การเตรียมการอพยพมนุษย์โลก เพื่อช่วยเหลือระหว่างการชำระโลก ของมิตรจากต่างพิภพ และข้อมูลอื่นๆจากสาธารณรัฐเช็ก

รับทราบ ครับ แต่ผมก็บอกตามตรงว่ามันอ่านแล้วเข้าใจยากจริงก็มี - -

 

ค่าจะรออ่านต่อนะค่ะ กำลังลุ้นเต็มที่เลยว่าตอนต่อไปจะเป็นอย่างที่ตัวเราคิดไว้หรือเปล่า..
ติดตามข้อมูลเนื้อหาเรื่องนี้มานานแล้วค่ะ แต่ยังอ่านไม่จบสักที อ่านลัดบ้างอะไรบ้าง แต่ก็พอจับใจความได้ค่ะ
ตอนแรกๆอ่านไปก็ยังไม่มีเรื่องเกี่ยวกับอิลลูมินาติ แต่ไหงหลังๆมาดันมีซะได้
(ซึ่งมันตรงตามกับที่คิดไว้เลย ก็เลยอ่านแล้วไม่งงค่ะ มีแต่อ่านแล้วอยากอ่านต่อไปจัง หุหุ เก็บข้อมูลเรื่อยๆค่ะ)

แล้วตอนนี้เริ่มรู้สึกสงสัยตัวโอบาม่าว่า ตกลงโอบาม่านั้นดีหรือเปล่าน้า..
ต้องคอยดูกันต่อไปสินะค่ะ ว่าตกลงแล้วพี่โอบาม่าของเราเป็นพวกไหนกันแน่

จะว่าไปนายแมทธิวเนี้ยรู้อะไรหลายอย่างตามที่เคยทราบข้อมูลของพวกอิลลูมินาติไว้เลยค่ะ เพราะดูท่าจะนายแมทธิวจะรู้อะไรดีๆมากมายให้ชวนติดตามซะแล้วค่ะ (ชักตื่นเต้นเหะ)

ขอบคุณสำหรับข้อมูลมากๆค่ะ จะติดตามตลอดไปค่ะ

 

ใช่ สงสัยที่สุดละเรื่องโอบาม่า แต่ก็เหมือนเป็นการเดินเกมส์นั่นแหละต้องรอติดตามดูตอนจบว่าจะเป็นยังไง

 

เพิ่งเข้ามาอ่านได้ 2 วัน...อ่านไปได้ 6 -7 หน้า น่าสนใจมากครับ...ต้องขอชมคุณชยุตว่ามีความเพียรเป็นเลิศจริงๆ...และขอขอบคุณที่นำเรื่องนี้มาแปลให้ชาวเว็ปได้อ่าน ได้ความรู้เพิ่มขึ้นมากเลยครับ...ผมสนใจเรื่องลักษณะนี้มานานแล้ว แต่หาข้อมูลมาศึกษายากมากครับ...เคยรู้จักคนๆหนึ่ง เขาเล่าเรื่องที่เขาประสบอยู่ให้ทราบ น่าสนใจมากครับ...ตอนแรกผมนึกภาพไม่ค่อยออก แต่พอได้มาอ่านกระทู้นี้แล้ว ทำให้เข้าใจมากขึ้น...คนๆนี้ตัวเขาเองเกือบเอาชีวิตไม่รอด เพราะว่าเป็นที่ประลองวิชาระหว่างฝ่ายเทพ และ ฝ่ายมาร เพื่อช่วงชิงชีวิตของเขา เพราะว่าเขาเป็นนักรบแห่งแสงสว่างคนหนึ่ง...ที่มีความสามารถพิเศษ และมีบุญบารมีสูง วันหนึ่งเขาถูกพวกมารใช้สุดยอดวิชาเข้ามาควบคุมร่างกายไว้ ญาติพี่น้องคิดว่าตายไปแล้ว และไม่มีใครช่วยได้เลย แต่สุดท้ายเขาก็รอดชีวิตมาได้เพราะว่าพวกเทพจากอีกมิติหนึ่งมาช่วยไว้ โดยใช้เทคโนโลยีที่สุดยอดที่สุดในการซ่อมแซมร่างกายที่ถูกพวกมารทำลายไปเกือบทั้งหมด...พวกเทพมีเทคโนโลยีในการเชื่อมต่อเส้นเลือดเส้นประสาทที่สุดยอดมาก แต่ที่น่าทึ่งและน่าสนใจมากคือจุดชี้ขาดที่พวกเทพช่วยชีวิตเขาไว้ได้คือ ใช้สุดยอด " เหล็กไหล " ฝังเข้าไปในร่างกายเขาทางปลายนิ้ว เพื่อไล่วิชามารที่ยึดร่างกายเขาอยู่ จนชีวิตฟื้นขึ้นมาได้ตามปกติ ตอนแรกที่ผมฟังเขาเล่าก็จินตนาการไปถึงพวกเทพเทวดาที่อยู่บนสวรรค์ แต่ก็แปลกใจที่เขาบอกว่าพวกเทพเหล่านี้มาด้วยยานอวกาศ และมีเครื่องมือวิทยาศาสน์ที่สุดยอดจริงๆ แต่ไม่มีใครมองเห็นเขาได้ นอกจากพวกที่มีตาทิพย์ ซึ่งคนๆนี้เขามีความสามารถทางจิตที่สูงมาก ติดต่อกับพวกกายทิพย์ได้ ผมอ่านกระทู้นี้แล้วทำให้นึกภาพออกถึงเรื่องราวที่แปลกประหลาดนี้ และทำให้เชื่อมโยงกันได้ จะคอยติดตามดูอยู่เรื่อยๆครับ...

 

จะไปอยู่เมืองลับแลค่ะ

 

รออ่านอยู่ครับ อยากร่วม
แบ่งปันความเข้าใจในสารนี้ จากมุมมองจากตนเอง

 

มันเป็นอย่างนั้นจริงๆครับ

คือช่วงแรกเริ่ม เดิมที ผมเอามาจากเวปไซท์

EN - TALKS WITH TEACHINGS FROM MY COSMIC FRIENDS - angels-light.org angels-heaven.org ashtar-sheran.org cosmic-people.com universe-people.com

ของนาย Ivo A.Benda เขาไม่เคยกล่าวถึง Illuminati เลย

แต่จะกล่าวถึงพวกมนุษย์ต่างดาวฝ่ายมาร คือ พวก Reptilian ซะเยอะ
จนผมค่อนข้างเซ็งเลยทีเดียว

เนื้อหาส่วนใหญ่ที่เขากล่าวถึงพวก Reptilian ก็จะประมาณว่า
พวกนี้มีกลยุทธ์-กลวิธี ในการควบคุมจิตใจของมนุษย์โลกอย่างไรบ้าง
เช่น การใช้ให้กลุ่มคนที่ถูกควบคุมจิตใจแล้ว ไปฝังไมโครชิปให้ชาวโลกคนอื่นๆต่อ เป็นต้น
ซึ่งเขาพูดถึง และ ต่อต้านเรื่องพวกนี้ค่อนข้างเป็นล่ำเป็นสันเลยทีเดียว

จุดหักเหของกระทู้นี้ มันอยู่ที่หน้าเท่าไหร่ผมก็จำไม่ได้ ที่มีคุณผู้อ่านคนหนึ่ง
ไม่แน่ใจว่าเป็นคุณ Panseak หรือเปล่านะครับ ถามผมถึงเรื่องวีดีโออีกชุดหนึ่ง
ที่กล่าวถึงสาส์นจากท่าน Astra Sheran เช่นเดียวกัน แต่กล่าวถึงในแง่ที่แตกต่าง
จากเนื้อหาหลัก ที่ผมเอามาจากนาย Ivo A.Benda พอสมควร

ในวีดีโอชุดนั้น เนื้อหาประมาณว่า ปี 2012 นี้ จะไม่เกิดอะไรขึ้นแล้ว
เพราะเส้นเวลาได้เปลี่ยนจากรหัส 11:11 เป็น 13:13:13 แล้ว อะไรประมาณนั้น
เพราะฉะนั้น โลกจึงจะสงบสุขต่อไปได้อีกประมาณ 10 ปี

หลังจากที่ได้อ่านข้อมุลชุดนี้แล้ว ผมก็เลยได้เริ่มค้นหาอะไรต่ออะไรเกี่ยวกับปี 2012 เพิ่มอีก
ก็เลยไปเจอข้อมูลอื่นๆ จากคนอื่นๆ อีกเป็นกระบุงโกย
เรียกว่า แทบจะอ่านกันไม่ไหวเลยหละครับ อย่าว่าแต่แปลเลย

ข้อมูลหนึ่งที่ไปเจอมา ก็คือการสื่อสารจากรูปธรรมชีวิตต่างมิติ ที่สื่อมาถึงชาวโลกทั้งหลาย
ทั้งในอเมริกา อังกฤษ และในประเทศแถบยุโรปอื่นๆนี่แหละครับ

ตั้งแต่นั้นมา ผมก็เลยเอามาแปล และโพสต์ เพื่อแบ่งปันให้ท่านได้อ่านกันเป็นระยะๆ

ตัวผมเอง ก็สังเกตอยู่ว่า ข้อมูลของพวกเขาเหล่านี้ ก็ไม่ใช่จะตรงกันซะทุกๆรายละเอียดเสียทีเดียว
แต่ประเด็นหลักที่ตรงกัน แบบไม่มีใครแย้งใครเลย ก็คือเรื่อง
"การยกระดับขึ้น" (Ascension) ของดาวเคราะห์โลก และมนุษย์โลก
และเรื่องอื่นๆอีกบางเรื่อง เช่น เรื่องที่ว่า มีมนุษย์ต่างดาวอยู่ 2 ฝ่าย
ที่กำลังมีอิทธิพลต่อโลกและมนุษย์โลกอยู่จริง แถมยังกำลังอาศัยปะปนอยู่กับพวกเราซะด้วย
และเรื่องที่ว่า "ดาวเคราะห์โลกดวงนี้ คือสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งเหมือนกัน"
อะไรทำนองนี้ และอาจจะมีอีกนะ แต่ผมลืมๆไปบ้างแล้วหละครับ

เพราะฉะนั้น ผมถึงได้บอกกล่าวกับท่านผู้อ่านอยู่เสมอๆว่า
ข้อมูลพวกนี้ ผมก็ไม่รู้นะครับ ว่าอันไหนจริง หรือ ไม่จริง มากน้อยแค่ไหน
ใครคือฝ่ายเทพ-ใครคือฝ่ายมาร ใครมาพูดจริง-หรือใครมาหลอกลวงพวกเรา

อันนี้ ก็เลยต้องเป็นภาระความรับผิดชอบของแต่ละท่านเอาเองนะครับ
ที่จะต้องวินิจฉัยเอาเอง เพราะผมก็ไม่รู้จริงๆ ตัวผมเองยังเอาตัวเองไม่รอดเลยครับ

บอกตามตรงเลยว่า
"ตัวผมเอง ก็โดนฉุด โดนยื้อ จากฝ่ายนี้บ้าง ฝ่ายนั้นบ้าง
จนแทบจะบ้าตายอยู่แล้วครับทุกวันนี้"

จนไม่กล้าบอกตัวเองหรือใครๆเลยว่า ผมเป็นคนดีมีศีลธรรมนะครับ อะไรแบบนั้น

คือไม่รู้จะบอกกับท่านผู้อ่านยังไงนะ ถึงประสบการณ์เหล่านี้
แต่ที่ผมเชื่อว่ามันเป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า หลายๆพฤติกรรม
และหลายๆความคิด ที่ตัวผมเองไม่เคยคิดจะทำ คิดจะพูด
หรือแม้แต่คิดจะคิดด้วยซ้ำไป ผมก็ได้พูด ได้ทำ และได้คิดไปแล้ว

จนรู้สึกว่า โอ้..นี่ชะรอยจะเป็นจิตฝ่ายมารของตัวเอง หรือจะถูกใครเขามาควบคุมซะแล้วกระมัง

ส่วนฝ่ายดี และฝ่ายแสงสว่างนั้น ก็สื่อมาด้วยอะไรบางอย่าง ให้สัมผัสได้อยู่เสมอๆ
แบบไม่เคยทิ้งห่างจากไปเลยเหมือนกัน ซึ่งนึกถึงทีไร ก็ให้รู้สึกตื้นตัน แทบจะร้องไห้ทุกทีเลยครับ

ยังมีอีกนะครับ แต่ไม่กล้าเล่า..
บางทีก็รู้สึกว่า..นี่เราบ้าไปหรือยังหละเนี่ย..ก็มีนะครับ

ประเด็นหลัก มันเหมือนกับว่า "อยู่ที่ตัวเราเองจริงๆเลย" ว่าจะเปิดรับฝ่ายไหน
ในช่วงเวลาไหนมากว่ากัน
เพราะว่า ดาวเคราะห์โลกของเรา "เป็นดาวเคราะห์แห่งทางเลือกเสรี"
ทุกอย่างจึงอยู่ที่ตัวเราเอง จะเป็นผู้ตัดสินใจเลือกเอง

...ขอ...อย่ายอมแพ้....

 

กำลังรออ่านอยู่นะครับ สู้ๆครับ คุณ Chayutt

 

จงมึนงง จงไร้สติ รัสปูตินใช้เจ้าต้องทำ

มนุษย์ต่างดาวฝ่ายมืด กับฝ่ายสว่างเคยติดต่อคุณโดยตรงด้วยหรือครับ มันเป็นยังไงหรออยากรู้

 

5555+
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวที่เล่าสู่กันฟังครับ คุณชยุต
ที่ผมหัวเราะเพราะ ผมคิดถึงตัวเองและเคยมี
อาการ "ลักกะปิดลักกะเปิด" อย่างนี้ (ไม่ใช่เลือดออกตามไรฟันนะครับ 555+)

เป็นอาการสมองส่วนเหตุผล กำลังทำความเข้าใจในสิ่งที่ไม่สามารถเข้าใจได้ (มันก็เลยสรุปออกมาตามโลกของตรรกระ)
ซึ่งมันขัดแย้งกับความรู้ของจิตวิณญาณ

ช่วงที่เรารู้สึกสงบ เราจะได้คำตอบที่ดีจากจิตวิณญาณ

นั่นหละคือตัวเรา ผมสัมผัสถึงความสว่างไสวในตัวคุณชยุต
มันมีอยู่นิดเดียว นิดเดียวจริงๆ เมื่อคุณชยุตผ่านขั้นตอนนี้
มาได้ คุณชยุตจะเป็นมนุษย์แห่งแสง ที่สว่างไสว
และพร้อมที่ ส่องสว่างความรักให้กับผู้อื่นอย่างสมบูรณ์แบบที่เดี่ยว

ด้วยความรักครับ

 

Matthew Ward 14th February Channelling
การสื่อสารทาง โทรจิตจาก Matthew Ward – 14 กุมภาพันธุ์ 2010

ผู้รับการสื่อสาร: Suzy Ward

ที่มา: http://www.matthewbooks.com/mm/anmviewer.asp?a=[FONT=&quot]117[/FONT]&z=[FONT=&quot]2[/FONT]<o></o>

ตอน ที่ 3 / 4

<link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;} @font-face {font-family:Tahoma; panose-1:2 11 6 4 3 5 4 4 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:1627421319 -2147483648 8 0 66047 0;} @font-face {font-family:Verdana; panose-1:2 11 6 4 3 5 4 4 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1593833729 1073750107 16 0 415 0;} @font-face {font-family:"\@Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; font-family:Arial; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Arial Unicode MS"; color:darkblue;} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> 19. พวกเราต้องบอกกับพวกคุณว่า ประเด็นต่างๆ ที่อยู่ในความสนใจของพวกคุณมากที่สุด
ตามที่ปรากฏอยู่ในอีเมลของคุณแม่ของผม ที่พวกเราได้หยิบยกขึ้นมาอธิบายให้พวกคุณฟังไปแล้วนั้น
มันได้ก่อให้เกิดความรู้สึกที่แตกต่างกันมากมายขึ้น

พวกเราเอง ก็ต้องการขับไล่พลังงานด้านลบ ที่ถูกสร้างขึ้นมาจากความกังวลของพวกคุณ
ที่มีต่อข้อมูล ที่พวกคุณได้อ่านหรือได้ฟังมาเหล่านี้อยู่เหมือนกัน
แต่พวกเราก็ไม่อยากทำลายเจตนารมณ์พื้นฐานใดๆของข้อความเหล่านี้ ซึ่งนั่นก็คือ

“พวกเราต้องการให้พวกคุณ รู้จักเรียนรู้ที่จะสื่อสารกับวิญญาณของตัวคุณเอง,
รู้จักถามคำถามต่างๆ และรู้จักที่จะเงียบและคอยฟังคำตอบ ที่จะปิ๊งแว๊บขึ้นมาเอง”

เพราะว่า การรับฟังและการเอาใจใส่ต่อข้อความต่างๆจากวิญญาณของคุณ ที่จะสื่อสารมาถึงจิตสำนึกของคุณเอง
คือขั้นตอนที่สำคัญมาก ของการวิวัฒนาการทางวิญญาณ

และข้อความต่างๆของพวกเรา ก็มีวัตถุประสงค์เพื่อการรู้แจ้งของพวกคุณ และเพื่อช่วยชี้นำทางพวกคุณ
ในกระบวนการวิวัฒนาการทางจิตวิญญาณของพวกคุณเอง

อีกครั้งหนึ่ง พวกเราขอเร่งรัดให้พวกคุณให้

“ค้นหาคำตอบจากภายในของคุณเอง”

20. ยิ่งไปกว่านั้น แม้แต่ข้อเท็จจริงจากแหล่งข้อมูลภายนอกทั้งหลาย ก็สามารถผิดพลาดได้
เพราะการตกหล่นข้อเท็จจริงบางอย่างไป
เพราะเหตุนี้ การถ่ายทอดข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์โดยไม่ตั้งใจ ที่ผู้อ่านเข้าใจเอาเอง จึงเป็นปัญหาสำคัญ.....

(ข้อความต่อจากนี้บางส่วน ผมขอข้ามไปนะครับ เพราะไม่มีอะไรสำคัญสักเท่าไหร่ –chayutt)


21. ตอนนี้ก็มาถึงประเด็นที่ว่า สัตว์หลายชนิดจะกลายเป็นสัตว์กินพืชหรือไม่
ก็จะขึ้นอยู่กับกระบวนการการเลือกของพวกมันเอง ว่าจะชอบกินแบบไหน ก็เหมือนกับมนุษย์โลกนั่นแหละ

เพราะว่า ยิ่งแสงสว่างทวีความเข้มข้นขึ้นในระดับเซลของร่างกายของสิ่งมีชีวิตทุกชนิดมากเท่าไหร่
ทั้งมนุษย์และสัตว์ ก็จะค่อยๆเปลี่ยนมาเลือกกินอาหารที่มีคุณสมบัติแห่งแสงสว่างไปโดยปริยาย
ซึ่งคุณสมบัติดังกล่าวนี้ ไม่มีอยู่เนื้อสัตว์ที่ถูกทำร้ายจนตาย

และหากปราศจากห่วงโซ่อาหารแบบที่เป็นอยู่ในขณะนี้แล้ว สัตวืทั้งหลายก็จะมีจำนวนลดลง
ไม่แออัดบนโลกมากจนเกินไป

ในทางกลับกัน พวกมันก็จะขยายพันธุ์ช้าลงเรื่อยๆตามสัญชาตญาณ จนในที่สุด ไม่ขยายพันธุ์อีกเลย

พระผู้เป็นเจ้า ไม่ทรงมีข้อติเตียนใดๆต่อการเลือกรับประทานเนื้อสัตว์หรืออาหารทะเล
แต่การแสดงความสำนึกบุญคุณที่สัตว์เหล่านี้ ให้เลือดเนื้อมาเป็นอาหารแก่พวกคุณ ก็เป็นสิ่งที่สมควรกระทำอย่างที่สุด

ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายที่เข้มแข็ง คือสิ่งที่ใช้ป้องกันอันตรายต่างๆ ที่อาจปะปนมากับอาหาร
ที่ผ่านการแปรรูปและเครื่องปรุงต่างๆได้ดี เช่น เนื้อสัตว์ที่ถูกฉีดสารสเตอรอยด์เข้าไป,
อาหารทะเลที่ปนเปื้อนด้วยสารปรอทหรือสารพิษชนิดอื่นๆ, และอาหารดัดแปรงพันธุกรรม,
ซึ่งพลังงานแห่งแสงสว่างคือสิ่งที่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันเข้มแข็งได้มากที่สุด


(ยังมีต่อครับ)
...................................

 

Matthew Ward 14th February Channelling
การสื่อสารทาง โทรจิตจาก Matthew Ward – 14 กุมภาพันธุ์ 2010

ผู้รับการสื่อสาร: Suzy Ward

ที่มา: http://www.matthewbooks.com/mm/anmviewer.asp?a=[FONT=&quot]117[/FONT]&z=[FONT=&quot]2[/FONT]<o></o>

ตอน ที่ 4 / 4

<link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} @font-face {font-family:"Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;} @font-face {font-family:Tahoma; panose-1:2 11 6 4 3 5 4 4 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:1627421319 -2147483648 8 0 66047 0;} @font-face {font-family:Verdana; panose-1:2 11 6 4 3 5 4 4 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1593833729 1073750107 16 0 415 0;} @font-face {font-family:"\@Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; font-family:Arial; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Arial Unicode MS"; color:darkblue;} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} /* List Definitions */ @list l0 {mso-list-id:1995840807; mso-list-type:hybrid; mso-list-template-ids:-947604094 67698703 67698713 67698715 67698703 67698713 67698715 67698703 67698713 67698715;} @list l0:level1 {mso-level-tab-stop:36.0pt; mso-level-number-position:left; text-indent:-18.0pt;} ol {margin-bottom:0cm;} ul {margin-bottom:0cm;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> 22. ในกระบวนการเปลี่ยนระบบโครงสร้างทางเศรษฐกิจโลก จากระบบเก่าไปสู่ระบบใหม่
พวกเราก็ไม่ค่อยแน่ใจว่า จะมีการเลื่อนระยะเวลาการชำระหนี้ให้กับหนี้ทุกๆประเภทไปทั่วทั้งโลกหรือไม่
แต่ที่พวกเขารู้แน่ๆก็คือ หนี้เงินกู้ดอกเบี้ยสูงจากกองทุน IMF (International Monetary Fund)
ที่ให้กับประเทศต่างๆ ซึ่งมีผู้นำขี้โลภ ที่ยอมให้ทรัพยาการธรรมชาติบางอย่างของประเทศตนเอง
ตกอยู่ภายใต้การควบคุมโดยกลุ่มอิลลูมินาติ ก็จะถูกยกหนี้ให้

และมันมีแนวโน้มว่า หนี้สินส่วนบุคคล ก็จะถูกปรับใหม่ โดยพิจารณาจากสาเหตุที่ก่อให้เกิดหนี้ของแต่ละบุคคลด้วย

วัตถุประสงค์ของการปรับโครงสร้างของระบบเศรษฐกิจใหม่ ก็เพื่อที่จะกระจายความมั่งคั่งในโลกของพวกคุณออกไป
เพราะฉะนั้นแล้ว มันก็จะไม่มีใครบางคนที่ดำรงชีวิตอยู่ด้วยความยากจนข้นแค้น
ในขณะที่ใครบางคนดำรงชีวิตอยู่ด้วยความหรูหราฟุ่มเฟือย

และวัตถุประสงค์อีกอย่างหนึ่งก็คือ เมื่อทรัพย์สินอันมหาศาลที่ผิดกฎหมายของกลุ่มอิลลูมินาติถูกเปิดเผยแล้ว
เม็ดเงินจำนวนมากมาย ก็จะกลับคืนสู่ประชาชนทุกคนบนโลกใบนี้

ในยุคทองของโลกนี้ แนวโน้มของระบบเศรษฐกิจโลก ก็จะเป็นการทำธุรกิจโดยปราศจากเงิน
แต่จะเป็นระบบการแบ่งปันและการแลกเปลี่ยนสิ่งของกันแทน แสงสว่างที่มีความเข้มข้นขึ้นในชาวโลกแต่ละคน
จะทำให้พวกเขายอมรับวิธีการได้ค่าตอบแทนแบบนั้น และวิธีการทำธุรกิจแบบนี้ ก็จะเป็นที่ยอมรับกัน
ทั้งในระดับบุคคลต่อบุคคล และในระดับประเทศต่อประเทศด้วย

23. มันไม่มีดาวเคราะห์ หรือ ดาวหางใดๆ ที่กำลังถูกทำให้มุ่งหน้ามาเพื่อชนโลก
โดยกลุ่มรูปธรรมชีวิตต่างพิภพที่ทรงพลังและปองร้ายโลกหรอกนะครับ แต่ต่อให้มันมีอยู่จริงหละก็
พวกคุณก็อย่าลืมว่า พวกคุณกำลังถูกห้อมล้อมอยู่ด้วยยานอวกาศหลายพันลำ
และรูปธรรมชีวิตแห่งแสงสว่างหลายล้านชีวิต ซึ่งมีเทคโนโลยีล้ำหน้า ที่พร้อมจะเบี่ยงเบนวิถีการโคจรของเทหะวัตถุใดๆ
ที่อาจจะพุ่งมาชนโลกของพวกคุณ ให้ไปพ้นทางได้

และข่าวลืออีกเรื่องหนึ่ง ที่สร้างความหวาดกลัวก็คือ ข่าวลือเกี่ยวกับ “Planet X” ที่กำลังพุ่งมาชนโลก
ซึ่งข่าวลือเรื่องนี้ ก็เป็นเพียงความเชื่อที่ไม่จริงเท่านั้นเอง


24. แล้วเรื่องเกี่ยวกับดวงอาทิตย์อีกหละ?

มันจะเป็นสาเหตุให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของทั่วทั้งระบบสุริยะจักรวาลของพวกคุณหรือไม่?

หากว่านักดาราศาสตร์ฟิสิกส์ของพวกคุณ กำลังตระหนักถึงการเลื่อนระดับขึ้นของดาวเคราะห์โลก
ผ่านทาง “ประตูมิติแห่งจักรวาล” อยู่หละก็ พวกเขาก็น่าจะรู้ว่า ที่ดวงอาทิตย์ต้องถูกกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยารุนแรงขึ้น
ก็เป็นเพียงผลกระทบตามธรรมชาติของกระบวนการเลื่อนระดับขึ้นนี้เท่านั้น
และมันก็จะไม่เป็นอันตรายใดๆต่อดาวเคราะห์ของพวกคุณเลย



25. จะไม่มีรูปธรรมชีวิตต่างพิภพกลุ่มใดๆ ที่จะเดินทางผ่านประตูเวลา (Stargate) มาที่โลกของพวกคุณ
เพื่อควบคุมพวกคุณ และปกป้องพวกคุณจากการทำลายดวงดาวของตนเองแต่อย่างใด

ขอให้เราพูดถึงเรื่องราวเกี่ยวกับสตาร์เกทสักหน่อยเถิด วัตถุประสงค์การใช้งานของมันมีหลายอย่าง เช่น

- มันเป็นประตูมิติที่ถูกเปิดไว้ตั้งแต่ในอดีต โดยรูปธรรมชีวิตหลายอารยธรรม
ที่เคยเดินทางมายังดาวเคราะห์โลก หรือ “ไกอา” (Gaia)

- ช่องทางเปิดต่างๆ ที่ยานแม่ทั้งหลายสามารถผ่านเข้า-ออกได้

- บริเวณต่างๆ ที่ลูกเรือทั้งหลายในยานอวกาศ ใช้เป็นจุดเพื่อสังเกตการณ์
ปรากฏการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นบนดาวเคราะห์โลก

- ช่องทางต่างๆ ที่เทคโนโลยีของครอบครัวชาวจักรวาลของพวกเรา ปฏิบัติการผ่านเข้าไปได้อย่างประสบผลสำเร็จ

- โซนต่างๆ ที่อารยธรรมอื่นๆ สามารถใช้เป็นทางผ่านเข้ามาสู่อีกอารยธรรมหนึ่งได้อย่างปลอดภัย

- เกลียวหมุนวนของพลังงาน ที่แสงสว่างจากดินแดนไกลโพ้น สามารถใช้เป็นทางเพื่อส่องสาดเข้ามา
เพื่อยกระดับความสั่นสะเทือนของดินแดนหรือทะเลที่หนาแน่นไปด้วยพลังงานด้านลบได้

- ตำแหน่งต่างๆ ที่มีระดับพลังงานแห่งแสงสว่างเข้มข้น ที่ช่วยดูดซับแสงสว่างไว้บนดาวเคราะห์โลก

มันมีรายละเอียดที่จำเพาะเจาะจงอื่นๆอีก ของแต่ละวิธีการใช้ประโยชน์ของพวกมัน
และพวกเราก็ยังมองเห็นด้วยว่า สตาร์เกทเหล่านี้ คือส่วนหนึ่งของ “โครงข่ายแสงสว่างแห่งการปกป้อง”
(Protective Light Grid) ที่ล้อมรอบดาวเคราะห์โลกของพวกคุณอยู่ ซึ่งทำหน้าที่เป็นเหมือนไฟนำทาง
ให้แก่รูปธรรมชีวิตทั้งหลาย ที่อยู่ในรูปของจิตวิญญาณบริสุทธิ์ และกายทิพย์ เอาไว้ใช้ประโยชน์
เวลาเดินทางไปมาระหว่างดาวเคราะห์โลกและดินแดนสุขาวดี


26. มันจะไม่มีการกระโดดข้ามขั้น จากมิติที่ 3 ไปสู่มิติที่ 5 เลย โดยไม่ผ่านมิติที่ 4 ก่อนหรอกนะครับ
เพราะมันทั้งเป็นการฝืนกฎของจักรวาล และฝืนกฎวิวัฒนาการของทุกชีวิตด้วย

แต่อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาตั้งแต่ดาวเคราะห์โลก เริ่มกระบวนการเลื่อนระดับขึ้น ไปจนถึง
สามารถหลุดออกไปจากมิติที่ 3 ได้อย่างสมบูรณ์แบบ และจนกระทั่งไปถึงจุดหมายปลายทาง คือ มิติที่ 5 ได้นั้น
ก็จะเป็นเหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ของจักรวาล ที่ไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้ครั้งใด ที่เกิดขึ้นรวดเร็วได้ขนาดนี้มาก่อน

เพราะว่าความแตกต่างกันอย่างมหาศาลของระดับพลังงาน ระหว่างมิติที่ 3 กับมิติที่ 4 นั้น
ทำให้กระบวนการนี้เกิดขึ้นได้อย่างยากลำบาก เกินกว่าจะจินตนาการได้ และการที่จะเอาชนะพลังแห่งความมืด
ที่แผ่ปกคลุมไปทั่วทั้งมิติที่ 3 อยู่นี้ ปกติแล้ว มันต้องใช้เวลานานแสนนานเลยทีเดียว


27. ไม่ว่าจะเป็นวันที่ 21 ธันวาคม 2012 หรือในวันไหนๆ พวกคุณก็จะไม่ได้เห็นความแตกต่างกันอย่างลิบลับ
แค่เพียงชั่วข้ามคืน เพราะว่าสิ่งต่างๆมันจะค่อยๆเปลี่ยนไป เมื่อถึง “ช่วงเวลา” ของมันเอง

แม้แต่วันที่ 31 ธันวาคม 2012 เอง ก็จะเป็นวันที่สุดแสนจะธรรมดา ไม่ต่างอะไรกับวันอื่นๆก่อนหน้ามันและหลังมัน
ยกเว้นการเฉลิมฉลองเทศการปีใหม่เท่านั้น ที่อาจจะทำให้มันพิเศษจากวันอื่นๆบ้าง มันก็แค่นั้นเอง

ความแตกต่างของชีวิตพวกคุณระหว่างช่วงเวลานี้ กับช่วงเวลาแห่งยุคทองของโลก
มันจะเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์และสวยสดงดงามมากๆ

แต่ว่า ในขณะที่ยังอยู่บนเส้นทาง ที่กำลังมุ่งสู่มิติที่ 4 และมุ่งต่อไปสู่มิติที่ 5 อยู่นี้ ในแต่ละวัน ชีวิตของพวกคุณ
ก็จะไม่แตกต่างอย่างพลิกหน้ามือเป็นหลังมืออย่างแน่นอน


28. พวกเราก็เข้าใจ ว่าพวกคุณมีการพินิจพิเคราะห์กันมากแค่ไหน เกี่ยวกับเรื่องที่จะเกิดขึ้นกับพวกคุณแต่ละคน
ในปลายปี 2012 แต่พวกเราก็คงมิอาจมีคำตอบแบบฟันธงให้พวกคุณได้หรอกนะครับ
เพราะว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับชาวโลกแต่ละคน จะขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้องจำเพาะเจาะจงอยู่กับแต่ละคน

แต่อย่างไรก็ตาม พวกเราก็สามารถบอกได้แน่ๆว่า เทหะวัตถุที่ดูคล้ายกับ “โลกใบที่ 2” ซึ่งมีผู้กล่าวว่า
มันจะกลายมาเป็นบ้านในมิติที่ 3 สำหรับชาวโลกผู้ที่ไม่สามารถร่วมเดินทางไปทั้งกายเนื้อ สู่มิติที่ 4
กับดาวเคราะห์โลกใบนี้ได้นั้น มันเป็นความเข้าใจผิด

เพราะว่า พวกคุณคือจิตวิญญาณในร่างกายมนุษย์ ส่วนดาวเคราะห์โลกก็คือจิตวิญญาณในร่างกายของเทหะวัตถุ
ซึ่งจิตวิญญาณของดาวเคราะห์โลก แท้ที่จริงแล้ว ยังคงสถิตอยู่ในมิติดั้งเดิมของตัวเธอเอง คืออยู่ในมิติที่ 5
แต่ที่ร่างกายของเธอต้องหมุนวนย้อนกลับ ตกลงมาสู่มิติที่ 3 ตั้งแต่เมื่อหลายพันปีก่อน จนกระทั่งถึงทุกวันนี้
ก็เพราะว่า ในตอนนั้น ชาวโลกที่อาศัยอยู่บนเธอ ได้เริ่มเข่นฆ่าล้างผลาญกันเอง และเหล่าสรรพสัตว์ทั้งหลายด้วย
รวมถึง ได้ทำร้ายร่างกายเธอจนสาหัสอีกด้วย ซึ่งอันที่จริงแล้ว เธอน่าจะเลือกที่จะปล่อยให้ร่างกาย
ที่ถูกทำร้ายจนสาหัสนี้ ตายลงไปเสียซะตั้งแต่ตอนนั้น แต่เธอก็ไม่ได้เลือกเช่นนั้น เธอเลือกที่จะฟื้นฟูเยียวยามันขึ้นมาใหม่
เพื่อให้สิ่งมีชีวิตทั้งหลายที่อาศัยอยู่บนเธอสามารถมีชีวิตรอดต่อไปได้

ยิ่งไปกว่านั้น ทฤษฏีเกี่ยวกับ “โลกใบที่ 2” อันนั้น ก็ยังได้กล่าวถึงเฉพาะชาวโลกบางส่วน
ที่เงื่อนไขชีวิตในภพชาตินี้ ที่พวกเขาเป็นผู้เลือก ว่ามันจะนำพาพวกเขา ให้ต้องไปเกิดในโลกใบใหม่
ที่อยู่ในมิติที่ 3 เหมือนกันกับโลกใบนี้เท่านั้น ทั้งที่จริงแล้ว มันจะมีชาวโลกบางส่วน
ที่จะต้องถูกดึงไปอยู่ในมิติที่ 1 และ 2 โดยอัตโนมัติ

ส่วนชาวโลกอีกส่วนหนึ่ง ที่มาจากมิติที่ 4, 5 และสูงกว่า เพื่อมาช่วยโลกในการเลื่อนระดับขึ้นในครั้งนี้
เมื่อใดที่ภารกิจของพวกเขาเสร็จสิ้นลง พวกเขาก็จะต้องกลับไปสู่มิติเดิมของพวกเขาเอง


29. และพวกเราก็เข้าใจด้วยว่า เรื่องการเวียนว่ายตายเกิด เป็นเรื่องที่ยังเป็นปริศนาสำหรับพวกคุณอยู่
พวกเรารู้ว่า พวกคุณบางคนมีความคิดว่า

“ชาติก่อนเธอคือโจน ออฟ อาร์ค” หรือ
“ชาติที่แล้ว เขาคืออับราฮัม ลินคอล์น”

เพียงเพราะว่า ผู้คนเหล่านั้น มีสติปัญญา, ความคิด, และความกล้าหาญ หรือบางที อาจจะมีทักษะความชำนาญ
และปฏิภาณไหวพริบ และบุคลิกลักษณะ เหมือนกับบางคนที่น่าเคารพนับถือ หรือน่ารักใคร่ในอดีต
ซึ่งทำให้พวกคุณคิดไปว่า พวกเขาอาจจะเป็นจิตวิญญาณดวงเดียวกัน หรือ เป็นส่วนหนึ่งของจิตวิญญาณดวงเดียวกัน
ที่กลับมาเกิดใหม่ อะไรแบบนั้น

แต่ที่จริงแล้ว บุคคลที่พวกคุณกล่าวถึงว่าชาติก่อนเคยเกิดเป็นคนโน้นคนนี้นั้น พวกเขาอาจจะได้รับแรงบันดาลใจลึกๆ
จากบุคคลในอดีตที่ถูกอ้างถึงก็ได้ จึงทำให้พวกเขาเอาอย่างบุคคลผู้นั้น เพราะอยากจะยิ่งใหญ่เหมือนบุคคลผู้นั้นก็เป็นได้

หรือไม่ก็ เป็นเพราะความมุ่งมาดปรารถนาอันแรงกล้าของพวกเขา จึงทำให้พวกเขาดึงดูดพลังงาน
อันทรงพลังของเหล่าคุรุเหล่านั้นเข้ามาหาตัวเองก็เป็นได้

อีกอย่างหนึ่ง สมาชิกในครอบครัวคนใดคนหนึ่ง ก็อาจจะเลือกที่จะมีบุคลิกลักษณะเหมือนกับ
สมาชิกในครอบครัวของตนเอง ที่ได้ล่วงลับไปแล้วก็ได้

หรือไม่ก็ บางที อาจจะเกิดจากการแบ่งปันช่วงชีวิตร่วมกัน ในมิติที่ปราศจากกาลเวลา
จึงทำให้คนบางคนมีบุคลิกลักษณะที่เหมือนกันกับบุคคลที่ล่วงลับไปแล้วอย่างมาก ก็เป็นได้

มันมีเหตุผลมากมาย ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ และไม่สามารถระลึกได้ ที่มีผลกระทบต่อทุกๆชีวิต
แต่ว่า พวกคุณทุกๆคน ก็คือตัวของคุณเองเพียง 1 เดียว ไม่มีใครเหมือน และไม่เหมือนใคร
และจะยังคงเป็นหนึ่งไม่มีสองต่อไปตราบจนชั่วนิจนิรันดร์, ไม่มีวันถูกทำลายไปได้, มีคุณค่าอันประมาณมิได้
และมีเอกลักษณ์เป็นของตนเองเสมอ แม้ว่าพวกคุณทุกคน จะได้รับความรักที่เท่าเทียมกัน
และล้วนแล้วแต่เป็นส่วนหนึ่งของพระผู้เป็นเจ้าด้วยกันทั้งสิ้นก็ตาม


30. รูปธรรมชีวิตแห่งแสงสว่างทั่วทั้งจักรวาลนี้ กำลังเชียร์พวกคุณอยู่ ในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนรูปแบบของพวกคุณ
ไปสู่ยุคทองอย่างนี้

จงระลึกไว้ในใจเสมอว่า สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ความรุ่งเรืองแห่งโลกยุคใหม่นั้น ได้มีอยู่เรียบร้อยแล้ว
และมันก็กำลังรอคอยให้พวกคุณเดินทางไปถึงอยู่ !!

_________________________
LOVE and PEACE
Suzanne Ward

 

SATAN ลูซิเฟอร์ (Lucifer) > อิลลูมิเนติ (Illuminati) > จัดระเบียบโลกใหม่ NEW WORLD ORDER > เริ่มต้นชำระโลก
(21-12-2012) > มิติที่ 4 สู่ มิติที่ 5 ยุึคจิตวิวัฒน์ > มิติที่ 5 ข้ามเส้นแบ่งเวลา โลกคู่ขนาน



http://palungjit.org/threads/2012-illuminati-กับดวงอาทิตย์-แกนโลก-และเครื่อง-cern.230087/


ปฏิทินของชาวมายาใช้ในระยะวงโคจร 5000 ปี (สงสัยไหมครับว่าทำไมถึงนานขนาดนั้น) และวงโคจรที่ใกล้กับปัจจุบันมากที่สุด จะจบลงในวันที่ 21 ธันวาคม ปี พ.ศ. 2555 (ซึ่งตามความเชื่อของชาวมายาก็คือ พระเจ้า ของพวกเขาจะเสด็จกลับลงมายังโลกนี้อีกครั้ง

นิวเอจ (newagers) และกลุ่มวัฒนธรรมสร้างสรรค์ (Cultural Creatives or CC) ด้วย นั่นคือสภาพของความสะท้านสะเทือนระดับโลกที่จะเกิดขึ้น ในปี 2012 และหลังจากนั้น (the shock of 2012) ซึ่งก็เป็นช่วงเวลา เดียวกับช่วงเวลาของการเดินทางของจิตวิญญาณ สู่มิติของธรรมจิตธรรม วิญญาณ (spiritual dimension)

หลังจากปี 2012 มีสี่ประการที่จะเกิดขึ้นคือ..

1.มนุษยชาติจะก้าวล่วงเทคโนโลยีที่เราใช้และรู้จักใน ขณะนี้ แทบทั้งหมด
2.มนุษยชาติจะก้าวล่วงรูปแบบของเวลาและเงินในรูปที่ใ ช้กัน ในขณะนี้
3.เราจะผ่านเข้าสู่มิติที่ห้าอันเป็นมิติจิตวิญญาณ - จากมิติที่สี่ - วิกฤติที่เจ็บปวด
4.ระนาบของระบบสุริยะจะอยู่ในระนาบเดียวกับระนาบของ กาแล็กซี


ปฏิทินมายาบอกด้วยว่า ในช่วงเวลาตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 1987 กระทั่งถึงช่วงปี 2012 เป็นช่วงเวลาระหว่างกลางของมิติที่ 4 สู่มิติที่ 5 ซึ่งเป็นช่วงอันตราย เพราะเป็นช่วงที่จะมีความล่มสลายในทางธรรมชาติ และจิตวิญญาณของชาวโลกส่วนใหญ่ แต่ขณะเดียวกันก็จะมีการเปลี่ยน แปลงทางจิตวิญญาณของคนอีกส่วนหนึ่ง (apocalypse แปลว่าการเปิดเผยที่ หมายถึงวิวัฒนาการทางจิตอีกด้วย)

น่าแปลกที่การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวของ เวลาจะสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของความถี่ของกระแสแม่เหล็กโลก ที่สะท้อนออกมาตามการหมุนรอบตัวเองของโลก (Schumann Resonance ที่เคยคงที่ที่ความถี่ 7.8 เฮิรตซ์ หรือรอบต่อวินาทีทุกวันนี้ได้สูงขึ้นเป็น 11.8 รอบต่อวินาที)

โดยปฏิทินของชาวมายา มิติที่ 5 หรือหลังปี 2012 คือช่วงเวลาที่มนุษยชาติส่วนหนึ่ง จะมีวิวัฒนาการสู่แสงใสกระจ่าง (แปลกอีกที่ใช้คำว่า clear light เช่นเดียวกับในคัมภีร์พีระมิดของอียิปต์ และคัมภีร์มรณศาสตร์ของทิเบต ที่มีความหมายสู่จิตวิญญาณบริสุทธิ์)

 

แหม ถ้าไม่เจออะไรซะบ้างเลย ก็ไม่พัฒนาเลยซิฮะ

เจอมารดึงไปซะบ้างแหล่ะดีฮะ พอกลับมาได้ เราจะเข้าใจได้ถ่องแท้มากขึ้น แถมไม่หลงตัวเองด้วยฮะ

จะบอกว่าหายไปหลายวัน เพราะตั้งแต่หลังมาฆะบูชามา ตัวผมเองพลังงานลบเริ่มรุกราน

ตอนนี้เริ่มซาละฮะ เพิ่งเข้ามาอัพเดต แหม โป๊ะเชะอีกแระ
ที่คุณชยุตแปล มีอะไรหลายๆคำ คล้ายกับที่ผมใช้ ซิงโครนิซิที อีกละฮะ อิอิ

จะบอกว่า สิ่งที่แปลออกมาจากชาวมายัน บางข้อมูลที่เคยอ่านมา
มีบอกว่า แปลผิดนะฮะ เข้าใจความหมายของสิ่งที่ชาวมายันบอกไว้ผิด

คือ สิ้นโลก ปี 2012 ไม่ใช่เลย แต่เป็นการเลื่อนระดับตะหากฮะ

และวิกฤติที่เจ็บปวดที่ว่านั่น ไม่ใช่ร่างกายหรอกฮะ ผมเดาว่าเป็นการเจ็บปวดทางใจ
ที่เหล่าพี่น้องทั้งหมดบนโลก ไม่สามารถเลื่อนระดับไปด้วยกันได้ฮะ

ไปแระฮะ จ้าวเรียกไปชงกาแฟ อิอิ

เป็นผม ผมก็ปวดใจนะฮะ

 

เวลาข้าพเจ้าจะหาข้อมูลไปโพสต์ ในกระทู้
ต้องแวะเข้ามาดู กระทู้นี้ทุกทีเลย
กระทู้นี้ จะเป็น master plan ของข้าเจ้า อะ
หรือบางที ก็มาได้คำตอบ จากที่นี่ อยู่เรื่อยๆเลย

 

ข้อความที่เป็นตัวอักษรสีแดงข้างบนนี้
เป็นข้อความที่ผมแก้ไขใหม่นะครับ
เพราะว่าพอมานั่งคิด ใคร่ครวญ และใตร่ตรองดูแล้ว
ประกอบกับ พอมานั่งไล่อ่านข้อความของนายคนนี้
ย้อนหลังไปตั้งแต่ต้นแล้ว ก็รู้สึกว่า
แปลออกมาอย่างนี้ น่าจะถูกต้องกว่าหนะครับ

.................................

ประกอบ

 

<o:smarttagtype namespaceuri="urn:schemas-microsoft-com<img src=" http:="" palungjit.org="" images="" smilies="" omg-smile.gif="" border="0" alt="" title="Surprised" smilieid="34" class="inlineimg"></o:smarttagtype>สรุปข้อความจากนาย Matthew Ward
เกี่ยวกับเรื่องการเลื่อนระดับขึ้น (Ascension) ของดาวเคราะห์โลก

7 กุมภาพันธุ์ 2009


- ชาวโลกที่ได้รับ “แสงสว่างนั้น” (The light) จะมีการยกระดับทางกายเนื้อไปพร้อมๆกับดาวเคราะห์โลก
ซึ่งจะก้าวหน้าไปสู่ระดับการสั่นสะเทือนของมิติที่ 4 และ 5

- โครงสร้างเซลของร่างกายมนุษย์ในมิติที่ 3 ที่เป็น Carbon-base จะเปลี่ยนไปเป็น Crystal-base ในมิติที่ 5

- กระบวนการยกระดับดังกล่าวนี้ ได้เริ่มเกิดขึ้นมานานร่วม 70 ปีของมนุษย์แล้ว และบัดนี้ก็ยังคงดำเนินไปอยู่
มันจะสิ้นสุดลงในปี 2012

- แต่อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ได้แปลว่าภายหลังปี 2012 แล้ว จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอีก
เพราะว่ามันยังจะมีการเปลี่ยนแปลงต่างๆอีกมากมายที่วิเศษและยอดเยี่ยมอยู่อีกต่อไป

- การตัดสินว่าใครจะได้ยกระดับขึ้นหรือไม่ ขึ้นอยู่กับบุคคลผู้นั้นเอง ไม่ใช่จะมีใครไปตัดสินโดยพละการให้ได้
เพราะมันขึ้นอยู่กับระดับพลังงานของแต่ละบุคคล ซึ่งได้สมัครใจเลือกที่จะเป็นแสงสว่างหรือความมืดเอง
ผู้ใดที่เปี่ยมไปด้วยพลังแห่งแสงสว่างก็จะได้ยกระดับขึ้น

- การยกระดับขึ้น ไม่ได้หมายถึงการถูกนำขึ้นไปไว้บนยานอวกาศ

- ดาวเคราะห์โลกจะไม่ถูกทำลายอย่างแน่นอน ในทางตรงกันข้าม ดาวเคราะห์โลกกำลังถูกปรับสภาพ
ให้กลับไปอยู่ในสภาวะที่มีสุขภาพดีเหมือนเดิม ตลอดเส้นทางแห่งกระบวนการยกระดับขึ้นนี้
และสวนแห่งเอเดน (Eden) ที่สวยงามก็จะกลับคืนมาอีกครั้ง

- การยกระดับขึ้นของแต่ละบุคคลคือการรวมจิตสำนึกและวิญญาณของคนๆนั้นให้เป็นหนึ่งเดียว

- ในช่วงหัวลิ้วหัวต่อนี้ จิตสำนึกโดยรวม (The Collective Consciousness)
จะยังคงได้รับอิทธิพลจากพลังแห่งความมืดที่ยังหลบซ่อนและแอบซุ่มโจมตีอยู่

- ชาวโลกคนไหนที่จมปรักอยู่แต่ในโลกมืด มีความโหดเหี้ยมไร้จิตสำนึก กระหายอำนาจ จะต้องตายไปจากโลกนี้
และเพราะว่าพวกเขาเหล่านั้นปราศจากพลังงานแห่งแสงสว่าง ที่เป็นพลังชีวิตของวิญญาณที่สำคัญ
ดังนั้นร่างกายของพวกเขาจะตาย ส่วนวิญญาณของพวกเขาจะดิ่งลงไปสู่ระนาบต่างๆที่มีระดับพลังงานหนาทึบมากๆ
ที่เหมาะเจาะกับรูปแบบพลังงานที่ถูกบันทึกไว้ตลอดช่วงชีวิตของพวกเขา

- ทุกๆอารยะธรรมทั่วทั้งจักรวาลนี้ ต่างก็มีจิตสำนึกมวลรวมเป็นของตนเอง
และเพราะว่าพลังงานเป็นสิ่งที่สามารถถูกกำหนดทิศทางได้ แต่ไม่สามารถห่อให้เป็นกลุ่มก้อน
หรือแบ่งแยกออกให้เป็นส่วนๆได้ ดังนั้น จิตสำนึกมวลรวมของแต่ละอารยธรรม หลายๆอารยธรรม
จึงประสานรวมกันเกิดเป็นจิตสำนึกมวลรวมของทั้งจักรวาลขึ้นมา (Universal consciousness)
หรือเกิดเป็นจิตใจของจักรวาล (Universal mind)

- พลังงานความคิดและความรู้สึกของพวกคุณมันไปส่งผลเสียต่อจิตสำนึกมวลรวมของจักรวาล
นี่จึงเป็นคำอธิบายว่าทำไมรูปธรรมชีวิตชั้นสูงจากที่ต่างๆทั่วทั้งจักรวาลมากมาย
จึงพากันปรารถนาดีและกระตือรือร้นยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือพวกคุณ ให้โลกของพวกคุณมีสันติสุข
รักใคร่กลมเกลียวกัน อย่างที่พวกคุณปรารถนา

- ตอนนี้ดาวเคราะห์โลกกำลังอยู่ระหว่างเส้นทางของการยกระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ และกำลังเข้าสู่ระนาบ
ที่มีระดับการสั่นสะเทือนของคลื่นความถี่ที่สูงขึ้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีระดับการสั่นสะเทือนที่ต่ำกว่าจะถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง

- ทุกๆกระแสความคิด ความรู้สึก และการกระทำที่เป็นด้านลบจากโลกมืดจะสิ้นสุดลง
เพราะว่าพลังงานเหล่านั้นไม่สามารถที่จะดำรงอยู่ได้ในระดับความสั่นสะเทือนที่สูงแบบนั้น

- จิตสำนึกมวลรวมของผู้คนบนดาวเคราะห์โลก จะขับไล่กระแสความคิดและความอยากที่เป็นด้านลบออกไป
แล้วจิตวิญญาณที่เติมเต็มด้วยแสงสว่างทั้งหลายก็จะสามารถลงมือทำในสิ่งที่พวกเขาคิด
และปรารถนาได้อย่างไม่มีอะไรขวางกั้น

- ข้อความตอนสุดท้ายนี้ ผมจะตอบข้อสงสัยที่อยู่ในใจของคนหลายคน ที่ถามกันว่า

“โลกทุกวันนี้จะสามารถถูกเปลี่ยนสภาพ (Transform) ไป อย่างเห็นได้ชัด ภายในสิ้นปี 2012 ได้อย่างไร?”
และผู้อ่านหลายรายก็กล่าวกันว่า

“มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรได้รวดเร็วอย่างนั้น หรือไม่ก็ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้เลยด้วยซ้ำ”

ผมจะขอบอกอีกครั้งว่า เพราะว่าจิตสำนึกมวลรวมแห่งจิตใจที่เติมเต็มด้วยแสงสว่างของพวกคุณทั้งหลายนั่นเอง
ที่จะเป็นผู้ทำให้มันเกิดขึ้นได้ ความเปลี่ยนแปลงทุกๆอย่างบนดาวเคราะห์บ้านเกิดของพวกคุณ
กำลังดำเนินไปบนทางของพวกมันอยู่ การเปลี่ยนแปลงสันดานของมนุษย์โลก เป็นสิ่งที่ลึกซึ้งที่สุด
ดังนั้น ได้โปรดเลิกสงสัยว่าความรุ่งเรืองแห่งยุคทองมันจะเป็นไปได้จริงหรือเปล่าซะที
เพียงแต่รู้ไว้ว่ายุคนั้นกำลังจะมาถึงแล้วก็พอ

- ในข้อความล่าสุดนั้น ผมได้กล่าวถึงแผนงานหลักสำหรับการเข้าสู่ยุคทองของดาวเคราะห์โลก (Golden Age Master Plan)

ซึ่งในแผนงานนี้รวมถึงเรื่องที่ Barack Obama ถูกเลือกให้เป็นประธานาธิปดีสหรัฐด้วย
เพราะเรื่องนี้ ก็เป็นส่วนประกอบหนึ่งที่สำคัญของแผนการยกระดับขึ้นของดาวเคราะห์โลกด้วย
และอีกครั้งหนึ่ง ผมจะขออ้างถึงจิตสำนึกมวลรวมว่า แทนที่พวกคุณจะมามัวกลัวว่านาย Obama
จะถูกลอบสังหารหรือไม่ จงรู้ไว้เถิดว่าเขาถูกปกป้องด้วยแสงแห่งพระคริสต์อยู่

- สภาวะเศรษฐกิจของโลกจะยังคงดิ่งลงต่อไป จนกว่าสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาจะถูกค้นพบ
และกำจัดให้หมดไป หรือถูกปฏิรูปไป

- แผนงานด้านวิชาการความรู้ คือการปลดปล่อยเทคโนโลยีที่ถูกครอบครองมานานโดยองค์กรณ์
หรือโดยกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่ไม่เคยคิดที่จะแบ่งปันความรู้ของตนเองเลย

- ภายในระยะเวลา 1 ปี พวกคุณจะได้รับเทคโนโลยีจากอารยะธรรมชั้นสูง ซึ่งจะสามารถช่วยกำจัด
มลภาวะในโลกของคุณได้ และมันจะช่วยสร้างผลลัพธ์ให้เห็นอย่างน่าประหลาดใจ

- ผมเคยถูกถามเกี่ยวกับการหยุดนิ่งของโลก และ “3 วันแห่งความมืด” (3 days of darkness)

ถ้าแปลตามนิยามของคำว่า “หยุดนิ่ง” (stasis) จริงๆแล้วเนี่ย มันก็คือการหยุด การชะงัก หรือการนิ่ง

แต่ว่า “การหยุดนิ่ง” ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ เพราะว่าจักรวาลทั้งจักรวาลยังคงเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา
และทุกอย่างมันต้องเป็นไปอย่างสมดุลกัน ไม่มีอะไรในจักรวาลนี้สามารถนิ่งอยู่ได้
ในขณะที่ทุกสรรพสิ่งในจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้กำลังเคลื่อนที่อยู่

สำหรับเรื่องสามวันแห่งความมืดนั้น ในประเด็นนี้ มันสามารถเกิดขึ้นได้เฉพาะกรณีที่ดวงอาทิตย์
ได้จากระบบสุริยะจักรวาลของพวกคุณไป หรือว่าเกิดมีดวงดาวที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารมากๆมาบังดวงอาทิตย์ไว้เท่านั้น

(ยังมีต่อครับ)
......................................

 

สรุปข้อความจากนาย Matthew Ward
เกี่ยวกับเรื่องการเลื่อนระดับขึ้น (Ascension) ของดาวเคราะห์โลก

<link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;} @font-face {font-family:"\@Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; font-family:Arial; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Arial Unicode MS"; color:darkblue;} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->
วันที่ 22 – 24 ตุลาคม 2008

- มีรูปธรรมชีวิตที่อารยะแล้วหลายกลุ่ม อาศัยอยู่ในโพรงภายในดาวเคราะห์โลก
และพวกเขาก็ขึ้นมาพบปะกับชนพื้นเมืองเป็นระยะๆ

- กลุ่มผู้มาเยือนจากดวงดาวอันไกลโพ้น ได้ไปพบกับผู้นำรัฐบาลของพวกคุณเมื่อประมาณ 50 ปีที่ผ่านมานั้น
ไม่ได้ถูกต้อนรับด้วยสันติอย่างที่พวกเขากล่าวอ้าง

- กลุ่มผู้มาเยือนที่รอดจากการถูกฆ่าเหล่านั้น ได้ปฏิเสธเสียงแข็งที่จะแบ่งปันความรู้ด้านเทคโนโลยีของพวกเขา
เพื่อเป็นข้อแลกเปลี่ยน ให้กับผู้นำรัฐบาลเหล่านั้น ที่กำลังชั่งใจอยู่ว่าจะนำไปก่อสงคราม และทำลายล้าง
หรือจะนำไปเพิ่มศักยภาพทางการทหารของพวกเขาดี

- การสื่อสารทางโทรจิตระหว่างมนุษย์โลกบางคนกับอารยะชนเหล่านี้ ได้เกิดขึ้นมานานแล้วกำลังเกิดขึ้นอยู่
และจะยังคงเกิดขึ้นต่อไป

- สัตว์ทุกชนิด จะค่อยๆกลายเป็นสัตว์กินพืชทั้งหมด และการคัดค้านการสังหาร “สัตว์ผู้ล่า” ก็จะสิ้นสุดลง

- โลกของพวกคุณสามารถก้าวเข้าสู่ยุคทองได้ในชั่วพริบตาเลยทีเดียวเลยหละ
หากความเชื่อ และทัศนคติของผู้คนบนโลกมันเปลี่ยนไปได้จริงถึงขั้นนั้น และกลายเป็นจิตสำนึกมวลรวม
ของดาวเคราะห์โลกได้แล้ว แต่ว่าความจริงแล้ว มันไม่ใช่แบบนั้น ดังนั้นกระบวนการเปลี่ยนแปลงต่างๆ
จึงยังจำเป็นต้องดำเนินต่อไปอยู่

- มันก็จะไม่มีอะไรที่เปลี่ยนระดับไป จากระดับหนึ่งไปสู่อีกระดับหนึ่งโดยทันทีทันใดอย่างสุดกู่หรอก

- โรคภัยไข้เจ็บและสภาวะทุพพลภาพของผู้คน จะถูกเยียวยารักษาด้วยวิธีทางธรรมชาติ และวิธีการส่งผ่านพลังงาน
จนกระทั่งทุกๆคนมีสุขภาพร่างกาย สุขภาพจิต และอารมณ์ที่ดี

- ซึ่งประเด็นนี้ยังรวมถึงคนปัญญาอ่อน และคนพิการด้วย การปรับปรุง จะดำเนินการโดยใช้วิธีการทางไฟฟ้า
ทางอิเล็กโทรนิก และทางกล

- เขตพื้นที่ของโฟตอน (Photone zone) จะเพิ่มจำนวนมากขึ้นๆพอๆกับอิเล็กตรอน แล้วจากนั้น
ก็จะปกคลุมไปทั้งโลกและกลายเป็นสนามพลังงานของโลกไปในที่สุด

- วิธีการขนส่งและพลังงานที่ใช้ขับเคลื่อนพวกมัน แบบดั้งเดิมของพวกคุณ
จะค่อยๆถูกช่วยให้รู้วิธีการออกแบบยานพาหนะแบบใหม่ๆ และแหล่งพลังงานขับเคลื่อนแบบใหม่
ซึ่งแม้แต่ในทุกวันนี้ ก็กำลังมีการพัฒนาอยู่ และอีกไม่ช้าก็จะถูกนำมาใช้งานอย่างกว้างขวาง

- และด้วยความก้าวหน้าทางภูมิปัญญาและทางจิตวิญญาณอย่างต่อเนื่อง
ในที่สุดพวกคุณก็จะสามารถหายตัว (Teleport) ไปได้รอบโลก และสามารถถอดจิตไปเที่ยวโลกอื่นๆได้

- อุปกรณ์สื่อสารไร้สายที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ จะถูกดัดแปลงให้ปราศจากอันตราย

- เสาไฟฟ้าและสายไฟฟ้าจะถูกนำลงไปไว้ใต้ดิน หรือถูกกำจัดออกไปเลย
มันจะไม่จำเป็นต้องมีกลไกการควบคุมใดๆ รวมถึงกับทีวีของพวกคุณด้วย ดังนั้น มันจึงจะหายไป

และแน่นอน ใช่แล้ว ทุกๆคนก็จะสามารถติดต่อกันโดยโทรจิตได้

“ความรัก คือกุญแจของทุกสิ่งทุกอย่าง”

(ยังมีต่อครับ)
........................

 

สรุปข้อความจากนาย Matthew Ward
เกี่ยวกับเรื่องการเลื่อนระดับขึ้น (Ascension) ของดาวเคราะห์โลก

<link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;} @font-face {font-family:"\@Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; font-family:Arial; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Arial Unicode MS"; color:darkblue;} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> Wed,08 Oct 2008
(ข้อความนี้ผมไม่ได้เอามาแปลและโพสต์ให้อ่านหนะครับ - Chayutt)



- ปี 2012 ไม่ใช่วันสิ้นโลก

- กระบวนการยกระดับขึ้น จะเสร็จสิ้นในปลายปี 2012 แต่ก็ไม่ใช่ว่ามันจะตรงกับวันที่ 21 ธันวาคม 2012 เป๊ะๆ
ตามที่ปฏิทินมายาพยากรณ์ไว้ เพราะว่ากาลเวลาแบบที่เป็นเส้นตรงที่ชาวโลกรู้จัก กำลังค่อยๆสาบสูญไป
เพราะว่ากาลเวลากำลังถูกเร่งให้เร็วขึ้นเรื่อยๆอยู่ เพราะฉะนั้น 1 สัปดาห์ในขณะนี้ จะสั้นกว่าครึ่งหนึ่งของ 1 สัปดาห์เมื่อ 12 ปีก่อน

- แล้วทีนี้ ทำไมปี 2012 จึงมีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ของจักรวาลขนาดนั้น ?
ก็เพราะว่ารอบของการโคจรของเทหะวัตถุ และผลกระทบของพวกมันที่มีต่อโลกของพวกคุณ
และเพราะว่ารูปธรรมชีวิตชั้นสูงทรงภูมิปัญญาในมิติที่สูงกว่า ได้วางแผนไว้ว่าจะให้มนุษย์โลก
กลายเป็นมนุษย์แห่งจักรวาลระดับสูง ที่ทรงภูมิปัญญาและเต็มเปี่ยมด้านจิตวิญญาณในปีนั้น

- และรายละเอียดอื่นๆ ที่บอกว่า ภายหลังกระบวนการเลื่อนระดับเสร็จสิ้นลงแล้ว โฉมหน้าของโลกเรา
และวิถีชีวิตของมนุษย์โลกและสัตว์อื่นๆ จะมีความเป็นอยู่กันอย่างไร? อันนี้น่าสนใจมากครับ

แต่เดี๋ยว..ดูก่อน ว่าผมจะมีเวลาแปลและโพสต์ให้อ่านหรือเปล่านะครับ..ยังไม่รับปากครับ..chayutt

…………………………….

21 September 2009

- ปฏิทินของพวกคุณไม่สามารถระบุวันเวลาที่ถูกต้องแน่นอนได้ว่า เมื่อไหร่ โลกถึงจะเข้าไปสู่ยุคทองจริงๆ
เพราะว่าการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆของพลังงานจากมิติที่สูงกว่าของดาวเคราะห์โลก ตลอดเส้นทางไปสู่ยุคทองนี้
จะไปเร่งกาลเวลาด้วยอย่างที่พวกคุณรู้สึกถึงมันได้

ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงจะเร็วขึ้นๆและรุนแรงขึ้นๆตามวันเวลาที่ผ่านไป
และวันเวลาก็จะผ่านไปด้วยอัตราเร็วที่เพิ่มขึ้นๆเรื่อยๆด้วย

- การมาถึงของวันที่ 21 ธันวาคม 2012 อันโด่งดัง มันไม่ได้หมายความว่ามนุษย์โลก
จะเข้าสู่ยุคแห่งความพึงพอใจอย่างเที่ยงแท้แน่นอนแต่อย่างใด
เพราะสิ่งที่เที่ยงแท้แน่นอนที่สุดในจักรวาลก็คือการเปลี่ยนแปลง

- แต่ว่า ไม่เพียงแต่การพัฒนาที่เหลือเชื่อต่างๆจะดำเนินต่อเนื่องไปในทุกๆพื้นที่ของโลกเท่านั้น
การเจริญเติบโตและการพัฒนาทางด้านจิตวิญญาณและด้านภูมิปัญญาของพวกคุณก็จะเกิดขึ้นด้วย
และดำเนินต่อเนื่องไปอีกนับภพนับชาติไม่ถ้วน บางแห่งในโลกชีวิตจะล้ำหน้าไปไกล
เกินกว่าความรุ่งเรืองของยุคทองของโลกซะอีก

- อารยะชนที่มีวิวัฒนาการทางด้านจิตวิญญาณและด้านเทคโนโลยีสูงๆทั้งหลาย
ที่พระผู้เป็นเจ้าได้อนุญาตให้มาช่วยเหลือโลกเมื่อ 70 ปีก่อน เป็นรูปธรรมชีวิตแห่งแสงสว่าง(ฝ่ายธรรมะ)
โดยไม่ต้องสงสัย สิ่งที่ได้ขับไล่พลังแห่งความมืดออกไปจากโลกก็คือแสงสว่างนี่เอง

- เมื่อใดก็ตามที่พวกเขาเห็นว่ามีความปลอดภัยที่จะทำได้แล้ว บางส่วนของรูปธรรมชีวิตแห่งแสงสว่าง
ที่มีอยู่นับล้านๆรูปธรรม ที่อยู่ในยานอวกาศที่ลอยอยู่รอบๆดาวเคราะห์โลกใบนี้ ก็จะลงมาจอดบนพื้นโลก
และมาแบ่งปันเทคโนโลยีของพวกเขา หรือไม่ก็เพื่อมาช่วยเหลือดาวเคราะห์โลก
และสิ่งมีชีวิตทั้งหลายบนดาวเคราะห์โลกแห่งนี้ จากนั้น พวกเขาก็จะกลับไปยังดาวเคราะห์บ้านเกิดของพวกเขา

- บางข้อความที่มีผู้กล่าวว่า ยานอวกาศจะอพยพผู้คนบนโลก ก่อนที่จะเกิดการชำระโลก
ซึ่งจะทำให้เกิดความหายนะบนโลกมากมาย และเมื่อชาวโลกถูกส่งกลับลงมาบนโลกเหมือนเดิมแล้ว
ชาวโลกต้องลงไปอาศัยอยู่ใต้พื้นดินก่อน เพราะว่าบนพื้นผิวโลกจะไม่สามารถใช้เป็นที่อยู่อาศัยได้นานหลายปี
แต่<link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;} @font-face {font-family:"\@Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; font-family:Arial; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Arial Unicode MS"; color:darkblue;} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->อันที่จริงแล้ว การอพยพ ไม่มีความจำเป็นแต่อย่างใดเลย ด้วยประการทั้งปวง
และยิ่งไปกว่านั้น ไม่เพียงแต่บนพื้นผิวโลกจะยังใช้เป็นที่อยู่อาศัยได้เท่านั้น
แต่มันยังจะถูกบูรณะฟื้นฟู ให้กลับมาเป็นสรวงสวรรค์แบบดั้งเดิมของมัน ในเวลาอันรวดเร็วอย่างเหลือเชื่ออีกด้วย

- การดูดซับแสงสว่าง ซึ่งง่ายพอๆกับการดำเนินชีวิตอยู่บนหนทางแห่งพระผู้เป็นเจ้า
และเป็นเกราะป้องกันภัยของร่างกาย ต่อสารพิษและมลพิษทั้งหลาย

- แสงสว่างจะไปทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรง และช่วยให้ร่างกายมีความสมดุล
และช่วยรักษาสมดุลนั้นไว้ ทำให้ร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณมีสุขภาวะที่แข็งแรง สมบูรณ์

- ความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงของแกนโลก
มีสาเหตุมาจากการขาดความรู้เกี่ยวกับจักรวาล

กล่าวคือ เมื่อประมาณ 70 ปีก่อน ตามเวลาของโลกมนุษย์ ดาวเคราะห์โลกเคยขาดสมดุลมาก่อนแล้ว
จนเกือบถึงขั้นอันตรายที่จะหลุดออกจากวงโคจรปกติไป แต่ตอนนั้นมีพลังงานแสงสว่างจากระยะไกล
ถูกส่งมาเติมเต็มให้จากมากมายหลายแหล่ง ทำให้วงโคจรของโลกคงที่อยู่ได้จนบัดนี้

- จะมีการเปิดเผยสิ่งที่ถูกปิดบังหรือลวงเอาไว้มานานแล้วในยุคพลังงานเก่าให้พวกคุณได้รับรู้ และ
จะมีการปรากฏออกมาเป็นครั้งแรก ของความเป็นจริงเกี่ยวกับศาสนาและหลักคำสอนต่างๆของมัน

- คุณได้รับการรับประกันซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยข้อความมากมายจากฝ่ายแสงสว่างว่า
พวกคุณคือจิตวิญญาณที่ทรงอำนาจ ที่ถูกเตรียมการไว้อย่างดีเลิศเพื่อเผชิญกับช่วงเวลานี้
เพียงแต่พวกคุณรับรู้ว่าพวกคุณเป็นใครอย่างที่พวกเรารู้ สักวันหนึ่งพวกคุณจะรู้

แต่ตอนนี้ได้โปรดยึดมั่นสัจธรรมเหล่านี้เอาไว้ในใจของคุณก่อนว่า คุณคือลักษณะแห่งประสบการณ์
ของความรักอันไร้ขีดจำกัดและชั่วนิรันดร์แห่งพระผู้เป็นเจ้า และ พระผู้สร้าง
คุณคือพระผู้เป็นเจ้าและเทพยดาเสียเอง ที่มีศักยภาพไร้ขีดจำกัด

มีรูปธรรมชีวิตชั้นสูงแห่งแสงสว่างทั้งหลายกำลังเดินร่วมทางเคียงข้างไปกับพวกคุณอยู่
และยังมีที่กำลังคอยเชียร์พวกคุณให้ก้าวหน้าต่อไปอยู่ อีกจำนวนนับไม่ถ้วนในจักรวาล

(ยังมีต่อครับ)
........................