ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)

อัญเชิญพลังสู่สายประคำจักรวาลมหาศักดิ์สิทธิ์ พิชิตภัย โดย อ.นีโม่
รับประสิทธิดดย พี่แพท (อาจารย์แพท)

 

พี่แพท รับประคำ ลาปิส ลาซูลี่ ไปด้วยความปิติยินดี งานเข้าแล้ว

 

กิจกรรมก่อนถึงเวลารดน้ำดำหัว ขอพรจาก อาจารย์ป้าสุดใจ











งานนี้น้องกุมาร มาเอง














<TABLE class=tborder id=threadslist cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY id=threadbits_forum_2><TR><TD class=alt1 id=td_threadtitle_86674 title="-ขอขอบคุณ webmaster.palungjit.org ที่ตอบรับพี่สุดใจ จากกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) เป็นสมาชิกใหม่ในวันนี้
...">แนะนำ ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) (31 คน กำลังดูอยู่) ( 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 ... หน้าสุดท้าย)
สุดใจเขากะลา
</TD><TD class=alt2 title="จำนวนตอบ: 8,032, จำนวนอ่าน: 378,938">

วันนี้ 11:36 AM
โดย MOUNTAIN ​

</TD><TD class=alt1 align=middle>8,032</TD><TD class=alt2 align=middle>378,938</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

มุงดูความมหัศจรรย์ของภาพที่ภายเมื่อก่อนหน้านี้ จากโน๊ตบุ๊ค

 

รดน้ำดำหัว ขอพรจาก อาจารย์ป้าสุดใจ ผู้มีพระคุณ เมตตาสอนให้เราได้รู้จัก
กับคำว่าปล่อยวาง ละอัตตาตัวตน ทั้งทางทฤษฏีและปฏิบัติ จนเข้าใจถึงความเป็นจริง ที่เราไม่เคยคิด ไม่เคยเข้าใจมาก่อน

 

นั่งสนทนา ผ่อนคลาย หลังพิธีรดน้ำดำหัว ปะแป้ง เสร็จสิ้น

 

พระบรมสารีริกธาตุ อยู่บนโต๊ะหมู่บูชา

 

ขอน้อมบูชาอาจริยคุณ อาจารย์สุดใจ ชื่นสำนวน พระโพธิสัตว์ในร่างมนุษย์ ผู้บำเพ็ญโพธิจริยาครบถ้วนบริบูรณ์ พร้อมปณิธาณธรรมแห่งพระโพธิสัตว์ ๑๐ ประการ ดังที่ อาจารย์นีโม่ ได้กล่าวไว้ข้างต้น


เป็นผู้แสดงธรรม ให้ผู้ปฏิบัติสามารถออกจากทุกข์ได้โดยตรง

เป็นผู้นำแสงแห่งพระธรรม มาส่องสว่างให้ความจริงซึ่งเป็นแก่นแท้ของชีวิตได้ประจักษ์

เกิดผล ให้ผู้ปฏิบัติ ออกจากทุกข์ได้จริง

ข้าพเจ้าทั้งหลายขอน้อมแสดงมุทิตาสักการะ คารวะ มา ณ โอกาสนี้

 

​

ขออนุโมทนากับอาจารย์นีโม่ ผู้ซึ่งมีดวงตาเห็นธรรม เห็นโทษภัยในวัฏฏะสงสารแล้ว บำเพ็ญเพียรเพื่อมรรคผลนิพพานในชาติปัจจุบัน

เป็นผู้ขันอาสามาเพื่อปกป้องพระพุทธศาสนา คุ้มครองรักษาพระสัทธรรม ด้วยความทุ่มเท มุ่งมั่น เต็มกำลัง

ซึ่งต้องมีทั้งวิริยะ ทั้งขันติ คือมีทั้งความเพียร ความอดทนอย่างยิ่งควบคู่กันไป เพราะสิ่งที่กำลังดำเนินการอยู่นี้ เป็นรูปแบบที่บุคคลทั่วไปยากจะเข้าใจนั่นเอง

ขออนุโมทนาด้วยค่ะ


รำลึกถึง ในช่วงแรก ๆ ที่อาจารย์นีโม่ ได้เข้ามาพบเจอ กับ กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)

อารมณ์ ความรู้สึก ก็ย่อมไม่ต่างกับหลาย ๆ ท่านในตอนนี้

กว่าที่จะผ่านพ้นการพิสูจน์ ทดสอบ ทดลอง จนก้าวข้ามความลังเลสงสัยมาได้ นั่นต้องใช้เวลาไม่ใช่น้อยทีเดียว

มารับทราบความรู้สึก ของอาจารย์นีโม่ในครั้งแรก ๆ นั้นสักนิดนะคะ

​

<TABLE id=post838830 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>29-11-2007, 07:49 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#622 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Astro Neemo<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_838830", true); </SCRIPT>
ผู้ร่วมสนับสนุนบริจาค



วันที่สมัคร: Sep 2007
ข้อความ: 942
<IF condition="">
</IF>Groans: 10
Groaned at 2 Times in 2 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 2,652
ได้รับอนุโมทนา 15,062 ครั้ง ใน 743 โพส
พลังการให้คะแนน: 365





</TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_838830 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->"ระบบได้รับคุณ Astro Neemo เข้าร่วมทำงานกับมนุษย์ต่างดาวใน รุ่นที่ 50 ในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2550 ประจำแผนกข้อมูลและตอบปัญหาชีวิต"

ยินดีต้อนรับเข้าสู่ระบบการทำงานกับมนุษย์ต่างดาวนะคะ


รับทราบ และยินดีตอบรับเช่นกันครับ

และขอบคุณทุกๆสิ่งที่อาจารย์สุดใจถ่ายทอดและขยายระบบให้นะครับ จนทำให้ผมได้มีโอกาสเข้าใจและสัมผัส"ระบบ" ซึ่งมีน้อยคนนักที่จะเข้าใจได้กับ
การทำงานของ"ระบบ"

วันแรกที่ได้พบอาจารย์สุดใจ เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2549 และก็ได้ขึ้นเขากะลา ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2550 ในวันนั้น ผมไม่เคยได้รู้เลยว่า ชีวิตของผมจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง อย่างที่ไม่เคยได้คาดคิดมาก่อน

จากที่เคยหวังเพียงว่าจะพบกับกลุ่มเขากะลา เพียงเพื่อนำเรื่องราวมาเขียนลงในนิตยสารหาค่าขนมกินเล่นๆเท่านั้น และก่อนหน้านั้น ก็ไม่เคยได้มีความสนใจในเรื่องมนุษย์ต่างดาวหรือยูเอฟโอเลยแม้แต่น้อย

ถึงจะมีหรือใครจะพบจะเห็นก็เป็นเรื่องไกลตัวสำหรับผม ไม่ได้อยากจะสนใจสักเท่าไหร่ เขาจะมาทำไมก้เป็นเรื่องของเขา

แต่พอมาพบกับเขากะลา สิ่งแรกที่เห็นได้อย่างเป็นรูปธรรมและชัดเจนที่สุด คือ รูปแบบวิธีการฝึก ของมนุษย์ต่างดาว และมุมมองของชีวิต และความเสียสละอันยิ่งใหญ่ของบุคคลกลุ่มนี้ และความเชื่อในสิ่งที่ตนเองประจักษ์โดยปราศจากความงมงายลุ่มหลง

การตรวจสอบ การพิจารณา การคัดสรร และการเลือกที่จะเชื่อ เป็นสิ่งที่น่าสนใจ ของคนกลุ่มนี้

จากมุมมองของคนอื่น อาจจะเรียกว่า"บ้า"หรือ"เพี้ยน"หรืออะไรก็ตามแต่ ที่สังคมมองพวกเขา

ผมว่าคนกลุ่มนี้แหละ จะเป็น"อภิมหาตำนาน" เป็นประวัติศาสตร์ เป็นสิ่งมหัศจรย์ของโลก

จากชาวบ้านธรรมดามากๆคนหนึ่ง จากครอบครัวธรรมดาในชนบทครอบครัวหนึ่ง และสามารถส่งอิทธิพลต่อ 60 บุคคล 100 ครอบครัว จนถึง 5000 บุคคล คุณว่าน่าสนใจใหม?

ตำนานเขากะลาอาจจะเป็นแบบ Joan of Arc หรือตำนานศักดิ์สิทธิ์อื่นๆและจะเป็น ตำนานที่เล่าขานกันไม่รู้จบ

สิ่งที่พวกเขาสัมผัสเป็นสิ่งเหลือเชื่อ เกินกว่าสติปัญญาของมนุษย์ปุถุชนจะเข้าใจได้




</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE id=post838901 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>29-11-2007, 08:24 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#623 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Astro Neemo<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_838901", true); </SCRIPT>
ผู้ร่วมสนับสนุนบริจาค



วันที่สมัคร: Sep 2007
ข้อความ: 942
<IF condition="">
</IF>Groans: 10
Groaned at 2 Times in 2 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 2,652
ได้รับอนุโมทนา 15,062 ครั้ง ใน 743 โพส
พลังการให้คะแนน: 365




</TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_838901 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->สิ่งแรกที่ผมพบเห็น ก็คือความสับสนอย่างรุนแรง ในความคิด ความเชื่อ ความศรัทธาที่เคยมาอยู่ก่อน

สิ่งเดียวที่ท้าทายผมให้เข้าร่วมศึกษากับกลุ่มเขากะลา นั่นก็คือ "ธรรมะ" ที่พวกเขาปฎิบัติกันอยู่ หลายๆท่านรวมผมเองก็แปลกใจ ว่าทำไมมนุษย์ต่างดาวถึงมาให้พวกเขาปฎิบัติ"ธรรมะ" เรียนรู้วิถีจิต และสิ่งที่พวกเขาสอน มันคืออะไร ศาสนาหรือลัทธิใหม่หรือ ความเชื่อใหม่หรือ ก็เปล่าทั้งสิ้น

กาลามสูตร ที่พวกเราศึกษามา พวกเขากะลาเขาเจนจัดทั้งนั้น แต่พวกเขาก็ไม่ได้บอกให้เราเชื่อ หรือแม้แต่จะโน้มน้าวใจ

หลังจากผมลงจากเขาเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 50 ผมขับรถกลับ กทม กลางดึก
ไม่อยู่นอนค้างกับพวกบนเขา เพราะยังสับสนและลังเลอยู่มาก แต่อาจารย์สุดใจ ก็ขอกลับมาเป็นเพื่อน และได้รับขยายระบบครั้งแรก 3 ชั่วโมงเต็ม จากนครสวรรค์ถึง กทม. <!-- google_ad_section_end -->


ผมกลับมาก็รีบที่จะปั่นต้นฉบับ แต่กลับไม่มีอะไรอยู่ในหัวเลยแม้แต่น้อย ไม่รู้จะเริ่มต้นเล่าเรื่องยังไงดี มันสับสน มันเล่าออกมาเป็นภาษาพูดไม่ได้ มันเรียบเรียงลับดับอะไรไม่ได้เลย ไม่ใช่มันไม่เข้าใจ แต่ความเข้าใจในตอนนั้นมันไม่มีเอาเสียเลย

เออ.. จะเอาไงดี


แต่อย่างไรก็ตาม ผมก็เลยโทรไปบอก อาจารย์สุดใจ บอกว่าผมเขียนออกมาไม่ได้ มันไม่มีขัอมูลอะไรจะเขียน จะเล่าเรื่องก็จะกลายเป็นเรื่อง "ธรรมะ"ไป มันผิดคอนเซป

ป้าสุดใจ (ขออนุญาตเรียกอย่างนี้ เพราะเรียกกันเล่นกันมาตั้งแต่ทีแรก) บอกว่า
โม่ ไม่ต้องกังวลหรอก เชื่อเถอะ"ระบบจะจัดการให้เอง" และปาฎิหาริย์ก็เกิด ทันทีที่วางสาย หันไปมอง ทีวี กำลังออกข่าว "อดีต รมต.กลาโหม แคนนาดา ออกมาเรียกร้องให้ประเทศที่เก็บข้อมูลยูเอฟโอไว้เป็นความลับ ให้ออกมาเปิดเผยเสียที เพื่อนำเทคโนฯต่างดาวมาแก้ไขภาวะโลกร้อน"
มันช่างบังเอิญเสียจริง แต่ก็ช่างเถอะ ผมมีข้อมูลมาเขียนแล้ว<!-- google_ad_section_end -->

<!-- google_ad_section_end -->

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE id=post838985 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>29-11-2007, 09:08 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#626 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Astro Neemo<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_838985", true); </SCRIPT>
ผู้ร่วมสนับสนุนบริจาค



วันที่สมัคร: Sep 2007
ข้อความ: 942
<IF condition="">
</IF>Groans: 10
Groaned at 2 Times in 2 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 2,652
ได้รับอนุโมทนา 15,062 ครั้ง ใน 743 โพส
พลังการให้คะแนน: 365




</TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_838985 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->จนเมื่อหนังสือออกมาเป็นรูปเล่ม ผมก็รู้สึกงั้นๆ ไม่มีอะไรแปลกใหม่ จนเมื่อเดือน มีนาคม ป้าสุดใจก็มาขยายและถ่ายทอดระบบให้ผมอย่างต่อเนื่อง ผมเองก็สนใจบ้าง ไม่สนใจฟังบ้าง เบื่อๆเซ็งๆบ้าง แต่ก็ยังดีทีได้ฟังธรรมะ ด้วยศัพท์และภาษาแปลกๆ

แต่ก็ยังรู้สำนึกอยู่ว่า พวกเขาเสียสละอย่างใหญ่หลวงมาทำงานให้"ระบบ" ซึ่งตอนนั้นผมก็ไม่รู้ว่าไอ้"ระบบ"นั่นมันคืออะไรหมายความว่าอย่างไร ผมก็เลยอยากตอบแทนคุณความดีของพวกเขาโดยรับปากจะช่วยเผยแพร่ข้อมูลของพวกเขาและข้อมูลการเตือนภัยพิบัติให้ทางเว็บไซด์ ซึ่งทางนั้นก็ไม่ได้ยินดียินร้ายอะไรที่ผมจะทำเว็บไซด์ (ก็เห็นแกเฉยๆ)

แต่ก็ดีที่ป้าสุดใจจะพาไปแนะให้รู้จักคน ที่อ้างว่าติดต่อมนุษย์ต่างดาวได้ และมีอยู่หลายกลุ่ม นอกเหนือจากเขากะลา ผมก็ได้เริ่มที่จะได้ไป Connect กับกลุ่มต่างๆ ซึ่งจริงๆตอนนั้นหวังจะเขียนเป็นพ็อกเกตบุ๊คสักเล่ม ก็แค่นั้น ไม่มีอะไร

คนแรกที่ผมไปรู้สึกว่าจะอยู่แถวๆ บางบัวทองนี่เอง ผมก็ได้ไปกับป้าสุดใจและคุยกับท่านและสัมภาษณ์ ท่าน แต่.. เอมันแปลกๆพิกล คุยไปคุยมากลายไปเรื่องธรรมะไปเสียนี่ แต่ก็ช่างเถอะเป็นอันว่าได้เรื่องมานิดหน่อย

<!-- google_ad_section_end -->


</TD></TR></TBODY></TABLE>


<TABLE id=post839702 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>30-11-2007, 10:20 AM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#628 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Astro Neemo<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_839702", true); </SCRIPT>
ผู้ร่วมสนับสนุนบริจาค



วันที่สมัคร: Sep 2007
ข้อความ: 942
<IF condition="">
</IF>Groans: 10
Groaned at 2 Times in 2 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 2,652
ได้รับอนุโมทนา 15,062 ครั้ง ใน 743 โพส
พลังการให้คะแนน: 365



</TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_839702 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->(ต่อ)

อาจารย์ท่านนี้ ทราบมาว่าท่านได้รับพลังอะไรบางอย่างจากมนุษย์ต่างดาว เพื่อมาทำหน้าที่ รูปแบบภายนอกเหมือนรับทำการรักษาโรคอะไรบางอย่าง
รู้สึกว่าจะเป็นโรคทางจิตอะไรประมาณนี้ ลูกศิษย์ลูกหาแยะพอควร ท่านสมถะและค่อนข้างเก็บตัว การรักษาจะรู้ก็แต่คนใกล้ชิดเท่านั้น ท่านไม่รับเงินทองใดใด
วิธีการรักษามีรูปแบบนิดหน่อย และสามารถส่งกระแสคลื่นผ่านทางโทรศัพท์ไปรักษาทางไกลได้ คล้ายๆกับพลังจักรวาลประมาณนั้น เท่าที่เห็นด้วยตัวเอง พอดีมีญาติผู้ป่วยโทรมาบอกว่า ผู้ป่วยคุ้มคลั่ง ท่านอาจารย์ได้ส่งกระแสผ่านไปทางโทรศัพท์ สักพัก สองสามนาที ผู้ป่วยก็อยู่ในอาการสงบ

ส่วนอีกหน้าที่หนึ่งก็คือ การปรับจูนระบบจิตวิญญาณเชื่อมต่อกับจักรวาล โดยของท่านเป็นรูปแบบ "พระแม่องค์ธรรม" จิตแห่งจักรวาล หากผู้ใดได้รับการเสียบปลั๊ก "เชื่อมระบบ" ก็จะสามารถปรับพลังงานทางจิตให้สามารถพัฒนาได้

วันนั้นผมไปคุยกับอาจารย์ ถามเรื่องมนุษย์ต่างดาวและยูเอฟโอ แต่ก็เหมือนกับว่าท่านได้รับรู้มามากมาย แต่ไม่สามารถบอกเล่าให้ลูกศิษย์หรือคนอื่นได้ นอกจากพวกเรา ทั้งๆที่เป็นการพบกันครั้งแรก ฉะนั้นรูปแบบภายนอกของท่านจึงเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง

ท่านอาจารย์ได้ตระเตรียมการวางแผนซื้อภูเขาลูกหนึ่ง ในภาคอีสานเพื่อจะตระเตรียม พื้นที่รองรับภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยผมเห็นโมเดลแล้วก็รู้สึกแปลกตาแปลกใจ

วันนั้นผมขอทดลองเชื่อมระบบ แต่อาจารย์ปฎิเสธบอกว่ายังไม่ถึงเวลา

ถึงวันนั้นจะได้ข้อมูลมาบ้าง แต่ก็เต็มไปด้วยข้อกังขา ความลังเลสงสัย จริงหรือไม่จริง ไม่มีใครรู้ได้ อะไรมันจะปานนั้น หรือเป็นพวกธุรกิจหลอกลวง ร่างทรงองค์เทพ หรืออะไรก็ไม่รู้





"มิจฉาทิฐิ" เป็นข้อแรกที่ผมเริ่มตั้งข้อสงสัย เมื่อได้พบกับกลุ่มเขากะลา และก็เริ่มชัดเจนขึ้นเมื่อได้พบกับคนในระบบ มากขึ้น และผู้ที่อ้างว่าติดต่อมนุษย์ต่างดาว หรือ จิตจักรวาลหรืออะไรเทือกนั้น

ผมเป็นชาวพุทธมาแต่กำเนิด แต่ก็ไม่เคยได้ศึกษาพุทธธรรมอย่างจริงจัง จนกระทั่งเมื่อ สิบกว่าปีก่อน ก็ได้เริ่มศึกษาพระธรรมสายพระปฎิบัติ สายหลวงปู่ดุลย์ อตุโล (สายพระอาจารย์มั่น)และศึกษาพระธรรม พระปรมัตถ์ (อภิธรรม)แม้กระทั่งพระวินัย ก็เกิดความศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างจริงจัง

และเมื่อสองสามปีที่แล้ว ก็ได้มีโอกาสได้ร่วม ศึกษาปฎิบัติสายมหายาน สายจีน-ไต้หวัน ไม่ว่าจะเป็น ฝอกวงซาน (นิกายเซ็น) จงไถ่ซาน (เซ็น) จิ้งจง (นิกายสุขาวดี) หลิงจิวซาน (นิกายวัชรยาน)และฉือจี้ จนผมพอเข้าใจในความแตกต่างในแต่ละรูปแบบ ในการโปรดเวไนยสัตว์ทั้งหลาย และพอเข้าใจในความหมายของ"เอกพุทธยาน"





จนเมื่อปีที่แล้วผมได้โอกาส กราบนมัสการ พระมหาวัชราจารย์ เคนโป โซนัม ทอปเกียล ริมโปเช่ เจ้าอาวาสวัดริโวเช่ ประเทศ แคนาดา เมื่อครั้งที่ท่านมาประเทศไทย และก็ได้สัมผัสในปัญญาญาณอันยิ่งใหญ่ของท่าน และได้รู้จักกับศิษย์เอกของท่านในกรุงเทพฯและขอฝากตัวศึกษาพระธรรมสายวัชรยาน (ธิเบต)

จนผมเชื่อมั่นในตนเองพอสมควรว่า ความรู้ความเข้าใจของเราน่าจะเป็นสัมมาทิฐิ และคิดว่าตนเองน่าจะตัดสินความเห็นอะไรได้ในระดับหนึ่ง

<!-- google_ad_section_end -->

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE id=post839855 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>30-11-2007, 12:00 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#629 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Astro Neemo<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_839855", true); </SCRIPT>
ผู้ร่วมสนับสนุนบริจาค



วันที่สมัคร: Sep 2007
ข้อความ: 942
<IF condition="">
</IF>Groans: 10
Groaned at 2 Times in 2 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 2,652
ได้รับอนุโมทนา 15,062 ครั้ง ใน 743 โพส
พลังการให้คะแนน: 365

​

</TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_839855 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->ผมเชื่อว่าศาสนาพุทธ (จริงๆแล้วไม่น่าจะเรียกว่าศาสนา)เป็นประสบการณ์ทางปัญญาณอันยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติและของจักรวาลอันกว้างใหญ่นี้ แต่ก็แน่ล่ะที่ผมพูดก้ไม่ได้เชื่อจากศรัทธาอย่างเดียว หรือการเชื่อต่อๆกันมา หรือเชื่อเพราะความไม่รู้ แต่เป็นจากการสั่งสมประสบการณ์ การทดลอง การฝึกฝน การวิเคราะห์ ลองผิดถูก เพื่อการที่จะเชื่อ แต่ท้ายที่สุดก่อนที่ความเชื่อจะบริบูรณ์จนกลายเป็นศรัทธานั้น นั่นก็คือ "ผล" ที่เรามิอาจปฎิเสธความจริงได้

แต่การท้าทายศรัทธาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตผม ก็คือ"กลุ่มเขากะลา" และกลุ่มที่เกี่ยวเนื่องๆอื่นๆใน"ระบบ"

ใครเล่าจะคาดคิดได้ว่า ประสบการณ์ของพวกเขามันคืออะไร และทำไปเพื่ออะไร อะไรคือสัมมาทิฐิ และมิจฉาทิฐิ และเส้นแบ่งของคำทั้งสองนี้

ผมศึกษาและเรียนรู้มาจากครูบาอาจารย์ ผมศรัทธาในวัตรปฎิบัติและปฎิปทาของพระอริสงฆ์ทั้งหลาย ศาสนาและลัทธิความเชื่ออื่นๆ ผมประสบพบเจอมามากต่อมาก ไม่ว่าจะเป็น พุทธ คริสต์ ฮินดู อิสลาม ไสบาบา ซิกส์ บาไฮ องค์อวตารต่างๆ หรือแม้กระทั่งสำนักที่มาจากเกาหลีที่เคยมาเผยแพร่ในไทย
เมื่อสิบกว่าปีก่อน แล้วถูกขับไล่ไป ผมเข้าสัมผัสแต่ก็ไม่ได้ทำให้ความมั่นคงในพระรัตนตรัยสั่นคลอนลงไปแม้แต่น้อย และจากการศึกษาพระธรรม ก็ได้เกิดความเข้าใจในความเชื่อของพวกเขาเหล่านั้น และก็มิเคยดูถูกผู้คนที่มีคติต่างกันไม่ว่าจะความคิดหรือความเชื่อแต่อย่างใด นั่นเป็นเพราะวาสนาและปัญญาบารมีแต่ละคนไม่เท่ากันนั่นเอง

คุณเคยเชื่อหรือไม่ว่า หากคุณเป็นพุทธศาสนิกชน รู้ปาปบุณคุณโทษ แต่คุณละเมิดศีล ๕ ทุกวันคุณก็อาจจะต้องไปสู่ อบายภูมิ ทุคติภูมิ ไม่มีการรับประกัน หากคุณไม่ปฎิบัติ แต่อีกคนนับถือศาสนาอื่น ทำการสักการะพระเจ้าวันละ ๕ ครั้ง ปฎิบัติตามแนวทางของศาสนาของตนอย่างเคร่งครัด ไม่ล่วงละเมิดศีลหรือข้อบัญญัติของศาสนา อันนี้สุขคติภูมิในภพหน้า เป็นอันว่ามีความหวัง และเมื่อมีสุขคติภูมิเป็นที่ไปแล้ว การเจริญปัญญาญาณ การพัฒนาจิตวิญญาณ ก็มีโอกาสมากขึ้น

..เมื่อผมได้รับมอบหมายให้เข้ามาทำงานกับ"ระบบ" และได้รับการยอมรับจาก"ระบบ"ว่า"สอบผ่าน" ในวันที่ ๑๙ เดือน ๑๑ พศ. ๒๕๕๐ นี้ ใน"แผนกข้อมูลและตอบปัญหาชีวิต" ผมเองก็รู้สึกยินดี และขอขอบคุณทุกๆคนที่ให้โอกาสและความสำเร็จในวันนี้ โดยเฉพาะ"อาจารย์สุดใจ" แห่งเขากะลา ที่ถ่ายทอดประสบการณ์อันมีคุณค่าที่สุด เท่าที่เคยประสบมา ทั้งๆที่ผมเป็นคนนอก ไม่เคยได้ร่วมฝึก ไม่เคยได้รับรู้ข้อมูล ข่าวสารใดใดมาก่อนเกี่ยวกับเขากะลา และไม่มีหมายเลขใดใดเลยแม้แต่หมายเลขเดียว แต่ผมก็ได้รับการยอมรับจาก"ระบบ" และพี่น้องเขากะลาทุกๆคน ยินดีอย่างยิ่งครับ...และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผมจะเป็นตัวอย่าง บทเรียน และกำลังใจให้กับคนรุ่นใหม่ๆ ที่กำลังจะเข้ามาร่วมทำงานกับพวกเรา

จากข้อความข้างต้น มองภาพกว้างๆ อาจจะนึกว่าเราเป็นศาสนา ลัทธิใหม่ หรือความเชื่อใหม่ ที่มักจะออกมาในรูปแบบนี้ ในการเผยแพร่ศาสนาหรือลัทธิต่างๆ ที่ผ่านมา มักจะอยู่ในรูปแบบนี้ ที่แรกจะต้องมีการไม่เชื่อมาก่อน และแล้วก็ตกหลุมพรางจนได้ จุดจบมันอยู่ตรงนี้... เอาล่ะครับ นับจากพรุ่งนี้ไป (วันที่ ๑ ธันวาคม ) มาจะนำมาเล่าให้ฟังต่อ เป็นตอนๆ ให้เป็นซีรีย์ เผื่อใครๆจะเอาไปทำเป็นหนัง (||) <!-- google_ad_section_end -->

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ขออนุโมทนากับอาจารย์ MOUNTAIN ​

วิปัสนาจารย์ 1. ​

ประจำ กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)​

ผู้ซึ่งมีดวงตาเห็นธรรม น้อมนำในธรรมของพระพุทธองค์ ​

มีการพิจารณา ไตร่ตรองในธรรมะ หรือกฏธรรมชาติที่ได้รับรู้จากระบบ โดยผ่านพี่สุดใจมาโดยตลอด​

มีการพิสูจน์ ทดสอบ ทดลอง จนมีความเข้าใจในกลไกของขันธ์ห้าอย่างถ่องแท้ จึงละวางอัตตาตัวตน ละการยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ห้า และเพียรเพื่อจะก้าวล่วงออกจากวัฏฏะสงสารในชาติปัจจุบันนี้​

ขออนุโมทนาให้สมดังที่ตั้งปณิธานไว้ด้วยเทอญ. ​

​

ย้อนรำลึก​

ก่อนรับรู้เรื่องราวของ กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)​

ของวิปัสนาจารย์ 1. อาจารย์MOUNTAIN กันสักนิดนะคะ​

<TABLE id=post1442758 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>21-08-2008, 10:44 AM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#2420 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->MOUNTAIN<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1442758", true); </SCRIPT>
ผู้ร่วมสนับสนุนบริจาค



วันที่สมัคร: Dec 2005
ข้อความ: 12,480
<IF condition="">
</IF>Groans: 2
Groaned at 20 Times in 19 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 19,637
ได้รับอนุโมทนา 178,872 ครั้ง ใน 13,422 โพส
พลังการให้คะแนน: 12314





</TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_1442758 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->เมื่อคืนฝันเห็น อาคารฝักข้าวโพด รามคำแหง 40 ถูกปกคลุมคล้ายเป็นภูเขาลูกหนึ่ง
มีปากทางเข้า ลึกมาก ยิ่งเดินเข้าไปเหมือนเข้าไปในอุโมงค์มหัศจรรย์
ที่มืดมองไม่เห็นแสงสว่าง ปลายทางเห็นขอบแสงลางๆคล้ายองค์พระปฏิมา

ออกมามองด้านนอกอีกครั้ง ที่ปลายยอดภูเขา มีแสงสีรุ้งกางปกคลุมเหมือนดอกเห็ด ยอดดอกเห็ด มีแก้วใสเจียร์เหลี่ยมเหมือนเพชร หมุนส่องเป็นประกาย

น่าจะมีความหมายอะไรสักอย่างนะครับ<!-- google_ad_section_end -->



</TD></TR></TBODY></TABLE>





BIG MOUNTAIN & UFO
UFO/BIGMOUNTAIN
Permalink : http://www.oknation.net/blog/BIGMOUNTAIN

<!--check entry comment -->วันศุกร์ ที่ 12 ธันวาคม 2551
บันทึก..ประสบการณ์.มนุษย์ต่างดาวเขากะลา กับธรรมะ ละวางอัตตาตัวตน..1
Posted by BIGMOUNTAIN , ผู้อ่าน : 224 , 09:29:11 น. | หมวดหมู่ : เขากะลารุ่น 2
พิมพ์หน้านี้

<TABLE class=blog_center_data><TBODY><TR><TD>[1]
ได้ยินชื่อ กลุ่มเขากะลา ครั้งแรกที่งานมหกรรมวิทยาศาสตร์ทางจิตนานาชาติ ครั้งที่ 11
ตอนนั้นได้แต่เรียบๆเคียงๆ เข้าไปดู ที่บูธ แสดงภาพยานบิน และมนุษย์ต่างดาว ของกลุ่มเขากะลา
มีความสงสัยอยู่เหมือนกันว่า กลุ่มเขากะลามาเกี่ยวข้องกับมนุษย์ต่างดาวได้อย่างไร

ตอนที่กลุ่มเขากะลา ขึ้นเวทีบรรยาย เรื่องราวความเป็นมา ของกลุ่มเขากะลา กับมนุษย์ต่างดาว
ผมก็ได้แต่ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก เพื่อใช้อ้างอิงว่า เคยเจอกับกลุ่มเขากะลา ที่งานดังกล่าวเท่านั้น
ถ่ายเสร็จ ก็เดินชมบริเวณงาน ไม่คิดที่จะอยากรู้อยากเห็นเรื่องราวเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาว
และยานบินแต่อย่างใด

จนกระทั่ง วันที่ 9 สิงหาคม 2549 กลุ่มเขากะลา ได้เปิดตัวขึ้นที่เว็บไซด์ พลังจิต
โดยตั้งชื่อกระทู้ที่เปิดขึ้นมาว่า ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)
เจ้าของกระทู้คือ คุณสุดใจเขากะลา
ผมรีบเข้าไปพิมพ์ข้อความกล่าวต้อนรับ เป็นลำดับที่สอง ของกระทู้ ทันที เสมือนหนึ่งคนเคยรู้จักกันมาก่อนแล้ว และได้ติดตามอ่านมาได้สักระยะหนึ่ง ก็เกิดความเบื่อที่จะอ่านข้อความยาวๆ ของคุณสุดใจเขากะลา ซึ่งหารู้ไม่ว่า ข้อความยาวๆนั่นแหละ มีความหมายและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการดำเนินชีวิต
จากนั้นก็ไม่ได้เข้าไปอ่านในกระทู้ของ กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)อีกเลย

เข้ามาสนใจอีกที เมื่อครั้งที่ คุณ Astro Neemo ได้รับหน้าที่ เป็นผู้เชื่อมระบบ ติดตั้งอุปกรณ์
ฟังๆดูก็ให้สงสัยอยู่ เหมือนกันว่า ระบบและอุปกรณ์ คืออะไร แล้วทำไมต้องเชื่อมระบบ ติดตั้งอุปกรณ์ด้วย
มีการดำเนินการเชื่อมระบบติดตั้งอุปกรณ์ โดยเปิดโอกาสให้คนทั่วไปที่สนใจ เข้ามาเชื่อมระบบ ติดตั้งอุปกรณ์เป็นครั้งแรก ซึ่งไม่มีการคิดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ แต่อย่างใด

ด้วยความอยากรู้อยากเห็น อยากทดลอง ของใหม่ว่ามันเป็นอย่างไร
ดังนั้น ใน วันที่ 21 สิงหาคม 2551 ตามเวลานัด 20.00 น. ที่อาคารฝักข้าวโพด ชั้น 11
ซอยรามคำแหง 40 จึงอยู่ในกำหนดการในใจของผม โดยไม่ทำอาการกระโตกกระตากให้ใครรู้
เป็นอันขาด


พี่สุดใจ กับ อาจารย์นีโม่




ก่อนถึงวันนัด 1 วัน ผมได้กำหนดนั่งสมาธิบนเตียงนอน นึกถึงอาคารฝักข้าวโพดที่จะไปในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า ทั้งๆที่ไม่เคยไปมาก่อน แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าสภาพอาคารนั้นเป็นอย่างไร คิดว่าคงเป็นตึกสูงๆที่พบเห็นได้ทั่วๆไป จึงจับภาพในสมาธิให้เป็นตึกสูงๆเข้าไว้ แล้วสมมุติว่า นั่นคือ อาคารฝักข้าวโพด... ชั่วพริบตาเดียว ตึกที่สมมุติเป็นอาคารฝักข้าวโพดนั้น ก็เปลี่ยนสภาพเป็นภูเขาที่สูงชันตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยว ตรงกลางระหว่างตีนเขา และปลายเขา มีปากทางเหมือนทางเข้าถ้ำ ผมนึกนำจิตผ่านเข้าไปดู ลึกเข้าไปๆ ท่ามกลางความมืดสนิท มองเห็นปลายทาง เป็นเส้นแสง จับขอบเป็นเค้าโครงพระพุทธรูปปางนั่ง องค์ใหญ่มาก จากนั้นก็ค่อยๆ ถอยจิตออกมา ดูภาพโดยรวมของภูเขาประหลาดดังกล่าว

ที่ปลายยอดภูเขา มีวัตถุบางอย่างลักษณะรูปทรงคล้ายๆ ดอกเห็ด สีเงิน ส่งแสงเป็นประกายระยิบระยับ และหมุนไปรอบๆ อย่างช้าๆ

นิมิตในสมาธินี้ ผมได้เล่าลงในกระทู้ ของกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) และได้รับ
การไขความให้กระจ่าง จากคุณสุดใจเขากะลา ว่า...

อาคารฝักข้าวโพดนี้ ได้เปิดเป็นที่ทำการเสมือน เขากะลา แห่งที่สอง โดยมีคนที่รู้เพียง สาม คนเท่านั้น เพื่อใช้เป็นสถานที่สำหรับทำกิจกรรมของกลุ่ม สำหรับผู้ที่อยู่ในเขตกรุงเทพ และปริมณฑล
ไม่ต้องเดินทางไกลไปถึง เขากะลา นครสวรรค์

คุณสุดใจเขากะลา กล่าวว่า นิมิตที่ผมเห็นเป็นภูเขานั้น จึงเป็นสิ่งที่ถูกต้อง สามารถแปลความหมาย ให้คนที่ไม่ทราบมาก่อนได้รับทราบ และเป็นที่มาของชื่อ เขากะลา 2 ที่เราเรียกกันมาจนทุกวันนี้


21 สิงหาคม 2551 เวลาประมาณ 18.00 น. ผมออกเดินทางจากฝั่งธนบุรี มุ่งหน้า รามคำแหง 40
ไปถึงอาคารฝักข้าวโพด ชั้น 11 เวลาประมาณ 19.30 น. พอเคาะประตูแล้ว เปิดเข้าไปในห้อง ก็พบกับคนมากมายนั่งอยู่บนพื้นห้อง ไม่น้อยกว่า 10 คน
ปรากฏว่าผู้ที่นั่งอยู่ในห้องส่วนใหญ่ ไม่ใช่ใครอื่นไกล พี่ๆน้องๆ ที่รู้จักกันมาแล้วทั้งนั้น
เสียงทักทายดังไปทั่วห้อง คุณสุดใจเขากะลา(ผมเรียกว่าพี่สุดใจ) และคุณ Astro Neemo(ผมเรียกว่า อาจารย์นีโม่) กล่าวทักทายต้อนรับ บรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่น ต่างคนต่างดีใจ
ที่ได้มาพบปะเจอะเจอกันในคืนนั้น

20.00 น.ได้เวลาสวดมนต์ทำวัตรเย็น มีการแจกจ่ายหนังสือบทสวดมนต์ให้กับทุกคนที่ไปร่วมสวดมนต์ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที หลังจากนั้น ก็เป็นการทำพิธีขออโหสิกรรมต่อเจ้ากรรมนายเวร
โดยมีอาจารย์นีโม่ เป็นผู้ประกอบพิธีกรรม ตามแนวของมหายานทิเบต ความหมายของคำสวดในพิธีกรรมดังกล่าว คือ ขอยอมรับในกรรมที่ได้ทำกับเจ้ากรรมนายเวรมาแล้วในอดีตและปัจจุบัน
และขอสำนึกในความผิดทั้งหมด
ขอให้เจ้ากรรมนายเวร โปรดอโหสิกรรม ยกโทษให้ด้วย จากนั้น ก็เป็นการทำพิธีขออโหสิกรรมเป็นรายบุคคล จนครบจำนวนคนที่มาขออโหสิกรรม ใช้เวลาไปประมาณ 45 นาที ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ
จำนวนคนที่มาขออโหสิกรรมด้วย หากมีมากันมาก เวลาก็จะยาวนานออกไป







</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ขอขอบคุณทุก ๆ ท่าน ที่ได้เดินทางมาสรงน้ำพระร่วมกัน ที่อาคารฝักข้าวโพด ชั้น 5

และยังได้รดน้ำดำหัว ให้กับพี่สุดใจ ในวันที่ 15 เมษายน 2552 ที่ผ่านมา

และขอขอบคุณ น้อง ๆ อีก 3 ท่าน คือคุณแตง(microwave) คุณ *April* และคุณ Dalink ที่ได้เดินทางมารดน้ำดำหัว และขอพรจากพี่สุดใจไปก่อนหน้านั้น ที่ชั้น 8 อาคารฝักข้าวโพด เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2552 ที่ผ่านมา

ขออนุโมทนากับทุก ๆ ท่านค่ะ

​

 

เป็นไปซะงั้น กลายเป็นว่าผู้ที่ต้องการสืบทอดพระำุพุทธศาสนาเป็นพระโพธิสัตว์ไปซะงั้น จริงๆแล้วเขาก็คือผู้ที่ต้องการสืบทอดพระำุพุทธศาสนาเท่านั้นเอง แค่ทำมากหน่อยแล้วก็มีsponserเป็นผู้ที่อยู่ต่างโลกต่างภพแค่นี้ เพราะการหลงผิด เข้าใจผิด ไม่แน่ใจแล้วก็ชักชวนคนอื่นเชื่อ แล้วถ้าไอที่เราคิดว่าใช่นี้มันไม่ใช่ คุณก็ผิดศีลข้อ๓ ๒กระทงนะ ๑ชักชวนผู้อื่นหลงผิด ๒หลอกลวง
แล้วไอที่บอกว่าเป็นแพทย์แผนอนาคตเนี่ย ขอถามก่อนว่า คุณแน่ใจได้อย่างไรว่ามันมาจากอนาคต แล้วผู้ที่ไปรักษาคนโน้นคนนี้เนี่ย พวกคุณรู้เกี่ยวกับแพทย์แผนนี้มากเท่าไหร่ แล้วพลังที่คุณใช้รักษานี่เป็นของใคร มาจากไหน ได้มายังไง ใครอนุญาติ มีใครรับรอง สามารถถ่ายทอดได้อย่างไร
แล้วระบบที่คุณว่ามาเนี่ยคืออะไร มีตัวตนไหมที่ตั้งอยู่ที่ไหน
ส่วนตัวเขากะลาเองนี่มีสัญลักษณ์ไหม สีประจำคือสีอะไร สองข้อนี้ผมถามเพราะอยากรู้นะ เพื่อจะได้นำมาตีความถูก
คุณตอบคำถามพวกนี้มาก่อน ใครที่ไม่เป็นด้วยกับผมก็ว่ามาได้ เดี๋ยวผมจะโต้วาทีเอง จริงๆผมมีคำถามอีกเยอะนะ แต่ก็จะค่อยๆถาม ขอให้ใรก็ได้ที่เข้าใจเรื่องพวกนี้อย่างถ่องแท้ตอบมาก่อน ผิดตรงไหนแล้วก็จะรู้กัน

 

เนื่องในวันปีใหม่ไทย


ขออวยพรแด่ ...


สมาชิกพลังจิตทุก ๆ ท่าน

และ

สมาชิกกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)

ทุก ๆ ท่าน

จงมีแต่ความสุข ความเจริญในธรรมของพระพุทธองค์

ขอให้เพียรเพื่อละวางอัตตาตัวตน

และหลุดพ้นจากอุปาทานขันธ์ห้า

ขอให้มีดวงตาเห็นธรรม

น้อมนำดวงจิตเพื่อเข้าสู่ฝั่งกระแสพระนิพพาน

ในชาติปัจจุบันนี้

ด้วยกันทุกท่านเทอญ ​

 

ปัญหาที่ไม่ควรสนใจ
<O</O​

พระพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน เมืองสารถี พระมาลุงกยบุตร ได้ไปเฝ้าทูลถามปัญหา เรื่องโลกเที่ยงหรือไม่เที่ยง เรื่องสัตว์ตายแล้วเกิดหรือตายแล้วสูญ เรื่องชาติหน้ามีหรือไม่มี เป็นต้น พระพุทธองค์ ทรงเปรียบเทียบเรื่องนี้ไว้น่าคิด พอสรุปได้ว่า

<O</O“มาลุงกยบุตร! ปัญหาเรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องสนใจก่อน ขืนมัวไปสนใจจะตายเสียเปล่า

<O</Oมาลุงกยบุตร! เปรียบเหมือนคนถูกยิงด้วยลูกศร ซึ่งอาบด้วยยาพิษร้ายแรง พวกญาติได้พาคนเจ็บไปหาหมอผ่าตัดที่ชำนาญเพื่อผ่าตัดลูกศรออก แต่คนเจ็บได้พูดว่า “ช้าก่อนหมอ! เรายังไม่รู้จักคนยิงเรานั้น ว่าเป็นใคร ชื่ออะไร สูงต่ำ ดำขาว อย่างไร บ้านเรือนเขาอยู่ที่ไหน ธนูที่ยิงเราเป็นชนิดไหน สายที่ยิงทำด้วยอะไร ลูกธนูทำด้วยไม้อะไร หางธนูทำด้วยขนสัตว์อะไร ถ้าเรายังไม่รู้ปัญหาเหล่านี้ก่อน เราจะไม่ยอมให้ท่านผ่าเอาลูกศรออก” ดังนี้ ฉันใด?

<O</Oมาลุงกยบุตร!คนผู้นั้นจะต้องตายเสียก่อนก็ฉันนั้น ปัญหาเรื่องโลกเที่ยงไม่เที่ยง เรื่องสัตว์ตายเกิดหรือสูญ เรื่องชาติหน้ามีหรือไม่มีนี้ เป็นปัญหาที่จะทำให้ผู้ขบคิดตายเสียก่อน

<O</Oมาลุงกยบุตร!ปัญหานี้เราไม่ตอบ เพราะเหตุใด? เพราะว่าไม่เป็นประโยชน์ ไม่เป็นเหตุให้ประพฤติพรหมจรรย์ ไม่เป็นไปเพื่อความเบื่อหน่าย เพื่อคลายกำหนัด เพื่อความดับทุกข์ เพื่อความสงบ เพื่อความบรรลุนิพพาน ส่วนความเห็นที่ว่านี้ทุกข์ นี้เหตุให้ทุกข์เกิด นี้ความดับทุกข์ นี้ทางให้ถึงความดับทุกข์ อย่างนี้เป็นปัญหาที่เราตอบ”

ที่มา : http://www.geocities.com/krongthipi/TPD004.htm
<O</O