เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย mead, 8 สิงหาคม 2007.

  1. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    จินตวดีรำพัน

    นอกจากจะเป็นการสิ้นสุดการแจ้งเพื่อทราบ แล้ว ยังมีบางอย่างที่เป็น "The end" ด้วย แสดงว่า ลิตเติ้ลดั๊กหลีกเลี่ยงที่จะให้ข้อมูลสิ อิ อิ

    ความฝัน

    เห็นตัวเองกำลังส่งรายงาน ซึ่งเป็นรายงานก่อนจบเทอม ในฝันไม่แน่ใจว่านั่นใช่ของเราหรือไม่ แต่ใจก็บอกว่ามันเป็นของเรา ก้เปิดดู แล้วลองเอามาเขียนใหม่ดูว่ามันง่ายไหม แต่ปรากฏว่า "ไม่ง่ายเลย" ในการเขียนรายงานเล่มนั้น ไม่น่าเชื่อว่ามันอัดแน่นไปด้วยข้อมูลหลากหลายมาก ซึ่งข้าพเจ้ามั่นใจว่าคงสอบผ่านแน่

    ในยามตื่น ข้าพเจ้านั่งทบทวนความฝันพร้อมคิดถึงสมุดบันทึกที่ข้าพเจ้าเพียรจดเอาไว้พร้อมบันทึก ทุกถ้อยคำที่ลิตเติ้ลดั๊กได้รับการถ่ายทอดจาก มนตด ข้อความเหล่านั้นถุกบันทึกโดยข้าพเจ้ามาเป็นเวลาเกือบสองปี โดยเริ่มต้นจากการนอนโรงพยาบาลเมื่อสองปีก่อน สิ่งที่สื่อผ่านบอกลิตเติ้ลดั๊ก เป็นสิ่งที่เขาได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้ามาก่อนในทุกๆเรื่อง ก่อนที่จะมีเหตุการณ์หลากหลายเกิดขึ้นจริงด้วยซ้ำ

    สิ่งหนึ่งที่ มนตด ไม่เคยทำ คือการเข้ามาปรับเปลี่ยนแก้ไขกรรมของมนุษย์ เพราะเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องต้องห้าม และเกินกว่ากฏของจักรวาล แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเขาทำและสอน คือสอนให้มนุษย์รุ้จักใช้สติปัญญา หรือสติสัมปชัญญะอันคมชัด ในการมองทะลุผ่านความเชื่อ เมื่อมนุษย์มีความเชื่อจงใช้สติปัญญาพิจารณาความเชื่อนั้น ๆ สิ่งที่ มนตด ทำคือการเตือนโดยทางอ้อม นอกจากนั้นจึงเป็นเรื่องที่มนุษย์อย่างเราต้องพิจารณาเอง โดยเป็นไปตามบุพกรรมของแต่ละคน

    ละครจบสิ้น การทดสอบสิ้นสุด ตกกันระนาว

    ชีวิตของข้าพเจ้าจากวันที่ควรจะสิ้นสุดที่โรงพยาบาลเมื่อสองปีก่อน ถุกต่อชีวิตให้ด้วยฝีมือของพวกเขา ในหน้าที่ เจนเนอรัล ขณะนี้เมื่อมีประกาศ สิ้นสุด บ้าพเจ้าก็ยังคงสงสัยอยู่ครามครันว่า ...........
     
  2. กุญแจไขปริศนา

    กุญแจไขปริศนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2009
    โพสต์:
    903
    ค่าพลัง:
    +979
    "อดคิดถึงพี่ไม่ได้เลยแม้แต่ขณะเดียว ฉันเคยคิดว่าฉันจะไม่ห่างจากพี่ตลอดชีวิต แต่มันเป็นเคราะห์กรรม ไม่คิดเลยว่าจะเป็นกษัตริย์ คิดแต่จะเป็นน้องของพี่เท่านั้น"
    ชอบมากๆเลยครับ
     
  3. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ธันวาคม 2009
  4. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ธันวาคม 2009
  5. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ลงมาทานน้ำชาอุ่นๆ กับโรตีที่ขึ้นชื่อของภูชี้ฟ้ากันหน่อย...
    ถ้าไปเชียงรายช่วงปลายเดือนธันวา-มกรา จะสวยยิ่งกว่านี้ครับ
    ดอกเสือโคร่งจะบานสะพรั่งเหมือนดอกซากุระเลย...เค้าว่ากันนะครับ

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ธันวาคม 2009
  6. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    แวะเข้ามาทักทายกระทู้นี้ด้วยคนครับ

    อย่าว่าแต่ใครๆจะตามอ่านได้ 200 หน้าเลย
    ผมเองก็อ่านได้น้อยกว่านั้นซะอีกครับ

    เพราะมันมีเหตุอยู่ เดี๋ยวขอเล่าให้ฟังซะเลย
    เพื่อเป็นกำลังใจสำหรับมือใหม่หัดอ่าน "โนวา อนาัลัย"

    ผมก็เป็นกลุ่มแรกๆ ที่ได้ซื้อหนังสือชุด โนวา อนาลัยมาอ่าน ครบทุกเล่ม
    ตั้งแต่ตอนที่คุณ mead เริ่มเปิดกระทู้นี้ใหม่ๆ ตอนนั้นก็ตามอ่านมาตลอดครับ

    มันเป็นอะไรที่ พูดไม่ออก บอกไม่ถูก ในตอนนั้น ตอนที่ได้อ่านหนังสือเล่มแรกไป
    คือเล่ม "ขยายความธรรมชาติของชาติภพ" รู้สึกว่ามันใช่เลย

    มันเหมือนมาเติมเต็มสิ่งที่เราโหยหามานาน
    สิ่งที่เราเคยหาคำตอบ ชนิดที่พอฟังคำตอบแล้วรู้สึกว่าใช่เลย อะไรแบบนั้นหนะครับ

    แต่อย่างไรก็ตาม พออ่านมาได้เกือบจบทุกเล่มแล้ว
    ผมก็มาติด หรือ สะดุดอยู่กับข้อมูลบางอย่าง
    ที่มันขัดแย้งกับระบบความเชื่อเก่าของตัวเองอยู่
    ก็เลยเลิกสนใจไปอยู่พักหนึ่ง

    แต่เหมือนเหตุบังเอิญ ไงไม่รู้นะครับ (อันที่จริง เหตุบังเอิญไม่มีอยู่จริง)
    พอยิ่งได้มาอ่าน ได้มาแปลกระทู้ที่ผมกำลัง "ปั่น" ช่วยโลก อยู่นี่
    มันเป็นอะไรที่ ออกมาในแนวเดียวกับท่านอาจารย์อนาลัยว่าไว้แทบทั้งนั้นเลย

    จนต้องมาคิดแล้วคิดอีก และก็เพราะว่า ไม่ว่าจะไปเอามาจากเวปไซท์ไหนมาแปล
    ไปเอามาจากการสื่อสารทางจิตของรูปธรรมชีวิตต่างมิติไหนๆมาแปล
    ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ มันก็จะออกมาในแนวๆเดียวกันนี้หมด

    จนเดี๋ยวนี้ ชักปล่อยว่างๆแล้วครับ คือไม่ต้าน ไม่ขัด อีกต่อไปแล้ว
    และก็ เริ่มๆเชื่อบ้างแล้วหละครับ..

    โดยเฉพาะประเด็นที่เข้าใจยากๆ เช่น

    1). อดีต - ปัจจุบัน - อนาคต ในระดับปรมัตถ์แล้ว
    มันมีอยู่ เป็นอยู่ พร้อมกันหมด ที่นี่ และเดี๋ยวนี้

    2). จิตใจ หรือ ศัพท์ของอาจารย์อนาลัย ท่านใช้คำว่า
    อารมณ์ ความรู้สึก (หรือ สติสัมปชัญญะ แน่นะ)
    เป็นสิ่งที่ก่อเกิดสสารในมิติทางกายภาพ

    3). และอื่นๆ อ้อ..เรื่องตัวตนรวมนี่ก็ด้วย เรื่องชีวิตหลากมิตินี่ก็ด้วย

    ประกอบกับตอนนี้ ผมกำลังอ่านข้อมูลทางด้านวิทยาศาสตร์
    ที่ชาวตะวันตกเขาศึกษาเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ไว้ด้วย
    ก็ยิ่งทึ่งหนักไปอีกว่า เออ...มันก็มีข้อมูลสนับสนุนมากขึ้น และมากขึ้นทุกวันๆ

    จนอดนึกถึงคำพูดของใครคนหนึ่งไม่ได้ว่า

    ณ.ช่วงเวลานี้ โลกเรา กำลังถูกกระหน่ำด้วยข้อมูล ข่าวสาร และความรู้ใหม่ๆ
    ที่หลั่งไหลมาจากทั่วทั้งจักรวาล เพื่อมาช่วยเปิดเผยความจริง
    ในสิ่งที่มนุษย์ยังไม่รู้ ยังไม่เข้าใจ ให้ได้รู้ ให้ได้เข้าใจ ในอัตราเร็วที่ "เร่ง" ขึ้นทุกวันๆ
    เพื่อให้ทันต่อกระบวนการ "ยกระดับขึ้น" (Ascension) ไปสู่มิติที่สูงขึ้น
    ที่กำลังเกิดขึ้นกับมนุษย์ และโลกอยู่ในขณะนี้ ในอัตราที่ "เร่ง" ด้วยเช่นกัน

    ..............................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ธันวาคม 2009
  7. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ทักทายกันครับคุณชยุต
    เรื่องราวต่างๆมันย้อนเป็นวงกลมและวนกลับมาตั้งต้นใหม่ได้ทุกๆเรื่องครับ
    ความจริงที่เป็นสากลย่อมเป็นความจริงอยู่วันยังค่ำ..ต้องเปิดใจกว้างๆเพื่อทำความเข้าใจครับ
    เขื่อว่ามิติที่กำลังเปิดหรือยกระดับขึ้นในขณะนี้ทำให้มีผู้สื่อสารทางจิตและความรู้ดีๆเกิดขึ้นอีกมากมาย
    พลังงานใหม่ๆก็ถ่ายเทกันเข้ามาทุกทิศทาง...เป็นนิมิตหมายที่ดีสำหรับคนในยุคนี้จริงๆครับ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ธันวาคม 2009
  8. เซลล์

    เซลล์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +310
    เห็นภาพภูชี้ฟ้า
    ต้องสูดลมหายใจลึกๆเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าไปให้เต็มปอดเลยครับ
    ขอบคุณสำหรับรูปที่เต็มไปด้วยอารมณ์ ความรู้สึกดีๆครับ

    ไปวัดร่องขุ่นมาด้วยเหรอครับ
    สร้างทางขึ้นวัดเสร็จแล้วด้วย อิอิ..
    ดูขึงขัง แต่แฝงด้วยความงดงามดีครับ

    พูดถึงเรื่อง อดีต - ปัจจุบัน - อนาคต ที่เดินไปด้วยกัน
    นึกถึงความฝันเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว

    ฝันว่า กำลังนั่งคุยอยู่กับญาติกลุ่มนึง ที่ร้านอาหาร
    แล้วภาพก็ตัดมา อีกฉากเหตุการณ์นึง ญาติผู้ใหญ่ท่านนี้กำลังจะนำเงินไปจ่าย และพบว่า กระเป๋าถือเค้าหายไป ก็เลยให้เค้าทบทวนว่า เห็นล่าสุดเมื่อไหร่
    เค้าบอกว่า ตอนอยู่ที่ร้านอาหาร ก็ยังอยู่ แต่หลังจากนั้น หายไปตอนไหน ไม่รู้เหมือนกัน
    ก็เลยบอกว่า งั้นต้องกลับไปที่อดีตตอนที่กระเป๋ายังอยู่
    จากนั้น ก็กลับไปสู่ช่วงเวลานั้น เห็นทุกคนกำลังนั่งคุยกันอยู่ รวมทั้งตัวเราเองด้วย
    ก็เลยบอกว่า กลับมาเอากระเป๋า
    ทุกคนที่อยู่ที่ร้านอาหาร เห็นเป็นเรื่องปกติมาก ที่ใครๆก็ทำกันได้
    ก็เลยเอากระเป๋า กลับมาให้ตัวตนที่รออยู่ในปัจจุบันได้
    แต่ก็ยังไม่รู้อีกว่า กระเป๋าหายไปตอนไหนอยู่ดี แป่วๆๆ

    ตื่นมาก็ก่งก๊งอยู่ว่า ฝันเรื่องอะไรกันเนี่ย

    ระหว่างทบทวนความฝัน คิดว่าถ้าเราสามารถนำเส้นเวลา มาต่อๆกันได้ เหมือนจิ๊กซอว์ คงจะสนุกไม่น้อยเลยครับ
    เลือกเฉพาะเหตุการณ์ที่ต้องการมีประสบการณ์ มาต่อๆกัน ให้เกิดเป็นเรื่องราวต่างๆที่ได้เลือกเอาไว้ จากการจดจ่อ

    แต่ช่วงเหตุการณ์ที่หายไป ที่เกิดขนานไปกับเส้นทางที่เราเลือก ก็ยังมีอีกมากมายหลากหลายเป็นอนันต์ ที่เราอาจจะไม่รู้ตัวกันเลยก็ได้ ว่ามันมีอยู่ด้วย

    ที่ว่างจึงมีอยู่มากมายมหาศาลเลย แต่เป็นที่ว่างที่เต็มไปด้วยพลังงานต่างๆมากมาย
    เผลอๆเราอาจจะเดินสวนกับตัวตนอื่นๆมากมาย โดยที่เราไม่รู้ตัวเลยก็ได้ เพราะเราเลือกจดจ่อกับเหตุการณ์ใดเหตุการณ์นึงในชีวิตประจำวัน ในช่วงการรับรู้ที่จำกัด

    เขียนไปงงไป จบก่อนดีกว่า :)
     
  9. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    ประสบการณ์ดี ๆ ในการฝึกสมาธิของฉัน

    ทริปทอดกฐินวัดหินหมากเป้ง - ลาว ชมบั้งไฟพญานาค

    จำได้ว่าครั้งนั้นนำรถตู้ไป 3 คัน ตอนแรกได้นั่งคันที่ 2 แล้วเปลี่ยนมาคันที่ 3 พอไปถึงโคราช จับพลัดจับผลูมีคนขอเปลี่ยนก็เลยไปนั่งคันที่หนึ่งแทน ปรากฏว่าคันนั้นเป็นคันคุณคณานันท์นั่งอยู่พอดี ก็ได้ไปนั่งข้างหลังเลย คุณคณานันท์ก็บอกว่าจับภาพพระให้ใสนะครับ ทำได้มั้ยคุณจินต์ เราก็พยักหน้า ไอ้ที่พยักหน้าคือทำได้บ้างไม่ได้บ้าง ระหว่างเดินทางก็พยายามนึกภาพพระ แต่ภาพพระที่เราเห็นดันเป็นพระทรงเครื่องฤดูร้อนเหมือนพระแก้วมรกตเลย แต่องค์เป็นสีดำ เราก็สงสัยว่ามาได้ไงหว่า ก็คิดในใจว่า "โดนเล่นซะแล้วเรา" ปรากฏว่าพอไปถึงวัดแรก ได้ขึ้นไปนมัสการพระธาตุ เจอพระพุทธรูปที่มาในนิมิตเลย เหมือนเด๊ะ ๆ ถามได้ความว่า ท่านคือ "พระศรีอารย์ทรงเครื่อง" เราก็ได้แต่ "สาธุ" อยู่ในใจ

    ระหว่างอยู่ที่หนองคายก็วุ่นวายกับการทำบุญกันอย่างมีความสุข สนุกสนาน พอวันสุดท้ายต้องกลับก็ได้แต่คิดในใจว่า เรามีคำถามถามคุณคณานันท์เรื่องการฝึกสมาธิ เพราะฝึกแล้วปวดหัว หนักหัว เหมือนจะตายให้ได้ แต่ไม่กล้าถาม พอวันสุดท้ายตอนนั่งรถตู้ได้นั่งหลังคุณคณานันท์อีก เลยคิดดัง ๆ ในใจ (หวังให้ได้ยิน) "ถ้าท่านรับรู้ได้ ขอได้โปรดช่วยตอบปัญหาที่เราสงสัยภายในวันนี้ด้วยเถิด" สังเกตุดูตอนนั้นเห็นคุณคณานันท์หยุดนิ่งครู่หนึ่งก็ไม่แน่ใจแกรู้หรือเปล่า เพราะเราคิดในใจเท่านั้น เวลาผ่านไปอย่างยุ่ง ๆ กันทั้งวัน จนประมาณสี่ทุ่มหลังจากเสร็จงานที่วัดหินหมากเป้งเดินทางกลับสู่วัดเทสรังษีเพื่อพักผ่อน ปรากฏว่าก่อนเข้านอน คุณคณานันท์ประกาศขอเวลาทุกท่านร่วมฝึกสมาธิสัก 30 นาทีเพราะที่มาร่วมกิจกรรมไม่มีโอกาสได้ฝึกกันเลย ตอนนั้นเราก็ปวดหัวมากอยากหลับท่าเดียวก็เลยฝึนนั่งไปด้วย พอนั่งได้สักพักก็เอาเลย คุณคณานันท์ออกเสียงดุมาเลยไอ้ที่นั่งน่ะ ไม่ใช่นั่งเพ่ง (เราติดนั่งเพ่งที่กลางหน้าผาก) นั่งผิด อารมณ์หนัก ให้นั่งให้สบาย ๆ โอยพูดมาเยอะ ไอ้เราก็ได้สติ คิดในใจ "โดนแล้วเรา" ก็รู้สึกแปลกใจ เพราะท่านตอบคำถามเกี่ยวกับการปฏิบัติเรามาได้ทุกเรื่อง เราก็ "สาธุ" อีกแล้ว จนบัดนี้เลยได้เป็นทริคในการปฏิบัติเลย

    ตอนปฏิบัติส่วนใหญ่ จะเน้นให้อธิษฐานขอบุญบารมีเก่ามาช่วยเสริม อันนี้ก็ชอบโดยเฉพาะตอนที่ให้ระลึกได้ถึงหน้าที่ที่ต้องมาทำ เพราะถ้าอธิษฐานแบบนี้ทีไร ตอนกลางคืน ก็มักจะฝันโน่นเลย ข้ามช๊อต ข้ามมิติไปเลยทุกที ถ้าเป็นเรื่องข้ามมิติ จะมองเห็นภาพพวกเขาเป็นภาพลายเส้นคลื่นไฟฟ้า เหมือนการ์ตูน (อันนี้เราก็เข้าใจ เพราะภาพที่เห็นถ้าเป็นเรื่องเหลื่อมมิติแล้วล่ะก็ ภาพที่เราได้เห็นมักจะบิดเบือนไม่ตรงกับความเป็นจริง)

    พอพูดถึงชาติภพเนี่ย ก็เห็นมาหลายชาติของตัวเอง (ส่วนใหญ่เห็นในฝันก่อน แล้วจึงมาเห็นที่กลางหน้าผาก เหมือนช่วยตอกย้ำซ้ำเตือน) พอเห็นเยอะเข้า สิ่งหนึ่งที่รู้สึกคือ รู้สึกสลด สังเวชใจตัวเอง เพราะหลายชาติเกิดมามีอำนาจวาสนา หลายชาติก็ตกต่ำ เป็นคนใช้ บางชาติเป็นหมา (ก็เข้าใจว่าทำไมรักหมา) บางชาติโดนเขาฆ่าแต่ยังเด็ก คือที่เห็นเห็นเป็นภาพเหตุการณ์บางช่วง แต่ไม่ใช่ระลึกได้หมดตั้งแต่เกิด คือเขาอนุญาติให้เห็นช่วงละนิด ๆ พอเข้าใจ

    ก็เลยเข้าใจถึงความไม่เที่ยง
    คิดไปคิดมาสิ่งที่รู้สึกคือ ไม่อยากเกิดแล้ว อยากจบวงจรชาติภพเลย เบื่อเลย ยิ่งเมื่อสองวันก่อนดันเห็นกระดาษมีคำว่า "มรณ" อยู่ด้วย ยิ่งเอาล่ะทุกวันนี้เลยนึกถึงแต่ความตายเป็นที่ตั้ง พอนึกได้ก็ไม่อยากเอาอะไรแล้ว
    เพราะทุกอย่างไม่คงทนถาวร ไม่เที่ยงแท้ แต่ความตายนี่สิ ของแท้ เพราะเป็นสิ่งที่ต้องเจอภายใต้วัฏฏสังสารนี้

    พอคิดดังนี้ ก็คิดถึงอีกรูปธรรมชีวิตต่างมิติที่มาอยู่ด้วยกัน เออถ้าเราจบวัฏฏสังสารแล้วเขาจะไปไหนหนอ เขาจะได้กลับบ้านไหมหนอ คิดไปคิดมาวันหนึ่งก็ได้คำตอบ วันนั้นกลับจากทริปหล่อพระพุทธรูปทองคำ กำลังหลับตาจะพักผ่อนบนรถ เห็นภาพปรากฏเลย เป็นเขารวบผมอันยาวสลวยไว้ด้านหลังเป็นมวย ใส่ชุดขาวอย่างดี กำลังน้อมถวายดอกบัวให้แด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา เลย ก็ได้แต่ดีใจ เออหนอ ขนาดเขามาจากต่างมิติที่สูงกว่าเรา จิตพัฒนาไปในระดับสากลแล้ว ยังน้อมถวายตัวแด่พระพุทธเจ้าเลย ก็เลยคิดว่า ตอนนี้เขาคงดีใจแล้วที่ได้หลงมิติมาอยู่ที่นี่

    ร่างกายเราเปรียบได้กับเสาวิทยุนะ
    แต่ต้องรู้ว่าเสาวิทยุนั้น มันรับได้หมดทุกคลื่น ขึ้นอยู่กับเราว่าจะปรับระดับจิตจนรับคลื่นใดได้ตัวของเราตอนนี้ มันเปรียบได้กับเสาวิทยุ ถ้าจิตดีเป็นบวก ก็จะรับได้แต่คลื่นสัมมาทิษฐิ แต่ถ้าจิตเป็นลบ ก็จะรับได้แต่คลื่นมิจฉาทิษฐิเท่านั้น อันนี้มันเป็นไปตามกฏการดึงดูดของจักรวาล สิ่งที่เหมือนกันย่อมดึงดูดซึ่งกันและกัน ก็เลยเข้าใจว่า "อ๋อ" ทำไมถึงได้ผลักดันเรามาทางนี้เสียเหลือเกิน เพราะธรรมชาติของจิตมันชอบเรียนรู้ มันเรียนไปเรื่อยไม่ว่าเรื่องใดก็ตาม เขาเลยวางแพทเทิร์นให้ซะหน่อยมันจะได้เดินถูกทางซะ แต่ก็ยังไม่วายหรอก ไอ้คลื่นเดิม ๆ ที่เคยอยู่แต่มันหายไป ใช่ว่ามันจะหาย มันยังอยู่ที่เดิมของมัน แต่มันนอนนิ่งอยู่มันไม่ทำงาน รู้ได้ไงล่ะ ก็ฝันมันบอก ไอ้เรามักนักจดฝัน ตีฝัน พอตื่นปุ๊บรู้เท่าทันมันเลย เหมือนกิเลส พยายามละมัน ถามว่ามันหายไหม ยัง มันยังมีอยู่ ตอนนี้เลยต้องพยายามกดมันไว้ กดมันบ่อย ๆ มันโงหัวไม่ขึ้น เดี๋ยวก็หาย ตายไปเองน่ะแหละ

    ข้อความที่ได้รับ ยังมาจาก 3 สายเหมือนเดิม

    ข้อความสีดำ มาจาก ครูบาอาจารย์พระท่านเมตตาสอน

    ข้อความสีขาว มาจาก ยูเอฟโอสีขาว อันนี้มีหลายท่านทำงานให้โดยไม่รู้ตัว (เป็นการประสานงานระหว่างมิติ) แต่ยังขาดความเข้าใจถึงกลุ่มที่แท้จริง

    ข้อความสีแดง มาจาก ยูเอฟโอสีแดง อันนี้มาหลอกล่อเรา เรารู้ทันมานานแล้ว ก็นี่แหละที่เขาแจ้งอุปมาอุปมัยมาว่า "เตือนภัยในพื้นที่สีแดง" มีคนต้องการมาล้างคลื่นนี้ที่เผลอไปรับมาแต่ก่อนนู้นให้เรา เราก็บอกไม่เป็นไร เราจะล้างมันด้วยตัวเราเอง ตอนนี้เรายกให้เป็นครูสอนพิเศษอยู่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ธันวาคม 2009
  10. โอสถ

    โอสถ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,545
    ค่าพลัง:
    +12,113
    แวะมาทักทายครับ เพิ่งเข้ามาอ่านกระทู้นี้ครั้งแรก เป็นคนไม่ชอบฝัน แต่แรกเลยไม่ค่อยสนใจอ่านเรื่องเกี่ยวกับความฝันเท่าไร

    วันนี้ว่างจัดเลยลองมา คลิกๆ อ่านดู


    แต่อ่านๆไป ชักติดลม นั่งอ่านมา 4 ชั่วโมงแล้ว ขนาดอ่านข้ามๆ ยังไปได้แค่หน้าสามสิบกว่าเอง มีสาระประโยชน์น่าสนใจหลายอย่างทีเดียวครับ


    ที่สะดุดใจครั้งแรก ก็ตรงข้อความของคุณ stefa ที่นำมาจากหนังสือของ อ.อนาลัย


    อ่านแล้วประมาณว่า เฮ้ย ทำไมรู้เหมือนกับที่เรารู้เลย


    คนที่กล้าเขียนแบบนี้ ถ้าไม่ใช่พวกขวางโลก ก็ต้องเป็นคนที่รู้อะไรดีๆทีเดียว ... แล้วเค้ารู้ได้ยังงัย


    คนทั่วไปเกือบ 100 % เมื่อเห็นจานบิน จะคิดว่า จานบิน ที่เห็นทั้งหมดมาจากดาวนพเคราะห์อื่น แต่เท่าที่ผมรู้และได้รับการยืนยันมาอย่างชัดเจนจนสิ้นสงสัย


    จานบินส่วนหนึ่ง เป็นจานบินของโลกเรานี่เอง ไม่ใช่ของมนุษย์ต่างดาว เป็นเทคโนโลยีจากมนุษย์ต่างมิติ ซึ่งปัจจุบันมีการติดต่ออยู่กับกลุ่มคนในประเทศต่างๆทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย โดยมีเป้าหมายหลัก คือ การเตรียมการด้านภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นในอนาคต


    มีคนไทยส่วนหนึ่ง ได้เคยทดสอบการเดินทางด้วยจานบินมาแล้ว ( ไม่ใช่แค่เห็นจานบินผ่านแว๊บๆ )


    ด้วยอุปกรณ์ต่างมิติ เรื่องของ อภิญญา จะกลายเป็นเรื่องง่ายๆ (ได้มีการทดสอบผ่านไปแล้ว) ... ผมพอเริ่มเห็นลางๆแล้วว่า ที่หลายกลุ่มพูดกันถึง อภิญญาใหญ่ ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ... แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งสำหรับผู้ที่มีจิตใจในด้านลบ ต้องเป็นผู้ฝึกฝนจิตด้านบวกมาอย่างดี


    เรื่องนี้พูดไปแล้วคนทั่วไปคงไม่เชื่อ พูดไปก็เปลืองตัว แต่สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นแล้ว และยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง


    โลกเราไม่ได้จำเป็นต้องพึ่งเทคโนโลยีจากมนุษย์ต่างดาวตามที่คนส่วนมากเข้าใจกันแบบผิดๆ


    เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม สิ่งที่ควรปรากฎจะเกิดขึ้น หรือเปิดเผยเอง


    เขียนมาพอสมควร แล้วจะหาเวลามาตามอ่านใหม่ ส่วนหนังสือ อ.อนาลัย จะลองหาซื้อดู ไม่รู้จะหาได้สักกี่เล่ม
     
  11. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728

    cfm = confirm
    ufo สีขาว = รูปธรรมชีวิตต่างมิติ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ธันวาคม 2009
  12. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    @@@ การปรากฎของจานบินและมนุษย์ต่างดาว @@@


    เป็นปรากฎการณ์ที่นักวิทยาศาสตร์ไม่สามารถอธิบายได้ชัดเจน บางทีที่มนุษย์โลกมองเห็นจานบินที่เราเข้าใจว่าเป็นยานพาหนะของมนุษย์ต่างดาวนั้น อาจมีทั้งเดินทางจากดาวนพเคราะห์ดวงอื่น หรือการบิดเบือนที่เกิดขึ้นกับมิติคู่ขนานของเราเอง ที่มีการทับซ้อนมิติกันอยู่ การปรากฎของเขาเคยเกิดจากความบังเอิญ แต่เมื่อวิทยาการของเขาล้ำหน้าไป การปรากฎของเขาอาจเป็นไปด้วยการวางแผนและความตั้งใจ แต่การปรากฎของจานบินและสี่งมีชีวิตต่างภพภูมิเป็นไปอย่างไม่ชัดเจน หรือไม่สมบูรณ์ เพราะแต่ละภพภูมนั้นจะมีเครื่องพรางที่แตกต่างกันไป


    ภพภูมิของโลกมนุษย์เรามีระยะทาง ช่องว่าง และกาลเวลาเป็นเครื่องพราง อะตอมและโมเลกุลของสิ่งมีชิวิตและวัตถุธาตุอาจต้องมีการเปลี่ยนแปลงบางส่วน และคงสภาพบางส่วน ตามความจำเป็นเพื่อให้สอดคล้องกับภพภูมนั้นๆ การปรากฎในต่างภพภูมิอาจต้องใช้ความดันสูง สิ่งมีชีวิต และวัตถุธาตุนั้นๆ ไม่สามารถคงสภาพอยู่ได้นานพอ และต้องกลับไปสู่ภพภูมิต้นกำเนิดในที่สุด เราจึงมองเห็นมนูษย์ต่างมิติเหล่านั้นได้เพียงช่วงเวลาหนึ่ง ..

    เราไม่สามารถจะมองเห็นมนุษย์ต่างดาวและจานบินของพวกเขาได้ตามความเป็นจริง เราจะเห็นแต่สภาวะที่อยู่ระหว่างการแปลงสภาพจากภาวะหนึ่งไปสู่อีกภาวะหนึ่ง หรือจากภพภูมิหนึ่งไปสู่อีกภพภูมิหนึ่ง แต่การมาเยือนภพภูมิแห่งโลกมนุษย์อะตอมและโมเลกุลของสิ่งมีชีวิตและวัตถุธาตุเหล่านั้นบิดเบือนไป รูปทรงและสัณฐานของมันก็ผิดเพี้ยนไปด้วยเช่นเดียวกัน ในขณะที่มนุษย์โลกพยายามมองเห็นและเข้าใจจากมุมมอง ความเชื่อ ด้วยความเข้าใจที่มีขีดจำกัดเกี่ยวกับจักรวาล

    วิทยาการมีมากมายหลายประเภท นอกจากวิทยาศาสตร์ที่เรารู้จักวิทยาการบางสายเป็นศาสตร์แห่งการเคลื่อนที่ด้วยการใช้เสียง วิทยาการในโลกปัจจุบันของเราเป็นศาสตร์แห่งการสื่อสารและพลังงาน ดังนั้นเมื่อนักวิทยาศาสตร์ของเราพยายามอธิบายเรื่องการสร้างปิรามิด Stone Henge หรือปรากฎการณ์อื่นๆ ด้วนกฎเกณฑ์ของวิทยาการปัจจุบัน พวกเขาก็ไม่สามารถจะเข้าใจความเป็นจริงเกี่ยวกับวิทยาการในยุคนั้นได้ นอกจากนี้มนุษย์มักเข้าใจว่า วิวัฒนาการรุดหน้าไปเป็นเส้นตรง โดยที่อดีตล้าหลังกว่าปัจจุบัน และอนาคตล้ำหน้ากว่าปัจจุบันเสมอ จริงๆแล้ววิวัฒนาการและวิทยาการในอดีตล้ำหน้ากว่าปัจจุบันที่เรารู้จักมากมายนัก...

    บางส่วนจากหนังสือ"ธรรมชาติของชาติภพ" โนวา อนาลัย
    -------------------------------------------------------------


    คำอธิบายเกี่ยวกับการปรากฎของวัตถุบินลึกลับนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจครับ
    สามารถอ่านเพิ่มเติมได้จาก E-Book เท่านั้น หนังสือไม่มีจำหน่ายแล้วครับ
    BK1Cover

    มนุษย์ต่างมิติ หรือตัวตนของเราในมิติอื่นๆที่ดำรงอยู่ในมิติคู๋ขนาน ทั้งในอดีต-อนาคต
    ทั้งบนโลก-ใต้โลก เชื่อว่ามีอยู่มากมายหลายรูปแบบนะครับ ไม่ใช่มีแต่เพียงมนุษย์ต่างดาวเท่านั้น เค้าอาจไม่ได้เดินทางแบบที่มนุษย์เรารู้จัก เช่น มีความเข้าใจหลักการของธรรมชาติ เดินทางไป-มา หรือเ้ข้า-ออก ในมิติโลกและอวกาศได้อย่างสบายๆ คล้ายการปรับมวลสารวัตถุธาตุให้มีค่าเป็นกลางเพิ่อการทะลุทะลวงมิติเวลาผ่านจุดประสานมิติเข้ามาได้ (บางเผ่าพันธ์ก็มาจากดาวที่อยู่นอกระบบสุริยะของเรา นักวิทย์ฯเค้าเรียกกลุ่มดาว "กาแลคซี่ที่ 2 ส่วนโลกของเรา อยู่ในกลุ่มดาว "กาแลคซี่ที่ 4" และยังมีมนุษย์ต่างดาวในกลุ่ม "กาแลคซี่ที่ 6" ที่เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีการพัฒนาการทางด้านจิตใจและศิลปะอีกด้วยครับ..<!-- google_ad_section_end --> )

    มีข่าวการพบเห็นมนุษย์จากมิติอื่นๆมาเยือนกันบ่อยๆ ยิ่งในช่วงสงครามโลกแต่ละครั้งก็พบเห็นกันมาก น่าจะเป็นเป็นเพราะโลกกำลังตกอยู่ในสภาวะคับขันหรืออยู่ในช่วงช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ มีภัยธรรมชาติที่ผิดธรรมชาติ ที่รุนแรงยิ่งขึ้นกว่าในอดีต สร้างความเสียหายไปทั่วแม้ในที่ที่ไม่เคยเกิดก็ยังเกิดขึ้นได้...จนมนุษย์ก็เริ่มชาชินเสียแล้วนะครับ..ส่วนเขาจะมาเตือน หรือมาช่วยจริงหรือไม่ จะมาดี-ไม่ดีอย่างไร เราก็พิจารณากันไป...คุณจินตวดีคงทราบได้ด้วยความรู้สึกจากภายในล้วนๆ ยังไงก็ตามเขาเหล่านั้นก็ล้วนเป็นครูของเราทั้งสิ้นนะคับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ธันวาคม 2009
  13. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ที่วัดร่องขุ่นล่าสุดนี้ดูงดงามสะอาดตาจริงๆครับคุณเซลล์
    ด้านหน้าดูเหมือนจะเสร็จแล้วแต่ด้านหลังยังไม่เสร็จสมบูรณ์ครับ
    ส่วนภายในเค้าก็ห้ามถ่ายรูป..แต่แอบเห็นอาจารย์เฉลิมชัยเขียนรูปแนวๆอวกาศ มีทั้งจานบิน กระสวยอวกาศ เหล่าซูเปอร์ฮีโร่ อย่างสไปเดอร์แมน แมททริกซ์ ซูเปอร์แมน ทรานสฟอร์มเมอร์ สารพัดเลยล่ะครับ รวมทั้งบันทึกเหตุการณ์ปัจจุบันอย่างตึกเวิลด์เทรดถล่มไว้ด้วย...ดูสนุกไปอีกแบบ ส่วนที่ตึกพิพิธภัณฑ์ผลงานของอาจารย์ก็ไม่ควรพลาดถ้าจะไปกันชมกันอีกนะครับ ท่องเที่ยวไทยไม่ไปไม่รู้ครับ

    ความฝันคุณเซลล์นี่ถ้าต่อจิกซอร์ได้คงเป็นมหากาพย์ทะลุมิติแน่ๆเลย อิอิ
     
  14. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    [​IMG][​IMG]
     
  15. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    Happy Birthday
    For Today
    and Tomorrow
    Dear Friends

    <EMBED src=http://www.youtube.com/v/yolLqx6k1OM&hl=en_US&fs=1&color1=0xe1600f&color2=0xfebd01 width=425 height=344 type=application/x-shockwave-flash allowfullscreen="true" allowscriptaccess="always">​
    </EMBED>
     
  16. เซลล์

    เซลล์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +310
    คิดว่า อาจารย์คงจะวาดรูป สร้างวัดไปเรื่อยๆแบบไม่รู้จบครับคุณ mead
    ไปทุกครั้ง ก็จะได้เห็นอะไรแปลกๆใหม่ๆอยู่เสมอ

    ต้องเรียกว่า neverending temple แล้วหละครับ อิอิ..

    ไว้มีโอกาส ก็คงจะไปท่องเที่ยวใหม่ครับ
     
  17. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    อยู่นิ่งดีที่สุด ว่างเปล่าดีที่สุด
    จาก บางส่วนของหนังสือ เต๋า มรรควิธีที่ไร้เส้นทาง ...by OSHO

    "ในการทำสมาธิ ความคิดก็ไม่หยุด พวกมันยังทำหน้าที่ต่อไปเรื่อยๆ
    จริงๆแล้ว พวกมันมีมากขึ้นด้วยซ้ำ"

    ตอนท่านมีภาระยุ่งอยู่กับภาระกิจประจำวันของท่านนั้น
    ท่านอาจไม่มีความคิดมากนัก ท่านมีธุระยุ่ง หมกหมุ่น
    แต่ตอนที่ท่านกำลังนั่ง ไม่ทำอะไรเลยพลังงานทั้งหมดของท่านเคลื่อนไปสู่ความคิด
    ด้วยเหตุนี้พายุลูกใหญ่จึงเกิดขึ้นในชีวิตท่าน"

    "ความคิดไม่สามารถหยุดได้โดยตรง
    เพราะว่าความคิดไม่ใช่อะไรเลยนอกจากเป็นคนรับใช้ของความปรารถนา"

    ตอนที่ความปรารถนาอยู่ที่นั่น ท่านไม่สามารถหยุดความคิดได้
    เจ้านายอยู่ที่นั่น คนรับใช้ก็พร้อมจะทำงาน

    ความคิดไม่เคยหยุดนิ่งได้ด้วยตัวของมันเอง
    มัยจะหยุดได้เมื่อจิตที่ปรารถนานั้นหายไป

    นั่นเป็นความหมายของคำว่า"อยู่นิ่งดีที่สุด"นี่เป็นวิถีของเจ๋าในคำพูดที่ว่า
    จงอยู่โดยปราศจากความปรารถนา "เพียงแค่ผ่อนคลายในขณะนี้เท่านั้น
    เพียงแค่เป็นอยู่เท่านั้น นั่นคือความหมายของคำว่าหยุดนิ่งดีที่สุด"

    ชาวเต๋าไม่มีแผนที่ใดๆเลย
    พวกเขาพูดว่าถ้าท่านลองทำท่านั้นท่านี้และถ้าท่านจ้องมองดูจมูกของท่านเฝ้าดูการหายใจ
    และบังคับความนิ่งเฉยในแบบใดแบบหนึ่ง มันไม่ใช่ของจริง
    มันเป็นการบังคับ มันเป็นสิ่งที่ท่านสร้างขึ้นมา มันเป็นของปลอม

    ความนิ่งเฉยที่แท้จริงไม่เกี่ยวข้องกับการฝึกใดๆเลย
    ความนิ่งเฉยที่แท้จริงไม่ได้ออกมาจากการฝึก
    ความนิ่งเฉยที่แท้จริงออกมาจากความเข้าใจ
    ความเข้าใจที่ว่าความปรารถนาคือสิ่งที่หาประโยชน์ใดๆไม่ได้เลย

    -------------------------------------------------------------

    ว่างเปล่าดีที่สุด ในความนิ่งและความว่างเปล่านั้น
    พวกเราสามารถรักษาสภาวะอยู่ได้

    "ชั่วขณะที่ท่านเริ่มรับ และให้ จงทำสิ่งนี้ อย่าทำสิ่งนั้น
    เกี่ยวพัน เกี่ยวข้องกับผู้คน ท่านสูญเสียพื้นที่ของท่าน
    ท่านสูญเสียเปลวไฟในตัวท่าน
    ท่านสูญเสียการติดต่อกับข้างใน
    นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงเริ่มต้น

    การอยู่อย่างว่างเปล่า เป็นการเคลื่อนไปข้างในที่ว่าง
    ที่ท่านจะเห็นตัวท่านเอง อย่างที่ท่านเป็น
     
  18. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ปกติ ก่อนนอน ถ้าไม่อ่านหนังสือ เดรดจะทำสมาธิ นั่งบ้าง
    นอนบ้าง(ถ้าขี้เกียจ อิอิ) ส่วนใหญ่ก็กำหนดลมหายใจ หรือเฝ้าดูความคิด

    ก็รู้สึกเหมือนกันว่า มันอึดอัด มันเป็นการกำหนด และบังคับ
    เดรดเข้าใจค่ะ ว่า จิตเป็นอะไรที่แส่ส่าย ถ้าไม่หาที่ให้เกาะ หรือทำงาน
    มันก็ไปของมันเรื่อยแหล่ะ การเฝ้าดูก็มิใช่ว่า มันจะหยุด

    มันแค่เห็น จึงหยุด ก็คือการรู้สึกตัว อันนี้ ต้องถาม Falky
    ผู้เชี่ยวชาญ การดูจิต...

    เมื่อคืนเดรดลองนอนเฉยๆ นิ่งๆ ไม่กำหนดอะไร
    ความคิดมา ก็ปล่อยดูบ้าง ไม่ดูบ้าง สังเกตุแต่อารมณ์ แล้วก็หลับ

    แล้วฝัน เรื่อยเปื่อย แต่ในขณะที่ฝัน รู้ตัวว่าฝันอยู่โดยตลอด
    จากนั้น มันเคลื่อนมิติ จริงๆค่ะ มันย้ายกลับมาในโลกทางกายภาพ
    ในห้องนอน เรากำลังนอนหลับ ไม่ใช่การรู้สึกตัวตื่น ไม่ใช่ตกใจตื่น มันยังหลับอยู่
    แต่เป็นการย้ายจากโลกความฝัน มาสู่โลกความจริง

    พอรู้แล้ว ไม่ตกใจ แต่เกิดความรู้สึกว่า อ๋อ เป็นแบบนี้เอง
    สติสัมปชัญญะยามหลับเป็นแบบนี้เอง แล้วก็เคลื่อนกลับไปสู่ความฝัน แล้วฝันต่อ

    มีใครเคยมีประสบการณ์แบบนี้ หรือคล้ายๆกันบ้างไหม
    มันแปลกที่ไม่ตื่นเต้น มันแปลกจัง มันเหมือนว่า มันต้องเป็นแบบนี้

    เข้าใจข้าพเจ้ากันไหม เพื่อนๆ
     
  19. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    Happy Birthday
    คุณเซลล์ คุณกุ้ง
    ขอให้มีความสุข สดชื่น เบิกบานตลอดไปครับ

    [​IMG]
     
  20. sarissa

    sarissa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    173
    ค่าพลัง:
    +631
    HBD คุณเซลล์ คุณกุ้ง ด้วยค่ะ

    พูดถึงวัดร่องขุ่น อยากฮื้อไปแอ่วบ้านดำโต่ย
    บ้านดำก็เป็นวัดที่เชียงราย งดงามมากสร้างโดยอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี งดงามคนละแบบกับร่องขุ่นเป็นการนำเอาพุทธศิลป์มาประยุกต์ได้งามมากๆค่ะ แต่คนมักจะไม่รู้
    เคยเป็นแบบคุณเดรคค่ะที่มันกลับมาในโลกกายภาพทั้งยังหลับ มันก็เป็นแบบนั้นของมันเฉยๆ เมื่อก่อนเวลาพระผู้ใหญ่ท่านพูดว่ามันก็เป็นของมันแบบนั้น เราก็นึกในใจแหมอธิบายให้ฟังกระจ่างก็ไม่ได้เนอะท่าน แต่ตอนนี้รู้แล้ว มะนก็เป็นของมันแบบนั้นละ โง่มาก่อนฉลาดเนอะคนเรา
    เมื่อคืนฝันประหลาดค่ะ ฝันว่าไปกับเครื่องการบินไทย แล้วเครื่องไปตกค้างที่ไหนไม่รู้ประมาณบินไปเกิดอุบัติเหตุติดเกาะ ชั้นเฟริสคลาส บิซคลาสที่ยังมีชีวิตก็ยังได้อภิสิทธิ์เช่นเดิมคือมีน้ำใช้ มีห้องน้ำส่วนตัวแต่คนอื่นๆก็ไม่มีน้ำ ในฝันเขาก็พูดถึงภัยพิบัติไรไม่รู้จำไม่ปะติดปะต่อแต่เราก็สงสารคนไม่มีน้ำใช้ แล้วในฝันเขาพูดถึงการจัดการระบบน้ำ แล้วก็ย้ายกลับเข้าสู่โลกความจริงให้เรายอมรับอะไรบางอย่าง เราไม่ยอมก็สลับกันไปมาถึงเรื่องบนเครื่องกับเรื่องบนเตียงที่นอนอยู่ น่าแปลกดี ฝันแบบนี้มาสองสามคืนแล้วค่ะ หาทางแยกแยะไม่ออกแต่คิดว่าถึงเวลาก็คงรับรู้รหัสนัยนั้นเองละเนอะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...