ตามรอย พระอริยเจ้า ตามหาถ้ำพระปัจเจกพุทธเจ้าครับ

ตามคำบอกเล่าของครูบาอาจารย์ หลวงปู่มั่น สมัยที่ท่าน ธุดงค์ และ บำเพ็ญภาวนาอยู่ที่ถ้ำเชียงดาว ท่านได้ พิจรณาเขาที่ท่านพำนักอยู่ พบว่ามีถ้ำพระปัจเจกพุทธเจ้า อยุ่สูงขึ้นไปจากดอยเชียงดาว ท่านพิจรณาต่อไปว่า เป็นถ้ำพระปัจเจกพุทธเจ้า เคยเสด็จมาประทับ อยู่ แต่สมัย นี้ ไม่สามารถไปอยู่ได้ เพราะว่า ไม่มีทางขึ้น ต้องปีนป่ายขึ้นไป ตามคำบอกว่าครูบาอาจารย์ ท่านได้บอกว่า หลวงปู่ตื้อ และหลวงปู่แหวน เป็นคณะที่ไปสำรวจถ้ำนั้น ไม่ทราบว่ามีใครทราบลายละเอียด มากกว่านี้ไหมครับ

หลวงปู่ตื้อ เล่าให้สานุศิษย์ฟังว่า ยิ่งสายก็ยิ่งเหนื่อย บางแห่งทางแคบมากจริงๆ
ต้องเดินเอี้ยวหลบเข้าไปได้ที่ละคนเท่านั้น บางช่วงต้องปีนป่าย
และห้อยโหนเพราะไม่มีทางเลี่ยงอื่น ต้องเสี่ยงชีวิตเอา <O</O
<O</O

คณะของหลวงปู่ตื้อ ปืนป่ายถึงยอดเขา ประมาณ ๕ โมงเย็น แต่ไม่มีวี่แววว่าจะพบถ้ำ
และไม่ทราบว่าถ้ำอยู่ที่ไหน บริเวณรอบๆ ไม่ได้ส่อเค้าว่าจะเป็นถ้ำเลย <O</O
<O</O

คณะต้องเดินอยู่บนเขาอีก ๔ ชั่วโมงกว่าๆ บนยอดเขามีลมพัดแรงมาก
ตกกลางคืนยิ่งพัดแรง จนแทบจะปลิวไปตามแรงลม จะหาถ้ำเล็กๆ
พอจะหลบลมก็ไม่มี ในคืนนั้นไม่ได้หลับนอนกัน
พระทุกองค์ต้องใช้เชือกตากผ้าที่เตรียมไป ผูกมัดตัวไว้กับต้นไม้
แล้วนั่งสมาธิภาวนากันทั้งคืน ยิ่งดึกลมยิ่งแรงดูผิดปกติธรรมชาติเป็นอย่างมาก<O</O
<O</O

พอรุ่งเช้าได้อรุณแล้ว ปรากฏว่ามีญาติโยมจัดภัตตาหารมาถวาย
คนพวกนั้นเป็นพวกชาวเขาแท้ อาศัยทำไร่อยู่บนยอดดอยอย่างถาวร<O</O
<O</O

เมื่อเสร็จฉันก็พากันเดินทางต่อไป แม้จะเดินบนหลังเขาหนทางก็ยากลำบากมาก
เหมือนกับการปืนป่ายขึ้นมาในตอนแรก คณะหลวงปู่ตื้อเดินอยู่ถึงเที่ยงวัน
ก็ถึงบริเวณหนึ่งที่เข้าใจว่าน่าจะเป็นที่ถ้ำพระปัจเจกพุทธเจ้าตั้งอยู่ <O</O
<O</O

บริเวณข้างหน้าเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่
ต้องใช้ขอนไม้เกาะเป็นแพจึงจะข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งได้
พระที่ไปด้วยกัน ไม่มีใครกล้าข้ามไป หลวงปู่ตื้อ จึงอาสาข้ามน้ำไปดูเพียงองค์เดียว <O</O
<O</O

ก่อนจะข้ามน้ำไป หลวงปู่ได้นั่งสมาธิดูก่อน ปรากฎเป็นเสียงคนพูดเบาๆ
พอเสียงนั้นเงียบหายไป ก็มีอีกเสียงหนึ่งพูดขึ้นว่า “งูใหญ่ๆ” พูดอยู่ ๒-๓ ครั้ง
แล้วปรากฎเป็นชายรูปร่างบึกบึนสูงใหญ่
ผิวกายดำทมึน มายืนพูดกับหลวงปู่ว่า<O</O
<O</O

“ท่านจะเข้าไปในถ้ำไม่ได้หรอกนะ ที่นั่นมีงูตัวใหญ่มากเฝ้ารักษาอยู่” <O</O
<O</O

หลวงปู่ตื้อได้พูดกับชายผู้นั้นว่า ที่พวกอาตามขึ้นมาที่นี่ ไม่ได้มาเบียดเบียนใคร
ไม่ได้มุ่งจะมาเอาอะไร แต่ประสงค์จะขึ้นมาดูถ้ำ
ตามที่พระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต ใช้ให้มาเท่านั้น <O</O
<O</O

พอหลวงปู่กล่าวจบ ชายผู้นั้นก็หายไป ท่านพิจารณาดูต่อไป
เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรอีกแล้ว จึงออกจากสมาธิ<O</O
<O</O

แล้วท่านก็จัดแจงหาขอนไม้มาทำเป็นแพ เอาเทียนจุดไว้ที่หัวแพ
แล้วเกาะแพลอยข้ามน้ำไปยังฝั่งตรงข้าม
ท่านลองหยั่งดู เห็นว่าน้ำลึกมากไม่สามารถหยั่งถึงได้ <O</O
<O</O
<O</O

เมื่อหลวงปู่เกาะแพไปถึงอีกฝั่งแล้ว ถึงได้พบถ้ำพระปัจเจกพุทธเจ้า
ตามที่หลวงปู่มั่น ได้พบเห็นในนิมิต เป็นถ้ำที่ใหญ่โตกว้างขวางและสวยงามมาก
อากาศโปร่งสบาย พื้นถ้ำสะอาดสะอ้าน เหมือนกับมีคนดูแลปัดกวาดเป็นอย่างดี<O</O
<O</O

หลวงปู่ตื้อได้เข้าไปสำรวจภายในถ้ำ ในถ้ำนั้นมีแสงสว่างอยู่ในตัว
แม้เดินลึกเข้าไปก็ไม่มืด ถ้ำนี้มีลักษณะพิเศษกว่าถ้ำอื่นจริงๆ
ลักษณะของถ้ำกว้างและยาวลึกเข้าไปในเขา
ด้านหลังถ้ำออกไปมีแอ่งน้ำธรรมชาติ น้ำใสสะอาดน่าดื่มกิน
ด้านนอกถ้ำออกไปข้างหลังมีป่าไม้ ประเภทไม้ผลที่อุดมสมบูรณ์
ใบเขียวชอุ่มเหมือนได้รับการดูแลอย่างดี ด้านนอกถ้ำที่อยู่สูงที่สุดเป็นหน้าผาที่สูงชันมาก
คงไม่มีใครขึ้นไปได้ หรือว่าถ้าขึ้นไปแล้วคงไม่คิดลงมาอีก<O</O
<O</O

หลวงปู่ตื้อได้นั่งสมาธิภาวนาอยู่นาน พบว่ามีพวกกายทิพย์เข้ามาหาท่าน
และพบวิญญาณชีปะขาวน้อยรูปหนึ่ง เป็นผู้เฝ้าดูแลรักษาถ้ำแห่งนี้
ชีปะขาวน้อยบอกหลวงปู่ว่า พระปัจเจกพุทธเจ้า ท่านไม่ได้อยู่ที่ถ้ำนั้นแล้ว
แล้วชีปะขาวน้อยก็หายไปทางหลังถ้ำ.


จากรูป เป้นรูป ที่นักท่องเที่ยวได้ไปถ่ายมา
ท่านใดมีข้อมูล รบกวน นำมาลงเป็น วิทยาทาน แก่ผมและคณะผู้ศรัธาจะเป้นพระคุณยิ่งครับ ขออนุโมทนา

 

Satu anumothami

 

ท่านี่โง่จริงๆ ถ้ำพระปัจเจกพุทธเจ้า ไม่ต้องตามหาที่ไหนให้เสียเวลาหรอก
มันอยู่ที่ใจท่านนั้นเอง
<HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1>

 

ว่ากันว่า เทวดาเขาจะบังถ้ำไว้ ไม่สามารถเห็นได้หรอก ถ้าไม่ใช่พระป่าผู้ปฏิบิติดีปฏิบัติชอบ

 

กำแพงอัตตาต่างหากที่บัง

 

สาธุครับ

-มหาโมทนากับกุศลจิต ขอให้สำเร็จตามที่ปรารถนาครับ

สาธุ

 

satukran krab

 

รูป บริเวณ ยอดดอย เชียงดาว โดย คุณ binpadet ได้ค้นหามา จากกูเกิ้ล และจากภาพที่นักท่องเที่ยวถ่ายมา โดยหลายท่านคิดว่า ถ้ำอยู่บริเวณนี้ครับ ท่านใดมีข้อมูลเรื่องนี้อีก รบกวนช่วยนำมาลงเป็นวิทยาทานหน่อยนะครับ

 

ขอบคุณกับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ครับ

ผมเองก็คิดว่า คนที่มีบุญเท่านั้น ที่จะได้เข้าไปได้ ผมและคุณ binpadet ก็ได้ยินมาเช่นนั้นครับ แต่ถ้าหากว่า คุณbinpadet ไปเจอข้อมูลน่าสนใจเข้า
เกี่ยวกับถ้ำนี้ โดยเฉพาะคุณ binpadet นี้ เดี๋ยวอัพเดทอย่างไรจะนำมาลงอีกทีครับ *****หมายเหตุ ต้องการค้นคว้าทางธรณีวิทยาครับหากทำให้สมาชิคท่านใดไม่พอใจหรือขุ่นเคืองกราบขออภัยมา ณ โอกาสนี้ ขออนุโมทนา ครับ****

 

ใช่บริเวณนี้รึเปล่าคะ?พอดีลองซูมเข้าไปดูใกล้ๆในกูเกิ้ลเอิร์ธ แล้วเห็นอะไรแปลกๆบริเวณจุดที่บอกถ้าสังเกตดูดีๆ ไม่แน่ใจว่าใช่รึเปล่า เหมือนจะมีอะไรซ้อนๆตรงเงามืด

 

น่าศึกษานะครับ

 

ถ้ามีจริง ก็น่าจะไปเที่ยว ถ้าจะสวยนะ เพราะว่าไม่มีใครไปถึง
หรือว่าอันนี้หว่า เพราะมันผ่านมาหลายปีแล้ว
ข้อมูลท่องเที่ยวถ้ำเชียงดาว เชียงใหม่


<!-- Post Body Copy --> ถ้ำเชียงดาว อยู่ ในเขตอำเภอเชียงดาว การเดินทาง จากเชียงใหม่ไปยังอำเภอเชียงดาว ระยะทาง 72 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายตรงทางแยกเข้าไปจนถึงถ้ำอีก 5 กิโลเมตร เป็นถนนลาดยางจนถึงบริเวณถ้ำ มีบริเวณจอดรถกว้างขวาง ทางเข้าถ้ำเป็นบันไดมีหลังคามุงสังกะสี หน้าถ้ำมีธารน้ำไหลผ่านเต็มไปด้วยปลาหลายชนิด นักท่องเที่ยวสามารถให้อาหารปลาได้ หากต้องการชมบริเวณถ้ำ ติดต่อคนนำทางได้บริเวณหน้าถ้ำ
ที่มา http://www.folktravel.com/archive/tham-chiangdao.html

 

พี่ปี๊บจะไปตามแกะรอยเม่อไหร่คะ....

 

น่าสนใจดีค่ะ

(คริคริ)

 

ขอให้พี่ปิ๊ปได้พบถ้ำ ฯ ไว้ๆ นะ จะได้กลับมาเล่าให้เพื่อน ๆ น้อง ๆ ฟัง แต่ระวังลุงมะตูม ล้ม กลิ้งใส่นะ ^ ^

 

อนุโมทนาค้าบบบบ แต่ คนอยากไป ไม่ใช่ผมหรอก คุณ binphadet น่ะ อยากไปเหลือเกิน

 

catt1


เชย เฉิ่ม เฉิ่ม

 

น่าสนใจครับ เคยอ่านคล้ายๆนี้ แต่เป็นเรื่องของหลวงปู่แหวนขึ้นไปหาถ้ำเพื่อปฏิบัติ
เป็นถ้ำที่ไม่มีทางขึ้น รู้สึกถ้าจำไม่ผิดคงเป็นบริเวณนั้นเหมือนกันครับ

ลองหาข้อมูลดูครับ ผมจำไม่ค่อยได้ว่าอ่านมาจากตรงไหนเหมือนกันถ้าเจอแล้วจะมาบอก

 

คนข้างบนอยากสำรวจกับเขาหล่ะซิ คริๆๆ

ขอบพระคุณสำหรับข้อมูล เนื้อหาน่าสนใจ น่าสำรวจค่ะ

อนุโมทนาสาธุค่ะ

 

ใครใคร ก็ต้องอยู่ที่ไหน ซักแห่งนึง