เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย mead, 8 สิงหาคม 2007.

  1. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ยินดีต้อนรับเพื่อนสมาชิกใหม่ๆสู่ห้องวิทย์ฯด้วยครับ
    ถึงแม้จะห่างหายไปเพราะอะไรนู่นนี่ก็ตาม แต่เข้ามาเมื่อไหร่ก็พบกับความอบอุ่นความปรารถนาดีจากทุกคนเหมือนเดิมตลอด พูดไม่ออกบอกไม่ถูก รู้สึกวิ๊งๆ สงสัยโดนโฟกัสลำแสงของทุกคนเข้าให้แล้ว คิดถึงเช่นกันนะครับ อิอิ

    ฟังความฝันของคุณ anneann แล้วทำให้รู้สึกคล้ายฝันเมื่อคืนเลย มาเล่าบ้างนะครับ
    คือเห็นตัวเองวิ่งเท้าเปล่าออกไปบนถนนที่เฉอะแฉะ อยู่กลางเมืองหลวง มีการปรากฎของลำแสงวงกลมขนาดใหญ่ ลอยอยู่นิ่งๆเหนือก้อนเมฆ กินรัศมีท้องฟ้าเกิน 60% และมีแสงกลมๆเคลื่อนไปแบบอิสระอยู่รอบนอก สว่างวิปๆวับๆไปหมด

    ในใจก็รู้อยู่ว่านั่นคืออะไร...(เหมือนกระทู้คุณชยุตล่ะครับ)
    ผู้คนรอบๆที่ไม่รู้ก็ แตกตื่น วุ่นวาย โกลาหลไปหมด คงเพราะไม่รู้ที่มาที่ไปของสิ่งที่เห็น..
    ก็บอกให้ทุกคนบริเวณนั้นสงบนิ่งก่อน..บอกไปว่า "เชื่อสิ..พวกเค้ามาดี..ต้องกลัวไปทำไม?"

    ต่อจากนั้นก็เลือนๆไปซะแล้ว จำได้อีกทีก็โผล่มานอนอยู่ที่ห้องสแกนร่างกาย..เป็นห้องเรียบๆสีขาว มีช่องกลมๆ กับม่านพลังงานอยู่ตรงกลาง เครื่องมือที่นอนอยู่ก็พาเราผ่านเข้าไปในช่อง...แสงสีรุ้งของสเปคตรัมก็ส่องผ่านเข้าม่านตา รู้สึกจั๊กจี้ยิบๆ...(ก่อนเข้าไปคิดว่าจะเจ็บ)...พอออกมาก็มึนๆเล็กน้อย แต่แปลกที่พอเราคิดอะไรปั๊บ มีนก็จะเป็นอย่างที่เราคิด เช่น สีของร่างกายเปลื่ยนไปมาได้ เพิ่มชิ้นส่วนของแขนและนิ้วมือได้...ร่างกายแข็งแรงขึ้น ขยายใหญ่ขึ้น และยังลอยตัวได้อีก...(รู้สึกเหมือนเป็นมนุษย์แปลงเลยตอนนั้น)

    สิ่งเหล่านี้อาจเป็นเพียงความฝัน...
    แต่มันก็แฝงเรื่องราวและจินตนาการและความเป็นจริงเอาไว้ส่วนหนึ่ง
    ความฝันที่เป็นธรรมชาตินี่หากเรารับฟังจดจ่อเป็นอย่างดีมันจะสะท้อนบอกพิกัดของอารมณ์-ความรู้สึกกับเราในช่วงเวลาหนึ่งๆได้ดี และมันจะเฉลยตัวมันเองและประติดประต่อกันได้
    ฝันกันให้สนุกนะครับ

    Bye Bye
     
  2. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ฟังเพลงจนหลับรึเปล่าครับนี่ อิอิ
    ให้ฟังอีกเพลงกับความหมายดีๆครับ

    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.984748/[/MUSIC]
    <LEGEND>

    If We Hold On Together
    Don´t lose your way
    อย่าละเสียซึ่งความเพียร...ที่เจ้าได้บากบั่นมา
    With each passing day
    แล อย่าปล่อยให้ชีวิตผ่านเไปเพียงวันวัน
    You´ve come so far
    เจ้าอุตสาห์มาได้ไกลเพียงนี้แล้ว
    Don´t throw it away
    ไฉนจะละทิ้งความตั้งใจลงไปกลางครันเฉกเช่นนี้


    Live believing
    ชีวิตต้องแน่วแน่...มั่นคง
    Dreams are for living
    อุดมคติแห่งชีวิตนี้
    Wonders are waiting to start
    หลายหลายอัศจรรย์แห่งธรรมล้วนรอคอย
    ให้เหล่าจอมยุทธผู้แน่วแน่...ต่างมาพิสูจน์กัน


    Live your story
    ดั่งชีวิตที่เจ้าเพียรพานพบมากับตัวเจ้าเอง
    Faith, Hope and Glory
    ด้วยพลังแห่งศรัทธา ความหวัง แลความปิติ
    Hold to the truth
    บนพื้นฐานแห่งสัจจะ
    In your heart
    ในดวงจิตของเจ้าเอง


    If we hold on together
    หากเราประคองจิตให้รู้พร้อมได้
    I know our dreams will never die
    ข้านี้มั่นใจยิ่งนัก...อุดมคตินี้จักไม่สูญสิ้นแน่
    Dreams see us through to forever
    อุดมคติที่จักนำเราสู่การรู้แจ้ง...ไปจวบจนกาลปาวสาน
    Where clouds roll by for You and I
    กระทั่ง...ผืนฟ้ายังเป็นประจักษ์พยานแด่เรา



    Souls in the wind
    ความรู้สึก(วิญญาณ) ที่สัมผัสอยู่ที่ขณะจิต
    Must learn how to bend
    จักรับรู้ถึงความไม่เที่ยง
    Seek out a star
    แล มีสติเท่าทันกระบวนการ...การเกิดของจิต
    Hold on to the end
    กระทั่งการดับ...ไปของจิตด้วย


    Valley, Mountain
    หากท้องทุ่งขจีกว้าง แลขุนเขาอันยิ่งใหญ่
    There´s a fountain
    ยังคงมีสายธารโพยพุ่ง
    Washes our tears away
    ชำระล้างความรันทด แลแหล่งกันดารได้ฉันใด
    Words are swearing
    สัจจะที่จักเพียรปฏิบัติธรรม
    Someone is praying
    ที่เหล่าจอมยุทธผู้กล้า...สาบานไว้ด้วยแรงศรัทธา
    Please let us come home to stay
    ย่อมส่งผลให้เราได้พบกับที่ตั้งแห่งดวงจิตอันสงบฉันนั้น


    If we hold on together
    หากเราประคองจิตให้รู้พร้อมได้
    I know our dreams will never die
    ข้านี้มั่นใจยิ่งนัก...อุดมคติของเราจักไม่สูญสิ้นแน่
    Dreams see us through to forever
    อุดมคติที่จักนำเราสู่การรู้แจ้ง...ไปจวบจนกาลปาวสาน
    Where clouds roll by for You and I
    กระทั่ง...ผืนฟ้ายังเป็นประจักษ์พยานแด่ เรา



    And we are out there in the dark
    แม้นขณะที่เราตกอยู่ในสภาวะอันแสนมืดมน
    With dreams along the side
    ด้วยอุดมคติแห่งแสงสว่างนี้...
    In the dark we´ll feel the light
    เรากลับมีสติเป็นพลังฝ่าฝันอุปสรรคใดใดไปได้
    Warm our hearts
    ด้วยการหมั่นประคับประครองรู้เท่าทันสภาวะแห่งดวงจิตนี้
    And reward
    จักสำริดผลอันประเสริฐ...เป็นแน่แท้


    If we hold on together
    หากเราประคองจิตให้รู้พร้อมได้
    I know our dreams will never die
    ข้านี้มั่นใจยิ่งนัก...อุดมคติของพวกเราจักไม่สูญสิ้นแน่
    Dreams see us through to forever
    อุดมคติที่จักนำเราสู่การรู้แจ้ง...ไปจวบจนกาลปาวสาน
    As high as souls can fly
    คงไม่ไกลเกินว่าพลังแห่งจิตตภาวนา
    The clouds roll by for You and I
    กระทั่ง...ผืนฟ้ายังเป็นประจักษ์พยานแด่ "เรา"



    </EMBED>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มิถุนายน 2010
  3. imjoice

    imjoice เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2008
    โพสต์:
    84
    ค่าพลัง:
    +125
    คุณmeadคะ มีใครเคยช๊อตโน๊ต(ย่อเป็นหัวข้อๆ เหมือนเอาแต่ใจความสำ้คัญอะค่ะ) หนังสือ โนวา อนาลัย บ้างมั้ยคะ คือ จอยอ่านแล้วบางเล่ม เหมือนเข้าใจ แต่ไม่เข้าใจ แต่จอยอ่านจบไปนานแล้วค่ะ อยู่ดีๆ ก้อนึกถึง โนวา อนาลัย อีกแล้ว ทั้งๆที่ เคยยอมแพ้ไปแล้ว เพราะอ่านแล้วเหมือนเข้าใจ อิอิ จอยเป็นอย่างนี้ หลายครั้งแล้ว และทีนี้ ก้ออยากรู้อีกแล้ว อยากอ่าน อีกแล้ว เหมือนใจข้างใน ยังต้องการค้นหาความรู้ที่ พี่นักเขียนถ่ายทอดหรือเปล่าคะ
     
  4. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    เอ่อ..ก็มีจดเอาไว้ในสมุดบันทึกน่ะครับ เป็นส่วนที่อ่านแล้วรู้สึกว่าต้องบันทึกไว้เฉพาะตัว
    แต่ค่อนข้างจะละเอียดเกินกว่าจะสรุปหัวข้อได้หมดนะครับคุณ imjoice เพราะหนังสือทั้ง 10 เล่มก็มีเนื้อหาที่ลุ่มลึกเฉพาะด้านโดยมีองค์ความรู้สากลเป็นฉากหลังครับ

    ในฐานะนักเรียนคนหนึ่งของห้องวิทย์ฯขอแนะนำให้ค่อยๆอ่านจากกระทู้นี้ล่ะครับ เพราะพี่นักเขียนสรุปประเด็นสำคัญๆที่พวกเรายังไม่เข้าใจไว้มากมายแล้ว รวมทั้งเพื่อนๆก็เคยช่วยกันแยกเรื่องในแต่ละเล่มที่น่าสนใจไว้ไปรวมไว้ที่นี่อีกแห่งด้วยครับ PaLungJit.com - Nova pkbook

    และหากมีเรื่องที่สงสัยอยู่ก็เมลล์หรือโทรไปถามพี่นักเขียนเป็นการส่วนตัวได้อีก
    พี่เขาก็ยินดีให้คำปรึกษาในทุกเรื่องครับ
    ดังนั้นยอย่ายอมแพ้.....อ่านและทบทวนไปเรื่อยๆ
    ค่อยๆซึมซับทำความเข้าใจและนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุดแล้วกันนะครับ...
    เอาใจช่วยจ้า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มิถุนายน 2010
  5. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    <TABLE class=MsoNormalTable style="WIDTH: 100%; mso-cellspacing: 0cm; mso-padding-alt: 4.5pt 4.5pt 4.5pt 4.5pt" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR style="mso-yfti-irow: 0; mso-yfti-firstrow: yes; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1pt inset; PADDING-RIGHT: 4.5pt; BORDER-TOP: #ffffff 1pt inset; PADDING-LEFT: 4.5pt; BACKGROUND: #f7f3f7; PADDING-BOTTOM: 4.5pt; BORDER-LEFT: #ffffff 1pt inset; PADDING-TOP: 4.5pt; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1pt inset; mso-border-alt: inset windowtext .75pt">ความคิดและความเชื่อ เกี่ยวกับความดีและความชั่วของเธอทั้งหลายยังบิดเบือนอยู่มาก มันเปรียบเสมือนเงามืดที่บดบังความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับธรรมชาติความเป็นจริงโดยสิ้นเชิง
    จากหนังสือ โนวา อนาลัยขยายความ-ธรรมชาติของชาติภพ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    ความเชื่อในแง่ลบ-ความคิดในแง่ลบ-ประสบการณ์ชีวิตในแง่ลบ-กรรม
    <O:p

    <HR align=center width="100%" color=white noShade SIZE=1>

    สาระที่ถูกต้องที่พี่นักเขียนมักนำมากล่าวไว้ตามข้อมูลความรู้ที่ถ่ายทอดมาจากท่านอาจารย์อนาลัยซึ่งปรากฏในหนังสือหลายเล่มของท่านอาจารย์อนาลัยคือ:
    เธอไม่จำเป็นต้องพยายามเปลี่ยนวิถีการจดจ่อของจิตวิญญาณด้วยสติสัมปชัญญะไปสู่โลกแห่งความเป็นจริงหลากมิติโลกอื่นมิติอื่น ชาติภพอื่น หรือเส้นทางแห่งความเป็นไปได้เส้นอื่นๆเพราะการเปลี่ยนวิถีการจดจ่อของจิตวิญญาณด้วยสติสัมปชัญญะเป็นไปอยู่แล้วตลอดวันเวลาอย่างเป็นธรรมชาติหากแต่ว่าสิ่งที่เธอต้องเรียนรู้คือ การฝึกให้มีสติสัมปชัญญะที่คมชัดเพื่อที่จะติดตามรู้ตามเห็นว่าจิตวิญญาณของเธอเปลี่ยนวิถีการจดจ่อด้วยสติสัมปชัญญะเมื่อไร อย่างไรและเผชิญกับประสบการณ์ใด

    ท่านอาจารย์อนาลัยได้สอนว่าให้เราหมั่นฝึกฝนที่จะมีสติสัมปชัญญะที่คมชัดทั้งยามตื่น ยามหลับ ยามฝันเพราะไม่ว่าร่างกายของเราจะหลับหรือตื่น จิตวิญญาณของเราก็ตื่นอยู่เสมอจิตวิญญาณไม่เคยหลับ จิตวิญญาณไม่เคยหยุดใช้อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดแม้ร่างกายของเราจะนอนหลับ-แต่ในความฝัน เรามีอารมณ์รัก อารมณ์โกรธ อารมณ์เกลียดหรืออารมณ์เมตตามากมายที่มักเป็นไปอย่างลุ่มลึกจนบ่อยครั้งเราตื่นขึ้นมาพร้อมด้วยอารมณ์นั้นๆที่ยังคงค้างอยู่ในสติสัมปชัญญะของเราไม่มากก็น้อยเสมอๆ

    ในความฝันเราเต็มไปด้วยจินตนาการกว้างไกล เกินขอบเขตของโลกทางกายภาพความฝันทำให้เราเผชิญกับประสบการณ์มากมายนอกกรอบอันจำกัดของโลกยามตื่นนอกจากนี้เรายังมีความรู้สึกนึกคิดที่แยบยลในความฝันเราสามารถแก้ไขปัญหาที่เราแก้ไม่ตกในยามตื่นได้ในความฝันด้วยซ้ำไปความเป็นจริงอันเป็นธรรมชาติเหล่านี้ เป็นข้อพิสูจน์ที่น่าจะทำให้เราตระหนักได้ว่าสติสัมปชัญญะของเราดำเนินต่อไปในความฝันเสมอ ไปรู้เห็นไปมีอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกในความฝันไม่น้อยกว่ายามตื่น

    ดังนั้นเมื่อท่านอาจารย์อนาลัยสอนว่าเราจะต้องฝึกฝนที่จะมีสติสัมปชัญญะที่คมชัด ท่านได้กล่าวครอบคลุมไว้ว่าให้เราเริ่มต้นจากการสำรวจความเชื่อของตนเองเสมอเพราะอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดของเรามักคล้อยตามความเชื่อของเราเสมอเราสำรวจตนเองได้ไม่ยากว่า เมื่อใดที่เราตกอยู่ในความรู้สึกที่ไม่ดี กลัดกลุ้มจมอยู่กับปัญหา ทุกข์ มองไม่เห็นทางแก้ไข มองโลกในแง่ร้าย มีอารมณ์ขุ่นมัวอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกของเรากำลังเป็นไปตามความเชื่อที่ผิดที่ทำให้เราขาดสติที่จะตระหนักได้ว่า เราคือผู้สร้างโลกแห่งความเป็นจริงของตนเองสถานการณ์เลวร้ายทั้งหมดเกิดขึ้นมาจากอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดในแง่ร้ายของตนเองก่อนหน้าที่เราจะเผชิญกับความเป็นจริงที่เลวร้ายทั้งหมด ดังนั้นการจะเอาตนเองออกจากสถานการณ์เลวร้ายที่ไม่พึงปรารถนาได้นั้นก็ทำได้ด้วยการเปลี่ยนความเชื่อที่จะเหนี่ยวนำให้เรามีอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่ดีเกิดขึ้น

    การควบคุมความคิดเป็นสิ่งที่จำเป็นแต่เราจะไม่อาจควบคุมความคิดได้หากเราไม่เปลี่ยนความเชื่อที่ผิดเสียก่อนตราบใดที่เราไม่สำรวจความเชื่อ หาความเชื่อที่ผิดไม่พบจิตวิญญาณของเราก็จะเปลี่ยนวิถีการจดจ่อด้วยสติสัมปชัญญะไปสู่เส้นทางแห่งความเป็นไปได้ที่คล้องจองกับอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึิกคิดในแง่ลบเสมอๆและเราก็จะไม่มีวันรู้ได้ว่าประสบการณ์ชีวิตที่ตกต่ำ หนี้สิน สุขภาพไม่ดีสัมพันธภาพอันเลวร้ายทั้งหลายมาจากไหน

    เรามักจะตามไม่ทันว่าความคิดและความรู้สึกที่ไม่ดีทั้งหมดไม่ได้เกิดขึ้นภายหลังจากที่เราได้เผชิญกับประสบการณ์ชีวิตที่ไม่พึงปรารถนา หนี้สินสุขภาพไม่ดี หรือสัมพันธภาพอันเลวร้าย ฯลฯ ในทางตรงกันข้ามความคิดและความรู้สึกที่ไม่ดีเหล่านี้เกิดขึ้นก่อนหน้าประสบการณ์เลวร้ายทั้งหมดแต่เราขาดสติที่จะควบคุมความคิดและขาดสติที่จะติดตามความคิดของตนเองหรือหยุดยั้งมันได้ก่อนหน้าที่มันจะแปลงสภาวะจากอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงของเราหากเราขาดสติที่จะติดตามอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดของตนเองเรามักจะโทษว่าปัญหาชีวิตและอุปสรรคทั้งหมดเกิดจากเหตุหรือปัจจัยที่อยู่ภายนอกตัวตนของเราเสมอ

    จุดเริ่มต้นของการฝึกตนเองให้มีสติสัมปชัญญะที่คมชัดจึงเกิดขึ้นได้ด้วยการสำรวจความเชื่อของตนเองเสมอๆท่านอาจารย์อนาลัยได้แนะนำว่า ให้เราตั้งคำถามกับตนเองเสมอๆว่าสิ่งที่เราเข้าใจว่าคือความรู้นั้นใช่ความรู้ที่แท้จริงหรือเป็นเพียงความเชื่อในแง่ลบของตนเองเพราะหากว่ามันคือความรู้ที่แท้จริงเราจะพบว่าเรามีอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่เป็นแง่บวกเสมอความรู้ไม่เคยทำให้เราตกอยู่ในภาวะขุ่นมัว จมอยู่กับปัญหาจนหาทางออกไม่ได้ความรู้ทำให้เรามีแสงสว่างแห่งปัญญาและมองเห็นทางออกหรือทางแก้ไขปัญหาได้เสมอหากเราเชื่อว่าปัญหาทั้งหมดมาจากภายนอก มาจากสภาพเศรษฐกิจ มาจากบุคคลอื่่นมาจากสถานการณ์บ้านเมือง หรือมาจากสิ่งต่างๆที่เราควบคุมไม่ได้ เราควรจะถามตนเองว่าเหล่านี้คือความเป็นจริง-คือความรู้ หรือเป็นเพียงความเชื่อส่วนบุคคล

    ความเชื่อที่ผิดทำให้เราตกอยู่ในภาวะไร้พลังอำนาจและทำให้เรารู้สึกว่าเราตกเป็นเหยื่อของสถานการณ์เลวร้ายตกเป็นเหยื่อของความไม่ชอบธรรมของผู้อื่นตกเป็นเหยื่อของสถานการณ์ที่เราไม่ต้องการ-แต่ควบคุมไม่ได้ความเชื่อในทางที่ผิดมักทำให้เรามองข้ามจุดเริ่มต้นของความผิดทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากความเชื่อที่ผิดของตนเอง-ตามด้วยอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดในแง่ลบและผลลัพธ์ที่เราได้ก็คือเราต้องเผชิญกับความเป็นจริงในแง่ลบที่คล้องจองกับความเชื่อของตนเอง

    หากเราสำรวจความเชื่อของตนเองได้เสมอๆจนเป็นนิสัยเราจะพบว่า เมื่อใดก็ตามที่เราพบว่าตนเองมีความเชื่อในแง่ลบผุดขึ้นมาเราจะหยุดมันได้ทำให้เราสามารถหยุดอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่คล้อยตามความเชื่อนั้นๆได้ก่อนหน้าที่เราจะสร้างแบบพิมพ์เขียวโลกแห่งความเป็นจริงอันไม่พึงปรารถนาขึ้นมาในจินตภาพการเปลี่ยนความเชื่อจะเปลี่ยนอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดของเราได้อย่างฉับพลันทำให้เรารู้จักสร้างแบบพิมพ์เขียวโลกแห่งความเป็นจริงอันพึงปรารถนาขึ้นมาแทนที่ในจินตภาพและทำให้ประสบการณ์ชีวิตทั้งหมดของเราพลิกผันได้ในที่สุด

    เราเปลี่ยนความเชื่อ-เปลี่ยนอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดของเราได้มากเท่าไร
    ประสบการณ์ชีวิตทั้งหมดของเราก็พลิกผันได้เร็วขึ้นเท่านั้น

    ความเป็นไปในความฝันทำให้เราควรตระหนักได้ว่าแม้ว่าร่างกายของเราจะนอนหลับ และดูเสมือนว่าเราจะไม่ได้ทำอะไรเลยแต่จิตวิญญาณของเราก็ทำกิจกรรมมากมายต่อไปไม่เคยหยุดและกิจกรรมของจิตวิญญาณอันเป็นจินตภาพในความฝันก็ล้วนเป็นกิจกรรมที่สำคัญยิ่งเพราะท่านอาจารย์อนาลัยกล่าวว่ามันคือแบบพิมพ์เขียวที่สร้างสรรค์โลกแห่งความเป็นจริงยามตื่นของเราบ่อยครั้งสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกทางจินตภาพในความฝัน-มาสู่โลกแห่งความเป็นจริงอันเป็นอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดได้ก็ต่อเมื่อเรารู้จักสำรวจความเชื่อและเปลี่ยนความเชื่อในแง่ลบให้เป็นความเชื่อในแง่บวกได้เสมอ

    ความสำคัญของการควบคุมความคิดด้วยสติสัมปชัญญะเป็นสาระที่ท่านอาจารย์อนาลัยได้กล่าวไว้เสมอๆ พี่นักเขียนขอคัดลอกจาก หนังสือ โนวา อนาลัย ขยายความธรรมชาติของชาติภพ หน้า 33-34

    หากเธอทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอครั้งแล้วครั้งเล่าเธอจะรู้ว่าความรู้สึกนึกคิดของเธอมีส่วนร่วมในการสร้างสถานการณ์ต่างๆให้เกิดขึ้นกับเธอเสมอไม่ว่าจะเป็นความอยากได้หรือไม่อยากได้ ความกลัวหรือความท้าทายความกังวลหรือความรอบคอบ ความรักหรือความเกลียด สุดแท้แต่เธอจะเรียกมันความรู้สึนึกคิดทุกลมหายใจของเธอแปลงสภาพกลายเป็นวัตถุธาตุและประสบการณ์ทุกอย่างในชีวิตของเธอจินตนาการ-อารมณ์และความรู้สึกนึกคิดของเธอจึงเปรียบเสมือนวงมโหรีที่เธอแต่งเพลงขึ้นและบรรเลงชีวิตของเธออยู่ตลอดวันเวลาในแต่ละชาติภพความรู้สึกนึกคิดของเธอเป็นพลังงานที่ถูกส่งกระแสออกไปและไม่มีวันที่จะถูกดึงกลับคืนมาได้ซึ่งหมายความว่า ไม่ว่าเธอจะนึกคิดสิ่งใดความนึกคิดของเธอเป็นพลังงานที่จะแปลงสภาพเป็นวัตถุธาตุและความเป็นจริงในชาติภพใดชาติภพหนึ่งเสมอความรู้สึกนึกคิดที่ปราศจากสติจึงเป็นดาบสองคมที่สร้างสรรค์และทำลายทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเธอได้เสมอ

    จากหน้า 48-49
    มันอาจจะเป็นสิ่งแปลกประหลาดสำหรับเธอหากฉันจะบอกว่าการกระทำทั้งหลายนั้นเป็นการกระทำทางจิตหรือเป็นการกระทำของจิตสรรพสิ่งทั้งหลายทั้งปวงนั้นถูกสร้างขึ้นจากความรู้สึกนึกคิดธรรมชาติความเป็นจริงทั้งหลายของเธอก็เกิดจากความรู้สึินึกคิดของเธอเองและเธอก็เป็นผู้รับรู้วัตถุธาตุและประสบการณ์ทั้งหลายที่เธอสร้างขึ้นแต่เธอไม่เข้าใจถึงที่มาและสัมพันธภาพของความรู้สึกนึกคิดของเธอเองกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นรอบตัวเธอรวมทั้งตัวตนของเธอเองด้วย

    คุณสมบัติของสรรพสิ่งทั้งหลายอันเกิดจากความรู้สึกนึกคิดและอารมณ์เป็นคุณลักษณะจำเพาะของจิตวิญญาณในโลกมนุษย์และโลกอื่นๆที่เป็นกายภาพ-ความรู้สึกนึกคิดสร้างสรรพสิ่งทั้งหลายที่เป็นกายภาพขึ้นแต่ในโลกอื่นๆที่แตกต่างไปจากโลกของเธอนั้นสรรพสิ่งถูกสร้างขึ้นด้วยวิธีการที่แตกต่างไปโดยสิ้นเชิงโลกบางโลกก็ปราศจากสรรพสิ่งทั้งหลายที่เป็นกายภาพ

    จิตวิญญาณซึ่งเป็นตัวตนที่แท้จริงของเธอ
    สร้างสรรพสิ่งทั้งหลายขึ้นในแต่ละวัน
    จากความรู้สึกนึกคิดและความคาดหวัง

    หน้า 154-155
    ปัจจุบันไม่ใช่ผลลัพธ์ของเหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้นในอดีตนอกเสียจากเธอจะเชื่อว่ามันเป็นเช่นนั้นหากเธอรู้และเข้าใจในอำนาจแห่งปัจจุบันอย่างแท้จริง เธอจะตระหนักว่าความคิดและการกระทำในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงอดีต-ความเชื่อในอดีตตลอดจนการตอบสนองทั้งหมดในอดีตด้วย ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่เธอเปลี่ยนความเชื่อเธอก็พลิกผันประสบการณ์ในอดีตของเธอทั้งหมดอนาคตหรือเส้ทางแห่งความเป็นไปได้ในอนาคตของเธอก็พลิกผันไปตามความเชื่อของเธอเช่นกัน

    ความเช่ื่อของเธอในปัจจุบันนี้ กำหนดทิศทางให้กับตัวตนทั้งหมดในทุกชาติภพและจัดการกับประสบการณ์ในอดีต-ปัจจุบัน-อนาคตพร้อมกันหมดเพื่อให้สอดคล้องกับความเชื่อนี้

    การมองย้อนอดีตกลับไปหาต้นกำเนิดของปัญหาในปัจจุบันมักทำให้เธอค้นหาสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นในอดีตมันทำให้เธอค้นหาต้นกำเนิดของอนาคตที่สดสวยไม่พบเมื่อเธอจดจ่อคิดคำนึงถึงแต่อดีตอันล้มเหลวหรือทุกข์ระทมเธอจะไม่สามารถดึงดูดและถ่ายทอดความสำเร็จและความสุขไปสู่อนาคตของเธอได้การจดจ่อคิดคำนึงถึงอดีตและต้นเหตุของปัญหา เป็นการสร้างโครงสร้างของอนาคตและทำให้ปัญหาที่มีอยู่นั้นมีความแข็งแกร่งที่จะดำเนินต่อไปอีกในอนาคต


    สรุปได้ว่า :ท่านอาจารย์อนาลัยสอนให้เราฝึกฝนให้มีสติสัมปชัญญะที่คมชัดเพื่อใช้อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่คล้อยตามความเชื่อในแง่บวกความเชื่อที่ถูกต้องหรือความรู้ เพื่อสร้างสรรค์โลกแห่งความเป็นจริงของตนเองที่จะทำให้เราได้มี-ได้เป็น-ได้ทำสมความปรารถนา

    แต่ก็มีหลายคนที่เมื่อเรียนรู้ว่าความเชื่อในปัจจุบันคือพลังอำนาจที่ทำให้ชีวิตของเราเป็นไปและตระหนักได้ว่าอำนาจแห่งปัจจุบันหรืออารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดในแง่บวกในปัจจุบันสามารถทำให้เราแก้ไขอดีตและอนาคตของเราได้แต่เข้าใจความหมายเหล่านี้ผิดเพี้ยนไปว่าท่านอาจารย์อนาลัยสอนไม่ให้เชื่อเรื่องกรรม หรือสอนว่ากรรมไม่มีจริงซึ่งตามความเป็นจริงแล้วท่านกล่าวว่า สิ่งที่เราเรียกว่ากรรม หรือบาป หรือโทษล้วนมีต้นกำเนิดมาจากความเชื่อที่ผิดซึ่งยังไม่เปลี่ยนเป็นความรู้

    กรรมดีหมายถึงความรู้สึกนึิกคิดในแง่บวกที่คล้อยตามความเชื่อที่ถูกต้องหรือความรู้
    กรรมชั่วหมายถึงความรู้สึกนึกคิดในแง่ลบที่คล้อยตามความเชื่อที่ผิด

    ทั้งกรรมดีกรรมชั่วเหนี่ยวนำประสบการณ์ชีวิตที่คล้องจอง
    จากเส้นทางแห่งความเป็นไปได้มาสู่โลกแห่งความเป็นจริงเสมอ

    เมื่อจิตวิญญาณมีชีวิตอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไป-พร้อมกันหมดเป็นปัจจุบันทุกชาติภพ ทุกมิติ ทุกเส้นทางแห่งความเป็นไปได้หมายความว่าความคิดและการกระทำทั้งหมดของเราส่งผลกระทบต่อทุกชีวิต ทุกชาติภพทุกมิติ ทุกเส้นทางแห่งความเป็นไปได้-อย่างเป็นปัจจุบันทันด่วนผู้ที่คิดดี-ทำดี-ย่อมได้รับผลจากกรรมดี-อย่างเป็นปัจจุบันทันด่วนและในทางตรงกันข้ามผู้ที่คิดไม่ดี-ทำไม่ดี-ย่อมได้รับผลจากกรรมไม่ดี-อย่างเป็นปัจจุบันทันด่วนด้วยเช่นกันโดยไม่ต้องมีการคอยรับรางวัลหรือรับโทษในชาติภพหน้า

    เมื่อท่านอาจารย์อนาลัยกล่าวว่าเราไม่ได้ถือกำเนิดมาเพื่อรับโทษกรรมหรือบาปที่เราเคยกระทำในชาติภพก่อนชีวิตก่อน ก็เพราะท่านกล่าวว่าอดีต-ปัจจุบัน-อนาคตมีอยู่เป็นอยู่ดำเนินไปพร้อมกันเป็นปัจจุบันแต่ท่านก็ไม่ได้หมายความว่าผลของการทำชั่ว-ไม่มี หรือผลของการทำดี-ไม่มี

    ในทางตรงกันข้ามท่านกล่าวว่าผลของอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดในแง่ลบที่คล้อยตามความเชื่อในทางที่ผิดส่งผลกระทบต่อทุกตัวตน ทุกชีวิต ทุกชาติภพ ทุกมิติเสมือนน้ำฝนที่กระทบยอดเขาและซึมลงไปสู่ชั้นหินต่างๆที่เปรียบเสมือนชาติภพต่างๆที่ปรากฏอยู่รวมกันเป็นภูเขาทั้งลูกและภูเขาทั้งลูกเปรียบเสมือนตัวตนรวมของเราซึ่งต้องมีอดีต-ปัจจุบัน-อนาคตอยู่พร้อมกันหมดมิฉะนั้นภูเขาจะเป็นภูเขาอยู่ไม่ได้หากปราศจากชั้นหินเก่าแก่ที่เปรียบเสมือนอดีตชาติ และชั้นหินใหม่ๆที่เปรียบได้กับปัจจุบันและอนาคตชาติซึ่งต้องมีอยู่พร้อมกันหมดเป็นปัจจุบัน(จากหนังสือ? โนวา อนาลัยขยายความธรรมชาติของชาติภพ)

    จากหนังสืออิสระแห่งความปรารถนา หน้า 72-73
    เธอควรจะตระหนักว่า ประสบการณ์ทางกายภาพและสภาพแวดล้อมของเธอคือผลลัพธ์ของความเชื่อที่แปลงสภาวะเป็นวัตถุธาตุ-ประสบการณ์ตลอดจนร่างกายเนื้อหนังของเธอดังนั้น-หากประสบการณ์ชีวิตของเธอเต็มไปด้วยความสมบูรณ์พูนสุข มีสุขภาพดีเธอทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ชีวิตของเธอเต็มไปด้วยความมั่งคั่งใบหน้าของเธอและผู้คนที่เธอพบปะเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เธอสามารถรับเอาได้โดยปริยายว่าความเชื่อของเธอเป็นไปในทิศทางที่ให้ผลกำไรกับเธอ

    แต่ถ้าหากประสบการณ์ชีวิตของเธอเต็มไปด้วยความยากลำบากสุขภาพไม่ดี การงานของเธอไร้ความหมาย ชีวิตของเธอขาดความมั่งคั่งสมบูรณ์พูนสุขโลกของเธอเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง ความเลวร้าย เธอสามารถรับเอาได้โดยปริยายว่าความเชื่อของเธอเป็นไปในทิศทางที่ไม่ถูกต้องมันถึงเวลาแล้วที่เธอควรจะเริ่มสำรวจตรวจสอบอารมณ์-ความรู้สึกนึกคิดและความเชื่อของเธอเธอมีพลังอำนาจที่จะเปลี่ยนแปลงประสบการณ์ชีวิต-

    ]http://palungjit.org/752815-post2254.html
     
  6. แม่นายมล

    แม่นายมล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +6,258
    หายไปนาน คุณ mead ขอบคุณที่ส่งซีดีไปให้
    อ่านไปเรื่อยๆ กำลังอ่าน ความฝันวิถีและวิถีแห่งวิญญาณ
    ...เมื่อก่อนฝันแล้วลืมตาขึ้นมาก็นึกไม่ออกว่าฝันอะไร
    ตอนนี้ฝันอะไรก็จำไ
    ด้ :cool:
     
  7. imjoice

    imjoice เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2008
    โพสต์:
    84
    ค่าพลัง:
    +125
    ขอบคุณมากมายค่า สำหรับข้อมูลและคำแนะนำ ตาสว่างขึ้นมาเยอะเลย จอยอยากได้ mindmap ด้วยอะค่ะ มีมั้ยเอ่ย (ขอหลายอย่าง อิอิ)
     
  8. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ฝันอะไรสนุกๆก็มาเล่าให้เพื่อนๆฟังบ้างนะครับ คุณแม่นายมล

    K.imjoice มีเพื่อนอ่านหนังสือแล้วครับ ว่าไปหลายๆคนก็ยังหยิบขึ้นมาอ่านกันอยู่เลย
    แต่เล่นขอหลายๆอย่างแบบนี้ คงต้องฝากคุณเดรด คุณซิปฯ คุณกุณแจฯ
    คุณ axzon คุณแสงโซ่ หรือคุณเซลล์ (ถ้าอยู่แถวๆนี้) ช่วยหน่อยแล้วกันนะครับ
    ( ส่วน mindmap ทำไม่เป็น ทำเป็นแต่พวก design กะ graphic อิอิ)

    ข้างล่างนี่เป็นข้อความของน้องลูกเกด (ตอนนี้คงเรียนหนักมากๆ)
    เป็นข้อความที่อ่านแล้วทำให้รู้สึกสนุกและอารมณ์ดีได้น่ะครับ +



    ทางไหนจะนำเราไปยังปลายทางได้
    ในขณะเดียวกันเรื่องราวในห้องวิทย์ห้องนี้ ก็อาจเป็นอีกหนึ่งทางแยก
    ที่หลายคนสงสัยว่าเป็นทางที่ถูกหรือไม่ก็ได้

    ทางสายนี้อาจดูแปลก แตกต่างจากถนนหลายสาย
    มันเหมือนสวนสนุกมากกว่าถนนสายหนึ่งด้วยซ้ำ
    เป็นเวลานานที่หลายคนเดินอยู่บนถนนสายเปลี่ยวเหงา
    บางสายสงบร่มรื่น บางสายมีธรรมชาติสวยงามดั่งภาพวาด
    แต่ถนนสายนี้ ทำให้รู้สึกกลับไปเป็นเด็กตัวเล็ก
    ที่แสนอยากรู้อยากเห็น เล่นกับจินตนาการแสนสนุก

    เด็กเหล่านี้มีรอยยิ้มละไม เมื่อร้องไห้ก็ได้ไม่นาน
    และเมื่อ ร้องขอ ขนมหรือของเล่นชิ้นใหม่ ก็มักจะได้จากผู้ใหญ่เสมอ
    เมื่อเด็กขอ เขามักจะได้ไม่ใช่หรือ
    มันง่ายเพียงแค่นี้
    ผู้ใหญ่ชอบลืมกันไปแล้ว

    ผู้เดินผ่านมาที่ถนนสายนี้ ถูกปลุกให้มีชีวิตชีวาอีกครั้ง
    เพียงบางคนแอบหม่นในมุมเปลี่ยวเหงา
    แม้สายตาจะเหลือบมองชิงช้าสวรรค์เป็นระยะ
    บางคนไม่รับรู้ว่าเสียงหัวเราะ แบบเด็กๆจะมีผลอะไร
    ต่อการเดินไปถึงจุดหมายปลายทาง หลายครั้งส่ายหัวด้วยความรำคาญ
    เขาลืมไปว่า การเก็บเกี่ยวความสุขเต็มล้นระหว่างทาง
    อาจมีค่ามากกว่า การเฝ้าเพียรจินตนาการถึงปลายทางว่าเป็นอย่างไร
    มีความสุขแค่ไหน

    แล้วจะกำหนดความสุขให้มันอยู่ที่ปลายทาง(ตรงขอบฟ้านู่น)ทำไม
    ในเมื่อเราทนุถนอม ให้มันอยู่กับเราตอนนี้ก็ได้
    เราก็แค่กระโดดขึ้นม้าหมุน แล้วหัวเราะดังๆ
    ฮ่า ฮ่า ฮ่า

    หลายคน วิพากษ์ ว่าสิ่งใด "ถูก" หรือ "ผิด"
    สิ่ง ถูก ผิด มีจริงหรือ?
    เกิดขึ้นเมื่อไหร่ เวลาใด?
    หรือนั่น เป็นเพียงมุมมองของแต่ละคน?

    มุมมองมากมาย
    ถนนหลายสายนับไม่ถ้วน
    ทุกวินาธีก็มีถนนใหม่ๆเกิดขึ้นตลอดเวลา
    วันนี้คุณน้านักเขียนมาชวนเราขึ้นม้าหมุน
    และบอกหนูๆว่า ถ้าอยากได้ขนม

    "หนูก็ขอสิ
    มีแต่คนเอ็นดูเด็กๆทั้งนั้น
    แล้วอย่าลืมแบ่งขนมให้เพื่อนๆด้วยนะจ๊ะ"
    ก็เป็นมุมมองของเด็กคนหนึ่งเท่านั้น
    มาหัวเราะแบบเด็กกันเถอะค่ะ
    (555)
    +++++
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_6293.jpg
      IMG_6293.jpg
      ขนาดไฟล์:
      144.6 KB
      เปิดดู:
      83
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มิถุนายน 2010
  9. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    และที่ยังมิได้เผยโฉม อีกเพียบเลยหล่ะค่ะ(แบบหลังไมค์ อิอิ)
    ยินดีต้อนรับทุกๆท่านเช่นกันค่ะ


    เป็นนิมิตรหมายอันดีมาก ยินดีด้วยค่ะ
    ก่อนเดรดเข้าห้องวิทย์ ก็จำฝันไม่ได้เลยเช่นกัน ไม่ได้เอามากๆ เลยโมเมว่าไม่ฝัน
    (ตอนนี้ก็ไม่ใช่จำได้หมด ก็ยังมีเลอะเลือนอยู่)
    หากจะถามว่า ฝึกจำฝันกันยังไง ถึงจำได้
    เดรดก็ไม่ทราบจะบอกยังไงว่า การฝึกให้จำเนี่ย เค้าทำกันได้ด้วยเหรอ


    แต่มัน เป็นไปแล้ว จำได้(บ้าง)แล้ว เพราะอะไรก็ไม่รู้นิ(อิอิ)
    ต้องลองเข้ามาศึกษากันดูนิ
     
  10. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    เรื่อง mind map เป็นอะไรที่ข้าพเจ้า ตุปัดตุเป๋ที่สุด
    แม้แต่กระทั่งเวลาทำงาน ที่ต้องวางแผน
    แผนที่วางก็ยังกระจาย ไปตายเอาดาบหน้าซะละมากกว่า

    อาจเป็นเพราะตัวเอง ไม่ชอบทำอะไรล่วงหน้ามากๆ

    มักทำอะไร โดยอัตโนมัติ ทำตามสัญชาติญาณ ไม่ค่อยมีกรอบ มีวิธีการ
    แบบว่า ชอบมวยวัด (อิอิ)


    มันไม่ดีตรงที่ทำให้เราไม่จบ มันจะไปเรื่อยๆ

    และเดรดเองไม่สามรถทำ mind map กับหนังสือชุดนี้ได้เลย
    เพราะ การทำ mind map เรื่องราวต้องดำเนินเป็นขั้นตอน
    จุดหลักต่างๆ แล้วแตกประเด็นไป แล้วแต่เราจะตั้งเข็มทิศ

    แต่หนังสือของท่าน อ.อนาลัย ไม่มีจุดเริ่ม อือ จะว่าไม่มีซะทีเดียวก็ไม่ได้

    เพราะต้องเริ่มจากธรรมชาติของชาติภพก่อน แต่เป็นการเริ่มเพื่อปูทาง
    แบบว่าซึมซับภาษาและ ทำความเคยชินกับข้อมูล

    แต่หลังจากนั้น ไม่ว่าจะไปอ่านเล่มไหนต่อ ก็อ่านได้หมด

    โดยไม่ต้องเป็นลำดับขั้น และแต่ละเล่มก็โยงกันไปมาอยู่ตลอด
    เหมือนกับจะบอกว่า ความรู้ทั้งหมดมันอยู่ด้วยกัน


    จึงไม่แปลก ที่จะงงแล้ว งงอีก อ่านใหม่กี่รอบๆ ก็ไม่เคยคิดว่ารู้แล้ว

    ส่วนตัวคิดว่าความรู้เหล่านี้ มันไม่เหมือนความรู้จากการศึกษาทางโลกอะค่ะ
    มันไม่มีจุดเริ่มต้น ไม่มีจุดจบ ตลอดเวลาที่อ่าน มันจะพยายามไปต่อเรื่อยๆ
    แบบว่าหาจุดสรุปที่จะให้เข้าใจให้ได้ แต่มันไม่มีอะ ไม่มีจุดสรุป

    แต่แปลกอย่างที่ว่า เมื่ออ่านจบแต่ละครั้ง

    จะมีความคิด มุมมอง ความเชื่อบางอย่าง ผุดขึ้นมาใหม่ๆเสมอๆ
    ไม่ทราบว่าคนอื่นเป็นไงกันบ้างนะคะ แต่ข้าพเจ้ารู้สึกแบบนี้จริงๆ


    เหมือนที่ว่า ทำไมตอนนี้จึงจำความฝันได้ ก็ไม่รู้เหมือนกันนิ
    ข้อมูลความรู้ชุดนี้เป็นอะไรที่ตีความไม่ได้ ขยายความไม่ได้ และสรุปไม่ได้
    เพราะมันคือธรรมชาติของชาติภพ มันเป็นของมันเช่นนั้นเอง

    เอาอีกแล้ว เขียนเอง งงเองอีกแล้ว....
    Falky Falky Falky(แปลว่า... แป่ว แป่ว แป่ว)

    .... แค่จะมาบอกว่า ข้าพเจ้าก็ทำ mind map ไม่เป็นเช่นกัน
    ใครชำนาญ....มาสอนด่วนจ้า
    บ่นซ้า....
     
  11. axzon47

    axzon47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,155
    แอบย่องเข้าบ้านตอนดึกๆ rabbit_run_away


    กำลังคิดถึงบรรยากาศสมัยเมื่อตั้งกระทู้ใหม่ครับ อิอิอิ
    เวลาผ่านไปเหมือนอึดใจ ฮิฮิฮฺ แต่ว่ากระผมไม่ได้อ่านหนังสือของอาจารย์โนวาอนาลัยอีก 3 เล่ม รู้สึกว่าเฉยๆซะแล้ว หรือรอ ให้มีการตีพิมพ์อีกครั้งนะ อยากเห็นหนังสืออยู่บนแผงอีกครั้ง

    หนังสือชุดนี้ เมื่อเรากลับมาอ่านอีกครั้ง เราจะพบว่ามีข้อมูลที่เราข้ามไปตั้งมากมาย ทั้งๆที่เราอ่านผ่านตามาแล้ว(แต่ละเลยไป) หรือความรู้บางส่วนได้ขยายตัวเพื่อรองรับในส่วนที่ละเลยไป ทำให้กลับมาอ่านมาเรียนรู้ใหม่อย่างไม่รู้จบ

    อีกอย่างที่น่าแปลกใจแต่ไม่แปลกใจ คือ ได้กลับมาอ่าน ครายออน เล่มที่2 ทั้งๆที่เล่มแรกไม่ได้อ่านทั้งหมด ตั้งแต่อยู่ ม3 แต่ก็นะมาอยู่ถูกเวลาพอดี หากว่าอ่านไปเมื่อสิบกว่าปีก่อนคงไม่เข้าใจอะไรมากนัก เพราะเล่มที่คนไทยแปล แปลด้วยความเข้าใจไม่แจ่มแจ้ง


    mind map ไอที่ มันวาดเป็นรูปตามใจชอบแล้วแตกแขนงแตกประเด็นเป็นหมวดหมู่หรือปล่าวครับ ถ้าใช่ ผมไม่เคยวาดเลยอ่ะ หุหุหุ เพราะว่ามันคงแตกแขนงจากโต๊ะหนังสือออกไปได้ 7 รอบโลกกระมังครับ (tm-love)
    ส่วนตัวแล้วจะพลิกดูทั้งเล่มก่อนแล้วค่อยอ่านตรงที่เราอยากรู้ก่อนแล้วจึงขยายไปส่วนอื่น อ่านไปคิดตามไปเอาให้เข้าใจไปเลย ตรงไหนไม่เกท ก็กองมันไว้ตรงนั้นแล้วก็อ่านที่เหลือต่อไป เชื่อไหมเมื่อเรากลับมาอ่านที่ เราเคยกองมันไว้ตรงนั้น มันจะเผยประกายหรือสิ่งที่เราเข้าใจได้ขึ้นมาอีกไม่มากก็น้อย ครับ
     
  12. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    เรื่อง mind map เห็นมีเค้าเปิดสอนกันเป็นเรื่องเป็นราวแต่ก็ไม่เคยเรียกหรอกครับ ได้แต่เขียนไปตามเข้าใจตัวเองไปตามเรื่องตามราว :)

    ส่วนโปรแกรม mind map ก็เอาเท่าที่จำได้ล่ะกันครับ

    ก็มีโปรแกรม freemind ครับ ตัวนี้ฟรีโหลดได้ที่ Main Page - FreeMind - free mind mapping software แต่ว่าต้องลง java runtime ก่อนซึ่งก็โหลดได้ที่ Java Downloads for All Operating Systems - Sun Microsystems ซึ่งก็โหลดได้ฟรีเช่นกัน

    อีกอันก็เป็น mindjet mindmanager แต่ตัวนี้ไม่ฟรี Personal Productivity and Collaboration Solutions that Visually Connect Ideas, Information and People - Mindjet

    และก็มีอีก solution นึงคือใช้บนเนตเลย ก็ดีตรงที่ว่าไม่ต้องโหลดอะไรมาแถมยังแชร์ให้คนอื่นดูได้ด้วย ซึ่งก็มีสองเวปมาแนะนำคือ Online Mind Mapping and Brainstorming - MindMeister และก็ Mind Mapping - Mindomo ความสามารถจะพอๆ กัน สามารถ export ออกมาเป็นไฟล์อื่นได้ด้วย ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่า mindomo หน้าการใช้งานจะสวยกว่า

    ก็ลองๆ พิจารณาดูนะครับ
     
  13. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    แบบว่า อยากรู้อยากเห็น เลยเข้าไปลองดูตามที่คุณ zipp ให้มา
    ที่นี่ อะ Mind Mapping - Mindomo
    มันเป็นตัว demo อือ... not bad จ้าคุณ zipp แต๊งค์กิ้ว...
    อันนี้ก็เป็นฉบับ demo ของข้าพเจ้าเองหนา
    ...เหมือนลองๆหาความคิดรวบยอดดู หนุกๆๆ

    คุณ zipp แต๊งค์กิ้ว...หลายๆจ้า:cool:
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. LadyOfLight

    LadyOfLight เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    755
    ค่าพลัง:
    +2,472
    อ่า อ่านของคุณ axzon47 แล้วก็คิดว่า พฤติการณ์คล้ายกับของข้าพเจ้าพอสมควรเลย

    วิธีหาอ่านก็คล้ายๆกัน ยิ่งความรู้สึกต่อหนังสือชุดนี้ ก็เหมือนเข้าไปใหญ่
    คือกำลังรอให้มีการตีพิมพ์ออกจำหน่ายใหม่ทั้งเซ็ต เหมือนกันค่ะ
    คือแบบว่า รออ่ะ ไม่รู้รอทำไมเหมือนกันนะคะ แต่ก็แบบว่ากำลังรอ บอกไม่ถูกค่ะ
    คือเหมือนว่าไม่ได้คาดหวัง แต่ก็รอ ประมาณนั้น

    เรื่ององค์ความรู้ต่างๆ โดยส่วนตัว ภายในมันจะบอก หรือว่า อะไรๆมันจะเป็นไปเอง เช่นว่า
    อยู่ดีๆ ก็ได้รู้เรื่องนั้น อยู่ดีๆก็ได้อ่านเรื่องนี้ เหมือนไม่มีระเบียบแบบแผนอะไรเลยค่ะ
    แต่ว่าสามารถควบรวมความรู้ทุกอย่างเข้ากันได้หมด และเมื่อควบแล้ว
    มันจะเป็นอะไรที่พูดออกมาไม่ถูก บรรยายออกมาลำบากมาก
    ถ้าใช้คำผิด ผู้รับสารก็จะเข้าใจผิดเพี้ยนไม่ตรงกับที่เราอยากจะสื่อออกไปเลย

    สรุปว่าของข้าพเจ้าเองจะเป็นลักษณะ ความยุ่งเหยิงสู่ความเป็นอันหนึ่งอันเดีัยวกัีนแบบภายในค่ะ น่าจะเป็นคำที่ใกล้เคียงละล่ะ *0*

    ของข้าพเจ้าเอง อาจเป็นไปได้ว่า mind map ใน 3 มิติไม่มี แต่เหนือกว่า 3 มิติ มีอยู่ ก็เป็นได้ค่ะ :) สรุปคือไม่รู้จะแนะอย่างไรดี มันแนะไม่ถูกจริงๆ

     
  15. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    ยินดีฮะ ที่ใช้แล้วมีความสุข :)
    พึ่งเห็นว่าตัว mindomo มันมีตัวโปรแกรมให้โหลดไปใช้ที่เครื่องด้วย

    พวกโปรแกรมที่ใช้บนเนตอย่าง mindomo มันก็สามารถแชร์ให้คนอื่นเข้ามาดูหรือแก้ไขได้ด้วย

    mindomo แบบเสียตังค์ก็มีนะ มันก็ทำอะไรได้มากขึ้น เช่นสร้าง mind map ได้มากขึ้นไม่ถูกจำกัดอยู่ที่ 7 อัน

    ดูๆ ไปแล้วที่คุณเดรดเขียนมาก็ใช้ได้เลย
     
  16. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ดูแล้วเข้าใจเหรอคุณ zipp?...ดี.ใจจัง มีคนเข้าใจเราด้วย... 555(ขอบคุณอีกครั้งค่า)

    จริงๆอยากจะแตกกิ่งต้นไม้ ออกไปมากกว่านี้อีก
    แต่โปรแกรมทำได้จำกัด และที่สำคัญยังทำไม่ค่อยเป็น มั่วๆเอา
    เพราะที่เข้าใจว่า ข้อมูลในหนังสือชุดนี้ไม่ได้เป็นไปตามลำดับขั้นนั้น


    จะเห็นว่า มันแตกจากต้นตอเดียว แยกไปเป็นเรื่องของตัวเองต่างหาก
    โดยไม่ต้องผ่านที่ละขั้นตอน แต่ๆๆ....ทุกเส้นทางเชื่อมโยงกันและกันหมด
    และ วกมารวมอยู่ที่จุดเริ่มต้นตลอด
    จะทำเส้นโยงให้ดู ก็ไม่สามารถ จริงๆยังคาใจนะนั่นหนะ และถ้าทำ คงเลอะเทอะน่าดู
    คุณ Zipp คงพอมองออก ว่าอิชั้นพยายามแล้ว

    อย่างเรื่องสติสัมปชัญญะของนักฝัน ก็เรื่องหนึ่ง
    ตัวตนก็เรื่องหนึ่ง ประสาทสัมผัสภายในก็เรื่องหนึ่ง
    มันเกิดพร้อมกันหมด ไม่ใช่ทีละเรื่อง


    ยังมีอีกนะ เรื่องการเปลี่ยนวิถีการจดจ่อของจิตวิญญาณไปสู่ระดับต่างๆ
    มี 8 ระดับ ตอนแรกไล่อ่านที่ละระดับ ระดับที่1 ไม่มี ระดับที่2 ไม่ใช่
    ระดับที่3 4 ปรากฎว่า เวลาตัวเองเปลี่ยนวิถีการจดจ่อ มันไปที่ระดับ 5 บ้าง 7บ้าง

    แต่ระดับที่8 ที่จดจ่อกับความว่างเปล่าจะเมีพลังมากที่สุด
    จุดนี้เหมือนจุดสิ้นสุด ทุกอย่างหายไปหมดและจะเรื่มเกิดสัญลักษณ์ใหม่ๆขึ้นมา
    (ไปหาอ่านเองนะคะ แบบว่ายาวมาก พิมพ์ไม่ไหวจริง ๆ
    จากหนังสือ อมตะแห่งจิตวิญญาณภาคปลาย บทที่๑๖ หน้าที่380)


    อันนี้ไม่ได้หมายความว่าอิชั้นทะลุเป้า
    ได้โปรโมชั่นพิเศษจัด กระโดดข้ามขั้นไปเลย นะคะ
    เพราะในแต่ละระดับ ไม่มีอะไรเกิดก่อนเกิดหลัง มันเป็นสภาวะ
    (ซึ่งต่างจากการทำสมาธิ ที่ไล่ไปทีละ ขั้นของสมาธิ
    ขอไม่อธิบายนะ ทุกคนคงทราบดีอยู่แล้ว มันยาว...)


    แต่อ.อนาลัยบอกว่าต้องสื่อสาร ในโลกที่มีกาลเวลาในแบบที่จะให้เข้าใจได้
    จึงต้องมีการจัดลำดับขั้นการให้ข้อมูล อย่างน้อยมันเลยต้องอ่านไปทีละเรื่อง
    แต่สลับไปมาได้ ไม่แปลก...

    แต่ละคนก็มีเอกลักษณ์ในการเรียนรู้ การทำความเข้าใจที่เหมือนกันบ้าง ต่างกันบ้าง
    แต่ทุกคนก็มุ่งไปสู่ทางเดียวกัน ยังไงก็ต้องไปเจอกัน ใครไปก่อน ก็รอๆกันก่อนนะ

    ใครอยากแวะเด็ดดอกไม้ข้างทาง
    ใครอยากมุ่งหน้าตรงเข้าเป้า หรือใครจะเดินไปบ่นไป ก็เป็นเจตน์จำนงค์อันเสรี
    ถึงจะแตกต่างแต่ไม่แตกแยกก็แล้วกัน...เน๊อะ เน๊อะ เน๊อะ

    อ๋อ...น้องหมวย กับคุณ axon47 ความรู้สึกแม่นนะ เรื่องการกลับมาของหนังสือ...อีกครั้งหน่ะ
     
  17. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    เดี๋ยว...ขอหมายหัวโพสต์ที่ 8883 ของคุณ mead เอาไว้ก่อนนะครับ

    เพราะกะว่า จะขออนุญาตคัดลอกไปเผยแพร่ในกระทู้ Star seed ด้วยสักหน่อย
    เพราะว่า มันเป็นอะไรที่เรื่องเดียวกันมากๆเลย แต่ต่างรูปธรรมสื่อสารมาเท่านั้นเอง

    ตอนนี้ยังไม่เหมาะที่จะเอาไปโพสต์ เพราะผมเพิ่งโพสต์ข้อความของ
    ท่านมหาเทพไมเคิลไป เดี๋ยวคนอ่านจะอ่านไม่ไหวหนะครับ


    ยังมี star seed ในเมืองไทยอีกเป็นจำนวนมาก ที่ยังไม่ตื่น
    เพราะฉะนั้น ข้อมูลอะไรดีๆ ที่ควรนำออกเผยแพร่ ที่จะเป็นประโยชน์แก่พวกเขา
    พวกเราก็เลย "ถูกกระตุ้น" ให้ทำหน้าที่กันใหญ่เลย

    เวลาก็จวนเจียนเข้าไปทุกขณะแล้ว..อะไรๆก็เลยเร่งความเร็วขึ้นใหญ่เลย

    ผมเองนี่ก็..ไม่รู้จะเอาเวลาที่ไหนมาแปลข้อความดีๆเหล่านั้นไหว และทัน
    ก็ได้แต่ทำไปเท่าที่อะไรๆ จะเอื้ออำนวยให้หละนะครับ

    ...............................................
     
  18. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ดีครับ เอาไปลงตามที่คุณชยุตเห็นว่าเหมาะสมเลยนะครับ
    สาระข้างบนนั่นมีแง่คิดที่เป็นประโยชน์มากที่เดียว พิสูจน์มาหลายครั้งแล้วล่ะครับ
    ทำให้เดี่ยวนี้ระมัดระวังความคิดยิ่งกว่าแต่ก่อนครับ เพราะอะไรก็ตามที่เราสนใจ และเพ่งจดจ่ออย่างต่อเนื่องมันจะถูกกระตุ้นให้ทรงพลังขึ้นเรื่อยๆ และยิ่งถ้าความคิดนั้นรู้สึกไม่กลมกลืนล่ะก็ เราควรถอนความสนใจออกไปคิดอย่างอื่นแทนที่ พี่นักเขียนถึงบอกว่า ไม่มีประสบการณ์ใดๆเลยที่เราไม่ได้เชื้อเชิญมันเข้ามา ความคิดและความรู้สึกไม่ดีเหล่านี้เกิดขึ้นก่อนหน้าประสบการณ์เลยร้ายทั้งหมดซะอีก อนาคตและเส้นทางแห่งความเป็นไปได้ของเราก็พลิกผันไปตามความเชื่อที่ทรงพลังได้เช่นกันครับ


    คุณเดรดไวจริงๆเลย ทำ mindmapได้น่าสนุกนะครับ
    ขนาดโปรแกรมเค้าจำกัดการใช้งานนะนั่น ยอดมากๆ อิอิ

    วันนี้รู้สึกคิดถึงพี่นักเขียนฯขึ้นมาเลยโทรไปบ้าง (*) น่าจะมีข่าวดีเรื่องหนังสืออย่างที่คุณเดรดบอกไว้ครับจริงๆ สำนักพิมพ์แห่งหนึ่งบอกว่าจะจัดพิมพ์ให้ตามที่จำนวนผู้สั่งซื้อได้ในรูปโฉมใหม่ คล้ายๆพิมพ์ตาม order ก็เป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ที่ยังต้องการหนังสือชุดนี้นะครับ อีกอย่างนึงคือบ้านพี่นักเขียนแถวๆเขาใหญ่ก็ใกล้จะเสร็จแล้ว อีกไม่นานคงได้จัดกิจกรรมพิเศษได้ในไม่ช้า เป็นกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ทางจิตในรูปแบบนึง ก็ขออนุญาติประชาสัมพันธ์ไว้เรียกน้ำย่อยก่อนเลยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มิถุนายน 2010
  19. anneann

    anneann เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2010
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +279
    ว้าวๆ ถ้าออกตีพิมพ์ไม่พลาดแน่ๆค่ะ เพิ่งมาอ่านเจอข้อความจากท่านอาจารย์โนวาอนาลัยเอาปีนี้เอง

    เลยต้องส่งเมลขอพี่นักเขียนอ่านเล่มแรกๆไปก่อน บางทีอ่านแล้วยังไม่เข้าใจลึกซึ้งมาก

    ก็มาติดตามข้อความประสบกาณ์ทั้งของพี่นักเขียนและพี่ๆทุกๆคนในห้องวิทย์ไปด้วย

    ศึกษาตั้งแต่หน้า 1 เลยค่ะ ตอนนี้อ่านไปถึงหน้า 100 แล้ว โอวว มีตั้ง 400 หน้า

    แต่ทุกหน้าเปี่ยมด้วยสาระจริงๆค่ะ ต้องปริ๊นออกมาเก็บไว้อ่านเลย อยากถนอมสายตาน่ะค่ะ

    ตอนนี้เริ่มจำความฝันได้ เมื่อคืนวันที่ 29 มีเสียงในฝันก่อนตื่นว่า

    "ยุคสมัยนี้ทำอะไรต้องทำให้คุ้ม" เป็นการเตือนจากโลกแห่งความฝันที่ดีจริงๆ
     
  20. imjoice

    imjoice เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2008
    โพสต์:
    84
    ค่าพลัง:
    +125
    ขอโทษคุณmead และเพื่อนๆทุกคนนะคะ จอยจั่วเรื่อง mind map ไว้ทำให้ทุกคนต้องวุ่นวาย จอยเป็นประเภท ที่เข้าใจง่าย ถ้าได้เห็นภาพเป็นชาร์ทค่ะ ก้อเลยขอดู ขอโทษอีกครั้งนคะ จอยอยากเข้าร่วมกิจกรรมกับพี่นักเขียนมากๆเลยค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...