การเตรียมการอพยพมนุษย์โลก เพื่อช่วยเหลือระหว่างการชำระโลก ของมิตรจากต่างพิภพ และข้อมูลอื่นๆจากสาธารณรัฐเช็ก

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Chayutt, 19 มิถุนายน 2009.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. JiNaNiE

    JiNaNiE Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +49
    <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    ผมอ่านดูข้อความของคุณแล้วผมก็รู้สึกตกใจเล็กน้อย พร้อมๆกับรู้สึกผิดนิดๆว่า
    นี่ผมได้เผลอไปกวนกระแสความเกลียดชังที่ตกตะกอนอยู่ก้นบึ้งหัวใจของใครขึ้นมาแล้วเหรอเนี่ย

    เพราะกระแสนั้นมันรุนแรงมากจริงๆ จนน่าตกใจ<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ไม่ต้องตกใจนะ ไม่เครียดๆๆ ไม่ได้รับไม่ได้รู้ไม่ได้ส่งกระแสความเกลียดชังใดๆๆ แค่รู้ว่ามันเป็นธรรมธรรมหนึ่ง

    คุณเคยรู้สึกแบบนี้บ้างไหม๊ แม้เพียงชั่ววูบเดียว ก็ยังดี

    ที่ว่าเวลาคุณรู้ว่าช่วงเช้าชาวอิสลามเขาจะทำละหมาดกัน ทำพร้อมๆกันหมด จนขนลุกไปหมดเลย
    แล้วคุณเคยรู้สึกชื่นชมยินดีกับพวกเขาด้วยไหม๊

    และในช่วงรอมมาดอนของพวกเขาที่พวกเขาถือศีลอดกันเป็นเดือน คุณเคยชื่นชมยินดีกับพวกเขาไหม๊

    เวลาคุณเดินผ่านโบสถ์คริสต์คุณได้ยินเพลงสวดสรรเสริญพระเจ้าที่พวกเขาร้องประสานเสียงกันอย่างไพเราะเพราะพริ้ง
    คุณเคยรู้สึกชื่นชมยินดีกับพวกเขาด้วยสักครั้งไหม๊

    ที่เล่ามานี้ผมเป็น คือผมชื่นชมยินดีกับพวกเขาเหล่านั้น เดี่ยวจะอธิบายว่าเพราะอะไรนะครับ<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ก็รู้สึกอนุโมทนาด้วยเหมือนกันสำหรับชาวอิสลามที่ทำละหมาด ชาวคริสต์ที่เข้าโบสถ์ ชาวพุทธที่เข้าวัดทำบุญรักษาศีลด้วยความศรัทธาอย่างน่าเลื่อมใส


    ถ้าโจทย์ตั้งธงไว้ว่า "เขา" ผิด คำตอบมันก็จะเป็นว่า "เรา" ถูก ทั้งๆที่เราเองที่ประกาศปาวๆว่าเขาผิดนั้น
    ผลิตแต่กระแสจิตแย่ๆออกมามากกว่าผู้ที่เราประนามอยู่ปาวๆนี่ซะอีก<o:p></o:p>
    เอ่อออ ไม่ทราบว่าอ้างอิงประกาศเลขที่เท่าไหร่เนี่ย<o:p></o:p>


    ชั่วโมงนี้ วันนี้ เดือนนี้ ปีนี้ โลกกำลังนับถอยหลังสู่การชำระล้างอยู่แล้ว ยังจะมาสนใจแต่เรื่องของตนเอง
    เอาตนเองเป็นใหญ่อีกอยู่หรือ?? ไม่ได้คิดจะช่วยอะไรโลกบ้างเลยหรือ?<o:p></o:p>
    ไม่เคยคิดเลย คือไม่เคยคิดว่าตัวเองดีเด่อะไรเลย แล้วก็ไม่เคยคิดช่วยโลกด้วย เพราะลำพังตัวเองยังเอาตัวไม่รอดเลย จะให้ไปช่วยคนอื่นก็จะพลอยฉุดกันไปป่าวๆๆ<o:p></o:p>


    หรือต้องฆ่า ห้ำหั่นกัน หรือเผาวัดนั้นให้มันวอดวายสาบสูญไปจากประเทศไทย
    ให้สาสมกับความเกียดชังที่มันอัดแน่นอยู่ในใจนั้นเลยดีไหม๊<o:p></o:p>
    อันนี้สงสัยจะดูการเมืองมากไป


    <o:p></o:p>
    เข้าประเด็นเลยล่ะกัน ประเด็นก็คือไอ้เงิน5000นี่แหละ ก่อนอื่นก็ต้องขออนุโมทนากับผู้ที่ศรัทธาบริสุทธิ์อย่างแรงกล้าเพราะการทำบุญจะได้กุศลน้อยกุศลมาก็ขึ้นอยู่กับศรัทธาบริสุทธิ์ตัวนี้ด้วย <o:p></o:p>
    อ่อ เรื่องเงิน 5000 ที่จะเปรียบเทียบก็คือ ถ้าไม่มีเงินตัวนี้พระเค้าจะไปกันไม๊ ไปเพื่ออะไร ไม่ใช่วันมาฆบูชาที่พระสงฆ์จะมารวมกันโดยมิได้นัดหมายเพราะศรัทธาพระพุทธเจ้า หรือว่าไปพุทธมณฑลโดยชาวพุทธที่หลั่งไหลมาเวียนเทียนกันด้วยความศรัทธาศาสนา จากที่เล่าให้ฟังเพราะเท่าที่ท่านลุงเล่าให้ฟัง ก็มีแต่พระบ่น (คือรับรู้มาแต่พระบ่น ไอ้ที่ไม่บ่น ไม่รุ้นะ อาจมีเยอะก็ได้)<o:p></o:p>
    ตอนเด็กๆๆเคยไปครั้งเดียว มีรถบัสมารับก็เกนคนในหมู่บ้านไป ไปฟรีไปแต่เช้ามืดกลับถึงมืด พวกชาวบ้านที่ไปก็กะไปเที่ยวกันนั่นแหละ เค้าบอกว่าไปแล้วจะได้ของฟรีกันมาเยอะแยะ(มาม่า)<o:p></o:p>
    สุดแสนจะทรมาณเดินเหนือยไกลมากเจอเด็กร้องหลงกับพ่อแม่อยู่หลายคนด้วย โอ้อย่าให้สาธยายมากมายก่ายกอง ก็นั่นแหละมันไปเพราะไม่ได้ศรัทธา เพระถ้ามีศรัทธาไปคงไม่บ่นเหมือนไปอินเดีย <o:p></o:p>
    ไปขึ้นเขาพระบาทพลวง จันทบุรี หรือว่าไปไหนๆๆที่ไปด้วยศรัทธามันจะชื่นใจ ประเด็นมันอยู่ตรงนี้แหละตรงศรัทธาหรือว่าถูกบังคับ เคยทำอะไรที่ต้องถูกบังคับไม๊ ตอนเด็กแม่ชอบบังคับให้กินข้าว พอโตมาเลยไม่ชอบค่อยกินข้าว ก็เลยเป็นโรคกระเพาะ(สมน้ำหน้า) ตอนเด็กๆๆแม่ชอบบังคับให้ไปวัด ตอนนั้นเป็นอะไรที่ขัดใจมากเบื่อมากไม่ขอบไปวัด แต่โตมาแปลก ดันชอบไปวัด แต่ดันไม่มีเวลาไม่มีปัจจัยด้วยแต่ก็ชอบไปทำบุญที่วัดเขาฉลากบางพระต้องขับรถไปกลับประมาณ 120 กิโล เพราะว่าศรัทธาพระที่วัดนั้นท่านฉันมื้อเดืยว แล้วท่านจะเทศน์ทุกครั้งเพราะทุกวันจะมีคนไปทำบุญทุกวัน แม้ไม่ใช่วันพระ แต่ท่านก็เดินบาตรทุกวันนะ คนไปกันเยอะมาก ไม่รู้มากจากไหนกันนักหนา วัดก็อยู่ในป่าในเขา นั่นแหละ <o:p></o:p>
    แล้วเคยโดนอาจารย์บังคับทำสมาธิ หรือให้ไปร่วมกิจกรรมทางศาสนาโดยบังคับไปไม๊ มันจะรู้สึกยังไง(อันนี้หมายถึงกรณีบังคับนะ พวกที่เค้าศรัทธาก็มี แต่เวลาอาจารย์ถามใครอยากไปด้วยความสมัครใจ ไม่เห็นมีใครยกมือเลยอ่ะ)<o:p></o:p>
    อีกสักหน่อย อันนี้เป็นข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์เลย ตอนเรียนม.ปลายณโรงเรียนแห่งหนึ่งมีอาจารย์สอนธรรมะ แกจะชอบไปวัดธรรมกายมาก แกจะบังคับให้เด็กๆๆไป แล้วแกจะให้ 1เกรดสำหรับคนที่ไป ปรากฏว่าไปกันทั้งห้องยกเว้นเรากับเพื่อนสนิทอีกคนนึง ไม่เห็นอยากได้เลย แค่เกรดเดียว ปรากฎว่าผลสอบออกมาเราดันได้ท้อปของชั้น(10ชั้น)ซะงั้น(แบบนี้เข้าข่ายว่าคิดว่าตัวเองเป็นใหญ่หรือเปล่าหว่า) แต่ก่อนอาจารย์จะให้เกรด อาจาย์ขอถามความคิดเห็นเพื่อนๆๆว่าจะให้เกรด 4 มั๊ย เพราะว่าไม่ได้ไปวัดธรรมกาย เพือ่นๆๆทั้งห้องก็บอกว่าให้ แหมก็ลองไม่ให้สิ ได้คะแนนสอบท้อปแต่ดันได้เกรดน้อยกว่าเพื่อนในห้องเพราะไม่ได้ไปวัดธรรมกายเนี่ยนะ แต่ไอ้เพื่อนที่ไปมันก็ไม่ได้อยากไปกันเล๊ย เป็นเพราะอาจารย์บังคับทั้งนั้นแต่ที่เป็นข่าวก็เป็นเพราะรุ่นน้องที่ไม่ได้ไปเหมือนกัน แล้วดันโดนตัดเกรดผู้ปกครองไม่ยอมเรื่องดันไปถึงนักข่าว ดันบอกชื่ออาจารย์ชื่อโรงเรียนอีก อาจารย์ก้โดนสอบสวนไปตามระเบียบพัก<o:p></o:p>
    แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหลวงพ่อชา สุภัทโท ท่านบอกว่าศาสนานะสอนดี แต่ที่ไม่ดีน่ะ มันเป็นที่คน ก็ถูกของท่านนะ อันนี้ที่เล่ามาก็เป็นแค่ส่วนหนึ่ง ก็คงเหมือนกันทุกทีดีบ้างไม่ดีบ้างปะปนกันไป เราก็ต้องใช้ปัญญาพิจารณาไล่ตามศรัทธาให้ทัน จะถูกหรือผิดก็คิดพิจารณากันไป แต่ก็อย่างที่ จขกท เค้าบอกแหละ ว่าอย่าคิดลบคิดเครียดคิดแค้น เอาเป็นคิดขำๆๆ แล้วกัน อิอิ ขอเป็นการคิดเพื่อลับปัญญาเพือเป็นสัมมาทิฐิ เพื่อดำริชอบก็แล้วกันนะ <o:p></o:p>
     
  2. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    สรุปว่า เราไม่เคยโกรธกันเลย ตั้งแต่ก่อนหน้านี้ และจนบัดนี้
    พูดอีกกี่ครั้งผมก็ยังจะบอกว่าผมไม่ได้โกรธใครในนี้เลย

    แต่วัตถุประสงค์ของ "คำพูด" ที่เลือกใช้ มันเหมือนเป็นเวฟมาให้ใส่คำเหล่านั้นลงไป

    มันคงมีความหมายและเหมาะเจาะกับบางคนที่กำลังอยู่ในสภาวะและอารมณ์นั้นๆอย่างแน่นอน
    ไม่มีอะไรที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ...

    ผมหมายถึงว่า ดูเหมือนคำตอบของผมจะเหมือนกับตอบคุณ JiNaNiE เพียงคนเดียว
    แต่จริงๆแล้วไม่ใช่หรอกครับ

    มันมีคนที่ผมต้องการสื่อด้วยอยู่อีกเยอะ ที่ยังอยู่ในสภาวะและอารมณ์ที่สมควรจะถูกสะกิดให้กินยาเป็นอย่างยิ่ง

    ลืมไปได้เลยครับ เรื่องการตั้งใจด่ากัน ด้วยความโกรธและเกลี่ยดชังกันในกระทู้นี้
    เพราะผมเองไม่มีนโยบายแบบนั้น และเพราะการทำงานก็คือการปฏิบัติธรรมอย่างคุณ JiNaNiE ว่ามานั่นแหละครับ

    ดังนั้น ไม่ต้องกลัวผมเข้าใจอะไรผิด และไม่ต้องอธิบายผมหรอกนะครับ
    เพราะคนที่เขาได้ประโยชน์จาก "ยา" เม็ดนั้น เขาก็คงได้ไปแล้วหละครับ

    ...เมตตาธรรม ค้ำจุนโลก...

    ....................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 สิงหาคม 2009
  3. axzon47

    axzon47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,155

    และเป็นเหตุให้ผู้พร่ำสอนอต่างๆ พากัน บอกย้ำและซ้ำเตือนพวกเราทุกคนโดยเฉพาะ ที่เข้ามาอ่านในนี้

    พึงมีสติสัมปชัญญะ ระแวดระวังความคิดด้านลบต่างๆ เมื่อเกิดแล้วก็ให้มันร่วงหล่นไปเสีย และเพียร คิดบวก มีอารมณ์บวก กันทุกเวลา


    ข่าวสารพวกนี้อาจเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา พวกคิดบวกเป็นทุนเดิมจะสว่างเร็วขึ้น ส่วนพวกติดลบเป็นทุนเดิม หากไม่แก้ไขก็จะติดลบกันมากขึ้น


    และอยากบอกอีกประการคือ พวกด้านลบก็มีหน้าที่ของพวกเขาตามระบบอันเป็นเลิศของพระผู้สร้าง อย่าได้ หวาดระแวง กลัว หรือ คิดด้านลบกับพวกเขา เพราะนั้นมันจะยิ่งดึงดูดพวกเขามามากขึ้นไปอีก


    มนุษย์ไม่ได้ต่ำต้อยหรือไร้พลังอำนาจ จนต้องหวาดกลัวพวกเขา พึงระลึกไว้ตามที่ โนวาอนาลัยย้ำเตือนบ่อยๆ "เราคือ จิตวิญญาณอันเป็นอมตะ เรามาที่นี่เพื่อเต็มเติมช่องว่างแห่งประสบการณ์ โดยผ่านร่างกายเนื้อหนัง" "ความเชื่อของเธอ สร้างโลกแห่งความเป็นจริงของเธอเอง" และพวกเขาก็เป็นไปตามกฏนี้เช่นกัน
     
  4. axzon47

    axzon47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,155




    อันนี้เป็นยาของข้าพเจ้าอีกคน เพราะช่วงนี้ๆ อารมณ์อย่างกับ ข่าวพยากรณ์อากาศ อิอิอิ กับเรื่องของตัวเอง หยุดบ่อยจังช่วงนี้ แต่เรื่องของคนอื่นอ่ะไปโลดๆ เพราะว่าในฝันก็เตือนมา เปิดมาอ่านก็เจออีก อิอิอิ
     
  5. แม่นายมล

    แม่นายมล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +6,258
    อ.ปริิญญา บอกว่าการทำบุญ ที่หวังผล จะเป็นโมฆะหมด คือ มีตัวล่อ
    ท่านทำบุญเท่านี้นะ จะไปมีวิมานใหญ่โต บริวารเป็นร้อย อาภรณ์ทิพย์
    ชฎาแหลมเปรี๊ยบ และมันก็จะเป็นไปตามนั้นจริงๆ ผลบุญสนองผู้ทำ
    (เป็นการหลงมิติของจิตวิญญาณ) ตอนนี้ สวรรค์ พรหม ยังกะคอนโดในโลกมนุษย์
    รกพอๆ กัน ก็ต้องถูกชำระล้างไปด้วยทั้ง 3 โลก

    โลกจะได้บวก
    จากการกระทำจากจิตสำนึกจริงๆ อย่าหวังผล (เพราะจะได้ตามนั้น)
     
  6. LadyOfLight

    LadyOfLight เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    755
    ค่าพลัง:
    +2,472
    เจตนาดี ต่อผู้อื่น คือสิ่งดี อย่าลังเล ตัวอย่างมีชัดเจนทั้งฝ่ายสว่างและมืด เลือกที่จะเผยแพร่ให้ได้รู้ เจตนาดี คือ สว่าง เจตนาไม่ดี คือ มืด มันชัดเจน อย่าคิดมากด้วยสมองมนุษย์ จงถามใจตัวเองว่าที่ทำอยู่คือด้านสว่างหรือไม่ เท่านั้นก็เพียงพอ เพราะ การตัดสินใจ ที่จะ ศรัทธา เชื่อมั่น ละทิ้ง ไม่สนใจ ไร้สาระ ฯลฯ ไม่ใช่หน้าที่ของคนเผยแพร่ที่จะไปบังคับใจใครได้ไม่ว่าจะด้านสว่างหรือมืด การที่ผู้รับนั้นจะเป็นเช่นไร ขึ้นอยู่กับผู้นั้น เท่านั้น

    การศรัทธาของผู้ใด เราสามารถเห็น รู้ ว่าแตกต่างได้ แต่เราไม่สามารถทำให้ผู้ใดเห็นเช่นเราเห็นได้ ถ้าเราเห็นว่าเขาผู้นั้นเห็นเหมือนเรา ก็คือการตัดสินใจเช่นเดียวกับเรา

    การตัดสินใจที่จะหวังผล หรือไม่หวังผล ก็เช่นเดียวกัน

    โดยส่วนตัวรู้สึกว่า คิดดี ทำดี เท่านั้นก็เพียงพอ เพราะมันคือการตัดสินใจที่เป็นด้านสว่าง จะนิพพานหรือไม่ ไม่สำคัญ ขอให้ได้ช่วยผู้ที่น่าสงสารสำหรับด้านสว่างมองมา ก็พอแล้ว
     
  7. LadyOfLight

    LadyOfLight เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    755
    ค่าพลัง:
    +2,472
    เจตนาดี ต่อผู้อื่น คือสิ่งดี อย่าลังเล ตัวอย่างมีชัดเจนทั้งฝ่ายสว่างและมืด เลือกที่จะเผยแพร่ให้ได้รู้ เจตนาดี คือ สว่าง เจตนาไม่ดี คือ มืด มันชัดเจน อย่าคิดมากด้วยสมองมนุษย์ จงถามใจตัวเองว่าที่ทำอยู่คือด้านสว่างหรือไม่ เท่านั้นก็เพียงพอ เพราะ การตัดสินใจ ที่จะ ศรัทธา เชื่อมั่น ละทิ้ง ไม่สนใจ ไร้สาระ ฯลฯ ไม่ใช่หน้าที่ของคนเผยแพร่ที่จะไปบังคับใจใครได้ไม่ว่าจะด้านสว่างหรือมืด การที่ผู้รับนั้นจะเป็นเช่นไร ขึ้นอยู่กับผู้นั้น เท่านั้น

    การศรัทธาของผู้ใด เราสามารถเห็น รู้ ว่าแตกต่างได้ แต่เราไม่สามารถทำให้ผู้ใดเห็นเช่นเราเห็นได้ ถ้าเราเห็นว่าเขาผู้นั้นเห็นเหมือนเรา ก็คือการตัดสินใจเช่นเดียวกับเรา

    การตัดสินใจที่จะหวังผล หรือไม่หวังผล ก็เช่นเดียวกัน

    โดยส่วนตัวรู้สึกว่า คิดดี ทำดี เท่านั้นก็เพียงพอ เพราะมันคือการตัดสินใจที่เป็นด้านสว่าง จะนิพพานหรือไม่ ไม่สำคัญ ขอให้ได้ช่วยผู้ที่น่าสงสารสำหรับด้านสว่างมองมา ก็พอแล้ว
     
  8. JiNaNiE

    JiNaNiE Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +49
    ไหนๆๆก็ไหนแล้วก็ขอต่ออีกสักหน่อย เดี๋ยวจะไม่มีโอกาสได้เขียน แต่ก็ต้องขออภัยสำหรับผู้ที่ไม่ชอบให้มีข้อความแบบนี้โผล่ในเวบพลังจิต แต่ข้อความที่จะกล่าวต่อไปนี้มันไม่ได้มีผลลบแต่อย่างใด
    มันเป็นไปแค่ธรรมๆหนึ่ง ขอให้พิจารณาตามที่มันเป็นก็แล้วกัน
    นึกแล้วก็อัสจรรย์การที่รวมผู้คนจำนวนมากมายมาไว้ที่เดียวกัน อันนี้ไม่ขอนับการอุปสมบทหมู่หรือว่าตักบาตรตามสถานที่ต่างๆๆนะ เพราะการทำบุญกับมหาชนนั้นเปรียบแล้วก้เหมือนกับการ
    ตักบาตรเทโวโรหณะ ที่ซึ่งพระกับประชาชนมารวมตัวกันโดยมีการนัดหมายล่วงหน้า แต่จุดต่างก็คือการตักบาติเทโวนั้นปัจจัยที่ได้นั้นตกเป็นของวัดไม่ใช่ของพระ มันก็เหมือนกับการ ทอดผ้าป่า ทอดกฐิน ถวายไตร งานประจำปี
    ที่เงินหรือปัจจัยทั้งหมดตกเป็นของวัด แล้วมันต่างกันยังไงเงินของวัดกับเงินของพระ ถ้าเป็นเงินวัด วัดก็สามารถนำเงินนั้นไปพัฒนาวัด ไปสร้างสิ่งก่อสร้างสร้างกิจกรรมที่ทำประโยชน์กับชุมชนคนในชุมชนก็ได้ประโยชน์ แล้วถ้าเป็นเงินของพระล่ะ
    พระจะเอาไปทำอะไร จะเอาไปซื้อย่ามลายสก๊อต หรือว่าตาลปัตรลายคิตตี้เรอะ ก็ไม่ใช่ ท่านก็คงเก็บเพราะพระไม่ค่อยได้ใช้เงิน แล้วประโยชน์มีเกิดไม๊ ้ ถ้าเป็นผ้าป่าช่วยชาติ ผ้าป่าสร้างโรงพยาบาล นี่เห็นภาพเลย พูดถึงเรื่องผ้าป่า ที่เค้าจัดงานผ้าป่าขึ้นก็เพื่อจะเอาเงิน
    เข้าวัด แต่ก็ต้องนิมนต์พระจากวัดอื่นมาด้วย แล้วก้ต้องถวายปัจจัยให้พระที่มาร่วมงานด้วย แต่ปัจจัยที่ถวายพระนั้นก็คงไม่เท่าไหร่ เมื่อเทียบกับจำนวนเงินผ้าป่าที่ได้มันมากมายกว่าหลายเท่า เอ หรือว่าจะเป็นอีรอบนี้ ที่เงินถวายพระไม่เท่าไหร่ แต่เงินที่ได้มัน
    มากมายกว่าหลายเท่า แต่ก็ไม่รู้ว่าเข้าวัดหรือเข้ากรุไหน (oops)แต่มันก็คงเป็นธรรมดาของทุกวัดแหละที่จะต้องหาเงินเข้าวัดกัน สร้างนั่นนี่โน้นกันร่ำไป ก็หวังว่าท่านสาธุชนทั้งหลายคงเข้าใจ
    แต่การทำบุญนั้นแท้จริงแล้วก็เพื่อขจัดความตระหนี่ จงทำบุญด้วยศรัทธาแต่ต้องใช้ปัญญาไล่ตามศรัทธาให้ทันด้วย ไอ้การที่จะไปเฮไลตามคำกล่าวอ้างของคนอื่นว่าดีอย่างโน้นดีอย่างนี้ ลองพิจารณาทรัพย์ในกระเป๋าท่านด้วยยกตัวอย่างพ่อกับแม่ทำบุญต้นเสา หน้าต่างประตู ห้องน้ำ ทีละเป็นหมื่นๆๆ เอ่อ ลูกนอนยุงกัดอยู่ในมุ้งขาดๆๆแถมบ้านฝนก็สาดอีก ขัดก็ไม่ได้ ขวางทางบุญอีก เพราะเห็นคนอื่นเค้ารวยอิจฉาเค้าคิดว่าเค้งคงทำบุญมาเยอะ คิดได้แค่นี้ก็เลยตะบี้ตะบันทำบุญ ไม่ได้เอาปัญญากำกับ
    ที่ไม่ได้ใช้ปัญญากำกับคาดว่าเพราะไม่มีใครสอน เพราะพระบ้านส่วนใหญ่เน้นแต่เรื่องทำบุญบริจาค ไม่ค่อยได้เน้นพัฒนาปัญญา ตัวเองก็เพิ่งรู้ปีนี้เองและว่าวิปัสสนาคืออะไรแล้วมันได้กุศลมากกว่าการทำบุญอีก พระพุทธเจ้าถึงยกย่องวิปัสสนาไง เพราะมันเป็นแหล่งให้เกิดปัญญา ซึ่งปัญญาตัวนี้ที่จะทำให้เรารู้แจ้ง(ไปกันใหญ่แล้วคือรู้แต่ทฤษฎีน่ะ ปฏิบัติยังไม่ค่อยได้)นั่นแหละ แต่ไอ้ที่ว่าดีของเขาอาจจะไม่ดีสำหรับเราก็ได้ ถ้าเป็นทางวิปัสสนา ก็ต้องเลือกหลักให้ถูกจริตของเราจะได้ถึงเร็ว
    ความดีความชั่วมันก็มีเสื่อม แต่สัจจะ(ความจริง)นี่สิของแท้แน่นอน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 สิงหาคม 2009
  9. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    โอ้โห เรื่องผลของการจดจ่อกำลังมาแรง งั้นเอาความฝันเมื่อคืนมาฝาก เพราะเป็นคำสอนที่ดีเยี่ยมสำหรับจินตวดีเลย

    เห็นผู้หญิงหนึ่งคนเหมือนละครเลย เธอเข้าไปค้นพบความลับ ความท้าทายบางอย่างเข้า และเธอก็ตามรู้ ตามเห็นมันหมดโดยตลอด แล้วแถมยังจะเข้าไปขัดขวางด้วยนะ เรื่องดำเนินไปอย่างเข้มข้น แต่ปรากฏว่าตอนจบ เธอหายไป


    ปรากฏเป็นฝาแฝดเธออีกคนมาปรากฏตัวแล้วพูดกับจินตวดีว่า "เรามาแทนที่เขา แล้วเราก็ดีใจที่ได้พบกับท่าน คนที่เราสามารถพูดจากันได้อย่างเข้าใจ รู้เรื่อง" เราก็เลยถามเขาถึงฝาแฝดอีกคนหายไปไหน เธอบอกว่า " เขาจดจ่อแต่สิ่งที่เป็นในทางใด เขาก็เป็นอย่างนั้น" แต่จินตวดีตอนนั้นตระหนักได้อย่างทันทีในความฝันตอนนั้นเลยว่า เธอคิดในทางร้ายเธอก็ประสบเหตุในทางร้าย แล้วจิตก็พูดกับตัวเองว่า ในอินเตอร์เน็ตมีเรื่องราวที่เป็นไปในทางดี และ ทางร้ายอย่างมากมาย ถ้าเราเอาใจจดจ่อมันในทางร้าย เราจะได้ผลลัพท์ในทางนั้นไม่วันใดก็ว้นหนึ่ง เหมือนคนเลือกเดินไปทางใด ปลายทางนั้นย่อมรออยู่ แล้วจิตก็บอกมาอีกว่า ถึงแม้เรื่องที่เราอ่านพบเจอจะมี่ประจุลบหรือเป็นไปในแง่ลบ แต่ถ้าเราคิดแต่สิ่งที่ดี ๆ และ ก็ใส่แต่สิ่งดี ๆ ลงไป เราจะไม่มีวันรับผลของประจุลบร้าย ๆ นั้นเลย แต่เราจะได้รับผลดีจากสิ่งดี ๆ ที่เราคิด และเราใส่ลงไปต่างหาก อันนี้คิดถึงคำ ๆนี้ขึ้นมาทันทีเลย " จดจ่อสิ่งใด ได้สิ่งนั้น ไม่มีกฏเกณฑ์อื่น" แล้วจิตก็บอกมาอีกว่า ในอินเตอร์เน็ตก็เช่นกัน เราในฝัน ก็ อ๋อ เข้าใจล่ะ เราจะทำตาม ขอบคุณที่มาสอนเรา แล้วก็เป็นเรื่องเหตุบังเอิญไม่มีในโลกเช่นเดียวกัน เพราะคุณเซลล์ก็เพิ่งให้แง่คิดเรามาเช่นกัน อันนี้จะเทียบได้กับห้องน้ำ ตักครั้งหนึ่งสะเทือนทั้งห้องได้ไหม ตอนนี้ห้องนี้กำลังสั่นสะเทือนอยู่ด้วยคลื่นแห่งความ รัก ซะ แล้ว
     
  10. uuuu0010

    uuuu0010 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    97
    ค่าพลัง:
    +247
    ถ้อยคำเป็นตัวนำสารที่มีประสิทธิภาพน้อยที่สุดและมักทำให้เข้าใจผิดหรือตีความผิดได้ง่ายที่สุด จาก หนังสือ สนทนากับพระเจ้า 1 ( เพราะถ้อยคำไม่สามารถสื่อถึงความรู้สึก ความคิด และประสบการณ์ ได้อย่างถูกต้องสมบูรณ์ )
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 สิงหาคม 2009
  11. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    อือ..นี่แหละที่อยากจะให้ใช้สติ และปัญญา ใคร่ครวญ พิจารณาข้อมูลทั้งหลายที่รับเข้ามาในยุคนี้ให้จงหนัก

    เพราะมารแฝงกายมาเยอะมากในยุคนี้

    อ้อ..ลืมบอกไปว่า ผมได้กลับไปแปลข้อความที่ยังไม่ได้แปลให้เรียบร้อยหมดทุกโพสต์แล้วนะครับ

    ตั้งแต่โพสต์ 335 หน้า 17 เป็นต้นมา

    http://palungjit.org/threads/การเตรียมการอพยพมนุษย์โลก-เพื่อช่วยเหลือระหว่างการชำระโลก-ของมิตรจากต่างพิภพ-และข้อมูลอื่นๆจากสาธารณรัฐเช็ก.193101/page-17


    ในโพสต์ที่ 336 - 341 จะเป็นอะไรที่น่าจับตามอง และคิดอยู่มาก

    คือมันจะแย้งกันไป แย้งกันมาในระหว่างฝ่ายที่สื่อสารมาทั้งหลาย ต่างคนก็จะต่างบอกว่าตนเองเป็นฝ่ายธรรมะ

    ดังนั้น ก็เลยอยากให้รู้ไว้อย่างที่ผมรู้หนะครับ ลองกลับไปอ่านดูนะครับ


    ......................................</o></o>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2010
  12. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    "จงจำไว้ว่า “พระเยซูคริสต์ปลอม” จะปรากฏให้เห็นมากมาย ก่อนการกลับมาของพระเยซูคริสต์ตัวจริง
    ซึ่งสิ่งนี้ได้ถูกยอมให้เกิดขึ้นได้ เพื่อเป้นการทดสอบความสามารถในการตัดสินใจของพวกท่านเอง"


    จากประโยคนี้ทำให้นึกถึงข้อความในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลตรงช่วงนี้เลย

    มธ 24:4-14 ความทุกข์เริ่มต้น
    พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “จงระวังอย่าให้ใครหลอกลวงท่านได้ หลายคนจะอ้างนามของเรา กล่าวว่า ‘ข้าพเจ้าเป็นพระคริสต์’ และจะหลอกลวงคนจำนวนมากให้หลงผิด ท่านทั้งหลายจะได้ยินข่าวลือเรื่องสงครามทั้งใกล้และไกล จงระมัดระวัง อย่าตกใจ เหตุการณ์เหล่านี้จำเป็นต้องเกิดขึ้น แต่ยังไม่ถึงวาระสุดท้าย ชนชาติหนึ่งจะลุกขึ้นต่อสู้กับอีกชนชาติหนึ่ง อาณาจักรหนึ่งจะลุกขึ้นต่อสู้กับอีกอาณาจักรหนึ่ง ความอดอยากและแผ่นดินไหวจะเกิดขึ้นหลายแห่ง ทั้งหมดนี้จะเปรียบเหมือนความทุกข์ที่เริ่มต้นในการคลอดบุตร “ต่อจากนั้น ท่านจะถูกจับไปทรมานและถูกประหาร ชนทุกชาติจะเกลียดชังท่านเพราะนามของเรา ในเวลานั้น หลายคนจะละทิ้งความเชื่อ จะทรยศและเกลียดชังกัน ประกาศกเทียมจำนวนมากจะต้องเกิด และจะหลอกลวงคนมากมาย เพราะความอธรรมจะเพิ่มมากขึ้น ความรักของคนจำนวนมากจะเย็นลง แต่ผู้ใดยืนหยัดอยู่จนถึงวาระสุดท้าย ผู้นั้นก็จะรอดพ้น “ข่าวดีเรื่องพระอาณาจักรนี้จะประกาศไปทั่วโลกเพื่อเป็นพยานสำหรับนานาชาติ เมื่อนั้น วาระสุดท้ายจะมาถึง

    มธ 24:15-25 ความทุกขเวทนาอย่างใหญ่หลวงของกรุงเยรูซาเล็ม
    “เมื่อ ใดที่ท่านทั้งหลายเห็นผู้ทำลายที่น่ารังเกียจยืนอยู่ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ตามที่ประกาศกดาเนียลได้กล่าวไว้ เมื่อนั้น ผู้ที่อยู่ในแคว้นยูเดียจงหนีไปยังภูเขา ผู้ที่อยู่บนดาดฟ้าก็อย่าลงมาเก็บข้าวของในบ้าน ผู้ที่อยู่ในทุ่งนาจงอย่ากลับไปเอาเสื้อคลุมที่บ้าน น่าสงสารหญิงมีครรภ์และหญิงแม่ลูกอ่อนในวันนั้น จงอธิษฐานภาวนาอย่าให้ท่านต้องหนีในฤดูหนาว หรือในวันสับบาโต เพราะในเวลานั้น จะมีทุกขเวทนาใหญ่หลวงอย่างที่ไม่เคยมีตั้งแต่พระเจ้าทรงสร้างโลกจนบัดนี้ และจะไม่มีต่อไปอีกเลย ถ้าพระเจ้ามิได้ทรงให้วันเหล่านั้นสั้นลง เพราะทรงเห็นแก่ผู้ที่พระองค์ทรงเลือกสรรไว้ เวลานั้น ถ้าผู้ใดบอกท่านว่า “พระคริสต์อยู่ที่นี่” หรือ “พระคริสต์อยู่ที่นั่น” จงอย่าเชื่อ เพราะจะมีพระคริสต์เทียม และประกาศกเทียมหลายคนเกิดขึ้น จะทำเครื่องหมายและปาฏิหาริย์ยิ่งใหญ่ ถ้าเป็นไปได้จะหลอกลวงแม้แต่ผู้ที่พระเจ้าทรงเลือกสรรไว้ ท่านทั้งหลายจงฟังเถิด เราได้กล่าวถึงเหตุการณ์นี้ให้ฟังไว้ก่อนแล้ว
     
  13. JiNaNiE

    JiNaNiE Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +49
    พระเยซูปลอม นี่เหมือนพระศรีอาริย์ปลอมที่กำลังระบาดอยู่หรือป่าว แล้วถ้าของปลอมดันทำดีกว่าของจริงล่ะ จะว่าไง แต่ขึ้นชื่อว่าของปลอม มันก็คงไม่น่าเชื่อถือแล้วล่ะ ลองพิจารณาข้อความต่อไปนี้สิ
    "เราเป็นญาณที่ลงมาอยู่ในร่างมนุษย์ชื่อ ต้อย พระพุทธเจ้าโคดมทรงวานแผนงานช่วยเหลือภัยพิบัติและทรงมอบหมายให้เราทำหน้าที่ดังนี้
    1. ฝึกจิตต้อยให้เข้าสู่เป้าหมายที่ได้กำหนดไว้ในแผนงานช่วยเหลือภัยพิบัติ
    2. ปฏิบัติภารกิจแทนพระพุทธองค์ในขั้นตอนเตรียมการก่อนเกิดภัยพิบัติและขั้นตอนช่วยเหลือเมื่อเกิดภัยพิบัติ
    สาเหตุที่มีการวางแผนงานช่วยเหลือภัยพิบัติ
    พระพุทธเจ้าโคดมทรงหยั่งรู้ว่า จะมีภัยพิบัติครั้งใหญ่เกิดขึ้นในดาวโลกนี้ มนุษย์และสัตว์จะเสียชีวิตเป็นจำนวนมหาศาล ซึ่งเป็นการเสียชีวิตตามกฏแห่งกรรม ส่วนมนุษย์และสัตว์ที่รอดชีวิตก็จะดำรงชีวิตอยู่อย่างลำบาก พระพุทธเจ้าทรงเมตตาต่อเวไนยสัตว์ที่รอดชีวิตเหล่านี้จึงทรงวางแผนงานช่วยเหลือภัยพิบัติเพื่อให้พวกเขาสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้โดยไม่ลำบากมากนัก
    สาเหตุที่มีการเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่
    เมื่อดวงจิตที่ยังเวียนว่ายตายเกิดและเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับดาวโลกนี้ ได้ทำกรรมชั่วไว้ในแต่ละภพภูมิและแต่ละภพชาติที่มีจำนวนนับไม่ถ้วน เมื่อดวงจิตใดทำกรรมชั่ว ก็จะได้รับผลแห่งกรรมนั้น ซึ่งเป็นผลแห่งกรรมเฉพาะตัว ส่วนผลแห่งกรรมรวมจะเกิดขึ้นจากกรรมชั่วที่ทุกดวงจิตได้ทำไว้และไปสะสมรวมตัวกัน จนกลายเป็นพลังกรรมดำ เมื่อพลังกรรมดำมีการสะสมรวมตัวกันมากขึ้น จะทำให้พลังนี้มีแรงผลักดันให้เกิดผลแห่งกรรรมรวมคือ จะมีภัยพิบัติครั้งใหญ่เกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้
    ความหมายของคำว่า "ภัยพิบัติครั้งใหญ่"
    คำว่า "ภัยพิบัติครั้งใหญ่" ในที่นี้หมายถึง ภัยธรรมชาติที่จะเกิดขึ้นในระดับรุนแรงทั่วโลก ได้แก่ สภาพภูมิอากาศแปรปรวนและเปลี่นแปลงอย่างฉับพลัน อากาศร้อนจัด หนาวจัด ฝนตกหนัก ลมพายุรุนแรง ไฟไหม้ป่า ภูเขาไฟระเบิด แผ่นดินไหว โคลนถล่ม หิมะถล่ม น้ำแข็งทั่วโลกละลาย ทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น ฯลฯ
    ภัยธรรมชาติเหล่านี้จะเป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้มนุษย์และสัตว์เสียชีวิตเป็นจำนวนมหาศาล ส่วนภัยอื่นๆ เป็นเพียงทางผ่านของการเดินทางไปสู่ช่วงเวลาการเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่
    ผลจากการเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่
    มนุษย์และสัตว์จะเสียชีวิตเป็นจำนวนมหาศาล มนุษย์จะเสียชีวิตเกินกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนประชากรทั้งหมดในโลกนี้ บ้านเรือน อาคารสถานที่และทรัพย์สินทั่วโลกจะถูกทำลายพังพินาศ ระบบเทคโนโลยีต่างๆ จะเสียหายและใช้งานไมได้เลย เช่น ระบบไฟฟ้า ระบบน้ำประปา ระบบโทรศัพท์ และรบบคอมพิวเตอร์ เป็นต้น จะมีน้ำท่วมระดับสูงบริเวณพื้นที่ราบทั่วโลกเป็นระยะเวลานาน ดังนั้น ผู้ที่รอดชีวิตจึงไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ตามสภาวะปกติเหมือนเดิม และต้องไปอาศัยหลบภัย ณ จุดปลอดภัยต่างๆ ทั่วโลกเป็นระยะเวลานาน
    ภัยธรรมชาติครั้งใหญ่จะชำระล้างโลกให้สะอาดขึ้น ได้แก่ อากาศจะบริสุทธิ์ขึ้น น้ำจะสะอาดขึ้น พื้นดินเก่าจะถูกชะล้างสารเคมีและกลับฟื้นสภาพดีขึ้น ฯลฯ จะทำให้เกิดการปรับสมดุลทางธรรมชาติและจะเกิดการเปลี่นแปลงด้านภูมิศาสตร์ ได้แก่ สภาพภูมิอากาศจะเป็นไปตามฤดูกาล จะมีพื้นดินเกิดใหม่ซึ่งมีแร่ธาตุอุดมสมบูรณ์ พื้นดินเก่าบางส่วนจะจมหายไปและสายน้ำเปลี่ยนเส้นทาง ทำให้ต้องเขียนแผนที่โลกใหม่ ฯลฯ
    ขั้นตอนในแผนงานช่วยเหลือภัยพิบัติ
    แผนงานช่วยเหลือภัยพิบัติ แบ่งเป็น 3 ขั้นตอนได้แก่
    1. ขั้นตอนฝึกจิต
    2. ขั้นตอนเตรียมการก่อนเกิดภัยพิบัติ ในขั้นตอนนี้จะมีการประสานงานกันระหว่างผู้ปฎิบัติงานทุกกลุ่มเพื่อรวบรวมผู้ปฏิบัติงานและรวบรวมปัจจัย 4
    3. ขั้นตอนช่วยเหลือเมื่อเกิดภัยพิบัติ ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านจะต้องปฎิบัติงานภายใต้ระบบสากลจักรวาลซึ่งเป็น ระบบการทำงานของมนุษย์ต่างดาว จะทำให้งานดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ
    ผู้ปฏิบัติงาน
    ในแผนงานช่วยเหลือภัยพิบัติ มีผู้ปฎิบัติงาน 3 ฝ่าย ได้แก่
    1. ฝ่ายพระญาณ ได้แก่ พระญาณต่างๆ ที่ลงมาจากสวรรค์ พรหมและดินแดนนิพพาน เพื่อทำหน้าที่ฝึกจิตแก่ผู้ปฏิบัติงานฝ่ายมนุษย์โลกและปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือภัยพิบัติ
    2. ฝ่ายมนุษย์ต่างดาว มีมนุษย์ต่างดาว 18 ดวงดาว ทำหน้าที่ดังนี้
    2.1 ทำหน้าที่ฝึกจิตแก่ผู้ปฏิบัติงานฝ่ายมนุษย์โลก
    2.2 สำรวจและวิจัยมนุษย์โลก รวมทั้งสิ่งต่างๆ บนดาวโลกนี้ ได้แก่ สำรวจและวิจัยระบบในร่างกายมนุษย์โลก สภาพภูมิอากาศ ก๊าซ น้ำ แร่ธาตุและสิ่งแวดล้อมต่างๆ เพื่อจุดประสงค์ใน ข้อ 2.3 และข้อ 2.4
    2.3 สร้างอาคารสถานที่ ณ จุดปลอดภัยทั่วโลก จำนวน 30 จุด เพื่อใช้เป็นที่หลบภัยพิบัติของมนุษย์โลก
    2.4 สร้างเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ และยานบินเพื่อให้มนุษย์โลกได้ใช้งานตามความจำเป็น
    3. ฝ่ายมนุษย์โลก มีผู้ปฏิบัติงานจำนวน 3,403 คน แบ่เป็น 2 ประเภท ได้แก่
    3.1 ผู้ปฏิบัติงานภาคพื้นอากาศ
    3.2 ผู้ปฏิบัติงานภาคพื้นดิน
    พระพุทธเจ้าทรงคัดเลือผู้ปฏิบัติงานฝ่ายพระญาณและผู้ปฏิบัติงานฝ่ายมนุษย์โลกด้วยปัญญาญาณหยั่งรู้ว่า ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านจะสามารถปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จตามเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้ในแผนงานช่วยเหลือภัยพิบัติ
    พระพุทธเจ้าทรงขอความร่วมมือจากมนุษย์ต่างดาว 18 ดวงดาว ซึ่งเป็นสมาชิกในสหพันธ์จักรวาลและอาศัยอยู่ในแกแล็กซีเดียวกันกับดาวโลกนี้ พวกเขามีความเจริญในธรรมะและมีความเจริญในเทคโนโลยี ดังนั้น พวกเขาจึงมีความพร้อมและเหมาะสมที่จะมาร่วมมือทำงานช่วยเหลือภัยพิบัติ
    เหตุปัจจัยในการคัดเลือกผู้ปฏิบัติงานฝ่ายมนุษย์โลก
    เหตุปัจจัยในการคัดเลือกผู้ปฏิบัติงานฝ่ายมนุษย์โลก มีดังนี้
    1. มีการพัฒนาดวงจิตอยู่ในระดับที่ได้กำหนดไว้ในแผนงานช่วยเหลือภัยพิบัติ
    2. เคยสร้างบุญกุศลในจำนวนที่ได้กำหนดไว้ในแผนงานช่วยเหลือภัยพิบัติ
    3. เคยสร้างบุญกุศลร่วมกันกับผู้ปฏิบัติงานคนอื่นๆ
    4. ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านจะไม่มีกรรมหนักที่ส่งผลในชาตินี้ เพระผลแห่งกรรมหนักจะทำให้ดวงจิตไม่มีกำลังต้านทานความทุกข์ในระบบฝึกจิต และผลแห่งกรรมหนักจะขัดขวางการทำความดี คือการช่วยเหลือภัยพิบัติ
    5. มีคุณสมบัติเหมาะสมกับหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
    ระบบฝึกจิต
    มนุษย์ต่างดาวได้สร้างเครื่องมือชนิดหนึ่ง ซึ่งสามารถทำให้เกิดคลื่นและนำคลื่นมาเชื่อมต่อดวงจิตของมนุษย์โลก คลื่นนี้สามารถคิด พูด ทำในร่างกายของมนุษย์โลกได้ เมื่อกิเลสกำเริบ คลื่นจะทำงานทันที โดยการเพิ่มปริมาณของกิเลสให้มากขึ้น ทำให้รู้สึกเป็นทุกข์มากกว่าปกติและทำให้มองเห็นกิเลสหรือนิสัยได้ชัดเจนขึ้น ระบบฝึกจิตนี้เป็นระบบฝึกจิตแบบพิเศษ เรียกว่า ระบบพัฒนาดวงจิต
    ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านจะได้รับการฝึกจิตในระบบเดียวกันนี้ แต่ละท่านจะได้รับการฝึกจิตตามเหตุปัจจัยของตนเอง บางทีก็ฝึกคนเดียว บางทีก็ฝึกเป็นคู่ บางทีก็ฝึกเป็นกลุ่ม เพราะมีเหตุปัจจัยคล้ายกัน
    จุดมุ่งหมายในการฝึกจิต
    ก่อนที่ผู้ปฏิบัติงานจะไปทำงานช่วยเหลือภัยพิบัติ ทุกท่านจะได้รับการฝึกจิตในระบบพัฒนาดวงจิตเป็นระยะเวลาที่เหมาะสม เพื่อยกระดับดวงจิตให้สูงขึ้นหรือเพื่อขัดเกลานิสัยให้ดีขึ้น เมื่อทุกท่านได้รับการฝึกจิตให้เข้าสู่เป้าหมายแล้ว จึงจะสามารถปฏิบัติภารกิจสำเร็จตามเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้ในแผนงานช่วยเหลือภัยพิบัติ ดังนั้น การฝึกจิตในระบบนี้จึงเป็นการฝึกเพื่อไปทำงานเฉพาะกิจ คือ งานช่วยเหลือภัยพิบัติ
    บทเรียนฝึกจิต
    ฃสิ่งใดที่เกิดขึ้นในชีวิตของท่าน แล้วทำให้ท่านเป็นทุกข์ สิ่งนั้นจะเป็นบทเรียนฝึกจิตของท่าน
    วิธีเอาชนะบทเรียนฝึกจิต
    เมื่อท่านรู้สึกเป็นทุกข์ ท่านต้องใช้บารมี 10 ของท่านเข้าต่อสู้ฟันฝ่าอุปสรรคเพื่อออกจากความทุกข์นั้น เช่น ใช้ความอดทน ใช้ความเพียรพยายาม ใช้ปัญญาพิจารณาความเป็นจริงในวัฎสงสาร แล้วปล่อยว่าง เป็นต้น
    ข้อมูลในช่วงเวลาฝึกจิต
    ข้อมูลในช่วงเวลาฝึกจิตจะเป็นข้อมูลจริงปนหลอกเพื่อให้เป็นบทเรียนฝึกจิตหรือเพื่อให้กำลังใจ ข้อมูลจะเกิดขึ้นตามเหตุปัจจัยของแต่ละคน
    ในช่วงเวลาฝึกจิตนี้ แต่ละคน แต่ละกลุ่มจะได้รับสื่อข้อมูลจากคลื่นของมนุษย์ต่างดาวหรือจากพระญาณซึ่งเป็นอาจารย์ฝึกจิต ทุกคนก็จะเชื่อมั่นในข้อมูลที่ตนสื่อได้ ว่าเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง แต่ถ้าทุกคน ทุกกลุ่มมาพูดคุยรวมกัน จะเห็นได้ว่า ทุกคนต่างมีข้อมูลที่แตกต่างกันและอาจมีข้อมูลที่คล้ายกันบ้างในบางส่วน เพราะข้อมูลเหล่านี้เกิดจากเหตุปัจจัยที่แตกต่างกัน เมื่อเข้าสู่ขั้นตอนเตรียมการก่อนเกิดภัยพิบัติแล้ว ข้อมูลก็จะมีความเป็นหนึ่งเดียว
    เมื่อระบบฝึกจิตปิดคอร์ส นั่นหมายถึง ทุกคนได้รับการฝึกจิตเข้าสู่เป้าหมายเรียบร้อยแล้ว ต่อจากนั้นก็จะเข้าสู่ขั้นตอนเตรียมการก่อนเกิดภัยพิบัติ ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านก็จะมารวมตัวกันในสถานที่แห่งหนึ่งเพื่อช่วยกันทำงาน เรียกว่า กลุ่มช่วยเหลือภัยพิบัติ
    จาก ญาณในร่างต้อย

    ที่มา: http://palungjitrescuedisaster.com/wiki/index.php/%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B8%99%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4

    เป็นไงล่ะ อ้างถึงพระพุทธเจ้าเลย แล้วมันจะเป็นไปได้ไม๊ ในเมื่อพระพุทธเจ้าท่านละกิเลสไปแล้ว ท่านจะมายุ่งกับกิเลสของมนุษย์อีกหรือ แต่ข้อความเตือนภัยก็คล้ายๆๆที่คุณชยุตต์แปล แล้วยังมีการให้ข้อมุลที่ต่างกันให้ไปพิจารณาเองอีกด้วย พอดีกันมัวแต่ใช้ปัญญาพิจารณาว่าข้อมุลไหนจริงไหนเท็จ พอเกิดภัยพิบัติจริงๆปัญญาดันหมดอดตายกันพอดี อ๋อลืมไปปัญญายิ่งใช้ยิ่งคม
     
  14. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ปี 2012 สาส์นแห่งการยกระดับขึ้น – จาก แมทธิว วาร์ด (Matthew Ward)
    สื่อสารทางจิตมาเมื่อ 7 กุมภาพันธุ์ 2009 (ต่อ)
    <o></o>

    ที่มา: http://international.thespiritguides.co.uk
    /Article_2012_-_Ascension_Message_-_Matthew_Ward_
    7th_February_Channelling_2872.aspx

    โดย: Suzy Ward ผู้รับการสื่อสารทางจิตจาก Matthew Ward<o></o>
    วันที่: วันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธุ์ 2009<o></o>
    โพสต์โดย: Jane<o></o>
    <o>



    มีคำถามเกี่ยวกับแสงสว่างมากมายที่ผมได้รวบรวมเอาไว้ ได้แก่
    <o></o>
    1. ชาวโลกต้องทำอย่างไรบ้าง เพื่อให้แสงสว่างซึมซับผ่านเข้าไปในร่างกายของพวกเขาได้?
    <o></o>
    2. แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าพวกเขากำลังดูดซับแสงสว่างอยู่หรือไม่?
    <o></o>
    3. ต้องใช้ปริมาณแสงสว่างมากสักเท่าไหร่ จึงจะเพียงพอต่อการยกระดับขึ้นไปพร้อมกับโลก<o></o>
    <o></o>
    ผมได้กล่าวถึงเรื่องพวกนี้ไปก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งในนี้รวมถึงการสรุปความง่ายของการยอมรับแสงสว่างเอาไว้แล้ว
    ผมได้ขอให้คุณแม่ของผมคัดลอกข้อความเหล่านั้นมาลงไว้ที่นี่ด้วยแล้ว ดังนี้

    (ข้อความที่ตัดตอนมาบางส่วนจากการสื่อสารในวันที่ 29 สิงหาคม 2008)

    ตอนนี้ผมควรจะกล่าวถึงคำถามต่างๆเกี่ยวกับวิธีการเตรียมการที่ดีที่สุดเพื่อการยกระดับขึ้นจริงๆแล้ว
    วิธีการดำเนินชีวิตอยู่บนเส้นทางแห่งพระเจ้านั้น ผมไม่จำเป็นต้องสาธยายให้มากความเลย
    เพราะว่ามันเป็นไปโดยธรรมชาติสำหรับผู้ที่มีแสงสว่างในวิญญาณทั้งหลายอยู่แล้ว

    <o>และมันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปเรียนรู้อะไรที่ลึกลับซับซ้อนและยากลำบากเลย ,ไม่ต้องเดินทางไปที่ภูเขาหิมาลัย,
    ไม่ต้องไปเป็นสมาชิกของกลุ่มจิตวิญญาณใดๆ, ไม่ต้องเข้าร่วมงานสัมมนาหรือสัมมนาเชิงปฏิบัติการใดๆ,
    และไม่ต้องทำพิธีสวดมนต์ใดๆด้วย<o></o>

    แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณรู้สึกว่าอยากทำสิ่งเหล่านี้จริงๆ และมีความพร้อมที่จะทำอยู่แล้ว ก็จงทำไปตามหัวใจคุณเถิด

    เพียงแต่รู้ไว้ว่า มันไม่มีความแบ่งแยกระหว่างตัวคุณกับพระผู้เป็นเจ้า และทุกสรรพจิตวิญญาณในจักรวาลเลย
    <o></o>
    จงเชื่อมั่นในสัญชาตญาณของตนเอง เพราะมันคือข้อความจากจิตวิญญาณของคุณ ที่ส่งถึงจิตสำนึกของคุณ

    <o>จงปลดปล่อยให้ความรักจากจิตวิญญาณของคุณแผ่ซ่านออกไปสู่จักรวาล
    เพราะความรักคือพลังที่ทรงอานุภาพที่สุดในจักรวาล และมันก็สามารถที่จะถูกแสดงออกมาได้โดยไม่จำกัดวิธีการ
    แต่มันต้องเริ่มต้นจากการรู้จักรักตัวเองก่อน ซึ่งนั่นจะทำให้เกิดการเคารพตัวเอง เห็นคุณค่าของตนเอง และมั่นใจในตัวเอง<o></o>
    <o></o>
    จงดำเนินชีวิตให้สอดคล้องกลมกลืนกับธรรมชาติ

    ความสงบจากการปลีกวิเวก หรือการทำสมาธิ ถ้าคุณต้องการ ก็นับว่าเป็นอาหารที่ดีให้แก่จิตวิญญาณ
    <o></o>
    ดุจเดียวกับเสียงดนตรี ที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจหรือทำให้อารมณ์สงบเยือกเย็นลง หรือช่วยเยียวยาความเจ็บปวดได้
    <o></o>
    และแสงสว่างในรอยยิ้มที่มาจากใจจริง ก็เป็นระลอกคลื่นที่สามารถส่งผลกระทบต่อทั้งตนเอง
    และผู้คนแวดล้อมได้อย่างมิอาจประมาณได้

    จงรู้จักให้อภัยตนเองและผู้อื่น
    <o></o>
    จงรู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา
    <o></o>
    จงรู้จักชื่นชมความทรงจำที่งดงาม และปลดปล่อยความทรงจำที่เจ็บปวดให้ผ่านไปเสีย

    <o>ผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับสันติภาพ หรือเกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
    <o></o>
    ผู้ที่มีใจเมตตากรุณาต่อสัตว์<o></o>
    ผู้ที่ช่วยเหลือเกื้อกูลต่อผู้ที่ไร้ที่อยู่อาศัย ผู้หิวโหย และผู้เจ็บป่วย<o></o>
    และผู้ที่ทำงานด้านอื่นๆที่เป็นการช่วยเหลือผู้อื่น<o></o>
    คือตัวอย่างของผู้ที่ทำงานด้านแสงสว่างและด้วยความรัก<o></o>
    แรงบันดาลใจที่ทำให้ทำงานเหล่านี้ มาจากระดับจิตวิญญาณ
    และผู้ทำกิจกรรมเหล่านี้ คือผู้ที่กำลังตอบสนองต่อข้อความจากจิตวิญญาณของตนเองอยู่<o></o>

    จงรู้ไว้ว่าคุณเองก็เป็นพระผู้เป็นเจ้า และเทพยดา ที่มีพลังอำนาจที่จะเนรมิตอะไรก็ได้ตามแต่ใจคุณปรารถนา

    สิ่งที่ผมกล่าวมาทั้งหมดนี้ ไม่มีอะไรใหม่เลย เพราะเราได้กล่าวถึงมาก่อนแล้ว แต่เพราะว่าบางคนยังถามถึงสาระสำคัญ
    เกี่ยวกับการรู้แจ้งและการเจริญเติบโตด้านจิตวิญญาณอยู่ ผมจึงจำเป็นต้องนำมากล่าวย้ำไว้ ณ.ที่นี้อีกครั้งหนึ่ง
    <o></o>
    แต่สำหรับผู้ที่รู้แล้ว ก็ถือว่าได้ทบทวนอีกครั้งหนึ่งก็ได้นะครับ เพราะก็นับว่าได้ประโยชน์เหมือนกัน

    <o></o>
    <o></o>
    (ยังมีต่อครับ)
    .................................................</o></o></o></o>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2010
  15. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ปี 2012 สาส์นแห่งการยกระดับขึ้น – จาก แมทธิว วาร์ด (Matthew Ward)
    สื่อสารทางจิตมาเมื่อ 7 กุมภาพันธุ์ 2009 (ต่อ)
    <o></o>

    ที่มา: http://international.thespiritguides.co.uk
    /Article_2012_-_Ascension_Message_-_Matthew_Ward_
    7th_February_Channelling_2872.aspx

    โดย: Suzy Ward ผู้รับการสื่อสารทางจิตจาก Matthew Ward<o></o>
    วันที่: วันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธุ์ 2009<o></o>
    โพสต์โดย: Jane<o></o>
    <o>


    ขอบคุณครับคุณแม่<o></o>
    <o></o>
    สำหรับผู้ที่ถามว่า ต้องควบคุมเกี่ยวกับการรับประทานอาหารอะไรบ้างหรือเปล่าเพื่อการยกระดับขึ้นนี้

    ไม่เลย! ไม่จำเป็นต้องควบคุมอาหารใดๆเลย
    <o></o>
    แต่มันก็จะเป็นการสะเพร่าจนเกินไปหากจะไม่แนะนำให้เลือกรับประทานอาหารที่ดีๆ เพื่อรักษาสุขภาพเลย
    ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยรักษาสุขภาพของกายเนื้อได้เท่านั้น แต่มันจะรวมไปถึงสุขภาพของกายทิพย์
    และกายละเอียดทั้งหลายของคุณด้วย ซึ่งมันจะนำไปสู่ความสมดุลของจิตใจ ร่างกาย และจิตวิญญาณ

    เพราะความสมดุลนี้ คือสิ่งจำเป็นต่อการวิวัฒนาการทางจิตวิญญาณอย่างมาก

    ผมได้กล่าวว่ายุคทองของโลกได้เริ่มมาถึงแล้ว ตอนนี้ผมจะขอพูดถึง “จิตสำนึกมวลรวม” ของโลก
    ที่กำลังสร้างให้เกิดยุคดังกล่าวนี้ขึ้น และผมก็เชื่อว่ามันคงจะเป็นประโยชน์หากผมจะพูดถึงเรื่องพลังงานอีกครั้งหนึ่ง<o></o>
    <o></o>
    ทุกสิ่งทุกอย่างที่ดำรงอยู่ในจักวาลของเรานี้ คือพลังงานที่สั่นสะเทือนในระดับต่างๆกัน
    นั่นหมายถึง ไม่เพียงแต่ทุกๆสิ่งที่คุณสามารถมองเห็นได้เท่านั้น แต่ยังรวมถึงทุกๆกระแสจิตที่เป็นจุดก่อเกิดของเทวหะวัตถุทั้งหลาย
    ในจักรวาลก็ด้วย ล้วนแต่เป็นพลังงานที่กำลังมีการสั่นสะเทือนในระดับที่สอดคล้องกับจิตวิญญาณทั้งหลายที่อาศัยอยู่บนนั้น
    ซึ่งก็คือโลกที่พวกเขาอาศัยอยู่นั่นเอง<o></o>

    ทุกๆอารยะธรรมทั่วทั้งจักรวาลนี้ ต่างก็มีจิตสำนึกมวลรวมเป็นของตนเอง
    และเพราะว่าพลังงานเป็นสิ่งที่สามารถถูกกำหนดทิศทางได้ แต่ไม่สามารถห่อให้เป็นกลุ่มก้อน หรือแบ่งแยกออกให้เป็นส่วนๆได้

    ดังนั้น จิตสำนึกมวลรวมจากแต่ละอารยะธรรมจึงประสานรวมกันเกิดเป็น "จิตสำนึกมวลรวมของทั้งจักรวาล" ขึ้นมา
    (Universal consciousness) หรือเกิดเป็นจิตใจของจักรวาล (Universal mind)<o></o>
    <o></o>
    นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมทั่วทั้งจักรวาลจึงพากันให้ความสนใจกับจิตวิญญาณทั้งหลายที่อาศัยอยู่บนโลกมนุษย์กันนัก
    ว่ามนุษย์โลกกำลังทำอะไรและคิดอะไรกันอยู่

    ก็เพราะว่าพลังงานความคิดและความรู้สึกของพวกคุณมันไปส่งผลเสียต่อจิตสำนึกมวลรวมของจักรวาลหนะสิ
    <o></o>
    และนี่จึงเป็นคำอธิบายว่าทำไมรูปธรรมชีวิตชั้นสูงจากที่ต่างๆทั่วทั้งจักรวาลมากมาย
    จึงพากันปรารถนาดีและกระตือรือร้นยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือพวกคุณ ให้โลกของพวกคุณมีสันติสุข รักใคร่กลมเกลียวกัน
    อย่างที่พวกคุณปรารถนา<o></o>

    ตอนนี้ดาวเคราะห์โลกกำลังอยู่ระหว่างเส้นทางของการยกระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ และกำลังเข้าสู่ระนาบที่มีระดับการสั่นสะเทือน
    ของคลื่นความถี่ที่สูงขึ้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีระดับการสั่นสะเทือนที่ต่ำกว่าจะถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง
    <o></o>
    ทุกๆกระแสความคิด ความรู้สึก และการกระทำที่เป็นด้านลบจากโลกมืดจะสิ้นสุดลง
    เพราะว่าพลังงานเหล่านั้นไม่สามารถที่จะดำรงอยู่ได้ในระดับความสั่นสะเทือนที่สูงแบบนั้น
    <o></o>
    จิตสำนึกมวลรวมของผู้คนบนดาวเคราะห์โลก จะขับไล่กระแสความคิดและความอยากที่เป็นด้านลบออกไป
    แล้วจิตวิญญาณที่เติมเต็มด้วยแสงสว่างทั้งหลายก็จะสามารถลงมือทำในสิ่งที่พวกเขาคิดและปรารถนาได้อย่างไม่มีอะไรขวางกั้น


    (ยังมีต่อครับ)
    .......................................</o>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2010
  16. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ปี 2012 สาส์นแห่งการยกระดับขึ้น – จาก แมทธิว วาร์ด (Matthew Ward)
    สื่อสารทางจิตมาเมื่อ 7 กุมภาพันธุ์ 2009 (ต่อ)
    <o></o>

    ที่มา: http://international.thespiritguides.co.uk
    /Article_2012_-_Ascension_Message_-_Matthew_Ward_
    7th_February_Channelling_2872.aspx

    โดย: Suzy Ward ผู้รับการสื่อสารทางจิตจาก Matthew Ward<o></o>
    วันที่: วันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธุ์ 2009<o></o>
    โพสต์โดย: Jane<o></o>
    <o>



    ข้อความตอนสุดท้ายนี้ ผมจะตอบข้อสงสัยที่อยู่ในใจของคนหลายคน ที่ถามกันว่า<o></o>
    <o></o>
    “โลกทุกวันนี้จะสามารถถูกเปลี่ยนสภาพ (Transform) ไป อย่างเห็นได้ชัดภายในสิ้นปี 2012 ได้อย่างไร?”

    และผู้อ่านหลายรายก็กล่าวกันว่า
    <o></o>
    “มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรได้รวดเร็วอย่างนั้น หรือไม่ก็ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้เลยด้วยซ้ำ”<o></o>
    <o></o>
    ผมจะขอบอกอีกครั้งว่า เพราะว่าจิตสำนึกมวลรวมแห่งจิตใจที่เติมเต็มด้วยแสงสว่างของพวกคุณทั้งหลายนั่นเอง
    ที่จะเป็นผู้ทำให้มันเกิดขึ้นได้

    ความเปลี่ยนแปลงทุกๆอย่างบนดาวเคราะห์บ้านเกิดของพวกคุณ กำลังดำเนินไปบนทางของพวกมันอยู่
    การเปลี่ยนแปลงสันดานของมนุษย์โลก เป็นสิ่งที่ลึกซึ้งที่สุด

    ดังนั้น ได้โปรดเลิกสงสัยว่าความรุ่งเรืองแห่งยุคทองมันจะเป็นไปได้จริงหรือเปล่าซะที เพียงแต่รู้ไว้ว่ายุคนั้นกำลังจะมาถึงแล้วก็พอ<o></o>

    Golden Age Master Plan

    ในข้อความล่าสุดนั้น ผมได้กล่าวถึงแผนงานหลักสำหรับการเข้าสู่ยุคทองของดาวเคราะห์โลก (Golden Age Master Plan)
    <o></o>
    ซึ่งในแผนงานนี้รวมถึงเรื่องที่ Barack Obama ถูกเลือกให้เป็นประธานาธิปดีสหรัฐด้วย
    เพราะเรื่องนี้ ก็เป็นส่วนประกอบหนึ่งที่สำคัญของแผนการยกระดับขึ้นของดาวเคราะห์โลกด้วย

    และอีกครั้งหนึ่ง ผมจะขออ้างถึงจิตสำนึกมวลรวมว่า แทนที่พวกคุณจะมามัวกลัวว่านาย Obama จะถูกลอบสังหารหรือไม่
    จงรู้ไว้เถิดว่าเขาถูกปกป้องด้วยแสงแห่งพระคริสต์อยู่<o></o>
    <o></o>
    ใช่แล้วครับ นอกจากคำพูดของผมแล้ว มันยังมีตัวชี้บ่งอื่นๆเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยนะ
    เดี๋ยวผมจะใช้โอกาสนี้ตอบคำถามผู้อ่านที่ถามว่า มันมียานอวกาศมาปรากฏเหนือกรุง <st1><st1:state 0="" alt=" border="></st1:state>Washington</st1>, DC
    ในวันที่มีพิธีเปิดตัวประธานาธิปดีคนนี้จริงหรือเปล่า? (วันที่ทำพิธีเปิดตัว = inauguration day – เอาศัพท์มาให้
    เผื่อใครจะเอาไปค้นหาในข่าว ว่ามันมีเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นจริงหรือเปล่า ใครได้ความว่ายังไงก็ช่วยบอกกันด้วยนะครับ – Chayutt)
    <o></o>
    คำตอบคือยานอวกาศลำนั้น ได้มาอยู่ตรงนั้นตั้งแต่ตอนที่ครอบครัว Obama มาถึงที่นั่นแล้ว
    และมันก็ได้ออกจากโหมดพรางชั่วครู่หนึ่ง ในวันที่ 20 มกราคม 2009 เพื่อให้ผู้คนรู้ว่ามันอยู่ตรงนั้น
    และให้รู้ว่ามีกองกำลังป้องกันที่ทรงอำนาจคอยปกป้องพวกเขาอยู่
    <o></o>
    แต่อย่างไรก็ตาม การส่งความห่วงใยมาถึงประธานาธิปดีและครอบครัวด้วยความปราถนาดีและสวดมนต์ให้พวกเขาปลอดภัย
    ก็จะช่วยให้จิตสำนึกมวลรวมดีขึ้นด้วย ดังนั้น แน่นอน จงทำไปเถิด…

    ...ประเทศสหรัฐอเมริกาไม่ใช่ประเทศเดียวในโลกที่คับคั่งไปด้วยภาวะวิกฤติที่จำเป็นต้องแก้ไข
    และทั้งหมดนี้ก็มิอาจทำให้สำเร็จลงในเวลาอันรวดเร็วได้<o></o>

    ดาวเคราะห์โลกของพวกคุณกำลังอยู่ในระหว่างกระบวนการ “เกิด” ดังนั้น ทุกๆชาติบนโลก
    จึงกำลังเผชิญกับ “ช่วงอุ้มท้อง” อยู่ ก่อนที่จะไปถึงช่วง “คลอด” ในลำดับถัดไป
    <o></o>
    แต่อย่างไรก็ตาม เพราะว่าประเทศสหรัฐอเมริกา ถูกมองว่าเป็นประเทศที่มีอำนาจทางเศรษฐกิจและทางการทหารมากที่สุดในโลก

    ดังนั้น ความหวังของโลกจึงฝากไว้ที่มัน<o></o>

    แสงสว่างที่ถูกสร้างขึ้นจากผู้คนทั่วทุกมุมโลก ได้ส่งผลกระทบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นกับประเทศสหรัฐอเมริกา
    และในขณะเดียวกันก็เป็นผลดีต่อทั้งโลกด้วย

    มนุษย์โลกทุกคนล้วนปรารถนาการสิ้นสุดของสงคราม ของการใช้อำนาจกดขี่ การใช้ความรุนแรง และการคอรัปชั่นทั้งสิ้น
    ยกเว้นแต่ผู้ที่ดิ่งจมอยู่ในโลกมืดแบบโงหัวไม่ขึ้นแล้วเท่านั้น
    <o></o>
    และลำแสงสว่างของผู้คนเหล่านั้น ก็จะยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
    จนกว่าผู้คนทั้งโลกจะเป็นอิสระจากความมืดและสิ่งที่ความมืดได้สร้างไว้

    ตอนนี้ กลับมาที่สถานการณ์ของโลกตอนนี้ใหม่
    <o></o>
    สภาวะเศรษฐกิจของโลกจะยังคงดิ่งลงต่อไป จนกว่าสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาจะถูกค้นพบและกำจัดให้หมดไป หรือถูกปฏิรูปไป
    <o></o>
    ขั้นตอนที่จำเป็นอย่างหนึ่ง คือการกำจัดกองทุนเงินสำรอง? (Federal Reserve) ซึ่งเป็นเงินสะสมของธนาคารเอกชนทั้งหลาย
    และธนาคารระหว่างประเทศทั้งหลายก็ดำเนินนโยบายที่สิ้นหวังในฐานะที่เป็นผู้ดูแลผลประโยชน์ของสาธารณชน
    (ตรงนี้แปลไม่ค่อยตรงนะครับ เพราะไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่ก็พอถูๆไถๆไปได้หนะ - Chayutt)<o></o>
    <o></o>
    ระบบธนาคารแห่งสวิสส์ (The Swiss Banking System) ที่คอยปกป้องเงินที่มาจากธุรกิจผิดกฎหมายทั้งหลาย
    จะต้องถูกทำให้จบสิ้นลง และเงินเหล่านั้นก็จะต้องถูกยึดคืน
    <o></o>
    ธนาคารแห่งอังกฤษและธนาคารแห่งวาติกัน ซึ่งเป็นอีกแหล่งหนึ่งที่ครอบครองทรัพย์สมบัติจำนวนมากมายมหาศาล
    ก็จะต้องถูกนำกลับไปให้ประชาชน<o></o>

    เงินกองทุน I.M.F (The International Monetary Fund) ซึ่งได้ข่มขืนเอาทรัพยากรธรรมชาติของชาติต่างๆ
    เพื่อแลกกับการยอมให้เป็นหนี้และการถูกสั่งการ เพื่อกอบโกยผลประโยชน์เข้ากระเป๋าที่ไม่มีวันเต็มนั้น
    ก็จะต้องถูกนำออกจากการเป็นองค์กรณ์ที่ถูกควบคุมโดยนานาชาติ<o></o>

    คลังที่เก็บทองที่ถูกขโมยมา จะต้องถูกเปิดออกและโลหะมีค่านี้จะต้องกลับไปเป็นสิ่งพื้นฐานที่ใช้ในระบบเศรษฐกิจระดับชาติ
    และระดับนานาชาติเหมือนเดิม
    <o></o>
    กฎข้อบังคับทางการธนาคารทั้งหลายที่ออกมาเพื่อเอื้อประโยชน์ต่อการโกงแบบอภิมหาโกง ก็จะถูกยกเลิก
    และกฎหมายใหม่ก็จะออกมาแทน เพื่อป้องกันไม่ให้การโกงกลับคืนมาได้อีก

    <o></o>ธุรกิจยาเสพติดของโลก ที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือระดมเงินทุน เพื่อเอามาใช้ในกิจกรรมที่ชั่วช้าทั้งหลายก็จะถูกยุติลง
    <o></o>
    จงกล้าหาญที่จะรู้ว่าเครือข่ายที่ลึกลับซับซ้อนของความละโมบ การคอรัปชั่น และการหลอกลวงประชาชน
    ภายใต้ร่มเงาของ Illuminati จะต้องถูกแก้ออก

    พวกเราหวังให้พวกคุณเข้าใจว่า พวกเราชื่นชมในความสามารถในการแก้ปัญหา ความเฉลียวฉลาด
    และความมุ่งมั่นร่วมมือกัน แก้ไขปัญหาการล่มสลายด้านการเงินของพวกคุณ<o></o>

    พวกเราไม่แปลกใจเลย ที่พวกคุณสามารถรอดพ้นจากอุปสรรค และสถานการณ์ที่ลำบากชั่วคราวเช่นนี้ไปได้อย่างสร้างสรรค์เช่นนี้
    พวกคุณมีความเข้มแข็งทางจิตวิญญาณมาโดยกำเนิดอยู่แล้ว และพวกคุณก็กำลังทำตามแรงบันดาลใจ
    ที่จิตวิญญาณของพวกคุณส่งมาถึงจิตสำนึกของพวกคุณเองอยู่...<o></o>

    ...ส่วนแผนงานหลักในแนวนอน คือการปลดปล่อยเทคโนโลยีที่ถูกครอบครองมานานโดยองค์กรณ์
    หรือโดยกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่ไม่เคยคิดที่จะแบ่งปันความรู้ของตนเองเลย
    <o></o>
    การผลิตวัสดุที่แข็งแรง ทนทาน แต่ราคาไม่แพง และสามารถนำกลับมาใช้เป้นแหล่งพลังงานใหม่ได้จะถูกเริ่มต้นขึ้น
    <o></o>
    ซึ่งสิ่งนี้ก็จะไปช่วยเพิ่มการผลิตอาหารได้อย่างมากด้วย
    <o></o>
    ภายในระยะเวลา 1 ปี พวกคุณจะได้รับเทคโนโลยีจากอารยะธรรมชั้นสูง ซึ่งจะสามารถช่วยกำจัดมลภาวะในโลกของคุณได้
    และมันจะช่วยสร้างผลลัพธ์ให้เห็นอย่างน่าประหลาดใจ


    (ยังมีต่อครับ)
    ...........................................<o></o></o>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2010
  17. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    คลิปวีดีโอ UFO ที่โผล่ในวันสาบานตน
    <embed src="http://www.disclose.tv/embedPlayer.php?vid=f37baa052ef9fff7d5671e655" flashvars="config=http://www.disclose.tv/videoConfigXmlCode.php?pg=video_16685_no_0_extsite" quality="high" bgcolor="#000000" width="425" height="355" name="flvplayer" align="middle" allowscriptaccess="always" type="application/x-shockwave-flash" pluginspage="http://www.macromedia.com/go/getflashplayer" allowfullscreen="true"><br><a href="http://www.disclose.tv">Disclose.tv</a> <a href="http://www.disclose.tv/action/viewvideo/16685/">Inaugural UFO CNN Analyzed Video</a>

    อ่านที่คุณชยุตโพสมาแล้วรู้สึกว่าไม่ว่าจะเป็นเรื่องทางโลกหรือจะทางคุณธรรม ยังไงก็ต้องให้ประเทศที่เป็นมหาอำนาจมาเปลี่ยนสินะ
     
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    "Barack Obama the Antichrist?"

    [​IMG]

    Golden Age Master Plan

    ในข้อความล่าสุดนั้น ผมได้กล่าวถึงแผนงานหลักสำหรับการเข้าสู่ยุคทองของดาวเคราะห์โลก (Golden Age Master Plan)

    ซึ่งในแผนงานนี้รวมถึงเรื่องที่ Barack Obama ถูกเลือกให้เป็นประธานาธิปดีสหรัฐด้วย เพราะเรื่องนี้ ก็เป็นส่วนประกอบหนึ่งที่สำคัญของแผนการยกระดับขึ้นของดาวเคราะห์โลกด้วย

    และอีกครั้งหนึ่ง ผมจะขออ้างถึงจิตสำนึกมวลรวมว่า แทนที่พวกคุณจะมามัวกลัวว่านาย Obama จะถูกลอบสังหารหรือไม่ จงรู้ไว้เถิดว่าเขาถูกปกป้องด้วยแสงแห่งพระคริสต์อยู่

    คำทำนายเรื่องแอนตี้ไครส์ในคัมภีร์ไบเบิ้ล

    ในระยะเวลาช่วง 7 ปี ก่อนถึง สงครามครั้งสุดท้ายระหว่าง สวรรค์-นรก SATAN จะมีอำนาจมากขึ้น และทำให้โลกเกิดความพินาศอย่างน่ากลัว จากบันทึกมีการกล่าวถึงสัตว์ร้าย 2 ตัว ที่มีหมายเลขประทับที่หน้าผากด้วยเลข 666 สัตว์ตัวแรกมี 7 หัว 10 เขา และมีอำนาจเหนือมนุษย์ทุกผู้ ส่วนตัวที่ 2 ได้รับอำนาจเสริมจากตัวแรก มีอำนาจให้คนทั้งโลกสยบแทบเท้ามัน

    SATAN จะมีอำนาจในโลกอย่างอหังการ์นาน 7 ปี และจะถูกจองจำโดยพระเจ้า ไปนาน 1,000 ปี ซึ่งจะเข้าสู่ช่วงยุคของชาววิไล ยุคแผ่นดินโลกใหม่ แต่หลังจากนั้น มันก็จะถูกปล่อยออกมาก่อกรรมอีก และคราวนี้พระเจ้าจะจับมารซาตาน โยนลงไปในบึงไฟและกำมะถัน รวมทั้งสัตว์ร้ายทั้งหลายที่ปลอมตัวเป็นผู้เผยพระวจนะ จะต้องทนทุกข์ทรมานชั่วนิจนิรันดร์ และนั่นคือวาระสุดท้ายของ SATAN

    ที่มา http://www.o2blog.com

    คำทำนายดวงชะตาโลก

    1. นักพยากรณ์ชาวรัสเซีย ทำนายว่า แกนของโลกจะเอียงลาดไปอีก 30 องศา และเอียงอย่างปัจจุบันทันด่วน มีผลทำให้คาบสมุทรสแกนดิเนเวียทั้งหมดจมอยู่ใต้น้ำ อังกฤษและญี่ปุ่น หายไปจากแผนที่โลก โดยโลกรอดพ้นหายนะครั้งนี้ได้ เนื่องจากมีมนุษย์ต่างดาวเข้ามาให้ความช่วยเหลือ หรือแก้ไขสถานการณ์ที่เลวร้ายให้หายนะลดลง

    2. นักพยากรณ์ชาวโปรตุเกส ทำนายว่า ประชากรของโลกจะถูกทำลายล้างด้วยนิวเคลียร์ และหายนะจากสิ่งแวดล้อม เมืองทั้งหลายจะถูกทลายราบเป็นหน้ากลอง โลกทั้งโลกจะตกอยู่ในทะเลเพลิง

    3. นักพยากรณ์ชาวอินเดีย ทำนายว่า จะมีเหตุการณ์ทำลายล้างครั้งยิ่งใหญ่จะเกิดภัยธรรมชาติ และวิบัติภัยจากการกระทำของมนุษย์ อุทกภัยที่ยิ่งใหญ่ในรอบ 5,000 ปี จะมีแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด และมีการใช้นิวเคลียร์ถล่มเมืองใหญ่ๆ เช่น โตเกียว นิวยอร์ค ซานฟรานซิสโก ลอสแองเจลลีส และบอมเบย์ จะถูกทำลาย คนในเมืองเหล่านี้ตายเกือบหมด

    4. นักพยากรณ์ชาวอเมริกัน ทำนายว่า แกนโลกจะเอียงจากปัจจุบัน 23.5 องศา ไปเป็น 45 องศา จะทำให้สหรัฐอเมริกาพบอุทกภัยครั้งร้ายแรงที่สุด มีคลื่นยักษ์ สึนามิ แผ่นดินไหว และพายุเฮอริเคน จะมีความปั่นป่วนทางการเมือง และทุพภิกขภัย ไปทั่วสหรัฐอเมริกา อันเป็นหายนะที่หนักที่สุดตั้งแต่มีประเทศสหรัฐอเมริกามา

    5. โหรชื่อดังชาวอเมริกัน ทำนายว่า แอนตี้ไครสต์จะปรากฏตัวในปี 2008 และสร้างความเดือดร้อนไปทั่วโลก เป็นเวลา 7 ปี ซึ่งเรียกเหตุการณ์ดังกล่าวว่า "ห้วงแห่งทุกข์เข็ญ" ระหว่างปี 2008 – 2015 (ปี 2551 – 2558)

    มงคล กริชติทายาวุธ
    ประธานชมรมศาสนาและการกุศล

    http://xchange.teenee.com

    เรื่องของนาย Barack Obama คนนี้ผมกำลังสงสัยว่าเขาอาจจะเป็น แอนตี้ไครสต์คนที่ 3 ที่จะมาก่อให้เกิดสงครามนิวเคลียร์ ในคำทำนายของนอสตราดามุส (คนที่หนึ่งคือนโปเลียน โบนาปาร์ด คนที่สองคือฮิตเลอร์) และเป็นสัตว์ร้ายตัวที่สองจากคำทำนายในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลด้วย(ตัวแรกมี 7 หัว 10 เขา น่าจะหมายถึงกลุ่มประเทศ G7 และผู้นำประเทศอีก 10 คนในทวีปยุโรป)

    อีกทั้งคุณชยุตก็บอกเอาไว้แล้วว่า มนุษย์ต่างดาวมีทั้งที่หวังดีและไม่หวังดีกับมนุษย์โลก มนุษย์ต่างดาวกลุ่มที่ไม่ดีต้องการมายึดครองโลกมนุษย์นี้ก็คือ SATAN ในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลนั่นเอง (พระคัมภีร์ไบเบิ้ลเขียนโดยมนุษย์ต่างดาวฝ่ายดี -เกษม-) ดังนั้นเมื่อผมได้อ่านบทความของคุณ แมทธิว วาร์ด ได้กล่าวถึงการปกป้องนายโอบามา ประธานาธิปดีของสหรัฐอเมริกาด้วยแสงแห่งพระคริสต์ด้วยแล้ว มันก็เข้าล็อคพอดีกับคำทำนายในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลที่ว่า จะมีคนแอบอ้างว่าเป็นพระคริสต์นำสันติสุขมาสู่ชาวโลก แต่เขากลับนำหายนะจากภัยของสงครามโลกครั้งที่ 3 มาสู่มวลมนุษยชาติ

    จากการที่โหรชาวอเมริกันทำนายเอาไว้ว่า แอนตี้ไครสต์ จะมาปรากฎตัวในปี ค.ศ.2008 และสร้างความเดือดร้อนไปทั่วโลกเป็นเวลา 7 ปี ซึ่งในปี ค.ศ.2008 เป็นปีที่นายโอบามา ชนะการเลือกตั้งประธานาธิปดีของสหรัฐอเมริกาพอดี -เกษม-
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 สิงหาคม 2009
  19. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ปี 2012 สาส์นแห่งการยกระดับขึ้น – จาก แมทธิว วาร์ด (Matthew Ward)
    สื่อสารทางจิตมาเมื่อ 7 กุมภาพันธุ์ 2009 (ต่อ)
    <o></o>

    ที่มา: http://international.thespiritguides.co.uk
    /Article_2012_-_Ascension_Message_-_Matthew_Ward_
    7th_February_Channelling_2872.aspx

    โดย: Suzy Ward ผู้รับการสื่อสารทางจิตจาก Matthew Ward<o></o>
    วันที่: วันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธุ์ 2009<o></o>
    โพสต์โดย: Jane<o></o>
    <o>


    การเกยตื้นของปลาวาฬ ไม่ใช่เพราะว่าพวกมันไม่เป็นที่ต้องการให้เป็นผู้เหนี่ยวรั้งแสงสว่างบนดาวเคราะห์โลกใบนี้อีกต่อไปแล้ว
    (Anchor light on the planet)
    แต่เป็นเพราะว่ากองทัพเรือสหรัฐทำการทดลองขีปนาวุธในถิ่นที่อยู่ของพวกมัน และทำลายความสามารถ
    ในการใช้ประสาทสัมผัสด้านคลื่นเสียงของพวกมัน
    <o></o>
    มันเป็นผลกระทบจากการตายจากไปของพลังแห่งความมืด (ที่ครั้งหนึ่งเคยส่งพลังมาหล่อเลี้ยงหุ่นเชิดผู้อ่อนแอของพวกเขา
    ให้หุ่นเชิดเหล่านั้นรู้สึกว่าตนเองมีพลังอำนาจ เมื่อตอนนี้พลังแห่งความมืดได้ตายจากไป – Chayutt)
    จึงทำให้หุ่นเชิดผู้อ่อนแอเหล่านั้น รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย จึงต้องทำการทดลองระบบความปลอดภัย
    และฆ่าปลาวาฬเหล่านั้นเพื่อวัตถุประสงค์ทางวิทยาศาสตร์
    <o></o>
    แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสัตว์น้ำที่เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น ปลาวาฬ ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีระดับวิวัฒนาการด้านจิตวิญญาณ
    สูงที่สุดบนดาวเคราะห์โลกดวงนี้ (แปลไม่ผิดหรอกครับ เพราะเห็นเขากล่าวแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว – Chayutt)
    จะตายไปทางกายภาพแล้วก็ตาม แต่พวกเขาก็ยังตกลงกันว่า จะยังคงทิ้งพลังงานของพวกเขาไว้กับดาวเคราะห์โลก
    เพื่อคอยทำหน้าที่เหนี่ยวรั้งแสงสว่างที่ถูกส่งลงมาจากรูปธรรมชีวิตชั้นสูงอยู่ต่อไป

    ผมเคยถูกถามเกี่ยวกับการหยุดนิ่งของโลก และ “3 วันแห่งความมืด”(3 days of darkness)
    <o></o>
    ถ้าแปลตามนิยามของคำว่า “หยุดนิ่ง”(stasis) จริงๆแล้วเนี่ย มันก็คือการหยุด การชะงัก หรือการนิ่ง
    <o></o>
    แต่ว่า “การหยุดนิ่ง” ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ เพราะว่าจักรวาลทั้งจักรวาลยังคงเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา
    และทุกอย่างมันต้องเป็นไปอย่างสมดุลกัน

    ไม่มีอะไรในจักรวาลนี้สามารถนิ่งอยู่ได้ ในขณะที่ทุกสรรพสิ่งในจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้กำลังเคลื่อนที่อยู่<o></o>
    <o></o>
    สำหรับเรื่องสามวันแห่งความมืดนั้น ในประเด็นนี้ มันสามารถเกิดขึ้นได้เฉพาะกรณีที่ดวงอาทิตย์ได้จากระบบสุริยะจักรวาล
    ของพวกคุณไป หรือว่าเกิดมีดวงดาวที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารมากๆมาบังดวงอาทิตย์ไว้เท่านั้น
    <o></o>
    สาเหตุที่ข้อมูลที่ได้รับจากการสื่อสารทางจิต (Channeled Information) จากแหล่งข้อมูล
    และจากผู้รับการสื่อสารแต่ละคน มีความแตกต่างกัน เป็นเพราะว่า
    <o></o>
    1. สาเหตุแรกซึ่งเป็นสาเหตุที่ร้ายแรงที่สุด คือ ผู้รับการสื่อสารบางคน ไม่รู้ว่าตนเองกำลังสื่อสารอยู่กับฝ่ายมืด
    เพราะว่าฝ่ายมืดหรือฝ่ายมารเหล่านี้ มักจะอ้างตัวว่าเป็นใครคนใดคนหนึ่ง ที่เป็นรูปธรรมฝ่ายธรรมะชั้นสูงที่มนุษย์รู้จักกันดี
    แล้วก็สื่อข้อมูลปลอม ปนมากับข้อมูลจริง หรืออาจจะจริง
    <o></o>
    2. แต่ก็ยังมีอีกสาเหตุหนึ่งที่มาจากความรู้ที่ไม่เท่ากันของรูปธรรมชีวิตชั้นสูงฝ่ายธรรมะเองด้วย
    <o></o>
    เพราะว่า ไม่ว่าจะเป็นในโลกของจิตวิญญาณและในโลกที่มีรูปกายทางกายภาพก็ตาม พวกเขาแต่ละกลุ่มแต่ละรูปธรรม
    ก็มีความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆไม่เท่ากัน เช่นเดียวกันกับมนุษย์โลกเองนี่แหละ
    <o></o>
    ดังนั้น ข้อมูลที่มาจาก “ผู้เชี่ยวชาญ” จึงมีรายละเอียดที่ความถูกต้องมากกว่า ข้อมูลเรื่องเดียวกันที่มาจาก “บุคคลทั่วไป”
    <o></o>
    และข้อมูลที่มาจากรูปธรรมที่กำลังมีส่วนร่วมอยู่ในปฏิบัติการการยกระดับขึ้นของดาวเคราะห์โลก ด้านใดด้านหนึ่งเฉพาะ
    ก็จะรู้รายละเอียดของสิ่งที่จะเกิดขึ้นจริงๆกับโลก มากกว่าผู้ที่ไม่ได้ปฏิบัติการอยู่ในงานนั้นๆแต่พอจะรู้เรื่องบ้าง
    หรือผู้ที่ไม่ได้ร่วมปฏิบัติการอยู่ในภารกิจนี้เลย

    <o></o>3. ทัศนคติ มุมมอง และข้อคิดเห็นของผู้ที่สื่อสารมาจากแต่ละสถานี ก็อาจจะมีความแตกต่างกันเองในแต่ละรูปธรรมได้ด้วย
    ก็เหมือนกับมนุษย์โลกนี่แหละ ที่ต่อให้เป็นสถานการณ์เดียวกัน ภารกิจเดียวกัน ก็ยังมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันได้
    <o></o>
    ถ้าพวกเขาไม่นำเอาทุกๆประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสนามพลังงานของดาวเคราะห์โลกที่มีความเป็นไปได้ทั้งหมด
    รวมถึงตัวชี้วัดที่เป็นไปได้ทั้งหมด รวมถึงสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นได้ และสิ่งที่จะเกิดขึ้นแน่นอนขึ้นมาพิจารณาร่วมกันแล้ว
    พวกเขาก็จะไม่สามารถสรุปได้อย่างถูกต้อง<o></o>
    <o></o>
    4. ข้อมูลจากจิตวิญญาณที่อยู่ในระนาบหรือมิติที่ต่ำกว่า แม้ของฝ่ายธรรมะเอง ก็จะไม่ถูกต้องสมบูรณ์
    หรือน่าเชื่อถือเท่ากับข้อมูลที่มาจากรูปธรรมชีวิตชั้นสูงจากระนาบที่สูงกว่า เพราะว่ารูปธรรมชีวิตที่อยู่ในระนาบที่ต่ำๆ
    อาจจะให้ข้อมูลที่ผิดๆมาโดยไม่ได้ตั้งใจ<o></o>
    <o></o>
    5. รูปธรรมชีวิตชั้นสูงบางรูปธรรม ก็มีสไตล์เฉพาะของการสื่อสารโดยใช้ภาษาเป็นของตนเอง ซึ่งจุดนี้ก็อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่ง
    ของความเข้าใจผิดของผู้ที่รับการสื่อสารก็ได้

    ข้อมูลบางอย่างที่คุณอาจจะคิดไปเองว่ามันไม่สมเหตุสมผล แต่ข้อมูลนั้นมันอาจจะเป็นความจริงก็ได้
    <o></o>
    6. และในทุกๆกรณี ก็มีความเป็นไปได้ว่า ข้อมูลต่างๆไม่กระจ่างแจ้งสำหรับผู้อ่านเอง จึงทำให้เกิดการตีความหมายผิดไป
    <o></o>
    เพราะเหตุนี้ พวกเราจึงได้ให้คำแนะนำไว้เสมอว่า หากมีข้อมูลจากแหล่งภายนอกใดๆ ที่คุณยังเข้าใจไม่กระจ่าง
    ให้คุณถามหาคำตอบนั้นกับ “ภายใน” ของคุณเอง เพราะว่าจิตวิญญาณภายในของคุณเอง
    มีความรู้และความจริงที่คุณแสวงหาพร้อมไว้ให้อยู่แล้ว

    ด้วยความรักโดยปราศจากเงื่อนไขของพวกเราที่มีต่อพวกคุณ พวกเรากระตุ้นให้คุณรู้สึกถึงมันเอง
    ไม่ใช่แค่กล่อมให้พวกคุณมองโลกในแง่ดีเท่านั้น เพราะว่าความจริงแล้ว
    เหตุการณ์ต่างๆมันกำลังเปิดเผยตัวมันเองออกมาอย่างรวดเร็ว...

    <o></o>
    ...จงรู้ไว้ว่าพวกเรากำลังเชียร์พวกคุณอยู่...


    """"""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""

    </o>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2010
  20. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    อันนี้ผมก็ไม่ทราบหรอกครับ เดี๋ยวค่อยๆดูกันไปว่าจะเป็นยังไงต่อไป
    ใครน่าจะดี ใครน่าจะร้าย หมายถึง จิตวิญญาณที่สื่อสารมาหนะนะครับ

    แต่มีจิตวิญญาณที่กล่าวถึงโอบาม่าในทางที่ดีหลายรูปธรรมนะครับ

    1. Ashtar ที่สื่อสารกับนาง August ในโพสต์หน้าที่ 18 ที่ผมโพสต์และแปลไว้แล้ว

    2. นาย Matthew Ward ที่สื่อสารมาถึงนาง Suzanne แม่เก่าของเขา

    และคุ้นๆว่าในเวปไซต์ศูนย์รวม Channelling อันนั้น ยังมีอีกหลายแหล่งข้อมูลที่พูดทำนองเดียวกันครับ

    บอกตามตรงว่า ความจริงผมก็ไม่ค่อยไว้ในนาย Matthew Ward นี่เท่าไหร่หรอกครับ

    แต่ที่เอาข้อมูลของเขามาโพสต์เยอะแยะนี่ เพราะมันก็มีอะไรที่ดีๆ
    และมีเหตุมีผล น่าเอามาขบคิดอยู่นะครับ

    เพราะเท่าที่อ่านดูกรายๆนี่ (อันนี้ผมเดาเอาเองนะครับ ไม่มีอ้างอิงใดๆทั้งสิ้น)
    เขาคล้ายๆจะบอกว่าข้อมูลจากหนังสือชื่อ Message to mandkind
    ที่อ้างว่าเป็นข้อมูลที่สื่อสารลงมาโดยพระเยซูคริสต์เองเลย
    ที่ผมโพสต์ไปแล้วเยอะแยะนั่นแหละครับ

    ...อาจจะเป็นพระเยซูปลอม...

    และผมก็กะว่าจะโพสต์ข้อความของนาย Matthew นี่ไปอีกซักโพสต์ สองโพสต์
    เพราะยังเหลือเรื่องที่น่าสนใจอยู่อีกเล็กน้อย


    จากนั้นก็จะไปโพสต์ของคนใหม่ๆ คนอื่นๆอีกสักหน่อย
    ข้อมูลของพวกเราจะได้กว้างขวางขึ้น
    ไม่ยึดติดอยู่กับของแหล่งใดแหล่งหนึ่งจนเกินไป


    และถ้าไม่มีอะไรแทรกเข้ามาอีก ผมก็จะกลับไปแปลของนาย Ivo Benda จากสาธารณรัฐเช็กต่อ
    เพราะยังเหลือสองเรื่องที่ยังไม่ได้แปล แต่คิดว่าจะแปลแค่เรื่องเดียวก็น่าจะพอแล้ว
    นั่นคือเรื่องกลไกการควบคุมของฝ่ายมาร

    เพราะว่าเรื่อง "วิถีทางจิตวิญญาณ" ลำพังหลักการของศาสนาพุทธเรานี่ก็เหลือเฟือแล้ว



    ..........................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2010
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...