ขอความเมตตาช่วยให้พ้นทุกข์ค่ะ ทุกข์เพราะรักเหลือเกิน

ขอช่วยเหลือค่ะ อกหักทุกข์มากเลยค่ะ แฟนที่คบหามา4-5ปีได้ไปติดพันผู้หญิงที่รู้จักกันทางอินเตอร์เนต ผู้หญิงคนนี้อยู่ถึงจ.อุบลราชธานี เธอมีแฟนอยู่แล้วและคบหากับคนอื่นๆในอินเตอร์เนตอีกหลายคน ดิฉันเคยได้คุยกับผู้หญิงคนนี้ผู้หญิงคนนี้บอกว่าจะเลิกยุ่งกับแฟนดิฉัน แฟนก็รับรู้มาโดยตลอด รู้ว่าดิฉันเป็นคนดีและรักเขามาก แต่แฟนก็ได้มาบอกเลิกเพื่อไปคบหากับผู้หญิงคนนั้น แฟนดิฉันบอกว่ารู้ว่าตัวเองโง่และเป็นคนเลวที่ทำอย่างนั้น แต่ก็ไม่สามารถห้ามใจและเลิกรากับผู้หญิงคนนั้นได้เลย แฟนดิฉันเป็นคนดีมาก ดีมาโดยตลอด พอเล่นอินเตอร์เนตก็ได้ไปเจอกับผู้หญิงคนนี้ แฟนดิฉันโกหกแล้วแอบนั่งเครื่องไปหาแอบไปมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน ดิฉันควรทำอย่างไรดี ทุกข์มาก ตัดใจไม่ได้ รักและเป็นห่วงเขามาก ดิฉันเป็นคนกินเจทุกวันพระ สวดมนต์ทุกคืน ไปกวาดลาดวัด ขัดห้องน้ำวัด เผื่อความทุกข์จะเบาบางลง แต่ไม่ได้น้อยลงเลย ทุกข์จนถึงที่สุด ขนาดว่าเป็นคนที่อยู่ในธรรมมาโดยตลอด แต่เมื่อมีเรื่องนี้เข้ามาทำให้ดิฉันทุกข์มาก หากไม่มีธรรมะคอยฉุดรั้งดิฉันคงแย่ไปกว่านี้ รบกวนช่วยดิฉันด้วยนะคะ <O</O

 

เออหนอ.....ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์จริง ๆ

ให้พิจารณาด้วยสติปัญญาว่า

เราเกิดมาก็มาเพียงคนเดียวไม่ได้จูงแขนเขามาด้วย กว่าจะโตมาได้ก็ด้วยพ่อและแม่เราเลี้ยงดูมา ทำไมแต่ก่อนเราอยู่ได้ เขามาทีหลังจะห่วงเขารักเขาจนตัดไม่ได้ทำไม

เราจะตายก็ตายไปเพียงคนเดียว เขาก็ไม่ได้ตายไปด้วยกับเรา จะห่วงกังวลไปใย

เรารักเขาแต่เขาไม่รักเรา ไม่เห็นความดีของเราจะน้อยใจทำไม ให้เรารักตัวเราเอาตัวเราให้รอดจากความชั่ว ความบาปดีกว่าไหม

คนเราเกิดมาไม่นานก็แก่เฒ่า เหี่ยวชรา ไม่ช้าก็ตายขวานขวายทำบุญกุศลให้รอดพ้นจากอบายดีกว่าไหม

หากยังคลายความรักลงไม่ได้ ก็ให้คิดเสียว่าวาสนาของเรากับเขาทำกันมาแค่นี้ หมดวาสนาก็ต้องแยกร้างเลิกรากันไปเป็นเรื่องของบุพกรรมที่ทำเอาไว้

คิดให้ดี ถามใจตัวเองให้ดีว่า ในระหว่างที่เราทุกข์เพราะห่วงหา กังวลถึง รุ่มร้อนในใจ เขากลับอยู่เป็นสุขสบายไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจอะไรกับเราด้วย แล้วเราจะมามัวทุกข์ร้อนไปทำไม

สวดมนต์ให้มาก ตั้งสติให้ดีภาวนาบทสวดมนต์บทใดบทหนึ่งเอาไว้อย่าให้จิตว่าง หากเริ่มคิดถึงเรื่องของเขาให้รีบตัดความคิดนั้นด้วยการสวดมนต์ สวดในใจอย่าปล่อยให้ความคิดพาฟุ้งซ่าน

รักใดเสมอด้วยรักตนเป็นไม่มี

ความรักนำมาซึ่งความโศก

ความรักนำมาซึงความทุกข์เดือดเนื้อร้อนใจ

หากละความรักได้ ความโศกและความเดือดเนื้อร้อนใจย่อมไม่มี

 

ผมจะเอาแก่นธรรมเลยละกัน(อาการหนัก หมอไช้ยาแรงเลยละกันนะจ๊ะ)ดูร่างกายเราสิ จริงแล้วตั้งแต่หัวจรด หาความดีไม่เจอ

อย่างเลือดนี่เราัรังเกียจกันนะ ว่าเหม็นคาวคลุ้ง แต่จริงๆ ตัวเรา ใจเราก็จมอยู่กับกองเลือด

อยู่ในมันเลย ร่างกายของเรานะ เอาอะไรเจาะลงไปดูสิ เจาะตรงไหนก็เจอเลือดออกตรงนั้น

นี่เราจมอยู่กับมันนะ เรากินข้าว คนอื่นก็กินข้าว คนที่กินข้าว เวลาถ่ายอุจจาระนี่ มันสกปรกโสโคก

มันเน่าเหม็นสิ้นดี สิ้นดีก็คือหาความดีไม่เจอ แล้วภายในร่างกายก็เต็มไปด้วยกลไกสารพัด

ไม่ได้เป็นแท่งทึบ อย่างที่เรามองเห็น แต่ภายใน เต็มไปด้วย เจ้าสิ่งที่น่ารังเกียจที่สุด ก็คือ

มีตับ มีปอด มีลำใส้ ใหญ่ เล็ก กระเพราะ อุจจาระที่ค้างคาอยู่ในร่างกาย แล้วก็ทุกส่วน

ภายในก็อาบไปด้วยเลือด น้ำลายอยู่ในปาก เรากลืน เรากินได้ แต่พอออกจากปากแล้ว

เราแสนจะรังเกียจ ถามว่าน้ำลายมันมาจากไหนล่ะ มันก็มาจากกายเราไม่ไช่หรือ

เรื่องคาวมสกปรก ความน่ารังเกียจของกายเราก็ดี ร่างของบุคคลอื่นก็ดี พูดสามวันไม่จบนะ

แล้วเราจะรักร่างกายแบบนี้อีกหรือ สกปรกอย่างเดียวยังไม่พอ มีความแก่ก็เข้ามาเยือน

มีโรคภัยอีกมากมาย สุดท้ายก็หมดลม จบสิ้น แล้วเราจะไปหลงใหลร่างกายแบบนี้

เพื่อประโยชน์อะไร แล้วหยิ่ง คนที่เรารัก และรักเรา ยังคิดคด ทรยศ ต่อเรา เราัรักร่างกายแบบนี้

ไห้น้อยๆลงจะดีกว่า ไช่ไหม ร่างกายไม่ดี แถมใจไม่ดีอีก ไม่น่าคบแล้วไช่ไหม

มีแต่นำความทุกข์มาไห้เรา ถ้ารักเราจริงจะทำร้ายใจเราหรือไช่ไหม นี่เขารักกิเลสทางกามรมณ์ของเขามาเป็นอันดับหนึ่ง
ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ สมดังที่พระพุทธองค์ได้ทรงตรัสไว้เมื่อสองพันกว่าปีล่วงมาแล้ว

เป็นอย่างไร ก็ยังเป็นอย่างนั้น

เข้าห้องน้ำ ถ่ายอุจจาระทุกครั้ง แล้วถามตัวเราดูสิว่า เราจะไปหลงขี้ หลงเหยี่ยวเพื่อประโยชน์อันใด

เอาพระธรรม เอาศีล เอาสมาธิ เอาปัญญาไช้การพิจรณา หาทางไม่ต้องมาเกิด ไม่ต้องมาไช้ชีวิตแบบนี้

ที่เวียนเกิด เวียนตายไม่จบ ไมาสิ้น ตั้งใจไปพระนิพพานดีกว่านะ

พระนิพพานนี่ เป็นแดนที่ปราศจาก ทุกข์ภัย อันตรายทั้งหลาย ทั้งสิ้น หมดทุกข์ หมดโศก

หมดวิโยคภัย ความทุกข์ ความเศร้าหมองของดวงจิต แม้เพียงธุลลี จะไม่มีในแดนพระนิพพาน

ตั้งใจปฎิบัติธรรมดีแล้ว ทำใจไห้ใสสะอาด ระงับความเศร้าหมองของดวงจิตไห้ได้นะ

 

a้วJก้uu่:มา๑ม ...! ให้หายซึ้งไปเล้ยยยยย.....

พินา พินา พินา ๆๆๆๆ......

 

....ยามมา(เกิด) ก็มาคนเดียว.....

....ยามเปลี่ยน(แก่) ก็แก่ที่เราคนเดียว....

...ยามแย่(เจ็บ) ก็ป่วยที่เราคนเดียว.....

...ยามไป(ตาย) ก็ไปผู้เดียว......

....เพิ่ง มาเกี่ยวข้องกัน เพียงชั่วประเดี๋ยว เท่านั้น เพราะกฎของกรรมบังคับ....

....ขันติ หนึ่งในบารมี10 /ยอมรับกฎ..ผลแห่งกรรม อย่าฝืน....

..เรียนรู้ ทำความเข้าใจ ยอมรับ ...เลิกสนใจ.....

...ลวกมาม่า ต้องแกะถุงออกก่อน จึงได้......อยากลิ้มรสธรรม ควรทำใจ(ยอมรับ) ก่อน จึงควร.....

...เห็น ทุกข์(ถ้ารู้จัก) จะพบธรรม.....เห็นธรรม(ถ้าเข้าใจ) จะพบพระ.....

 

มันจะอะไรนักหนา เขาอยากไปก็ปล่อยเขาไปสินะ ไปห่วงอะไรกับก้อนทุกข์ เกินมาเดี๋ยวก็ตาย ชอบมากหรือเรื่องทุกข์ๆเนี่ย ปล่อยมันไปเถอะอย่าไปให้ความสำคัญมันมากเลยไอ้กองกิเลสกองตัญหาเนี่ย ไม่ปล่อยก็ทุกข์อยู่อย่างนี้แหละ ปล่อยซะ

 

การที่คุณสร้างความดีต่างๆนั้นมันต่างกรรมต่างวาระ**ต้องแยกให้ออหกแสดงว่ายังไม่เข้าใจธรรมะเลย**แค่มีเรื่องรักมากระทบยังพิจาราณาไม่เป็นจึงเกิดทุกข์**และที่บอกแฟนเป็นคนดีนะไม่จริง**ตลอดเวลาที่อยู่กับเราตอนนั้นมันยังไม่มีสิ่งเล้าใจเข้ามาก็อยู่กับเราแบบปกติแต่พอมีอะไรที่น่าตื่นเต้นเข้ามาก็ลายที่ช่อนอยู่ควรจะดีใจนะที่เขาแสดงธาตุแท้ในตอนนี้ดีกว่าให้เรางมงายไปครึ่งชีวิตแล้วมาออกลายตอนมีสมบัติเป็นหลักเป็นฐานในเมื่อบอกว่าอยู่กับธรรมะ*ก็ลองวิปัสสนาดูว่าตัวเราบกพร่องสิ่งใด*แต่ถ้าไม่อะไรที่บกพร่องดีในระดับหนึ่งทีครอบครัวรับได้**แล้วจงตั้งสติใหม่เลยว่าไม่มีเขาเราก็อยู่ได้**ใช้หลักง่ายๆนั่งนึกนอนนึกว่ารักเขาวันละชั่งโมงแล้วนึกต่อว่าเรามานั่งบ้าเพ้ออยู่นี่ขณะที่เขาไม่เคยนึกถึงเราเลยคิดกับไปกับมามันจะเข้าใจเองว่าเราโง่เอาเวลานั้นไปทำอย่างอืนเช่นทำตัวให้แจ่มใส*พร้อมทำจิตให้แจ่มใสเมื่อร่างกายแจ่มใสและดูดีเราจะค่อยๆลืมเขาไปได้เอง**และมีเวลาที่จะคิดทำอย่างอื่นเพื่อตัวเองและคนที่รักเราไม่มีเปลี่ยนแปลงคือพระที่บ้านสององค์

 

ท่านช่วยอธิบายความหมายหน่อยครับ ผมเหมือนจะเคยอ่านเจอที่ไหนสักที่แต่นานมากแล้วจำความหมายไม่ได้แล้ว

เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้นะครับ ตอนนี้..อาจยังสับสนอยู่แต่ยังโชคดีที่ยังได้ธรรมะคอยเตือนสติ ขอให้เวลาเป็นตัวช่วยลบความทรงจำีที่เลวร้าย .... เมื่อมีจิตที่ผ่องใสขึ้นบ้างแล้ว กลับมาอ่านข้อความของคุณพรานทะเลหลายๆเที่ยว และลองพิจารณาตามไปด้วยครับคำตอบอยู่ในนั้นครับ
ว่างๆลองกลับไปดูรายการทีวีย้อนหลัง รายการตีสิบ วันที่29 ดูนะครับ จะเห็นว่าชีวิตเรามีค่าขึ้นอีกเยอะเลย

ขอให้เจริญในธรรมครับ

 

ความหมาย คุณพรานทะเล ได้ตอบไปแล้วครับ

 

ไม่เป็นไรหรอก
เดี๋ยวมันก็จะผ่านไปนะ
ไม่นานเท่าที่เราคิดหรอก

 

บางสิ่งบางอย่างก็ไม่จำเป็นต้องอธิบายให้ละเอียดลึกซึ้งหรอก

เรื่องอย่างนี้มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนต่อจิตใจของทุกคนที่ถูกร้อยรัดจนแน่น
ต้องให้เจ้าตัวแก้ไขด้วยการพิจารณาหาเหตุเอง

แม้จะเอาปรัชญาความรักต่างๆ ร้อยเล่มเกวียน มาเสนอ ก็แก้ไม่ได้

แม้เวลาผ่านไปนาน ปมในใจก็ยังฝังลึกอยู่

 

อยากให้คุณเปิดอ่านหรือดูเรื่องราวของผู้หญิงที่ทุกข์เรื่องความรัก ทำร้ายตัวเองในรายการตีสิบซึ่ง post เรื่องราวในเวปพลังจิตเช่นเดียวกัน จิตคุณจะคลายจากความยึดมั่นถือมั่นในเรื่องความรัก จงมีสติและรักตัวเองให้มากค่ะ เดินออกมาจากกองทุกข์ที่แบกอยู่ โยนมันทิ้งไป

 

ราคะ แรกๆ ดูจะไม่มีพิษสง กลับเห็นมีคุณค่า มีราคา มีสีสรรค์ เสียด้วยซ้ำ
มันไม่ได้โลดโผน เหมือนอย่างโทสะ
มันจะค่อยๆ ตอดรัดๆ จนแน่น โดยไม่รู้ตัว แต่เหมือนจะรู้ตัว พอจะแก้ก็แก้ออกยาก

ต่างจากโทสะที่มันมุทะลุ แดกดัน แต่มันจะคลายไปได้เร็วกว่า

มันก็มาจากเหตุ ความหลงของอาการของจิต

 

เข้าใจนะครับว่า ตอนนี้ทุกข์มาก และสิ่งที่คุณต้องการตอนนี้มากที่สุด ก็คือ

"กำลังใจ"

กำลังใจจะช่วยให้เราผ่านพ้นอุปสรรคหนักหนาซึ่งถาโถมเข้ามาในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรัก ครอบครัว หรือสุขภาพ หรืออะไรอีกหลายอย่าง

ตอนนี้คุณดูเหมือนจะแพ้ แพ้ต่อใจตนเอง แต่คุณยังโชคดีอยู่ 2 ประการ คือ

1 คุณเป็นผู้ใฝ่ในธรรม
2 คุณเป็นผู้มีเหล่ากัลยาณมิตรที่จะส่งความปรารถนาดีไปให้คุณผ่านพ้นอุปสรรคครั้งนี้ไปให้ได้

ขอให้คิดว่านี่เป็น "บททดสอบ" ขอให้ใช้ธรรมะดับทุกข์ที่เกิดในใจตน ขอให้ใจค่อยๆเย็นลง เย็นลง และเย็นลง แล้วจะเกิดปัญญา

ขอฝากเป็นข้อคิด

แล้วสิ่งนั้นจะผ่านพ้นไป

 

เราเคยเจอมาแล้วหนักกว่าคุณอีก เพราะเรามีลูก คนเราเวลาหลงจะหลงจนหน้ามืด

เป็นกำลังใจให้ ให้คุณท่องไว้ว่าเวลาจะทำให้ทุกสิ่งดีขึ้น ช่วงนี้ คุณประคองสุขภาพใจ

และสุขภาพกายให้ดี ถ้าเครียดมาก ให้ไปหาหมอ อย่าไปคิดว่า หมอให้ยากินแล้วจะติด

หมอสมัยนี้ยาดี และการรักษาก็ดี อย่างน้อยเราคนหนึ่งละ ขอเป็นกำลังใจ ด้วยความ

จริงใจ

 

บททดสอบของผู้ตั้งมั่นสำรวมมั่น

กินอยู่ในทาน ปฏิบัติธรรมอยู่ในศีล

จะตกม้าตาย ก็เรื่องที่เรากลัวมากที่สุด

ระบบเค้าก็จะสรรหามาให้ เพื่อให้นักปฏิบัติธรรม

ยกจิตให้ข้าม ให้มองสัจธรรมของชีวิตให้ออก

เวลาความสุขผ่านเข้ามาในชีวิตของเรา อย่าคิดว่าเค้าจะ

เป็นอยู่อย่างงี้ตลอดไป ประเดี๋ยวสภาวะธรรมก็เปลี่ยน

ไม่เที่ยง สุขทุกข์เป็นของคู่กัน ต้องเตรียมใจทำใจ

หาเสบียงเลี้ยงตัวจากการเจริญวิปัสสนา เรียนรู้สุขทุกข์อย่างผู้

ช่ำชอง ฉลาดที่จะละทั้งทุกข์ทั้งสุข ที่เป็นของร้อน

ร้อยด้วยไฟ คือ โทษะ เพราะเราไปเอาใจไว้กับสามี

เมื่อสามี ไม่เป็นไปตามใจที่เราหวัง ก็เป็นทุกข์ ทุกข์เพราะยัง

รักใครไม่เป็น เราต้องรักตัวเราก่อน จึงจะไปรักคนอื่นเค้าได้

รักตัวเองยังไม่เป็น จะไปรัก สามี บุตร ข้าวของเงินทอง

ผีในป่าช้าเค้าจะหัวเราะเยาะเอา โธ ๆ ตัวเองยังไม่รักตนเอง

จะให้ใครเค้ามารัก ร้องให้พอถ้าอยากจะร้อง แล้วก็หยุดร้อง

ไปล้างหน้าล้างตาซะ กลับมารักตัวเองมาก ๆ เมตตาจะเกิดใน

บ้านเพราะหัวใจมีรักแท้

 

เห็นด้วยกับคุณศนิวาร ทุกประโยค ทุกคำพูดและหากเราจะโพสก็คงไม่ต่างจากที่คุณศนิวาร ได้กว่ามาแล้วทั้งหมด

ยิ่งเรารักเขามากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งทุกข์มากเท่านั้น หันมารักตัวเองใส่ใจตัวเอง เราคิดว่าตอนนี้เราขาดเขาแล้วเราจะตาย แล้วสักวันเขาก็ต้องตายจากเรา หรือเราต้องตายจากเขาเหมือนกัน ไม่มีเราและเขาอย่างถาวร คนเราทุกวันนี้รักแบบงมงาย แบบปักจิต ปักใจ ลุ่มหลงมัวเมา เขาอยู่กับเราก็เป็นของเรา พ้นจากเราก็เป็นของคนอื่น จะไปเอามาเก็บไว้ในใจให้ทุกข์ทำไม ความทุกข์เกิดจากใจเราทั้งหมดถ้าเราปล่อยวางได้เราก็จะไม่ทุกข์อีกเลย

ปฎิบัติธรรมแล้วก็เข้าใจว่ายังไม่สามารถ ลด ละ กิเลส ทั้งหมดได้ แต่เราก็อย่างน้อยดีกว่าคนที่เขาไม่ได้ปฎิบัติ เราจึงสมควรที่จะนำปัญญามาพิจรานา อย่าปล่อยให้ขาดสติเหมือนคนที่เขาไม่มีธรรมะ เราปฎิบัติธรรม เรา ต้อง ลด ละ ปล่อย วาง ดับกิเลส ให้ได้เร็วกว่าคนอื่นและรู้ทันมัน ขอให้ผ่านช่วงนี้ไปได้ เป็นกำลังใจให้ค่ะ

 

ความรักก็เหมือนดังเปลวเทียนที่ส่องแสงสว่าง....แต่บางครั้งผู้ถือเทียนก็ไม่ไคยรู้สึกว่าเมื่อมีเปลวเทียนก็ย่อมมีน้ำตาเทียนที่ไหลลงมาตลอดเวลา ในเมื่อเราถือเทียนแล้วโดนน้ำตาเทียนหยดบนมือทุกวัน ไยเล่า.....เราถึงยังถือเทียนนั้นในมือ.....ในเมื่อรู้ว่ามันร้อน....ทำไมเราถึงไม่วาง?????

 

1. กาลเวลาย่อมกลืนกินทุกสรรพสิ่ง แม้แต่ตัวเอง = นานไปเดี๋ยวก็ดีขึ้นมาเอง
2. หาอะไรทำอย่าได้หยุดหย่อน เช่น ล้างตะแกรงพัดลม ล้างมุ้งลวด ล้างจาน ล้างบ้าน ล้างรถ ซักผ้า ถูบ้านทุกซอกทุกมุม ใช้ก้านสำลีเช็ดซอกเหล็กดัด ปัดหยากไย่ อาบน้ำหมา อาบน้ำแมว ล้างอ่างปลา ทำกับข้าว ทำขนม ทำความสะอาดครัว ซักรองเท้า ถักนิตติ้ง ถักโครแช ปักผ้า เล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ ดูหนังสยองขวัญต่อเนื่อง 48 ชั่วโมง เรียนอะไรใหม่ๆ เช่น จัดดอกไม้ เรียนดำน้ำ เล่นกีฬาหนักๆ เช่น ชกมวย ยกน้ำหนัก ปั่นจักรยาน คาราเต้

ชีวิตคนเรามีอะไรให้ทำตั้งเยอะ หาอะไรทำเดี๋ยวให้เหงื่อออกเยอะๆ เดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง

ถ้าอยู่ชลบุรี ฉะเชิงเทรา หรือกรุงเทพ มาช่วยผมจัดทำพระไตรปิฏกถวายวัดก็ได้

 

สาธุ ท่านที่มีทุกข์เสมอเหมือนข้าพเจ้า ในการปฎิบัติทั้งทาน ศีล ภาวนานั้น หรือในการปฎิบัติธรรมทั้งหลายนั้นผลที่มันเกิดสดๆร้อนๆก็คือจิตนั่นเอง สิ่งทั้งหลายมีอุบัติขึ้นเพราะมีเหตุให้เกิด เมื่อเกิดแล้วมันไม่สามารถคงทนถาวรไว้ ดังนั้นมันจึงเปลี่ยนสภาพและสลายไปในที่สุด การพรัดพรากจากของรักก็เช่นเดียวกัน ธรรมมะของพระพุทธเจ้าไม่สามารถหยุดยั้งการเปลี่ยนแปลงต่างๆในโลกนี้ได้ในลักษณะที่เป็นรูปธรรมทั้งหลายได้ ธรรมมะของพระพุทธเจ้าไม่ได้ช่วยในลักษณะนั้น ธรรมของพระพุทธเจ้าช่วยตรงที่จิตล้วนๆ เพราะทุกอย่างมีจิตเป็นเหตุเป็นประธาน ธรรมมะจะช่วยให้จิตดำรงอยู่ได้ในสภาวะทุกข์ได้อย่างไรสามารถวางจิตในทุกข์ได้อย่างไร และจะวางไว้อย่างไร สาธุ