ปรึกษาปัญหาสารพัดโรค ด้วยหลักการแพทย์แผนไทย / วิธีฝึกและใช้พลัง(ปราณยาม)ในการรักษาโรค

ยังติดใจเรื่องชา+มะนาวอยู่
ใช้เวลาต่อเนื่อง ครึ่งคืนกับอีกค่อนวัน ตรวจเช็คเรื่องชามะนาวในรูปแบบต่างๆ และชนิดของชา
สรุปเลยนะ ได้ความว่า

๑. น้ำชา(ไม่ว่าจะเป็นชาแบบใหนก็ตาม) และน้ำมะนาว ไม่อาจแยกกันกินได้ กล่าวคือ
กินน้ำมะนาวก่อนสักพัก แล้วกินชาตาม หรือกินสลับกัน
กรดและด่างจากมะนาวและชาจะไปทำปฏิกริยากันในกระแสเลือด จะมีการตกตะกอนของสารบางอย่าง และสารเหล่านี้จะไปจับที่เนื้อไต และกล้ามเนื้อ
เกิดนิว ในเนื้อไต กรวยไต และในกระเพาะปัสสาวะ และปวดเมื่อร่างกย

ในคนที่มีความสมดุลของธาตดี และมีไฟธาตุสมบูรณ์
ไฟธาตจะสลายประเมหะ(ตะกอนที่ตกผลึก)เหล่านี้ และขับทิ้งไปได้ทางอุจจาระ ปัสสาวะ ได้โดยง่าย
หากวันใดร่างกายเสียศูนย์ ธาตุไฟตก ด้วยเหตุใดก็แล้วแต่
ผลึกประระเมหะเหล่านั้นก็จะตกค้างและจับตัวกันเป็นสะเก็ดเป็นก้อน ในระบบต่างๆของร่างกาย
หากร่างกายผิดปกติ ธาตุไฟไม่สมดุลย์เป็นประจำ(ธาตุไฟอ่อน)
ผลึกประเมหะเหล่านี้ก็จะพอกตัวขึ้นเป็นลูกเป็นก้อน และก่อโรคให้ร่างกายนานับประการ

ดังนั้นการแยกกันกิน ระหว่างน้ำชาและมะนาว จึงไม่สมควรอย่างยิ่ง
และตรวจเช็คแล้ว จักรสุขภาพหมุนย้อนกลับ นั่นคือสุขภาพค่อยๆแย่ลง
นั่นคือตายผ่อนส่ง

 

๒.ถ้าเราเอา น้ำชาผสมกับน้ำมะนาวก่อน แล้วจึงดื่ม จะมีปัญหาหรือไม่

ตามที่รู้กัน การกินน้ำมะนาวผสมน้ำร้อน แล้วดื่ม จะลดไขมันพอกตับได้
ตรวจเช็คแล้ว ลดได้จริง
แต่ค่อนข้างช้า ไม่น่าสนใจ

และชาเขียว ดื่มร้อน จะลดไขมันในโลหิตได้
เรื่องนี้ก็จริง ยิ่งจัดเวลาให้เมาะ ยิ่งช่วงท้องว่าง(ระหว่างเวลา สายๆ หรือตอนบ่ายๆ) จะยิ่งเพิ่มการเผาพลาญพลังงานจากไขมันได้ดี
แต่ก็เป็นไปอย่างช้าๆ

หากนำสมุนไพรทั้งสองชนิดมากินร่วมกันจะไม่ยิ่งดีหรือ
ได้ทดสอบ นำน้ำมะนาวและน้ำชารวมกันในแก้ว แล้วทิ้งไว้สักครู่
แล้วทดสอบพลังยาดูว่าจะขับและสลายไขมันได้หรือไม่

โอ้โห้เฮะ.....
พลังยาได้แสดงอานุภาพการสลายไขมันให้เห็น(ในจิต)ได้เป็นหลายทบเท่าทวีคูณ อย่างน่าตกใจ
สุวิเคยผสมสมุนไพร อย่างน้อยตั้งห้า-หกตัว จึงจะสลายไขมันได้เมากและเร็วขนาดนี้

สรุป
น้ำมะนาว + น้ำชา จะสลายไขมันได้ดีมากๆ
การลดไขมันได้ขนาดนี้ มันคือยาดีๆนี่เอง
แล้วมันรักษาอะไรได้มั่งหว่า

ได้ทดสอบโรคหลายชนิดที่ น้ำชามะนาวรักษาได้ดี
๑. โรคไมเกรน อันเกิดจากเส้นโลหิตฝอยตีบตันและเลือดข้น ทำให้การไหลเวียนโลหิตในศีระษะไม่ดี
(ใช้น้ำมันปลา โอเมก้า3 เป็นตัวเสริม จะหายเร็วขึ้น)
๒. โรคบ้านหมุน (มีน้ำมันปลา โอเมก้า3 และยาหอมพิพย์โอสถ เป็นยาช่วย)
๓.โรคเสียงรบกวนในหู(มีน้ำมันปลา เป็นยาช่วย)
๔. และโรคอันเกิดจากไขมันอุดตันในเส้นเลือดในระบบต่างๆ (ยกเว้นโรคที่มีสภาพเป็นกรด)

สรุปนับเป็นยาที่ดีมากตัวหนึ่ง และมีผลข้างเคียงน้อย (ต้องผสมกันก่อนนะ ห้ามกินแยก)

 

๓. ใบชาที่จะใช้ ใช้อะไรจึงจะได้ยาดีที่สุด

สุวิได้ทดสอบชาหลายๆชนิดเท่าที่นึกออก
ชาจีน อูหลง ฯลฯ
ชาเขียว
ชาดำ
ชาแดง
ชาฝรั่ง
ฯ

ได้ผลดังนี้
๑.ที่ดีที่สุดคือชาเขียวของญี่ปุ่น และชาดำของจีน
๒.ชาแดง
๓.ชาฝรั่ง
๔.ชาจีนทุกตะกูล(ยกเว้นชาดำและชาแดง) ไม่ว่าจะเป็นอู่หลงหรืออะไรก็แล้วแต่ ล้วนมีสรรพคุณใกล้ๆกัน (แนะนำใช้สามม้าเบอร์ ๓ ก็แล้วกันหาง่ายดี

ส่วนมะนาวคงไม่ต้องทำการพิสูจน์

และแนะนำให้
ชงดื่มตอนร้อน-อุ่นๆ จะได้ผลดีที่สุด

 

ถ้าอีหลู จะทำกินนะ ปูจะให้สูตรไว้ตัวหนึ่ง
ปูตั้งชื่อไว้ว่า
ยามะรุมทอง
ใครก็ตามที่เอาสูตรนี้ไป ทำใช้ ทำขาย หรือทำกิน
ขอให้ทุกคนเคารพ เจ้าของยา และใช้ชื่อเดียวกันหมดว่า มะรุมทอง
ยาตัวนี้ได้แก้ไขปัญหาจากมะรุมไว้แล้ว ทุกคนใช้ได้ด้วยความสะบายใจ
๑ ตรีผลาอย่างละ ๑ ส่วน
๒. พริกไทย ๑ ส่วน
๓. มะรุม ๑ ส่วน

ยาสูตรนี้นอกจากจะลดไขมัน/ลดความอ้วนได้แล้ว
มันยังสามารรักษาโรคอันเกิดจากเส้นโลหิตฝอยตีบตันได้หลายโรค

โรคที่อีหนูเป็นอยู่ ใช้มะรุมทอง+ยาปลาหมอทอง(พิเศษของปู่)
ก็รักษาได้มากกว่าครึ่งแล้ว

เฮ้อ....
เคยเขียนไว้ว่า ยามะรุมมีปัญหา หากรู้แล้วจะหนาว
แล้วเขียนทิ้งค้างไว้ ว่าจะมาอธิบายว่า หนาวสุดขั้วหัวใจแค่ใหน

แต่ให้มีเรื่องของยาหมอสุวิหลายตัวต้องแท้งไป ก็เพราะไอ้เจ้ามะรุมนี้
และไปได้ยาใหม่ที่ฟ้าประทานให้ (มณีฟ้าประทาน)
เลยลืมเขียนเล่าถึงปัญหาของมะรุมไป
มาเรามาฟังกัน (อยากรู้ว่าหากท่านรู้แล้วจะหนาวไหม)

 

จักรที่ 3 ของผมเจริญเติบโตเร็วมากครับจารย์

โตวันโตคืน 5555555 มาหาสูตรเด็ด พิชิตพุง

 

เมื่อสองเดือนก่อน สุวิ ผสมยาได้หลายตัว
กระชายทองนพคุณ๒
ยาแก้ภูมิแพ้เบอร์4
ผลาธิกะ8
ปลาหมอทอง
และมณีนพเก้า
แต่ละตัว สุวิตรวจเช็คแล้วว่ามันรักษาโรคได้สุดยอด ล้วนเป็นโรคแปลกๆที่เหล่าแพทย์ถอนใจ
และยาสี่ตัวแรก ล้วนเป็นยาที่มีส่วนผสมของมะรุมทั้งสิ้น
แล้วก็ส่งเข้าโรงงาน เพื่อทำ

เมื่อได้ยาดีมันต้องอวดกัน เลยเอาชื่อยาไปอวดกัย อ.ตาที่สาม
ยายังทำไม่เสร็จ และมีไม่กี่คนที่สามารถตรวจสอบยาที่มีเพียงชื่อได้ อ.ตาที่สามคือหนึ่งในพวกนี้

เมื่อเราตรวจสอบกัน โอ้โห้... ยาดีมักๆๆๆๆ
มันสามารถรักษโรคที่สุวินึกไม่ถึงได้อีกตั้งหลายโรค
กำลังกระดี้กระด้ากันอยู่ ก็ให้เหลือบเห็นเงาแวบๆแทรกเข้ามา สุวิดูไม่ออกว่าเป็นใคร
อ.ตาที่สาม อมยิ้ม แล้วทักเรื่องยาทันทีว่า
เห็นละอองสีขาวกึ่งขุ่นกึ่งใส ปลิวว่อนอยู่ในตัวยา แล้วละอองที่ว่าปลิวลงจับอวัยวะต่างและกล้ามเนื้อและไขข้อในกายมนุษย์
และฉับพลันภาพก็เปลี่ยนไป เป็นภาพกระเพาะอาหารที่เป็นแผล แล้วแผลค่อยๆลามทะลุเป็รรูโหว่
หลังจากนั้นก็เงียบสนิท

อ.ตาที่สามถามสุวิว่าใครมารู้เป่า สุวิตอบไปตามตรงว่าเห็นแวบๆไม่รู้เป็นใคร
แกเฉลยว่า งานนี้ ท่านปูโกมารภัจจ์ ท่านมาเองเลย
มาเพื่อแสดงให้รู้ว่า ยาที่กำลังกระดี้กระด้า ทดสอบกันมีปัญหา ข้างเคียงที่นึกไม่ถึง

ไอ้เจ้าละอองสีขาวที่เห็นเป็นผลึกสารอย่างหนึ่งที่มาจากยา
เมื่อจับกับกล้ามเนื้อ จะทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยลึกๆ และกล้ามเนื้อลีบ
หากจับที่ข้อกระดูกก็จะทำให้ปวดข้อหมือนเป็นเก้าเก้าส์
หากจับกับเนื้อไต ก็จะทำลายเนื้อไต เป็นไตวาย
หากกินนานไป ผู้ที่เป็นโรคกระเพาะ ยาก็จะกัดให้กระเพาะทะลุได้

ผลสรุปครั้งนี้ ทำเอาหมอสุวิ หนาวสะท้าน กินไม่ไม่นอนไม่หลับไปหลายคืน
และใช้เวลา วิจัยตัวยาอยู่หลายวันจึงสรุปได้ว่า
ปัญหาทั้งหมดเกิดจากสมุนไพรเพียงตัวเดียว คือ มะรุม

และยาที่คิดทำ เมื่อเอามะรุมออก ปัญหาข้างเคียงที่เกิดก็ไม่มี
แต่สรรพคุณแปลกๆก็ลดลงไปมากๆโข

งานนี้สุวิกราบงามๆขอบคุณ ปู่โกมารภัจจ์ อย่างสูงสุด
ไม่งั้นงานนี้ ยาออกจากโรงงานมา สุวิคงทำบาปไปมากโข

ยาทุกตัวถูกระงับการทำ
เหลือเพียง มณีนพคุณ เพียงตัวเดียวที่คลอดออกมาได้

และท่านอาจเห็นสุวิมีใจเป็นกุศลเพื่อเพื่อนมนุษย์อย่างแท้จริง
ท่านจึงประทานยา มณีฟ้าประทาน ให้สุวิเป็นการปลอบใจ

 

มีสุภาพสตรีที่เคารพท่านหนึ่ง ท่านอายุ 70 ปีแล้ว เป็นภูมิแพ้มาตั้งแต่เด็ก ปัญหาที่รบกวนใจคือเสียงเธอจะแหบแห้งมากเป็นครั้งคราว อยากทราบว่ามียารักษาให้ทุเลา หรือหายหรือเปล่าเจ้าค่ะ

 

คือเป็นสิวคับ ที่ใบหน้า หลังก้เป็น อกก้เป็นคับ แต่ที่หน้าจะเยอะกว่าที่อื่นเลย

จะทำอย่างไรดีครับ

 

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ deejaimark
กลับเอาเรื่องเหงือกปลาหมอมาคุยอีกครั้งคะ...

เนื่องจากว่า ได้ปรุงยาสูตรนี้กินแล้ว...3 วัน...

ต้องรอติดตามผลต่อไป ว่า กินไป 1 เดือน จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง

แต่เท่าที่กินมา...จะเหมือนผิวหนังมันตึงๆๆ ทั้งตัว..คะ

..............................................................................................
สูตรนี้ล่ะ...แต่ไม่ต้องเคี่ยวไฟนะคะ...
แค่เติมน้ำผึ้งแล้วผสมให้เป็นเนื้อเดียวกันก็พอ...1 กก...ทำได้เยอะมาก..


อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ deejaimark
พูดถึงเรื่องเหงือกปลาหมอ ก็พอดีนึกได้คะว่า
มีโยคีตาไฟท่านนึง ท่านปรุงยากินมานานแสนนาน
ทั้งๆๆ ที่ตอนนี้ ท่านอายุ 97 ปีแล้วมั๊งคะ(ยังมีชีวิตอยู่คะ)
แต่ สุขภาพ ยังแข็งแรง ความจำดีมาก
แถมยังดูหนุ่มเหมือนคนอายุ 60 ต้นๆๆ
โรคชรา ปวดแขน ปวดขา ปวดเมื่อยตามตัวแทบจะไม่มี
เดินเหิรสะดวก เดินทางต่างจังหวัดบ่อยด้วย
ท่านบอกว่า กินยาสูตรนี้มา 40 กว่าปีแล้วคะ

ส่วนผสมนะคะ

พริกไทยป่น 1 ส่วน
เหงือกปลาหมอ 2 ส่วน
น้ำผึ้ง
วิธีทำ
ผสมตามส่วนที่กล่าวมา ใส่น้ำผึ้งพอให้ปั้นเป็นก้อนได้.
..ยิ่งใส่น้ำผึ้งเยอะยิ่งดี

เก็บใส่ขวดโหลไว้ กินได้นาน ไม่มีหมดอายุ

วิธีรับประทาน
รับประทานเช้า - เย็น ครั้งละ 1 ก้อน...หรือ หยิบเข้าปากบ่อยๆๆ ก็ได้คะ


................................................................................
บันทึกบาปและกรรมของข้าพเจ้า

</TD></TR></TBODY></TABLE>
ฮ้า ห้า....
ตรงกะสรรพคุณ ข้อที่ ๑๗

เหงือกปลาหมอที่ใช้ ต้องเป็นเหงือกปลาหมอนานะ
ถ้าใช้เหงือกปลาหมอทะเล สรรพคุณลดไปอื้อเลย


อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ suwi
๑๗. ถ้าจะให้เจริญอายุ ท่านให้เอาเหงือกปลาหมอ 2 ส่วน พริกไทย 1 ส่วน ตำผงละลายน้ำผึ้งรับประทานทุกวัน<O</O

รับประทาน 1 เดือนจะหมดโรค จะมีสติปัญญาดี
รับประทาน 2 เดือนจะเป็นที่เมตตาแก่คนทั้งหลาย<O</O
รับประทาน 3 เดือน ริดสีดวง 12 จำพวกหาย
รับประทาน 4 เดือน ลม 12 จำพวกไม่มีเลย ตาแดงดังตาครุฑ หูได้ยินดังราชสีห์
รับประทาน 5 เดือน โรคภายในจะหมดสิ้น<O</O
รับประทาน 6 เดือน จะเดินได้วันละพันโยชน์ ไม่เหนื่อยเลย
รับประทาน 7 เดือน ผิวจะผุดผ่องสวยงามดี
รับประทาน 8 เดือน เสียงเหมือนนกการะเวก
รับประทาน 9 เดือน คมหอกดาบแทงไม่เข้าเลย</TD></TR></TBODY></TABLE>

มารายงานผล หลังจากที่กินมาได้ระยะหนึ่ง...
ตอนที่กินวันแรกๆๆ จะรู้สึกร้อนทั้งตัว มีเหงื่อซึมออกมาใต้ผิวหนังคะ...
มันทำให้กระชุ่มกระชวยดี....

ตอนนี้ ทุกครั้งที่กินก็ยังเป็นอยู่....คงต้องรอดูผลอีกสักระยะคะ...

แต่คุณแม่บ้าน...เค้าเดินผ่านก็หยิบกินเป็นประจำ..ประมาณว่า คุณเธอ ไม่อยากแก่...ก็เห็นเค้าบอกว่าดี...รู้สึกว่า ผิวมันเต่งๆๆ ดี....

อืม..อันนี้ ถ้าใครสนใจ ก็ทดลองทำกินดูนะคะ...กินง่าย และกินได้เรื่อยๆๆ คะ...

อ้อ...ที่สำมะคัญ รู้สึกว่า จะทำให้น้ำหนักตัวหายไปด้วยนะคะ...เย้

( ทำเสร็จแล้ว ให้เก็บไว้ในตู้เย็นด้วยน๊า...จะได้ไม่ขึ้นรา)

 

แน่ใจหรือ ว่าเก็บในตู้เย็นแล้วจะไม่ขึ้นรา
สุวิเคยทำ ไม่มากเท่าไร สัก ๒-๓ ขีดได้ กินไม่ทัน เก็บไว้ในตู้เย็น
ไปต่างจังหวัดกลับมา หลายวันอยู่ เปิดกล่องยาดูว่าจะกินต่อสักหน่อย
อ้าวมันมีปุยขาวขึ้นบนเม็ดยาซะแล้ว เลยต้องโยนทิ้งทั้งหมด
เหงือกปลาหมอนายิ่งหายากๆอยู่ด้วย เสียดายของนะ

มีสองวิธีนะ ที่จะแน่ใจได้ว่าไม่ขึ้นรา
๑.เคี่ยวน้ำผึ้งก่อน แล้วเอาผงยาผสมลงไป
๒.ผสมน้ำผึ้งเลย แต่ต้องใส่น้ำผึ้งมากหน่อย ให้ท่วมตัวยานิดหน่อย

 

มีซิฮะ..
ตรีผลา
ยาแก้ภูมิแพ้เบอร์ 3
กระสายยา น้ำขิง ๑ ถ้วย
ทั้งสามอย่างกินวันละ ๒-๓ มื้อ

 

ใช้เวลา ๑ อาทิตย์เต็ม ทำยาเกล็ดปลาหมอทอง รุ่นบุกเบิกสำเร็จแล้ว
ยาไม่ต้องมี มะรุมเป็นส่วนผสม ใครต้องการยาไปใช้แก้น้ำเหลืองเสีย ให้มาเอาได้

ยาปลาหมอทอง ประกอบด้วยตัวยา หญ้าเหงือกปลาหมอนา พริกไทย ดีปลี และกระชายเป็นส่วนผสมสำคัญ
จัดอัตราส่วน ชดเชยธาตุที่เกินและขาด อันเกิดจากการใช้ปุ๋ยสารเคมีเรียบร้อย
คุณภาพคับแก้วดุจเดิม

และด้วนความรู้ที่ได้จากการวิจัยการแก้พิษจากมะรุม ทำให้สุวิเข้าใจเรื่องยาอีกมาก
โดยเฉพาะเรื่อของตรีธาตุ และมหาภูติรูปสี่
ทำให้สุวิจัดสมดุลย์ของยาได้ดีกว่าเดิมมาก
ยาเกล็ดปลาหมอทอง จึงกลายเป็น เกล็ดปลาหมอสีทอง
ซึ่งมีสรรพคุณ สูงขึ้นไปอีกอย่างนึกไม่ถึง
ทำให้ปลาหมอสีทองแก้โรคที่ยากรักษาได้ เช่นมะเร็ง เอด ฯ

 

แล้วท่านหมอมีตรีผลาหรือเปล่าคะ
อาจต้องทานยานานมั๊ง เพราะเป็นเรื้อรัง
ท่านหมอส่งยาให้หน่อยนะ วรรณนันท์จะพบกับสุภาพสตรีผู้นี้ประมาณกลางเดือนหน้าค่ะ

 

ยาขนานนี้วรรณนันท์ต้องใช้ด้วยหรือเปล่าคะ

 

ใช้ปลาหมอทองไปก่อนน้าฮ้า ปูเดียวมันจาช้ำจาย มันเพิ่งเกิดดูโลกมาไม่กี่วันเอง
ส่วนปลาหมอสีทอง มานเพิ่งตั้งท้องน้าฮ้า ยังไม่คลอดเลย (จาแท้งเป่าหว่า)

 

มีเหลืออยู่ห่อเดียวเอง เดี๋ยวกันไว้ให้ก่อน

 

แล้วประเภทประจำเดือนจะหมดเลือดจะไปลมจะมาล่ะค่ะคุณหมอ

แล้วก็เส้นที่เท้าบวมหรือระบมเพราะต้องยืนทำงานวันละหลาย ๆชั่วโมง ( 8-12 ) บนพื้นซีเมนต์ แม้จะใส่ร้องเท้าหนาสำหรับงานนี้โดยเฉพาะแถมมีเบาะรองเท้าเสริมในรองเท้าด้วยก็ยังเป็น อาการตอนเช้าตื่นขึ้นมาจะเจ็บระบมที่ซ่นเท้ามาก และก็ที่เวลาซ่นเท้ามีโอกาสกดลงพื้นหน่อยก็จะเจ็บค่ะ

เห็นในบางโพสท์ว่าหมดสุวิบริการขายยาสมุนไพรด้วยหรือคะ

 

เลือดจะไปลมจะมา
หมอสุวิทำยาไว้ตัวหนึ่งชื่อ มณีนพเก้า สามารถแก้โรคนี้ได้โดยเฉพาะ
และยาตัวนี้ยังบำรุงร่างกายอีกหลายระบบ ทำให้ร่างกายแข็งแรงและกระฉับกระเฉงดูอ่อนเยาว์ขึ้น

ส่วนเรื่องซ่นเท้าเจ็บนั้น เหตุเกิดจากข้อเท้าและกระดูกฝ่าเท้า เคลื่อนนิดหน่อย
ทำให้กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นบิดตัวในมุมที่ผิดไปจากเดิม จึงทำให้เจ็บระบบไปที่ซ่นเท้า
การแก้ หาหมอนวดที่เข้าใจขยับข้อเท้านิดเดียวก็หายแล้ว(ไม่ถึงนาที)
แต่หากยังคงทำอริยาบถแบบเดิมๆ เพียงวันเดียวอาการโรคก็จะกลับมาอีก

เมื่อจัดกระดูกข้อเท้าจนอาการหายแล้ว ท่านให้พักการใช้งานสักพัก และให้บริหารข้อเท้า เพียงไม่กี่วันก็หายแล้ว
การบริหารข้อเท้า
ให้หาพื้นลาดที่เอียงๆ(สัก ๒๐-๓๐ องศา)
แล้วขึ้นไปยืนบนพื้นเอียงั้น แล้วย่อเข่า โยกตัวไปมาให้ข้อเท้าขยับ ทุกมุม ซ้าย ขวา หน้า หลัง
ช่วงแรกอาจเจ็บนิดหน่อย(ทนเอา) อาจหายามาทาถูได้

ต่อไปให้เปลี่ยนทิศการยืน(หันซ้าย หันขวา และหันหลังกลับ)
แล้วย่อตัวโยก บริหารข้อเท้า ทุกมุม
ทำบ่อยๆ อย่างน้อยสักครั้งละสิบนาทีขึ้นไป
โรคนี้ก็จะหายขาด

ส่วนเรื่องสมุนไพร
ตอนแรกว่าจะให้คำปรึกษาอย่างเดียว
แต่มาพบว่า หลายคนหาสมุนไพรไม่ได้ จึงตัดสินใจทำยาง่ายๆไว้บริการ
แต่แล้วทำไปทำมา มีคนมาบอกมาสอนการทำยาภาคพิศดารให้
เลยติดลม สนุกไปกับยาแปลกๆที่นึกไม่ถึง
เมื่อมียาก็ต้องมีคนไข้แปลกๆ ตามยาที่ได้มาด้วยเสมอ
ปัจจุบันจึงต้องให้บริการยาสมุนไพรด้วย
หากต้องการยาให้ติดต่อทาง PM หรือ e-mail(suwinand@gmail.com)

 

;aa1
สุขสันต์วันเกิดล่วงหน้าครับอาจารย์
ขอให้มีพลังช่วยคนมากๆๆๆๆ นะครับ...

วันที่ 8 ธันวาคมครับพี่น้อง...