กฏแห่งกรรมของภิกษุเคยประพฤติผิดศีลข้อกาเมฯ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย buschannarong, 17 มีนาคม 2010.

  1. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    คนธรรมดาไม่บาปครับ แต่ทำให้จิตใจหมกมุ่นกับกามครับ ดังนั้นจิตใจเราจะไม่ผ่องใสครับ

    โมทนา
     
  2. jobdrum

    jobdrum เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +1,108
    ขอแชร์ประสบการณ์ให้ฟังนิดหน่อยนะครับ พอดีผมเคยบวชอยู่ที่วัดทางเหนือที่หนึ่ง ถ้าพูดชื่อคนส่วนใหญ่ต้องรู้จักแน่เลยครับ
    มีอยู่ครั้งหนึ่งผมได้ซักถามข้อธรรมะบางเรื่องจากหลวงพี่ที่วัด หลวงพี่ก็เลยได้เล่าประสบการณ์ของท่านให้ฟัง ว่าเคยทำน้ำอสุจิเคลื่อนโดยตั้งใจเพราะขาดความยับยั้งชั่งใจ เรียกว่าหน้ามืดอ่ะครับ ท่านบอกว่าครั้งนั้นมันเหมือนตกนรกทั้งเป็นเลย ถึงไม่มีใครรู้แต่ตัวท่านเองรู้ดีที่สุด ท่านบอกว่า ท่านเหมือนมีระฆังทองเหลืองใบใหญ่ยักษ์ กดทับท่านอยู่ตลอดเวลา ทำอะไรก้ไม่มีความสุข จะสวดมนต์ จะภาวนายังไงจิตใจก็ไม่ผ่องใส ท่านทุกข์ทรมานมาก จนสุดท้ายท่านได้ไปอยู่กรรมปริวาส เพื่อที่จะปลงอาบัติสังฆาทิเสสตัวนี้ เมื่อท่านได้ปฏิบัติครบจนปลงอาบัติตัวนี้ ท่านบอกว่าท่านสบายใจขึ้นมาก จิตแจ่มใสขึ้น
    ท่านบอกท่านเข็ดแล้ว ท่านจะไม่ทำผิดศีลอีกแล้ว มันเหมือนตายทั้งเป็นจริงๆ
    เวรกรรมไม่ต้องรอตอนตายก้ได้ครับ ตอนเป็นเราก็ตกนรกได้ ถ้าตัวเรามี หิริโอตัปปะ
    มันจะทำให้เรารู้สึกละอายกับบาปที่เราได้ทำลงไป

    ขอเสริมนิดนะครับ การปลงอาบัติ ไม่ได้หมายความว่าบาปที่เราทำจะหายไปนะครับ
    เพียงแต่เป็นเครื่องแสดงว่าเราได้รู้บาปตัวนี้แล้วเราจะไม่ทำอีก แต่เราก็ต้องรับกรรมที่เราทำไปเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็น พระสงฆ์ หรือปุถุชน ทุกคนก็ยังต้องมาชดใช้กรรมกันต่อไป นอกจากจะตัดกรรมเข้าสู่พระนิพพาน เมื่อถึงเวลานั้นเวรกรรมทั้งหลายก้จะเป็นโมฆะไป
     
  3. ถิ่นธรรม

    ถิ่นธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,824
    ค่าพลัง:
    +5,398
    การบวชเป็นพระ เป้าหมายหลักคือทำพระนิพพานให้แจ้ง ซึ่งเบื้องต้นต้องตัดกามให้เด็ดขาด แม้แต่อุบาสก อุบาสิกา เวลาที่ถืออุโบสถศีลยังต้องถือพรหมจรรย์เลย เป็นพระถ้าประพฤติพรหมจรรย์ไม่ได้ก็อายสาธุชน เมื่อพระไม่สามารถตัดกามได้ ก็ถือว่าไม่ทำตามเป้าหมายที่บวช ผิดต่อหน้าที่ของตน จึงเป็นความผิดหนักระดับสังฆาทิเสส
     
  4. manussanun

    manussanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +202
    เวลาที่มันหมกมุ่นนี่
    ถ้าจิตไม่มีที่ยึดเหนี่ยวก็เสร็จมันทุกที
    หาที่ให้จิตได้ยึดเหนี่ยว
    แล้วหาคิดหาวิธีที่จะช่วยให้หลุดจากอารมณ์หมกมุ่น
    มันต้องมีวิธีบ้างล่ะครับ วิธีใครวิธีมัน

    อารมณ์จิตที่แจ่มใส กับอารมณ์จิตที่หมกมุ่น
    ได้ไม่คุ้มเสียเลยครับ
     
  5. เสรีชน

    เสรีชน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2008
    โพสต์:
    304
    ค่าพลัง:
    +727
    ความรู้สึกผิดนั่นเเหละ"ตัวบาป"

    เเต่ทำผิดเเล้วไม่รู้รู้สำนึก ไม่รู้สึกผิด นั้นเเล คือกรรมหนัก
     
  6. AngelHeart

    AngelHeart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2010
    โพสต์:
    333
    ค่าพลัง:
    +1,437
    "ข่มขืนตัวเอง" อึ้งเลยครับเจอคำนี้
     
  7. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    ถ้าจินตนาการเอาลูกคนอื่นมาใช้ด้วย ก็เรียบร้อยครับ

    เข้าข่าย "มโนกรรม" 555

    ส่วนที่บอกไม่บาป หรือ "อสุจิมีชีวิต" แต่ "ไม่มีวิญญาณครอง" ครับ

    โมทนา
     
  8. ผู้เบิกบาน

    ผู้เบิกบาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    111
    ค่าพลัง:
    +463
    ขัดต่อธรรมวินัยของสงฆ์ ปัจจุบันขณะที่ทำลงไปก็เป็นบาปในใจ. เหมือนกับคนธรรมดาที่ไม่ได้บวชผิดศีลก็ไม่สบายใจเหมือนกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มีนาคม 2010
  9. mpcp17

    mpcp17 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +69
    ตอนห่มเหลืองเคยทำ รู้สึกผิดทั้งๆที่รู้เลยเล่าบอกครูบาอาจารย์ฟัง ท่านชี้รู้ผิดแล้วอย่าทำอีก....
     
  10. ผู้เบิกบาน

    ผู้เบิกบาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    111
    ค่าพลัง:
    +463
    ไม่ได้คะ เป็นบาป. การเล่นหวยในทางพุทธศาสนาเป็น อบายมุข เป็นหนทางสู่อบายภูมิหนือหนทางสู่ความฉิบหาย (ขออภัยไม่สุภาพอย่างแรงในหนังสือกล่าวเช่นนั้น)
    และขัดต่อ คิหิสุข (สุขของผู้ครองเรือน) หรือความสุขของคนเดินดินกินข้าวแกงอย่างเราๆ ซึ่งมี 4 ประการ คือ
    1.สุขจากการมีทรัพย์
    2.สุขจาการใช้สอยทรัพย์ที่มี
    3.สุขจากการไม่มีหนี้
    4.สุขจากความประพฤติที่ไม่มีโทษ
     
    การเล่นหวยเป็นการกระทำขัดต่อคิหิสุขข้อที่4 อย่างจัง เพราะการเล่นหวยหรือการพนันอาจก่อให้เกิดโทษถึง 6 ประการ คือ
    1.เมื่อชนะย่อมก่อเวร
    2.เมื่อแพ้ย่อมเสียดายทรัพย์ที่เสียไป
    3.ทำให้เสื่อมทรัพย์ในปัจจุบัน
    4.ไม่มีใครเชื่อถือถ้อยคำของคนเล่นการพนัน
    5.ถูกมิตรหมิ่นประมาท
    6.ไม่มีใครประสงค์จะแต่งงานด้วย
     
    ฝากข้อคิดเพื่อเตือนสติเตือนใจ คำว่า หวย นั้นผู้รู้ท่านถอดรหัสไว้ดังนี้
     
    ห = หายนะ
    ว = วอดวาย
    ย = ย่อยยับ
    เพราะฉะนั้นพระที่บวชแล้วหากเล่นหวยดังกล่าวถือเป็นการขัดต่อธรรมวินัยคะ
     
     
  11. buschannarong

    buschannarong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2009
    โพสต์:
    132
    ค่าพลัง:
    +541
    ถึงจะเป็นฆราวาสกระผมก็ไม่กล้าครับ
    จิตจะฟุ้งซ่านเปล่าๆหมกมุ่นในกามมากไปก็ไม่ดีครับ:boo:
     
  12. THE-O-PROTOTYPE

    THE-O-PROTOTYPE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +108
    เราได้อ่านเพียงคร่าวๆแล้วอยากถามท่านโดยประมาณโปรดพิจารณา.
    - ปุถุชน เมื่อเกิดอารมณ์ทางเพศแล้วสกัดการที่จะกระทำล่วงละเมิดทางกามอันผิดต่อผู้อื่น
    แล ถูก หรือ ผิด โดยประการใด?
     
  13. buschannarong

    buschannarong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2009
    โพสต์:
    132
    ค่าพลัง:
    +541
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 38 คน ( เป็นสมาชิก 7 คน และ บุคคลทั่วไป 31 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>buschannarong, beverzone, BUSAKO, chitmada, narayana2514, THE-O-PROTOTYPE+, แก้วบูรพา </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  14. buschannarong

    buschannarong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2009
    โพสต์:
    132
    ค่าพลัง:
    +541
    ถูกและมีผลดีถ้าทำกับตัวเอง แทนที่จะไปทำกรรมกับผู้อื่น ซึ่งบาปกว่าหลายเท่านัก เป็นการสร้างกรรมหนักเข้าไปอีก

    ผิด เพราะทำให้จิตใจเราเศร้าหมอง ขุ่นมัว ไม่ผ่องใส
    เทวดาประจำตัวจะรู้สึกอย่างไรว่าเราหมกมุ่นในกามถึงขนาดนั้น
    เวลาช่วงไม่กี่นาทีก็จริง เราเอาเวลานั้นไปเข้าสมาบัติยังดีกว่า:cool:
     
  15. THE-O-PROTOTYPE

    THE-O-PROTOTYPE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +108
    เราถามในฐานะ"ปุถุชน"ผู้ซึ่งยังไม่ชัดในความเป็นไปของอารมณ์ แลจะมีวิถีเริ่มต้นอันใดบ้างจะเป็นสิ่งที่พอสามารถกระทำได้โดยเป็นหนทางอันควรเพียงเพื่อจะมิต้องล่วงหลุดไปสู่ความทุกข์ทรมาน ณ.ที่สุด.
     
  16. chura

    chura เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    688
    ค่าพลัง:
    +1,971
    เป็นปุถุชน ซึ่งได้ชื่อว่าอยู่กับกามอยู่แล้ว เป้าหมายในการปฎิบัติธรรมคือล๊ะสักกายทิฐิ
    คือละความเห็นผิดว่ากายนี้ใจนี้เป็นเรา เข้าสู่ความเป็นอริยะขั้นต้นคือ พระโสดาบัน ซึ่งพระ
    โสดาบันก็ยังไม่ล๊ะกามน๊ะครับ ฉนั้นคนธรรมดาอย่างเรายังไม่ถึงขั้นที่จะล๊ะกาม เพียงแต่
    อย่าไปหมกมุ่นจนเกินพอดีก็พอครับ.....อย่าไปกดดันตัวเองถึงขนาดสาบาน จะล๊ะกามน๊ะ
    เดี๋ยวจะทุกข์หนัก ต้องมานั่งแก้คำสาบานกัน!
     
  17. nataphat

    nataphat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2009
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +246
    มีวิธีละไหมครับเอาชนิดที่ไม่ หมกหมุนอีกเลย แล้วเวลา่มีลูกอ่ะครับ
     
  18. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    มีด้านมืดมน ก็ย่อมต้องมีด้านสว่างสไหว

    หมายเหตุ ถ้าผู้ที่ทำผิดอนันตรกรรมไปแล้วในอดีต และ ปัจจุบันเป็นคนดี
    อยู่ในศีลในธรรมปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานจนถึงวิปัสสนาญานสูงสุดของโลกิยะ
    ถึงแม้มีความเพียรภาวนาอย่างไร หรือ ได้รับคำสังสอนจากพระพุทธเจ้า หรือ พระอริยะสงฆ์อย่างไร

    ก็ไม่สามารถถึงซึ่งพระนิพพาน ยกเว้นจะตรัสรู้ด้วยตนเอง
    คือต้องสร้างบารมีด้วยกุศลกรรมปารถนาเพื่อเป็นพระพุทธเจ้า
    ตรัสรู้พระนิพพาน แล้ว สอน เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย

    พระปัจเจกพุทธเจ้า คือตรัสรู้พระนิพพานแต่ไม่สามารถสั่งสอนผู้ใดให้บรรลุตามได้

    ผู้ปารถนาเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าต้องใช้ระยะเวลาในการสังสมบารมี ถึง 2 อสงไขย
    และ จะสามารถบรรลุเป็นปัจเจกพุทธเจ้าได้ในกัปล์ที่มีพระพุทธเจ้าบังเกิดขึ้นเท่านั้น

    601
     
  19. นักรบเเห่งสยาม

    นักรบเเห่งสยาม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    882
    ค่าพลัง:
    +607
    ผมเคยทำร้ายตัวเอง อิอิบาปไหมครับ 5+
     
  20. phasukjai

    phasukjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    113
    ค่าพลัง:
    +445

    ขอบคุณค่ะ ที่ช่วยตอบให้หายสงสัย เอแล้วแบบนี้คนขายจะบาปด้วยไหมละเนี่ยเพราะเห็นเข้าไปขายถึงในวัดเลย นึกสงสัยอยู่ พระรูปนี้แปลกๆ เปิดวิทยุฟังเพลงด้วย อืม!!ก็ไม่ว่ากัน ตัวใครตัวมันละกันงานนี้....
     

แชร์หน้านี้

Loading...