เว็บพลังจิต บุญอะไรที่ทำให้คนได้พบคู่ดี

OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO


หลายคนเป็นคล้ายคุณภัทร

โดยเฉพาะ คนที่นับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นิสัยท่านถือพรหมจรรย์เช่น

พระมหาโพธิสัตว์ทั้งหลาย

นี่ไม่ได้หมายความว่า ..ถ้าอยากมีคู่ต้องเลิกนับถือท่านนะ

แต่บางกรณี ที่บารมีของสิ่งที่ดูแลรักษาเราท่านเข้มข้นมาก เรื่องบางอย่าง
เลยไม่สามารถเข้ามาใกล้ได้ หรือ มาด้วยบุญเก่าสักแปป เดี๋ยวเบี่ยงไปซะแล้ว


ก็ต้องตั้งจิต ขอความเมตตากรุณาจากท่าน ให้เหตุผลถึงความเป็นมนุษย์ ในปัจจุบัน

ถ้ามุ่งนิพพาน ขอให้คนที่มาเดินข้างเรา เป็นคนที่มีศีลห้าเป็นปกติ

และ ไม่ทำให้เรา ครอบครัวเรา ตกต่ำทั้งทางโลกและทางธรรม

โลกไม่ช้ำ ธรรมไม่ขุ่น



วันหนึ่ง ที่เราเจ็บป่วย มีปัญหามากๆ หรือ แม้ไม่มีเรื่อง
หนักๆ เราก็ต้องการคู่คิด ฯลฯ



....สำหรับบางคน พอทำอย่างนี้ เมื่อมาถึงจุดหนึ่ง

ท่านผู้มาดูแล ก็สับเปลี่ยน กัน ตามความเหมาะสม

ท่านที่ถนัดทางโลกแต่มีธรรมะสูง ก็เข้ามาใกล้มากขึ้น

ท่านที่มีตบะธรรมสูง ถือพรหมจรรย์ ก็มาเฉพาะเวลานั่งภาวนา

อะไรๆ เริ่มดีขึ้น

..ท่านที่มีบารมีตบะพรหมจรรย์สูง ไม่ได้ไปไหนนะ
แค่ถอยห่างออก ดูห่างๆ เพื่อไม่ให้มีผลข้างเคียงเรื่อง
คู่ ...ส่วนท่านที่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องในภพสามได้มากกว่า
จะเข้ามาใกล้มากขึ้น และ รับช่วงจัดการแทนบางเรื่อง

..อันนี้ บางคนอาจเคยเห็นท่านปรึกษากันเอง
คล้ายกับ ผู้ใหญ่ ผู้บังคับบัญชา หัวหน้างาน
ทีส่งงาน ประชุมงานกัน


มีเหตุผลอีกกรณีคือ
...บางช่วง เราต้องใช้บุญบารมีในการดูแลตนเอง คนในครอบครัว
ถ้ามีคนอื่นเข้ามา ท่านที่เราต้องดูแล อาจได้รับผลกระทบ
เลยต้องปัดไปก่อน...ต้องเลือกในสิ่งสำคัญกว่าไว้ก่อน

ถ้าปล่อยให้เราเลือกเอง เราอาจทำพลาดครั้งใหญ่ในชีวิตได้

ท่านก็ให้โอกาสคนที่เข้ามาสักนิด แต่พอคนนั้นแหกคอกศีลสักนิด
โอกาสจะหมดทันที

ฯลฯ มีหลายเหตุผลนะ ตามบุญตามกรรมของแต่ละคน



....อย่างไรก็ตาม

ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ ไม่มากก็น้อย ถ้ายอมรับตรงนี้ได้

สิ่งคู่ควรจะมาในเวลาที่เหมาะสมเอง

เราจะได้ร้บการทดสอบ ว่า จะมั่นคงในธรรมได้ไหม?ถ้ามีคนอื่นเข้ามา
ถ้าสอบผ่าน ...ก็จะมาเอง....

 

มีคนเคยบอกว่า... บุคคลที่มุ่งไปในทางธรรมมากๆคือบุคคลต้องห้าม อาจจะอันเนื่องที่เราได้เคยอธิษฐาน มาในอดีตชาติ ผลของการอธิษฐานได้ส่งผลข้ามภพข้ามชาติมาจนบัดนี้.....และบุคคลประเภทนี้จะมีสองทางให้เลือกเสมอในชีวิต...
และการที่เราจะได้พบคู่ที่ดี..คนนั้นจะต้องมีอะไรๆที่เหมือนกับเราอย่างน้อยศีลต้องเสมอกับเรา..และที่นอกเหนือจากนั้นต้องเป็นคนที่ท่านเลือกให้เท่านั้นค่ะ..

 

ขอบพระคุณมากนะค่ะ คุณโอม สำหรับข้อคิด คติเตือนใจ ภัทรก็ปลงแล้วค่ะ เพราะไม่รู้จะทำอย่างไร แต่ภัทรเป็นคนขี้เหงามาตั้ืงแต่เด็ก ไม่มีพ่อๆแม่แยกทางกัน ภัทรก็เลยไขว่าหาความรักมาทดแทน เป็นคนขี้เหงา ขี้น้อยใจ พอเริ่มมาปฎิบัติเกือบสิบปีเข้ามานี้ ภัทรรู้เลยว่า ความรัก ความต้องการที่ภัทรพยายามหา มันไม่เคยอยู่กับภัทรเลย ไปหมด และยิ่งนานวันเข้ายิ่งไม่มี เพราะท่านต้องการให้ภัทรเห็นทุกข์จากคำว่ารัก เห็นทุกข์จากการคบหาคนที่ไม่เคยจะจริงใจ ภัทรเหนื่อยกับการวิ่งหาบางครั้ง แต่เนื่องจากเราขาดมันมาตลอด บางทีถ้าภัทรคบใคร ถ้าเขามาขวางการปฎิบัติธรรม หรือมาห้ามไม่ให้เราเข้าวัดปฎิบัติ ภัทรจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ต่อว่าต่างๆนาๆ แต่ถ้าใครปล่อยให้ภัทรไปวัด จะไปบวชกี่วัน ไปอยู่นาน ไม่มีใครบ่นว่า ภัทรก็จะคุยกับเขาได้นาน

มีหลายองค์องค์ที่เสด็จมาภัทรก็รู้ แต่นานวันเข้าก็เริ่มเืหนื่อยหน่ายว่าทำไมท่านมากันเยอะแยะ แล้วเราก็ยิ่งต้องเร่งสร้าง เร่งทำ เพราะถ้าเมื่อไหร่ที่ไม่ทำไม่ได้เลย เขาจะให้เราทำตลอด ใส่บาตร สวดมนต์ ไหว้พระ ไปปล่อยปลา อยากไปวัดนู้นวัดนี้ มีแต่อยากไปในทางบุญ พวกท่านไม่ให้ภัทรได้มีเวลาว่างที่จะทำอย่างอื่นในทางโลกนอกจากเลี้ยงดูมารดา มีเวลาว่างเมื่อไหร่ปุ๊บ ภัทรอังคารต้องหาทางบุญไปในทันที แต่บางครั้งก็นึกทำไมไม่ตัดกิเลสเราไปให้หมดละ ไม่ต้องให้เราคิดเรื่องคู่ครองหรือความรัก ทุกวันนี้ปฎิบัติไปด้วย แต่ก็ยังรักทางโลกไปด้วย ภัทรก็งงกับชีวิตตัวเอง แล้วก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดีแล้วค่ะ

 

สาธุ ค่ะ อันนี้ก็คงจะจริง แสดงว่าที่ผ่านมาภัทรก็ยังไ่ม่เคยเจอใครที่ศีลเสมอเราเลย แล้วคนที่ท่านเลือกให้ก็คงจะเป็นประเภทที่เราเลือกไม่ได้ แต่ต้อง ยอมรับสถาณเีดียวใช่ไหมเจ้าค่ะ ถึงแม้คนๆนั้นอาจจะไม่ได้ตรงตามความต้องการของเราเลย

 

บางคนดีแสนดี ภาวนาก็เก่ง แต่ก็ใช้ชีวิตร่วมกันไม่ได้นาน

เพราะ เค้ามีกรรมหนักของเค้าทีต้องใช้


OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO


แฟนเก่า ที่รักมาก

เกือบจะได้แต่งกันตอนผมเรียนจบใหม่ๆ

ตอนไปบวชชีพรหมณ์ ท่านแม่ชีเจ้าสำนัก ฯ
ท่านผู้นี้มีญาณแจ่มใสท่านหนึ่ง

พูดเลยว่า ที่บ้านแฟนนั้นดำมืดหมด มีแต่แฟนเก่าเรา
ที่ ใจขาวสว่างคนเดียว
กลับไปกรุงเทพคราวนี้ จะไม่ได้มาเชียงใหม่อีกนะ
.......

ก็จริงตามที่ท่านพูด
หลังจากนั้นเดือนเดียว ความจริงก็แตก


คนที่บ้านเค้า ไม่ชอบเรื่องถือศีลภาวนา
จะเอาแต่เงิน เงิน และเงิน
บังคับให้เธอเลิกกับเรา และหาคู่ให้
และพูดกับเราว่า " สมัยนี้ความดีไม่มีค่าหรอก
เงิน กับ เส้น เท่านั้น มีความหมาย .."

..............................

นี่เป็นอีกตัวอย่าง ที่ท่านบอกภายหลัง
ว่า แฟนเก่าเราเป็นคนดีมากๆคนหนึ่ง
แต่เค้าต้องไปใช้กรรมกับญาติพี่น้อง

ถ้าเราฝืนใช้บุญบารมีของเราชิงเค้ามา
คนที่จะกระทบมากที่สุดคือ พ่อแม่เรา

ช่วงนั้นท่านเริ่มป่วย
สิ่งไม่ดีทางฝ่ายโน้นอาจกระทบซ้ำเติม

เราจึงตัดใจ ทีจะเลือกความปลอดภัยของพ่อแม่

และจากกันกับแฟนเก่าด้วยความทรมานแสนสาหัส แต่เข้าใจกัน

( นี่คือเหตุผลหนึ่ง ที่หลายคนอาจคิดไม่ถึง หรือ ควรจะคิดบ้าง )


การแต่งงานนั้น ไม่ใช่แค่เรื่องของคนสองคน
แต่เป็นเรื่อง ของสองครอบครัว สองตระกูล ที่จะเกี่ยวข้องกัน

ถ้าไม่ลงรอยกันได้ ทั้งโลกและธรรม

คนที่ทุกข์ จะมีหลายคน ไม่ใช่แค่ตัวเรานะ

 

มันคือบททดสอบค่ะ..ความสำเร็จทางโลกกับทางธรรมไม่เหมือนกัน..
ทางธรรมมุ่งให้เราสละออก...แต่ทางโลกให้เราแสวงหา..หากเราผ่านตรงจุดนี้ไปได้..สิ่งที่ปรารถนาคงอีกไม่ไกล..ถ้าได้พบกับคนๆนั้น..จะต้องเป็นคนที่ตรงตามแรงอธิษฐานของเรา..
แต่อย่างที่คุณโอมบอก..ที่ใดมีรักมักมีทุกข์..ถ้าเราเจอคนที่ใช่..เรารักเค้ามากและเค้าก็เป็นคนดีมากๆ.. แล้วอยู่ด้วยกันไป...ถ้าวันนึงเค้าตายจาก..เราก็ต้องทุกข์อีกใช่ไหม.ทุกข์จากการพลัดพลากจากของรักของชอบใจ.ทุกข์ทั้งนั้นเลย.อนุโมทนาด้วยกับสิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้ ถือว่าคุณเป็นคนมีบุญ..มีอิสระในการสร้างบุญปฎิบัติธรรมได้มากกว่าคนอืน..อย่าคิดน้อยใจเลยนะคะ..

 

อย่างที่กล่าว ตอนต้นๆ

มีหลายเหตุผล หลายเงื่อนกรรม ที่แต่ละคนทำมาต่างกัน

บางเคส ... เธอมีพร้อมทั้งรูปสมบัติ ทรัพย์สมบ้ติ และ บุญกุศลบารมี
แต่คู่ของเธอที่ตั้งสัจจะสาบานกันไว้ในอดีตนั้น

ไม่มาเกิดเองนี่นา..555

แล้วหนึ่งในผู้อยู่เบื้องหลัง การเขี่ยคนอื่นทีจะเข้ามาในภพปัจจุบัน
ก็คือ สุดที่รักในอดีต ที่ดูอยู่นั่นเอง

อ้าว ทำไงดีหละทีนี้... ตัวเองผูกปมไว้เอง แต่คิดไม่ออก ระลึกไม่ได้
ที่รักท่านเดิม ก็เฝ้าดูใจ และ ตล่อมให้เธอ อยู่แต่ในสิ่งที่ดีๆ
แต่เธอ ในฐานะคนบนโลก ใจไขว่เขวบางครั้งเหมือนกัน

 

ขอบพระคุณมากนะค่ะ ซาบซึ้งในสิ่งที่กล่าวมา :'( แต่เรื่องน้อยใจแก้ไม่หายจริงๆค่ะ ขอให้เจริญยิ่งๆขึ้นไปทั้งทางโลกและทางธรรมนะค่ะ

ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์รู้อยู่ค่ะ แต่ก็ัยังอยากมีอยากเป็น นี่แหละที่เขาเรียกว่ามนุษย์กิเลสหนา หากเราเกิดเป็นอย่างอื่นเราก็คงไม่มีจิตใจหมกหมุ่นวุ่นวายเรื่องความรักมากมายเหมือนมนุษย์ เป็นตัวนั่นตัวนี่ไปก็คงไม่รู้จักรักหรอก เพราะไม่มีสมองให้คิดเหมือนมนุษย์ ฮือ ฮือ ขอบคุณมากมายค่ะที่เตือนสติ

 

แล้วไมเขาถึงไม่ตามเรามาเกิดอ่ะ เราจะได้มีเขาในชาตินี้ แล้วมาเฝ้าดูเฉยๆปล่อยให้ชีวิตเราเดินไปเรื่อยๆ ไม่คิดจะช่วยกันบ้างเลยหรือไงละเจ้าค่ะเนี่ย ก็จะให้ระลึกได้ยังไงละเจ้าค่ะ ยังไม่ได้อตีตังสัญญาเลยนะเจ้าค่ะ

 

OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO

ผมเล่าเรื่องเพื่อนผมนะเนี่ย 555

..วิธีแก้ไขของเธอ พอเธอภาวนาได้ที่ ก็ไปคุยต่อรองกันเอง
บางครั้งก็ขอคนกลางเจรจา คงบอกได้แค่นี้
เพราะ เรื่องใครเรื่องคนนั้น ....


บำเพ็ญทาน ศีล ภาวนา มากๆ จนเกิดปัญญา
นี่คือ หลักที่แท้จริงของชีวิต
แม้แต่เรื่องนี้ เมื่อเรามีกำลังถึง หนทางก็จะมีมา

 

อีกเคส...


ก็เจ้าตัว เล่นให้สัจจะ สัญญา สาบานไว้กับคู่ในอดีต

ว่าจะไม่คบคนอื่น จะรอเค้า

ตอนนี้ คนๆนั้น ใช้กรรมอยู่ในภพที่ไม่สบายเท่าไรนัก มาบอกไม่ได้

..แล้วทำไงดีหละ ...มัดตัวเองไว้อีกแล้ว

ต่อไป..จะให้สัจจะสัญญา สาบานอะไร ..ให้พิจารณาให้รอบคอบ
เพื่อประโยชน์ปัจจุบัน และ อนาคต

จะได้ไม่ตกหลุมที่ตัวเองขุดไว้เอง ^^

 

.คำว่า บุญมี แต่ กรรมบัง

ก็อาจมาใช้พิจารณาเรื่องแบบนี้ได้

สวดมนต์ ภาวนา แผ่อุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร เจ้าบุญนายคุณได้โมทนาประจำ

สิ่งที่ขวาง จะผ่อนได้ อย่าปักใจว่า บำเพ็ญแล้วมีคู่ไม่ได้

เงื่อนบุญทำ กรรมแต่ง มีหลากหลาย

ไว้ทยอยเล่าทีละเคส ...ทีละกรณี แลกเปลี่ยนกัน เผื่อมิตรสหาย พอจะมีขัอมูลไว้
ใช้ประโยชน์

 

ค่ะ คุณโอม ขอบพระคุณที่ร่วมแชร์ประสบการณ์ของเพื่อนๆให้ฟังเป็นวิทยาทาน ภัทรก็คงเป็นคล้ายเคสพวกนี้กระมังเจ้าค่ะ ช่างเถอะ ถ้ามีแล้วไม่ดีก็อย่าได้คิดมีมาง เมื่อไหร่ที่เจอคนที่ใช่คู่แท้จริงๆ ถึงแม้อาจจะต้องรอยันแก่ ก็ถือว่ายังดีที่ได้เจอ ไม่ได้ตายเสียชาติเกิดนะ เจ้าค่ะ 555555:'(

 

ทำบุญร่วมกับใครไว้ ถ้าวาสนาและชะตาต้องกันก็คงได้เจอแหละนะครับ

 

เรื่องคล้ายๆ กับผมเลยครับ...
ต่างกันนิดหน่อยตรงที่ว่า!!!...ของผมคงเป็นกรรมมากว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ครับ
ที่ทำให้เวลารักมีความรักมักไม่สมหวัง ถ้าหากสมหวังก็เป็นคนดีแต่ตอนแรกๆ
หรือถ้าเจอคนดีแล้วได้รักกันก็เป็นอันต้องพลัดพรากจากกันด้วยเหตุจำเป็น
คือส่วนใหญ่เป็นคู่กรรม-คู่เวรซะมากกว่าคู่บุญครับ...(T T)
แต่รู้สึกว่ายังคงพอมีบุญอยู่บ้างก็ตอนที่...
ในขณะที่ผมมีความรักหรือมีคู่นั้นตอนแรกผมมองว่าเป็นความสุข คิดว่ามีแต่สิ่งที่ดี อะไรก็ดีไปหมด...
แต่คบกันไปมากับมองเห็นความทุกข์ในสิ่งที่เราเรียกว่า"ความสุข"
หรือ "คิดว่าสุข" นั้น พอมองนานๆ ก็คิดว่าคงเป็นความทุกข์มากว่า...555++
เลยตัดสิ้นใจดับความทุกข์นั้น ตอนนี้ก็มีความสุข+ทุกข์(เรื่องอื่นๆ)อยู่ครับ
ก็มีอยู่บ้างที่อาจเหงา อาจมีความต้องการเหมือนผู้อื่น...
แต่พอคิดถึงความทุกข์ (ในขณะที่เรากำลังคิดว่าเป็นความสุข) ในอดีตแล้ว...
ผมเลือกที่จะไม่ขอกลับไปทุกข์อีก...
ไม่ใช่ว่าผมกลัวกับความรัก/การมีเนื้อคู่ หรือ เรื่องราวในอดีตหรอกนะครับ...
แต่ผมได้ค้นพบแล้วว่ายังมีอีก 2 สิ่งที่มีความหมาย และให้ความสุขมากกว่า...คือ

1.ความรักของพ่อ-แม่ (พ่อ-แม่ คือพระอรหันต์ของลูก)
ความแบบนี้ต่างหากครับที่ผมให้ความสำคัญ...คือ กตัญญูต่อพ่อ-แม่ในตอนที่ผมสามารถกระทำได้...
(คือยังพอมีเวลาที่ได้ทำ) บางคนลืมความรักแบบนี้ไป...
ผมยอมรับว่าดูแลและเอาใจใส่พวกท่านนั้นเหนื่อย (ทางกาย) มากๆ
ซึ่งเที่ยบดูแล้วความทุกข์ของผมคงสู้ของพวกท่านไม่ได้หรอกครับที่เลี้ยงดู อบรมผมมา..
แต่ผมกลับพบความสุข(มากๆ)ในใจผม ท่ามกลางความทุกข์นั้น..

2.พระรัตนตรัยเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่มีความหมายกับผมครับเพราะชี้ให้ผมเห็นความทุกข์ในความสุข(คิดว่าสุข)...
และเห็นความสุขในความทุกข์(คิดว่าทุกข์)นั้น
และเห็นซึ่งวิธีดับทุกข์ด้วยปัญญา(เพราะพุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งปัญญา)...

ผมไม่ใช่คนดีหรือเด่นกว่าผู้อื่นแต่อย่างไร ยังเป็นผู้ผิดพลาดอยู่เสมอ ยังมีรัก โลภ โกรธ และหลงอยู่...
และเป็นเพียงอีกคนหนึ่งที่กำลังเพียรพยายามดับความทุกข์จากความรัก โลภ โกรธ หลงนั้นอยู่ครับ...
ซึ่งหวังว่าในอนาคตคงจะเบาบางลง และคงพบกับความสุขที่แท้จริง(นิพพาน)บ้าง...^ ^

ขออนุโมทนากับทุกๆ ท่านด้วยครับ....^ ^

 

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่แท้จริงย่อมให้อิสระในการดำเนินชีวิต สำคัญที่ใจ ไม่อะไรน่ากลัว ทุกอย่าง เรากำหนด ถ้าทำกุศล ทำสมาธิ อบรมปัญญาด้วยสมถะกรรมฐานเป็นฐานให้ใจสงบแล้วเจริญปัญญาด้วยพระวิปัสสนากรรมฐานแล้วไซร้ ทำทานตามกาล ตามกำลังเหมาะสม พลังกุศลจะผลักดันดวงชะตาให้เป็นคนเหนือดวงแต่ไม่เหนือกรรม แต่กรรมจะเบาบางบรรเทาลง แล้วพลังสติที่เกิดจากการฝึกสมาธิ เมื่อผสานกับลมหายใจเข้าออก การดำเนินชีวิตจะราบรื่นเพราะสติจะกำหนดลมหายใจ ทำให้อารมณ์ผ่อนคลาย มีความรอบคอบระมัดระวังในการงานทุกสิ่ง เมื่อขาดสติปุ๊บ ลมหายใจเปลี่ยนแปลงปั๊บ สติคุณจะช่วยรักษาสมดุล ทำให้ธาตุในร่างกายไม่แปรปรวน ยามหลับไม่ฝัน ยามโดนเหยียบหยันจะนิ่งสงบ อย่าไปเชื่อคำทำนายนัก มนุษย์ยังมีกิเลส บางทีแค่ปิติก็เข้าใจกันไปเพี้ยนตั้งมากมายแล้ว เมื่อตั้งใจทำ จะเจอด่านอุปกิเลสมาทดสอบ ทุกอย่างเมื่อเข้าที่แล้วใจจะเบา ยามไหนก็สุข พอดี ไม่มีสะเทือนใจ ผมไม่ได้เก่งอย่างที่บอกหรอกครับ แค่รุ่นพี่ครูอาจารย์สอนมาอีกที ใจเราคือพระเจ้า ใจเราดีก็เข้าถึงพระ ขอบคุณที่อ่านนะครับ

 

ขอบพระคุณมากนะค่ะ เมื่อก่อนภัทรเคยคิดกับตัวเองเสมอว่าภัทรถูกเขาสาปมา หรือสัจจะอะไรสักอย่างตั้งแต่อดีตชาติว่าให้ชาตินี้เราอย่างไ้ด้มีใคร อย่าได้สมหวัง ต้องอาภัพไปตลอด แต่ตั้งแต่เริ่มปฎิบัติธรรม แล้วมีคนมาทักบ่อยๆเขาก็พูดให้ภัทรเชื่อว่า เพราะภัทรถูกเขาเลือกมา และให้ภัทรต้องอยู่โดดเดียว เพื่อเป็นทางให้เราได้ปฎิบัติมากขึ้น สร้างบุญมารมีได้ง่ายขึ้น การที่เราอยู่ตัวคนเดียวเรามีอิสระมากมาย กับการที่เราอยากทำอะไรก็ได้ทำ แต่เมื่อเรามีใครเราก็จะถูกตีกรอบ ถูกจำกัด เหมือนที่เห็นๆคนที่มีครอบครัวหลายๆครอบครัว แลดูเหมือนชีวิตเขาไม่สามารถเดินได้อย่างมั่นใจ เพราะเขามีคนอื่นที่ต้องห่วงต้องเป็นภาระอยู่ ภัทรเองภัทรก็รู้ตัวว่า ต่อให้อยากมีใครแค่ไหน ภัทรก็คงมีไม่ได้เนื่องจาก 1 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่กับเรา 2 คุณแม่ 3 เจ้ากรรมนายเวร (อันเนี้ยแรงกว่าอย่างอื่นเจ้ากรรมนายเวรทนเห็นภัทรมีความสุขไม่ได้) ทุกวันนี้ภัทรก็ตั้งหน้าตั้งตารับกรรมชดใช้เขา แต่ภัทรไม่ค่อยอยากจะนึกถึงแล้ว เพราะถ้าเราคิดจิตเราก็ไปยึดติด แล้วเราก็เป็นคนที่อมแต่ทุกข์ พยายามทำบุญให้มากๆ อุทิศบุญกุศล เมื่อไหร่ไม่รู้ที่จะได้มีชีวิตที่อยากจะมี ก็คงรอชาติหน้า เพราะหากตายจากโลกนี้ไปแล้ว ถ้ายังเข้าประตูนิพพานไม่ได้ ยังไงก็ต้องกลับมาเกิดอีก เมื่อนั้นแหละ ภัทรก็คงจะหาความสุขทางครอบครัวได้ ชาตินี้มันสายไปแล้ว ยังไงก็คงไม่มีมา ไอ้ที่มาก็คงไม่มีมาคู่เราอย่างแท้จริง เรื่องสติ สมาธิที่ผ่านมาภัทรทำมาตลอด มีแค่ช่วงนี้ที่หาเวลาทำเป็นกิจลักษณะไม่ได้ เพราะว่าย้ายออกจากบ้านมาอยู่คอนโดไม่มีห้องแยกเป็นสัดส่วน อยู่กับคุณแม่สองคนก็มีกวนสมาธิพอสมควร ก็เลยใช้กำหนดจิตนิ่งๆทุกเวลาก็ได้แค่นั้นเอง มีพุทโธอยู่ในใจทุกขณะที่คิดได้ ไม่เผลอ

ขอบคุณนะคะ ที่สละเวลาตอบมาให้ภัทรได้ข้อคิดดีๆอีกคะ

 

ไม่อยากเล่าเลย (เพราะอ่าย อ๊าย อาย )
เมื่อ ๑๐ ปีก่อน (โดยสังเขปนะ)
ก็ป่วนจนพี่เค้าเข้าวัดเข้าวาเรียบร้อยน่ารัก
(คิดขึ้นมาคราใดก็ปลื้มจนน้ำตาคลอทุกกะที)
เพื่อนเค้าก็ยุให้ห่างๆมารร้ายซ่อนรูปตนนี้

ชะหนอยแน่พอเลิกกันจริงจัง เพื่อนๆเก่าของพ่อคุณคนดีนี้แอบตามมาจีบเราตั้ง ๔ - ๕ คน

เลยบอกเลือกไม่ถูก(เห็นว่าดีทุกๆคน)พวกเจ้ามาเป็นสาวกเราทั้ง ๔ คนน่ะแหล่ะ

แฟนเก่าเราก็แต่งงานแต่งการได้คู่ที่ดีตามยถากรรมต่อไป(จากการแอบสืบทางกูเกิ้ล)


สรุป แบบยาวๆก็คือผลบุญอันข้าพเจ้าได้บีบคั้นแฟนเก่าจนเข้าหนนั้นเป็นต้นมาได้ยังอานิสงค์ให้หมอนั่นได้คู่ที่ดีงามละม่อมเพียบพร้อมสมกัน
(ดีใจด้วยนะ)
อ๋อ
ส่วนผลบุญของข้าพเจ้าผู้จิ้มลิ้มน่ารักรับแต่เงินสดไม่รับเช็คแสนซะง่างามสามโลกลือก็คือ

หลวงลุงบอกว่ามึงนี้หนาอีน้อยเอ๋ย เทวดา อีกทั้ง ผู้หลักผู้ใหญ่ ผีตายโหง ตายห่า คนแก่ สัตว์เด็กทั้งผองจะรักมึง แต่หลวงลุงไม่พูดถึงผู้ชายเลยจ้ะ
ว่าแล้วก็เลยขึ้นแท่นกรองทองบังสีวิกามาศ มาศตาดกรองกาณจ์คานหาม