แจกแผ่นยันต์หนุนดวงชะตาฟรี

ผมลอง Upload รูปแล้วครับไม่สำเร็จมันแจ้งว่า Upload of file failed. ครับคงต้องให้ Webmaster แก้ไขแล้วล่ะครับ

 

อย่างนี้คงต้องรอแล้วครับกว่าจะนำรูปขึ้นได้ในกระทู้ อย่างไรก้ขอบคุณมากครับ

 

อาจารย์ค่ะ ส่งของมาให้จินหรือยังค่ะ ถ้ายังก็รอได้ค่ะ ถ้าส่งมาแล้วจะได้นั่งรอค่ะ เพราะไปรษณีย์ที่นี้ชอบทิ้งใบรับของให้ไปรับที่ทำการ ก็ไกลพอสมควรค่ะ ตอนนี้จินก็คงตัว แต่แฟนจินแย่ทุกข์มาระดมล้อมเขาอยู่คนเดียว ขายของก็ไ้ด้จินช่วยอยู่ แต่งานเขาตกลง แถมรถหมดสภาพการใช้งานทั้งสองคัน เงินขาดมือ ภาษีมาอีก นี่จินก็ปิดเขาเรื่องจินไม่สบาย ทนเอาค่ะหมอบอกต้องผ่าเอาออกถึงหายปวด(โรคกระดูกที่หัวไห่ล) เพราะเงินไม่ค่อยมีกัน ไม่อยากให้เขาคิดมากไปอีกกับจิน สังขารนี้ยามทรมารปวดแสนสาหัส นอนเตียงราบๆก็ไม่ได้ปวดแขนมาก ต้องแยกตัวมานอนโซฟาในห้องรับแขกหลายวันแล้ว กรรมอะไรหนอปีนี้จินถึงหนักเรื่องสุภาพมากๆดยเฉพาะกระดูก แขน ขา ไปหมดเลยปีนี้

 

อาจารย์ครับหากองค์ในเราเป็นสายปู่ฤาษี สิ่งที่เราควรปฏิบัติมีอะไรบ้างครับ ตัวอย่างเช่นการปฏิบัติตัว หรือเรื่องอาหารการกิน ควรทำอย่างไรครับ

 

ยังแจกแผ่นยันต์หนุนดวงชะตาฟรี อยู่ไหมค่ะ
ขอรับด้วยคนได้ไหมค่ะ
กรุณาส่งมาที่
รติรส กลันตะบุตร
14/10 หมู่ 5 ซ. พิบูลสงคราม 21 ถ. พิบูลสงคราม
ต. สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
เกิดวันศุกร์ที่ 16 มีนาคม 2516 เวลา 04.35 น.

ขอขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ

 

ทุกท่านที่ถามผมรอหน่อยนะครับผมยังไม่สามารถใช้กำลังใดๆได้มากนักเท่าใดครับอย่างไรจะทยอยตอบให้ทุกท่านครับ

 

รูปภาพหลวงพ่อศักดิ์ชัยมาโปรดที่บ้านผมครับ


ในภาพหลวงพ่อเมตตาเดินจิตอาราธนาเทพเทวาบรมครูปู่ฤาษีและครูบาอาจารย์มาสถิตย์รักษาในตัวผมและครอบครัวความเมตตาปราณีในครั้งนี้ผมจะจดจำไว้ไม่มีลืมเลือนครับ

 

ตามที่ดูงบมันใช้มากพอประมาณเหมือนกันหนาครูบาท่านสร้างเพื่อบุญบารมีผมอยากจะช่วยอีกแรงแต่ตอนนี้ขอพักฟื้นก่อนหนาฝากกราบเรียนท่านด้วยดูๆสองปีครึ่งโน่นหนาน่าจะสำเร็จเสร็จสิ้นโมทนาบุญด้วยเหนื่อยหน่อยนะน้องเอ๋ย

 

ตอบสั้นๆนะให้ลองสวดมนตืบทวิรูปักเขฯที่สวดให้กับสัตว์เลื้อยคลานทุกชนิดนั่นแหละในหนังสือมนต์พิธีก้มีแต่ผมตอนนี้สมองมันยังจำอะไรไม่ได้มากนักก็เลยลืมชื่อบทสวดไปสวดแล้วกรวดน้ำให้เขาเอาธูปไปจุดกลางแจ้ง12ดอกบอกเทวดาเทพจำแลงกายเป็นงูมาว่าขอให้มาบอกทางนิมิตจะดีกว่าอย่าจำแลงมาเป็นงูเลย

 

การปฏิบัติก็ตามที่เราจะสามารถกระทำได้ครับโดยส่วนมากถ้าเป็นสายปู่ฤาษีท่านชอบคนที่มีเมตตาธรรมมีพรหมวิหารสี่มากๆหน่อยและอีกอย่างนึงมักมีการปกิบัติตัวแบบค่อนข้างแปลกหน่อยตามที่สัมผัสมาและที่สำคัญต้องฝึกให้ได้ญาณฤาษีก่อนครับอันนี้สำคัญมากครับถ้าไม่ได้ญาณฤาษีก็ยังยังไม่ใช่ฤาษีจริงๆครับ อาหารการกินท่านจะทำให้เรากินไม่ได้ไม่อยากกินเองครับอย่างตัวผมนี่กินยากมากครับบางอย่างกินได้บางอย่างอย่าว่าแต่กินเลยแค่มองเห็นหรือได้กลิ่นก้มีอาการไม่สู้ดีแล้วครับที่สำคัญไม่กินของเซ่นไหว้ผีของในงานศพโดยเด็ดขาดครับ

 

เพิ่มเติมนิดหน่อยครับการฝึกญาณฤาษีทำอย่างไร
ตอบ ให้เราจำภาพเศียรพ่อแก่ที่เราชอบแล้วนำมาเพ่งเหมือนกสิณจนเกิดอุคหนิมิตชัดเจนสามารถย่อให้ใหญ่หรือเล้กก้ได้แล้วองค์ธรรมข้างในตัวเราถ้าท่านเป็นฤาษีจริงท่านจะมาในนิมิตให้เห็นแบบมองได้เหมือนตาเนื้อเลยครับทีนี้ญาณทัศนะวิชาต่างๆจะผุดขึ้นมายิ่งกว่าดอกเห็ดอีกครับเต็มมโนจิตไปหมดครับแต่ต้องพยายามรักษาสายญาณไว้ให้ดีที่กล่าวมานี้ไม่ใช่การลงทรงนะครับแต่มีบางครั้งงานใหญ่ๆหรือเรามีเรื่องจำเป็นมากๆท่านจะผ่านสายญาณมาถึงตัวเราได้แบบไม่คาดคิดมาก่อนครับ
ขออนูโมทนาบุญด้วยครับในการปฏิบัติสายธรรมฤาษี

 

สายใยเยื่อบางๆของชวนะจิตของเขายังคงมีอยู่ครับแต่ดวงจิตนั้นไปสู่ภพภูมิที่ดีที่เขาได้กระทำไว้แล้วครับ

 

กรุณาแจ้งรายละเอียดของตัวคุณกับแฟนให้ผมด้วยครับทางพีเอ็มช่วงนี้กำลังบุญของคุณและแฟนคุณอ่อนแรงหน่อยครับและมีบุพกรรมบางอย่างที่เมือ่ก่อนคุณรู้เท่าไม่ถึงการณ์ไปยึดติดวัตถุสายแรงอาถรรณ์มากสิ่งเหล่านั้นก้เลยยังติดตามธาตูขันธ์อยู่อีกอย่างกรรมที่มีคือการตัดรอนชีวิตบางอย่างเอาไว้ในกาลก่อนกำลังส่งผลวิบากครับแต่โชคดีที่คุณยังมีใจศรัทธามั่นในทานศีลภาวนาอยู่เดี๋ยวเบื้องบนท่านจะสงเคราะห์เองโดยเร็วไวครับแต่อย่างแรกต้องเสริมกำลังบุญก่อนครับและปลดเปลื้องสิ่งที่ยังค้างคาในกายหยาบของตัวคุณและแฟนคุณซะก่อนครับถึงจะดีขึ้น

 

ก่อนตอบอย่าเข้าใจว่าผมรู้การตายการเกิดของแต่ละสิ่งละอย่างนะครับแต่ผมขอตอบตามจริงคือเขาน่าจะไปอยู่ในภพภูมิของมนุษย์ครับ

 

หวัดดีค่ะอาจารย์ ตอนนี้รู้สึกดีขึ้นบ้างหรือยังคะ ขอให้อาจารย์มีสุขภาพกายและจิตแข็งแรงนะคะ จะได้ช่วยเพื่อนๆญาติธรรมที่มีปัญหาต่อไป ไม่รู้เป็นไง ก็สึกผูกพันบอกไม่ถูก เหมือนกับเคยคุยเคยรู้จักกับอาจารย์มานาน (ทั้งที่ไม่เคยคุยและไม่เคยเห็นอาจารย์เลย)

 

ครับขอบคุณครับที่เป็นห่วงตอนนี้อาการดีมาสามสี่วันแล้วครับแต่ยังไม่ปกติมากเท่าใดนักครับ ธรรมเป็นสายโยงใยให้ได้พบเจอหรือรู้จักกันครับผู้ใดปฏิบัติธรรมก็มักจะเจอสายทางธรรมกันเป็นเรื่องธรรมดาครับ ขออนุโมทนาบุญกับแรงศรัทธาในทางธรรมที่คุณมีด้วยครับโมทนาสาธุ

 

มาตอบคำถามกันต่อครับผมจะพยายามตอบให้ทีละน้อยครับตามกำลังที่มีอยู่ในตอนนี้ครับ
---- ผมฝึกกรรมฐานในหมวดสติปัฏฐานสี่อยู่ครับฝึกมานานแล้วแต่ก็ยังไม่คืบหน้ายังมีความสงสัยอยู่มากครับอีกอย่างผมชอบเดินจงกลมมากกว่าการนั่งครับวันนึงถ้ามีเวลาจะเดินมากครับแต่ก็ยังไม่มีสติอยู่กับการเดินเท่าไรนักผมควรจะทำเช่นไรดีครับที่จะฝึกในการเดินได้แบบสบายๆมากกว่านี้ครับ
ตอบ ในกรรมฐานหมวดสติปัฏฐานสี่ นั้น ก็คือการเอาสติไปตั้งอยู่บนฐานของกายและใจ โดยแยกออกเป็นสี่หมวดครับ มีดังนี้
1 เอาสติไปอยู่กับกาย 2 เอาสติไปอยู่กับเวทนา 3 เอาสติไปอยู่กับจิต 4 เอาสติไปอยู่กับธรรม
โดยส่วนมากในปัจจุบันครูบาอาจารย์ท่านมักจะสอนให้เราฝึกสติควบคู่กันทั้งสี่หมวดเลยในข้อนี้ถ้าเราเป็นผู้มีการปฏิบัติมาพอสมควรก้จะไม่มีปัญหาใดๆมากนักครับเพราะสติเราสามารถตั้งอยู่บนฐานทั้งสี่ได้อย่างคล่องแคล่วและรวดเร็ว แต่ถ้าเรายังมีภูมิธรรมทางปฏิบัติไม่แข็งแรงเรามักจะมีปัญหาคือเอาสติตามได้ลำบากครับ วิธีการที่ดีที่สุดตามความคิดเห็นส่วนตัวของผมนะครับ การฝึกสติปัฏฐานสี่นั้นถ้าเป้นไปได้เราควรจะฝึกเอาสติเข้าไปตั้งอยู่ในแต่ละฐานโดยทำทีละอย่างจนสติมันคุ้นเคยก่อน เช่นเริ่มแรกให้เอาสติไปจับอยู่ที่กายให้ชัดเจนก่อนจนเรามีสติรู้กายเราได้ละเอียดมากพอแล้วถึงเริ่มเอาไปจับที่เวทนาแล้วถึงตามไปที่จิตและธรรมตามลำดับ เราอย่าพึ่งเอาสติไปจับรวมกันทีเดียวทั้งสี่หมวดครับ ถ้าทำได้ดังนี้เราจะมีสติมากขึ้นครับ โดยการเริ่มฝึกไปทีละหมวดๆจนชำนาญ
ส่วนเรื่องการเดินจงกลมนั้น แต่ละสำนักมีการสอนที่ไม่เหมือนกันตามแบบฉบับบางที่เดินเร็วบางที่เดินช้าบางที่ก้สอนฝึกสติตั้งแต่ยกเท้าออกก้าวเดินไปจนกระทั่งเท้าวางจรดกับพื้นเป็นต้น แต่ในการเดินนี้บางคนเดินช้าแล้วมีสติมากทำสติได้ดีก้มี บางคนเดินเร็วแล้วมีสติมากกว่าเดินช้าก็มีเอาแน่เอานอนไม่ได้ครับ คุณจะเห็นว่าทำไมพระพุทธองค์ท่านทรงสอนกรรมฐานไว้ถึงสี่สิบอย่าง เพราะว่าจริตของแต่ละบุคคลนั้นมีไม่เหมือนกันครับท่านจึงบอกวิธีการปฏิบัติเอาไว้หลายกองครับตามแต่จริตของแต่ละท่านครับ
ส่วนมากที่ผมสังเกตุดูนะครับในเรื่องการเดินจงกลมนี้ บางท่านไม่ชอบเดินบางท่านชอบเดินมากแต่ไม่ชอบนั่ง บางท่านไปฝึกบางสำนักที่สอนเรื่องการเดินตามขั้นตอนก็เกิดความเบื่อหน่ายก็มีเพราะอะไรครับ จริตของแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ บางคนก้กังวลเกี่ยวกับขั้นตอนในการเดินมากจนเกินไปจนสติไม่มีอยู่ เอาอย่างนี้ดีไหมครับมีวิธีการฝึกที่เหมาะสมกับตัวเราอยู่ครับว่าเราควรจะฝึกอย่างไรดีที่ทำแล้วจิตมันสบายไม่อึดอัด ให้สังเกตุตามนี้ครับ
1 เวลาที่เราเดินไม่ว่าจะเดินช้าหรือเร็ว เรามีสติที่ดีตอนการเดินเช่นใด บางคนเดินช้าแล้วมีสติ บางคนเดินเร็วแล้วมีสติไม่เหมือนกัน
2 เวลาที่เอาเท้าย่างก้าวออกไปจนถึงเอาเท้าจรดกับพื้น ระหว่างเราทำตามธรรมดาเหมือนการเดินตามปกติ หรือเราทำตามขั้นตอนที่เราได้ไปศึกษามาแต่ละสำนักแล้วเราสามารถทำได้แบบสบายใจไม่อึดอัด ให้เราเลือกเอาและสังเกตุดู
3 ถ้าตอบแบบง่ายๆคือในการเดินวิธีไหนที่คุณทำแล้วมีความสบายไม่อึดอัดไม่รู้สึกกังวลเกี่ยวกับขั้นตอนในการเดินมากนักก้ให้ใช้อันนั้นในการปฏิบัติครับ
4 ในการเดินแต่ละครั้งเราสามารถเอาสติไปเรียนรู้กับการทำงานของร่างกายแต่ละส่วนได้มากน้อยแค่ไหน ถ้ายังไม่มีสติเรียนรู้ดีพอให้พยามจับสติในอิริยาบทในการเดินนั้นๆให้ได้ครับ เพียงเท่านี้ก้จะทำให้การเดินของคุณมีความสบายไม่อึดอัดไม่บีบคั้นไม่เกร็งจนเกินไปครับ ลองทำตามนี้ดูก่อนนะครับ

 

------ผมชอบศึกษาทางพลังจิตครับบางครั้งก็สามารถเห็นอะไรบางอย่างได้ชัดเจนบางครั้งก้ไม่เห้นอะไรเลยทำอย่างไรถึงจะเห็นได้ตลอดครับ และจริงหรือไม่ที่เขาบอกกันว่าสามารถเปิดตาทิพย์ให้แต่ละคนได้ถ้าคนไหนยังไม่มีตาทิพย์ไปเปิดก็สามารถมีได้
ตอบ ในเรื่องการทำงานของจิตนั้นถ้าจิตของคุณมีพลังเพียงพอและที่สำคัญต้องมีความสะอาดเพียงพอจริงๆนั่นแหละคุณสามารถที่จะมั่นใจได้ว่าสิ่งที่คุณเห็นนั้นตรงตามจริงครับ แต่โดยธรรมชาตินะครับบางคนจิตเร็วมากครับเพราะมีของเก่าที่ดีติดตัวพอจิตมันเริ่มรับรู้อะไรบางอย่างก็จะไปยึดติดแล้วว่าเราสำเร็จแล้วมีตาทิพย์แล้ว ส่วนมากสิ่งที่เห็นมีความเป้นจริงแค่นิดเดียวครับเพราะอุปทานทางจิตของคนเรานั้นสามารถสร้างอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ทั้งนั้นครับและถ้ายิ่งไม่มีภูมิกำลังในการปฏิบัติจนเชี่ยวชาญด้วยแล้วยิ่งไปใหญ่ครับ เพราะอะไรครับส่วนมากคนเรานั้นปฏิบัติกันไม่เท่าไหร่ก้คิดว่าสำเร็จแล้วแต่จริงๆมันไม่ใช่อย่างนั้นครับขนาดผมปฏิบัติมานานมามากก็ยังเป็นงูๆปลาอยู่เลยครับยกเว้นผู้ที่ได้ปฏิบัติสั่งสมบารมีทางด้านนี้เอาไว้ในการกาลก่อนมากแล้วพอในภพภูมิปัจจุบันจึงมีความเป็นทิพย์ติดตามตัวมาตั้งแต่แรกเกิดครับอันนี้ก้ว่าไปอย่างนึง
ส่วนที่ถามว่าทำอย่างไรจะให้เห็นตลอด นั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณสามารถรักษาจิตรักษากำลังของญาณที่คุณมีนั้นได้มากขนาดไหน และอีกอย่างโดยธรรมชาติไม่มีใครที่จะเห็นอะไรได้ตลอดหรอกครับถ้าอยากเห็นก้ต้องกำหนดเอาคงเป็นไปไม่ได้ที่จะกำหนดให้เห็นตลอดทุกกาลเวลา อีกอย่างนึงสิ่งที่เห็นก้ไม่ใช่จะเป้นจริงทั้งหมดครับผมยังมีผิดพลาดเลยครับเราจะเชื่อในสิ่งที่เราเห็นไปหมดซะทีเดียวคงไม่ได้ครับ ถ้าคุณอยากมีความเข้าใจในการมองเห็นทางทิพจักขุฯนั้นขอให้คุณไปศึกษาดูในระดับการมองเห็นทางทิพจักขุแต่ระดับของพระอริยเจ้าซึ่งมีกล่าวไว้ ขนาดพระอริยเจ้าระดับโสดาบันการมองเห็นทางทิพจักขุฯยังเห็นสลัวๆมืดๆเลยครับ แล้วนับประสาอะไรเราคนธรรมดาจะมีกำลังในการมองเห้นแบบเหมือนจอหนังจอทีวีมันไม่เกินวิสัยตามจริงที่ท่านทรงสั่งสอนเอาไว้หรือครับ อันนี้ผมพูดตามจริงนะครับโปรดใช้วิจารณญาณ
ส่วนที่ถามมาว่ามีการเปิดตาทิพย์ให้แต่ละคนได้นั้นจริงหรือไม่ขอตอบตามจริงดังนี้ครับ
1 สามารถเพิ่มพลังให้แต่ละคนได้ถ้าผู้นั้นมีกำลังญาณที่ดีจริง
2 ไม่สามารถมาเปิดหรือปิดให้แต่ละคนได้เพราะการเปิดหรือปิดนั้นขึ้นอยู่ที่จิตของแต่ละคนที่ปฏิบัติกันได้เองตามสภาพและเหตุ
3 ถ้าสามารถเปิดกันได้จริง พระพุทธองค์ทรงก้คงไม่ทรงสั่งสอนการปฏิบัติเพื่อการหลุดพ้นเอาไว้หรอกครับ ท่านก็คงเปิดทางนิพพานหรือพาเหล่าอริยสาวกอุบาสกอุบาสิกาและสัตว์โลกทั้งหลายขึ้นแดนนิพพานอันเกษมกันได้หมด แต่นี่ท่านเมตตาชี้แนะแนวทางคำสั่งสอนไว้ให้เพื่อให้เราทั้งหลายได้ปฏิบัติตามเพื่อความหลุดพ้นครับ
ผมตอบตามจริงเพียงแค่นี้ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณในการอ่านนะครับ

 

เมื่อวานไปถวายสังฆทานและกราบรอยพระพุทธบาท ที่ วัดป่าพลาญจำปา อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ มานำภาพมาฝากครับ

วัดป่าพลาญจำปา เป็นวัดเล็กๆอยู่บนภูใกล้ๆชายแดนไทย-กัมพูชา





รอยพระพุทธบาท



มีแผ่นหินอัศจรรย์ ครูบาอาจารย์ท่านบอกว่าหินนี้เป็นพระแท่นแสดงธรรม





มีธรรมชาติงดงามมากครับ ข้างบนหินเป็นที่ประดิษฐานพระธาตุเจดีย์

 

อนุโมทนาบุญด้วยครับ ช่างงดงามและน่าอัศจรรย์จริงๆครับ