ไม่เคยฝึกมโนมยิทธิ แต่สิ่งที่ตัวเองสื่อได้ คล้ายๆจะมาทางด้านนี้

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย Me, myself, 3 มีนาคม 2009.

  1. เงินไหลมา

    เงินไหลมา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    551
    ค่าพลัง:
    +3,412
    <TABLE class=tborder id=post2144623 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt1 id=td_post_2144623 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid">ผมก็เคยไปฝึกมาครับ ครั้งแรกเลยความรู้สึกมันก้ำกึ่ง ไม่รู้อุปาทานหรือเปล่า ผมว่าท่านั่งมีผลต่อการฝึกมาก ถ้ามีนอนฝึกนะจะดีนะครับ เพราะการนั่งขัดสมาธิ บางคนตัวใหญ่ อ้วน หรือนั่งไม่ได้นานพอเราเริ่มภาวนาจิตเราเริ่มนิ่ง อาการนี้เข้ามาจะมีผลทันทีครับ ผมไปฝึกครั้งแรกก็ไม่เห็นผลครับ
    พอครูฝึกนำสมาทานกรรมทาน นั่งภาวนานะมะพะทะ ไปเรื่อยๆ พอจิตเราเริ่มนิ่งดีแล้ว ท่านก็พาเราตัดขันธ์ห้า และนิวรณ์เมื่อเราวางอารมณ์ความอยากมีอยากเป็นอยากได้ เบื่อการเกิดเห็นทุกข์การเกิดแล้ว ตอนนี้เหมือนปัญญามันเริ่มเกิด ตายเป็นตาย ถ้าตายแล้วได้ไปนิพพาน ถือว่าชาตินี้กำไรเห็นๆ คือความรู้สึกตอนนี้ไม่ห่วงอะไรแล้ว มันมีความรู้สึกว่าใจเรามันสบายๆไม่กังวลเรื่องอะไรจิตสว่างๆ
    *ครูฝึกถามตอนนี้รู้สึกว่ามีใครอยู่ตรงหน้ามั้ย?
    -ผมรู้สีกไม่มีอะไรนะครับ ท่านอื่นผมไม่รู้นะครับ
    ผมกำลังใจยังไม่ดี ท่านอื่นอาจจะรู้สึกได้เห็นอะไรอะไรได้มากกว่าผมนะครับ
    *ตอนนี้ครูฝึกบอกลองกำหนดภาพพระพุทธรูปที่เราชอบสวยๆสักองค์ซิ ?
    -ผมก็กำหนดครับทีแรกนึกภาพสมเด็จองค์ปฐมในห้องที่ฝึกครับ มีความรู้สึกสัมผัสทางจิต จำภาพได้แต่ไม่ชัด เลยกำหนดใหม่ครับ คราวนี้เอาหลวงพ่อโตวัดอินทร์ครับ เพราะท่านเคยมาโปรดผมอยู่ครั้งนึงวันนั้นวันพระครับ องค์ใหญ่มากครับ สูงสุดฟ้าเลย(ไปไหว้ท่านบ่อยมากครับ ช่วงนั้นขอเป็นลูกหลวงพ่อโตวัดอินทร์ไปไหนขอท่านให้รักษา คุ้มครองตลอดครับ) กำหนดให้ท่านมาอยู่ตรงหน้า คราวนี้ดีขึ้นมาหน่อย ตอนนี้จิตเราเกาะหลวงพ่อโตวัดอินทร์แล้ว แต่ภาพอาจจะยังไม่ชัดเหมือนลืมตานะครับ
    *ครูบอกให้กำหนดเอาท่านมาครอบร่างเราไว้ขอบารมีพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ท่านคุ้มครองเรา แล้วครูฝึกบอกขอบารมีพระพุทธเจ้า องค์ปัจจุบันพาเราไปสวรรค์ดาวดึงส์ครับ ช่วงนี้ความรู้สึกปวดขามาแล้วครับ เขาไปดาวดึงส์แล้ว เราละกลับมาที่เดิมแล้ว พอเปลี่ยนท่านั่ง เอากำหนดใหม่ คราวนี้ เอาจิตนำตามครูฝึกครับ ความรู้สึกมันวับวับแวมแวม ชักไม่แน่ใจ ครับ ความรู้สึกถามว่าสีอะไรตอนนั้นใจนึกถึงเจดีย์ครับมันผุดขึ้นมาเอง สีทอง แล้วก็กำหนดเข้าไปไหว้พระธาตุเขี้ยวเกี้ยว เราก็เข้าไปกราบแต่ไม่ชัดนะครับ แล้วก็ไปกราบปู่พระอินทร์ ที่ผมเห็นมันเป็นภาพเดียวกันกับที่เขาวาดออกมารูปเหมือนที่หน้าห้องเลย แล้วก็นึกเหมือนเราได้กราบท่านจริงๆครับ แล้วครูถามว่าท่านนั่งยังไง ผมเห็นนั่งตรงๆ แล้วก็ลอยไปกราบเท้าท่าน ไม่รู้จริงหรือเปล่าเหมือนนึกเอายังไงไม่รู้ตอนนี้ครับ แล้วก็ไปกราบพระธาตุเขี้ยวแก้ว ขอพรท่านทุกคนต่างขอพร บอกขอเกิดเป็นชาติสุดท้ายในชาตินี้ ก่อนจะไปที่ไหนทุกครั้งครูฝึกจะบอกว่าให้พูดตามตือขอบารมีพระพุทธเจ้าให้เห็นภาพนั้นชัดเจนแจ่มใสครับ คราวนี้ไปกราบสมเด็จองค์ปัจจุบันที่แดนนิพพานครับ ก็ถามว่า เห็นมั้ยพระพุทธองค์มีลักษณะยังไง ผมรู้สึกลักษณะสีทอง มันบอกอยากนั้น แต่ที่ผมรู้สึกเห็นอยู่นี่ ไอ้ขานี่ปวดมากๆ วกไปวนมากับการปวดขา คนนั่งเบียดกันเยอะครับ กำหนดตามครูฝึกไปใหม่ ผมเห็นเป็นพระพุทธรูปสีทอง จิตผมมันจำภาพสมเด็จองค์ปัจจุบันที่วัดท่าซุงครับ นั้นเลยรู้สึกเห็นอย่างนั้น แล้วครูก็บอกลองกำหนดเปลี่ยนเป็นแก้วใสซิ ? คราวนี้ครูฝึกบอกแก้วใสจิตเราก็นำตามนั้นครับ ภาพพระวิสุทธิเทพลอยแวบเข้ามา ความรู้สึกเห็นอย่างนั้นแล้วก็กราบท่าน แล้วก็ขออนุญาตพระพุทธองค์ไปชมวิมารตัวเอง ความรู้สึกเคว้งคว้างล่องลอย อย่างบอกไม่ถูก แต่ครูก็บอกตั้งใจขอบารมีพระพุทธเจ้าให้เห็นวิมารนั้นได้ชัดเจน พอกำหนดปั๊บมาเลย แต่ผมไม่รู้คิดเองหรือเปล่ามันเหมือนจิตเราจิตนาการครับ แล้วก็กำหนดข้นไปนอนบนแท่นแก้ว ผมก็นึกตาม ครับ จินตนาการเอาครับว่าเป็นแก้ว แล้วก็เหมือนแท่นบรรทมศิลาอาสน์ มีเราอยู่คนเดียว จินตนาการ นอนสบายดีครับ บางทีจินตนามันก็ช่วยให้เราผ่อนคลายดีนะเนี่ย? ได้ยินเสียงเพื่อนๆที่ฝึกด้วยกัน แต่จิตเรากลับเหมือนอยู่วิมารคนเดียว ตอนี้ไม่สนใจแล้วแต่เหมือนรู้สึกตัวเองแต่งองค์ทรงเครื่องยังไงไม่รู้ครับ แล้วครูก็บอกจำความรู้สึกนี้ไว้ หากกลับไปอยู่ว่างๆก็กำหนดว่าเราไปที่นิพพาน จำอารมณ์นั้นไว้ ผมอยากจะบ้าตาย ไอ้ที่ผมรู้สึกเห็นนะมันจริงหรือเปล่าไม่รู้ ทุกครั้งที่เห็นขามันปวดแทบระเบิดแล้ว ผมเลยยังงงอยู่ครับ ว่ามันจะไปได้ยังไงจิตยังปวดขาอยู่เลย<!-- google_ad_section_end --> ขอคำชี้แนะจากผู้รู้ด้วยครับ นี่ผมนึกเองหรือสิ่งที่ผมสัมผัสนะของจริง
    <!-- / message --><!-- edit note --><HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1>Last edited by เงินไหลมา; วันนี้ at 02:38 PM.
    <!-- / edit note -->


    </TD></TR><TR><TD class=alt2 style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">[​IMG] [​IMG]<SCRIPT type=text/javascript> vbrep_register("2144623")</SCRIPT> [​IMG] </TD><TD class=alt1 style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT-WIDTH: 0px; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right><!-- controls -->[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 พฤษภาคม 2009
  2. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ขอเล่าประสบการณ์การเห็นของตัวเองเพิ่มเติมหน่อย เผื่อท่านกัลยาณมิตรจะได้มีข้อเปรียบเทียบ

    อย่างของดิฉันนี่มันไม่มีตัวอย่างให้เห็นมาก่อน ไม่เคยรู้มาก่อน คือไม่เคยนึกคิดไว้ก่อนว่าภาพนรกเป็นยังไง สวรรค์เป็นยังไง พระจุฬามณีเป็นยังไง ดังนั้นภาพที่เห็นมันเลยเป็นภาพที่ไม่เคยมีอยู่ในหัวสมองเรา เพราะไม่อย่างนั้นอาจจะทำให้เกิดความสงสัยได้ว่ามันใช่หรือเปล่า เพราะอาจจะทำให้คิดว่าเรารู้เห็นมาก่อน ภาพนี้เลยปรากฎขึ้น

    แต่ถึงแม้ว่าจะไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่ว่าอะไรดิฉันก็ยังไม่ค่อยจะเชื่อง่ายๆหรอกค่ะ คือก็ต้องฝึกตัวเองตลอดเวลาเหมือนกัน บางทีก็จะไปปรารภกับหลวงพ่อโตบ่อยๆ ท่านก็ว่ามาอีกละ พวกสงสัย เหอ เหอ

    ที่หลวงพ่อฤาษีแนะนำว่าถ้าเห็นจริงๆ ต้องนึกให้เห็นว่าภาพ เล็ก ใหญ่ ได้ ใกล้ ไกลได้ สูง ต่ำ ย้ายไปทางโน้น ทางนี้ใช่มะ ดิฉ้นอ่ะเคยเหมือนกัน ไปขอบารมีหลวงพ่อให้ทำให้ดู โดนด่าก่อนนะคะแล้วท่านก็จะทำให้ดู ไม่ใช่ว่าดิฉันคิดเองว่าหลวงพ่อท่านใหญ่ขึ้นหรือเล็กลงนะคะ ไม่ใช่การนึกของเรา แต่เป็นท่านเองที่ทำ เวลาท่านขยายให้ใหญ่ ท่านจะถามดิฉันว่าตอนนี้เป็นยังไง ดิฉ้นก็ว่าใหญ่ขึ้น แล้วท่านก็ทำองค์ให้เล็กกกลง แล้วถามอีก ดิฉันก็ว่าท่านเล็กลง ต่อไปท่านก็ทำให้ท่านอยู่ซะไกลลิบเลย ดิฉันก็ว่าหลวงพ่ออยู่ไกลมากเลย เดี๋ยวท่านก็หมุนไปทางขวาบ้าง ทางซ้ายบ้าง ท่านก็ถามไปเรื่อยๆ ดิฉันก็ตอบไปตามที่เห็น ท่านก็เลยว่า แล้วยังงี้ยังไม่เชื่ออีกเหรอว่าที่เห็นน่ะมันเห็นจริง ไม่ใช่เพราะดิฉันทำ ถ้าดิฉันทำ ดิฉันต้องเป็นคนกำหนดเองว่าจะให้ท่านเล็กหรือใหญ่ ใกล้หรือไกล อืมมม...ก็จริงของท่าน

    ไอ้การพิสูจน์นี่ดิฉันทำบ่อย หลวงพ่อท่านคงรำคาญ เพราะมีครั้งหนึ่งขับรถอยู่ดิฉันก็เกิดการสงสัยอีก ก็ถามหลวงพ่อ (เวลาขับรถบางทีดิฉันไม่รับรู้การเห็น ใช้แต่ทิพย์โสตอย่างเดียวก็มีนะคะ เพราะว่าขับรถอยู่ แต่ว่าจะให้เห็นด้วยก็ได้) ก็ถามหลวงพ่อว่ามันจริงหรือเปล่า หรือว่าดิฉันเพ้อเจ้อไปคนเดียว หลวงพ่อเลยถามว่าตอนนี้เห็นอะไรบอกซิ ก็เลยว่า หนูขับรถอยู่นะคะหลวงพ่อ จะให้เปิดจิตเดี๋ยวนี้เลยเหรอ ท่านก็บอก ใช่ ก็อยากรู้ไม่ใช่เหรอ ก็ต้องลองตอนนี้ละ เราก็ไม่รู้ว่าท่านจะให้เห็นอะไร เพราะเราไม่ได้เป็นคนนึก ดิฉันก็ไม่ได้คิดถึงอะไร พอหลวงพ่อถาม ก็ต้องตอบอ่ะ ก็เห็นเป็นเจ้าแม่กวนอิมลอยอยู่บนอากาศ มือถือขวดน้ำ ท่านยิ้มให้ด้วย ก็บอกหลวงพ่อว่า เห็นเจ้าแม่กวนอิม ท่านก็ว่าถูกต้อง แล้วภาพก็หายไป แล้วท่านก็ถามใหม่ว่า คราวนี้เห็นอะไร กลายเป็นเทพเจ้ากวนอู ก็เลยบอกว่า เห็นเทพเจ้ากวนอู ท่านก็ว่าใช่ แล้วท่านก็ถามไปเรื่อยๆ ไอ้เราก็ขับรถไปด้วย จิตก็ต้องดูไปด้วย ไอ้ตาเนื้อก็ต้องมองถนน มันส์พ่ะย่ะค่ะ พลาดไม่ได้เลยนะ นี่วิธีที่หลวงพ่อทดสอบดิฉันเป็นอย่างนี้ ใครลองเอาไปทำดูบ้างก็ได้นะคะ ไม่หวง แต่ต้องมีพระหรือเทพที่ตัวเองพูดคุยอยู่เป็นประจำนะคะ จะได้มีคนคอยทดสอบเราไง

    อย่าเพิ่งเชื่อดิฉันนะคะ ไปลองทำดูก่อน ได้ผลยังไงมาเล่าให้ฟังกันบ้าง
     
  3. ข้าพเจ้าผู้ไม่รู้

    ข้าพเจ้าผู้ไม่รู้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +103
    อนุโมทนาค่ะ ขอบคุณสำหรับเรื่องราวที่มาเล่าสู่กันฟังอ่านแล้วได้ความรู้มากๆ เลยค่ะดิฉันก็เป็นคนหนึ่งที่ฝึกมโนฯและนับถือหลวงพ่อ แต่เหมือนที่หลวงพ่อว่าเลยทำบ้างไม่ทำบ้าง ไม่จริงจัง ต่อไปคงต้องพยายามมากขึ้น ได้อ่านที่คุณ
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Me, myself<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2145076", true); </SCRIPT> โพสแล้วรู้สึกจี้ใจดำเลย ขอบคุณมากค่ะ
    แต่ก็มีอุปสรรคอยู่บ้างคือสามีเป็นอิสลาม เวลาปฏิบัติ สวดมนต์ต้องแอบๆค่ะ
    บางทีสวดมนต์ก่อนนอนยังต้องแอบดูว่าสามีหลับหรือยัง ตอนนี้ยังสงสารลูกอยู่เลยกลัวลูกไม่ได้พบพระพุทธศาสนา เฮ้อไม่รู้เป็นกรรมอะไร

    คุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Me, myself<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2145076", true); </SCRIPT> คุณมีของเดิมมามาก ถือว่าเป็นคนที่สะสมบุญมาเยอะทีเดียวค่ะนับถือจริงๆค่ะ(||)(||)(||)(||)
     
  4. Ricardo DeCalgary

    Ricardo DeCalgary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +11,341
    สวัสดีครับ คุณ classic songs,

    ขอบคุณมากครับที่มาร่วมแสดงข้อคิดเห็นต่างๆ (ขออนุญาตตอบแทนท่านเจ้าของกระทู้อีกครั้ง ฮิ ฮิ)

    แต่ว่า เรียกผมว่า "คุณ" ก็พอครับ อย่าเรียก "ท่าน" เลยครับ

    รู้สึกเขินมากครับ
    ภูมิรู้ ภูมิธรรม ก็ไม่มี

    มีแต่ญาติสนิทคือ กิเลส เลยต้องเข้ามาศึกษา และขอความรู้จากทุกท่านครับ

    โมทนาบุญ สาธุ สาธุ สาธุ กับทุกๆท่านครับ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มิถุนายน 2009
  5. Ricardo DeCalgary

    Ricardo DeCalgary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +11,341
    สวัสดีครับ คุณ RICK

    โมทนาบุญ สาธุ สาธุ สาธุ กับบุญที่ได้ทำด้วยครับ

    สาธุ สาธุ สาธุ

     
  6. ~อมริศา~

    ~อมริศา~ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +2,335
    สวัสดีค่ะท่านเจ้าของกระทู้และกัลยาณมิตรทุกๆท่าน

    เพิ่งเข้ามาเจอกระทู้นี้ได้2-3วันก็ไล่อ่านตั้งแต่ต้นจนจบ
    ยอมรับว่าว่าอึ้ง! และทึ่ง!มากๆ
    ได้ทั้งความรู้ได้ทั้งความสนุกได้ทั้งกัลยาณมิตรในทางทางธรรม
    ที่สำคัญ มันอิ่มเอิบใจอย่างบอกไม่ถูก

    ตัวดิฉันยังเพิ่งเริ่มต้น ยังงูๆปลาๆ
    อ่านเองคิดเองฝึกเอง ถูกมั่งผิดมั่ง
    ยังไม่มีครูบาอาจารย์ ยังไม่เคยไปฝึกที่ไหน
    แต่กำลังหาความรู้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
    กระทู้นี้ทำให้มีกำลังใจเพิ่มขึ้นอีกมาก

    ขอขอบคุณทุกๆข้อความที่โพสต์ไว้ในกระทู้นี้
    เป็นความรู้ไม่มากก็น้อยจริงๆค่ะ
    แต่ก็ยังอยากอ่านประสบการณ์ของพวกท่านอยู่นะคะ
    สำหรับมือใหม่หัดธรรมอย่างดิฉัน
    ขอแอบติดตามเงียบๆไปก่อนค่ะ
     
  7. กระติ๊บ

    กระติ๊บ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    669
    ค่าพลัง:
    +940
    ดิฉันปฏิบัติธรรม ส่วนใหญ่ก็บนรถตู้ค่ะ ระหว่างกลับบบ้าน เพราะว่าทำงานที่สีลม และรถติดมากๆ เลย เคยนึกอยากไปฝึกมโนมยิทธิเหมือนกัน แต่ก็คิดว่ายังไม่พร้อม ก็เลยยังไม่ได้ไปเสียที ตอนนั่งบนรถตู้ก็ภาวนาพุทโธ บ้าง นะมะพะธะบ้าง บางทีก็ นะโมพุทธายะ บ้าง ก็อ่านตามเวบนี่ล่ะค่ะ อันไหนเค้าว่าดี ก็ลองทำดู แล้วก็กำหนดภาพพระ ตอนแรกก็กำหนดอยู่หลายภาพ บางทีตอนนั่งก็นึกภาพพระไม่ออก เหมือนกันนะคะ ทำไปทำมา ก็มาจบที่นึกถึงภาพของพระพุทธชินราช เพราะส่วนตัวคิดว่า ใบหน้าของท่านมีเอกลักษร์ ทำให้นึกถึงได้ง่าย ก็เลยใช้ภาพพระพุทธชินราชตลอดเลย พักหลังๆนี้

    ผลการปฏิบัติธรรม ก็เหมือนกับคุณ wara เลย คือ นั่งๆไปซักพัก คำภาวนาหายไป เหมือนกึ่งหลับกึ่งตื่น คือมันนิ่งๆ พอรู้สึกตัวอีกที ก็ดึงเอาคำภาวนาขึ้นมาใหม่ วนไปมาอยู่อย่างนี้ค่ะ บางครั้งนั่งแล้ว ตัวโยกๆ เหมือนสัปหงก แต่ใจก็ยังภาวนาอยู่ค่ะ เลยติดอยู่แบบนี้ไม่ได้ไปไหนเสียที

    ส่วนตัวคิดว่า การที่ยังไม่ได้ไหว้ครู มีผลต่อตนเองเหมือนกัน คือกล่าวคำกรรมฐานแบบหลวงพ่อฤาษี แต่ไม่ได้มีพิธีการไหว้ครู เลยทำให้ไปไม่ถึงไหน....คิดแบบนั้นน่ะค่ะ
     
  8. cookieberry

    cookieberry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2009
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +4,607
    อ่านตามยังไม่จบเลยค่ะ ขอบคุณ คุณ Me, Myself มากนะคะที่เอาประสบการณ์มโนยิทธิมาเล่าให้ฟัง เพราะคุณ Me, Myself ทำให้เราหันกลับมาสนใจมโนยิทธิอีกครั้ง

    ตัวเองชอบมโนยิทธิเหมือนกันค่ะ เเต่พยายามจะไม่ฝึกช่วงหลังๆ เพราะเข้าใจผิดว่าพระอาจารย์ไม่ให้ฝึก ซึ่งจริงๆท่านไม่เคยพูดออกมาท่านเพียงเเต่บอกว่าอย่ายึดติดเท่านั้นเอง เราเองไม่เข้าใจว่าคำว่ายึดติดเเปลว่าอะไร ต้องไปโพสถามเหมือนกัน ตอนนี้เข้าใจเเล้วค่ะว่าเเปลว่าอะไร

    ขออนุญาตคุณ Me, Myself เล่าประสบการณ์มโนยิทธิที่ตัวเองประสบมาบ้างนะคะ

    หลังจากเรียนจบไม่นานคุณเเม่ก็เสียค่ะ ญาติทางเเม่มีคนรู้จักเป็นคนฝึกสอนมโนยิทธิที่ซอยสายลมค่ะ อาจารย์ก็สอนให้เรา ท่านบอกว่าหลวงปู่ฤาษีท่านสั่งมาให้สอน มาทราบที่หลังว่าสมเด็จองค์ปฐมท่านขอให้สอนเราอีกต่อหนึ่ง

    สมเด็จองค์ปฐมท่านเรียกองค์ท่านเองว่าพ่อ ท่านตรัสว่าเราเคยเป็นลูกของท่านในอดีตชาติ เป็นลูกต้นชาติ ท่านตรัสว่าที่ท่านสั่งให้อาจารย์สอนเราเพราะว่าตอนนี้ทั้งพ่อเเละเเม่เสียเเล้ว ท่านกลัวว่าเราจะหลงหาทางเดินกลับมาหาท่านไม่ได้ ถ้าเหงาก็ขึ้นมาคุยกับท่านได้ เเต่ท่านไม่พาหรือไม่อนุญาตให้เราไปเที่ยวนรกนะคะ

    ท่านตรัสถามเราว่า" ไปทำไม ไปไม่ได้ ดีไม่ดีเดินตกลงไปเดี๋ยวเดือดร้อน ต้องช่วยกัน เรื่องยาว" ท่านเเสดงเเต่ภาพให้เห็นเเค่นั้น ตอนนั้นอยากเห็นอเวจีมหานรกที่พระเทวทัตท่านอยู่ค่ะ เห็นภาพของนรกที่คนปีนโขดหิน เเล้วตกลงไปในบ่อน้ำกรดค่ะ

    เเต่ถ้าอยากไปกราบพระองค์อื่นๆท่านพาไปนะคะ พระสารีบุตรท่านรูปงามมากค่ะ ท่านใจดีมากเลย เเต่เรายังไม่เคยเห็นหน้าตาชัดๆของพระโมคคัลลาเลยค่ะ ท่านทำหน้าตาบิดไปเบี้ยวมา เเล้วท่านพูดขึ้นมาว่า "ดูกร โยมหน้าตานั้นสำคัญไฉน" จนสมเด็จองค์ปฐมท่านขอว่าอย่าเเกล้ง "ขอให้มันเห็นหน้าชัดๆหน่อย"

    เรื่องที่คิดว่าอาจารย์สอนมโนยิทธิมีบุญคุณกับเรามากก็คือ วิชามโนยิทธิทำให้เราได้เจอพี่ชายในอดีตชาติที่เราติดมากในสมัยก่อน ท่านคือพระอาจารย์ของเราในชาติปัจจุบันค่ะ

    เราไม่ได้รู้เรื่องนี้ตั้งเเต่เเรกค่ะ รู้เเต่ว่ามีพระองค์หนึ่งที่อาจารย์สอนมโนยิทธินิมนต์ท่านมา เราเลยบอกกับสมเด็จองค์ปฐมว่า ถ้าหนูเคยเป็นลูกของท่านจริง ขอให้พระองค์นั้นบอกหนู

    ตอนเเรกเราเรียกพระองค์นั้นว่าหลวงปู่ สมเด็จท่านบอกว่าไม่ได้เเก่เกินไปให้เรียกว่าหลวงพี่ ท่านบอกว่าพระองค์นี้เป็นพระอรหันต์ ให้กราบท่านหมดจิตหมดใจหมดทุกอย่างที่มี

    เเว่บเเรกหลังที่กราบพระองค์นี้เสร็จ มองหน้าท่านมีความรู้สึกว่าคุ้นเคย เคยเจอท่านมาก่อน นั่งวิเคราะห์ว่าเคยเห็นพระองค์นี้ที่ไหนหนอ จริงๆเเล้วตัวเองไม่เคยเข้าวัดไหนเลยค่ะ โอกาสเคยเห็นท่านมาก่อนนั้นไม่มี

    ฟังเสียงท่านเทศน์ ยิ่งฟังยิ่งคิดว่าเสียงคุ้นๆ พอได้ยินเสียงท่านสวดมนต์เท่านั้น งงหนักเลย มั่นใจมากๆว่าเคยได้ยินมาก่อน เป็นเสียงที่คุ้นเคยมาก (ตอนหลังได้ยินเสียงท่านสวดสรภัญญะที่วัดของท่าน น้ำตาคลอเลยค่ะ มั่นใจเกินร้อยอีกว่าเคยได้ยินเสียงสวดมนต์นี้เเน่ๆ)

    หลังจากนั้นเราได้มีโอกาสคุยกับท่านเพราะท่านหันมามองหน้าเราเเล้วพูดว่า สมเด็จองค์ปฐมท่านเก่งนะ อย่าอะไรกับท่าน ท่านบำเพ็ญเพียรมานาน 16 อสงขัยกำไรเเสนกัป อยากรู้อะไรให้ปฏิบัติเอง อย่าถาม อย่านอนก่ายหน้าผากเเล้วคิดว่าพรุ่งนี้จะถามอะไรดีหนอ

    คืนนั้นเราถามสมเด็จท่านว่าทำไมเราถึงคุ้นเคยกับพระองค์นี้จัง ท่านบอกว่า เราเคยเป็นน้องสาวของพระองค์นี้เเละเป็นน้องที่ติดพี่มาก พี่ไปไหนน้องไปด้วย พระอาจารย์มีเหตุที่ต้องลงมาจุติเพื่อช่วยเทพองค์หนึ่งที่ยังบำเพ็ญเพียรบนโลกมนุษย์ เราดื้อตามท่านมาเกิด

    หลังจากที่เรากลับมาจากวัดของท่านสมเด็จองค์ปฐมท่านใช้เราเป็นร่างทรงบอกอดีตชาติของพระองค์หนึ่งที่วัดพระอาจารย์

    เราบอกผ่านโยมในวัดว่า สมเด็จองค์ปฐมบอกว่าลูกของท่านคนนี้ดื้อ ชอบเถียงพระอาจารย์ในใจ ไม่รู้จักสำนึกในบุญคุณของพี่ชาย

    สาเหตุที่เราต้องติดต่อพระรูปนี้เพราะท่านไม่ชอบอยู่ติดวัด ท่านถือสันโดษบำเพ็ญเพียรตามต่างจังหวัดกับเพื่อนพระของท่าน หลังจากที่ท่านรู้อดีตชาติของตัวเอง ท่านไม่ไปไหนอีกเลย ท่านเต็มใจช่วยพระอาจารย์ดูเเลวัดตอนที่พระอาจารย์ติดกิจนิมนต์

    พระรูปนี้ท่านยอมรับว่าเราพูดถูกเกี่ยวกับอดีตเเละปัจจุบันชาติของท่านถูกหมด เเต่ท่านสงสัยว่าเด็กคนหนึ่งมาจากไหนก็ไม่รู้ ฌาน ๔ ก็ไม่ได้ใช้มโนยิทธิเป็นอย่างเดียวจะขึ้นไปเฝ้าพระพุทธเจ้าได้ยังไง

    ท่านเปิดตำราหาใหญ่เลย ถามเพื่อนพระที่มาเยี่ยมท่านก็ถาม สุดท้ายท่านนึกออกว่า พระอาจารย์ท่านเคยพูดกับท่านไว้ก่อนที่เราจะไปกราบพระอาจารย์ที่วัดว่า "อีกไม่กี่วันน้องจะมาหาเราที่วัด เป็นน้องสาว" ท่านเลยหมดคำถามเเละเชื่อเราในที่สุด

    พระอาจารย์ท่านเป็นพระสายหลวงปู่มั่น ท่านไม่ค่อยนิยมการใช้มโนยิทธิเท่าไหร่ ท่านเน้นสอนให้จิตอยู่กับกาย พิจารณาร่างกายของตัวเองมากกว่า เเต่ท่านไม่เคยห้ามไม่ให้ฝึก เราเองที่ตีความหมายของท่านผิดไป ท่านสอนเพียงเเต่ไม่ให้ยึดติดเพราะกำลังของเรายังไม่เเข็งเเรงพอยังเป็นฌานโลกีย์อยู่ สิ่งที่รับรู้อาจคลาดเคลื่อนสามารถรับอุปาทานได้ง่าย

    ตอนหลังสมเด็จองค์ปฐมท่านบอกว่า ให้ขอบารมีพระอาจารย์ก่อนทุกครั้งก่อนจะขึ้นมาหาท่าน อย่าใช้กำลังของตัวเองให้ใช้ของพระอาจารย์

    สุดท้ายนี้ขอบคุณอาจารย์สอนวิชามโนยิทธิทำให้เราได้เจอพระอรหันต์สององค์ที่เป็นพี่เเละเป็นน้องในอดีตชาติของเรา (สมเด็จองค์ปฐมทำนายตรงกับพระอาจารย์ว่าอีกไม่เกิน 5 ปีพระรูปที่เราคุยด้วยนี้จะสำเร็จเป็นพระอรหันต์ตามพระอาจารย์)

    จากคนๆหนึ่งที่ไม่เหลือใคร ทั้งพ่อเเละเเม่เสียชีวิตหมดเเล้ว มีพระอาจารย์คอยดูเเล ในสิ่งที่มองเห็นเเละมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า อยากได้ ติดขัดอะไร บอกพระอาจารย์ท่านช่วยหมด คิดถึงอยากเจอพระอาจารย์ก็ขึ้นไปเฝ้าสมเด็จองค์ปฐมเเล้วท่านจะเรียกพระอาจารย์ขึ้นมา ครั้งล่าสุดตอนกราบลาพระอาจารย์ที่วัดท่านยังเเหย่เล่นว่า "เธอรบกวนเราบ่อย"

    เหงาไม่มีใครคุยด้วยขึ้นไปกราบสมเด็จองค์ปฐม พระอินทร์ พระยายมราช องค์สหัมบดีพรหม ท่านก็เป็นกำลังใจให้เรา สมเด็จองค์ปฐมเคยสอนเราเสมอว่า กอดกันทางจิตสะอาดกว่ากอดกันทางร่างกาย เพราะร่างกายมนุษย์นั้นสกปรก เต็มไปด้วยเลือด น้ำเหลือง น้ำหนอง

    ทุกวันนี้เรามีความสุขไม่ค่อยคิดมาก สมเด็จท่านสอนว่าถ้าคิดถึงพ่อเเม่ให้ เรานั่งสมาธิเเล้วเเผ่ส่วนกุศลให้พ่อกับเเม่จะดีกว่า เพราะถ้าเรานั่งร้องไห้คิดถึงเเม่ เเม่เราจะจิตตกบำเพ็ญเพียรไม่ได้ พระอาจารย์ก็เป็นห่วง เดือดร้อนกันทั่วหน้า

    ถึงเเม้ว่าตอนนี้เราจะไม่มีทั้งพ่อเเละเเม่เหมือนกับคนอื่นๆเค้าเเต่เรามีความสุข ความสุขทั้งทางมโนยิทธิเเละความเมตตาที่พระอาจารย์มอบให้

    สุดท้ายนี้หนูกราบขอบพระคุณสมเด็จองค์ปฐม พระอินทร์ พระยายมราช องค์สหัมบดีพรหม ที่คอยปลอบหนูเวลาหนูเสียใจ คิดมาก

    กราบขอบคุณหลวงปู่ฤาษีลิงดำที่ขอให้อาจารย์สอนมโนยิทธิสอนวิชานี้ให้กับหนูค่ะ

    กราบขอบพระคุณพระอาจารย์ที่ดูเเลลูกศิษย์เเสนซนเเละชอบเเอบเปิดเผยเรื่องส่วนตัวของพระอาจารย์อยู่เรื่อย

    กราบขอบพระคุณพ่อนาคาที่ดุตักเตือนหนู เเละกราบขอบคุณเเม่นาคีที่ให้ความอบอุ่นทางใจกับหนูค่ะ

    ขอบคุณทุกคนที่อ่านค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มิถุนายน 2009
  9. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ยินดีต้อนรับคุณ cookieberry ค่ะ อนุโมทนาในข้อความของคุณด้วยค่ะ

    ดีจังเลย ตอนนี้ดิฉันมีเพื่อนมาช่วยเล่าประสบการณ์อีกคนแล้ว เย้ เย้ คือคนอื่นจะได้ไม่คิดว่าดิฉันบ้าไปคนเดียว อิอิ

    คุณเหมือนดิฉันเลยค่ะ เวลามีทุกข์ คุยกับใครก็ไม่ได้ ก็ไปหาหลวงพ่อโต แล้วก็คนอื่นๆที่ไม่ใช่มีชีวิตอยู่ในโลกนี้แล้วคุยปรับทุกข์เหมือนกัน เคยคิดอยากตายหรืออยากทำอะไรที่ไม่ดี ก็ได้หลวงพ่อแล้วก็สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายนี่แหละเตือนสติสอนใจตลอดเวลา ดิฉันเข้าใจในสิ่งที่คุณพูดออกมาทุกอย่างเลย

    ดิฉันว่าคนเราทุกคนก็ต้องมีกรรมเกี่ยวเนื่องกับใครต่อใครกันมานานนมล่ะค่ะ เหมือนอย่างเรื่องพระที่คุณคุ้นเคย อย่างดิฉันก็ต้องพระอาจารย์โมคคัลลานะกับพระอาจารย์อนุรุททะ คุณว่าแปลกไหม ทำไมเราถึงไม่ได้พบพระองค์อื่นๆ ต้องเจาะจงเป็นรูปนี้ๆ ดิฉันว่าเพราะเรามีกรรมต่อเนื่องกันมานั่นเอง

    อย่าลืมเข้ามาคุย มาเล่าประสบการณ์บ่อยๆนะคะ ที่นี่อบอุ่นค่ะอบอุ่น เหงาก็เข้ามาคุยกันนะคะ
     
  10. paitoon01

    paitoon01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,480
    ค่าพลัง:
    +4,160
    สวัสดีครับคุณMe, myself คุณWara43 คุณเงินไหลมา คุณCookieberry และเพื่อนกัลยาณมิตรทุกท่าน

    โอ้โห...คุณCookieberry ครับ
    ผมขออนุโมทนากับการปฏิบัติธรรมของคุณด้วยนะครับ
    ผมรู้สึกดีใจมากเมื่อได้อ่านประสบการณ์ของคุณ
    โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวกับสมเด็จองค์ปฐม
    ผมเองเคารพนับถือสมเด็จท่านอย่างสูง
    ตัวเองบูชาพระกริ่งรูปหล่อสมเด็จองค์ปฐมที่ปลุกเสกที่วัดท่าซุงเมื่อปีพ.ศ.2535 ติดตัวอยู่เสมอมิได้ขาด เวลาสวดมนต์ไหว้พระ นอกจากบูชาคุณพระรัตนตรัย สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา หลวงปู่ปานตลอดจนพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีวัดท่าซุงแล้ว
    ผมก็จะอาราธนาบารมีสมเด็จองค์ปฐมมาปกเกล้าปกกระหม่อมทุกครั้งครับ
    ยังไงคุณCookieberry เขียนมาเล่าประสบการณ์ให้ฟังอีกนะครับ ผมชอบอ่านจริง ๆ
    และเป็นประโยชน์กับเพื่อนสมาชิกทุกท่าน
    ผมเชื่อในทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณMe, myself และคุณCookieberry เล่า
    และผมเองเพียรปฏิบัติตามคำสอนของหลวงพ่ออยู่เสมอครับ
    สำหรับเพื่อนกัลยาณมิตรทุกท่านอย่าได้มีความลังเลสงสัยเลย
    เร่งปฏิบัติเพื่อสุดมุ่งหมายสูงสุดคือมรรคผลนิพพานกันเถอะครับ
     
  11. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    วันนี้ไปวัดหลวงพ่อโตมาค่ะ ไปกราบหลวงพ่อโต แล้วก็บริจาคเงินทำบุญดังต่อไปนี้ค่ะ
    1. หีบศพผู้ยากไร้
    2. สร้างเจดีย์สีทอง
    3. บูรณะปฏิสังขรณ์
    4. สร้างวิหารคต
    5. สาธารณะประโยชน์ทั่วไป
    6. เข้ามูลนิธิหลวงพ่อโต
    7. ซื้อน้ำมันเผาศพผู้ยากไร้
    8. ค่าน้ำ ค่าไฟ
    9. ค่าบำรุงเมรุปลอดสารพิษ
    10. ชำระหนี้สงฆ์
    11. ทุนการศึกษาพระปริยัติธรรม
    12. สร้างพระธาตุเจดีย์
    13. สร้างหอระฆัง
    14. สร้างสุขา
    15. อาหารกลางวันเด็กนักเรียน
    16. มูลนิธิการพยาบาล
    17. หล่อเทียนพรรษา
    18. ค่าน้ำมันตะเกียง
    19. ผ้าห่มองค์พระ
    20. ค่าบำรุงหลวงพ่อโต หลวงพ่อโสธร หลวงพ่อบ้านแหลม
    เสร็จแล้วแวะไปสำนักงานใหญ่มูลนิธิร่วมกตัญญูไปบริจาคเงินซื้อโลงศพให้ผู้ไร้ญาติค่ะ

    เอาบุญมาฝากท่านกัลยาณมิตรทุกท่านเลยค่ะ
     
  12. cookieberry

    cookieberry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2009
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +4,607
    เรามีเรื่องค่อนข้างเยอะเหมือนกันค่ะ เพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของตัวเองค่ะ

    ก่อนหน้าวันปีใหม่ที่ผ่านมาค่ะ พระอาจารย์พาไปกราบหลวงปู่เหรียญเนื่องจากหลวงปู่เหรียญท่านเป็นพระอุปัชชาย์ของพระอาจารย์เราค่ะ

    ช่วงนั้นเราไอไม่หยุดเลยค่ะ เลยไปขอให้พระรูปหนึ่ง (รูปเดียวกับที่เราเล่าไว้ข้างบนค่ะ) ช่วยเสกยาให้เราให้หายไอ ตรงประตูทางออกศาลาที่เก็บศพหลวงปู่เหรียญค่ะ เราพูดจริงค่ะ นึกเอาว่าพระทุกรูปต้องเสกยาเป็น (คิดได้ยังไงก็ไม่รู้ คือช่วงที่พ่อกับเเม่ยังมีชีวิตอยู่ไม่ค่อยได้ไปวัดค่ะ ไม่เคยคุยกับพระ เลยไม่ค่อยรู้จักพระพุทธศาสนามากนัก)

    หลังจากที่พระอาจารย์เดินนำหน้า เราลงเดินตามท่านมา ปรากฏว่าเราเดินสะดุดบันไดหัวเข่าเลือดออกเลยค่ะ เราเองก็งง เราเดินของเรามาดีๆสะดุดล้มได้ยังไง พระอาจารย์ไม่หันมาถามเราซักคำ

    ระหว่างทางกลับวัดเรากำหนดจิตถามสมเด็จองค์ปฐมว่า ทำไมเราถึงหัวเข่าเเตกได้เจ็บนะ ท่านบอกว่าเป็นเพราะเทวดาฟ้องว่าเราใช้พระเสกยา เเละในอนาคตพระองค์นี้จะสำเร็จเป็นพระอรหันต์ เพราะฉะนั้นเรามีโทษที่ใช้พระ เราจะถูกจดลงไปว่าเราทำบาปในเวลานี้

    เเต่พระอาจารย์รู้ ท่านเลยทำให้เราล้ม เจ็บตัว สมเด็จองค์ปฐมท่านบอกว่า พระอาจารย์ท่านห้ามไม่ให้เทวดาจดความผิดเรา ท่านจะลงโทษเราเองด้วยการให้เราตกบันไดหัวเข่าเเตกเป็นบทเรียนไม่ให้ใช้พระอีก

    เราฟ้องต่อว่าทำไมต้องเป็นหัวเข่าด้วย เพราะเราเกลียดการล้มที่หัวเข่าที่สุดเนื่องจากจะอาบน้ำยาก สมเด็จองค์ปฐมบอกว่า ถ้าไม่ทำให้เจ็บเราก็ไม่จำ

    เราโกรธพระอาจารย์นะ วันต่อมาพระอาจารย์ไม่อยู่ติดนิมนต์ พระนำสวดมนต์เช้า อนุญาตให้นั่งสมาธิกองไหนก็ได้ตามสบาย เราเลยใช้มโนยิทธิ ขึ้นไปฟ้องต่อเลย สมเด็จองค์ปฐมท่านเรียก ทั้งพระอินทร์ พระยายมราช องค์สหัมบดีพรหม หลวงปู่ฤาษีเราก็ฟ้อง

    ทุกองค์มีความเห็นรวมกันว่า เรื่องขี้ผง เรื่องเล็กน้อยโดนลงโทษตอนนี้เราจะโดนน้อยกว่าเพราะตอนนี้พระรูปนั้นท่านยังไม่บรรลุ ถ้าเราโดนลงโทษหลังเราตาย เราจะโดนไม่ใช่น้อยเพราะตอนนั้นพระท่านจะสำเร็จเป็นพระอรหันต์ โทษของการล่วงเกินพระอรหันต์ โน่นเลย อเวจีมหานรก ได้ไปอยู่เป็นเพื่อนพระเทวทัตเเน่ ถึงตอนนั้นก็ไม่มีใครช่วยได้

    ตกกลางคืนของวันนั้นเป็นวันสิ้นปี พระอาจารย์ทำพิธีขอคมาซึ่งกันเเละกัน ท่านพูดขึ้นมาว่า เรื่องเล็กน้อยอย่ามาโกรธอาตมาเลย ได้ยินเเค่นี้ เราคิดเข้าข้างตัวเองเลยว่า พระอาจารย์ง้อเเล้ว หายโกรธเลย 555 ไม่รู้คิดได้ยังไง เเล้วท่านพรมน้ำมนต์

    วันต่อมาเป็นวันปีใหม่ ในพิธี ท่านพูดขึ้นมาลอยๆว่า คนที่มีครูบาอาจารย์แต่ไม่เข้าหาเป็นบาปนะ ซึ่งเราก็รู้ตัวเองว่าเป็นเรา เพราะตั้งเเต่มาเรายังไม่เข้าหาพระอาจารย์เลย มัวเเต่งอนท่านอยู่ (เเย่มากนะคะ ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง)

    แต่ตอนนี้เราอารมณ์ดีหายโกรธพระอาจารย์เเล้ว วิ่งโร่ไปบอกท่านว่า หลวงพี่หนูโดนน้ำมนต์หลวงพี่ทีเดียว ผีบ้าออกจากตัวหนูเลย ท่านก็หัวเราะบอกว่าดีเเล้ว

    ท่านทำพิธีอธิฐานจิตต่อน้ำมนต์ว่าไปเรื่อยๆ ท่านพูดต่อว่าขอให้สเนียด จัญไรจงหายไปจากตัว เเล้วท่านหัวเราะหันมามองหน้าเรา เป็นอันว่าเราก็หายโกรธพระอาจารย์
     
  13. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    แหม..ดีเลย ตอนนี้ดิฉันขอพักสักหน่อย ให้คุณ cookieberry มาเล่าประสบการณ์ให้ทุกท่านฟังบ้างดีกว่า พอดีช่วงนี้กะลังศึกษาและปฏิบัติเพิ่มเติม ต้องขอพักยก เดี๋ยวศุกร์นี้ก็จะไปเดินป่าสักสองวัน ไปโน่นอาจจะได้เจออะไรดีๆก็ได้ แล้วจะมาเล่าให้ฟังค่ะ
     
  14. paitoon01

    paitoon01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,480
    ค่าพลัง:
    +4,160
    เดินทางไป-กลับโดยสวัสดิภาพนะครับ
     
  15. paitoon01

    paitoon01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,480
    ค่าพลัง:
    +4,160
    พอดีอ่านเจอกระทู้เชิญดาวน์โหลดพระคาถาบูชาสมเด็จองค์ปฐม
    ผมกำลังอยากได้อยู่เลยครับ เป็นความบังเอิญจริง ๆ

    เพื่อนกัลยาณมิตรที่สนใจเชิญเลยครับ

    http://palungjit.org/threads/เชิญดา...จะทำให้อยู่รอดจากยุคสมัยแห่งภัยพิบัติ.189056/

    ขอขอบคุณและขออนุโมทนาบุญทุกประการสำหรับทุกท่านที่เอื้อเฟื้อข้อมูลในการรวบรวมจัดทำเอกสารชุดนี้ และขออนุโมทนาบุญสำหรับทุกท่านหากเอกสารนี้จะเกิดประโยชน์ในการปฏิบัติธรรมครับ
    <O:p</O:p
     
  16. wara43

    wara43 ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2006
    โพสต์:
    9,108
    ค่าพลัง:
    +16,130
    ขอบพระคุณมากครับ ที่นำประสบการณ์ และผลของการปฏิบัติมา บอก เล่า
    เพื่อเป็น แรงกระตุ้น ให้พวกเรา ทุกคนอยากปฏิบัติ ให้มากขึ้นครับ

    ขอบพระคุณครับ
     
  17. cookieberry

    cookieberry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2009
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +4,607
    สมัยเเรกๆที่ขึ้นไปหาสมเด็จองค์ปฐมได้ ท่านสอนว่าวิธีกลับมาหาพ่อนั้นง่ายนิดเดียว เเรกๆท่านสอนให้ คิดดี ทำดี พูดดี หลังจากนั้นท่านเพิ่มขึ้นมาว่า มีพรหมวิหาร ๔

    สุดท้ายท่านสอนว่า

    1 คิดว่าตัวเองต้องตายเสมอ เเต่พ่อจะสอนให้จำไว้เลยว่า ร่างกายไม่ใช่ของเรา ร่างกายไม่มีในเรา เราไม่มีในร่างกาย

    2. นับถือพระพุทธเจ้า พระธรรม เเละพระสงฆ์ด้วยใจที่บริสุทธิ์อย่างแท้จริง

    3. มีศีล 5 ที่บริสุทธิ์

    4.เมื่อตายเเล้วให้มาหาพ่อที่พระนิพพาน

    ตอนเเรกยังไม่ค่อยรู้อะไรก็ท่องเรื่อยมา ไปๆมาๆ อ้าวท่านสอนให้เป็นพระโสดาบัน ท่านบอกว่าเอาเเค่นี้เเหล่ะ ให้ได้เป็นเท่านี้ก็พอ ไม่ต้องทำอะไรมาก

    เราเองคล้ายๆ คุณ Me, Myself นะคะ ช่วงที่ทุกข์เพราะยังปรับตัวกับวิธีคิดของคนไทยเเบบผู้ใหญ่ไม่ค่อยได้ เพราะหลังจากพ่อเสียไม่นาน เราไปเรียนต่อต่างประเทศ หลังจากเรียนจบกลับมาไม่นานเเม่ก็เสีย ก็คิดมากอยากตาย บอกกับสมเด็จองค์ปฐมว่าเราขอตาย ท่านบอกว่าไม่ได้ เรายังไม่ได้ทำตามสัญญาของการเกิดเลย จะทิ้งสัญญาไปเฉยๆไม่ได้
    ซึ่งสัญญานั้นก็คือ เราจะช่วยพระอาจารย์ทำนุบำรุงศาสนาพุทธ ด้วยการออกไปทำงาน หาเงิน ได้เงินมาก็ถวายพระอาจารย์

    ตั้งเเต่เกิดจนโตอยู่กับพ่อเเม่ตลอด ญาติอะไรที่ไหนก็ไม่ได้ติดต่ออะไรกันมากมาย จนกระทั่งพอเเม่เสียเจอญาติฝ่ายเเม่ โดนว่า โดนนินทาค่อนข้างเละเลยค่ะ หาว่าทำอะไรไม่เป็น โตจนป่านนี้เเล้วน่ารำคาญ

    มีเเต่สมเด็จองค์ปฐมค่ะที่มีพระคุณ เรียกเราไปคุยด้วย ท่านปลอบเราว่าไม่ต้องกลัว ท่านคอยดูเเลเราอยู่ไม่มีใครทำอะไรเราได้ถ้าท่านไม่ยอม

    เวลาเหงามากๆ ท่านจะเรียกพระยายมราชมาพบ พระยายมราชท่านใจดี คุยเก่งด้วยค่ะ ท่านเล่านู่นเล่านี้ให้ฟัง บางครั้งพระอินทร์ท่านก็เเวะมาค่ะ ทำให้หายเหงาขึ้นเยอะเลยค่ะ

    พักหลังๆไม่ค่อยใช้มโนยิทธิมากเหมือนเมื่อก่อนค่ะ กลัวโดนพระอาจารย์ว่า เข้าใจผิดคิดว่าโดนท่านห้าม จริงๆเเล้วท่านสอนเเค่ไม่ให้ยึดติดเท่านั้นเอง

    เพิ่งนึกออกว่าเราเองมีประสบการณ์เกี่ยวกับความรัก ความผูกพันของสมเด็จองค์ปฐมที่มีต่อลูกท่านมาเล่าให้ฟัง

    เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเราโดยตรง เป็นเรื่องส่วนตัวของพระรูปที่เรากล่าวไว้ข้างต้นเเล้ว

    ก่อนที่พระรูปนี้ท่านจะบวชสายธรรมยุติ ท่านบวชเหมือนฤาษีมาก่อน วันหนึ่งฤาษีทำพิธีครอบเเก้วเหมือนจะถ่ายทอดวิชาผู้สืบตำเเหน่งให้พระรูปนี้ ตอนกำลังทำพิธีกันอยู่พระท่านโดนปิดตา

    ระหว่างที่จะครอบเเก้วนั้นได้มีชีปะขาวมาจากไหนไม่รู้ ถอดเเก้วครอบศีรษะพระรูปนี้ออก ฤาษีท่านครอบเข้าไปใหม่ ครอบเข้าครอบออกกันอยู่นั่นเเหล่ะ ในขณะทำพิธีพระรูปนั้นท่านมองอะไรไม่เห็นเเต่ท่านได้ยินเสียงคนสองคนเถียงกัน เสียงสุดท้ายท่านได้ยินว่า " ไม่ต้อง ลูกข้า ... " อะไรซักอย่างได้ยินไม่ถนัด พระท่านบอกเรามาเเบบนี้ ท่านอยากรู้ว่าชีปะขาวนั้นเป็นใคร เพราะเพื่อนพระของท่านที่อยู่ในพิธีบอกว่าเป็นชีปะขาวมาจากไหนไม่รู้ อยู่ๆก็โผล่เข้ามา

    เราก็ถามสมเด็จองค์ปฐมว่าชีปะขาวเป็นใคร ท่านบอกว่า "พ่อเอง ฤาษีตนนี้คิดเเผนการณ์ใหญ่ คิดจะเอาลูกของข้าเป็นผู้สืบทอดวิชา พ่อเห็นว่าวิชานี้ไม่ได้เป็นไปเพื่อการพ้นทุกข์ เเต่เห็นลูกข้าชอบคาถาอาคมเลยให้ไปอยู่ด้วย เมื่อฤาษีคิดการใหญ่เช่นนี้ จะเอาลูกข้าเป็นเครื่องต่อรอง ข้าก็เอาลูกคืน จริงๆแล้วพ่อพูดว่า ขอบคุณเเต่ไม่ต้อง ลูกของข้า ข้าดูเเลเองได้"

    เราเลยโทรกลับไปถามพระรูปนี้ถามท่านว่า ท่านเคยได้ยินประโยคที่ว่า "ขอบคุณเเต่ไม่ต้อง ลูกของข้า ข้าดูเเลเองได้" ท่านบอกว่าใช่เลย พูดเเบบนี้เลย ท่านถามว่าเรารู้มาจากไหน เเล้วตกลงชีปะขาวนั้นเป็นใคร เราตอบท่านไป ท่านเริ่มเชื่อ ท่านไม่เคยเห็นรูปสมเด็จองค์ปฐม เราบอกว่าเดี๋ยวว่างๆเราจะส่งไปรษณีย์ไปให้

    ตอนกลางวันกะว่าจะกลิ้งบนเตียง อยู่ๆเหมือนได้รับกระเเสจิตจากสมเด็จองค์ปฐมว่า รีบพิมพ์ข้อความที่พ่อจะบอกน้อง น้องอธิษฐานขอให้ได้โดยเร็วที่สุด

    เรารีบพิมพ์ พิมพ์เสร็จ ปรินเตอร์เสียค่ะ เเปลกเเต่จริงค่ะ ท่านสอนวิธีซ่อมให้ เป็นปัญหาเกี่ยวกับหมึกพิมพ์ค่ะ เรางงเลย เราซ่อมปรินเตอร์เป็นด้วย

    เรารีบโทรไปหาพระรูปนั้นว่า ท่านอธิษฐานอะไร รู้นะ หลวงพี่ท่านงง ท่านบอกเพิ่งบ่นเสร็จไปเอง ว่าอยากเห็นหน้าพ่อจังเลย เป็นอันว่าคืนนั้นพระอาจารย์โทรเข้ามาให้หลวงพี่นอน เฝ้ากุฏิท่าน เเละหลวงพี่ฝันว่าสมเด็จองค์ปฐมเสด็จลงมาเเล้วพาท่านไปเที่ยว ที่ไหนก็ไม่รู้ ท่านไม่บอก

    สมเด็จองค์ปฐมท่านเคยบอกว่าท่านจะเก็บลูกของท่านเป็นรุ่นๆไป เริ่มจากลูกต้นชาติก่อน

    เป็นเรื่องที่เเปลกเเต่จริง เรื่องทั้งหมดสมเด็จองค์ปฐมท่านย้ำเสมอว่ารู้เเล้วอย่ายึดติด พระท่านเองก็ไม่ได้ยึดติด เเต่ท่านมีกำลังใจเเละมีความสุขในการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบของท่าน เมื่อพระรูปนี้หลังจากเข้ามาบวชนิกายธรรมยุติ ท่านลืมวิชาคาถาอาคมทั้งหมดที่ท่านเคยเรียนรู้มา ท่านต้องมาเริ่มเรียนใหม่ทั้งหมดจากพระอาจารย์

    เราเองก็มีความสุขที่มีหลวงพี่องค์นี้คอยเเนะนำสอนสั่งเวลาเราปฏิบัติติดขัดการนั่งสมาธิ เราสามารถโทรถามท่านได้ในเวลากลางวัน เเละมีพระอาจารย์คอยดูเราอย่างใกล้ชิดด้วยฌานของท่าน

    พระอาจารย์เองท่านก็สบายใจเพราะหลวงพี่ท่านเลิกเถียงพระอาจารย์ในใจ เเล้วหลวงพี่ท่านเต็มใจช่วยพระอาจารย์ดูเเลวัดเวลาพระอาจารย์ติดกิจนิมนต์ต่างจังหวัด

    มีความสุขในรูปเเบบที่ไม่ยึดติด รู้เเค่ว่าอดีตมีที่มากันยังไง ปัจจุบันเกี่ยวข้องกันเพราะอะไร
    เมื่อรู้เเล้วให้วางไว้ตามเดิม เเล้วทำตัวเหมือนปกติเเบบไม่มีอะไรเกิดขึ้น เเต่ลึกๆก็รู้กันเองอยู่ภายในใจ

    ขอบคุณค่ะ




    จะว่าไปเเล้วมโนยิทธิของเราไม่เหมือนท่านอื่นๆนะคะ เราไปเที่ยวไหนด้วยกำลังฌานของตัวเองไม่ได้ค่ะ ได้อย่างเดียวคือขึ้นไปเฝ้าสมเด็จองค์ปฐม ทีเหลือท่านจะพาไป
     
  18. Ricardo DeCalgary

    Ricardo DeCalgary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +11,341
    สวัสดีครับ กัลยาณมิตร ทุกท่าน

    วันนี้เพิ่งได้มีโอกาสเข้ามาอ่านกระทู้ครับ

    รู้สึกปิติ และ ขนลุก เลยครับ ที่มีท่านสมาชิกใหม่เข้ามาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ให้ได้อ่าน

    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คุณ cookieberry

    ผมว่าคุณ Me, myself คงไม่เหงาแล้วครับ เพราะ มีทั้งคุณ cookieberry, คุณ wara43, และ ท่านอื่นๆ มาแบ่งปัน ประสบการณ์ ครับ

    โมทนาบุญ กับทุกๆท่านด้วยด้วยความจริงใจครับ

    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  19. Ricardo DeCalgary

    Ricardo DeCalgary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +11,341
    โมทนาบุญ และเป็นกำลังใจให้ครับ คุณ ~อมริศา~
    สาธุ สาธุ สาธุ

     
  20. Ricardo DeCalgary

    Ricardo DeCalgary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +11,341
    โมทนาบุญ สาธุ สาธุ สาธุ ครับ คุณกระติ๊บ

    อย่างนี้เรียกว่าใช้เวลาอย่างมีประโยชน์สูงสุด

    สาธุ สาธุ สาธุ

     

แชร์หน้านี้

Loading...