ทุกคนเกิดมามีกรรมจริงหรือคับ แล้วเราไม่ควรจะอยู่เฉยๆใช่ไหม

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย torcomsci, 19 กรกฎาคม 2009.

  1. torcomsci

    torcomsci สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +0
    [FONT=&quot]คือหลายครั้งในชีวิตที่ผมได้เห็นสิ่งต่างๆที่หน้าเศร้า ทุกอย่างที่ผมเจออะไรที่ผมพอจะช่วยผมก็จะช่วยคับ ไม่ว่าจะคน[/FONT],[FONT=&quot]สัตว์ผมช่วยหมด เพราะผมทนไม่ได้เลยกับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า จะเรียกว่ารับไม่ได้เลยก็ได้คับ ถ้าไม่ได้ช่วยผมจะรู้สึกเป็นทุกข์มากโดยเฉพาะพวกสัตว์ที่หน้าสงสาร เช่นลูกสัตว์กำพร้า สัตว์เล่ล่อน หลายครั้งที่ผมขอรับคนอื่นมาเลี้ยงเพราะรู้สึกสงสารพวกมันมาก พอเลี้ยงไปนานวัน หลายครั้งที่ผมต้องเห็นพวกมันล้มตายอย่างทรมาน บางตัวแก่ตาย บางตัวเป็นโรค ทั้งๆที่ผมรักมันแต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ พาไปหาหมอก็แล้ว แต่ผมก็ได้แต่อยู่เป็นเพื่อนมันไปจนนาทีสุดท้าย จะว่าไปก็คือถ้าผมไปเจอพวกสัตว์เล่ล่อน[/FONT],[FONT=&quot]สัตว์พิการ ผมคงทนให้พวกมันอดตายไปโดยที่ไม่ช่วยเหลือไม่ได้ แต่พอเอามาเลี้ยงเวลาพวกมันทรมานขึ้นมาผมก็จะรู้สึกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก
    [/FONT]<o></o>
    [FONT=&quot]คราวนี้มีหลายคนที่เตือนผมว่า[/FONT] [FONT=&quot]สิ่งที่ผมทำมันคือการที่ผมไม่ยอมรับความจริง เค้าบอกว่าผมทำตัวแบกทุกข์ไว้ทั้งโลก เค้าบอกว่าเค้าเข้าใจว่าผมรู้สึกยังไง ผมเห็นอะไรที่น่าสงสารผมก็อยากช่วยไปหมด แต่เค้าบอกผมว่าถึงผมจะช่วยยังไง ผมก็ไม่สามารถช่วยทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ที่กำลังเป็นทุกข์ได้ อย่างมากก็ได้เท่าที่เห็นอยู่ตรงหน้า แต่ ณ เวลานี้ที่อื่นๆ อาจมีผู้หญิงถูกฆ่า เด็กถูกทารุณ ลูกแมวโดนหมากัด หรืออะไรต่างๆมากมายที่กำลังโดนทรมาน ในโลกมันมีความทุกข์เกิดขึ้นตลอดเวลา แต่อยู่ที่ว่าเราจะไปเห็นเข้ารึเปล่าเท่านั้นเอง การที่ผมช่วยพวกเค้าอาจทำให้ผมรู้สึกสบายใจ แต่ถึงผมอยากจะช่วยแค่ไหนผมก็ช่วยได้ไม่หมด ยิ่งรู้มากก็ยิ่งทุกข์มาก มีหลายเรื่องที่ไม่รู้ยังดีกว่ารู้ เพราะอย่างน้อยจะได้ไม่ทุกข์ใจ เค้าบอกว่าทั้งหมดที่ผมเห็นมันเป็นกรรมของแต่คน ทุกคนเกิดมาต้องชดใช้กรรม กรรมของใครก็ของคนนั้น ไม่มีใครสามารถช่วยแบ่งหรือบ่อนเบาให้ใครได้ ทั้งหมดที่คนอื่นบอกผมมามันจริงไหมคับ ภาพความน่าสงสารเวทนา ความไม่ยุติธรรมในชีวิตมันเป็นกรรมหรือคับ ถ้าผมไปเห็นลูกแมวเพิ่งเกิดมา3ตัว แล้วแม่ของมันโดนหมาตัวนึงกัดตาย ส่วนลูกที่เหลืออดนมจนตาย อย่างนี้หมาไม่ผิดใชไหมคับ แต่กรรมเป็นตัวกำหนดมาแล้วว่าหมาตัวนั้นต้องมากัดแมว และแมวก็ถือว่าใช้กรรมไป ส่วนหมาจะไปเจอกรรมอะไรต่อก็สุดแต่ที่มันทำไว้ใช่ไหมคับ [/FONT]
    <o></o>
    [FONT=&quot]ถ้าเป็นแบบนั้นผมควรจะอยู่เฉยๆใช่ไหม ทุกอย่างถูกกำหนดมาแล้ว ใครฆ่าใครอาจผิดในกฏหมาย แต่ในทางกรรมมันสิ่งที่ถูกลิขิตมาแล้วไช่ไหมคับไม่มีใครผิด ความทุกข์ที่ผมเห็นที่ผมเวทนา คือสิ่งที่ทุกคนต้องเจอและผ่านเข้าไปถูกมั๋ยคับ และผมควรปล่อยวางไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวอีก..ไม่ควรไปทุกข์กับมันอีก ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติแบบนี้ใช่ไหมคับ พูดตรงๆว่าตอนนี้ผมรู้สึกสับสนไปหมดแล้ว บางคนบอกว่าการที่ผมช่วยสัตว์พวกนี้เป็นผมได้ทำบุญ เป็นการช่วยเหลือผู้อื่น แต่บางคนกลับบอกว่าผมกำลังเป็นทุกข์กับความไม่เที่ยวแท้ในโลก ผมแยกไม่ออกเลยคับว่าอะไรคืออะไร ใครตอบผมได้บ้าง สองอย่างนี้มันต่างกันยังไง แล้วตกลงทุกอย่างที่ผมเห็นมันคือกรรมหรือคับ ผมเคยอยู่เฉยๆไม่ไปยุ่งกับมันอีกใช่ไหม<o>คับ</o>[/FONT]
     
  2. VERAJAK

    VERAJAK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    998
    ค่าพลัง:
    +1,579
    คุณสับสนอะไรหรือเปล่าครับ ก่อนอื่นคุณต้องแยกจิตคุณก่อนต้องรู้ ทุกข์ สาเหตุแห่งทุกข์ ทางดับทุกข์ และทางพ้นทุกข์ คุณช่วยคนหรือสัตว์นั้นคุณทำกรรมดีแล้วครับเป็นเมตตาจิตช่วยเหลือทุกสรรพชีวิตเท่ากันหมดไม่เกี่ยงว่าคนหรือสัตว์แต่คุณต้องไม่ผูกจิตคุณเข้าไปด้วยต้องรู้จักการวางอุเบกขานะครับเราช่วยเท่าที่เราช่วยได้นะครับถ้าสัตว์ที่คุณช่วยเกิดป่วยตายคุณปวดใจร้องไห้แล้วมันฟื้นขึ้นมาหรือเปล่าหรือคุณต้องการให้มันเป็นอัมตะไม่ตายอยู่กับคุณชั่วนิรันต์ทุกชีวิตเกิดมามีความตายอยู่เบื่องหน้าทุกชีวิตเหมือนกันหมดไม่ยกเว้นแต่กรรมต่างหากละที่จำแนกสัตว์ทำกรรมดีก็ได้ดีทำกรรมชั่วก็ได้ชั่วที่เขาเรียกว่ากรรมลิขิตแต่คุณก็ลิขิตกรรมได้ในปัจจุบันนะครับหมั่นทำแต่กรรมดีอนาคตรับรองว่าดีแน่ๆแต่ไม่รู้ว่าเมื่อไรเท่านั้นเป็นกงล้อกรรมนะครับมันจะหมุนไปเปรียบดังล้อเกวียนที่หมุนตามโคนะครับ ส่วนที่ว่าทุกอย่างถูกลิขิตมาแล้วใช่หรือไม่นั้นอาจจะใช่หรือไม่ใช่ก็ได้เช่นคุณฆ่าไก่แต่คุณอาจจะไม่ถูกไก่ฆ่าก็ได้แต่คุณต้องชดใช้กรรมแน่ๆแต่ถ้าคุณหมั่นทำความดีทำบุญแล้วอุทิศบุญกุศลให้ไก่ที่คุณฆ่าเมื่อเค้าไม่จองเวรจองกรรมกับคุณคืออโหสิกรรมให้คุณแล้วคุณก็อาจจะชดใช้กรรมเบาลงแค่นั้นเองทุกสิ่งทุกอย่างไม่แน่นอนเป็นอนิจังไม่เที่ยงมีความตายเท่านั้นที่เที่ยงแท้แน่นอน เช่นเดียวกับแมวที่คุณว่ามันถูกหมากัดตายแต่ถ้าในขณะเกิดเหตุมีคนเห็นแล้วช่วยไว้ได้มันอาจจะไม่ตายหรือถ้าไม่มีคนเห็นมันอาจจะตายแต่ลูกมันอาจไม่ตายหรืออาจตายก็ได้ถ้ามีคนเจอลูกมันก็อาจจะรอดก็ได้ ไม่เที่ยงแท้แน่นอนแต่ที่คุณเห็นหรือรับรู้นั้นมันเกิดเหตุไปแล้วซึ่งก็ไม่มีความหมายอะไรเป็นแค่รับรู้เฉยๆเท่านั้นหรือทำได้ก็แค่ทำบุญุอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้มันเท่านั้นเองนะครับ การมีมุทิตาจิตเป็นสิ่งดีในตัวคุณแต่ถ้าคุณใช้ไม่ถูกทางมันก็จะกลับมาสร้างความทุกข์ให้ตัวคุณได้นะครับเหมือนดาบสองคมถ้าใช้เป็นก็เป็นการสร้างบุญบารมีถ้าใช้ไม่เป็นก็จะเป็นการสร้างทุกขเวทนาจิตไม่สงบแทนที่จะได้บุญกลับได้บาป สาธุ
     
  3. jiwcrop

    jiwcrop เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    286
    ค่าพลัง:
    +792
    นี่แหล่ะครับ ว่าทำไมในพรหมวิหาร 4 ถึงได้มี อุเบกขา

    คือการวางใจเป็นกลาง มีความพอดีในใจ รู้ในกฎแห่งกรรม เหตุการณ์ที่เราเห็นบางอย่างบางประการ เราเห็นเขา ลำบากเราสงสาร 1.นี่คือเมตตาจิต เราจึงช่วยเหลือเขา 2.ตรงนี้คือกรุณา เมื่อเขาได้ดี 3. เราก็ยินดีไปกับเขา คือมุฑิตาจิต แต่บางอย่างเราไม่สามารถไปช่วยเขาได้เขาเดือดร้อน เขากำลังจะตาย สุดวิสัยที่เราจะช่วยได้
    เราจึงต้องวางใจเป็นกลาง อันนี้คือ4.อุเบกขา เพราะ"สัตว์โลก ย่อมเป็นไปตามกรรม" ซึ่งจขกท ไม่ควรที่จะทุกข์ใจเพราะช่วยเหลือเขาไม่ได้ ผมเห็นว่า จขกท ช่วยเหลือเขาได้เท่าที่จะช่วยได้ เรื่องการเกิด แก่ เจ็บ ตาย มันห้ามกันไม่ได้ ซึ่งตัวเราเองนั้น เมื่อ ถึงคราวเวลา ก็ต้องแก่ เจ็บ และตาย สังขารมันไม่เที่ยงนะครับ และไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตนของเรา (ร่างกาย ตายแล้วก็ต้องละต้องทิ้งไป เงินทองก็ต้อง ผ่ิองถ่ายเปลี่ยนมือเปลี่ยนเจ้าของกันไป)

    ผมเองก็ยินดีที่เจ้าของกระทู้ให้ความช่วยเหลือทั้งมนุษย์สัตว์น้อยเหล่านั้นครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กรกฎาคม 2009
  4. chocolatus

    chocolatus Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2008
    โพสต์:
    220
    ค่าพลัง:
    +58
    ทำดี
    ละเว้นชั่ว
    ทำจิตใจให้ผ่องใส (ข้อนี้สำคัญมากค่ะ)



    อนุโมทนาสาธุ ในความมีเมตตาของเจ้าของกระทู้ด้วยนะค่ะ แต่ทุกสิ่งล้วนเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปค่ะ แม้แต่ตัวเราเองก้อยังบังคับไม่ได้
     
  5. torcomsci

    torcomsci สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +0
    จากที่อ่านความเห็นของทุกท่านมา ผมก็เริ่มเข้าใจอะไรหลายๆอย่างมากขึ้นแล้วคับ ขอบคุณทุกคำตอบเลย คือเราควรหมั่นทำความดี ไม่ทำความชั่ว ช่วยเหลือผู้อื่นในสิ่งที่เราสามารถทำได้ แต่ในขณะเดียวกันเราก็ต้องรู้จักทำจิตป็นกลาง เข้าใจความจริงในโลก ไม่เป็นทุกข์กับภาพที่อยู่ตรงหน้า สิ่งที่เห็นการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ล้วนแต่เป็นสิ่งทีทุกคนต้องผ่านเข้าไป สิ่งที่เราทำได้คือการทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้พวกเขา เพื่อที่ผลบุญเหล่าจะส่งไปถึงพวกเขา

    ขอบคุณคับ จะว่าไปจริงๆแล้วผมก็คือวัยรุ่นธรรมดาคนนึงที่วันๆแทบจะได้ได้เข้าวัดกับเค้าเลย แต่การที่ผมเริ่มเดินเข้าหาหลักธรรม ถึงผมจะยังไม่ได้ศึกษาอย่างท่องแท้ แต่ตอนนี้ก็เริ่มมีหลักแนวทางในการดำรงชีวิตแล้วคับ ขอบคุณคับ
     
  6. VERAJAK

    VERAJAK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    998
    ค่าพลัง:
    +1,579
    ก็ขออนุโมทนา สาธุนะครับขอให้ใช้ปัญญาในการศึกษาและเข้าใจธรรมมะนะครับ พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า สิ่งที่เรารู้มากมายเปรียบเสมือนใบไม้ทั่วทั้งป่าแต่ที่ต้องทำมีเพียงหยิบมือเดียวถ้าเข้าใจทำได้ก็สำเร็จถ้าไม่เข้าใจหรือทำไม่ได้ก็ยังอยู่ในวัฏสังสาร
     
  7. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,607
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,017
    การมีเมตตาจิตเป็นเรื่องที่ดีครับ มีมากๆไว้นะดีเเล้วครับ เเต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ควรให้เป็นไปด้วยความพอดี บางอย่างที่เกินเราจะช่วยได้ บางทีก็ต้องปล่อยวางอุเบกขาไว้ครับ ไม่ยังงั้น ถ้าเกินพอดีไป เราจะกลายเป็นทุกข์ได้ เอาเป็นว่า ช่วยเท่าที่เราสามารถทําได้ ไม่้เกินกําลังไปเเล้วกันครับ
     
  8. กระติ๊บ

    กระติ๊บ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    669
    ค่าพลัง:
    +939
    ขนาดตัวของเราเอง เรายังช่วยตัวเองไม่ได้เลยจ๊ะ เราห้ามไม่ให้ตัวเอง แก่ได้ไหม เราห้ามไม่ให้ตัวเองเจ็ปป่วยได้ไหม เราห้ามไม่ให้ตัวเองตายได้ไหม....
    เราก็ทำไม่ได้ เกิด แก่ เจ็บ ตาย มาปรากฏเป็นเทวทูติทั้งสี่ เพื่อให้เจ้าชายสิทธัตถะได้ พบเจอ ทำให้ท่านอยากบวชเพื่อบรรลุ เป็นพระพุทธเจ้า เพื่อจะได้ช่วยสรรพสัตว์ ให้ได้พ้นจากการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ซึ่งการจะดับทุกขเวทนาทั้งหลายได้ ก็คือ การไม่เกิดอีก ดังนั้น การเกิดขึ้นมา จึงนับว่าเป็นเรื่องที่น่ากลัวที่สุด เพราะ เมื่อเรามี ขันธ์5 คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เราก็ย่อมต้องประสบกับทุกข์ และกฎแห่งกรรมก็สามารถ เล่นงานเราได้ทุกเมื่อนั่นเอง

    ทีนี้..การที่คุณมีความเมตตา กรุณา นับเป็นเรื่องดี คุณสามารถช่วยเหลือ คนและสัตว์ จากความทุกข์ได้ซึ่งก็ถือว่าคุณได้สร้าง บุญและบารมีส่วนนึง
    แต่การมีอุเบกขา ก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะขนาด พระพุทธเจ้าท่านประเสริฐยิ่งกว่าเราเท่าไร ท่านยังไม่สามารถช่วยเหลือ คนและสัตว์ได้ทั้งหมด

    มองโลกให้เป็นสัจธรรมดีกว่านะคะ การเกิดแก่เจ็บตายเป็นธรรมดา มองให้เป็นเรื่องธรรมดา อย่าเอาจิตไปคิดเศร้าหมอง มองให้เหมือนกับว่า พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก และตกทางทิศตะวันตกฉันใด เกิด แก่ เจ็บ ตาย ก็เป็นเรื่องธรรมดาฉันนั้น เราหนีมันไม่พ้น จนกว่าเราจะเข้าพระนิพพาน

    เราควรเร่งทำความดี เพื่อเข้าพระนิพพานจะดีกว่า เพราะถึงแม้เราจะช่วยใครไม่ได้ แต่อย่าน้อย เราก็ได้ช่วยตัวเอง...
     
  9. หนูแว่น

    หนูแว่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    1,188
    ค่าพลัง:
    +3,207
    นั่นคือท่านเห็นทุกข์แล้ว นี่แหล่ะทุกข์มันเกิดขึ้นตลอดเวลา รู้ว่าทุกข์ ก็ต้องดับที่ต้นเหตุ
    เมื่อท่านเห็นทุกข์ ท่านก็เริ่มต้นจากคำถาม แล้วก็หาคำตอบ
    ท่านมาถูกทางแล้ว ศึกษาธรรมะเถอะ แล้วท่านจะพบว่า มีคำตอบของทุกคำถามที่ท่านสงสัย
    เจริญในธรรมะนะค่ะ โมทนา กับจิตเมตตาด้วยค่ะ
     
  10. somemaybe

    somemaybe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2009
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +143
    เราว่า
    ทำไปเถอะถ้าตัวเราเองไม่เดือนร้อนและก็ไม่ทำให้คนอื่นเดือนร้อน
    และที่สำคัญเราก็รักที่จะทำ พอใจที่จะทำ

    แต่อันไหนเห็นแล้วเป็นทุกข์ ทำแล้วเป็นทุกข์ ก็อย่าไปทำอ่ะ
    ตัดใจดีกว่า

    ของทุกอย่างเวียนว่าย เดี๋ยวสุขเดี๋ยวก็ทุกข์
    ที่สำคัญทำแทนกันไม่ได้ทั้งหมด กรรมใครก็กรรมมัน

    อย่าไปคิดว่าวันนี้สัตว์ตัวนี้มันทุกข์ ชาตินี้มันเกิดมาทุกข์
    เดี๋ยวมันก็สุขเองอ่ะ ตราบใดยังเวียนว่าย มีขึ้นมีลง ทุกข์เป็นเรื่องธรรมชาติจ๊ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...