แบ่งให้บูชา วัตถุมงคลเก่าเก็บหลายรายการ ล่าสุด พระนางพญา วัดพระแก้ว

ประวัติความเป็นมา

แต่เดิมพระพุทธรูปองค์นี้ถูกพอกปิดด้วยปูนทั่วทั้งองค์ พุทธลักษณะภายนอกไม่งดงามหรือโดดเด่น จากหลักฐานที่ปรากฏพบว่า เคยประดิษฐานเป็นพระประธานในพระอุโบสถวัดโชตินาราม หรือวัดพระยาไกร มาตั้งแต่แผ่นดินพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์
ต่อมาวัดพระยาไกรขาดคนบูรณปฏิสังขรณ์ จึงตกอยู่ในสภาพรกร้าง ราว พ.ศ. ๒๔๗๔ บริษัท อีสต์เอเซียติก จำกัด ซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับสัมปทานป่าไม้ ได้ขอเช่าที่จากรัฐบาล เข้าจัดสร้างโรงเลื่อยไม้ขนาดใหญ่ในบริเวณวัดร้างแห่งนี้ มีการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่ชำรุดทรุดโทรมของวัดพระยาไกรออกจนเหลือแต่พระพุทธรูปปูนปั้นขนาดใหญ่
ในขณะนั้น “วัดสามจีน” ซึ่งภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็นวัดไตรมิตรวิทยาราม กำลังอยู่ในระหว่างการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ทั่วทั้งพระอาราม โดยสร้างวิหารสำหรับประดิษฐานพระพุทธรูปเพิ่มเติม สมเด็จพระวันรัต (เฮง เขมจารี) เจ้าคณะแขวงล่าง เห็นว่า จะปล่อยองค์พระพุทธรูปปูนปั้นให้อยู่ที่เดิมต่อไปจะเป็นการไม่สมควร ประกอบกับวัดสามจีน มีสถานที่กว้างขวางเหมาะสมกับการประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ จึงมอบให้คณะกรรมการวัดสามจีน อันประกอบด้วย พระมหาเจียม กมโล, พระมหาไสว ฐิตวีโร (พระวิสุทธาธิบดี), น.อ. หลวงศุภชลาศัย (บุง ศุภชลาศัย), ร.น. หลวงบริบาลเวชกิจ (ยู้ ลวางกูล), นายสนิท เทวินทรภักดี ร่วมกันอัญเชิญพระพุทธรูปองค์นี้จากวัดพระยาไกรมาประดิษฐานยังวัดสามจีน

ภาพพระพักตร์ของหลวงพ่อสุโขทัยไตรมิตร ภาพเล็กคือขณะที่ยังถูกหุ้มด้วยปูนปั้น ภาพใหญ่คือภาพในปัจจุบัน ​

 

ไปมาหลายรอบแล้วค่ะวัดไตรมิตร รอบไหนจำไม่ได้เหมือนกัน พอดีรู้จักพี่ท่านนึงที่วัด พี่เขาเลยมอบทั้งใบคาถาใบเล็กแบบนี้มาให้กล่องนึงเต็ม ๆ กับภาพหลวงพ่อสุโขทัยแผ่นใหญ่อีก 3 แผ่นนี่แระค่ะ

 

ดีใจด้วยครับ

ดีใจด้วยครับคุณน้ำดีที่ได้ภาพหลวงพ่อไว้บูชา ตอนนี้มณฑปใหม่ของหลวงพ่อสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว สวยมาก ๆ เลยครับ ถ้าคุณน้ำ หรือ เพื่อนสมาชิกท่านไหนยังไม่ได้ไปชมมณฑปใหม่อยากชวนให้ไปครับชมครับเดี๋ยวผมจะลงรูปให้ชม ติดตามประวัติหลวงพ่อกันต่อนะครับ

 

จากพระพุทธรูปปูนปั้น สู่ "พระพุทธพุทธรูปทองคำ"

พระพุทธรูปปูนปั้นจึงถูกอัญเชิญมาตั้งแต่นั้น โดยในขณะที่ยังบูรณปฏิสังขรณ์พระอารามไม่แล้วเสร็จ คณะกรรมการวัดได้ประดิษฐานองค์พระพุทธรูปไว้ข้างเจดีย์เป็นการชั่วคราว ในระหว่างนี้ มีผู้มาขออัญเชิญไปประดิษฐานยังวัดต่าง ๆ มากมาย แต่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายไปได้ การก่อสร้างพระอาราม พระวิหารต่าง ๆ ในวัดสามจีน ใช้เวลาเนิ่นนาน จนล่วงเลยไปถึง ๒๐ ปี ใน พุทธศักราช ๒๔๙๘ การบูรณะจึงเสร็จสิ้นเรียบร้อย
เมื่อทุกอย่างสมบูรณ์พร้อม ท่านเจ้าคุณพระวิสุทธาธิบดี (ไสว ฐิตวีรมหาเถระ ป.ธ.๗) เจ้าอาวาสซึ่งขณะนั้นมีสมณศักดิ์เป็นพระวีรธรรมมุนี ผู้ดำเนินการสร้างวิหารที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นจนแล้วเสร็จ ได้เป็นแม่กองเคลื่อนย้ายพระพุทธรูปปูนปั้นองค์นี้ เพื่อนำขึ้นประดิษฐานยังพระวิหารซึ่งตรงกับวันที่ ๒๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๘ การเคลื่อนย้ายเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากองค์พระมีขนาดใหญ่ และหนักมาก ต้องใช้ปั้นจั่นยกองค์พระพุทธรูป ในขณะทำการยกนั้น ปรากฏว่า ลวดสลิงที่ยึดองค์พระเกิดขาดเพราะทานน้ำหนักองค์พระไม่ไหว องค์พระพุทธรูปจึงตกลงกระแทกบนพื้นอย่างแรง พอดีกับเวลานั้น เป็นเวลาใกล้ค่ำ และฝนก็บังเอิญตกอย่างหนัก การอัญเชิญพระพุทธรูปในวันนั้น จึงเป็นอันต้องหยุดชะงักลง

ภาพท่านเจ้าคุณพระวิสุทธาธิบดี (ไสว ฐิตวีรมหาเถระ ป.ธ.๗) อดีตเจ้าอาวาสวัดไตรมิตร

 

เทวดามานิมิต

ท่านเจ้าคุณพระวิสุทธาธิบดี ได้เดินกรำฝนกลับกุฏิ และคืนนั้นฝนได้ตกตลอดคืน ในคืนวันที่ ๒๕ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๙๘ นั้นเอง
ท่านเจ้าคุณพระวิสุทธาธิบดี นิมิตรว่า “มีกุลสตรีทรงศักดิ์สูงอายุท่านหนึ่งมาหาท่าน กุลสตรีทรงศักดิ์ ในความฝันนั้นหาใช่สตรีอย่างสมัยปัจจุบันไม่เป็นกุลสตรี ทรงศักดิ์สูงอายุ
โดยสังเกตได้จาการแต่งร่าง และเรือนผมไว้ผมทรงกะโด่ง แต่งร่างอย่างนางกษัตริย์ ประดับอาภรณ์ อย่างรูปเขียนสมัยสุโขทัย กุลสตรีผู้นั้น ประคองพานเดินขึ้นมาบนกุฏี
พลางกล่าวกับท่านเจ้าคุณพระวิสุทธาธิบดีขอถวายสังวาลแก่ท่านเจ้าคุณ ๑ สาย ท่านเห็นเป็นสังวาลเพชรวางอยู่บนพานก็กล่าวปฏิเสธ ว่า ขอสิ่งนี้อาตมาภาพรับไม่ได้ เพราะไม่ใช่ของสำหรับสมณะ
โยมมอบแก่ลูกหลานของโยมไว้ใช้เถิดกุลสตรีสูงศักดิ์ผู้นั้นแจ้งแก่ท่านว่าได้ตัดสินใจแล้วจะถวายแก่ท่านแล้วขอให้เจ้าคุณรับเอาไว้ด้วยสังวาสนี้เป็นของดี และมีค่ามาก พูดแล้วก็ลาท่านไปในฝันนั้นท่านได้พยายามเรียกให้กลับมารับคืนไป แต่ไม่สำเร็จกุลสตรีทรงศักดิ์สูงอายุผู้นั้นได้กลับกายหายไปเสียแล้ว ท่านสะดุ้งตื่น รู้สึกว่าเป็นเวลา ใกล้จะรุ่งฝนที่ตกมาตลอดทั้งคืนเพิ่งจะขาดเม็ดเมื่อเสร็จสรรกิจแล้วความที่เป็นห่วงในการอัญเชิญหลวงพ่อปูนปั้นขึ้นประดิษฐานบนวิหาร ท่านได้เดินฝ่าละอองฝนมาที่หลวงพ่อปูนปั้นทันใดนั้นท่านสะดุ้งสุดตัวเพราะสายตาได้เห็นปูนตรงพระอุระหลวงพ่อแตกกะเทาะลงมากองอยู่ที่พื้นดินเห็นรักปิดทับอยู่อีกชั้นหนึ่ง
เมื่อแกะรักออกก็เห็นทองตรงพระอุระของหลวงพ่อเป็นประกายอร่ามจับตาท่านจึงได้บอกกล่าวให้ภิกษุสามเณรและช่าง ให้ช่วยกันกระเทาะปูนที่หุ้มออกทั้งองค์ความงดงามแห่งเนื้อทองบริสุทธิ์ขององค์พระปฏิมาจึงปรากฏให้เห็นพร้อมพุทธลักษณะที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง กลายเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย สกุลช่างสุโขทัย ที่งดงามจับตาจับใจผู้พบเห็นยิ่งนักความยากลำบากในการเคลื่อนย้ายหมดสิ้นลงเมื่อมีการคุ้ยดินใต้ฐานทับเกษตรออก และพบกุญแจกลสำหรับถอดองค์พระออกเป็นส่วน ๆ ได้ ๙ ส่วน เพื่อสะดวกต่อการอัญเชิญขึ้นประดิษฐานยังพระวิหาร จึงดำเนินการถอดองค์พระออกแต่เพียง ๔ ส่วน คือ ส่วนพระศอ ส่วนพระหัตถ์ทั้ง ๒ ข้าง และส่วนพระนาภี ทำให้สามารถอัญเชิญพระพุทธรูปทองคำองค์นี้ ขึ้นประดิษฐานยังพระวิหาร ซึ่งเป็นสถานที่ที่ได้จัดเตรียมไว้โดยราบรื่น

 

พระราชทานนาม

ในปี พ.ศ. ๒๕๓๕ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามพระพุทธรูปทองคำสุโขทัยไตรมิตรว่า “พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร” เพื่อเป็นสรรพสิริสวัสดิ์พิพัฒน์มงคลสืบไป

ภาพสมเด็จย่าทรงพิจารณาพระเกตุมาลาของหลวงพ่อทองคำ ​

 

ปูนหุ้มหลวงพ่อทองคำ (โชว์)

ปูนชิ้นนี้เป็นปูนที่หุ้มองค์หลวงพ่อทองคำเมื่อครั้ตั้งแต่สมัยสุโขทัยครับ พอดีผมมีไว้บูชา เลยอาราธนาบารีมีหลวงพ่อมาให้เพื่อนสมาชิกได้ชมกันครับ

 

แวะมาชมครับ

ใครได้ครอบครอง หวงน่าดูนะครับ...

 

ขอบคุณมากครับ

ขอบคุณมากครับ คุณNU_Wa ที่เข้ามาชมครับ น่าจะเป็นบุญของผมมาก ๆ ที่ได้ครอบครองครับ ผมกำลังถ่ายภาพวัตถุมงคลยุคแรก ๆ ของหลวงพ่ออยู่ครับ คุณ NU_WA คอยติดตามเรื่อย ๆ นะครับ และผมจะลงภาพของหลวงพ่อทองคำในมุมที่หลาย ๆ ท่านไม่ค่อยได้เห็นครับ หลวงพ่อท่านเป็นพระในประวัติศาสคร์ครับ แต่ผมเชื่อว่ายังมีอีกหลาย ๆท่านที่ยังไม่ทราบและไม่เคยไปกราบครับ เลยตั้งใจนำเรื่องราวของหลวงพ่อมาเผยแผ่ครับผม

 

วัตถุมงคลหลวงพ่อทองคำ ยุคแรก ๆ

เหรียญนี้เป็นเหรียญหลวงพ่อทองคำ วัดไตรมิตร เป็นเหรียญยุคแรก ๆ ของหลวงพ่อครับ เหรียญนี้สร้าในปี 2498 เหรียญนี้เป็นเหรียญเงินลงยาครับ

 

องค์นี้เนื้อเงินครับ

องค์นี้เป็นเนื้อเงินครับ

 

ประมวลภาพหลวงพ่อทองคำ ในมุมที่หลายท่านอาจไม่เคยเห็นครับ

เป็นภาพถ่ายของหลวงพ่อทองคำในมุมต่าง ๆ ครับ เช่นภาพถ่ายจาด้านบน ภาพพระเกตุของหลวงพ่อซึ่งถ่ายในระยะใกล้ครับ ลองชมกันนะครับ

 

สวัสดีครับ แวะมาทักทายครับคุณนพนันท์

 

ขอบคุณมากครับ คุณ Honmaru07

ขอบคุณมากครับที่ติดตามกันมาตลอด หวังว่าคงชอบนะครับสำหรับเรื่องราวต่าง ๆ ที่นำมาลง

 

ครับผม เดี๋ยวผมนำมาร่วมด้วยครับ ได้มาเหรียญหนึ่งเป็นเหรียญที่มีหลวงพ่อทองคำทั้งสองด้านครับ

นำรูปมาให้ชมครับ

 

พระสวยครับ

คุณ NU_WA ขอบคุณมากครับที่ลงภาพด้านหลังของหลวงปู่ทวดให้ชมครับ พระสวยมาก ๆ ครับ

 

http://www.pramool.com/cgi-bin/dispitem.cgi?5935567

อยากทราบประวัติการจัดสร้างเหรียญรุ่นนี้ครับพี่
ตามลิ้งนี้เลยครับ

 

ตอบคุณ NU_WA

เรียนคุณ NU_WA

เหรียญหลวงพ่อทองคำ วัดไตรมิตร รุ่นนี้สร้างเมื่อปี 2536 ครับ เป็นเหรียญที่สร้างได้สวยรุ่นหนึ่งเลยครับ กะไหล่ทองรุ่นนี้สวยงามมาหสีของกะไหล่สุกปลั่งครับ เหรียญรุ่นนี้ว่าไปแล้วถือเป็นครั้งแรกของทางวัดที่สร้างเป็นรูปหลวงพ่อทองคำสองหน้าครับ โดยที่เหรียญส่วนหนึ่งทางวัดได้นำไปแจกให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏบิติงานใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยครับ ส่วยพิธีพุทธาภิเษกได้ทำพิธีในพระอุโบสถวัดไตรมิตรครับ ต่อหน้าองค์พระทศพลญาณ (หลวงพ่อโต) พระประธานในพระอุโบสถ วัดไตรมิตร โอกาสหน้าผมจะนำเรื่องราวของหลวงพ่อโต มาให้อ่านกันครับ

ยินดีนะครับคุณ NU_WA หากมีอะไรที่คิดว่าผมพอจะตอบได้ยินดีเลยครับ

 

ประมวลภาพ งานสมโภชมหามณฑป หลวงพ่อทองคำ

เป็นภาพงานสมโภชพระมหามณฑป หลวงพ่อทองคำ วัดไตรมิตร โดยทางวัดจัดงานตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม 2552 - วันที่ 1 มกราคม 2553 โดยในแต่ละวันทางวัดได้นิมนต์พระสงฆ์จำนวน 1,250 รูป มาเจริญพระพุทธมนต์ พร้อมทั้งมีการฉายประวัติของบทพระพุทธมนต์ต่าง ๆ ผ่านม่านน้ำประกอบการเจริญพระพุทธมนต์ครับ

 

เหรียญพระทศพลญาณ วัดไตรมิตรวิทยาราม

พระทศพลญาณ หรือ หลวงพ่อโต ท่านเป็นพระประธานประจำพระอุโบสถวัดไตรมิตรวิทยารามครับ เหรียญรุ่นนี้ สร้างปี 2483 พื่อเป็นที่ระลึกเนื่องในโอกาสผูกพัธสีมาฝังลูกนิมิตครับ