักที่จะแก้กรรมนั้นได้

เรื่องของการแก้กรรม สะเดาะเคราะห์ ต่ออายุ เสริมดวงชะตา หรือพิธีกรรมในด้านโหราศาสตร์ซึ่งเกี่ยวข้องกับเรื่องของ "ไสยศาสตร์" หรือ ความเชื่อในสิ่งเร้นลับ มีหลายคนที่เชื่อชนิดหัวปักหัวปำลุ่มหลงงมงาย ชนิดกู่ไม่กลับ มีหลายคนที่ไม่เชื่อถือเอาเสียเลย แม้กระทั่งหมอดูบางท่านที่หากินกับการดูดวงให้ชาวบ้าน ก็ยังไม่เชื่อในเรื่องนี้ (ทั้งๆ ที่หมอดูส่วนใหญ่เขาเชื่อ เพราะจะได้หากินด้วยการทำพิธีสะเดาะเคราะห์ ต่ออายุ เสริมดวงชะตาอีกต่อหนึ่งไงครับ) เป็นเรื่องของ "นานาจิตตัง" เอาไว้จบบทความชุด"มหาสงครามโลก" นี้แล้ว ผมจะต่อด้วยเรื่องของการ "แก้กรรม"ให้ท่านผู้อ่านพิจารณา ส่วนจะเชื่อหรือไม่ เป็นสิทธิของท่านครับ

ค่อนข้างอารัมภบทมาเสียยืดยาวก็เพื่อปูพื้นฐาน ให้กับท่านที่ยังไม่เคยอ่านบทความของผมมาก่อน ให้เกิดความเข้าใจตรงกัน รวมไปถึงแฟนคอลัมน์กระผมที่จากกันไปนาน จะได้ทบทวนและทำความเข้าใจ เป็นการฟื้นความจำ เพราะเรื่องเหล่านี้ผมเคยเขียนสอดแทรกลงไปบ้างแล้วในบทความชิ้นก่อน ๆ เอาละครับมาเข้าเรื่องกันเสียที เรื่องของ "สงคราม" ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ไม่มีใครในโลกนี้ต้องการให้มันเกิดหรอกครับ เพราะมันเป็นเรื่องของการ "สูญเสีย" อย่างเดียว
ในอดีตเป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า โลกเราได้ประสบกับภาวะสงครามที่เรียกว่า "สงครามโลก" ถึง ๒ ครั้ง ทำให้ผู้คนล้มตายกันเป็นแสนเป็นล้าน บ้านเรือนพังพินาศ เศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก เป็นภาวะที่เรียกว่า"ข้าวยากหมากแพง" เดือดร้อนกันไปหมด ผู้ที่เกิดทันในช่วงดังกล่าว คงไม่มีใครอยากเห็นสงครามโลกครั้งที่สามเป็นแน่

ก่อนที่จะนำดวงมหาสงครามทั้งสองครั้งมาให้พิจารณา ผมขอเอาดวงโลกมาให้ท่านทั้งหลายได้ดูกันเสียก่อน หลายท่านคงจะแปลกใจ สงสัยและนึกในใจว่า ท่าทางไอ้หมอนี่มันจะบ้า มันรู้หรือว่าโลกเกิด เมื่อไหร่ ครับ ผมเองก็ไม่รู้หรอกครับว่าโลกมันเกิดเมื่อไร แต่ที่ถือว่าดวงนี้เป็นดวงโลก เพราะเป็น "ดวงสมมติ" ครับ ได้มีการตรวจสอบและทำสถิติกันมามากแล้ว นักโหราศาสตร์เขาถึงยอมรับ และใช้เป็นพื้นฐานในการพิจารณาดวงชะตาต่างๆ ดวงของโลก เป็นดังนี้ครับ (ดูภาพประกอบ)

​

ดวงโลก หรือ จักรราศีโลก​

ในดวงชะตาของโลกนั้น นักโหราศาสตร์ได้วางลัคนาดวงโลกไว้ที่ราศีเมษ (ธาตุไฟ) มีดาวพลูโต (พ) เป็นดาวเจ้าเรือน นับถัดมาจากขวาไปซ้าย หรือ นับทวนเข็มนาฬิกา จะเป็นราศีพฤษภ (ธาตุดิน) มีดาวแบคคัส (บ) เป็นดาวเจ้าเรือน เรือนนี้เขาเรียกว่า เรือนกฎุมพะ หมายถึงเศรษฐกิจ การเงิน ฯลฯ ถัดมาเรือนที่ ๓ เป็นราศีเมถุน (ธาตุลม) มีดาวราหู (๘) และ เกตุ (๙) เป็นดาวเจ้าเรือน เรือนนี้เรียกว่า เรือนสหัชชะ หมายถึง เพื่อนฝูง ญาติมิตร วงสังคม ฯลฯ เรือนที่ ๔ เป็นราศีกรกฎ (ธาตุน้ำ) มีดาวจันทร์ (๒) เป็นเจ้าเรือน เรียกว่า เรือนพันธุ หมายถึง บ้านเรือนที่อยู่อาศัย ยานพาหนะฯลฯ เรือนที่ ๕ ราศีสิงห์ (ธาตุไฟ) มีดาวอาทิตย์ (๑) เป็นเจ้าเรือน เรียกว่า เรือนปุตตะ หมายถึง บุตรบริวาร ในที่นี้หมายถึง ประชากรโลกก็คงไม่ผิดนัก

เรือนที่ ๖ ราศีกันย์(ธาตุดิน) มีดาวพุธ (๔) เป็นเจ้าเรือน เรียกว่า เรือนอริ หมายถึง ปัญหาอุปสรรค ศัตรู ถ้าจะดูเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวที่จ้องทำลายโลก หรือ พวกอุกกาบาตจะชนโลก น่าจะดูดาวดวงนี้เป็นหลัก เรือนที่ ๗ ราศีตุลย์ (ธาตุลม) มีดาวศุกร์ (๖) เป็นเจ้าเรือน เรียกว่า เรือนปัตนิ หมายถึงคู่ครอง ความรัก การแต่งงาน ฯลฯ โลกของเราคงไม่มีเนื้อคู่หรือไปแต่งงานกับใครแน่ อันที่จริงเรือนนี้คำว่า "ปัตนิ" แปลว่า "ศัตรู" แต่ที่นำมาดูเกี่ยวกับคู่ครองนั้น เพราะเขาถือว่า หญิงกับชายนั้นเป็นเพศตรง ข้ามกัน มีอะไรที่แตกต่างกันหลาย ๆ อย่าง น้อยคู่นักที่จะอยู่ด้วยกันโดยปกติสุข ไม่มีปากเสียงกัน จึงเอาเรือนนี้ หรือดาวศุกร์มาดูเกี่ยวกับคู่ครอง ความรัก ทีนี้ถ้าเป็นดวงโลก ดาวดวงนี้ก็หมายถึงศัตรูของโลก ตัวที่จะทำลายโลก ในทัศนะของผม ไม่น่าจะเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาว แต่เป็นมนุษย์ในดาวของเรานี่แหละ ส่วนที่จะเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันอย่างไร เป็นเรื่องละเอียดอ่อนลึกซึ้ง เอาไว้มีโอกาสจะขยายให้ฟัง

เรือนที่๘ ราศีพิจิก (ธาตุน้ำ) มีดาวอังคาร (๓) เป็นเจ้าเรือน เรียกว่า เรือนมรณะ หมายถึงความตาย ความหายนะ เรือนที่ ๙ ราศีธนู (ธาตุไฟ) มีดาวพฤหัสบดี (๕) เป็นเจ้าเรือน เรียกว่า เรือนศุภะหมายถึง เกียรติยศ ชื่อเสียง ความดีงาม ความสำเร็จ ฯลฯ เรือนที่ ๑๐ ราศีมังกร (ธาตุดิน) มีดาวเสาร์ (๗) เป็นเจ้าเรือน เรียกว่า เรือนกัมมะ หมายถึง กิจการงานอาชีพ กรรมปัจจุบัน ฯลฯ เรือนที่ ๑๑ ราศีกุมภ์ (ธาตุลม) มี ดาวมฤตยู (๐) เป็นเจ้าเรือน เรียกว่าเรือนลาภะ หมายถึง ลาภผล เพื่อนรู้ใจ ฯลฯ และเรือนสุดท้ายคือ เรือนที่ ๑๒ ราศีมีน (ธาตุน้ำ) มีดาวเนปจูน (น) เป็นเจ้าเรือน เรียกว่า เรือนวินาศนะ หมายถึง ความเร้นลับ ไม่เปิดเผย บ่อนทำลาย ฯลฯ

เรื่องของเรือน หรือบางทีผมจะใช้คำว่า "ภพ" ซึ่งมีความหมายเหมือนกัน คือ ชื่อที่ใช้เรียก "ราศี" อันเป็นที่ตั้งของตำแหน่งดาวในดวงกำเนิด นับจากลัคนา ซึ่งเป็นภพที่หนึ่ง ในที่นี้ผมได้อธิบายคร่าว ๆ พอสังเขป เพราะถ้าจะเอาเนื้อหาวิชาจริง ๆ แล้ว ท่านผู้อ่านทั้งหลาย คงอ่านบทความผมครั้งนี้ครั้งเดียว และคงเลิกอ่านไปเลย เว้นแต่ท่านที่สนใจและต้องการศึกษาจริง ๆ เท่านั้น

 

ดวงมหาสงครามโลก (๒)​

****************​

สรรพสิ่งในโลกนี้ ล้วนแบ่งแยกออกเป็นสองฝ่ายตรงข้ามกันเสมอ มีดำ-ขาว, ดี-ชั่ว, ชาย-หญิง จริง-ปลอม, บวก-ลบ ,ร้อน-เย็น ฯลฯ ล้วนเป็นมาแต่ดั้งเดิมตามธรรมชาติของมัน ในเรื่องของดวงดาวบนท้องฟ้าก็เช่นกัน นักดาราศาสตร์ ได้แบ่งประเภทของดวงดาวออกเป็น ๒ ประเภท คือ ดาวที่มีแสงในตัวเองเรียกว่า "ดาวฤกษ์" และดาวที่ไม่มีแสงในตัวเอง เรียกว่า "ดาวเคราะห์"

ในทางโหราศาสตร์นั้นได้ใช้ดวงดาวในการพยากรณ์เรื่องราวต่าง ๆ เพียง ๑๓ ดวงเท่านั้น ซึ่งเป็นดาวในระบบสุริยะจักรวาลและยังแบ่งออกเป็น ๒ ฝ่าย คือฝ่ายดี เรียกว่า"ดาวศุภเคราะห์" ให้คุณแก่ดวงชะตาได้แก่ ดาวอาทิตย์ (๑) ,ดาวจันทร์ (๒), ดาวพุธ (๔) , ดาวพฤหัสบดี (๕), ดาวศุกร์ (๖) และดาวแบคคัส (บ)

ส่วนอีกฝ่ายหนึ่ง เป็นฝ่ายชั่วร้ายให้โทษแก่ดวงชะตา เรียกว่า "ดาวบาปเคราะห์" ได้แก่ดาวอังคาร (๓) ,ดาวเสาร์ (๗), ดาวมฤตยู (๐) , ดาวเนปจูน (น) , ดาวพลูโต (พ) และยังมีอีกสองดวง ซึ่งอันที่จริงแล้วไม่ใช่ดาว แต่เป็นจุดคำนวณคราส แต่เรานำมาใช้ในการพยากรณ์ เปรียบเสมือนดาวบาปเคราะห์ คือ ราหู (๘) และ เกตุ (๙)

ในการนี้โหรยังได้แบ่งดาวตามขนาดของมัน ออกเป็น ๒ ขนาด คือ ดาวขนาดใหญ่ ได้แก่ ดาวอาทิตย์ (๑) , ดาวเสาร์(๗), ดาวพฤหัสบดี (๕) และ ดาวมฤตยู (๐) ดาวเนปจูน (น) และราหู (๘) ส่วนดาวที่มีขนาดเล็ก ได้แก่ดาวจันทร์ (๒) , ดาวพุธ (๔) , ดาวศุกร์ (๖) , ดาวอังคาร (๓) , ดาวพลูโต (พ)ดาวแบคคัส (บ) และเกตุ (๙)

เอาล่ะ ปูพื้นฐานมาพอควร ทีนี้เรามาดูตำแหน่งดาวในช่วงที่เกิดสงครามโลกครั้งที่หนึ่งกัน โหรทั่วไปถือว่าวันที่ ๔ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๕๗ เป็นวันที่เกิดสงครามโลกเป็นวันแรก เพราะวันนี้ เยอรมันได้ประกาศสงครามกับเบลเยี่ยม ขณะเดียวกัน อังกฤษ ก็ประกาศสงครามกับเยอรมันนี โดยมีชาติต่าง ๆ ร่วมด้วยกับทั้งสองฝ่าย

​

ในวันนี้ (ดูภาพประกอบ) จะเห็นได้ว่า ตำแหน่งดวงดาวบนท้องฟ้า หรือในจักรราศี กระจายเต็มท้องฟ้า และถ้าเราลากเส้นประ ผ่ากลางราศีเมษให้ยาวตลอดไปจนถึงราศีตุลย์ เราจะเห็นดาวอยู่ตรงข้ามกัน มีอำนาจทัดเทียมกัน กล่าวคือ ในซีกดวงทางด้านซ้ายมือของเราจะเห็นดาวใหญ่สามดวง คือ อาทิตย์ (๑) ,เสาร์ (๗) และ เนปจูน (น) โดยมีดาวเล็กเป็นบริวาร คือ พุธ (๔), อังคาร (๓),ศุกร์ (๖), พลูโต (พ) และแบคคัส (บ) ส่วนซีกทางขวามือ จะเห็นว่ามีดาวใหญ่สามดวงเท่ากัน คือ พฤหัสบดี (๕) , มฤตยู (๐)และราหู(๘) โดยมีดาวเล็กเป็นบริวารคือ เกตุ (๙) กับจันทร์ (๒)

ลักษณะแห่งการแบ่งดาวออกเป็นสองฝ่าย ก็ไม่ต่างอะไรกับการแบ่งแยกการสู้รบออกเป็นสองฝ่ายเช่นเดียวกัน ไอ้ที่จะมาวางตัวเป็นกลาง โดยทางปฏิบัติแล้วเป็นไปได้ยาก ไม่ต้องดูอะไรมาก ในยุคปัจจุบันนี้ ท่านประธานาธิบดีจอร์จ บุช ผู้ลูกชาย แห่งอเมริกา ประกาศตูม ๆ เลยว่า เฮ..ยูจะอยู่ฝ่ายไหนถ้าไม่เข้าข้างไอ ก็ต้องเป็นพวกเข้าข้างผู้ก่อการร้าย เอากับเขาซิ พี่ท่านให้ทางเลือกสองทางจริง ๆ ในการเกิดสงครามโลกทั้งสองครั้งก็เช่นกัน ถ้าไม่อยู่ฝ่ายอักษะ (เยอรมัน) ก็ต้องเลือกฝ่ายพันธมิตร คือ อังกฤษ นี่คือข้อสังเกตข้อแรกในการพิจารณาว่า จะเกิดสงครามโลกหรือไม่ ก็ดูจากตำแหน่งดาวที่แบ่งออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายละเท่าๆ กัน (หมายถึงดาวใหญ่) หรือ ไม่ก็มีกำลังทัดเทียมกัน มันถึงจะสูสีกันหน่อย ไอ้อย่างที่พี่กันไปทิ้งระเบิดตูม ๆ โดยมีพี่กฤษ กับพันธมิตรอีกหลายชาติ ถล่มตาลีบันในอัพกานิสถานนั้น ไม่เข้าข่ายข้อนี้หรอกครับ

ข้อสังเกตประการที่สองก็คือ ให้ดูที่ดาวพฤหัสบดี(๕) ซึ่งเป็นประธานฝ่ายศุภเคราะห์ คือมักจะให้คุณยิ่งใหญ่เสมอ ดาวดวงนี้โหรหลายคนยังเข้าใจว่า ให้คุณแก่สิ่งที่ดี ๆ เท่านั้น อันที่จริงแล้ว ดาวนี้เป็นดาวที่ให้คุณในสิ่งที่ชั่วร้ายด้วย ชักงง ใช่ไหมล่ะ ? เอาส่ะ จะขยายให้ฟัง เนื่องจากดาวดวงนี้เป็นดาวให้คุณ ไม่ว่าดาวนี้จะอยู่กับฝ่ายใดก็มักจะให้คุณกับฝ่ายนั้นเสมอ เช่นอยู่กับนักบุญ ก็ส่งเสริมให้นักบุญนั้นสำเร็จผล มีบารมีแก่กล้าเก่งกาจในฌานมากขึ้น แต่เมื่ออยู่กับฝ่ายบาปเคราะห์ ดาวพฤหัสบดีก็กลับให้คุณแก่ดาวบาปเคราะห์นั้น ๆ กลายเป็นอาจารย์ของโจร ให้สติปัญญาแก่โจร มีความเฉลียวฉลาดหลักแหลมในการทำการโจรกรรมมากขึ้น ในดวงสงครามโลกครั้งที่หนึ่งนี้ ดาวพฤหัสบดีอยู่ร่วมกับดาวมฤตยู (๐) ซึ่งถือเป็นดาวโจร ดาวแห่งความตายหรือหายนะ (มฤตยู แปลว่า ความตาย) นี่แหละ เป็นสาเหตุให้คนตายเป็นเบือ เป็นแสนเป็นล้าน

ข้อสังเกตประการที่สาม คือ จะต้องมีดาวบาปเคราะห์ใหญ่เดินนำหน้า หรืออยู่ในราศีข้างหน้าดาวพฤหัสบดี (๕)ในดวงสงครามโลกครั้งที่หนึ่งนี้ มีราหู (๘) บาปเคราะห์ใหญ่ ตัวลุ่มหลงมัวเมา บ้าอำนาจนำหน้าดาวพฤหัสบดี (๕) ซึ่งเป็นตัวคุณงามความดี ทำให้เห็นผิดเป็นชอบ ใช้อำนาจในทางที่ผิด จนเกิดสงครามใหญ่ สร้างความหายนะให้กับคนทั้งโลก

ข้อสังเกตประการที่สี่ คือ ดาวพฤหัสบดี (๕) ซึ่งเป็นประธานฝ่ายศุภเคราะห์ เล็งกับดาวเนปจูน (น) ซึ่งเป็นประธานฝ่ายบาปเคราะห์ ถือเป็นคู่ปรปักษ์อย่างแรง ดาวพฤหัสบดี เปรียบเสมือนหัวหน้าใหญ่แห่งโลกเสรี ซึ่งก็คือพี่เบิ้ม สหรัฐอเมริกา นั่นเอง ส่วนดาวเนปจูนนั้น เปรียบเสมือนหัวหน้าใหญ่แห่งค่ายคอมมูนิสต์ ก็คือรัสเซีย คงจำบทความตอนที่แล้วได้นะครับ ที่ผมบอกว่า ดาวเนปจูนเป็นเจ้าเรือนวินาศนะ หมายถึงความเร้นลับปิดบัง ซ่อนเร้นไม่เปิดเผย ซึ่งตรงกับลัทธิคอมมูนิสต์ที่มักจะทำอะไรแบบลับ ๆ ล่อ ๆ ค่อยบ่อนทำลายความมั่นคงไปเรื่อย ๆ ด้วยการปลุกระดมมวลชน แม้แต่รัสเซียเอง ก็ยังเรียกตนเองว่าเป็นประเทศหลังม่านเหล็ก, หรือจีนแดง เรียกตนเองว่า หลังม่านไม้ไผ่ ฯลฯ เป็นต้น เมื่อดาวสองดวงนี้เล็งกัน ก็เปรียบเสมือนการประจัญบานของทั้งสองค่ายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

อันที่จริงยังมีหลักในการพิจารณาอีกหลายประการ แต่เกรงว่าท่านผู้อ่านจะเบื่อหน่ายไปเสียก่อนเท่าที่ยกตัวอย่างมานี้ ขอให้ท่านจำเอาไว้ให้ดีนะครับ เพราะมันเป็นเรื่องที่แปลกแต่จริง ที่ตำแหน่งดาว ในวันที่เกิดสงครามโลกครั้งที่สองนั้น จะเข้ากับเกณฑ์ทั้งสี่ข้ออย่างไม่น่าเชื่อ แต่มันก็เป็นไปแล้ว ทั้งที่ระยะเวลาการเกิดสงครามโลกทั้งสองครั้ง ห่างกันถึง ๒๐ กว่าปี

ก่อนที่จะมาว่ากันต่อถึงดวงมหาสงครามโลกครั้งที่สอง ขอปูพื้นฐานความเข้าใจเกี่ยวกับดวงดาวที่โหรใช้เป็นสัญลักษณ์ในการอ่านดวงของแต่ละประเทศที่สำคัญพอสังเขป ดังนี้

สหรัฐอเมริกา ราศีประจำประเทศนี้ คือ ราศีพิจิก ซึ่งมีดาวอังคาร (๓) เป็นเกษตรประจำราศีหรือ ดาวเจ้าเรือน ดาวอังคารได้ชื่อว่า เป็นเทพเจ้าแห่งสงคราม ดังนั้น อเมริกาจึงเข้าร่วมสงครามโลกทุกครั้ง และมักจะเป็นฝ่ายได้ชัยชนะเสมอ และที่ร่ำรวยทุกวันนี้ ก็เพราะค้าอาวุธสงครามเช่นกัน จริงมั้ย ส่วนดาวประจำประเทศนั้น คือ ดาวพฤหัสบดี (๕) หมายถึง เกียรติยศ ชื่อเสียง ความดีงาม ความสำเร็จ

อังกฤษ ราศีประจำประเทศนี้ คือ ราศีธนู ซึ่งมีดาวพฤหัสบดี (๕) เป็นเจ้าเรือน จึงไม่น่าแปลกใจถ เลยกับคำว่า "ผู้ดีอังกฤษ" เพราะดาวพฤหัสบดี หมายถึง เกียรติยศชื่อเสียงความดีงาม พวกนี้จึงรักเกียรติ รักศักดิ์ศรีตัวเองยิ่งนัก ดาวนี้เป็นดาวแห่งความสำเร็จ จึงแสดงแสนยานุภาพ มีอาณานิคมทั่วโลกข้อสังเกตอีกประการหนึ่งก็คือ อเมริกา เป็นประเทศที่สืบเชื้อสายมาจากอังกฤษ ดังนั้น อเมริกา จึงมีดาวพฤหัสบดี (๕) เป็นดาวประจำประเทศอีกดวงหนึ่งด้วย คงหายแปลกใจแล้วซินะ ว่าทำไม? อเมริกาจึงมักทำตัวเป็นตำรวจโลกอยู่เสมอ หรือเวลาจะทำสงครามกับใคร ด้วยอิทธิพลของดาวอังคารก็มักจะอ้างตนว่าเพื่อพิทักษ์คุณธรรม ปกป้องสิทธิเสรีภาพ ก่อสันติภาพให้แก่โลก ตามลักษณะของดาวพฤหัสบดี และก็มักจะมีประเทศอื่น ๆ เห็นดีเห็นงามเข้าร่วมโดยเฉพาะอังกฤษ แน่นอนมักจะลงท้ายด้วยชัยชนะเสมอเช่นกัน ส่วนดาวประจำประเทศอังกฤษนั้นคือดาวอาทิตย์ (๑) หมายถึงความยิ่งใหญ่ เป็นผู้นำ ไม่ยอมสยบให้ใคร ฯลฯ จึงทำให้ประเทศนี้เป็นประเทศแสวงหาอำนาจ ด้วยการล่าอาณานิคม หรือเมืองขึ้นไปทั่วโลกจนได้รับฉายาว่า "ดินแดนพระอาทิตย์ไม่ตกดิน"

รัสเซีย เป็นประเทศผู้นำแห่งค่ายคอมมูนิสต์ ดังนั้น ดาวประจำประเทศควรจะเป็นดาวเนปจูน(น) ประธานฝ่ายบาปเคราะห์ ซึ่งเป็นเกษตรราศีมีน หรือเจ้าเรือนภพวินาศนะของดวงโลก ดังที่กล่าวมาแล้ว จากแผนผังลัคนาดวงโลก หรือ "จักราศีโลก" ราศีประจำประเทศคือ "ราศีมีน" อันที่จริง ประเทศนี้เป็นประเทศที่ใหญ่มาก กินอาณาบริเวณกว้างใหญ่ถึง ๙ ราศี ตั้งแต่ราศีกุมภ์ มีน เมษ พฤษภ เมถุน กรกฎ สิงห์ กันย์ และตุลย์ เหตุที่จัดให้ราศีมีนเป็นราศีของประเทศ เพราะเป็นที่ตั้งของนครหลวง คือ "มอสโคว์"

 

ดวงมหาสงครามโลก (๓)​

****************​

ผ่านมาสองตอน สำหรับเรื่องราวเกี่ยวกับความเป็นไปของโลก ในเรื่องของมหาสงครามโลก ซึ่งตอนที่แล้วได้นำเสนอ "ดวงมหาสงครามโลก ครั้งที่ ๑" ให้พิจารณากันไปแล้ว และก่อนที่ได้นำเอาดวงมหาสงครามโลก ครั้งที่ ๒ มาให้พิจารณา ผมขอให้ผู้อ่านสละเวลา อ่านสัญลักษณ์ของประเทศที่สำคัญ ๆ ที่มีบทบาทต่อโลกในสงครามทั้งสองครั้ง และยังมีบทบาทต่อเนื่องมาจนถึงโลกในยุคปัจจุบันกันก่อน เพื่อปูพื้นฐานในการอ่านบทความครั้งต่อไป มาว่ากันต่อเลยนะครับ

จีนแดง แม้จะเป็นพี่เบิ้มในค่ายคอมมูนิสต์ แต่ดาวประจำประเทศต่างกัน โหรจัดให้ดาวเสาร์ (๗) เป็นดาวประจำประเทศ เนื่องจากดาวเสาร์ เป็นดาวทุกข์โทษ จากประวัติศาสตร์อันยาวนานของจีนจะเห็นได้ว่า ระชาชนในประเทศมักจะอยู่ร่วมกันอย่างไม่ปกติสุข มีการล้มล้างราชวงศ์กันบ่อยครั้ง ทั้งจากภายในและภายนอก ส่งผลกระทบให้กับประชากร ซึ่งมีจำนวนมากมาย ต้องอดอยาก แร้นแค้น ส่วนราศีประจำประเทศนั้น คือ ราศีกันย์ และบางทียังคาบเกี่ยวมาถึงราศีสิงห์อีกด้วย เนื่องจากเป็นประเทศที่ใหญ่ มีอาณาบริเวณมาก

เยอรมันนี เป็นประเทศสำคัญที่เป็นต้นเหตุให้เกิดสงครามโลกทั้งสองครั้ง ดาวประจำประเทศนี้คือ "ดาวมฤตยู"(๐) ซึ่งเป็นดาวแห่งความตาย ทำลายล้าง หายนะ คนไทยเรียกดาวนี้ว่า "ดาวโจร" ดังนั้นพฤติกรรมของพวกเยอรมัน จึงมีลักษณะคล้าย ๆ โจร คือ ชอบรบราฆ่าฟัน มักรุกรานชาติอื่นเมื่อมีกำลังเข้มแข็ง เวลาจะบุกโจมตีใคร ก็จะใช้วิธีการบุกแบบสายฟ้าแลบ ไม่บอกให้รู้ล่วงหน้า ศัตรูไม่สามารถตั้งตัวได้ ฯลฯ ส่วนราศีประจำประเทศนี้ โหรจัดไว้ในราศีมังกร

ญี่ปุ่น ประเทศที่เป็นหมู่เกาะเล็กน้อยมากมาย แม้จะมีเนื้อที่ไม่มากนัก แต่ปัจจุบันมีอำนาจในการต่อรองกับประชาคมโลกสูง ไม่แพ้ประเทศมหาอำนาจอย่างอเมริกา จีนแดง รัสเซีย เลยทีเดียว คนญี่ปุ่นมีลักษณะนิสัยเหมือนกับเยอรมันหลายเรื่อง เช่นชอบรุกรานคนอื่นเมื่อมีกำลัง โดยใช้วิธีการบุกแบบสายฟ้าแลบ ชอบสิ่งแปลก ๆ ใหม่ ๆ มีมันสมองเป็นเลิศ ดังนั้นจึงมีดาวประจำประเทศเหมือนกันคือ "มฤตยู"(๐) จึงไม่น่าเป็นที่แปลกใจที่ญี่ปุ่นกับเยอรมัน จึงจับมือกันก่อสงครามโลกครั้งที่สอง โหรได้จัดราศีประจำประเทศของญี่ปุ่น คือ ราศีกันย์

ฝรั่งเศส ประเทศที่มีชื่อเสียงโด่งดังในด้านศิลปกรรม คนฝรั่งเศสมักรักสวยรักงาม มีเสรีในความรัก จึงมีดาวประจำประเทศ คือ "ดาวศุกร์" (๖) ซึ่งเป็นดาวแห่งความรัก ศิลปวัฒนธรรม ฯลฯ เนื่องจากเป็นประเทศหนึ่งในประชาคมยุโรป หลาย ๆ ประเทศ ที่อยู่ใกล้กับเยอรมัน จึงมักถูกเยอรมันรุกรานเสมอและมีส่วนร่วมกับอังกฤษ ในสงครามโลกทั้งสองครั้ง ฝรั่งเศส มีราศีประจำประเทศที่ "ราศีมังกร" เช่นเดียวกับเยอรมัน

ไทย ประเทศที่รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาดของเรา ผมเคยกล่าวถึงดวงเมืองประเทศไทยไว้บ้างแล้วในเรื่อง "ดวงเมืองบางกอก" ซึ่งไทยเองนั้น ได้รับผลกระทบด้านสงครามโลกถึง ๒ ครั้ง ด้วยโหรจัดให้ไทยมีดาวประจำประเทศคือ "ดาวพฤหัสบดี" (๕) เช่นเดียวกับอเมริกาและอังกฤษ ดาวพฤหัสบดี(๕) เป็นดาวที่เกี่ยวข้องกับคุณธรรม ความดีงาม ความสำเร็จ เป็นดาวเกี่ยวกับศาสนาโดยตรง ดังนั้นจึงไม่แปลกใจอะไร ที่คนไทยเราจึงยึดมั่นในขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรมที่ดีงามเหมือนอังกฤษ และอเมริกา เวลาที่คนอเมริกันเดือดร้อนเรื่องใด ไทยมักจะพลอยเดือดร้อนไปด้วยทุกเรื่อง ด้วยดาวพฤหัสบดีถูกเบียนเช่นเดียวกันนั่นเอง สำหรับราศีประจำประเทศไทยนั้น คือ ราศีสิงห์
เรื่องของดาวประจำประเทศ ก็ดี เรื่องของราศีประจำประเทศก็ตาม โหรจัดขึ้นด้วยการสมมติจากเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ มาทำเป็นสถิติ ตลอดจนลักษณะนิสัยใจคอ พฤติกรรมของคนในชาตินั้น ๆ ก็ขอเขียนถึงพอสังเขปเท่านี้ก่อน เพื่อเป็นพื้นฐานในการอ่านดวงมหาสงครามโลก และผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ตลอดจนความเป็นไปของโลกในยุคปัจจุบัน และอนาคตอันใกล้ ซึ่งผมจะได้นำเสนอเป็นลำดับไป

​

มาดูดวงมหาสงครามโลกครั้งที่สองกันต่อ ในภาพจะเป็นตำแหน่งของดวงดาวในจักรราศีของวันที่ ๓ กันยายน พ.ศ. ๒๔๘๒ วันนี้ถือเป็นวันที่อังกฤษกับฝรั่งเศสประกาศสงครามกับเยอรมัน

วิธีการพิจารณาดวง ก็เหมือนกับการดูดวงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง คือ ขีดเส้นประ แบ่งดาวออกเป็น ๒ ฝ่าย เท่า ๆ กัน โดยในดวงนี้ เราขีดเส้นประผ่าครึ่งระหว่างราศีเมถุนตรงกลางลงไปทะลุผ่ากลางราศีธนู จะเห็นว่ามีดาวใหญ่ฝ่ายละ ๓ ดวง เท่ากัน คือ ซีกระหว่างกลางราศีเมถุน มากรกฎ สิงห์, กันย์ ,ตุลย์ , พิจิก ไปกลางราศีธนู มีดาวใหญ่สามดวงคือ อาทิตย์ (๑), ราหู (๘) กับ เนปจูน (น) ส่วนดาวเล็กบริวาร มี พลูโต (พ) , แบคคัส (บ) ,พุธ (๔), ศุกร์ (๖) และ เกตุ (๙)

อีกซีกตรงข้ามมีดาวใหญ่สามดวงเช่นกัน คือ เสาร์ (๗), มฤตยู (๐), พฤหัสบดี (๕) และมีดาวเล็กบริวาร คือ จันทร์ (๒) กับ อังคาร (๓) นี่เป็นหลักเกณฑ์ข้อแรก เหมือนกับสงครามโลกครั้งที่หนึ่งไม่ผิดเพี้ยน

หลักเกณฑ์ข้อที่สองที่เหมือนกันก็คือ ดาวพฤหัสบดี(๕) อยู่ฝ่ายเดียวกับดาวมฤตยู(๐)เช่นเดียวกันแม้จะไม่อยู่ร่วมราศีเดียวกันเหมือนครั้งแรก ก็ถือว่าส่งผลให้มีคนล้มตายมากไม่แพ้กัน และที่น่าแปลกก็คือ ดาวอาทิตย์ (๑), พุธ (๔) และ ศุกร์ (๖) สามดวงนี้ จะต้องไปอยู่ฝ่ายเดียวกับเนปจูนทุกครั้ง

หลักเกณฑ์พิจารณาข้อที่สาม คือมีดาวบาปเคราะห์ใหญ่ นำหน้า ดาวพฤหัสบดี (๕) ในทางโหราศาสตร์ ให้ความสำคัญกับดาวนำหน้ามาก ถือว่าเป็นตัวชักนำดาวที่ตามมา (ข้อนี้รวมไปถึงลัคนาด้วย) ถ้าเป็นศุภเคราะห์ ก็จะชักนำไปในทางที่ดี ถ้าเป็นบาปเคราะห์ ก็จะชักนำไปในทางที่ร้าย ตามลักษณะอิทธิพลของดาวนั้น ๆ โหรเรียกตำแหน่งดาวนำหน้าว่า "ศูนยพาหะ" ในสงครามโลกครั้งแรก ราหู (๘) นำหน้าดาวพฤหัสบดี (๕) แต่ครั้งที่สองนี้ ดาวเสาร์ (๗) ตัวทุกข์โทษ วิปโยค นำหน้า ทำให้สงครามโลกครั้งที่สอง ต้องประสบกับความโศกเศร้า สูญเสียชีวิตและทรัพย์สินมากมายกว่าครั้งแรกหลายเท่าทีเดียว

หลักเกณฑ์ข้อสุดท้ายที่นำมาพิจารณาก็คือ ดาวพฤหัสบดี (๕) ประธานฝ่ายศุภเคราะห์ ต้องเล็งกับดาวเนปจูน (น) ประธานฝ่ายบาปเคราะห์ ข้อนี้สำคัญมากดังที่กล่าวไว้แล้วในครั้งก่อน ในดวงนี้ก็เช่นเดียวกัน ดาวพฤหัสบดี (๕) ในราศีมีน เล็ง ดาวเนปจูน (น) ในราศีกันย์ จึงทำให้มีกำลังทัดเทียมกัน ก่อให้เกิดสงครามโลกในที่สุด

ปีนี้ (พ.ศ.๒๕๔๕ หรือ ค.ศ. 2002 ) ดาวพฤหัสบดี (๕) ได้โคจรเข้าสู่ราศีกรกฎ ตั้งแต่วันที่ ๒ กรกฏาคม พ.ศ. ๒๕๔๕ และจะอยู่ในราศีนี้จนกระทั่งวันที่๒๗ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๔๖ เป็นระยะเวลานานถึง ๑ ปีเต็ม ในช่วงดังกล่าวเป็นช่วงสำคัญ ด้วยดาวพฤหัสบดีดวงนี้ เล็งดาวเนปจูนที่อยู่ในราศีมังกร มานานหลายปี จึงเป็นเหตุที่น่าจะควรระวัง เพราะอาจจะเกิดสงครามใหญ่ หรือสงครามโลกได้ ถ้าเกิดมีตำแหน่งดาวอื่น ๆ เข้าเกณฑ์ที่กล่าวไว้อีก ๓ ข้อ ตามที่เสนอไปแล้ว และนี่เป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้ผมต้องนำเสนอบทความเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก ในโหราปริทรรศน์ ภาค ๒ นี้ สงครามโลกครั้งที่สามจะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๔๕ ถึง ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๔๖ หรือไม่ ? โปรดติดในตอนต่อไป
ก่อนจบบทความในวันนี้ จะบอกเล่าถึงอิทธิพลของดาวพฤหัสบดี (๕) ในราศีกรกฎ ในด้านต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อโลก ต่ออเมริกา และต่อประเทศไทย ให้ฟังพอสังเขป ดาวพฤหัสบดีในตำแหน่งนี้ เป็นดาวที่ให้คุณ ด้วยเป็นมหาอุจจ์ในราศีกรกฎ ซึ่งเป็นภพพันธุ (หมายถึง บ้านเรือนที่อยู่อาศัย ยานพาหนะ อสังหาริมทรัพย์ พวกที่ดิน หรือทรัพยากรในดินในน้ำ ฯลฯ) ของลัคนาดวงโลก และดวงเมืองบางกอกที่มีลัคนาอยู่ในราศีเมษ จึงไม่น่าแปลกที่ไม่นานมานี้ ประเทศไทยมีการค้นพบแหล่งก๊าสธรรมชาติในอ่าวไทยเพิ่มขึ้นถึง ๓ แห่งด้วยกัน และในช่วงดังกล่าว ( ๒ กรกฎา ปีนี้ ถึง ๒๗ กรกฎา ปีหน้า) ประเทศไทยน่าจะมีข่าวดีในด้านนี้ขึ้นมาอีก

สำหรับโลกเราก็เช่นกัน อาจจะมีข่าวดีเกี่ยวกับการค้นพบทรัพยากรธรรมชาติ หรือมีการคิดค้นยานพาหนะแปลก ๆ ใหม่ ๆ ขึ้นมาก็เป็นได้ แต่เนื่องจากโดนดาวเนปจูน (น) ประธานฝ่ายบาปเคราะห์ และเป็นคู่ปรปักษ์ที่ร้ายแรงเล็งเบียน อยู่ในราศีมังกร จึงก่อให้เกิดโทษแก่ดาวพฤหัสบดี และถ้าหากว่ามีดาวบาปเคราะห์อื่น ๆ มาเข้ามุมเสริมในมุมที่ให้โทษ เช่น กุม , เล็ง หรือกากะบาดด้วยแล้ว ยิ่งให้โทษร้ายแรงเป็นทวีคูณ ดาวพฤหัสบดีเป็นดาวที่เกี่ยวกับศาสนา ศีลธรรม พระภิกษุ นักบวช ฯลฯ ดังนั้นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมานี้ไทยเราจึงสูญเสียพระเถระผู้ใหญ่ คือพระธรรมราชานุวัตร (หลวงเตี่ย) ด้วยมีเกตุทำมุมกากะบาดอยู่ในราศีตุลย์ และในสัปดาห์เดียวกัน ก็ได้เกิดน้ำป่าทะลัก คร่าชีวิตคนไทยที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ถึง ๖๐ ศพ เนื่องจากดาวพฤหัสบดีนี้ เป็นดาวปุตตะ (หมายถึง เด็ก หรือ ประชาชนคนไทย) ของลัคนาประเทศไทยที่ราศีสิงห์

ดาวพฤหัสบดี เป็นดาวการเงินของอเมริกา ดังนั้น เศรษฐกิจการเงินของอเมริกาในระยะนี้ หรือ ตลอดทั้งปีนี้ ยังไม่ดีขึ้นแน่นอน ในระยะนี้ขอให้ผู้อ่านระมัดระวังตัวเอาไว้บ้างก็ดี ด้วยราศีสิงห์ของไทยและราศีกรกฎของอเมริกา กำลังถูกบาปเคราะห์ตรึงในมุมกากะบาดทุกจุด โอกาสที่จะเกิดภัยธรรมชาติ , ภัยจากการก่อวินาศกรรม หรือภัยอันตรายที่ทำให้คนล้มตายมาก ยังมีอยู่จนถึงวันที่ ๕ ตุลาคม ดาวอังคารถึงจะย้ายออกจากราศีสิงห์

 

ดวงมหาสงครามโลก (๔)​

****************​

ก่อนที่จะนำท่านไปสู่การพยากรณ์ "สงครามโลก ครั้งที่ ๓" ในปีหน้า ผมใคร่ขอนำสถิติดวงชะตาของโลกในช่วงที่เกิด "สงครามอ่าวเปอร์เซีย" เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๔ หรือ ค.ศ. 1991 มาให้ท่านได้พิจารณากัน ทั้งนี้ เพื่อยืนยันให้เห็นถึงอิทธิพลของดวงดาวในช่วงนั้นว่ามันโคจรเป็นรูปลักษณ์อย่างไร ? ทำไม ? ถึงเกิดสงครามขึ้นมาได้ และทำไม ? สงครามนั้นจึงไม่ยืดเยื้อ ขยายแนวรบจนเป็นสงครามโลก เราจะมาจับจุดกันตรงที่ สหรัฐ และกองกำลังสหประชาชาติ ได้ส่งกำลังทางอากาศโจมตีอิรัก ที่กระทำตนเป็นอันธพาล ส่งกองกำลังเข้ายึดประเทศคูเวต ในวันที่ ๑๙ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๔ ซึ่งถือเป็นวันเริ่มต้นสงครามอ่าวเปอร์เซีย หลังจากที่ได้ปิดล้อมอยู่นาน และการเจรจาทางการทูตไม่เป็นผล

​

ในวันดังกล่าว ดูจากรูปดาวแล้ว ไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่จะเกิดสงครามโลก ดังที่นำเสนอให้ทราบไว้ ในตอนที่ผ่านมา คือ ลักษณะของดาว เกาะกลุ่มกันเป็นกระจุกถึง ๙ ดวง ในสามราศี คือ ราศีธนู,มังกร และมีน ทำให้ไม่ สามารถแบ่งดาวออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายละเท่า ๆ กันได้ นี่เป็นข้อแรก

ข้อที่สองก็คือ จะเห็นว่า ดาวพฤหัสบดี (๕) กับ ดาวมฤตยู (๐) ตัวที่จะทำให้เกิดการล้มตายเป็นเบือ(เป็นแสนเป็นล้าน) นั้น อยู่คนละทิศละทางกันเลย ข้อสาม ไม่มีบาปเคราะห์ใหญ่ เช่น เสาร์ ราหู นำหน้าดาวพฤหัสบดี สุดท้ายที่สำคัญก็คือ ดาวพฤหัสบดี ประธานศุภเคราะห์ ไม่ได้เล็งเนปจูน (น) ประธานบาปเคราะห์

ดังนั้น สงครามที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ จึงเป็นสงครามย่อย ไม่ใช่สงครามใหญ่ ถ้าจะพิจารณาว่าทำไมถึงเกิดสงคราม ก็ต้องพิจารณาดวงของประเทศที่ก่อสงครามโดยตรง นั่นคือประเทศอิรัก ซึ่งเป็นประเทศมุสลิมในตะวันออกกลาง มีฐานะร่ำรวยจากการค้าน้ำมัน และนำเงินนั้นมาซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยต่าง ๆ มาสร้างกองกำลังของตน อิรักหรือกลุ่มประเทศผู้ค้าน้ำมันในตะวันออกกลางนั้น ไม่ได้มีบทบาทสำคัญอะไรในช่วงสงครามโลกทั้งสองครั้งที่ผ่านมา ก็เพราะตอนนั้นยังไม่รวย ผมจึงไม่ได้นำเสนอในเรื่องที่เกี่ยวกับราศีของประเทศ และดาวประจำประเทศ ของประเทศต่าง ๆ เหล่านี้ในตอนก่อน ๆ เอาล่ะ ไหน ๆ ก็จะว่ากันให้ถึงแก่นแล้ว เรามาดูกันซิว่าโหรเขาได้จัดให้ประเทศในตะวันออกกลางอยู่ในราศีใด และมีดาวอะไรเป็นดาวประจำประเทศบ้าง โดยเริ่มจาก

อิรัก แต่เดิมประเทศอิรักนั้น จากแผนที่เมื่อเทียบกับสมัย ๖,๐๐๐ ปีมาแล้วตรงกับดินแดนสำคัญที่มีอารยธรรมสูงสุดอยู่ระหว่างสองแม่น้ำ คือ แม่น้ำไทกรีส และแม่น้ำยูเฟตีส ที่เรียกว่า "ดินแดนเมโสโปเตเมีย" เป็นที่ตั้งอาณาจักร "บาบิโลเนีย" เก่าแก่ เป็นดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ด้วยพืชพรรณไม้นานาไม่ได้เป็นทะเลทรายอย่างทุกวันนี้ จึงเจริญด้วยวิชาการต่างๆ มากมายทั้งศาสนา วัฒนธรรม สถาปัตยกรรมดังนั้น ดาวประจำประเทศอิรัก จึงเป็น "ดาวพลูโต" ซึ่งเป็นดาวที่เกี่ยวกับโบราณคดี การศาสนาเก่าคร่ำคร่า โบราณสถาน โบราณวัตถุ และประเทศเก่าแก่ ที่เคยเจริญรุ่งเรืองมาก่อน และมีดาวพลูโตเป็นดาวประจำประเทศ นอกจากอิรัก แล้ว ก็ยังมี ประเทศอียิปต์, ซาอุดิอาระเบีย, อินเดีย , เขมร ฯลฯ เป็นต้น

สำหรับราศีที่ตั้งของประเทศอิรักนั้น โหรจัดให้อยู่ในราศีมีน เช่นเดียวกับรัสเซีย โดยมี อิหร่าน,อาหรับ, ซาอุดิอารเบีย และตุรกี อยู่ในราศีเดียวกัน ส่วนประเทศอียิปต์ ซึ่งมีดาวพลูโตเป็นดาวประจำประเทศนั้น อยู่คนละราศีกับอิรัก คือ อยู่ในราศีกุมภ์

เรื่องของดาวประจำประเทศ กับที่ตั้งของราศีประเทศ ท่านอย่าได้สับสนไปนะครับ ทั้งสองอย่างนี้ไม่เหมือนกันและใช้ในการพยากรณ์ที่ส่งผลกระทบต่างกันด้วย ท่านสงสัยไหมครับว่า ทำไม ?ประเทศไทยกับอเมริกา ซึ่งมีดาวพฤหัสบดี
(๕) เป็นดาวประจำประเทศเหมือนกัน แต่ฐานะเศรษฐกิจการเงิน จึงต่างกันราวเศรษฐีกับยาจก เออ.นั่นน่ะซินะ ทำไมล่ะ ขอตอบว่า เพราะทั้งสองประเทศนั้น อยู่ต่างราศีกันครับ

อเมริกาที่ร่ำรวยนั้นเพราะราศีประเทศอยู่ในราศีพิจิก เมื่อวางลัคนาแล้ว ราศีถัดไป ภพที่สองราศีธนูอันมีดาวพฤหัสบดี เป็นเกษตรประจำราศีนั้น เป็นภพเกี่ยวกับการเงิน เศรษฐกิจ รายได้ เมื่อดาวพฤหัสบดี ซึ่งให้คุณในด้านความเจริญรุ่งเรือง ความสำเร็จเป็นดาวการเงิน จึงทำให้อเมริการ่ำรวยกว่าไทย หรือกว่าชาติอื่นใดในโลก ส่วนไทยเรานั้นอยู่ในราศีสิงห์ ราศีถัดไปคือราศีกันย์ มีดาวพุธเป็นดาวการเงินดาวพุธ ในทางโหราศาสตร์นั้น เป็นดาวที่รวนเรและแปรปรวนที่สุด และอีกประการหนึ่ง พุธ (๔) เป็นเจ้าเรือนอริ หมายถึงปัญหา อุปสรรค ขัดข้อง ศัตรู ของลัคนาดวงโลก ไทยเราจึงประสบกับปัญหาด้านเศรษฐกิจมาทุกยุคทุกสมัย ไม่รวยกับเขาสักที

อิรัก กับ อียิปต์ ก็เช่นเดียวกัน มีดาวพลูโต เป็นดาวประจำประเทศเหมือนกัน แต่อิรักรวยกว่ากันเยอะเลย เพราะอยู่ต่างราศีกัน โดยที่อิรักอยู่ในราศีมีน ดาวพลูโต ราศีเมษจึงเป็นดาวการเงิน ส่วนอียิปต์นั้นอยู่ในราศีกุมภ์ ราศีมีนดาวเนปจูน เป็นดาวการเงิน จึงไม่ให้คุณเหมือนกับอิรัก (แถมยังให้โทษอย่างมาก ด้วยเป็นประธานฝ่ายบาปเคราะห์อีกต่างหาก)

อัฟกานิสถาน เป็นประเทศมุสลิมที่ยากจนที่สุดในโลกก็ว่าได้ ประเทศนี้มีดาวพุธ (๔) เป็นดาวประจำประเทศ เมื่อท่านทราบความหมายของพุธแล้ว ท่านคงหายข้องใจแล้วนะครับ ว่าทำไม ประเทศนี้ถึงต้องพบกับปัญหาอุปสรรค ศัตรูมากมาย ทั้งจากภายในประเทศและต่างประเทศ ต้องประสบกับภาวะสงครามถึงสามสิบปีเต็ม แถมยังถูกกดขี่ข่มเหงจากผู้นำอย่างตาลีบันอีก เคราะห์กรรมจริง ๆ สำหรับราศีประจำประเทศอัฟกานิสถานนั้น โหรจัดให้อยู่ในราศีพฤษภ เช่นเดียวกับอินเดีย และปากีสถาน

อิสราเอล หรือที่เราท่านรู้จักกันในนามว่า "ยิว" พวกนี้ถ้าดูจากประวัติศาสตร์แล้วน่าสงสารครับ เป็นพวกที่เร่ร่อน แต่เดิมไม่มีประเทศจะอยู่ หลังสงครามโลกครั้งที่สอง อเมริกาจึงยกดินแดนปาเลสไตน์ให้ยิวครอบครอง และสถาปนาขึ้นเป็นประเทศ พร้อมกับให้การสนับสนุนทุกด้านทั้งลับ ๆ และเปิดเผยมาจนทุกวันนี้ ดาวที่เหมาะสำหรับพวกยิวนี้ คงไม่พ้น "ดาวเสาร์" ซึ่งเป็นดาวทุกข์โทษ ระทมขมขื่น คิดดูซิครับว่า ชาวยิวถูกนาซีฆ่าตายเป็นล้าน ๆ คนน่ะ มันน่าระทมขมขื่นไหม ? ต้องคอยระวังปาเลสไตน์ ซึ่งเปรียบเสมือน "หอกข้างแคร่" เข้ามาก่อวินาศกรรม ชนิดนอนตาไม่หลับน่ะ มันทุกข์แค่ไหน ? อย่างคราวที่เกิดสงครามอ่าวเปอร์เซีย อิรักยิงจรวด "สตั๊ด" เข้าใส่หลายสิบลูก แล้วไม่สามารถโต้ตอบได้ เพราะลูกพี่ใหญ่ คือ อเมริกันห้ามไว้น่ะ มันหวานอมขมกลืนแค่ไหน ? นี่แหละอิทธิพลของดาวเสาร์ล่ะ ประเทศนี้ถ้าดูตามแผนผังจักรราศีโลกแล้ว โหรจัดให้อยู่ในราศีกุมภ์เช่นเดียวกับเยอรมัน ฝรั่งเศส

ยังมีอีกหลายประเทศครับที่น่าสนใจ เช่น ซาอุดิอารเบีย ดาวประจำประเทศคือ "พลูโต" ราศีประจำประเทศคือ "ราศีมีน" จึงไม่แปลกใจใช่ไหม ? ว่าทำไม ซาอุ ฯ จึงร่ำรวยไม่แพ้อิรัก หรืออาจจะรวยกว่ากันด้วยซ้ำ , อิหร่าน อยู่ราศีมีน เช่นเดียวกับอิรัก แต่ดาวประจำประเทศต่างกัน คือ "ดาวศุกร์" ,ตุรกีก็เช่นกัน อยู่ในราศีมีน แต่ดาวประจำประเทศ คือ "ดาวเสาร์" ไม่ขออธิบายเพิ่มเติมนะครับ ว่าทำไม ? โหร เขาจึงจัดเช่นนี้ เพราะจะทำให้บทความวันนี้ เยิ่นเย้อเกินไป
หันกลับมาดูตำแหน่งดาววันที่เกิดสงครามอ่าวเปอร์เซียกันดีกว่า ดูที่ราศีมีน อันเป็นที่ตั้งของลัคนาประเทศอิรักซิครับ (ผมทำสัญลักษณ์ "ลั" เอาไว้ให้สังเกต)
จะเห็นได้ว่าดาวเนปจูน (น) เจ้าเรือนลัคน์ ไปอยู่ในราศีธนู โดยมีดาวเสาร์ (๗) ,และ เนปจูน(น) บาปเคราะห์ใหญ่กุมให้โทษอย่างร้ายแรง โดยมีดาวพุธ (๔) เจ้าเรือนปัตนิ (หมายถึง ศัตรู ในที่นี้ไม่ใช่หมายถึง คู่ครอง คนรักนะครับ) ร่วมแจมอยู่ด้วย เท่านั้นยังไม่พอ ยังถูกราหู (๘) และเกตุ (๙) นำหน้า ชักพาให้หลงผิด แม้จะมีศุกร์ (๖) กับ อาทิตย์(๑) ศุภเคราะห์อยู่ด้วยก็ช่วยไม่ได้ เพราะทั้งสองดวงมาจากเรือนมรณะและอริ เลยกลายสภาพเป็นบาปเคราะห์ไป
ข้อสำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ ดาวอังคาร (๓) เจ้าเรือนภพศุภะ ซึ่งหมายถึงเกียรติยศ ชื่อเสียง ความสำเร็จนั้น เดินเป็นประ (เสื่อมสภาพ ให้โทษ) ดังนั้น สงครามในครั้งนี้ ฝ่ายอิรักจึงต้องประสบกับความพ่ายแพ้ หมดทางสู้ ยกธงขาวอย่างไม่มีเงื่อนไข ในวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๓๔ ใช้ระยะเวลาในการทำศึกสงครามเพียงเดือนกว่า ๆ เท่านั้น

งานนี้อิรักสูญเสียทรัพย์สินเงินทองมากไหม ? ดูได้จากดาวพลูโต ซึ่งเป็นดาวการเงินของอิรัก จะเห็นว่า ดาวพลูโต (พ) อยู่ในราศีตุลย์ ซึ่งเป็นประให้โทษ เช่นเดียวกับอังคาร นอกจากนั้นยังถูกราหู (๘) กับเกตุ (๙) ทำมุมกากะบาดให้โทษในราศีมังกรอีกด้วย งานนี้อิรักจนไปหลายปีทีเดียว แต่พี่กันเราก็รวยไปหลายปีเช่นกัน เพราะดาวพฤหัสบดี (๕) เจ้าเรือนการเงินของพี่กันนั้น เดินเด่นเป็นมหาอุจจ์ ร่วมกับดาวแบคคัส (บ) เจ้าเรือนปัตนิ (หมายถึง ศัตรู) แปลง่าย ๆ รวยเพราะศัตรู หรือทำสงคราม

และก็มาถึงปัญหาสำคัญ ? ที่ผมจะต้องตอบให้ท่านทั้งหลายหายข้องใจ คือว่า ในปีหน้า ถ้าหากอเมริกาจะบุกอิรักจริง ๆ (กำหนดไว้เดือนมกราคม เหมือนกันเด๊ะ) สงครามนั้นจะยืดเยื้อไหม ? จะลุกลามกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่สามหรือไม่ ? ใครจะเป็นฝ่ายชนะ ? เศรษฐกิจอเมริกาจะเป็นอย่างไร ? อดใจเอาไว้ฟังความเห็นของผมได้ในตอนหน้า ถ้าพลาดเสียดายแย่นะ จะบอกให้

 

ดวงประเทศสหรัฐอเมริกา​

****************​

ก่อนที่จะได้ทำการพยากรณ์เกี่ยวกับ "สภาวะสงคราม" ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในโลกช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า โดยที่หลายฝ่ายเกรงว่า อาจจะลุกลามขยายผลการสู้รบไปสู่มหาสงครามโลกครั้งที่ ๓ ได้

กระผมใคร่ขอนำเรื่องราวการดูดวงของประเทศสหรัฐอเมริกา ในฐานะพี่เบิ้มแห่งค่ายเสรีประชาธิปไตยมาให้ท่านทั้งหลายได้พิจารณากันเสียก่อน เพราะเป็นที่รู้ ๆ กันอยู่ว่า ผู้ที่จะเปิดฉากการสู้รบในสมรภูมิอ่าวเปอร์เซียรอบที่สองนั้น ไม่ใช่ประเทศอื่นใด คือประเทศอเมริกาที่เรา ๆ ท่าน ๆ อาศัยทำมาหากินกันอยู่นี่แหละ ทุกวันนี้อเมริกันชน และผู้คนที่อาศัยอยู่ในที่นี้ ก็หนาว ๆ ร้อน ๆ เหมือนกัน ยังไม่รู้ว่าจะมีเหตุร้าย แบบ ๑๑ กันยายน ๒๕๔๔ ( Sep 11 , 2001 ) เกิดขึ้นอีกหรือเปล่า ? และถ้าอเมริกาไปบอมบ์อิรักเข้าให้อิรักซึ่งอเมริกามั่นใจอย่างยิ่งว่า มีอาวุธที่มีอานุภาพร้ายแรง ทำลายประเทศอเมริกาได้ จะส่งอาวุธนั้นมาบอมบ์ถึงอเมริกาหรือไม่ ? เรามาดูดวงประเทศอเมริกากัน เผื่อจะได้คำตอบขึ้นมาบ้าง
ประเทศสหรัฐอเมริกานั้น ถ้าดูแผนผังตามจักรราศีโลกแล้ว โหรได้จัดให้อเมริกามีลัคนา หรือที่ตั้งของประเทศอยู่ในราศีพิจิก (ธาตุน้ำ) ภพมรณะของลัคนาราศีโลก โดยมีดาวอังคาร (๓) ดาวแห่งการสู้รบทำลายล้าง หรือ "เทพเจ้าแห่งสงคราม" เป็นดาวเจ้าเรือนลัคนาของประเทศ เวลาดูดวงของประเทศนี้จึงต้องพิจารณาที่ราศีพิจิก หรือ การโคจรของดาวอังคาร เป็นหลัก นอกจากนั้นยังต้องดูดาวพฤหัสบดี(๕) ซึ่งเป็นดาวประจำประเทศ ว่าอยู่ในราศีใด มีดาวใดให้คุณให้โทษบ้าง ประกอบการพิจารณาอีกด้วย

ท่านที่ไม่เคยอ่านบทความของผมมาก่อน อาจจะมีคำถามว่า แล้วรู้ได้อย่างไร ? ว่าลัคนาของประเทศอเมริกา อยู่ที่ราศีพิจิก และมีดาวพฤหัสบดี (๕) เป็นดาวประจำประเทศ ถ้าจะให้ตอบกันจริง ๆ ตามหลักวิชาแล้ว คงตอบให้ท่านเข้าใจค่อนข้างลำบาก เพราะต้องยกตัวอย่างเรื่องราวต่าง ๆ ของประเทศมาให้ท่านอ่าน ประกอบการยกดวงเหตุการณ์เหล่านั้นให้ท่านดู ซึ่งมีมากมายเป็นร้อย ๆ ดวง หรือ หลายร้อยเหตุการณ์ ซึ่งโหรได้บันทึกเอาไว้ ทำสถิติเอาไว้จนแน่ใจว่า ราศีพิจิกคือที่ตั้งของอเมริกา และดาวพฤหัสฯ (๕) เป็นดาวประจำประเทศ และไม่ใช่เฉพาะประเทศอเมริกาเท่านั้น ยังมีอีกมากมายหลายประเทศ ที่โหรได้ทำการศึกษา และทำสถิติเอาไว้ หากท่านสนใจจริง ๆ ก็ลองหาหนังสือ "วิเทศโหราศาสตร์" ของท่านอาจารย์พลูหลวง จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์เขษมบรรณกิจ มาอ่านกันเองก็แล้วกันนะครับ

จะยกตัวอย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2544 ที่อเมริกาถูกพวกก่อการร้าย จี้บังคับเครื่องบินโดยสารขนาดใหญ่ บรรทุกผู้คนเต็มลำ ชนตึก World Trade Center และตึกเพนตากอน

อันเป็นที่ตั้งของกระทรวงกลาโหมอเมริกา มาให้ท่านพิจารณา อย่าถือว่าหวยออกแล้ว ผมค่อยเอามาเขียนเลยนะครับ เพราะหลักเกณฑ์การพิจารณาต่าง ๆ นั้น มีไว้ในตำราเล่มดังกล่าวหมดแล้ว

​

ในวันดังกล่าว ให้ดูลัคนา (ลั) ที่ราศีพิจิก จะเห็นดาวพลูโต (พ) บาปเคราะห์ ที่เป็นเจ้าเรือนอริ หมายถึงปัญหาอุปสรรค ศัตรู มากุมลัคนา โดยมีดาวเสาร์(๗) บาปเคราะห์ใหญ่ ตัวทุกข์โทษ เศร้าหมอง เล็งเบียน และยังมีราหู (๘) ในราศีเมถุน กับเกตุ (๙) ในราศีเมษ ทำมุมปลายหอกทิ่มแทง โดยมีพลูโตที่กุมลัคนาเป็นตัวตั้งรับ ในทางโหราศาสตร์ถือว่า "ลัคนาถูกเบียนอย่างหนัก" จึงให้โทษแก่อเมริกาอย่างยิ่ง

นอกจากดูจุดที่ตั้งลัคนาในราศีพิจิกแล้ว จะต้องดูการโคจรของดาวอังคาร (๓) เจ้าเรือนลัคนา ด้วยว่าไปอยู่ที่ใด ในวันดังกล่าว ดาวอังคารอยู่ในราศีธนู มีราหู (๘) ในราศีเมถุน เล็งเบียน และยังโดน บาปเคราะห์ร้ายที่ยิ่งใหญ่ คือ มฤตยู (๐) กับ เนปจูน (น) เดินนำหน้าในราศีมังกร โดยมีพลูโต (พ) บาปเคราะห์ ในราศีพิจิกตามหลังในลักษณะ "บีบ" ทำให้ดาวอังคาร ซึ่งเป็นเจ้าเรือนลัคน์ของอเมริกาถูกเบียนไม่น้อยไปกว่าลัคนาในราศีพิจิก

มาดูดาวพฤหัสบดี (๕) ซึ่งเป็นดาวประจำประเทศ และเป็นดาวเศรษฐกิจ การเงินของอเมริกากันบ้าง ว่าไปจรอยู่ที่ใด จากรูปดวง จะเห็นดาวพฤหัสบดี (๕) จรอยู่ในราศีเมถุน เป็นประ (เสื่อมสภาพ) และถือเป็นภพที่ ๘ มรณะ ของลัคนาราศีพิจิก โดยมีราหู (๘) บาปเคราะห์ร้ายกุม มีอังคาร (๓)ในราศีธนูเล็งเบียน ตามด้วยมฤตยู (๐) เนปจูน (น) และพลูโต (พ) ทำมุมปลายหอกทิ่มแทง จึงทำให้อเมริกาต้องสูญเสียทรัพย์สินอย่างมากมายมหาศาล มีผู้คนเสียชีวิตกันอย่างมาก

นอกจากสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินแล้ว อเมริกายังเสียชื่อ เสียหน้าต่อชาวโลกอย่างมาก ด้วยเหตุที่ดาวจันทร์ (๒) เจ้าเรือนภพที่ ๙ (ศุภะ หมายถึง เกียรติยศ ชื่อเสียง ความดีงาม) กุมดาวพฤหัสบดี (๕)ในราศีเมถุน(มรณะ) ซึ่งแน่นอน ย่อมถูกบาปเคราะห์ทั้งหลายรุมเบียนเช่นเดียวกับดาวพฤหัสบดีดังที่กล่าวมาแล้ว และสิ่งที่น่าแปลกอีกอย่างหนึ่งก็คือในวันดังกล่าว เมื่อวางลัคนาจรของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงระหว่างเวลา ๐๙.๓๐-๑๐.๓๐ น. ปรากฎว่าลัคนาจรไปอยู่ในราศีตุลย์ ภพที่ ๑๒ วินาศนะ หมายถึงการแทรกซึมบ่อนทำลายอย่างลับ ๆ ไม่เปิดเผย อีกด้วย

มีหลายคนถามผมว่า แล้วอเมริกาจะถูกวินาศกรรมอย่างเหตุการณ์ 11 กันยา อีกไหม? ผมถือว่าคำถามนี้เป็นคำถามที่ท้าทายและผมก็กล้าที่จะตอบ ผิดถูกผมไม่สนใจหรอก เพราะผมตอบตามหลักวิชาผมว่า อเมริกามีสิทธิ์ที่จะโดนอีก ยิ่งในช่วงนี้ด้วยแล้ว (ระหว่างวันที่ 20 สิงหาคม 2545 ถึง 5 ตุลาคม 2545 ) ลัคนาของอเมริกาในราศีพิจิก ถูกดาวพลูโต (เจ้าเรือนอริ) กุม โดยมีราหู(๘) และเสาร์ (๗) บาป เคราะห์ใหญ่ ในราศีพฤษภ เล็งเบียน แถมยังถูกอังคาร (๓) ในราศีสิงห์ และ มฤตยู (๐) ในราศีกุมภ์ ทำมุมกากะบาด ลักษณะเช่นนี้ ถือว่า อเมริกาอยู่ในระหว่าง "เคราะห์ร้าย" ให้ระวัง

ในช่วงดังกล่าว อังคาร เจ้าเรือนลัคนาของอเมริกาที่อยู่ในราศีสิงห์ ก็ถูกบาปเคราะห์ตรึงในมุมกากะบาดทั้งสี่จุด เช่นเดียวกันกับลัคนา มาดูดาวพฤหัสบดี (๕) กันบ้าง เพื่อความแน่ใจ ปรากฎว่า ดาวพฤหัสบดี (๕) โคจรอยู่ในราศีกรกฎ ถือเป็นมหาอุจจ์ (ให้คุณในด้านความสำเร็จ และเจริญรุ่งเรือง) และอยู๋ในภพที่ ๙ (หมายถึง เกียรติยศชื่อเสียง ความดีงาม) ถ้ามองเพียงผิวเผินแค่จุดนี้จุดเดียว ก็ต้องทายว่าดี แต่ถ้ามองจุดที่ดาวพฤหัสบดี (๕) ถูกเบียนจากบาปเคราะห์แล้ว จะเห็นว่าน่าเป็นห่วงไม่น้อย ด้วยดาวพฤหัสบดี(๕) ถูกดาวเนปจูน(น) บาปเคราะห์ใหญ่ และยังเป็นคู่ปรปักษ์อย่างแรงเล็งเบียนอยู่ในราศีมังกรยิ่งในช่วงดังกล่าว ดาวดวงนี้ ยังถูกเกตุ (๙) บาปเคราะห์ร้ายน้อง ๆ ราหู ทำมุมกากะบาดในราศีตุลย์อีกด้วย (เกตุอยู่ในราศีตุลย์ ระหว่างวันที่ 14 สิงหาคม -10 ตุลาคม ) ทำให้เศรษฐกิจการเงินของประเทศในระยะนี้ ยังทรุดตัวอยู่ และต้องระวังที่จะต้องสูญเสียทรัพย์สินจากการถูกก่อวินาศกรรมไว้ด้วย (ทรัพย์สินที่ว่านี้ รวมทั้งทรัพย์สินที่อยู่ต่างแดนด้วย) ไม่ประมาทไว้ก่อนน่ะแหละเป็นการดี
แล้วปีนี้เศรษฐกิจอเมริกาจะดีขึ้นไหม ? ตอบเลยครับ "ดีขึ้นยาก" ประคองตัวไว้ไม่ให้ทรุดไปกว่านี้ก็นับว่าดีถมไปแล้ว เนื่องจากพฤหัสบดี (๕) ถูกเนปจูน (น) เล็งเบียน ไปจนถึงวันที่ 27 กรกฎาคม ปีหน้า ตามที่กล่าวไว้แล้ว พอพ้นจากราศีกรกฎ พฤหัสบดีก็จะจรเข้าสู่ราศีสิงห์ อย่านึกว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นนะครับ เพราะพฤหัสในราศีสิงห์นี้ ยิ่งหนักกว่าในราศีกรกฎเสียอีก เพราะถูกมฤตยู (๐) ที่นอนรออยู่แล้วในราศีกุมภ์เล็งเบียน แถมยังถูกพลูโต (พ) ในราศีพิจิกทำมุมกากะบาดอีก โชคดีนะที่ดาวเสาร์ (๗) และ ราหู (๘) ที่อยู่ในราศีพฤษภ แยกย้ายออกไปแล้ว ไม่เบียนดาวพฤหัสในจุดนี้ แต่ก็เหมือนโชคยังไม่เข้าข้างอเมริกา เพราะเสาร์ (๗) ย้ายเข้าเมถุน (มรณะ) และราหู (๘) ย้ายเข้าราศีเมษ (อริ)กลับทำมุมปลายหอก ทิ่มแทงอเมริกา โดยมีพลูโต (พ) เป็นตัวตั้งรับที่ปลายหอกนั้น (อมริกายังไม่พ้นเคราะห์)

การที่เสาร์ (๗) เจ้าเรือนสหัชชะ หมายถึง มิตรประเทศกับอเมริกา เข้าสู่ภพมรณะ ในระหว่างวันที่ 23 พฤษภาคม 2546 ถึง 29 มิถุนายน 2548 (ประมาณ ๒ ปี ) ส่งผลทำให้บรรดาประเทศทั้งหลายที่เป็นมิตรหรือสนับสนุนอเมริกาอยู่ แปรพักตร์ไม่สนับสนุนและอาจตั้งตัวเป็นศัตรูหรือให้โทษแก่อเมริกาได้และสิ่งที่น่าเป็นห่วงอีกข้อหนึ่งก็คือ ราหู (๘) ที่ย้ายเข้าราศีเมษ ซึ่งถือว่าเป็นลัคนาของโลกในระหว่างวันที่24 สิงหาคม 2546 ถึง 12 มีนาคม 2548 (ประมาณปีครึ่ง) ต้องถือว่าเกณฑ์ชะตาของโลกอยู่ในเกณฑ์ร้าย ยิ่งราหู (๘) เป็นดาวเจ้าเรือนมรณะของอเมริกาด้วยแล้ว น่าเป็นห่วงนะครับ ที่อเมริกาอาจจะสร้างปัญหาแก่ชาวโลก สร้างความลำบาก ทุกข์ยาก ความหายนะ แก่ชาวโลกในช่วงนั้น และนั่นจะเข้าข่ายสงครามโลกครั้งที่สามหรือไม่ ฉบับหน้าจะสาธยายให้ฟัง

 

พยากรณ์ดวงโลก​

****************​

ฉบับที่แล้วได้พยากรณ์ดวงของประเทศสหรัฐอเมริกา ให้ท่านทั้งหลายรับทราบพอสังเขปแล้ว ในฉบับนี้เรามาดูดวงชะตาของโลกในระยะ ๑ - ๒ ปี ข้างหน้ากันบ้างว่าเป็นอย่างไร ตอนนี้อเมริกากำลังเดินสายหาเสียงสนับสนุนจากมิตรประเทศต่าง ๆ ในการที่จะบอมบ์อิรัก ซึ่งมิตรประเทศส่วนใหญ่โดยเฉพาะจีน รัสเซีย และอินเดีย ต่างก็ไม่เห็นด้วยกับการใช้กำลังอาวุธกับอิรัก แต่กระนั้นก็เถอะ ไม่ว่าจะมีใครร่วมรบด้วยหรือไม่ ท่านรองประธานาธิบดี ดิค เชนี่ย์ ได้กล่าวกับทหารหาญที่มีหน้าที่ออกรบอย่างเดียว ที่ค่ายเพนเดนตัน แซน ดิเอโก ว่า "เรารบแน่ แม้จะรบอย่างโดดเดี่ยวก็ยอม" ซึ่งเป็นที่ถูกอกถูกใจเหล่าทหารหาญเหล่านั้นเป็นอย่างยิ่ง

อเมริกากำหนดบอมบ์อิรักไว้ในช่วงปลายปี หรือต้นปีหน้า ซึ่งดูจากรูปการณ์แล้ว น่าจะอยู่ในช่วงเดือนมกราคม เพราะผ่านพ้นช่วงฉลองคริสต์มาส และปีใหม่ไปแล้ว คงไม่บอมบ์ในระยะนี้ เพราะต้องรอให้อากาศเย็น เพื่อสะดวกในการสวมชุดป้องกันสารเคมี ซึ่งอิรักเคยนำมาใช้เมื่อสงครามอ่าวเปอร์เซียครั้งที่แล้ว
ผมจะขอยกรูปตำแหน่งดาวในวันอังคารที่ ๒๑ มกราคม พ.ศ.๒๕๔๖ มาให้ท่านพิจารณา แล้วท่านก็จะทราบเองว่า ทำไม ? ผมถึงเลือกเอาวันนี้

​

ในวันดังกล่าว ตำแหน่งดาวในจักรราศีโคจรเต็มท้องฟ้า เช่นเดียวกับดวงสงครามโลกครั้งที่ ๑ ทำให้สามารถลากเส้นประ แบ่งดาวใหญ่ ๆ ออกเป็นสองฝ่าย ๆ เท่ากันได้ คือ ในซีกซ้ายมือของท่านจะมีดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ ได้แก่ เสาร์ (๗) , ราหู (๘) และ พฤหัสบดี (๕) อยู่ฝ่ายเดียวกัน โดยมีดาวจันทร์(๒) แบคคัส (บ) และเกตุ (๙) ดาวเล็กเป็นบริวาร ส่วนซีกทางด้านขวามือ จะเห็นดาวใหญ่คือ มฤตยู (๐)ดาวอาทิตย์ (๑) และดาวเนปจูน อยู่ข้างเดียวกัน มีพุธ (๔) ,ศุกร์ (๖) ,อังคาร (๓) และพลูโต (พ) ดาวเล็ก เป็นบริวาร เข้าหลักเกณฑ์การเกิดสงครามโลกข้อที่หนึ่ง อย่างลงตัว

ตามหลักเกณฑ์ข้อที่สอง ดาวพฤหัสบดี (๕) จะต้องอยู่ฝ่ายเดียวกับดาวมฤตยู (๐) โชคดีนะครับที่ตำแหน่งดาวในวันนี้ ดาวพฤหัสบดี (๕) อยู่คนละทิศละทางกับดาวมฤตยู (๐) เลยทีเดียว หากว่ากันตามตำราหรือสถิติแล้ว ไม่เข้าหลักเกณฑ์ ดังนั้น ถ้าเกิดสงคราม อาจจะไม่ขยายผลไปสู่สงครามโลกก็ได้
หลักเกณฑ์พิจารณาข้อที่สามจะต้องมีบาปเคราะห์ใหญ่เดินนำหน้าดาวพฤหัสบดี (๕) บาปเคราะห์ใหญ่ที่ว่านี้ คือ ดาวเสาร์ (๗), ดาวเนปจูน (น), ดาวมฤตยู (๐) และราหู (๘) ในสงครามโลกทั้งสองครั้งที่ผ่านมา ครั้งแรกมีราหูเดินนำหน้าดาวพฤหัสบดี ครั้งที่สอง มีดาวเสาร์เดินนำหน้า สำหรับตำแหน่งดาวที่ผมยกมาให้พิจารณาในครั้งนี้ หากสงครามเกิดขึ้นจริง ก็ไม่น่าที่จะเป็นสงครามโลกไปได้ เพราะในครั้งนี้มีเกตุ (๙) ซึ่งถือเป็นบาปเคราะห์เล็ก (ตามตำรา) นำหน้าพฤหัสบดี (๕) แต่ก็นั่นแหละครับ เกตุแม้จะเป็นบาปเคราะห์เล็ก แต่อาจจะส่งผลให้ลุกลามใหญ่โตได้ เพราะอิทธิพลของเกตุนั้น น้อง ๆ ราหูนะครับ คือก่อให้เกิดความลุ่มหลงมัวเมา เห็นผิดเป็นชอบ นอกจากนี้ เกตุยังเป็นดาวที่เกี่ยวข้องกับความวิปริตอาเพท ในสงครามครั้งนี้ เชื่อแน่ว่าจะต้องมีการใช้อาวุธสงครามที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน อาจเป็นอาวุธเคมีที่ร้ายแรง มีความผิดแผกแตกต่างจากที่เคยมีมา หรือเกินที่จะคาดเดาก็เป็นได้

หลักเกณฑ์ข้อสุดท้าย ซึ่งผมถือว่าสำคัญที่สุด คือพฤหัสบดี (๕) ประธานฝ่ายบาปเคราะห์ จะต้องเล็งกับ เนปจูน (น) ประธานฝ่ายบาปเคราะห์ ปรากฎว่าในวันดังกล่าว ดาวทั้งสองเล็งกันครับ มันเล็งกันมาตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ.2545 แล้ว และจะเลิกเล็งกันเมื่อพฤหัสบดี ย้ายออกจากราศีกรกฎในวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ.2546 กินเวลาหนึ่งปีเต็ม ๆ ดาวคู่นี้เป็นดาวที่น่ากลัวมากนะครับ เมื่อกุมกันหรือเล็งกันเมื่อไร แม้จะไม่เกิดสงครามโลก ก็จะส่งผลให้มีผู้คนล้มตายมาก จากภัยพิบัติธรรมชาติ หรือสาธารณภัย

จะยกตัวอย่างให้เห็นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๓ (ค.ศ. 1990 ) ดาวคู่นี้เล็งกัน ทำให้เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ มีผู้คนล้มตายกันมาก ที่ซาน ฟรานซิสโก อเมริกา หวังว่าหลายท่านคงจำได้ และท่านเชือไหมว่า เมื่อดาวคู่นี้กุมกัน หรืออยู่ร่วมกันในราศีสิงห์ของประเทศไทย เมื่อ ปี พ.ศ. ๒๓๑๐ พวกพม่าอังวะยกทัพมาตีอยุธยา เผาผลาญบ้านเรือน วัดวาอาราม ฆ่าฟันคนไทยตายแทบจะหมดแผ่นดิน ดังนั้น จะประมาทดาวคู่นี้ไมได้เป็นอันขาด

จากหลักเกณฑ์ ๔ ข้อ เข้าข่ายเสีย ๒ ข้อ ไม่เข้า ๑ ข้อ ก้ำกึ่ง ๑ ข้อ อ้อ ลืมไป มีจุดพิจารณาอีกข้อหนึ่ง ซึ่งพิเศษสุดคือ เมื่อเกิดสงครามโลกทั้งสองครั้งนั้น อาทิตย์ (๑) , พุธ (๔) และศุกร์ (๖) ทั้งสามดวงนี้ อยู่ฝ่ายเดียว หรือซีกเดียวกับเนปจูนทั้งสองครั้ง ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกันครับ อยู่ร่วมกับเนปจูนอีกแล้ว
หลักเกณฑ์ทั้งหลายแม้กระทั่งตำแหน่งดวงดาว ผมไม่ได้ทำขึ้นมาหลอกท่านนะครับ รูปดาวที่ท่านเห็น ผมผูกขึ้นมาจากปฏิทินโหร ของ อ.ทองเจือ อ่างแก้ว ตามหลักวิชาจริง ๆ ดังนั้น ถ้าจะให้ผมทำนายผมเชื่อว่า สงครามที่เกิดขึ้นในปีหน้า อาจจะลุกลามใหญ่โต เป็นสงครามโลกครั้งที่ ๓ ได้ ยิ่งดวงโลกของเราในกลางปีหน้าถูกราหูทับลัคนาดวงโลกด้วยแล้ว (ราหูทับลัคน์ดวงโลกระหว่างวันที่ 24 สิงหาคม 2546 ถึง วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2548 ) ถ้าเป็นคน ก็ถือว่า "เคราะห์ร้ายอาจถึงตายได้" นี่เป็นดวงโลก ก็อาจจะเกิดภัยพิบัติกับโลก ผู้คนล้มตายเป็นเบือได้เช่นกัน แม้จะไม่เกิดภาวะสงครามก็เถอะ

เมื่อเกิดสงครามโลก สิ่งที่จะตามมาก็คือ "ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำไปทั่วโลก" หรือ "ภาวะข้าวยากหมากแพง" เราลองมาดูเศรษฐกิจโลกกันบ้างว่า ในระยะ ๑ - ๒ ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร

การดูเกี่ยวกับ เศรษฐกิจ การเงิน รายได้ ฯลฯ นั้น จะต้องพิจารณาภพที่ ๒ หรือ ภพการเงิน เป็นหลัก ในที่นี้เราจะต้องดูกันที่ราศีพฤษภ ซึ่งเป็นภพที่สองของลัคนาดวงโลก ในช่วง ๑ - ๒ ปี ที่ผ่านมา โลกเราประสบปัญหาเศรษฐกิจ แม้จะไม่ตกต่ำ ก็ประสบปัญหาให้ค่าสกุลเงินต่าง ๆ ผันผวนกันไปเป็นว่าเล่น เนื่องจากมีดาวเสาร์ (๗) ตัวทุกข์โทษ บาปเคราะห์ใหญ่ โคจรอยู่ในราศีพฤษภ (เสาร์อยู่ราศีนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑๔ เมษายน๒๕๔๔ และจะออกจากราศีนี้ในวันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๔๔๖) และในช่วงดังกล่าว ยังมีราหู (๘) บาปเคราะห์ร้ายอีกตัวหนึ่ง เข้าร่วมแจมอยู่ด้วย โดยเข้ามาอยู่ร่วมกับเสาร์ในราศีพฤษภ ระหว่างวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๕ ถึงวันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๔๖) ดังนั้น ในช่วงที่ผ่านมา เศรษฐกิจโลกจึงไม่ค่อยดีนัก

ในปีหน้าแม้ดาวทั้งสองจะแยกย้ายกันไป ซึ่งน่าจะส่งผลดีกับโลกขึ้นมาบ้าง แต่ก็นั่นแหละครับ โลกเรายังมีเคราะห์อยู่ เพราะราหู (๘) ดันย้ายไปทับลัคนาดวงโลก เลยทำมุมกากะบาดกับดาวแบคคัส (บ) เจ้าเรือนการเงินของโลก ที่อยู่ในราศีกรกฎ มานานหลายสิบปี ทั้งยังมีดาวเนปจูนที่เล็งแบคคัสอยู่ก่อนหน้านั้นแล้วเมื่อดาวการเงินถูกตรึงจากบาปเคราะห์ใหญ่ถึงสองจุดเช่นนี้ จึงทำให้เศรษฐกิจโลกโดยทั่วไปยังไม่ดีขึ้นอย่างแน่นอน

เนื่องจากลัคนาดวงเมืองบางกอกของประเทศไทยเรานั้น อยู่ในราศีเมษ ซึ่งเป็นจุดเดียวกับลัคนาดวงโลก ท่านคงหายแปลกใจแล้วซินะว่า ทำไม ? เวลาโลกเราประสบภาวะสงคราม หรือภาวะเศรษฐกิจทีไร ประเทศไทยเราต้องโดนหางเลขกับเขาทุกที ยิ่งสงครามโลกครั้งที่สองด้วยแล้ว ต้องถือว่าโดนเข้าเต็มเปาเลยทีเดียว การดูดวงประเทศไทยนั้น นอกจากดูดวงเมืองบางกอกที่ราศีเมษเป็นหลักแล้ว จะต้องดูดาวพฤหัสบดี (๕) ซึ่งเป็นดาวประจำประเทศไทย เหมือนกับอเมริกา

บทความครั้งก่อน ๆ เคยกล่าวถึงความสัมพันธ์ของดาวพฤหัสบดีของไทยกับอเมริกา ในเรื่องของฐานะ ความเป็นอยู่ เศรษฐกิจ การเงินว่า ทำไม อเมริกาถึงร่ำรวยล้นฟ้า ต่างกับไทยเราอยู่ในฐานะยากจนค่นแค้นทั้งที่มีดาวพฤหัสบดีเป็นดาวประจำประเทศเหมือนกัน เหตุผลก็คือ ไทยกับอเมริกานั้น มีราศีของประเทศต่างกัน ไทยเรามีราศีประเทศอยู่ที่ราศีสิงห์ ส่วนอเมริกาอยู่ที่ราศีพิจิก อเมริกามีดาวพฤหัสบดี (๕) เป็นดาวการเงิน คือนับเป็นภพที่สอง ถัดจากราศีพิจิก คือราศีธนู ส่วนไทยเรานั้น มีดาวพฤหัสบดี เป็นดาวปุตตะ (หมายถึงเด็กหรือคนในชาติ)

ข้อนี้ เราจะเห็นได้ว่า อเมริกานั้น มีนักมวยรุ่นยักษ์ เป็นแชมป์โลกมากที่สุด แต่ไทยเราก็ไม่น้อยหน้า มีนักมวยรุ่นเล็ก เป็นแชมป์โลกกับเขามากที่สุดเหมือนกัน นี่คือข้อดีของดาวพฤหัสบดี ซึ่งเป็นดาวปุตตะของประเทศไทย (ไทยเรายังมีคนเก่งระดับโลกในสาขาต่าง ๆ อีกเยอะ อย่างเช่น หมอศัลยกรรมทางเพศ เก่งที่สุดอยู่ในประเทศไทย, หรือสามล้อไทย , ข้าวหอมมะลิไทย ฯลฯ โด่งดังไปทั่วโลก นี่คือภูมิปัญญาของคนไทยที่เราท่านทั้งหลายควรภูมิใจนะครับ)

บทความเกี่ยวกับภาวะสงคราม ที่จะส่งผลกระทบให้กับชาวโลก ก็คงจะยุติเพียงนี้ อาจจะทำให้หลายท่านปวดหัวไปบ้าง เพราะค่อนข้างอ้างอิงหลักวิชามากไปหน่อย แต่ถ้าท่านตั้งใจอ่านช้า ๆ ค่อย ๆทำความเข้าใจตั้งแต่ต้น อ่านไปอ่านมา ดูรูปประกอบไปด้วย เชื่อแน่ว่า ท่านคงเกิดความเข้าใจบ้างไม่มากก็น้อย ส่วนท่านที่ไม่ค่อยชอบตัวเลข หรือวิชาการมากนัก ก็อ่านเอาแต่น้ำ ๆ ก็แล้วกันนะครับ พบกันใหม่ในฉบับหน้า ในเรื่องของการแก้กรรม รับรองว่าอ่านสบาย ไม่ปวดเศียรเวียนเกล้า แน่นอนครับ



ที่มา

http://www.lekpluto.org/index01/sub20.htm