::: วรวุฒิคุณอนุสรณ์ ประวัติและวัตถุมงคลหลวงปู่ครูบาอิน อินโท ครูบาฟ้าหลั่ง :::

<DIR>ครูบาอินตา วัดวังตอง ต.เหมือง ง่า อ.เมือง จ.ลำพูน มรณภาพเมื่อเช้าวันนี้ ขอดวงวิญญาณครูบาเจ้าไปสู่แดนนิพพานด้วยเทอญ
</DIR>

 

สำหรับประวัติโดยสังเขปของพระครูถาวรศีลคุณ (ครูบาอินตา ธนกฺขนฺโธ)อายุ 101 ปี 79 พรรษา วัดวังทองมีดังนี้

ครูบาอินตา เกิดวันเสาร์ แรม 10 ค่ำเดือน 2 ตรงกับวันที่ 12 มกราคม 2453 ปีจอ (ปีเส็ด ) ซึ่งอยู่ในช่วง แผ่นดินพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลเจ้าเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5
ครูบาอินตา เกิดที่ บ้านเหมืองง่า ม.2 ต.เหมืองง่า อ.เมือง จ.ลำพูน โยมพ่อชื่อนายตา โยมแม่ชื่อนางบัวแก้ว นามสกุล ธนาขันธรรม ท่านเป็นหลานท่านเจ้าคุณพระญาณมงคล (ครูบาปวน อภิชโย ) อดีตเจ้าคณะจังหวัดลำพูน รูปที่ 4 อดีตเจ้าคณะแขวงลี้ อดีตเจ้าอาวาสวัดเหมืองง่า อยู่ในครอบครัวชาวนา ซึ่งในขณะนั้นเป็นอาชีพที่มีฐานะยากจน มีพี่น้องร่วมบิดา มารดา 5 คน พระเดชพระคุณเป็นคนสุดท้อง และมีน้องบิดาเดียวกัน แต่ต่างมารดาอีก 5 คน

ขะโยมวัดเหมืองง่า
ครูบาเมื่อเป็นเด็กชาย อินตา ธนาขันธรรม อายุ 7 ขวบ (พ.ศ. 2460) โยมพ่อแม่นำมาฝากกับครูบาปวน อภิชโย ขณะนั้นดำรงสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะแขวงชั้นเอกราชทินนามที่พระครูมหาศีลวงค์
ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะแขวงเมืองลำพูนเจ้าอาวาสเหมืองง่า ครูบาฯ ได้เป็นเด็กวัดและได้เรียนหนังสือครั้งแรกกับครูบาปวน และได้เรียนหนังสือพื้นเมือง(ภาษาล้านนา) ในสมัยนั้น
ที่โรงเรียนวัดเหมืองง่า ซึ่งเป็นโรงเรียนแรก ในตำบลเหมืองง่า ในจบชั้นประถมปีที่ 4 พ.ศ. 2464

ระหว่างเป็นเด็กวัดและบวชเป็นสามเณรอยู่นั้น ครูบาฯ ได้เรียนคาถาและวิทยาคมจากครูบาปวน เล่ากันว่าเป็นผู้ที่ถือของคลังและวิทยาคมเป็นอย่างมาก
พ่อเจ้าเหนือหัวพลตรี มหาอำมาตย์โทเจ้าหลวงจักรคำขจรศักดิ์ เจ้าหอคำเมืองนครลำพูน ถึงกับมีความเลื่อมใสเป็นพิเศษ
ซึ่งพระสงฆ์ที่เจ้าเหนือหัวทรงให้ความเคารพนับถือเป็นพิเศษมีอยู่ 4 รูป ด้วยกันคือ
1. ครูบาธรรมชัย ธัมมัมชโย วัดประตูป่า ต.ประตูป่า อ.เมือง ลำพูน
2. ครูบาเจ้าศรีวิชัย วัดบ้านปาง ต.ศรีวิชัย อ.ลี้ ลำพูน
3. พระญาณมงคล (ครูบาปวน อภิชโย) วัดเหมืองง่า ต.เหมืองง่า อ.เมืองลำพูน
4. ครูบาติกขะปัญโญ วัดวังทอง อ.เมือง ลำพูน
ครูบาติกขะรูปนี้ ถูกบังคับให้สละสมณเพศ หลังจากหลวงจักรคำฯ ถึงแก่พิราลัย และครูบายังได้เรียนคาถาวิทยาคม ยังได้สืบทอดวิถีการสะเดาะเคราะห์
และได้ไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์ครูบาศรีวิชัย ได้ 3 ปี ได้กราบลาครูบาศรีวิชัยเดินทางกลับวัดเหมืองง่า เพื่อที่จะเข้าพิธีญัตติจตุถกรรมวาจาเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2474
ในครั้งนั้น ครูบาปวน รักษาการเจ้าคณะนครลำพูน เป็นพระอุปัชฌาย์ พระมหาสุดใจ ญาณวุฒิ วัดพระธาตุหริภุญชัย เป็นพระกรรมวาจารย์
พระครูสมุห์จรูญ วัดพระธาตุหริภุญชัย เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายานามว่า ธนักขันโธ

ครูบาติกขะ อดีตเจ้าอาวาสวัดวังทอง เจ้าจักรคำฯ ให้ความนับถือศรัทธาเป็นพิเศษ หลังจากเจ้าจักรคำถึงแก่พิราลัย พ.ศ. 2584
พระครูบาติกขะเป็นพระผู้ที่เข้มงวด ในเรื่องการปฏิบัติและเป็นผู้ที่ถือของขลัง ในครั้งนั้นได้มีชาวบ้าน ไปแจ้งพ่อแคว่น (กำนัน) ว่าครูบาติกขะได้ฆ่าวัวของชาวบ้านว่ามากินหญ้าหน้าวัด
เพราะวัวของ ชาวบ้านได้มาทำความเสียหายแก่วัดวังทอง ครูบาติกขะได้ถือก้อนหินเท่าลูกกำปั้นปาถูกกะโหลกหัวของวัวเสียชีวิต กำนันในสมัยนั้นได้มาสอบสวนหาสาเหตุท่านไม่ยอมพูด
กำนันได้ใช้กำลังชกต่อยครูบาติกขะ ท่านไม่ได้ตอบโต้แต่พอตอนกลางคืนกำลังพักผ่อน ได้ล้มพับลงกับที่แล้วมีเลือดไหลออกปาก จมูก จนเสียชีวิตกับที่สร้างความแปลกใจให้แก่ลูกบ้าน ครอบครัว เป็นอย่างยิ่ง
ทำให้ทุกคนสงสัยว่า ครูบาติกขะเป็นผู้ที่ให้กำนันเสียชีวิต เพราะเชื่อในวิทยาคมของครูบาติกขะ ซึ่งชาวล้านนาเรียกพิธีนี้ว่า "การตู้ของใส่ของ" สาเหตุอย่างถึงที่ ครูบาติกขะถูกบังคับให้สละสมณเพศ
เพราะว่าครูบาติกขะเป็นผู้ไม่เกรงกลัวอำนาจการปกครอง ทำให้คณะกรรมการและคณะสงฆ์ยำเกรง จนทำให้คณะสงฆ์ชั้นปกครองไม่สามารถทำงานได้สะดวกเพราะเกรง ในวิทยาคมของครูบาติกขะ

ครูบาอินตา มรณะภาพแล้วฟื้น

เมื่อเดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2531 ครูบาอินตาได้อาพาธหนัก และเข้ารักษาที่ รพ.ลำพูน จนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2532 อาการยังไม่ดีขึ้นและทรุดหนักจนไม่รู้สึกตัว
แพทย์จึงนำส่งโรงพยาบาลแมคคอร์มิค จังหวัดเชียงใหม่ แพทย์ได้นำครูบาอินตาเข้าห้อง ไอซียู และไม่รู้สึกตัวถึง 8 วัน พอถึงวันที่ 7 มีนาคม 2532 แพทย์ได้มาแจ้งว่าครูบาอินตามรณภาพแล้ว
ทำให้ลูกศิษย์ ต่างเศร้าโศกเสียใจเป็นอย่างมาก ขณะที่แพทย์จะฉีดยาศพ ปรากฏว่า เข็มฉีดยากับแทงไม่เข้าและได้หักงอ แพทย์จึงตัดสินใจไม่ฉีดยาศพ และเมื่อจะอาราธนาศพขึ้นรถ
เพื่อไปส่ง ณ วัดวังทอง ครูบาอินตา ก็รู้สึกตัวและเหนื่อยหอบ สร้างความตกในแก่แพทย์ และได้นำครูบาอินตาเข้าห้อง ไอซียู และรักษาจนหายปกติ

หมายเหตุ เป็นความเชื่อส่วนบุคคลโปรดใช้วิจารณญาณ

 

ขอขอบคุณ คุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->chakapong<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2193894", true); </SCRIPT> ครับ




เมื่อเช้า ขณะกำลังเดินทางมาทำงาน
ได้รับโทรศัพท์จากคุณ chakapong (คุณจักรพงษ์ ถ้าสะกดชื่อผิดก็ขออภัยครับ)
สอบถามมาว่าได้ข่าวหลวงปู่อินตา วัดวังทอง ได้มรณภาพแล้ว
ผมก้เลยโทรไปถามลูกศิษย์ที่วัดวังทองจึงได้ทราบเรื่องว่า
หลวงปู่ครูบาอินตา ได้มรณภาพแล้วเมื่อเช้านี้ เวลาประมาณ 6 โมงเช้า
คาดว่าเป็นผลจากอาการมะเร็งตับที่ท่านเป็นอยู่
ก่อนหน้านี้ หมอคาดการณ์ว่าท่านจะอยู่ได้ไม่เกิน 6 เดือน
ซึ่งนับจากตอนนั้นถึงตอนนี้ ผ่านไปเพียงแค่ 3 เดือนกว่าๆ ท่านก็ละสังขาร

ไหว้สาครูบาเจ้า ปกเกล้าปกกระหม่อม
ขอปูจาสักการะส่งสู่สวรรค์ชั้นเนระพานจิ่มเต๊อะ

สาธุ

 

สวัสดีครับ

ดีใจด้วยครับที่ชอบ
อยากทราบข้อมูลอะไรเพิ่มเติมก็โพสถามได้เรื่อยๆ นะครับ
จะค่อยๆ ทะยอยตอบครับ

ธีระยุทธ

 

สวัสดีครับ

ปั๊บสา... เห็นแล้วดูเข้มขลังน่าเกรงขามจริงๆ

ด้วยความเคารพครับ... สองภาพหลัง "กลับหัว" นะครับ

ผมเอาไปพลิกดูแล้ว ลายมือคล้ายของหลวงปู่ครูบาอินมากๆ
แต่ด้วยความรู้น้อย ถึงจะอ่านออก แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นคาถา หรือบทสวดอะไร
คงต้องกราบนมัสการเรียนถาม "ลูกศิษย์หลวงปู่" ที่เป็นผู้ครอบครองปั๊บสา
เหล่านี้ ว่าเป็นตำราอะไรบ้างครับ...

หลวงปู่ครูบาอิน ท่านเป็นพระอุปัชฌาย์ตั้งแต่ก่อนที่ท่านจะได้เป็นพระครูสัญญาบัตร
ท่านจึงมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย...

อย่างท่านพิณ อดีตพระเลขาหลวงปู่ ก็อยู่กับท่านมาตั้งแต่บวชใหม่ๆ

ท่านพระครูป๋า วัดทุ่งปุย อยู่กับหลวงปู่และครูบาปั๋น มาตั้งแต่ยังเป็นเด็กวัด
ตอนนี้ท่านเป็นเจ้าคณะตำบล... ต่อจากครูบาดวง วัดกู่ลายมือ 40 กว่าปีแล้วมั้ง

พระอาจารย์อินทร หลวงปู่ท่านบวชเณรให้ อุปสมบทให้ และส่งมาสร้างวัดใหม่หนองหอย นับถึงตอนนี้ก็ 30 ปีได้แล้ว

ท่านอาจารย์ชา เจ้าอาวาส วัดฟ้าหลั่ง บวชเณรปี 18 หลวงปู่บวชให้เช่นกัน อยู่เป็นเบื้องหลังงานต่างๆ ของวัดฟ้าหลั่งอยู่จนถึงได้เป็นเจ้าอาวาสวัดฟ้าหลั่งในปัจจุบัน (ท่านพิณเป็นกองหน้า)

ท่านวุฒิ วัดศิลามงคล แม้จะไปๆ มาๆ ระหว่างวัดฟ้าหลั่ง กับวัดพระบาทตากผ้า แต่ก็ไปมาหาสู่หลวงปู่อยู่เป็นประจำ จนหลวงปู่ท่านวางใจ มอบให้ไปเป็นเจ้าอาวาส วัดศิลามงคล ต่อจากครูบาบุญมี
(ปั๊บสาที่คุณมากับพระครับนำมาโพสให้ชมชุดนี้ สงสัยจะอยู่ในครอบครองของท่านวุฒิ และน่าจะมีของครูบาบุญมีอีกด้วย)

ท่านหวัง เก่งทางด้านงานศิลป์ แกะพระ เขียนยันต์ ไปอยู่เกือบจะทางขึ้นดอยอินทนนท์นู่นแล้ว

ศิษย์หลวงปู่ครูบาอิน มีอีกเยอะครับ กระจายไปอยู่ตามที่ต่างๆ หลายท่านก็เก็บตัวเงียบอย่างที่คุณมากับพระว่า หลายๆ ท่านปกครองดูแลวัดที่หลวงปู่ครูบาอิน ได้เคยมีเมตตาบารมีไปอุปถมภ์ค้ำชู บางท่านก็มรณะละลังขารไปแล้ว

ผู้ที่เหลืออยู่ก็ช่วยกันเผยแพร่ปฏิปทา คุณงามความดีของหลวงปู่ ใครรู้อะไรพอจะเล่าขานแบ่งปันกันได้ ก็ทำไปตามกำลัง... ผมก็เป็นหนึ่งในคนกลุ่มนี้... ด้วยจุดมุ่งหมายเดียวที่ได้ทดแทนคุณครูบาอาจารย์ที่เมื่อครั้งหนึ่ง ท่านได้เมตตาลูกศิษย์ "ปลายแถว" อย่างผม...

ขอขอบคุณคุณมากับพระ ที่นำเอา ปั๊บหลั่น สิ่งมงคลอันเป็นที่ระลึกถึง
หลวงปู่ครูบาอิน มาแบ่งปันให้ชมครับ

 

ครูบาอินตาท่านลับล่วงพ้นบ่วงทุกข์
ประสบสุขสิ้นภัยในสังขาร์
ประกอบด้วยคุณธรรมล้ำเมตตา
น้อมวันทาพระคุณอุ่นกมล
ครูบาอินตาท่านสละละสังขาร
สู่นิพพานอันประเสริฐเลิศมรรคผล
พร้อมสอนธรรมคำสุดท้ายให้ทุกคน
มิอาจพ้นความตายไปได้เลย<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>

 

ขอกราบแทบเท้าพระอริยะเจ้าแห่งวัดวังทอง ครูบาเจ้าอินตา หมดสิ้นแล้วแห่งกองทุกข์ หมดสิ้นแล้วภพ ชาติ สะอาด หมดจด ด้วยพระธรรมขันธ์แห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

 

หลวงปู่ครูบาอินตาวัดวังทอง-สิ้นแล้ว

*เช้าสลัวฟ้ามัวมืดสงัด
ฝนโบกพัดคละลมพรมรำไห้
แผ่นดินหมองหม่นทั่วทั้งแดนใน
ลำพูนไร้สินแล้วแก้วแสงเมือง...(สะหรี๋จักรคำ-เรียงถ้อยร้อยสถาย)


วันพฤหัสบดี ที่ 18 มิถุนายน 2552 แรม 11 ค่ำ เดือน 7 เมืองลำพูนทั้งเมืองมืดคลื้มเศร้า ฝนโปรยดุจเทพเทวาร่วมน้อมสัการะแด่ ต๋นบุญเจ้าผู้สละแล้วซึ่งสังขารครูบาเจ้าผู้สมถะ เมตตา และทรงซึ่งวิทยาคม ได้ละธาตุขันธ์กลับสู่ผืนดิน ทำให้ผองปุถุชนเช่นเราหันมาควรคิด ว่าสรรพสิ่งไม่อาจหนีพ้นไตรลักษณ์ มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และย่อมดับไป วนเวียนอยู่เช่นนี้ไม่มีหยุดหย่อนและเหน็ดเหนื่อย ความทุกข์-สุข ก็เกิดขึ้นมีมากเหลือจะนับได้ เสียงหัวเราะที่มีเอามารวมกันใช้เวลาชั่วชีวิตก็ไม่หมด น้ำตาที่ร่วงรินรวมกันมากเสียกว่าน้ำในมหาสมุทรทั้งสี่ จะหลุดพ้นจากวัฏจักรที่วนเวียนนี้ได้ด้วยเพราะธรรม แห่งพระสรรพพัญญูเจ้า เมื่อยังมีชีวิตอยู่จงเร่งมือในการธรรม
************************************************************
"เราขอเตือนท่านทั้งหลาย สังขารทั้งหลายมีความเสื่อม ความสิ้นไปเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลาย จงบำเพ็ญไตรสิกขา คือศีล สมาธิ ปัญญา ให้บริบูรณ์ด้วยความไม่ประมาทเถิด"
************************************************************

 

ขอขอบคุณคุณโหน่ง "แมวขาว"
ที่ให้เกียรติผมเป็นอย่างสูง ด้วยการเรียกผมว่า
"คัมภีร์วัตถุมงคลหลวงปู่ครูบาอินอินโท-เดินได้"

ด้วยความเคารพ ผมขอไม่รับนะครับ...
ใครได้ยินเขาจะหมั่นใส้เอา

ยังมีเรื่องราวอีกเยอะมาก เกี่ยวกับหลวงปู่ครูบาอิน และวัตถุมงคลของท่าน ที่ผมไม่รู้
ซึ่งถ้าถามมา ผมก็จะบอกไปอย่างชัดเจนเลยว่า "เรื่องนี้ผมไม่รู้ครับ"

จริงอยู่ ผมได้เข้าไปกราบหลวงปู่ครูบาอินครั้งแรก ตั้งแต่เมื่อปี 33-34
แต่ด้วยยังเด็ก และไม่ได้สนใจประวัติ ปฏิปทา ของครูบาอาจารย์อะไรมากมายนัก
จึงไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับตัวท่านและวัตถุมงคลของท่านเลย

จนกระทั่งประมาณปี 35-36 อยู่ ม.ปลาย เริ่มมีสอบนู่น สอบนี่
เราก็ต้องการหาที่พึงทางใจ ก็เลยไปกราบหลวงปู่ด้วยความรู้สึกที่แตกต่างไปจากเดิม
และเมื่อใจเราเปิด ข้อมูลที่เคยผ่านหู ผ่านตาไปเฉยๆ ก็ค่อยๆ ทะยอย มีความสำคัญ
ทำให้เราต้องเงี่ยหูฟัง จำบ้าง จดบ้าง ตามแต่โอกาสอำนวย
และก็เรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้

บุคคลที่รู้เรื่องราวเกี่ยวกับหลวงปู่ดีที่สุด ตลอดกาล... คือท่านพิณ
พระอาจารย์ไพบูลย์ อินทปัญโญ อดีตพระเลขาหลวงปู่ ตอนนี้ท่านอยู่วัดท่าตอน

ผู้ทีได้เรียนวิชาจากหลวงปู่มากที่สุด คือ พ่อหนานจันทร์ ไจยะสิทธิ์ ลูกพี่ลูกน้องของหลวงปู่
แต่ตอนนี้ท่านได้ถึงแก่กรรมไปแล้ว ถ้าเป็นพระสงฆ์ ก็ต้องเป็นครูบาติ๊บ วัดท่าวังพร้าว
ซึ่งท่านก็มรณะภาพไปแล้วเช่นกัน

ผู้ที่อยู่ปรณนิบัตใกล้ชิดหลวงปู่ จวบจนวาระสุดท้าย
ข้างเตียงในโรงพยาบาล ก็คือพระอาจารย์อินทร

ส่วนผม เป็นลูกศิษย์ประเภท "แม้ท่านไม่สอนอะไร ผมก็ยกท่านเป็นครู"

ความจริงข้อหนึ่งก็คือ....
ตลอดเวลาที่ได้กราบ ได้น้อมเคารพนบไหว้หลวงปู่เป็นครูบาอาจารย์ของตนเอง
เป็นเวลาสิบกว่าปี จะยี่สิบปีอีกไม่นานนี้

"ผมไม่เคยได้เรียนวิชา คาถาอาคมอะไรจากท่านเลย"
แม้แต่กรรมฐานก็ไม่ได้เรียน...
มีแต่บางเวลาที่ท่านสอน แบบบอกทุกคนที่นั่งรวมๆ กัน ให้สวดอิติปิโสกลมเกลียว
ไจยะเบงชร กับไจยะสังคหะ (เวลาใช้ดาบสหรี๋กัญไจย)... มีแค่นี้เองจริงๆ...

ความรู้ ความใกล้ชิด โอกาสที่จะได้รับเมตตาบารมีจากหลวงปู่
เมื่อเทียบกับพระสงฆ์องค์เจ้า หรือลูกศิษย์ที่ผมได้ยกชื่อขึ้นมาพูดถึงนั้น
ของผม "เทียบไม่ติดฝุ่น" เลยครับ

ดังนั้น ผมจึงไม่มีสิทธิ์เลยที่จะเรียกตัวเองว่าเป็น "ศิษย์ใกล้ชิด"
หรือ "พหูสูตร" เกี่ยวกับเรื่องราวของครูบาอิน

พระอาจารย์อินทร เรียกผมเล่นๆ ว่า "นักข่าว"
ชื่อนี้ผมชอบ... เพราะผมเหมือนเป็นอย่างนั้นจริงๆ
คือเป็นเพียงผู้สื่อข่าวสาร ให้เพื่อนๆ พี่ๆ ที่เคารพศรัทธาในองค์หลวงปู่ได้รู้
ได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง...

ผมพยายามหาแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ เช่นคุยกับผู้สร้างโดยตรง หาเอกสารประชาสัมพันธ์ โบรชัวร์ ภาพถ่าย จดหมายอนุญาต... ฯลฯ
ผมตัดเก็บเป็นแฟ้มๆ

เหรียญหลวงปู่ 37 รุ่น... "ผมไม่เคยอยู่ในเหตุการณ์การสร้างแม้แต่รุ่นเดียว"
(เห็นตอนเสกบ้าง บางรุ่น)
แต่... เหรียญทุกรุ่นย่อมมีผู้สร้าง จริงไหมครับ
และผมก็ได้ "คุย" สัมภาษณ์ สอบถาม กับผู้สร้างเหรียญ ประมาณเกือบ 25 รุ่น มาแล้ว
ผมก็บันทึกไว้... เมื่อมีโอกาสก็นำมาเผยแพร่ต่อ

ยังเหลืออีกสิบกว่ารุ่น ต้องตามหาข้อมูลกันต่อไป

นี่แค่เหรียญ... พระผง ล็อกเกต ตะกรุด ผ้ายันต์..ฯลฯ อีกเยอะมากครับ
ก็ต้องศึกษากันต่อไป

ที่พูดมาทั้งหมด เพราะผมเชื่อว่า
ไม่มีใคร "รู้" มากกว่าใคร...
เพียงแต่เราแต่ละคน รู้ในสิ่งที่แตกต่างกัน
แล้วมันจะดีไหม ถ้าเอาสิ่งที่ตนรู้ มาเทรวมกัน ให้เป็นคลังข้อมูล

กระทู้นี้ เผยแพร่เกียรติคุณ ปฏิปทา และวัตถุมงคลของหลวงปู่ครูบาอิน
พี่ๆ น้องๆ ได้กรุณา สอบถามมา ให้ผมได้มีโอกาส "เล่า" ใน "สิ่งที่ผมพอจะรู้"
และถ้าเรื่องไหนไม่รู้ "จะไปถามคนที่น่าจะรู้ให้"
และถ้าจนปัญญาไม่มีใครให้ข้อมูลจริงๆ ก็จะกลายเป็นประเด็นที่ "ไม่รู้"
และ "ต้องศึกษากันต่อไป" .... นี่คือแนวปฏิบัติ

การออกมาพูดมาเล่าถึงครูบาอาจารย์ที่ตนเองเคารพนับถือ
ในความคิดของผม
ไม่ใช่เป็นการ "อยากดัง" หรือ "อวดอ้างว่าตนเองเป็นศิษย์ใกล้ชิด"

แต่ผมเชื่อว่า การที่ผู้รู้ อย่างเช่นลูกศิษย์ลูกหาที่เคยบวชอยู่กับท่านมานาน เป็นสิบปี ยี่สิบปี
ได้ออกมาเล่าเรื่องราว ไม่ว่าจะเกี่ยวกับองค์ของหลวงปู่ หรือวัตถุมงคลของท่าน
เป็นการ "เพิ่มพูนองค์ความรู้" และ "ขจัดความเข้าใจที่ผิดๆ ในบางเรื่องออกไป"
น่าจะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม... มากกว่า

ฝากคุณ "มากับพระครับ" กราบเรียนนมัสการขอข้อมูล เรื่องราวดีๆ
จากท่านเจ้าอาวาส มาเล่าสู่กันฟัง เป็นวิทยาทานบ้างนะครับ
ท่านไม่ต้องกลัวดังหรอกครับ...
เพราะถ้าดังกันได้ง่ายๆ... เพียงเพราะแค่เล่าถึงครูบาอาจารย์
หนังสือพระเครื่องคงไม่ได้ขายหน้าโฆษณากันแล้วครับ
(หยอกเย้ากันเล่นด้วยความเคารพนะครับ)

ธีระยุทธ

 

คุณธีระยุทธอย่าลืมรายการวัตถุมงคลวัดใหม่หนองหอยนะครับ

ขอบคุณครับ

 

ด้วยความเคารพ....นะพี่ชาย

การให้เกียรติพี่ไก่ด้วยเพราะผมรู้ดีว่าที่สุดแล้วเรามีปณิธานที่ตรงกัน คือ "ศรัทธาในพระคุณของหลวงปู่ครูบาเจ้าอินอินโทอย่างสุดชีวิต" ไม่ได้พูดเพื่ออวดโอ้ ไม่ได้พูดเพื่อดูดี แต่พูดด้วยความเคารพ แม้จะไม่ได้พบหลวงปู่ขณะทรงสังขาร แต่ก็มีบางอย่างที่ต้องพานพบ....กรรมนั่นแหละหน๋อ....เป็นเหตุปัจจัยให้...เกิด....เป็น......พบ....."เมื่อมีเหตฉะนี้...ผลจึงเกิดฉะนี้แหละหนอ"
พี่ไก่ครับ ทองนพคุณแท้ไม่กลัวหมอง .... ผองผู้มีธรรมจะกลัวซึ่งคำลมก็ไม่"
"ป๋าระมีครูบาหม่อนเจ้าอินอินโทปกเกล้าเหนือหัว...ลูกขอไหว้สา...."
แต่เวลาผมมีอะไรที่สงสัยของปรึกษาเพ่เป็นคนแรกละกัน "นักข่าว"

 

เรื่องท่านเคยละสังขารแล้วฟื้นผมเคยได้ยินมาครับ และหลวงปู่ก็บอกผมกับคณะอีกทีครับ ท่านบอกว่าท่านได้คาถาจากพระยมราชมาครับ เอาไว้สวดทุกค่ำเช้าจะทำให้อายุยืน ด้วยความอาลัยครับ ทุกสิ่งอย่างไม่เที่ยงแท้

 

เรื่องนี้ไม่กล่าวเกินจริงแต่อย่างไรครับ ทุกคนที่ผมรู้จักหลวงปู่ครูบาอินต่างยกย่องว่าพี่เป็นผู้รู้เรื่องหลวงปู่ท่านดีที่สุดครับ

 

โถ... อุตส่าห์ทำตัวอย่างให้ดูตั้งนาน(จริยวัตร) ยังว่าไม่ได้สอน... สงสัยจะเอาใบประกาศสักใบละมั้ง .... เคยโดนไปบ้างหรือเปล่า ถ้าเคย ก็ให้ถือว่าเป็นตราประทับละกัน..อิอิ

 

ยังจำคาถาบทนั้นได้หรือเปล่า
แบ่งกันบ้าง ยังไม่อยากให้เมียอาลัยpig_cryy2

 

สมแล้วที่เป็นคุณหนุ่มทิพย์

คม... เฉียบ...

จริงแท้อย่างคุณหนุ่มทิพย์ว่า ท่านไม่ได้สอนด้วยคำพูด
แต่ท่านสอนด้วยการกระทำ

พระครูป๋าวัดทุ่งปุยเล่าให้ผมฟังว่า
วันไหนที่หลวงปู่ "เดินลัดทุ่ง" มาที่วัดทุ่งปุย
วันนั้นพระ เณร ทั้งวัดต้องแต่งตัวเรียบร้อย
สบง จีวร รัดอก... แน่นเปรี๊ยะ...
ร้อนแทบตายก็ต้องทน

เพราะถ้าท่านเห็นใครเดินมีแต่ สบง อังสะละก็
ต้องมานั่งสอบอารมณ์กับท่านเป็นวันๆ

ผมไม่เคยเห็นหลวงปู่ไม่ห่มจีวร เวลาออกจากกุฏิ (ห้อง) ของท่าน

ท่าน "ทำ" เป็นตัวอย่างจริงๆ

เรื่องเคยโดนนี่สงสัยจะเคยกันทุกคน...
พระครูป๋าน่าโดนหนักกว่าใคร
ไม้เท้าหลวงปู่โดนลมพัดปลิวมาลงกระหม่อม ด้วยความ "ใจ๋หิ้น"
อะไรสักอย่าง... ระบมไปพอให้จดจำ

ส่วนผมโดนดุที่โรงบาลสวนดอก
อย่างนี้ถือเป็นใบประกาศไหม

ขอบคุณคุณหนุ่มทิพย์ที่รัก ที่เตือนสติ

เรื่องคาถาหลวงปู่อินตา เคยได้ยินเขาเล่ามาเหมือนกัน

แต่... แน่ใจนะครับว่ากลัว "เมีย" อาลัย
ไม่ใช่เพื่อน้องๆ คนอื่นแน่นะ

อิอิ....

 

ขออนุญาติ ตอบกระทู้ทั้งหมดรวมๆ กันเลยนะครับ...

ก่อนอื่น เรื่อง Preview วัตถุมงคลวัดใหม่หนองหอย และวัดฟ้าหลั่ง
ผมเองก็ตั้งใจจะทำเช่นนั้นเหมือนกันครับ
แต่ก็ต้องค่อยเป็นค่อยไป... เพราะวัตถุมงคลมีหลายรายการ
จะทะยอยถ่ายรูป และนำรายละเอียดมาลงประกอบครับ
แต่... บางรายการ ผมไม่มีข้อมูล ผู้สร้าง หรือจำนวนสร้าง
ก็จะแจ้งไว้เป็นรายๆ ไปครับ

เรื่องภาพและเสียงหลวงปู่...
ผมมีภาพวีดีโอ ที่ถ่ายไว้ตอนงานทำบุญสืบชะตาหลวง ตอนหลวงปู่มีอายุครบ ๑๐๐ ปี (วีซีดี)
ยาวตลอดงาน (มีพักเป็นบางช่วง)
ไม่รู้จะเอามาโพสให้ชมยังไงดี เพราะไฟล์ใหญ่มาก

ส่วนอีกเทปหนึ่ง เป็นเทปหลวงปู่เทศน์ เรื่อง "กำไรชีวิต"
ออกอากาศรายการทางช่อง 5 ผมจำชื่อรายการไม่ได้
แต่จำได้ว่า คุณกันตชาติ เกษมสันต์ ณ อยุธยา เป็นพิธีกร

โหน่งมาบ้านผม ก่อนมาโทรบอกด้วย จะได้ไร้ท์แผ่นไว้ให้...

พี่ๆ น้องๆ ท่านอื่น เดี๋ยวผมหาวิธีอัพขึ้นเวปไหนสักที่
แล้วดาวน์โหลดกันไปไร้ท์แผ่นเอง ดีไหมครับ

.....

มาถึงเรื่อง "พระกริ่งอินโท" (๑๐๑ ปี)

พระกริ่งอินโท เป็นพระกริ่งรุ่นสุดท้ายของหลวงปู่ครับ
ท่านอนุญาติให้พระครูป๋าวัดทุ่งปุย และพระอาจารย์อินทร จัดสร้าง
ท่านจารแผ่นยันต์ และปลุกเสกมวลสารต่างๆให้
แต่ระหว่างที่ดำเนินการหล่อ ที่กำแพงแสน นครปฐม
หลวงปู่ก็ละสังขารไปเสียก่อน

ด้วยเหตุนี้ พอจัดสร้างเสร็จ พระอาจารย์อินทร
จึงนำไปขอเมตตาหลวงปู่ครูบาตั๋น และหลวงปู่ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี
อธิษฐานจิตปลุกเสกให้ รวมทั้งนำไปตั้งไว้หน้าสรีระสังขารของหลวงปู่
จุดธูปบอกกล่าว ขอดวงวิญญาณท่านมาประสิทธิ์พระกริ่งชุดนี้ให้

นอกจากนี้ พระกริ่งอินโท (และวัตถุมงคลอื่นๆ) ที่ตกค้างอยู่ที่วัดใหม่หนองหอย
พระอาจารย์อินทร นำเข้าพิธีปลุกเสกพระผงอังคารธาตุ เมื่อปีก่อน
ที่มีครูบาอาจารย์สายเหนือปลุกเสกให้หลายรูป
เป็นพิธีที่คุณบุญเลิศ เคยเรียกว่า พิธี "ดวงดี-บุญมา" นั่นแหะครับ
จำนวนสร้าง ๕,๐๐๐ องค์ แจก/ให้บูชา ไปในช่วงพิธีพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่เสียเป็นส่วนใหญ่
เหลือเพียงเล็กน้อย ที่วัดใหม่หนองหอยยังพอมีเหลือให้บูชา องค์ละ ๓๐๐ บาทครับ

ขอยืมภาพจากร้านยอดขุนพล มาโพสให้ชมกัน
(พี่เขาถ่ายได้สวยจริงๆ)



ขอสรุปไว้ให้เป็นแนวทางเรื่องพระกริ่งของหลวงปู่นะครับ
หลวงปู่ครูบาอิน มีพระกริ่งทั้งหมด 5 รุ่น ดังนี้
มีเพียงพระกริ่งวัฒนมงคล 100 ปี (รุ่น 4) และพระกริ่งอินโท (รุ่น 5)
เท่านั้รน ที่วัดเป็นผู้จัดสร้างเอง

1. พระกริ่งฟ้าหลั่งรุ่นแรก คณะศิษย์ ทอ. กองบิน 41 เชียงใหม่ สร้าง ปี 2539 มีหลายเนื้อ เพื่อหาทุนการศึกษาแก่เด็กนักเรียน
2. พระกริ่งไจยะเบงชร ปี 2545 ออกวัดทุ่งปุย มีหลายเนื้อ (รุ่นนี้มีพระชัยวัฒน์ด้วย)
3. พระกริ่งพญาวัน ปี 2545 ออกวัดทุ่งปุย มีหลายเนื้อ
4. พระกริ่งวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ปลายปี 2545 หลวงปู่ดำริให้สร้าง มีเพียง 1,000 องค์ เนื้อทองผสม (ทองเหลือง) เนื้อเดียว ตอกโค้ต สมทบทุนสร้างกุฏิหลวงปู่
5. พระกริ่งอินโท พระอาจารย์อินทร และพระครูป๋า สร้าง จำนวน 5,000 องค์ เพื่อซื้อที่ดินบริเวณที่สร้างกุฏิ และสมทบทุนพิธีพระราชทานเพลิงศพ


เรื่องของผ้ายันต์...

ยังมีผ้ายันต์ของหลวงปู่ที่พอหาได้ที่วัด ประมาณ 4-5 รายการ
เดี๋ยวผมจะสรุป พร้อมทั้งรูปถ่ายมาให้ดูนะครับ
ส่วนตัวแล้วผมเป็นคนชอบผ้ายันต์... ผมว่าดูขลังดี

รายการวัถุมงคลวัดใหม่หนองหอย
ผมไปสรุปกับพระอาจารย์มาแล้ว เมื่อวันพุธ
เดี๋ยวจะพิมพ์แล้วเอามาดพสให้ชม
ท่านที่สนใจบูชาติดต่อที่พระอาจารย์ได้เลยครับ

ส่วนของวัดฟ้าหลั่ง... ไม่ส่งไปรษณีย์

ส่วนเรื่องดาบ...
ก็อย่างที่คุณหนุ่มทิพย์บอก...
"เรื่องวัตถุมงคลเป็นเรื่องของกำลังใจครับ คิดมากไม่ได้ ใจมั่นอย่างเดียว และก็แนะนำให้เก็บของที่ดำริจากวัดด้วย เพื่อเพิ่มบุญกับกำลังใจ"
สรุปได้ดี และโดนใจผมที่สุด จนไม่ต้องพูดอะไรเพิ่มอีกแล้ว

เรื่องรูปเดี๋ยวผมจะเอามาโพสให้ชม ทั้ง "ดาบ-มีด-มีดน้อย-และพระพิฆเณศ" ครับ
ที่วัดไม่มีแล้ว... ใครจะเช่าหายังไง ก็โปรดสืบเสาะแสวงหากันตาแต่จะเห็นสมควรครับ

คุณกริด99 กรุณาถามเรื่องครูบาสิงห์ ผมมีประวัติที่สะแกนจากหนังสือไว้ เดี๋ยวจะเอามาโพสให้ชมครับ
ท่านเป็นครูบาอาจารย์สายครูบาเจ้าศรีวิชัย ที่มีปฏิปทาน่าเลื่อมใสอีกรูปหนึ่งของเชียงใหม่
เมื่อก่อน ครูบาอิน กับครูบาสิงห์ มักจะได้รับนิมนต์ไปงานต่างๆ
น่าจะเจอเจอกันเป็นประจำ...

ร้านขายเครื่องไฟฟ้าข้างบ้านผม....
ยังมีรูปงานทำบุญร้านเมื่อหลายปีก่อน อัดกรอบรูปวิทยาศาตร์ติดอยู่ที่ผนัง
ผมเห็นมีทั้งครูบาอิน ครูบาดวงดี ครูบาสิงห์ ครูบาคำปัน และอาจารย์ทอง
ก็คงเป็นยุคที่ครูบาอาจารย์ท่านยังแข็งแรง รับนิมนต์กันได้

อย่างที่ภราดรว่า ครูบาสิงห์ท่านละสังขารไปแล้ว
แต่ที่วัดยังพอมีวัตถุมงคลตกค้าง
ผมไม่ได้ไปที่วัดฟ้าฮ่ามนานหลายปีแล้ว ไม่แน่ใจว่า หมดหรือยัง
ถ้ามีโอกาสจะไปดูให้นะครับ
ไม่รู้เมื่อไหร่ สบโอกาสไปเมื่อไหร่จะกริ๊ง กร๊างไปบอกครับ


ธีระยุทธ

 

รายการวัตถุมงคล
พระครูวรวุฒิคุณ (หลวงปู่ครูบาอิน อินฺโท)
ณ วัดใหม่หนองหอย สมทบทุนสร้างพิพิธภัณฑ์หลวงปู่ครูบาอิน อินฺโท

เหรียญรุ่นลายเซนต์ “ขอให้รวย ขอให้อยู่ดีมีสุข เนื้อเงิน - เหรียญยืน/เหรียญรูปไข่ ๑๐๐๐.-
เหรียญรุ่นลายเซนต์ “ขอให้รวย ขอให้อยู่ดีมีสุข เนื้อทองแดงรมดำ - เหรียญยืน/เหรียญรูปไข่ ๙๙.-
เหรียญรุ่นลายเซนต์ “ขอให้รวย ขอให้อยู่ดีมีสุข เนื้อทองแดงรมดำ - เหรียญยืน/เหรียญรูปไข่ พร้อมประคำ ๑๙๙.-
ล็อกเกตใหญ่พร้อมห่วง รุ่นลายเซนต์ (สีเขียว/ สีฟ้า/ สีส้ม) ๓๕๐.-
รูปถ่าย เคลือบกรอบวิทยาศาสตร์ รุ่นลายเซนต์ รูปนั่ง/รูปยืน ๑๙๙.-
ผ้ายันต์ อภิมหายันต์ ๑๐๘ ขนาดโปสเตอร์ รุ่นลายเซนต์ สีเหลือง/สีแดง ๑๙๙.-
ผ้ายันต์ธงแขวนรถ รุ่นลายเซนต์ ๙๙.-

รูปหล่อยืน รุ่นที่ระลึก ๑๐๐ ปี ๑,๒๐๐.-

พระกริ่งอินโท ครูบาอิน ๑๐๑ ปี ๓๐๐.-

พระสมเด็จ ๙๙ หลังยันต์นะ ตะกรุดเงิน ๔๙๙.-
พระสมเด็จปรกโพธิ์ หลังรูปเหมือน ติดจีวร ๙๙.-/ โรยพลอยกินบ่อเสี้ยง ๑๕๙.-
พระสมเด็จผาสุข หลังปั๊มยันต์แดง ๑๓๙.-
พระสมเด็จไจยะเบงชร พิมพ์กรอบกระจก หลังยันต์ฟ้าฟีก ๑๙๙.-
พระคงเนื้อดินเผา รุ่นแรก ๙๙.-

เหรียญรุ่น ๑๐๑ ปี ๙๙.-
เหรียญกลมเล็ก รุ่นฉลองอายุ ๙๙.-
เหรียญยืนสี่เหลี่ยม อายุ ๙๒ ปี รุ่นแรกวัดใหม่หนองหอย ๙๙.-

ผ้ายันต์จั๊กกิ้มล้อมโลก ปี ๒๕๔๕ ฉลองอายุ ๑๐๐ ปี ๕๙.-
ผ้ายันต์กุณพระเจ้า ปี ๒๕๔๕ ฉลองอายุ ๑๐๐ ปี ๙๙.-

พระผงอังคารธาตุ (มี ๖ สี ดำ-ขาว-เขียว-เหลือง-สีไม้-ก้นครก)
พิมพ์เล็ก ๔๙.-/ พิมพ์ใหญ่ ๑๙๙.-/ ก้นครก ๒๙๙.-/ ชุดกรรมการ ๖ สี ๑,๔๙๙.-

รูปหล่อครูบาอิน หน้าตัก ๙ นิ้ว ที่ระลึกพระราชทานเพลิงศพ เนื้อปูน ๑,๕๐๐ (ไม่จัดส่งทางไปรษณีย์เพราะหนักมากและเกรงว่าจะแตกหักได้)

สนใจร่วมทำบุญ กรุณาติดต่อ...
พระครูสังวรยติกิจ (พระอาจารย์อินทร จิตตสังวโร) เจ้าอาวาสวัดใหม่หนองหอย
หมู่ที่ ๖ ต.สันติสุข อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๖๐ โทร. ๐๘-๑๙๙๒-๐๔๐๗ โทรสาร. ๐-๕๓๓๖-๗๙๗๑
หรือโอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ ธ.ไทยพาณิชย์ สาขาทุ่งเสี้ยว (สันป่าตอง)
ชื่อบัญชี กองบุญครูบาอิน อินโท เลขที่บัญชี ๖๖๑-๒-๒-๓๐๐๔๗

สุโข ปุญฺญสฺสํ อุจฺจโย
การสะสมบุญนำมาซึ่งความสุข

 

เร็วๆ นี้จะมีพิธีวางศิลาฤกษ์ พิพิธภัณฑ์หลวงปู่ครูบาอิน
โดยหลวงปู่ครูบาตั๋น ปัญโญ เป็นประธานอุปถัมภ์
ถ้าทราบรายละเอียด และได้กำหนดวันชัดเจนแล้ว
จะมาแจ้งให้ทราบอีกครั้งครับ

 

คุณธีระยุทธไรท์ให้ผมแผ่นนึงได้ป่าว อ้อผมขอชมภาพพระกริ่งวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ด้วยได้ไหมครับ แล้วที่วัดยังมีให้บูชาไหมครับ