การสกดจิตตนเอง กับ การนั่งสมาธิเลือกแบบไหนดี?

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย SONICx, 22 พฤษภาคม 2009.

  1. SONICx

    SONICx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    113
    ค่าพลัง:
    +225
    ขอความกรุณษจากผู้รู้ให้ความกระจ่างด้วยครับ
    ผมสกดจิตตนเองจนเข้าถึงสู่ภวังค์ปัจเฉท (มักทำก่อนนอน)ที่รู้เพราะอาการแสดงให้รู้ตามนั้น และผมนั่งสมาธิทุกเช้าครับ (เริ่ม ตี 4 เกือบทุกวัน) เข้าถึงภาวะที่ลืมหายใจ แต่ผลสุดท้ายเหมือนกันครับ สงบ สบายอย่างบอกไม่ถูก.
    ผมมีข้อสงสัยดังนี้ครับ
    1. สกดจิตตนเองเพื่อเข้าภวังค์บ่อยๆมีผลเสียมั้ยครับ?
    2. ผิดมั้ยถ้าผมจะลเอกวิธีสกดจิตตนเองเพื่อเข้าภวังค์แทนการนั่งสมาธิเพราะเข้าง่ายกว่ากันเยอะ?
    ขอท่านผู้รู้ช่วยให้ความกระจ่างด้วยครับ ผมกลัวหลงทาง!!!!!!!!thaxx
     
  2. natspdo

    natspdo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,041
    ค่าพลัง:
    +1,505
    การนั่งสมาธิกับการสะกดจิตต่างกัน...
    - การสะกดจิตตนเอง ต้องสร้างจิตนภาพ
    (ปรุงแต่งจิต เช่น แขนมือให้เริ่มหนักขึ้น หนักขึ้น)
    - การนั่งสมาธิ(สมถสมาธิ) เป็นการกำหนดจิตให้เป็นหนึ่งเดียว กำหนดลมหายใจท้องยุบพอง กำหนดคำภาวนา
    การสะกดจิตตนเองแบบภวังค์ ผมก็ไม่ทราบได้นะครับ แต่คิดว่าเป็นการปรุงแต่งจิต หากจิตนิ่งก็แล้วไป หากไม่นิ่งก็ปรุงแต่งเป็นสวรรควิมารก็มี
    แต่การสะกดจิต ไม่ได้ปัญญา คือวิปัสสนา จะไม่ได้นะ เลือกเอา หากต้องการพักผ่อน ก็สะกดจิตตนเองให้ผ่อนคลาย หากต้องการกำหนดสติอารมณ์เป็นหนึ่งเดียว อาจได้ ฌานก็ได้ หรือต้องการทำลายกิเลส ก็ทำสติทำวิปัสสนา ลองดูความคิดเห็นของท่านอื่นดูครับ
     
  3. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    ไม่ต้องเลือก ก็ทำมันทั้งสองแหละ

    ทำไมถึง แนะนำแบบนี้ ก็เพราะ คุณมีคุณธรรมที่ชื่อ อัปมาทะ ไม่ประมาท ปรากฏอยู่
    แล้ว โดยดูจากที่คุณพูดว่า "ผมกลัวหลงทาง"

    ปัญหาที่เกิด ไม่ใช่ว่าทำอะไรไหนถึงจะดี คุณทำได้ดีทั้งคู่ แต่คุณเหมือนจะรู้อยู่
    ลึกๆ ในก้นบึ้งหัวใจว่า ขาดการรู้อะไรไปบางอย่าง และต้องการรู้สิ่งนั้น แต่ไม่รู้ว่า
    จะรู้ได้อย่างไร

    * * * *

    ผมก็มีหนทางง่ายๆ สำหรับคนที่ทำอะไรๆ ได้ดีอยู่แล้ว และ มีความ "ไม่ประมาท" อยู่แล้ว

    ก็เพียงแต่ตอนออกจากสมาธิ จะชนิดไหนก็ได้ ออกมาแล้วให้ดูสภาวะของ สุข สงบ ที่
    ปรากฏ ให้ยกขึ้นเป็นธรรมอารมณ์ชนิดหนึ่ง เหมือนของชนิดหนึ่งที่ถูกรู้ ถูกดู

    คำว่า ดู ไม่ใช่เพ่งจ้อง จับความรู้สึกแบบ จับหมับ ให้นิ่ง คั้นให้ตาย

    การ ดู หมายถึงทำใจเข้าไประลึกเห็นถึงสภาวะการมีของมัน มันสุขอยู่ไหมก็
    ระลึกลงไปดู ดูเล่นๆ ดูเผิน ดูผ่านๆ ทำบ่อยๆ ก็จะพบว่า ใหม่ๆก็มี สุข สงบ
    ปรากฏอยู่ แต่สักพักก็หายไป ไม่มีอยู่ หากมีอยู่ก็แค่รู้สึกว่า มันมีอยู่ ถ้ามันไม่
    มีอยู่ก็แค่ทำใจรู้สึกไปว่า ไม่มีอยู่ ดูไปแบบนี้แหละ ไม่ต้องทำอะไรมาก

    คุณจะพบว่า สภาวะสุข สงบ นั้นเป็นเพียงสิ่งชั่วคราว เป็นภพของจิต ที่เกิดจาก
    การกระทำกรรมที่ได้จากการสะกดจิต หรือ ทำสมาธิ อย่างใดอย่างหนึ่ง มันเป็น
    ของไม่เที่ยง เป็นทุกข์(ไม่สมารถตั้งทนอยู่ได้นาน) และไม่แน่ว่าจะมีจะเกิด คือ
    เราสะกดจิตตัวเอง หรือ ทำสมาธิแล้ว สภาวะสุข สงบที่ได้จากมัน ไม่ได้ส่งผล
    ปรากฏยาวนานเสมอกัน เอาแน่เอานอนไม่ได้

    พอเห็นแบบนี้ก็จะเข้าใจในสิ่งที่ใจไปติดข้อง(ความประมาท)อยู่ ก็จะพบว่าสิ่งที่
    คุณค้นหาคำตอบนั้น มันอยู่แค่ปลายจมูก

    คำตอบที่ได้นั้น จะไม่ใช่คำตอบที่สุด แต่เป็นคำตอบของการเดินทางที่ตรง

    ทางที่ตรงนั้นจะต้องเดินกันอีกต่อไป จนกว่าจิตจะไม่เผลอไปติดข้องในสิ่ง
    ใดๆที่มีสภาพสามัญลักษณ์(ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ บังคับบัญชาไม่ได้)อื่นๆ ก็จะ
    รู้เองว่า คำตอบสุดท้ายคืออะไร และทางใดที่ควรเดินต่อไปไม่หยุดเดิน
     
  4. toangsg

    toangsg สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +2
    การฝึกสมาธิ คือการฝึกหัดให้มีสติอยู่กับตัวการเจริญวิปัสสนาคือการเรียนธรรมจากของจริง
     
  5. SONICx

    SONICx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    113
    ค่าพลัง:
    +225
    ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความกระจ่าง
     
  6. SONICx

    SONICx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    113
    ค่าพลัง:
    +225
    ตอนเข้าสมาธิ ผมเคยกำหนดให้ร่างกายเป็นโพรง รู้สึกว่าก็เป็นตามนั้น กำหนดเห็นตัวเองในร่างนี้มันก็เป็น แต่มันมืด ไม่สว่างเลย ผู้รู้พอแนะนำได้มั้ยครับว่าทำไงมันถึงจะสว่าง
     
  7. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    ง่ายครับ ต้องหยุดฝึกกิจกรรมที่ให้ผลแนวหมดความรู้สึกตัว การกระทำ
    ที่เน้นสภาพหมดความรู้สึก เป็นที่มาของความ มืด ที่ห้อมล้อม
     
  8. SONICx

    SONICx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    113
    ค่าพลัง:
    +225
    คำตอบท่านเอกวีร์ ผมต้องอ่านหลายรอบ แต่มีคำตอบในทุกคำ ขอบคุณท่านมาก
     
  9. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    ถ้าคุณ ดูความสุข ความสงบ ที่ปรากฏหลังการทำสมาธิ หรือ กิจกรรม ใดๆเป็นแล้ว

    แค่นั่นจะยังไม่สว่างนะครับ มันแค่กลับมาเป็นปรกติ

    คุณจะต้องตามดู จิตที่มีความพอใจในความสุขที่ได้จากกิจกรรม

    หากถอนความยินดี ยินร้ายที่ได้จากการทำสมาธิ หรือ กิจกรรมใดๆ ลงได้ ตรง
    นี้ถึงจะเริ่มพบแสงสว่าง

    การถอนความยินดี ยินร้าย ต้องฟังดีๆนะครับ ผมให้ตามดูตรงหลังการทำกิจกรรม

    ดังนั้นกิจกรรมอะไรที่คุณทำแล้วให้ความสงบ อันนั้นผมไม่ได้ให้หยุดความยินดีใน
    การทำ

    แต่ผมให้หยุดความยินดีที่จะเอาจากความสงบ ที่มันต้องได้หลังจากทำสมาธิ หรือ
    กิจกรรม อย่าไปฉวยเอาสภาวะนั้นมาเป็น คำตอบของชีวิต

    ถ้าไป ฉวยเอาสภาวะสุขที่ได้จากการทำสมาธิมาเมื่อไหร่ คุณตกในความ ประมาท ทันที

    มืด ทันทีนั่นเอง
     
  10. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    ให้มีฉันทะในการปฏิบัติ

    อย่าไปยินดีใน ผลที่ได้จากการปฏิบัติ

    เมื่อทำแบบนี้ จะปรากฏ ความสุข อีกชนิดหนึ่ง เป็นความสุขที่เกิดจากการ ละวาง

    หนทางใดที่นำไปสู่การละวาง แต่ไม่ขัดพฤติกรรมชอบ(สัมมา)
    เหล่านั้นคือ ธรรมะของพุทธศาสนา ที่นำความสว่างมาให้
     
  11. SONICx

    SONICx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    113
    ค่าพลัง:
    +225
    ท่านพอมีประสบการณ์การฝึกกสิณ มั้ยครับ เล่าให้พอเป็นวิทยาทานด้วยครับ ผมอยากฝึกบ้าง ตามที่อ่านมา ฟังมาดูมันจะง่าย แต่พอเริ่มทำมันยังสงสัย คืองี้ครับ
    การกำหนดรู้รูปกสิณนี้ใช้ความรู้สึกรู้ หรือหลับตาแล้วเห็นรูปนั้น ? แล้วที่ว่าเป็นนิมิตนี้เป็นอย่างไรครับ?
     
  12. SONICx

    SONICx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    113
    ค่าพลัง:
    +225
    เพราะบางแห่งบอกว่าให้หลับตาแล้วกำหนดให้เห็นรูปนั้น แต่บางท่านก็ว่านึกในใจ แบบไหนถูกกันแน่ครับ
     
  13. toangsg

    toangsg สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +2
    การสะกดจิตตนเองได้แก่การควบคุมใจตนเองจูงใจตนเองหรือข่มใจตนเองให้อยู่ในกรอบ
     
  14. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    อันนี้ ก็ต้องให้คนอื่นเขาพูดให้ฟังแล้วหละ เพราะเป็นเรื่องที่คนอื่นเขาเห็นว่าเขาถนัด

    เราก็ฟังธรรมให้มากๆ ไม่ว่าเรื่องไหนๆ ฟังแล้วก็ก็ฟังอีก ใครบอกเรื่องอะไรแล้ว ก็อย่าพึ่งน้อมไป ให้ฟัง
    จากหลายๆ ปาก หลายๆแหล่ง จะทำให้เราหาจุดต่างในคำพูด และอาจจะทำให้เห็น
    ข้อปลีกย่อย พอเห็นข้อปลีกย่อย เราก็จะจับประเด็นได้ คัดคำที่เกิดจากอัตตามานะ
    ของคนที่สอนออกไป เหลือแต่หลักการ

    หากให้ผมแนะนำเล่น ตรงคำว่า ภาพนิมิต คุณต้องหาอะไรทำที่มีความสุขมากๆ
    ระหว่างที่จิตมีความสุขนั้น ก็ลองนึกภาพที่ทำให้เกิดความสุขแต่เป็นภาพที่ให้ความ
    สงบ มันจะได้หล่อเลี้ยงกันเอง ระหว่างสุข สงบ สุข สงบ มันก็จะแจ่มชัด

    แต่อย่าลืมหละ อย่าติดในรสสุขใดๆ ที่ได้จากกิจกรรมต่างๆ อย่าไปยึดมันเป็นส่วนผล
    และผลของการเห็น ภาพที่เห็นก็อย่าไปยึดว่าเป็นผล จะทำให้ติดในภพชาติ ไม่พ้น
     
  15. SONICx

    SONICx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    113
    ค่าพลัง:
    +225
    ขอบคุณครับ ท่านเอกวีร์
     

แชร์หน้านี้

Loading...