บาปบริสุทธิ์

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย แม่ลูกตาล, 21 ตุลาคม 2009.

  1. แม่ลูกตาล

    แม่ลูกตาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    784
    ค่าพลัง:
    +1,206
    <table align="center" border="0" cellpadding="3" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr bgcolor="#ffffcc"><td valign="center"> </td></tr> <tr><td align="center" valign="top"><table border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="95%"><tbody><tr><td class="A2" valign="top"> <table align="center" bgcolor="#f5f5f5" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"><tbody><tr><td>[​IMG]</td></tr><tr><td align="center">
    </td></tr></tbody></table>
    </td></tr></tbody></table></td></tr><tr><td align="center" valign="top"><table border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="95%"><tbody><tr><td class="A2" valign="top">
    มันนานมากแล้ว เรื่องนี้เริ่มต้นที่นี่ ณ บ้านหลังเล็ก ๆ ที่แสนยากจน บ้านหลังนี้มีเพียงเด็กหญิงนฤมล และแม่ของเธอ พ่อของเธอเสียชีวิตไปนานแล้ว และแม่ของเธอก็มีอาชีพขายขนมปรากริมไข่เต่าหาเช้ากินค่ำ ถึงกระนั้นด้วยความเป็นแม่ แม่ของนฤมลก็ยังพยายามส่งเสียให้นฤมลได้ร่ำเรียนในโรงเรียนที่เป็นมาตรฐาน

    นฤมลพูดขึ้นกับแม่ในวันหนึ่ง

    “แม่ หนูอยากได้นาฬิกา”

    “มล บ้านเราไม่ค่อยมีเงินนะลูก แต่เอาเถอะ มันเรือนละเท่าไหร่กันล่ะ”

    “ไม่แพงหรอกแม่ พันสองเอง”

    “พันสอง!!” ผู้เป็นแม่อุทานขึ้น

    “มันไม่ใช่เงินน้อย ๆ เลยนะลูก แม่ว่าเอาไว้ก่อนไม่ดีกว่าหรือ”

    “แม่รักหนูมั๊ยเนี่ย”

    “รัก แต่แม่ไม่มีเงินนะลูก วัน ๆ หนึ่งจะกินก็ยังไม่มีเลย”

    “แต่หนูเกลียดแม่” เธอพูดแล้วก็ปึงปังออกจากบ้านไปโรงเรียน

    ตอนนั้นนฤมลได้เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 แล้ว ด้วยความอายที่แม่ของตนมีอาชีพเป็นแม่ค้าขายขนมหาบเร่ นฤมลจึงกำชับบอกแม่ว่า แม่อย่าไปขายของที่โรงเรียนหนูนะ ผู้เป็นแม่ซึ่งก็เข้าใจกับความอาย แม่จึงไม่ไปขายขนมที่โรงเรียน

    ตอนพักกลางวันของโรงเรียน ในวันหนึ่ง

    “นฤมล มานี่เร็ว มากินของอร่อยนี่”

    “อะไรหรือ” นฤมลก็เดินตามกลุ่มเพื่อนไปอย่างงง ๆ

    “ขนมปลากริมเจ้านี่อร่อยจังเลย ป้าเค้าทำได้หวานมันมากเลยนะ”

    “ไม่เห็นอยากกิน” นฤมลบอก เพราะเธอมักจะต้องกินปลากริมที่เหลือจากการขายทุกวันอยู่แล้ว

    ทันทีที่นฤมลเห็นหาบเร่ของแม่ค้าคนนั้น เธอก็ตกใจอย่างมาก เพราะเธอจำได้ว่า นั่นเป็นแม่ของเธอไม่มีผิดเพี้ยน กำลังนั่งขายขนมให้เด็กนักเรียนอยู่ที่ข้างรั้ว

    “ป้า ๆ มาขายอะไรตรงนี้” นฤมลโวยวาย

    เมื่อแม่เห็นว่าเป็นลูกตัวเองก็เลยรีบเก็บหาบ แล้วก็เดินไป แต่ด้วยความรีบร้อน ทำให้สะดุดล้ม ขนมปลากริมที่เหลือและเงินที่ขายของได้ หกกระจัดกระจายไปทั่วฟุตบาท เมื่อเก็บเงินได้หมดแล้ว จึงรีบหาบหม้อปลากริมหนีไปอย่างเร็ว

    “แม่ หนูบอกแม่กี่ครั้งแล้วว่าอย่าไปขายของที่นั่น หนูอายเค้านะแม่ แล้ววันนี้แม่ก็ไป ถ้าเพื่อนหนูรู้นะ หนูโดนล้อแน่ๆ”

    “มล แถวนั้นแม่ขายของหมดทุกวันเลยนะลูก ลูกอยากได้นาฬิกาใช่ไหมล่ะ แม่เก็บเงินได้เยอะแล้วนะ ลูกจะได้ได้นาฬิกาอันที่ลูกอยากได้ไงล่ะ”

    “แต่แม่ทำแบบนี้ ก็เท่ากับทำให้หนูอายนะ หนูเกลียดแม่ที่สุด”

    วัน รุ่งขึ้น คุณครูของนฤมลก็สั่งให้นักเรียนทุกคนเขียนเรียงความเรื่อง แม่ของฉัน แล้วให้นำมาส่งอาทิตย์หน้า และให้ทุกคนไปบอกแม่ให้มางานวันแม่ที่โรงเรียนทุกคนด้วย

    นฤมล ไม่รู้จะเขียนอะไร...
    นฤมล ไม่สามารถนึกความดีของแม่ที่ให้กับตนได้...
    นฤมล ไม่เคยได้อะไรที่อยากได้...

    เย็นวันนั้นกลับไป นฤมลก็ไปทำการบ้าน และกินปลากริมไข่เต่าที่เหลือจากการขายดังเช่นทุกวัน พลางนึกว่า

    ‘แม่ เราจะมีอะไรดีหนอ รักเราหรือเปล่าก็คงไม่ เราอยากได้อะไรก็ไม่เห็นจะได้ เรื่องนาฬิกามันก็คงไม่จริง แม่ก็คงหลอกให้เรารอ เหมือนของชิ้นก่อน ๆ ที่เราเคยขอ’

    คืนนั้น นฤมลนั่งเขียนเรียงความ นฤมลก็ยังไม่รู้จะเขียนอะไร...

    </td></tr></tbody></table></td></tr><tr><td align="center" valign="top"><table border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="95%"><tbody><tr><td class="A2" valign="top"> <table align="center" bgcolor="#f5f5f5" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"><tbody><tr><td>[​IMG]</td></tr><tr><td align="center">
    </td></tr></tbody></table>
    วัน รุ่งขึ้นแม่บอกกับนฤมลว่า วันนี้กลับบ้านแต่หัววันหน่อยนะลูก แล้วแม่ก็ยิ้มให้ ซึ่งนฤมลก็ทำกริยาบ่นแม่เรื่องนาฬิกาที่หล่อนอยากได้ว่า

    “ทำยังไงแม่ก็ไม่ซื้อให้หนู แม่ไม่รักหนู หนูก็ไม่รักแม่ แล้วจะทำตามที่แม่บอกทำไม”
    แม่ของนฤมลไม่ตอบว่าอะไร ได้แต่ยิ้มให้ลูก

    วันนั้นนฤมลไปเรียนตามปกติ ครูก็ถามว่า ใครเขียนเรียงความไปถึงไหนแล้ว
    นฤมลนั่งเงียบ... นฤมลหาสิ่งที่จะเขียนลงไปไม่ได้... นฤมลไม่รู้สึกถึงความรักที่แม่ให้

    เย็นวันนั้น...

    “นฤมล กลับบ้านกันเถอะ”

    “อืม ไปสิ”

    นฤมลเดินกลับบ้านกับเพื่อนและมองร้านขายนาฬิกาที่อยู่ฝั่งตรงข้าม

    “มล คนเค้ามุงอะไรกันน่ะ”

    “รถชนหรือเปล่า แต่ชนใครที่ไหนก็ไม่รู้ ช่างเหอะ”

    “มล ป้าคนนั้นไงที่ขายขนมที่เราเรียกเธอกินวันนั้นไง ป้าเค้าโดนรถชน”

    นฤมลนึก ‘แม่!!’

    เธอรีบวิ่งไปดูเห็นหาบขนมและไม้คานเกลื่อนกลาด หม้อดินใส่ขนมแตกละเอียด และร่างผู้หญิงที่นอนจมกองเลือดอยู่ตรงนั้น… แม่ของเธอเอง

    “แม่!!!” นฤมลตะโกนออกมาเธออุ้มร่างนั้นขึ้นมาพร้อมกับร้องไห้ฟูมฟายจนกระทั่งร่างนั้นกระตุกและสะอึกขึ้น

    “มล แม่รักหนูมากนะ” พร้อมกันนั้นแม่ของเธอก็ยื่นมือข้างขวาที่กำอยู่แน่นและค่อย ๆ แบมือออก

    ภายในมีนั้นมีนาฬิกาที่เปื้อนเลือดอยู่

    “หนูก็รักแม่ค่ะ”
    แม่ของเธอยิ้มแล้วสะอึก ขาดใจตายไปในที่สุด

    “แม่!!!” เธอตะโกนออกมาอีก
    นฤมลเสียใจมาก ร้องไห้ออกมา มือก็ยังกำนาฬิกาเรือนที่แม่ของเธอซื้อให้ไว้แน่น

    นฤมลรู้สึกได้ถึงความรัก...
    นฤมลรู้สึกได้ถึงความเป็นแม่...
    นฤมลรู้สึกได้ถึงความรักที่บริสุทธิ์...

    หลังจากนั้นนฤมลกลับบ้านไประหว่างทางนั้น เธอก็ร้องไห้ไปตลอดทาง เมื่อกลับมาถึงบ้าน นฤมลมองจานกับข้าวที่เธอกินกับแม่เมื่อเช้านี้...
    นฤมลมองตรงเก้าอี้ไม้ที่แม่ชอบนั่ง...
    นฤมลมองไปที่กระดาษเรียงความ...
    นฤมลรู้แล้วว่า จะต้องเขียนอะไรลงในกระดาษใบนั้น...

    เธอ เขียนเรียงความได้มากที่สุด โดยเธอเล่าถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่แม่ทำให้เธอจวบจนวาระสุดท้ายของแม่ที่จน นาทีสุดท้าย แม่ก็ยังทำเพื่อเธอ...
    และที่วันนี้ไม่มีแม่ ก็เพราะเธอ

    เมื่องานวันแม่มาถึง นักเรียนทุกคนนำแม่มานั่งในที่ ๆ จัดไว้ให้ แต่ที่ที่จัดไว้ให้แม่ของนฤมล ว่างเปล่า...

    เรียง ความของเธอได้รับตำแหน่งที่ 1 ครูจึงได้ให้เธอไปพูดเกี่ยวกับเรียงความชิ้นนี้ นฤมลเดินขึ้นไปบนเวที เธอพูดขึ้น เล่าทุกสิ่งทุกอย่าง เหมือนที่ให้คุณฟัง ผู้ปกครองและทุกคนที่นั่งฟังน้ำตาไหลซึม...
    รวมทั้งเธอด้วย...

    ขณะ ที่เธอพูดเรื่องเรียงความของเธอ นฤมลกวาดสายตาไปทั่วห้องประชุม และพบว่า มีแต่ที่ของเธอเท่านั้นที่ว่างเปล่า ที่ตรงนั้น ณ วันนี้แม่ของเธอควรจะมานั่งและชื่นชมยินดีกับเธอ แต่วันนี้ไม่มีแม่อีกแล้ว

    มีแต่นาฬิกาเรือนสวยที่เธอใส่อยู่
    และเธอสัญญากับตัวเองว่า
    จะรักษานาฬิกาเรือนนี้ เท่าชีวิต..

    </td></tr></tbody></table></td></tr><tr><td align="center" valign="top"><table border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="95%"><tbody><tr><td class="A2" valign="top"> <table align="center" bgcolor="#f5f5f5" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"><tbody><tr><td>[​IMG]</td></tr><tr><td align="center">
    </td></tr></tbody></table>
    </td></tr></tbody></table></td></tr> <tr><td> </td></tr> <tr><td>
    </td></tr> </tbody></table>
    โดย :จิ้มจุ่ม ( สมาชิกไอดีที่ 124883) โพสเมื่อ [ วันอังคาร ที่ 20 ตุลาคม 2552 เวลา 13:15 น.] [​IMG]
     
  2. Banlangboon

    Banlangboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +274
    อนุโมทนากับเรื่องที่ให้ข้อคิดกับลูก ๆ ทุกคนค่ะ
    ตอบแทนคุณและดูแลคุณพ่อคุณแม่ตอนที่ท่านยังอยู่กับเรานะคะ
    อ่านแล้วน้ำตาไหล....
     
  3. kakanang

    kakanang สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +5
    ขอบคุณนะคะสำหรับบทความดีๆ อ่านแล้วคิดถึงแม่เลยค่ะฃาบฃึึ้งมากค่ะขอให้ลูกทุกคนที่ยังมีคุณแม่อยู่รักท่านให้มากๆทานดุด่าว่าอะไรก็อย่าโกรธท่านเลยค่ะท่านทำไปเพราะรักและเป็นห่วงเราเท่านั้นเองค่ะ อนุโมทนา สาธุกับเจ้าของกระทู้ค่ะ
     
  4. nunattja

    nunattja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2007
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +1,035
    อ่านแล้วน้ำตาไหลค่ะ
     
  5. ลุงชาลี

    ลุงชาลี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,958
    ค่าพลัง:
    +4,763
    เราก็ลูกแม่ค้าหาบของขาย ไม่เห็นอายเลย
    ตอนเรียนหนังสือ เลิกเรียนไปรอแม่ที่ตลาด
    เพื่อช่วยแม่หาบของกลับบ้านเป็นประจำ
    าธุ สาธุ ขอโมทนา
    อิทัง ปุญญพลัง อิมินา ปุญญะกัมเมนะ

    ด้วยเดชะบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมาแล้วด้วยดี
    ตั้งแต่ปฐมชาติ อดีตชาติ ปัจจุบันวันนี้
    ข้าพเจ้าขอตั้งจิตกุศลนี้เป็น มหาธรรมทาน
    เพื่ออบรมหนทางความดับ
    ไม่มีเหลือเชื้อแห่งอาวสะกิเลสตน แด่ผู้ใฝ่ในธรรม
    และผู้เคารพเลื่อมใสองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    <O:p</O:p
    ขอส่งผลบุญกุศล อันเกิดจากการนี้
    อุทิศให้ ครูอุปัชฌาย์อาจารย์สืบๆ ต่อกันมา
    พ่อเกิดแม่เกิด ผู้มีคุณผู้สูงชาติ
    ผู้สงเคราะห์โลกพิทักษ์ธรรม ตลอดจน
    เจ้าบุญนายคุณ เจ้าบ่าวนายใช้ เจ้ากรรมนายเวร
    เจ้าเกณฑ์ชะตา เจ้าการบัญชี ทั้งหลายในทุกภพทุกชาติ
    ที่ข้าพเจ้าได้เคยสบประมาทล่วงเกิน และมีสัมพันธ์เกี่ยวข้อง
    ขอจงได้รับขมากรรม อโหสิกรรม และอนุโมทนาบุญให้แก่ข้าพเจ้า
    และกรรมอันใดที่ท่านทั้งหลาย ได้ทำไว้กับข้าพเจ้าทุกภพทุกชาตินั้น
    ข้าพเจ้าขอปวารณาให้เป็นอโหสิกรรมเช่นกัน
    พร้อมนี้ขอให้ท่านทั้งหลายพึงปราศจากทุกข์และมีสุข
    เกิดปัญญาญาณยิ่งๆ ขึ้นไป เช่นเดียวกับที่ข้าพเจ้าได้รับ
    ณ กาลบัดเดี่ยวนี้ด้วยเทอญ
    สาธุ สาธุ สาธุ นะ โม พุท ธา ยะ
    นิพพานัง ปะระมัง สุขขัง
    ขอเชิญร่วมสร้างพระอุปคุต หลวงปู่ทวด วัดนาอุดม อุบลฯ (รับของดีหลายครูบาอาจารย์)<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     

แชร์หน้านี้

Loading...