ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)

เบื่อ ajmin

 

5555 เป็นเด็กนี่แลบริสุทธิ์มีคนได้มากมายทางที่ดีมาเจอผมสิ ผมจะแสดงอะไรให้รู้สึก อันตัวผมนี้มิได้มีแค่วิญญาณเดียว แต่มีมากมายใกล้พัน มาเจอผมก่อนสิ มาเลยมาวันไหนก็ได้ มาที่มูลนิธิ แต่ขอบอกว่า กรุณาเคารพสถานที่นี้ด้วย
ที่ถามไปบางก็เพราะอยากรู้ว่าผู้ที่ใช้แพทย์แผนมีความรู้เกี่ยวกับมันมากแค่ไหน เพราะถ้ารู้ไม่ถึงจะได้สอนต่อ บอกต่อ แต่จะบอกก่อนว่าแพทย์แผนนี้เริ่มมีขึ้นในสมัยอียิปต์โบราณช่วงหลังเพราะคนเริ่มขี้เกียจกันจึงประยุกต์มาจากวิชาอื่นซึ่งก็ได้ผล แต่คนขี้เกียจมากขึ้น มีกิเลสมากขึ้นทำให้หายไปในที่สุด

 

มาอีกแระ จากดาวไหนก็ม่ายรุ คริ คริ..เอิ๊กๆๆ

 

อ่านถึงตัวแดงๆ ตรงนี้แล้วขำครับ ขออนุญาติขำแบบนัก(พยายามจะ)ปฏิบัติธรรมหน่อยนะครับ..กั่ก กั่ก กั่ก กั่ก กั่ก....

ขออนุโมทนาครับ เป็นธรรมดาของผู้ไม่ยึดมั่นหรือพยายามที่จะไม่ยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ทั้งห้าครับ คนระบบมักจะถูกมองจากรูปลักษณ์ภายนอกเป็นแบบนี้เป็นเรื่องปกติครับ ไม่เว้นแม้แต่รุ่นเขากะลา 2 นะเอย นะเอย

 

จากเรื่องราวของ อาจารย์นีโม่ ที่กล่าวมาแล้วทั้งหมด
เป็นอุทธาหรณ์สอนใจได้เป็นอย่างดี (ขอกราบอนุโมทนาเป็นอย่างยิ่งครับ)

อันสภาวะทุกข์ที่หนักหนาสาหัสที่สุดของคนเราที่ยังมีอัตตาตัวตน อยู่นั้น คือ ทุกข์จากการเจ็บป่วยด้วยโรคภัยไข้เจ็บ ที่มีผลกระทบต่อร่างกายโดยตรง
เมื่อกระทบแล้ว เกิดสภาวะใกล้ตาย ยิ่งทำให้ต้องหวั่นไหว เกิดการกลัวตาย เพราะหลงไปยึดมั่นถือมั่นว่า กายนี้เป็นของเรา

ผู้ที่เรียนเวทย์วิทยา สายพลังจิต สามารถทำในสิ่งอัศจรรย์ เหนือมนุษย์
หากยังไม่เข้าใจในเรื่องของการละวางอัตตาตัวตน
เมื่อถึงคราวเจ็บป่วยเจียนตาย ในวาระนั้นเขาจะละวางได้หรือไม่
คำตอบ คือ ยาก เพราะเวทนา จากพิษภัยโรคร้าย มันมาก เกินกว่าที่จะพิจารณาได้ทันท่วงที หากเป็นเช่นนี้แล้ว จะหลุดพ้นหนทางสู่อบายภูมิ ได้อย่างไร

เราทั้งหลายควรเรียนรู้และศึกษาให้เข้าใจ ปฏิบัติให้ถึง ในขณะที่สังขารยังคงปกติ เพื่อเตรียมรับศึกหนักในบั้นปลาย ณ ขีดเส้นระหว่างแดนสุคติภูมิกับแดนอบายภูมิ กันเถิด

 

สาธุ สาธุ สาธุ

 

เรียนอ.โม่ค่ะ
ขอรบกวนแจ้งหมายกำหนดการวันอาทิตย์นี้กับคุณพีทและคุณสายฟ้าด้วยค่ะ ให้มา ๑๑.๓๐ น. ระบบแจ้งมาค่ะ

 

ขออนุโมทนาต่อธรรมบรรยายของอาจารย์ทุกๆท่านคะ ติดตามกลุ่มเขากะลามาตลอด ได้ครบทุกความรู้สึก บางครั้งก็ดูน่าเลื่อมใส ศรัทธา บางครั้งก็ดูแปลกๆ บางครั้งก็รู้สึกตลกขบขัน เหมือนดั่งที่อาจาย์นีโม่กล่าว บางครั้งผู้ดูผู้ติดตามก็เกิดความสงสัย เหมือนกันว่ากลุ่มนี้เพี้ยนหรือเปล่า
แต่เท่าที่ติดตามมาโดยตลอด ก็รู้ได้ว่ากลุ่มนี้มิได้เพี้ยนนะ ธรรมบรรยายต่างๆก็เป็นสิ่งที่ตรงกับหลักของพุทธศาสนาของเรา เพียงแต่นำมาพูดให้เข้าใจง่ายเท่านั้นเอง

ในส่วนตัวมีความเลื่อมใสศรัทธาอาจารย์สุดใจอย่างมาก (อาจารย์ท่านอื่นอย่าได้น้อยใจนะคะ) เพราะธรรมบรรยายของท่านนั้นกระจ่างแจ้ง เข้าใจ อ่านครั้งใดซาบซึ้งใจมากคะ และขอชื่นชมและเป็นกำลังใจให้ท่านกลุ่มเขากะลาต่อไป หากมีโอกาสจะขอไปเข้าร่วมกิจกรรมด้วยนะคะ

อยากขอคำแนะนำจากท่านอาจารย์ทั้งหลายว่า สำหรับการเริ่มต้นสอนหรือบอกกล่าวธรรมะให้เด็กๆฟัง เราควรจะสอนหรือบอกกล่าวพวกเขาเหล่านั้นในเรื่องอะไร และด้วยวิธีการใด ให้พวกเขาได้เข้าใจและสนใจที่เรียนรู้ ขณะนี้ลูกชายของ Joypor อายุ 6 ขวบ เขาเรียนในโรงเรียนในเครือคริสต์ โรงเรียนก็แทรกเรื่องทางศาสนาคริสต์ให้ลูกฟัง ซึ่งเขาก็สนใจเรื่องพระเจ้า พระเยซู การทำความดี เรื่องซาตานความชั่วร้าย เขาก็นำมาเล่าให้เราฟัง ทางพ่อแม่ก็เป็นพุทธโดยแท้ สำหรับตนเองนั้นไม่ได้กังวลว่าลูกจะไปสนใจทางคริสต์ศาสนามากเกินไป เพราะเชื่อว่าคริสต์ก็สอนในสิ่งที่ดีเหมือนกัน แต่เพียงคิดว่าเราควรบอกและสอนเขาเพิ่มเรื่องศาสนาพุทธอีกทางหนึ่งคะ

ในงานแสดงวันคริสต์มาสของโรงเรียนลูกชายปีที่ผ่านมา ทางโรงเรียนได้เชิญวิทยากรมาบรรยายในเรื่องภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในปี 2012 ด้วยในแง่มุมของชาวคริสต์ ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องแปลกเหมือนกัน

สงสัยจะมีเวฟมาเขียน อยากเล่า จึงเขียนซะยาวเลย อย่างไรก็ของฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ

 

ยินดีต้อนรับคุณJoypor อย่างเป็นทางการ ครับ
he llo _car

 

เออ..นะ..
อ่านข้อเขียนของทั้งคุณนีโม่และคุณไอยแล้ว
ถึงกับต้องสะดุ้งเฮือกๆเป็นระยะๆ

นี่ก็เพราะว่า..เป็นเรื่องเดียวกันกับที่ผมกำลังครุ่นคิดอยู่พอดีเลย
และก็..กำลังทำอยู่ด้วยแหละ..

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบรรยายธรรมในวงเบียร์
และก็เรื่องที่กำลังสงสัยและสมเพศตัวเองอยู่ว่า

ไอ้เราก็แค่คนธรรมด๊า ธรรมดา
ไม่เห็นเคยได้ เคยดี เคยมี เคยเป็น อะไรกับคนอื่นเขาบ้างเลย
แล้วภาพลักษณ์ของเราก็ไม่ได้ขาวสะอาดงดงามอะไรเลย
แล้วเรายังจะกล้าไปบรรยายธรรม
หรือตอบคำถามเรื่องเกี่ยวกับธรรมะที่พอจะรู้อยู่บ้างเนี่ย
ให้ใครเขาได้ ใครเขาจะเชื่อ?

ก็เลยอดคิดแว๊บๆขึ้นมาไม่ได้ว่า เราควรจะต้องนั่งสมาธิหรือปฏิบัติธรรม
แบบที่เป็นรูปแบบหนักขึ้นดีไหม๊ จะได้รู้เห็นอะไรมากขึ้นอีกหน่อย

ฯลฯ สารพัดจะคิด..แต่พอได้อ่านข้อความของทั้งสองท่านนี้แล้ว
ก็เลยจะ "วาง"..มันลงไปให้หมด เท่าที่จะวางได้ดีกว่า
ใครจะมองอย่างไร จะเชื่อคำพูดของเราหรือไม่
ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องรับผิดชอบ

เรารับผิดชอบตามดูขันธ์ห้าของเราเองก็พอแล้ว

 

ขออนุโมทนากับคำบรรยายของท่านผู้อาวุโสเขากะลาทุกท่านเช่นกัน
เป็นคนหนึ่งที่ติดตามอ่านอยู่เสมอ
อ่านแล้วทำให้รู้สึกมีพลังที่จะต่อสู้กับโลกปัจจุบันอันวุ่นวายมากๆๆ
โดยไม่มีเงื่อนไข

 

ขออนุโมทนากับคำบรรยายของท่านผู้อาวุโสเขากะลาทุกท่านเช่นกัน
เป็นคนหนึ่งที่ติดตามอ่านอยู่เสมอ
อ่านแล้วทำให้รู้สึกมีพลังที่จะต่อสู้กับโลกปัจจุบันอันวุ่นวายมากๆๆ
โดยไม่มีเงื่อนไข<!-- google_ad_section_end --> (ด้วยคนครับ)

 

คนเราส่วนใหญ่มักตั้งกรอบให้กับตัวเอง กรอบนั้นบ้าง กรอบนี้บ้าง กรอบโน้นบ้าง
สาระพัดที่จะใส่กรอบ ใส่กันเข้าไป ยัดกันเข้าไป ยึดกันเข้าไป แล้วเป็นไง
ก็โดนอัดกรอบมาซะขนาดนั้น หันไปทางไหนก็มีแต่กรอบ กรอบแทบจะป่นเป็นผงได้

เมื่อมันถูกอัดมากๆ มันก็เหมือนลูกโป่งที่อัดลมถึงขีดสุด แล้วมันก็จะระเบิด บึ๊ม
แล้วเหลืออะไรไหม? เก็บซากกันได้หรือเปล่า...

ถ้าเราไม่เข้าไปสู่วงล้อมของกรอบ เราจะเป็นไง อิสระ...
อิสระในการกระทำ อิสระในความคิด อิสระในการรับรู้ อิสระในการพิจารณา
อิสระในการไตร่ตรอง อิสระในการค้นหาด้วยตัวเราเอง

แต่ไม่ใช่ว่ากรอบไม่ดีนะ เพราะของทุกอย่างมีทั้งดีทั้งเสีย
เหรียญยังมีสองด้านเลย นับประสาอะไรกับกรอบเล่า
เพียงแค่ให้เราได้รู้จังหวะการใช้กรอบ แค่นั้นก็โอเคแล้ว
ที่สำคัญอย่าไปตีกรอบให้คนอื่น
เพราะนั่นเหมือนกับเราตีกรอบครอบตัวเราเองอีกด้วย

 

รถที่สนธิ... โดนยิงเมื่อเช้าเลขทะเบียน 89 ครับ

เรียนมาเพื่อนทราบ

ปล.ไม่ต้องแปลกใจว่าหายไปไหนนะ อิอิ

บุญรักษาทุกท่านครับ

 

พี่สุดใจเพิ่งได้สนทนากับคุณพีทเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา

คุณพีท และทีมงาน blog 17 ได้ออกแบบสถานปฏิบัติธรรมที่เขากะลา และสถานที่พักภายใน มูลนิธิ จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน มาให้ด้วย จำนวน 3 แบบ

ซึ่งในขณะนี้ กำลังประสานงานกับคุณ mead ในการออกแบบโครงสร้างอาคาร

จึงขอนำแบบแปลนที่ทีมงาน blog 17 ส่งมาให้นี้ นำมาให้คุณ Digital และคุณ mead พิจารณา หรือจะนำไปผสมผสานปรับแต่งให้เหมาะสมก็ได้

ต้องขออนุโมทนา และขอขอบคุณ คุณพีท และทีมงาน blog 17 ด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะ


แบบที่ 1. โครงสร้างภายนอกอาคารเอนกประสงค์ ที่เขากะลา





2. บ้านพักอาศัย มี 2 แบบ

ในรูปลักษณ์ทันสมัย แต่ใช้วัสดุราคาไม่แพง

ถ้าตามแบบในราคาประมาณ 500,000 บาทต่อหลัง

คุณพีทบอกว่า ออกแบบบ้านนี้ ให้คุณวรรณสร้างอยู่ที่เขากะลา

 

hello9
สวัสดีค่ะพี่ Mountain พี่นีโม่ และพี่ ๆ ทุกท่าน
ในกระทู้นี้ ติดตามอ่านมานานแล้ว แต่ยังไม่เคยแสดงตัวกล่าวทักทายเจ้าของบ้านสักที ขออนุญาตเป็นสมาชิกด้วยคนนะคะ


ปกติเคยได้สนทนากับพี่เทพกัญญาแล้ว ทั้งที่ยังไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อนเลยเข้ามาศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ทำไมรู้สึกว่าเหมือนเคยรู้จักกันมาก่อน
และรู้สึกอบอุ่นที่ได้เข้ารู้จักกัลยาณมิตรทุกท่านนะคะ

 

วันอาทิตย์ที่ 19 เมย. 52 นี้ พี่เทพกัญญาจะกรุณาเลี้ยงข้าวกลางวันที่ In house
เห็นว่าจะได้เจอพี่ ๆ ทีมงานเขากะลาด้วยถ้าไม่ติดธุระอะไร คงมีบุญได้เจอกับพี่ ๆ นะคะ

 

ขอขอบพระคุณอาจารย์นีโม่มากคะสำหรับคำแนะนำ

 

ขออนุโมทนาค่ะ

หากส่วนหนึ่ง ส่วนใด ข้อความหนึ่ง ข้อความใด

จากกระทู้ "ข้อความจากกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)" แห่งนี้

มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่ง ของการจุดประกายความหวัง เป็นส่วนหนึ่งของกำลังใจ เป็นส่วนหนึ่งของการทำให้เกิดปัญญาทางธรรม และพบหนทางที่จะหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดได้แล้วนั้น

ขออานิสงค์ทั้งหลาย ทั้งปวง ที่จะพึงมีพึงได้ จงย้อนคืนกลับไปยังท่านนั้น ๆ ท่านผู้พบทาง ท่านผู้เห็นแสงสว่างในตนเอง

เพื่อเพิ่มเป็นกำลังปัญญาให้มากยิ่ง ๆ ขึ้นไป และขออนุโมทนาให้พบทางหลุดพ้นจากทุกข์ได้ในชาติปัจจุบันนี้

ขออนุโมทนากับทุก ๆ ท่านค่ะ

 

ณ วันนี้ ​

วันที่ 17 เมษายน 2552​

เป็นวันที่ ​

พี่สุดใจซึ่งเป็นผู้ตั้งกระทู้นี้ขึ้น ในนามของ ​

"สุดใจเขากะลา"​

ขอส่งมอบกระทู้
"ข้อความจากกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)"​

ให้อยู่ในความรับผิดชอบ และร่วมกันดำเนินงานของ​

กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย (เขากะลา) รุ่นที่ 2 ​

สังกัดแผนก ข้อมูลและตอบปัญหาชีวิต​

เป็นผู้สานต่อ เผยแพร่ข้อมูล ดำเนินกิจกรรม ให้ธรรมะ และขยายระบบ ในกระทู้
"ข้อความจากกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)"
แห่งนี้ แทนพี่สุดใจ ​

ซึ่งพี่สุดใจ ได้เดินทางมาประจำการที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่ปี 2548 เพื่อถ่ายทอดทฤษฎีระบบ คัดเลือกบุคคล และรับรองเข้าทำงานร่วมกับมนุษย์ต่างดาว ในแผนกข้อมูลและตอบปัญหาชีวิตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว​

จนผ่านพ้นวันที่ 1 เมษายน 2552
เป็นวันที่หลายท่านได้รับการบรรจุเข้าทำงานร่วมกับมนุษย์ต่างดาวอย่างเป็นทางการ ในรูปแบบของพนักงานประจำแล้ว​

ณ ขณะนี้ พี่สุดใจ จึงได้เสร็จสิ้นภารกิจในการเดินทางมาประจำการอยู่ ณ กรุงเทพฯ แล้วในตอนนี้ ​

โดยผู้ที่ผ่านการรับรองหลายท่านในรุ่นที่ 2 นี้ สามารถร่วมกันดำเนินกิจกรรมของระบบได้อย่างดียิ่ง รวมทั้งการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร การขยายระบบ การให้ธรรมะเพื่อการปล่อยวางตามทฤษฎีระบบ เพื่อยังประโยชน์ท่านทั้งหลายได้อย่างถูกต้องตรงแล้ว​

พี่สุดใจ จึงขอส่งต่อภารกิจในการประสานงานในกรุงเทพฯ นี้ ให้กับ อาจารย์นีโม่ วิปัสนาจารย์อาจารย์MOUNTAIN อาจารย์จักษวัชร์ อาจารย์ไอย รวมทั้งอาจารย์ท่านอื่น ๆ และสมาชิกทุก ๆ ท่านในรุ่นเขากะลา 2 นี้ ที่สังกัดในแผนกข้อมูลและตอบปัญหาชีวิต รับหน้าที่ช่วยกันในการประสานงานในรูปแบบต่าง ๆ ต่อไป​

พี่สุดใจ จะเดินทางกลับจังหวัดนครสวรรค์ เพื่อเริ่มภารกิจใหม่ที่รออยู่ ในการก่อสร้างสถานปฏิบัติธรรมที่เขากะลา​

โดยจะเดินทางกลับในวันพรุ่งนี้ 18 เมษายน 2552 และอาจจะเดินทางเข้ามาประสานงานในกรุงเทพฯ ในบางครั้ง ในบางกรณี​

หากมีข้อมูลเร่งด่วนจากระบบ หรือเฉพาะกิจในบางครั้ง พี่สุดใจจะแจ้งผ่านทางกระทู้แห่งนี้ ให้สมาชิกได้รับทราบค่ะ ​

ขออนุโมทนา กับอาจารย์ทุกท่าน และสมาชิกในรุ่นเขากะลา 2 ทุกท่าน ขอให้ช่วยกันสานต่อข้อมูล และมุ่งเน้นให้ได้ประโยชน์ตน
พร้อมทั้งยังประโยชน์ท่านไปพร้อม ๆ กัน​

และขออนุโมทนากับสมาชิกพลังจิตทุกท่าน ที่ได้ติดตามอ่านอย่างต่อเนื่องตลอดมา​

ขอความเจริญในธรรม จงบังเกิดแด่ทุก ๆ ท่าน​

สวัสดีค่ะ​

​