เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นเพื่อเตือนสติเท่านั้น ไม่ได้พาดพิงใครทั้งสิ้น

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย AddWassana, 12 สิงหาคม 2009.

  1. AddWassana

    AddWassana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    11,698
    ค่าพลัง:
    +21,186
    เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นเพื่อเตือนสติเท่านั้น ไม่ได้พาดพิงใครทั้งสิ้น


    [​IMG]
    ณ ประเทศสารขัณฑ์แห่งหนึ่ง เป็นเวลาเย็นมากแล้ว แต่เด็กผู้หญิงในชุดฟอร์มผูกโบว์ท่าทางน่ารักก็ยังคงนั่งอยู่บนม้านั่ง
    เธอไม่ยอมขยับตัวไปไหน ดวงตาเหม่อลอยออกไปยังตึกราม
    บ้านช่องที่สูงเสียดฟ้า
    เธอถอดถอนหายใจเป็นระยะ ๆ มีบ่นพึมพัมกับตัวเองเงียบ ๆ
    คนเดียวสองสามครั้ง
    ก่อนจะสะดุ้งสุดตัวเมื่อมีเสียงใครบางเรียกชื่อเธอ
    "ต้อยติ่ง ทำไมเธอยังไม่กลับบ้าน" คุณครูสาวถามเด็กหญิงต้อยติ่งที่สะดุ้งจนสุดตัวเพราะน้ำเสียงแสนดุของคุณครู
    ต้อยติ่งนิ่งไปพักนึง ก่อนจะเหลือบตาไปมองสีหน้าที่เรียบเฉยของคุณครูสาว ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยความเบื่อหน่าย
    "ใครอยากจะกลับไปในที่แบบนั้นกัน มีแต่นิสัยไม่ดี" เ
    ธอทำหน้าอูม ก่อนก้มหน้า และไม่มองคุณครูอีก
    "ใครกันที่เธอคิดว่านิสัยไม่ดี" คุณครูยุพา นั่งลงข้าง ๆ เด็กหญิงต้อยติ่ง เอามือจับไหล่เธอแล้วกล่าวด้วยเสียงเบา ๆ ว่า
    "เล่าให้ครูฟังได้มั้ย"
    ต้อยติ่งนิ่งไปอีกพักนึง เธอเลื่อนมือไปทัดผมที่หูของเธอ
    ก่อนพ่นลมหายใจดังพรืด แล้วเอ่ยว่า
    " ก็แม่น่ะสิ...ครู แม่นิสัยไม่ดี !! " เธอทำหน้ายู่ แล้วพึมพัมต่อ
    อีกว่า "ทำกับหนูแบบนี้ได้ยังไง"
    "คุณแม่เธอทำไร ถ้าตอบแบบไม่มีเหตุผลละก็ ชั้นจะหยิกเธอ
    ให้เนื้อหลุด" คุณครูสาวมีสีหน้าเคืองโกรธขึ้นมาทันที
    "คุณครูคะ เป็นคุณครูจะไม่โกรธหรอคะ ก็แม่เค้าทำลายข้าวของหนู และ ห้ามหนูไม่ให้ไปดูคอนเสิร์ต ทั้ง ๆ ที่หนูเป็นคนเก็บเงินเอง หนูควรจะได้ไปนะ แล้วนี่ก็มาตีหนู หนูไม่ชอบ หนูเกลียดแม่"
    เธอระเบิดอารมณ์ออกมาทั้งน้ำตา สีหน้าโกรธจัด
    "งั้นครูขอถามอะไรเธอหน่อยนะต้อยติ่ง" ครูยุพาถอนหายใจเบา ๆ "ข้าวของที่เธอว่านี่คืออะไร"
    "โปสเตอร์วงดนตรี พวงกุญแจราคาแพง และ แผ่นซีดี !!"
    เธอร้องไห้ไม่หยุดราวกับสูญเสียคนรักไป "กว่าหนูจะเก็บเงินได้ั..นั่นเงิืนหนูนะ !!!"
    "เธอทำงานเก็บเงินเองหรือต้อยติ่ง" ครูยุพาถามเด็กหญิงด้วย
    น้ำเสียงที่ราบเรียบ "เธอแน่ใจหรือ"

    "หนูก็เก็บมาจากค่าขนมที่แม่ให้มา" เธอหยุดนิ่งไปพักนึง..
    "เงินของหนู !!"

    ครูยุพาส่ายหัว หัวเราะ หึ ๆ อยู่ในลำคอ แล้วเอ่ยว่า
    "เธอไม่ได้ทำงานเก็บเงินเองด้วยซ้ำ"
    ต้อยติ่งจะอ้าปากจะพูด แต่ครูยุพายกมือปราม ก่อนจะชิงพูดด้วยน้ำเสียงที่น่ากลัวยิ่งกว่าเดิม

    "เธอเคยคิดไหมว่า สิ่งที่เธอทำมันร้ายจิตใจแม่แค่ไหน ครูว่า.." ยังไม่ทันที่ครูยุพาจะพูดจบ เด็กหญิงต้อยติ่งกรีดเสียงดังลั่น
    "แล้วที่แม่ทำร้ายจิตใจหนูนี่ล่ะ !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!" เธอลุกขึ้น ยืนค้ำหัวครูยุพา สีหน้าโกรธจัด น้ำตาของเธอยังคงไหล "ครูรู้มั้ยว่าหนุอดทนแค่ไหนกว่าจะได้เงินมาซื้อของพวกนี้ ครูรู้ไหมว่า
    หนูรอนานแค่ไหนกว่าวงดนตรีเขาจะมาเล่นที่นี่"
    ครูสาวกระชากไม้เรียวออกมาจากกระเป๋า ตีไปที่น่องของเธอ
    เต็มแรง
    "นั่งลงเดี๋ยวนี้นะต้อยติ่ง ชั้นไม่อนุญาตให้เธอพูดอีกแล้ว ฟังชั้นพูดเดี๋ยวนี้นะ " ครูสาวมีสีหน้าที่โกรธมากขึ้นกว่าเดิม เธอถอนหายใจเสียงดัง
    "เธอรอคอยการมาของวงดนตรีที่เธอชอบมันไม่ผิดหรอกนะ
    แต่เธอไปโกรธแม่แบบนั้นไม่ได้ เธอเคยคิดบ้างไหมว่า
    แม่ของเธอเองก็เคยรอการลืมตาดูโลกของเธอมาตั้ง 9 เดือน ต้องทนแพ้ท้อง ต้องคอยระวังตัว เพื่อใครถ้าไม่ใช่เพื่อเธอ
    ตอนเธอยังเด็ก เธอเคยทำลายข้าวของเสียหาย แม่เธอเคยโกรธเธอนาน ๆ ไหม อย่างมากก็แค่ตีสั่งสอน บางครั้งยังถามด้วยซ้ำว่าเธอถูกของบาด หรือ เจ็บตัวหรือเปล่า แล้วที่เธอแบบนี้
    มันหมายความยังไง แม่เธอต้องอดทนเก็บเงินมากมายแ้่ค่ไหน
    เพื่อส่งเธอเรียนหนังสือ ซื้อข้าวเธอ ให้เงินเธอไปกินขนม
    และซื้อของที่เธออยากได้ แต่เธอกลับทำกับแม่ของเธอ
    แบบนี้หรือ" คุณครูสาวน้ำตาเ่อ่อ "เธอคิดแบบนี้ได้ยังไง"
    ต้อยติ่งนั่งเงียบ สีหน้าอ่อนลงกว่าเดิม น้ำตายังคงไหลไม่หยุด
    "ความเจ็บปวด ความผิดหวังของเธอตอนนี้ เคยเท่าความเจ็บปวดของแม่ตอนคลอดเธอไหม
    ความผิดหวังของเธอตอนนี้ เคยเท่าความผิดหวัง ความเสียใจของแม่เธอบ้างไหม ตอบครูซิ"
    ครูสาวยังคงทำสีหน้าจริงจังใส่ต้อยติ่งที่กำลังนั่งสะอื้นจนตัวสั่น
    "หนูนี่มันแย่จังนะคะคุณครู หนูทำร้ายแม่ได้ยังไง" เธอร้องไห้
    ออกมาเสียงลั่น เสียงร้องไห้ของเธอสะท้อนไปมาในโรงเรียน
    ที่เงียบสงัด
    "ครูว่ามันเย็นมากแล้ว ลุกขึ้นซะ ครูจะไปส่ง" ครูสาวพยุงร่าง
    เด็กหญิงต้อยติ่งที่ัยังคงร้องไห้ไม่หยุดหย่อน เธอเดินตามครู
    ไปขึ้นรถอย่างแช่มช้า สีหน้าวิตกกังวล ไม่นานนักครูยุพา
    ก็ขับรถมาถึงหน้าบ้านของเธอ เธอไม่ยอมลงจากรถ
    ก่อนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงกังวล
    "คุณครูคะ ครูว่าแม่จะยกโทษให้หนูมั้ย.." เธอยังคงน้ำตาไหล ดวงตาเธอแดงก่ำ

    ครูสาวยิ้มอย่างใจดีก่อนตอบว่า "ไม่มีแม่คนไหนโกรธลูกได้
    นานหรอกจ้ะต้อยติ่ง"

    คุณครูกดกริ่งหน้าบ้านในขณะที่ต้อยติ่งก้าวลงจากรถช้า ๆ
    แม่ของเธอก็วิ่งหน้าตาตื่นมาที่หน้าประตูรั้วพอดี
    แต่แม่ก็ยังคงมองไม่เห็นเธอ
    "คุณครูยุพาขา...ต้อยติ่งลุกดิฉัน ยังกลับมาไม่ถึงบ้านเลย
    ฉันเป็นห่วงจะแย่อยู่แล้ว ฉันไม่น่าไปดุ และ ทำลายข้าวของ
    ของแกเลย " เธอร้องไห้ ส่วนครูยุพายังยืนนิ่ง "ฉันเป็นห่วงแก
    ไม่อยากให้แกคลั่งใส่อะไรมาก ๆ พอฉันปรามแกก็ตวาดฉัน
    ฉันก็เลยโมโห ตีแก ทิ้งของแกไปหมด" คุณแม่ของต้อยติ่ง
    สะอื้นจนตัวโยน "ฉันก็แค่เป็นห่วงแก ฉันไม่น่าทำแบบนั้นเลย" ส่วนต้อยติ่งที่ได้รับฟังเรื่องราวก็ถึงกับร้องไห้โฮ วิ่งออกมาหาแม่
    "คุณแม่คะ ติ่งขอโทษ ติ่งจะไม่ทำอีกแล้ว" ต้อยติ่งก้มลง
    กราบแม่ "ติ่งรักแม่นะคะ ติ่งขอโทษค่ะแม่" ผู้เป็นแม่
    เมื่อได้เห็นลูกสาว ก็เขาอ่อน ทรุดตัวลงมากอดลูก แล้วเอ่ยว่า
    "แม่จะไปโกรธติ่งได้ยังไง แม่รักติ่งมากขนาดนี้ ติ่งเอ๋ย
    อย่ากลับบ้านเย็นอย่างนี้อีกนะลูก แม่เป็นห่วง เรื่องเมื่อเช้า
    แม่เองก็ต้องขอโทษด้วยนะ นี่แม่ไปถอนเงินมาแล้ว
    เอาไปซื้อใหม่นะลูก " แม่ควักกระเป๋าสตางค์ออกมา
    ก่อนยื่นเงินจำนวนนึงให้ลูกสาว แต่เธอส่ายหัว
    "แม่จ๋า ติ่งไม่เอาแล้ว ช่างมันเถอะจ้ะแม่ " สองแม่ลูกนั่งกอดกันอยู่ตรงนั้นนานแสนนาน ส่วนคุณครูสาวที่แอบปลีกตัวออกมา
    เงียบ ๆ เมื่อหลายนาทีก่อน เธอขับมาหยุดตรงหน้าสุสานแห่งหนึ่ง ในมือถือพวงมาลัยดอกมะลิพวงสวยที่แวะซื้อที่ตลาดเมื่อครู่
    ติดมือลงมาจากรถด้วย เธอยิ้มเบา ๆ ทักทายสายลมยามเย็น
    ที่พัดผ่านหน้าเธอไป ดอกมะลิส่งกลิ่นอันอ่อนโยนหอมฟุ้ง
    ไปทั่วอานาบริเวณ เธอเดินมาหยุดตรงโกฐหินสีขาวบริสุทธิ์
    ที่มีรูปผู้หญิงวัยชรา หน้าตาใจดีประดับอยู่ เธอวางพวงมาลัยลงตรงหน้าหิ้งหิน ก่อนกราบลงกับพื้นหญ้า
    "แม่คะ..หนูรักแม่" เธอเงยหน้าขึ้นมาพร้อมหยาดน้ำตา
    "แม่จ๋าหนูอยากให้แม่ยังอยู่กับหนูจัง...."
    ทุกอย่างรอบตัวเริ่มมืดสนิทจนแทบมองไม่เห็นอะไร
    ครูสาวค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนอย่างแช่มช้า หลังจากเธอเธอนั่ง
    มองรูปหญิงชราผู้ใจดีมาเป็นเวลานานจนเกือบชั่วโมงได้...
    ใบไม้แห้งร่วงหล่นลงที่พื้น...พร้อม ๆ กับรถคุณครูสาวที่แล่นหายไปจนลับตา...



     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 สิงหาคม 2009
  2. AddWassana

    AddWassana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    11,698
    ค่าพลัง:
    +21,186
    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.667653/[/MUSIC]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. Baby_par

    Baby_par เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2007
    โพสต์:
    2,743
    ค่าพลัง:
    +3,265
    ขอบคุณค่ะ อิอิ
     
  4. โคมฉาย

    โคมฉาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    3,058
    ค่าพลัง:
    +26,744
    เจ้าของกระทู้ต้องรับผิดชอบนะครับ
    ทำผมน้ำตาซึมตั้งแต่ก่อนตี 5
    (cry)
     
  5. tarnaka

    tarnaka สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +13
    อ่านแล้วซึ้ง แอบน้ำตาไหล(ต้องแอบเด๋วใครผ่านมาเห็นจะคิดได้ว่าเราอ่อนแอ)
     
  6. AddWassana

    AddWassana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    11,698
    ค่าพลัง:
    +21,186
    อ้างอิง คุณ tarnaka อ่านแล้วซึ้ง แอบน้ำตาไหล
    (ต้องแอบเด๋วใครผ่านมาเห็นจะคิดได้ว่าเราอ่อนแอ)<!-- google_ad_section_end -->


    ขอโทษนะคะ เจ้าของกระทู้...คิดถึงแม่มาก...ทุกวัน
    เพราะแม่เพิ่งเสียเมื่อมกราคม2552 ค่ะ (cry) (cry) (cry)
     
  7. J.Sayamol

    J.Sayamol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    6,190
    ค่าพลัง:
    +21,530
    เอามาแจกค่ะ..:'(..

    [​IMG]
     
  8. ติ่มซำ

    ติ่มซำ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +0
    ขอบคุณนะคะ
     
  9. Theguardian

    Theguardian สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +0
    อ่านแล้วซึ้ง แล้ว มองย้อน ไป ถึง วัยรุ่นไทยตอนนี้ได้เลย มีอีกเยอะ ที่ รักพวกศิลปิน มากกว่า บุพการรี อีกเยอะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...