ความสนุกทางเพศนั้นมีอยู่ แต่เป็นสุขที่มีประมาณน้อย เทียบเท่าของเหลวหลังการมีเพศสัมพันธ์นั่นแหละ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย TupLuang, 15 ตุลาคม 2008.

  1. หงษ์

    หงษ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    474
    ค่าพลัง:
    +821
    เห็นด้วยอย่างยิ่งเจ้าค่ะ อนุโมทนากับกระทู้นี้ด้วยนะค่ะ สุขใดไหนเล่าจะเท่าสุขทางใจมิใช่สุขทางกายเลยเจ้าค่ะ:VO
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 49.jpg
      49.jpg
      ขนาดไฟล์:
      20.8 KB
      เปิดดู:
      65
    • soung50.jpg
      soung50.jpg
      ขนาดไฟล์:
      35.9 KB
      เปิดดู:
      44
  2. hrang_101

    hrang_101 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2009
    โพสต์:
    76
    ค่าพลัง:
    +48
    เห็นทุกข์ของการมีคู่แล้วครับ...ไม่เจอไม่รู้ คิดให้ดีนะครับ
     
  3. Soul Mate

    Soul Mate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +356
    ศีลจะสามารถคุมทุกอย่างได้ค่ะ ขออนุโมทนาบุญกับเจ้าของโพสด้วยค่ะ สาธุ
     
  4. pasit_99

    pasit_99 การเวียนว่ายตายเกิดนั้นน่ากลัว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,673
    ค่าพลัง:
    +3,464
    อนุโมทนาครับ เมื่อวานไปสถานอโคจร
    พบน้องผู้หญิงที่ทำงานอยู่ที่นั่น ไม่เจอกัน 2 เดือน
    คุณพระช่วย ...เธอดูแก่และโทรมจนผมรู้สึกสังเวชใจ
    การเวียนว่ายตรากตรำในกามราคะ ทำลายผู้คนจนสิ้นราศรีถึงเพียงนี้
     
  5. หนูแอ้

    หนูแอ้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    300
    ค่าพลัง:
    +627
    ขออนุโมทนาคะ บทความดีมากๆเลยคะ
    หนูแอ้ก็คิดว่า เมื่อเราได้ศึกษาทางธรรมะ มันเป็นความสุขทางใจที่เราไม่สามารถอธิบายให้คนอื่นฟังได้ แต่เราสามารถรับรู้ได้ด้วยตัวเราเอง มะก่อนเคยคิดว่าคนแก่เค้ามีความสุขกับการไปวัด กับการฟังเทศน์เหรอ เอาเข้าจริงๆ ทุกวันนี้ต้องไปวัดทุกเช้าในวันพระ และต้องฟังพระเทศน์ก่อนนอนทุกวัน ....

    จนถึงตอนนี้หนูแอ้กลับกลายเป็นคนคิดว่า ความสุขทางการเสพกาม มันเป็นอะไรที่ทำให้เราทุกข์มากๆ เพราะมันจะทำให้เราไปยึดติดกับคนๆนั้นว่าเป็นของเรา จนทำให้เราเองเป็นทุกข์ หากว่าวันนึงทุกอย่างไม่ได้เป็นไปอย่างที่ใจเราคิด ..

    ตอนนี้หนูแอ้หาความสุขให้ตัวเองเจอแล้วคะ .. สุขอย่างบริสุทธิ์ใจ และอิ่มใจทุกครั้งที่นึกถึง ขอบคุณที่ได้เกิดมาในประเทศที่นับถือศาสนาพุทธ และขอบคุณที่ตัวเองได้ศึกษาเข้าหาทางธรรมคะ =^.^=
     
  6. HS4OFL

    HS4OFL เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,112
    ค่าพลัง:
    +1,382
    อ่านแล้วรู้สึกดีมากๆเลยครับ อนุโมทาครับ
     
  7. EakChutidet

    EakChutidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +856
    ขออนุโมทนากับทุกท่านทุกรูปทุกนาม การละ และวาง ได้นั้นเป็นสิ่งทีดี คือละว่างซึ่งกิเลศ และสิ่งทีทำให้เกิดและก่อให้เกิดกิเลศได้นั้นดีทั้งนั้น เราควรระลึกไว้เสมอว่าเราอาจตายได้ทุกลมหายใจเข้าออก เราอาจตายได้ทุกขนาด ทุกสิ่งนั้นมันไม่เที่ยง ความตายสิเที่ยงแท้ เราต้องตายกันทุกคนทุกท่าน หากเราเข้าใจ และวางมันได้ เราก็จะสามารถตัดซึ่งกิเลศทีก่อให้เกิดทุก ขอให้นึกถึงอสุภกรรมฐานเป็นทีตั้ง พึงนึกเสมอร้างกายเรามันเป็นแค่ซากศพ มีแต่ขี้ มีแต่น้ำหนอง มันไม่มีดีเอาเสียเลย แล้วเราจะละกิเลศตัวนี้ออกจากจิตรออกจากใจได้เองโดยบริยาย ขออนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ
     
  8. phrapuwadon

    phrapuwadon "จงเป็นผู้ให้ที่ดี...เมื่อมีโอกาส"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    500
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +2,185
    "ขอให้เธอทั้งหลายจงนำเอาธรรมโอสถขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    คือ วิปัสสนาและกรรมฐาน ปราบกิเลสทั้งหลายให้หมดสิ้นไป......."
     
  9. deneta

    deneta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    2,712
    ค่าพลัง:
    +5,723
    ก็เพราะมันเป็นทั้งความต้องการทั้งทางกายและใจ จึงเป็นเรื่องยากที่จะหลุดพ้นจากมัน แต่เราควรควบคุมมันได้ อนุโมทนาสาธุครับ
     
  10. Readome

    Readome เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +130
    กายนี่มันเป็นเพียงร่างสมมุติเฉยๆน่ะ ไม่ใช่ตัวตนของเรา ตัวตนของเราคือจิต
    บางคนหากคิดแต่กายอย่างเดี๋ยวก็จะมีความสุขคือกายและใจ หากถามว่าคนเรา
    ร่างกายสกปรกหรือมีลูกมีครอบครัวหรือมีเพศสัมพันธ์อะไรแบบนี้ เหมือนกับมนุษย์ทุกคน
    หากจะถามว่าเขากลับมาปฏิบัติธรรมบรรลุธรรมได้ไหม คำตอบคือได้เพราะตอนนี้เขาไม่ได้
    ห่วงกายแล้ว เขาเริ่มมาห่วงจิตใจของเขา บุคคลเหล่านี้เขาจะผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อนเรา
    และเมื่อปฏิบัติธรรมแล้ว เขาจะล่ะได้ก่อนเราเพราะรู้ว่า จิตมันรู้แล้วว่าที่ผ่านมาใจเราต้องการ แต่ตอนนี้เราไม่ต้องการกายเราแล้ว เราต้องการจิตใจของเราที่จะสู่มรรคสู่ผล
    บุคคลทั้งหลายเหล่านี้จะเริ่มฝึกจิตและรับรู้ใน ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ได้ดีเพราะเขาเริ่ม
    ฝึกจิตให้มันรู้แล้วว่า สิ่งที่เคยทำมันก็เคยนี้ ไม่ได้มีความสุข เพราะตอนนี้เขาบังคับจิตเขาได้ แล้ว กายเรามันก็เหมือนกับ หุ่นยนต์ตัวหนึ่ง ที่โดนกำลัง โดยรีโมท คอนโทร ที่มาจาก
    การฝึกฝน บำเพ็ญจิตของเขาเอง ฉะนั้นขอให้ท่านทั้งหลาย จงคิดและพิจารณาว่า
    กายสัมผัสอะไร หรือสำผัสสิ่งไหน มันเป็นไปตามธรรมชาติ วันไหนความรู้สึกมันหมดเอง
    มันจะเข้าใจเองว่า อ่อที่ผ่านมามันเป็นไปตามธรรมชาติ
    แต่ตอนนี้ถึงเวลาที่กายเขาเราเสื่อมสภาพ ความต้องการมันไม่มี แล้วถึงตอนนี้กายจะไม่สำคัญ ความนึกคิดแต่ก่อนก็จะไม่เกิด มันจะเกิดอารมณ์แห่งความรู้แจ้งของจิต เราจะเริ่มเข้าใจจิตใจมากยิ่งขึ้น คราวนี้ถึงฟังธรรมะก็จะเข้าใจ เพราะความคิดเราจะไม่โต้แย้ง
    เพราะมันเคยขึ้นกับตัวเราแล้ว เราจะเข้าใจและเริ่มที่จะ ล่ะ วาง ปล่อย ได้ อย่างไม่ต้อง
    มีใครเทศน์ใครบังคับ เพราะธรรมะไม่ได้ฟัง ด้วยหู ไม่ได้เห็นด้วยตา แต่เข้าใจด้วยจิต
    และรับรู้ด้วยความคิดได้ ระลึกได้ แจ่มแจ้ง และจะเข้าใจมากยิ่งขึ้นน่ะ นี่แหล่ะ ปัจจัตตัง
    ฉะนั้น คนที่อ่านหนังสือธรรมะ ปฏิบัติธรรม แต่ล่ะกามตัญหาไม่ได้ ไม่ใช่เรื่องแปลก
    แต่คน ที่ เคยเสพสมในกาม ตัญหา และ หันมาปฏิบัติธรรม ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
    เสพกาม เหมือนกินข้าว เปลี่ยนรสชาติไปวันๆ เวลาทานข้าวเรายังทานเองไม่มีใครป้อน
    แต่เวลาเราอิ่ม เรารู้จักความเพียงพอของเราเอง ความล่ะ การเบื่อหน่ายก็จะเกิดขึ้นกับตัวเราเอง โดยไม่ต้องมีใคร มาบอก มาแนะนำ และ เราไม่ต้องไปถามใครว่า ผมกินข้าวอิ่ม
    หรือยัง เพราะการอิ่ม การรู้จักพอ ใครบอกเราไม่ได้ เราจะรู้และมีความอิ่ม และรู้จักพอ
    ของเราเอง อย่าบังคับตัวเอง เหมือนกับปิดจมูกตัวเองไม่ให้หายใจ
    เหมือนเวลาเรานอนหลับ ใครบังคับให้เราหลับตาหล่ะ ฉะนั้นสักวันเรื่องนี้จะหยุดด้วยตัวของมันเอง 84000 พระธัมขันธ์ คือจิตตัวเดียว สิ่งที่ว่าไว้ในพระไตรปิฏกมันออกมาจากจิตของ
    ผู้ที่ปฏิบัติธรรม และรู้แจ้ง เห็นจริง และเข้าใจในสภาวะกายธรรม จิตธรรม เท่านั้น
    ไม่ได้ไปคัดลอกมาจากไหน ทั้งสิ้น เพราะปัญญา ไม่ได้เกิดจากตำรา แต่ปัญญาเกิดจาก ปัญหาของมนุษย์ และหาทางแก้ไขจนหลุดพ้น และเข้าใจในปัญหา
    นั่นแหล่ะปัญญา ถึงจะเกิด (อนุโมทนาสาธุ)
     
  11. คนมีกิเลส

    คนมีกิเลส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,973
    ค่าพลัง:
    +19,431
    ทั้งๆที่รู้ ว่ากามนั้นสุขน้อย ทุกข์มาก แต้เราก็หากลัวไม่ ดิ้นรนเข้าไปหาสุขอันน้อยนิดนั้น ขอให้ได้มาเสพ ขอให้ได้มาครอบครอง แล้วก็ติดหล่ม.....เวรกรรมจริงๆ

    สิ่งที่มนุษย์ไม่มีวันอิ่มวันพอ พระพุทธองค์ตรัสไว้ คือ
    1. กิน
    2. นอน
    3. เสพกาม
     
  12. ทวินบี

    ทวินบี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +26
    พูดง่ายแต่ทำยาก เพราะความต้องการ(กิเลส)มันมาเหมือนคลื่นที่กระทบฝั่ง ถ้าภาษาชาวบ้านก็ เบื่อๆอยากๆ อะไรทำนองนั้น ฉะนั้นจงอยู่อย่างมีสติ อย่าปล่อยให้จิตไหลไปตามอารมณ์หรือพยายามรู้ให้ทันจิต อย่างน้อยก็จะทำให้ความผิดพลาดในการตัดสินใจกระทำบางอย่างถูกต้องมากขึ้น ก็ถ้ายังเป็นฆารวาสอยู่มันยากที่จะหลีกพ้นว่ามั๊ย...เอวัง
     
  13. begn_

    begn_ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +71
    โดนใจเช่นกันครับ
     
  14. playroom69

    playroom69 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2008
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +13
    เพิ่งรู้ซึ้งถึงการยึดติดในกาม..ทุกข์ทั้งกายและทุกข์ทั้งใจจริงๆ ตอนนี้ก็เริ่มปล่อยว่างแล้ว รู้สึกได้ถึงเส้นทางที่แตกต่างจากอดีตที่ผ่านมา ..ไม่เจอความทุกข์ก็คงไม่รู้จักความสุขที่แท้จริง
     
  15. เขตปกครอง230

    เขตปกครอง230 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    463
    ค่าพลัง:
    +324
    มาทวนกระแสกันเถอะ...
     

แชร์หน้านี้

Loading...