ข้อความจากต่างมิติ - มิติคู่ขนาน, โลกใต้พิภพ, UFO, Yeti

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Chayutt, 4 กรกฎาคม 2010.

  1. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    <o:smarttagtype namespaceuri="urn:schemas-microsoft-com<img src=" http:="" palungjit.org="" images="" smilies="" omg-smile.gif="" border="0" alt="" title="Surprised" smilieid="34" class="inlineimg"></o:smarttagtype> ข้อความสื่อสารทางโทรจิตมาจากท่านเมตาตรอน (Metatron)

    ผู้รับการสื่อสาร: Tyberonn
    วันที่รับการสื่อสาร: 20 กรกฎาคม 2008
    ที่มา:
    http://www.earth-keeper.com/EKchronicles_20pdf.pdf

    เรื่อง: อาณาจักรใต้พิภพ, อาณาจักรเทวะ และ ปรากฏการณ์ UFO

    ตอนที่ 1


    [​IMG]
    (metatron)


    เราขอกล่าวคำทักทายด้วยความรัก เราคือเมตตาตรอน (Metatron) ราชาแห่งแสงสว่าง
    เราขอต้อนรับพวกคุณทุกคนสู่ข้อความที่มีชีวิตข้อความนี้ และเราขอโอบกอดพวกคุณด้วยความรัก

    ตอนนี้พวกคุณคงคิดว่า ดาวเคราะห์ของพวกคุณเป็นรูปทรงกลมทึบตันอยู่ใช่ไหมหละ
    แต่ชาวโลกที่รักทั้งหลาย แท้ที่จริงแล้ว ดาวเคราะห์ของพวกคุณมีลักษณะแบนตรงหัวและท้ายต่างหาก

    และมันก็มีโพรงอยู่ข้างในมากมายด้วย ซึ่งโพรงเหล่านี้ ก็คือบ้านของผู้ที่พวกคุณเรียกกันว่า
    “อารยธรรมที่สาบสูญ” (Lost civilization) ทั้งหลายนั่นเอง

    นักธรณีวิทยาได้ประมาณการอายุของดาวเคราะห์โลกของพวกคุณว่า มีอายุประมาณ 4.5 พันล้านปีมาแล้ว
    และพวกเราก็จะบอกคุณว่า นั่นก็ใกล้เคียงกับความเป็นจริงอยู่ เมื่อเทียบตามบันทัดฐานของศาสตร์ของพวกคุณ


    แต่พวกคุณรู้ไหมว่า เมื่อมองจากมุมมองด้านมิติแล้ว
    ดาวเคราะห์โลกของพวกคุณ ก็คือกลุ่มของดาวเคราะห์โลกจำนวนมากมาย
    (conglomerate of many earths) ที่ซ้อนทับกันอยู่
    ด้วยความเป็นไปได้ทั้งมวล อย่างเป็นอนันต์



    (ยังมีต่อครับ)

    ……………………

    <!--[endif]-->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • metatron.jpg
      metatron.jpg
      ขนาดไฟล์:
      74.6 KB
      เปิดดู:
      11,295
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ธันวาคม 2014
  2. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตมาจากท่านเม ตาตรอน (Metatron)

    ผู้ รับการสื่อสาร: Tyberonn
    วันที่รับการสื่อสาร: 20 กรกฎาคม 2008
    ที่มา:
    http://www.earth-keeper.com/EKchronicles_20pdf.pdf

    เรื่อง: อาณาจักรใต้พิภพ, อาณาจักรเทวะ และ ปรากฏการณ์ UFO

    ตอนที่ 2

    <link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><o:smarttagtype namespaceuri="urn:schemas-microsoft-com<img src=" http:="" palungjit.org="" images="" smilies="" omg-smile.gif="" border="0" alt="" title="Surprised" smilieid="34" class="inlineimg"></o:smarttagtype>
    คำถาม: หลายคนพูดถึงเมืองใต้พิภพ มันมีอยู่จริงหรือไม่ครับ และมันอยู่ที่ไหน?


    [​IMG]

    (hollowearth model)



    Metatron: มันมีอยู่จริงๆ และก็มีอยู่นานแล้วด้วย ผู้ที่อาศัยอยู่ที่นั่น ก็คือรูปธรรมชีวิตคล้ายมนุษย์นี่แหละ
    ที่ครั้งหนึ่งเคยอยู่ในอาณาจักรเลมูเรีย (Lemuria) และที่เคยอยู่ในช่วงสุดท้ายของอาณาจักรแอตแลนติส (Atlantis) มาก่อน

    พวกเขาได้ค้นพบทางเข้าไปสู่โพรงที่อยู่ภายในโลก ซึ่งภายในโลก มีโพรงขนาดใหญ่เหล่านั้นอยู่มากมาย
    ซึ่งครั้งหนึ่งพวกมันเคยถูกเชื่อมต่อกันด้วยเครือข่ายอุโมงค์ขนาดใหญ่มากมาย


    รูปธรรมชีวิตที่เป็นผู้เข้าไปอยู่ในโพรงเหล่านั้นเป็นพวกแรก คือผู้ที่มีร่างกายเนื้อกึ่งกายทิพย์
    นั่นคือยังมีกายเนื้ออยู่แต่ว่าจะไม่หยาบและทึบตันเหมือนกับของชาวโลกที่อาศัยอยู่บนพื้นผิวโลก

    เหตุผลที่ชาวเลมูเรียต้องอพยพลงมาอยู่ในโพรงใต้พื้นโลกในตอนแรก ก็เพราะว่าต้องการหลบหนี
    จากการก่อกวนของสิ่งที่พวกคุณเรียกว่าไดโนเสาร์ ที่มีอยู่เต็มไปหมดบนพื้นทวีปของพวกเขาในสมัยนั้น


    เมื่อพวกเขาค้นพบสถานที่ๆสงบเงียบและสวยงามได้แล้ว พวกเขาก็ได้เรียนรู้ว่ามันมีดวงอาทิตย์อยู่ภายในโลกด้วย
    ซึ่งดวงอาทิตย์ที่ว่านี้จะแผ่แสงสว่างสีฟ้าออกมา และชาวเลมูเรียโบราณ ซึ่งอยู่ในรูปกายกึ่งกายทิพย์ทั้งหลายนี้
    ก็ได้พัฒนาวิธีการที่จะมองเห็นได้ภายใต้แสงสว่างนี้ และพวกเขาก็ค้นพบความสวยงามที่น่าอัศจรรย์ภายในโพรงเหล่านี้


    ชาวโลกหลายคนเข้าใจว่าชาวเลมูเรียได้ “เลื่อนระดับขึ้น” (Ascend) ไปข้างบนเรียบร้อยแล้ว
    แต่ความจริงก็คือ พวกเขา “เลื่อนระดับลง” (descend) เข้ามาอยู่ในใจกลางโลกต่างหาก
    แต่ถ้าจะเรียกว่า “พวกเขาเสร็จกิจแล้ว” หรือ “เลื่อนระดับขึ้น” ไปแล้ว ก็น่าใกล้เคียง



    มันมีโพรงที่อยู่ภายในโลก ใต้บริเวณรัฐอาริโซน่า, เนวาด้า และแคลิฟอเนีย อยู่หลายสิบโพรงจริงๆ
    ซึ่งในจำนวนโพรงเหล่านี้ ก็เคยถูกค้นพบโดยบังเอิญโดยชาวโลกบนพื้นผิวโลกเมื่ออดีตที่ผ่านมา

    หลายๆโพรงอยู่บริเวณใต้แกรนแคนยอน (Grand Canyon), Flagstaff, แอเรีย 51 (Area 51),
    และเดดวัลเล่ย์ในแคลิฟอร์เนีย (Death Valley in California)


    ชนเผ่าพื้นเมืองที่ว่านั้น ก็ได้แก่ ชนเผ่าโฮบิ (Hopi), นาวาโจ (Navajo), และฮาวาซูไป (Havasupai)
    พวกเขายังคงเก็บรักษาตำนานและแน่นอนรวมถึงความรู้ที่ได้จากผู้คนที่อยู่ในถ้ำใต้ดินเหล่านี้เอาไว้อยู่ตราบกระทั่งทุกวันนี้

    มาถึงตรงนี้คุณควรจะรู้ไว้ว่า ภายในสิ่งที่เรียกว่า “โลกชั้นใน” (Inner Earth) เหล่านี้
    เพราะความที่อยู่ภายใต้พื้นผิวโลก ซึ่งมีความดัน และแรงโน้มถ่วงจากสนามแม่เหล็กสูงกว่าบนพื้นผิวโลก
    จึงทำให้มันมีแม่แบบของเวกเตอร์ (vector template) ที่พิเศษและเฉพาะเจาะจง
    ที่จะทำให้เกิดสิ่งที่พวกคุณเรียกว่า “มิติคู่ขนาน” (parallel dimensions) ได้มากกว่า
    และชัดเจนมากกว่าบนพื้นผิวโลก

    เพราะฉะนั้นแล้ว ในความเป็นจริงแล้ว มันจึงมีการซ้อนทับกันอยู่แบบมีศูนย์กลางเดียวกัน ของมิติต่างๆ
    อยู่ภายในของดาวเคราะห์โลกอย่างมากมาย


    และในความเป็นจริงแล้ว ปรากฏการณ์แบบนี้ มันก็เกิดขึ้นกับทุกแห่งทุกหนในจักรวาลที่พวกคุณรู้จักนั่นแหละ
    รวมถึงบนพื้นผิวโลกด้วย แต่เพราะว่าสนามแม่เหล็กไฟฟ้าและความหนาแน่นของความดัน
    ที่พวกเราได้สร้างให้ไว้กับดาวเคราะห์โลก ทำให้ปรากฏการณ์นี้มันเกิดขึ้นได้ชัดเจนน้อยกว่า


    (ยังมีต่อครับ)

    …………………..
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ธันวาคม 2014
  3. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตมาจากท่านเม ตาตรอน (Metatron)

    ผู้รับการสื่อสาร: Tyberonn
    วันที่รับการสื่อสาร: 20 กรกฎาคม 2008
    ที่มา:
    http://www.earth-keeper.com/EKchronicles_20pdf.pdf

    เรื่อง: อาณาจักรใต้พิภพ, อาณาจักรเทวะ และ ปรากฏการณ์ UFO

    ตอนที่ 3

    <link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;} @font-face {font-family:Tahoma; panose-1:2 11 6 4 3 5 4 4 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:1627421319 -2147483648 8 0 66047 0;} @font-face {font-family:"\@Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; font-family:Arial; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Arial Unicode MS"; color:darkblue;} p {mso-margin-top-alt:auto; margin-right:0cm; mso-margin-bottom-alt:auto; margin-left:0cm; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; font-family:Tahoma; mso-fareast-font-family:"Times New Roman";} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> พวกเราอยากจะบอกว่า ภายในลูกโลก โครงสร้างด้านพลังงานภายในชั้นแมนเทิล (mantles)
    จะมีความสำคัญมากกว่าบนพื้นผิวโลก และมันก็ทำให้มีจำนวนมิติมากกว่าเกิดขึ้น
    รวมถึงทำให้มีพลังงานชีวิตมากกว่า, มีพลังงานอีเทอเรี่ยม (etherium) เข้มข้นมากกว่าด้วย


    ซึ่งถ้าจะเปรียบเทียบอย่างคร่าวๆให้พอเข้าใจแล้ว มันก็น่าจะเหมือนกับการรับคลื่นสัญญาณโทรทัศน์
    ด้วยเสาอากาศ กับการรับคลื่นสัญญาณจากเคเบิล หรือ จากดาวเทียมนั่นเอง

    บนพื้นผิวโลกจะเปรียบได้กับการรับคลื่นสัญญาณด้วยเสาอากาศธรรมดา ส่วนภายในลูกโลก
    จะเปรียบเหมือนกับการรับคลื่นสัญญาณจากดาวเทียม เพราะฉะนั้น ภายในลูกโลก
    จำนวนช่องสัญญาณก็จะมีมากกว่า และความคมชัดของสัญญาณก็ยิ่งมีมากกว่าด้วย
    แต่ในกรณีของเรา พวกเรากำลังพูดถึงเรื่อง “มิติคู่ขนาน” อยู่แทนที่จะเป็นเรื่อง “ช่องสัญญาณโทรทัศน์” ก็เท่านั้นเอง



    ด้วยเหตุนี้ มันจึงมีมิติต่างๆที่อยู่ขนานกัน และซ้อนทับกันอยู่จำนวนมากมาย ซึ่งมิติคู่ขนานเหล่านี้ จะอยู่แยกออกจากกัน
    ทำให้มีรูปธรรมชีวิตที่อยู่ต่างมิติกัน อาศัยอยู่ในนั้นได้โดยไม่มีผลกระทบต่อกัน
    มันก็เหมือนกับโทรทัศน์เพียงเครื่องเดียว แต่สามารถรับช่องสัญญาณได้หลายๆช่องนั่นแหละ
    ดังนั้น ระนาบต่างๆของมิติคู่ขนานจึงสามารถอยู่ด้วยกันได้ ในโลกใบเดียวกัน


    ในความเป็นจริงแล้ว มีรูปธรรมชีวิตจากนอกโลกเป็นจำนวนมาก ที่มีฐานปฏิบัติการอยู่ภายในโลกใบนี้
    และที่พวกเขาก็สามารถอาศัยอยู่ในลูกโลกได้ ก็เพราะอาศัยโครงสร้างของความถี่ที่ขนานกันดังกล่าวไปแล้วนั่นเอง
    ซึ่งอาจจะเรียกมันว่า “โฮโลแกรมมิก” (Hologramic) ก็ได้ ทีนี้คุณเข้าใจหรือยัง ?


    ดังนั้น มันจึงมีรูปธรรมชีวิตมากมายที่อาศัยอยู่ในใจกลางของดาวเคราะห์โลกในนี้
    ซึ่งหลายๆเผ่าพันธุ์ ก็ได้มาอยู่ที่นี่นานกว่ามนุษย์โลกเสียอีก และหลายๆเผ่าพันธุ์ก็คิดว่าพวกเขาเป็นผู้ครองโลกนี้อยู่
    เหมือนอย่างที่พวกคุณเองคิดว่า เผ่าพันธุ์ของตัวเองกำลังครองโลกนี้อยู่อย่างนั้นเลยแหละ
    และในความเป็นจริงแล้ว เผ่าพันธุ์ที่มีความคล้ายคลึงกับมนุษย์โลกมากที่สุดก็คือ ชนเผ่าของอาณาจักรเลมูเรียโบราณ



    (ยังมีต่อครับ)

    …………………

    <!--[if !supportLineBreakNewLine]--> <!--[endif]-->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ธันวาคม 2014
  4. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตมาจากท่านเมตาตรอน (Metatron)

    ผู้รับการสื่อสาร: Tyberonn
    วันที่รับการสื่อสาร: 20 กรกฎาคม 2008
    ที่มา:
    http://www.earth-keeper.com/EKchronicles_20pdf.pdf

    เรื่อง: อาณาจักรใต้พิภพ, อาณาจักรเทวะ และ ปรากฏการณ์ UFO

    ตอนที่ 4

    <link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><o:smarttagtype namespaceuri="urn:schemas-microsoft-com<img src=" http:="" palungjit.org="" images="" smilies="" omg-smile.gif="" border="0" alt="" title="Surprised" smilieid="34" class="inlineimg"></o:smarttagtype>คำถาม: รูปธรรมชีวิตเหล่านั้นพวกเขาอาศัยอยู่ที่ไหน และพวกเขาชอบอะไรครับ?


    Metatron: ความจริงแล้ว รูปธรรมชีวิตชาวเลมูเรีย พวกเขามีวิวัฒนาการทางด้านจิตวิญญาณ
    ก้าวไกลไปมากกว่าพวกคุณในขณะนี้มากมายนัก ก็อย่างที่เรากล่าวไปแล้วว่า ร่างกายของพวกเขา
    มีความหนาแน่นน้อยกว่าพวกคุณ แต่ก็ยังเป็นกายเนื้ออยู่เหมือนกับพวกคุณนี่แหละ
    ผิวหนังของพวกเขาได้เปลี่ยนไปเป็นสีเขียว หรือบางคนก็เป็นสีเขียวแกมน้ำเงิน เพราะว่าน้ำที่พวกเขาใช้ดื่ม
    อุดมไปด้วยแร่ธาตุมากกว่าของพวกคุณ และมีความเข้มข้นของสารประกอบออกไซด์ของทองแดง
    และของโลหะอื่นๆมากกว่าด้วย

    รูปธรรมชีวิตเหล่านี้พวกเขาดำรงชีวิตอยู่อย่างสงบสุข, ไม่มีศาสนาอื่นใดนอกจากความรักจากแหล่งกำเนิด
    (Love of Source) และพวกเขามีความเข้าใจเกี่ยวกับสิ่งที่เรียกว่า “ความสงบเงียบอันยิ่งใหญ่”(great tranquility)


    พวกเขาค่อนข้างที่จะตระหนักรู้ถึงความมีตัวตนอยู่ของพวกคุณ
    แต่พวกเขาไม่อยากที่จะมาสุงสิงด้วย


    คุณอาจจะถามว่า ทำไมหละ?

    ก็เพราะว่ามันมีหลายสาเหตุ ซึ่งสาเหตุหลักก็คือ
    พวกเขารู้ว่าธรรมชาติของพวกคุณ คือชอบความรุนแรง
    และรู้ว่าพวกคุณขี้กลัว และด้อยพัฒนาด้านจิตสำนึกมวลรวม



    พวกเขารู้ว่าร่างกายของพวกคุณเต็มไปด้วยโรคภัยไข้เจ็บ ซึ่งโรคภัยบางชนิดอาจจะติดต่อไปถึงพวกเขาได้
    และก็ พวกเขาจะทนต่อแสงอาทิตย์ของพวกคุณไม่ค่อยได้

    พูดอย่างนี้ดีกว่าว่า พวกเขาได้วิวัฒน์ไปในทิศทางที่พิเศษเฉพาะของตนเอง
    และตอนนี้พวกเขาก็ใกล้จะบรรลุจุดหมายปลายทางระดับนั้นแล้ว

    ร่างกายของพวกเขาถูกหล่อเลี้ยงด้วยพลังแม่เหล็กคริสตัลชนิดหนึ่ง (Crystalline magnetic force)
    ซึ่งมาจากแหล่งกำเนิดแสงสว่างที่อยู่ใจกลางโลกของคุณ ด้วยความสามารถทางจิตที่มากมายของพวกเขา
    ทำให้พวกเขาสามารถควบคุมสนามพลังเหล่านั้น และสามารถปรับพวกมันให้เข้ากับร่างกายและจิตวิญญาณของพวกเขาได้

    แม้ว่าพวกเขาจะยังมีกายเนื้ออยู่ แต่มันก็เป็นกายเนื้อในมิติที่ 4 ซึ่งมีความหนาแน่นน้อยกว่า
    กายเนื้อของพวกคุณเป็นอย่างมาก

    พวกเขาหลายคนค่อนข้างจะมีความชำนาญในด้านการหายตัวไปปรากฏอยู่ในอีกที่หนึ่งมาก (Teleportation)


    อันที่จริงแล้ว มันก็มีการติดต่อกันอยู่เรื่อยๆ
    ระหว่างผู้ที่อาศัยอยู่ในใจกลางโลก กับรัฐบาลของพวกคุณนั่นแหละ
    แต่ไม่ใช่การรวมเข้าด้วยกัน

    พวกเขาได้ส่งข้อความสื่อสารทางโทรจิตมาถึงชาวโลกบนพื้นพิภพบางคน
    ให้รู้ว่ากำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่เกิดขึ้น
    เหมือนอย่างที่พวกเราที่ได้พร่ำบอกกับพวกคุณมาโดยตลอด

    ที่พวกเขารู้เรื่องนี้ก็เพราะว่าพวกเขาอยู่ในช่วงเวลาที่แตกต่างจากพวกคุณ,
    พวกเขาอยู่ในวัฏจักรของเวลาคนละรอบกับพวกคุณ
    และพวกเขาก็ใกล้จะไปถึงจุดหมายปลายทางของพวกเขาแล้ว



    คุณถามว่าโพรงของพวกเขาอยู่ที่ไหนบ้างใช่ไหม๊ อย่าลืมเรื่องมิติคู่ขนานไปเสียหละ
    พวกเราจะตอบคำถามของคุณในแบบที่พวกคุณจะเข้าใจ ว่าส่วนใหญ่แล้ว โพรงเหล่านี้จะอยู่ใต้ดินของส่วนที่เป็นทะเล
    แต่ใต้พื้นดินของทุกๆทวีปก็มีโพรงต่างๆเหล่านี้อยู่ด้วย เช่น พื้นที่บริเวณด้านตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกา
    ใต้ภูเขาแห่งรัฐอาแคนซอ (Arkansas) ในมลรัฐนิวเม็กซิโก, อาริโซน่า, ประเทศเม็กซิโก, ประเทศในแถบอเมริกากลาง,
    ประเทศเปรู, เกาะอังกฤษ, ทวีปยุโรป, ใต้ภูเขาหิมาลัย, ประเทศชิลี, อาเจนติน่า, โบลิเวีย, บราซิล, ประเทศจีน,
    ไซบีเรีย, เกาะกรีนแลนด์, ไอซ์แลนด์, ศรีลังกา,

    ใต้พื้นที่ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ มีเผ่าพันธุ์บางเผ่าพันธุ์อาศัยอยู่ในโพรงใต้ดินของพวกเขา


    (ยังมีต่อครับ)

    ……………….

    <!--[if !supportLineBreakNewLine]--> <!--[endif]-->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ธันวาคม 2014
  5. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตมาจากท่านเมตาตรอน (Metatron)

    ผู้รับการสื่อสาร: Tyberonn
    วันที่รับการสื่อสาร: 20 กรกฎาคม 2008
    ที่มา:
    http://www.earth-keeper.com/EKchronicles_20pdf.pdf

    เรื่อง: อาณาจักรใต้พิภพ, อาณาจักรเทวะ และ ปรากฏการณ์ UFO

    ตอนที่ 5


    คำถาม: พวกเขาอาศัยอยู่ใต้ดินลึกซักแค่ไหนครับ และบนดาวเคราะห์โลก มันมีทางเข้าไปสู่โพรงเหล่านี้บ้างหรือเปล่าครับ?


    Metatron: เราได้บอกไปแล้วว่า ทางเข้าไปสู่โพรงเหล่านี้ อยู่ตรงขั้วโลกทั้งสอง และตามช่องต่างๆที่อยู่บนพื้นผิวโลก
    มันเป็นไปไม่ได้ที่จะบอกว่าพวกเขาอยู่ลึกแค่ไหน เพราะว่าความจริงแล้วพวกเขาอยู่ในมิติคู่ขนาน
    ซึ่งมาตรฐานการวัดของพวกคุณมิอาจนำมาใช้ได้ บางชุมชนก็อยู่ใกล้กับพื้นผิวโลกมาก แต่โพรงหลักๆส่วนใหญ่
    ถ้าจะพยายามพูดภาษาของพวกคุณหละก็ ก็อาจจะบอกว่าอยู่ลึกลงไปใต้พื้นผิวของชั้นแมนเทิลประมาณ 20 ไมล์
    และบางโพรงก็อยู่ลึกลงไปหลายร้อยไมล์เลยทีเดียว (นักธรณีวิทยาของพวกคุณ อาจจะจินตนาการไม่ออก
    เพราะว่าการตีความด้านความดัน และความร้อนของพวกเขา แต่เราขอบอกคุณว่าดินแดนเหล่านี้มีอยู่จริง
    และก็มีรูปธรรมชีวิตอาศัยอยู่ในนั้น ในสนามพลังงานเหล่านั้น จำนวนมากมายจริงๆ)

    แต่ระยะทางที่กล่าวไปแล้วนั้น เป็นเพียงระยะทางสัมพัทธ์เมื่อเทียบกับมิติคู่ขนานหลากมิติเท่านั้น
    ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเข้าไปในดินแดนต่างมิติเหล่านี้ ผ่านทางขั้วโลกของพวกคุณ
    หรือผ่านทางทางเข้าใดๆที่อยู่บนพื้นผิวโลกในมิติที่ 3 ของพวกคุณ เพราะว่าดินแดนเหล่านี้
    อยู่ในมิติคู่ขนานและอยู่ในกาลเวลา-อวกาศที่แตกต่างจากของพวกคุณ เพราะฉะนั้น ระยะทางจริงจากจุดที่คุณเริ่มเข้าไป
    ที่คุณจะวัดได้ ก็อาจจะเป็นเพียงไม่กี่นิ้ว หรืออาจจะเป็นชั่วกาลนานก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่า คุณกำลังมองมาจากตรงไหน


    ศาสตร์ที่สามารถใช้อธิบายแทนถ้อยคำจำนวนนับไม่ถ้วนได้ใกล้เคียงที่สุด ก็คือควอนตัมฟิสิกส์ (Quantum physics)
    แม้ว่าศาสตร์แขนงนี้ เพิ่งจะเป็นที่เข้าใจกันในแวดวงวิทยาศาสตร์ของพวกคุณก็ตาม

    แต่ว่าถ้าจะให้ศาสตร์นี้สามารถถูกแปลความหมายได้อย่างถูกต้องมากกว่านี้ บนระนาบของพวกคุณหละก็
    จะต้องเปลี่ยนแบบจำลองนั้นซะใหม่ รวมถึงแบบจำลองด้านเรขาคณิต และด้านคณิตศาสตร์ด้วย

    ทางเข้าไปสู่โพรงใต้พื้นโลกเบื้องต้น ก็คือผ่านทางขั้วโลกทั้งสอง เพราะว่าตรงบริเวณดังกล่าวนี้
    เป็นจุดเชื่อมต่อด้านควอนตัมระหว่างโลกที่อยู่ในมิติต่างๆของพวกคุณ เพราะว่าตรงบริเวณขั้วโลกทั้งสองนั้น
    มีพลังแม่เหล็กที่แบนราบ จึงทำให้สามารถใช้เป็นทางเข้าสู่โพรงต่างๆของโลกชั้นในได้


    พลเรือเอกไบร์ด (Admiral Byrd) เคยเขียนบทความเล่าถึงการบินผ่านบริเวณขั้วโลกของเขาว่า
    เขามองเห็นดินแดนที่เขียวชอุ่ม ที่มีแม่น้ำหลายสายอยู่ในนั้น

    เราขอบอกคุณว่า นั่นเป็นเพราะว่าเขาได้ผ่านเข้าสู่มิติคู่ขนานในช่วงเวลาสั้นๆ ของโลกชั้นใน
    และเขาและคนอื่นๆก็ได้ทำแบบนั้นมาหลายครั้งแล้ว


    ตรงบริเวณขั้วโลกทั้งสอง การส่งผ่านแบบหลากมิติ (dimensional hyper-transport)
    สามารถเกิดขึ้นได้ภายใต้สภาวะพิเศษบางอย่าง การย้ายมิติตรงบริเวณขั้วโลก จะเกิดขึ้นคล้ายๆกับ
    การข้ามสนามพลังงานรูปทรงกรวยที่สูงชัน แล้วพลิกกลับอย่างรวดเร็ว ความรู้สึกก็จะเหมือนกับว่า
    กลับมา “แบน” ใหม่อีกครั้งอย่างรวดเร็ว หรือขนานกับพื้นใหม่อย่างรวดเร็ว
    ในความเป็นจริงแล้วนายไบร์ด ได้เข้าไปสู่มิติคู่ขนานจริงๆ



    ผู้คนที่อยู่ในโลกชั้นในอาศัยอยู่ในช่องว่างภายในนั้น มีรูปธรรมชีวิตมากมาย และมีหลายเผ่าพันธุ์
    ที่อาศัยอยู่ในโลกหลากมิติของพวกคุณ รวมถึงสิ่งที่พวกคุณเรียกว่า “รูปธรรมชีวิตต่างมิติ” ก็ด้วย
    ซึ่งอาจจะถือว่าพวกเขาก็เป็นพลเมืองของโลก เช่นเดียวกับพวกคุณก็ได้ แม้ว่าในความเป็นจริงแล้ว
    พวกเขาส่วนใหญ่ได้เข้ามาอาศัยอยู่ในโลกนี้ก่อนพวกคุณนานมากแล้วก็ตาม



    (ยังมีต่อครับ)

    …………………

    <!--[if !supportLineBreakNewLine]--> <!--[endif]-->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ธันวาคม 2014
  6. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตมาจากท่านเมตาตรอน (Metatron)

    ผู้รับการสื่อสาร: Tyberonn
    วันที่รับการสื่อสาร: 20 กรกฎาคม 2008
    ที่มา:
    http://www.earth-keeper.com/EKchronicles_20pdf.pdf

    เรื่อง: อาณาจักรใต้พิภพ, อาณาจักรเทวะ และ ปรากฏการณ์ UFO

    ตอนที่ 6

    <link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;} @font-face {font-family:Tahoma; panose-1:2 11 6 4 3 5 4 4 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:1627421319 -2147483648 8 0 66047 0;} @font-face {font-family:"\@Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; font-family:Arial; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Arial Unicode MS"; color:darkblue;} p {mso-margin-top-alt:auto; margin-right:0cm; mso-margin-bottom-alt:auto; margin-left:0cm; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; font-family:Tahoma; mso-fareast-font-family:"Times New Roman";} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> คำถาม: รูปธรรมชีวิตที่ว่านี้ รวมถึงสิ่งที่พวกเราเรียกว่า “เยติ” (Yeti) และเทวะ (Devic) ด้วยหรือไม่ครับ ?


    Metatron: ไม่หรอก เพราะว่า แม้ว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านี้จะมีอยู่จริงก็ตาม แต่พวกนี้ไม่ใช่ชาวเลมูเรีย
    และก็ไม่ใช่ชาวแอตแลนติสยุคต้นๆที่อพยพเข้ามาอยู่ในโลกชั้นในนี้ด้วย

    <!--[if !supportLineBreakNewLine]--> <!--[endif]-->คำถาม: ท่านจะบอกพวกเราเกี่ยวกับเยติ ได้ไหมครับว่า พวกเขาเหมือนกับสิ่งที่พวกเราเรียกว่า “ไอ้ตีนโต”
    หรือ “บิกฟุต” (Bigfoot) หรือเปล่าครับ ?



    [​IMG]
    (yeti1)


    Metatron: สิ่งมีชีวิตที่พวกคุณเรียกว่าเยติหรือบิ๊กฟุตนั้น เป็นผลงานการทดลองด้านพันธุกรรมเวอร์ชั่นแรกๆบนโลกใบนี้
    ตั้งแต่สมัยแอตแลนติสเมื่อประมาณ 200,000 ปีที่ผ่านมา ซึ่งในช่วงเวลานั้น มันมีการทดลองด้านพันธุกรรมเกิดขึ้นมากมาย
    บนดาวเคราะห์โลกของพวกคุณ

    สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ก็มีภูมิปัญญาเหมือนกัน แต่พันธุกรรมของพวกเขาบกพร่อง พวกเขาถูกสร้างขึ้นมาจาก
    การผสมระหว่าง DNA ของมนุษย์กับของลิงเอ้ป (Ape) พวกเขาถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้เป็นสิ่งมีชีวิตครึ่งคนครึ่งสัตว์
    เพื่อเอาไว้ใช้แรงงาน หรืออาจจะเรียกว่า สัตว์ที่มีความเฉลียวฉลาดมากขึ้น หรือเรียกว่าสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาคล้ายมนุษย์ก็ได้

    แต่พวกเขาถูกบังคับให้มีรหัสพันธุกรรมที่จะไปสั่งการให้พื้นที่บางส่วนในสมองของพวกเขาใช้การไม่ได้


    พวกเขาคือผู้ที่รอดชีวิตมาจากยุคแอตแลนติส ที่พวกคุณเรียกว่า “ผู้อื่น” (the others) นั่นแหละ
    พวกเขาคือส่วนที่หลงเหลือมาจากยุคแอตแลนติส และพวกเขาคือผู้ที่ถูกสร้างขึ้นมา ด้วยความใจร้าย
    เพื่อเอาไว้ใช้แรงงานในเหมือง, ในฟาร์ม, และในอุตสาหกรรมทำป่าไม้

    พื้นที่ในสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ความรู้สึก และพัฒนาการด้านความคิด ได้ถูกทำให้มีความบกพร่อง
    ในรหัส DNA ด้วยความตั้งใจ แม้ว่าจิตวิญญาณของพวกเขาจะมาจากแหล่งเดียวกันกับจิตวิญญาณของปลาโลมาก็ตาม
    แต่กระนั้น ในร่างกายของพวกเขา ก็ไม่มีพัฒนาการด้านอารมณ์ความรู้สึก หรือวิวัฒนาการด้านสติปัญญา
    ไปเกินกว่าขอบเขตที่ถูกจำกัดไว้ให้เลย แม้ว่าพวกเขาจะมีสิ่งที่เรียกว่า “ภูมิปัญญาอันศักดิ์สิทธิ์” อยู่ด้วยก็ตาม
    แต่ว่ามีเพียงความแข็งแรงทางด้านร่างกาย และสัญชาตญาณการอยู่รอดเท่านั้น ที่เหลืออยู่และมีการพัฒนาขึ้น

    สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ ไม่ได้อาศัยอยู่ในโพรงภายในโลก แต่พวกเขาอาศัยอยู่ในถ้ำในภูเขาที่ห่างไกล
    และอาศัยอยู่ในป่าลึกของพวกคุณ และในที่ลุ่มใกล้แหล่งน้ำ พวกเขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่หากินในเวลากลางคืน
    และจำนวนของพวกเขาก็กำลังลดลงเรื่อยๆ ซึ่งในสักวันหนึ่งก็จะไม่เหลืออยู่อีก


    สิ่งมีชีวิตเหล่านี้มีความเกรงกลัวต่อมนุษย์มากๆ
    และเมื่อพวกเขาวิวัฒน์มากขึ้น พวกเขาก็ยิ่งเศร้าโศกเสียใจและสับสนมากขึ้น
    พวกเขาจะคอยแอบมองพวกคุณด้วยความระมัดระวัง
    พวกเขารู้ว่าพวกเขาคือพี่น้องของพวกคุณ
    พวกเขาอยากเข้ามาใกล้ชิดกับพวกคุณ แต่ก็มีความวิตกกังวล
    และก็ฉลาดพอที่จะรู้ว่าทำอย่างนั้นไม่ได้


    ร่างกายของพวกเขาได้พัฒนาขึ้นจนมีขนดกปกคลุมทั่วร่างกาย และมีชั้นผิวหนังที่หนาและมีไขมันมาก
    เพื่อที่จะสามารถรอดชีวิตอยู่ได้ในพื้นที่ๆมีสภาวะภูมิอากาศที่รุนแรง และในตอนนี้ พวกเขากำลังมีชีวิตอยู่
    ในช่วงสุดท้ายของยุคของพวกเขาแล้ว จิตวิญญาณของพวกเขาไม่ต้องการที่จะวิวัฒน์ต่อไปในร่างกาย
    ที่มีข้อจำกัดทางพันธุกรรมแบบนี้อีกต่อไปแล้ว


    หากคุณได้จ้องมองเข้าไปในดวงตาของสิ่งมีชีวิตเหล่านี้แล้ว
    พวกคุณจะรู้สึกได้ถึงความโศกเศร้าเสียใจ
    ที่พวกเขามีอยู่อย่างมากมาย



    (ยังมีต่อครับ)
    …………………….

    <!--[if !supportLineBreakNewLine]--> <!--[endif]-->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • yeti1.jpg
      yeti1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      46 KB
      เปิดดู:
      7,208
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ธันวาคม 2014
  7. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตมาจากท่านเมตาตรอน (Metatron)

    ผู้รับการสื่อสาร: Tyberonn
    วันที่รับการสื่อสาร: 20 กรกฎาคม 2008
    ที่มา:
    http://www.earth-keeper.com/EKchronicles_20pdf.pdf

    เรื่อง: อาณาจักรใต้พิภพ, อาณาจักรเทวะ และ ปรากฏการณ์ UFO

    ตอนที่ 7

    <link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><o:smarttagtype namespaceuri="urn:schemas-microsoft-com<img src=" http:="" palungjit.org="" images="" smilies="" omg-smile.gif="" border="0" alt="" title="Surprised" smilieid="34" class="inlineimg"></o:smarttagtype> คำถาม: ท่านบอกว่าพวกเยติมีแหล่งกำเนิดของจิตวิญญาณเดียวกันกับปลาโลมาอย่างนั้นหรือครับ?


    Metatron: ถูกต้อง แต่ต้องเข้าใจให้ชัดเจนนะว่า จิตวิญญาณของพวกเขามาจากแหล่งเดียวกันกับของปลาโลมา
    แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นจิตวิญญาณชนิดเดียวกันนะ เพราะในความเป็นจริงแล้ว มันห่างไกลกันมาก

    คุณเห็นไหม๊ว่า สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ไม่มีการแสดงออกถึงความมีชีวิตชีวา และความเฉลียวลาดเหมือนอย่างที่ปลาโลมามีเลย
    เพราะว่าร่างกายที่พวกเขาถูกกักขังอยู่นี้ ไม่เอื้ออำนวยที่จะให้พวกเขาทำเช่นนั้นได้


    คุณอาจจะสงสัยว่าจิตวิญญาณแบบไหนกัน ถึงได้เลือกที่จะลงมาเกิดในร่างกายที่เป็นยานพาหนะที่มีข้อจำกัดเช่นนี้
    และคำตอบมันก็คือ มีจิตวิญญาณจำนวนน้อยมากๆ ที่เลือกที่จะทำเช่นนั้น และอีกไม่นานนี้ สปีชีส์ของพวกเขา
    ก็จะไม่มีเหลืออยู่อีกต่อไปแล้ว

    แม้ว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ จะสามารถแสดงออกถึงความเข้มแข็ง ถึงการเอาชีวิตรอดได้อย่างยอดเยี่ยมก็ตาม
    และแม้ว่าพวกเขาเองจะรักกันก็ตาม แต่พวกเขาก็ตัดสินใจที่จะถอนตัวจากการเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดนี้แล้ว


    และถ้ามนุษย์ยังคงสร้างความแปดเปื้อนให้กับมหาสมุทรอยู่ต่อไป และยังฆ่าปลาวาฬและปลาโลมา
    ซึ่งมีพลังงานอันดีงามอยู่ต่อไปอีกหละก็ พี่น้องผู้ประเสริฐทั้งสองชนิดนี้ของพวกคุณ ก็อาจจะขอถอนตัวจากภาระหน้าที่นี้ก็ได้


    พวกคุณไม่รู้หรอกว่าปลาวาฬและปลาโลมาทั้งหลาย
    ได้แผ่พลังงานแห่งแสงสว่างออกมาสู่มหาสมุทรของพวกคุณมากแค่ไหน



    [​IMG]
    (obr969)

    คุณจะแปลกใจไหม๊ หากรู้ว่ามีพวกคุณหลายคนที่เป็นปลาโลมา ทั้งในปัจจุบันและในอดีตที่ผ่านมา
    เพราะว่าที่พวกคุณทำเช่นนั้น ก็เพื่อที่จะเสียสละตัวเอง เพื่อรับใช้ดาวเคราะห์โลกและมวลหมู่มนุษยชาติทั้งหลาย


    คุณเห็นไหม๊ว่า การเรียงตัวของโครงข่ายพลังงานของโลก, กระเปาะพลังงานของโลก (power nodes)
    และรูขาว (white holes) ทั้งหลายบนดาวเคราะห์ของพวกคุณ ไม่ได้มีอยู่เฉพาะบนพื้นดินแห้งๆเท่านั้น
    เพราะว่าในความเป็นจริงแล้ว ส่วนใหญ่พวกมันจะอยู่บนหรืออยู่ใต้น้ำ ซึ่งปกติปลาโลมา หรือมีบางกรณีที่ปลาวาฬ
    จะจัดเรียงพลังงานของพวกเขาให้เข้ากับจุดต่างๆเหล่านี้ เพื่อช่วยให้พลังงานของดาวเคราะห์โลกของพวกคุณเกิดความสมดุล


    สิ่งที่พวกคุณเรียกว่า “อาณาจักรเทวะ” (Devic Kingdom) นั้น มีรูปแบบของชีวิตที่อยู่ในมหาสมุทรและทะเลสาบ
    มากกว่าบนก้อนหิน, บนพื้นดิน และบนดิน



    (ยังมีต่อครับ)

    ……………………..

    <!--[if !supportLineBreakNewLine]--> <!--[endif]-->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • obr969.jpg
      obr969.jpg
      ขนาดไฟล์:
      48.3 KB
      เปิดดู:
      6,966
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ธันวาคม 2014
  8. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตมาจากท่านเมตาตรอน (Metatron)

    ผู้ รับการสื่อสาร: Tyberonn
    วันที่รับการสื่อสาร: 20 กรกฎาคม 2008
    ที่มา:
    http://www.earth-keeper.com/EKchronicles_20pdf.pdf

    เรื่อง: อาณาจักรใต้พิภพ, อาณาจักรเทวะ และ ปรากฏการณ์ UFO

    ตอนที่ 8

    <link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;} @font-face {font-family:Tahoma; panose-1:2 11 6 4 3 5 4 4 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:1627421319 -2147483648 8 0 66047 0;} @font-face {font-family:"\@Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; font-family:Arial; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Arial Unicode MS"; color:darkblue;} p {mso-margin-top-alt:auto; margin-right:0cm; mso-margin-bottom-alt:auto; margin-left:0cm; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; font-family:Tahoma; mso-fareast-font-family:"Times New Roman";} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> คำถาม: ท่านบอกว่ามีรูปธรรมชีวิตต่างมิติอาศัยอยู่ในมิติชั้นในของดาวเคราะห์โลกดวงนี้ด้วย
    และท่านบอกว่าพวกเขาอยู่ในมิติ “มิติแห่งโฮโลแกรม” (holographic dimension)


    มีหลายคนรายงานว่าได้พบเห็นยานบินของพวกเขาด้วย แต่ในความคิดเห็นของผม ผมคิดว่าถ้าพวกเขาอยู่ในระนาบอื่นๆ
    พวกเขาไม่น่าที่จะถูกพบเห็นหรือถูกรับรู้ได้ง่ายๆ กรุณาอธิบายให้พวกเราฟังหน่อยได้ไหมครับว่า
    มนุษย์โลกสามารถมองเห็นยานบินของพวกเขาได้หรือไม่?



    Metatron: คำถามนี้เป็นคำถามที่ซับซ้อนคำถามหนึ่งเลยทีเดียว ตอนนี้ให้เราอธิบายแบบนี้ดีกว่าว่า
    รูปธรรมชีวิตจากมิติอื่น, ระนาบอื่น, กาลเวลาอื่น และโลกอื่น เคยปรากฏตัวให้มนุษย์โลกได้เห็นจริงๆ ทั้งในอดีตและในปัจจุบันนี้

    การปรากฏตัวของพวกเขา บางครั้งก็สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าด้วยความบังเอิญจริงๆ
    และในบางครั้ง พวกเขาก็ปรากฏตัวให้มนุษย์โลกได้เห็นด้วยความตั้งใจ



    ในกรณีแรก เป็นเพราะว่ามนุษย์โลก บังเอิญหลงผ่านเข้าไปในม่านกาลเวลา ซึ่งกั้นระหว่างสนามพลังของปัจจุบัน, อดีต
    และอนาคตของพวกคุณ หรือไม่ก็เป็นเพราะว่ารูปธรรมต่างมิติเหล่านี้หลงเข้ามาอยู่ในม่านแห่งคลื่นความถี่ที่กั้นอยู่ระหว่างมิติหนึ่ง
    หรือระนาบหนึ่งกับอีกระนาบหนึ่งโดยบังเอิญ


    ซึ่งปกติแล้ว เมื่อเป็นเช่นนั้น พวกเขาก็จะสามารถถูกมองเห็นได้จากระนาบของพวกคุณ
    เช่นเดียวกับที่เมื่อพวกคุณบางคนหลงเข้าไปในอดีต หรือคล้ายอดีตแล้ว ผู้คนในยุคนั้นก็จะสามารถมองเห็นพวกคุณได้เช่นเดียวกัน



    ส่วนในกรณีที่เกิดขึ้นด้วยความตั้งใจนั้น ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยากเช่นนี้ เกิดขึ้นจากการกระตุ้น
    ให้ความตระหนักรู้ของจิตใต้สำนึกขยายตัวไปสู่จิตสำนึกในทันทีทันใด แล้วจิตสำนึกก็จะถูกกระตุ้นให้ตื่นตัว
    โดยการส่งผ่านความตระหนักรู้ดังกล่าว ให้เข้าไปสู่ลำดับชั้นของกาลเวลาที่แตกต่างกัน


    มันถูกสร้างขึ้นมาจากใจกลางหลากมิติของมิตินั้นๆโดยตรง และมันคือการพิสูจน์อะไรบางอย่างของพวกเขา
    แม้ว่ามันค่อนข้างจะไปรบกวนผู้ที่พบเห็นมันในเวลานั้นอยู่บ้างก็ตาม

    ซึ่งเขตแดนของมิติ และแบบจำลองเหล่านั้นทั้งหมด ปกติจะมีไว้สำหรับการฝึกฝนเท่านั้น



    (ยังมีต่อครับ)
    …………………
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ธันวาคม 2014
  9. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตมาจากท่านเมตาตรอน (Metatron)

    ผู้รับการสื่อสาร: Tyberonn
    วันที่รับการสื่อสาร: 20 กรกฎาคม 2008
    ที่มา:
    http://www.earth-keeper.com/EKchronicles_20pdf.pdf

    เรื่อง: อาณาจักรใต้พิภพ, อาณาจักรเทวะ และ ปรากฏการณ์ UFO

    ตอนที่ 9

    <link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;} @font-face {font-family:Tahoma; panose-1:2 11 6 4 3 5 4 4 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:1627421319 -2147483648 8 0 66047 0;} @font-face {font-family:"\@Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; font-family:Arial; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Arial Unicode MS"; color:darkblue;} p {mso-margin-top-alt:auto; margin-right:0cm; mso-margin-bottom-alt:auto; margin-left:0cm; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; font-family:Tahoma; mso-fareast-font-family:"Times New Roman";} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> คุณรู้ไหมว่า ในแต่ละมิติ ต่างก็มีวิชาวิทยาศาสตร์ และวิชาฟิสิกส์เป็นของตนเองที่ไม่เหมือนกัน
    เช่นเดียวกันกับที่มันมีสาขาวิชาทางวิทยาศาสตร์ และฟิสิกส์ที่แตกต่างกันมากมาย บนโลกมนุษย์ในมิตินี้นั่นแหละ


    ศาสตร์ทั้งหลายที่อาจจะนำไปสู่หลักการที่แตกต่างกันอย่างมาก ถูกพวกคุณมองข้ามไปซะเป็นส่วนใหญ่
    เช่น มันมีสาขาวิชาใหม่ของฟิสิกส์สาขาหนึ่ง ที่เปิดเผยความจริงมากมายเกี่ยวกับการขนย้าย (Transport),
    การเปลี่ยนรูป (Transmutation), และการเคลื่อนไหว (Locomotion)
    ได้มากกว่าวิทยาศาสตร์ที่พวกคุณยอมรับและเข้าใจ หรืออยากจะเข้าใจกันอยู่นี่ซะอีก

    และหากมนุษย์โลกได้ฝึกจิตจนมีจิตที่ละเอียดอ่อนมากพอ จนสามารถค้นพบกฎต่างๆของเทคโนโลยีจากนอกโลกได้แล้ว
    ความรู้ของพวกคุณ, วิธีการ และผลลัพธ์ของระบบขนส่งของพวกคุณก็คงจะแตกต่างและมีประสิทธิภาพมากกว่าที่เป็นอยู่นี้อย่างมาก



    นั่นเป็นเพราะว่า พวกคุณมัวแต่หมกมุ่นก็แต่กับเรื่องภายนอก
    และไม่สนใจใยดีกับ “ศักยภาพภายใน” ของตนเอง
    ที่อยู่ใน “จิตสำนึกอันศักดิ์สิทธิ์” เลย



    เวลานี้ เมื่อมนุษย์โลกตัดสินใจที่จะทุ่มเทการศึกษาให้กับศาสตร์ที่เรียกว่า
    “วิทยาศาสตร์การขนถ่าย และการอยู่ใน 2 สถานที่พร้อมกัน” (Science of Transportation and Bi-location) แล้ว
    และแน่นอนว่า มันเป็นวิทยาศาสตร์ที่มีความละเอียดอย่างมาก และมีกฎมากมาย ที่สามารถเรียนรู้และนำไปปฏิบัติได้จริงๆ

    เพราะฉะนั้น การเข้าไปเยี่ยมเยือนมิติคู่ขนานและเวกเตอร์อื่นๆ ที่อยู่ภายในกาลเวลาและอวกาศ
    ก็จะกลายเป็นสิ่งที่มีความบังเอิญน้อยลง และจะกลายเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะความจงใจหรือการวางแผนแทน



    เมื่อใดที่มนุษย์สามารถเรียนรู้และควบคุม “ฟิสิกส์แห่งจิต”
    (mental physics) ได้แล้ว
    เมื่อนั้นมนุษย์ก็จะสามารถปลดปล่อยตัวเอง
    ให้เป็นอิสระจากการติดอยู่ในตัวคัดกรองของมายาการ
    (filtering illusion) และเครื่องพรางแห่งความเป็นทวิภาวะ
    (duality camouflage) ของโลกในมิติทางกายภาพนี้ได้อย่างกว้างขวาง



    จริงๆแล้วพวกคุณเพิ่งจะเริ่มเข้าใจว่าทำไม “เมอร์ขะบะห์” (Merkabah) และ “เมอร์ขิวะห์”(Merkivah)
    เมื่อถูกปรับจูนโดยจิตให้เข้ากับสนามคริสตัล (crystalline field) แล้ว จึงสามารถปลดล็อคกุญแจนี้ได้

    นี่คือส่วนหนึ่งของสิ่งที่จะกลายเป็นสิ่งที่พวกคุณจะต้องปรับปรุงใหม่ เพราะว่าโครงข่ายทั้ง 144 เส้น
    และเครือข่ายของพลังงานคริสตัล (crystalline energy) จะทำให้พวกคุณบางคนพยายามทุ่มเทความสนใจ
    ไปในศาสตร์ศักดิ์สิทธิ์นี้

    คุณเห็นไหม๊ว่าศาสตร์ทุกศาสตร์ จะต้องมี “สิ่งศักดิ์สิทธิ์” (divine)
    เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยเสมอ
    ซึ่งนี่แหละคือสิ่งที่ระบบการศึกษาหลักในปัจจุบันของพวกคุณ
    ละเลยอย่างสิ้นเชิงมาโดยตลอด



    (ยังมีต่อครับ)

    …………………..

    <!--[if !supportLineBreakNewLine]--> <!--[endif]-->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ธันวาคม 2014
  10. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตมาจากท่านเมตาตรอน (Metatron)

    ผู้รับการสื่อสาร: Tyberonn
    วันที่รับการสื่อสาร: 20 กรกฎาคม 2008
    ที่มา:
    http://www.earth-keeper.com/EKchronicles_20pdf.pdf

    เรื่อง: อาณาจักรใต้พิภพ, อาณาจักรเทวะ และ ปรากฏการณ์ UFO

    ตอนที่ 10

    <link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;} @font-face {font-family:Tahoma; panose-1:2 11 6 4 3 5 4 4 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:1627421319 -2147483648 8 0 66047 0;} @font-face {font-family:"\@Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; font-family:Arial; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Arial Unicode MS"; color:darkblue;} p {mso-margin-top-alt:auto; margin-right:0cm; mso-margin-bottom-alt:auto; margin-left:0cm; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; font-family:Tahoma; mso-fareast-font-family:"Times New Roman";} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> เพราะฉะนั้น เรามาย้อนกลับไปที่คำถามและหัวข้อเรื่องกันดีกว่า จุดสำคัญมันอยู่ที่ว่า
    ชาวโลกที่บอกว่าตนเองพบเห็นยานบินจากนอกโลก หรือพบเห็นสิ่งที่พวกคุณเรียกว่า “จานบิน”
    นั้น
    ไม่ได้หมายความว่าจานบินเหล่านั้นอยู่ที่นั่นจริงๆเลย แม้ว่าจะมีหลายคนมากที่อ้างว่าได้เห็นมากับตาตัวเองจริงๆก็ตาม

    แต่ก็มีบ้างที่มีจานบินอยู่ตรงนั้นจริงๆ แต่ก็น้อยมากๆ และผู้ที่พบเห็นยานบินเหล่านั้น
    ส่วนใหญ่แล้วจะมองเห็นด้วยความตระหนักรู้แบบพิเศษมากกว่า ไม่ได้มองเห็นด้วยตาเนื้อธรรมดา
    เพราะว่าความจริงก็คือ ยานบินส่วนใหญ่ที่กำลังท่องไปในสนามพลังของมิติคู่ขนานมิติใดมิติหนึ่ง
    จะมีเกราะป้องกันไม่ให้พวกคุณมองเห็นได้ โดยอาศัยคลื่นความถี่ของมิตินั้นๆจริงๆ เป็นเครื่องพรางกั้น

    เพราะฉะนั้น ถ้าจะพูดให้ถูกต้องแล้ว ก็จะต้องบอกว่า
    ส่วนใหญ่แล้วยานบินเหล่านั้นไม่ได้อยู่ และไม่สามารถอยู่ที่นั่น
    ในมิติของพวกคุณจริงๆได้
    แต่ที่พวกมันถูกพบเห็น
    ในกรณีที่เป็นการพบเห็นจริงๆ มันคือภาพสะท้อนของพวกมัน
    มันคือภาพสะท้อนทางพลังงานของพวกมัน ที่เข้าไปปรากฏอยู่ในมิติของพวกคุณ
    เพราะว่าพลังงานของพวกมันได้เข้าไปสู่สเปกตรัมของมิติของโลก
    ในชั่วขณะที่เกิดการล่าช้าจากความเร็วของแสง
    และชั้นต่างๆของรูหนอนในอวกาศ (space-hole folds)



    [​IMG]
    (obr022-023)


    อะตอม, พลาสมา และโมเลกุลต่างๆที่ประกอบกันขึ้นเป็น “ยานบิน” นั้นๆ ถูกสร้างขึ้นมาจากรูปแบบทางกายภาพ
    ที่มีพันธะยึดเหนี่ยวทางโครงสร้าง และมีการเรียงตัวทางกายภาพ สอดคล้องกับธรรมชาติ
    และรูปแบบของมิติของพวกมันเองโดยเฉพาะ


    ทีนี้ ถ้ายานบินลำใดบินเข้ามาสู่ระนาบของพวกคุณ การบิดเบือนอย่างรุนแรง ก็จะเกิดขึ้น
    ซึ่งจะทำให้โครงสร้างที่แท้จริงของมันมากก็จะตกอยู่ในสภาวะวิกฤติ ระหว่างการเปลี่ยนรูปแบบตัวมันเอง
    ไปเป็นวัสดุที่มีอยู่ในมิติของพวกคุณโดยสมบูรณ์แบบ กับการพยายามรักษารูปแบบดั้งเดิมของตัวมันเองไว้


    ชาวโลกที่พบเห็นยานบินดังกล่าวนั้น เพราะพยายามที่จะเชื่อมโยงสิ่งที่ตนเองพบเห็น
    ให้เข้ากับระบบความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องจักรวาลของพวกเขาเอง

    เพราะฉะนั้น ผลลัพธ์สุดท้ายของสิ่งที่ชาวโลกผู้ที่เชื่อว่าพวกเขาได้พบเห็นยานบิน ก็คือ
    พวกเขามองเห็นยานบินรูปร่างแปลกๆ และพร่ามัว เหมือนกำลังอยู่ในแสงสว่างที่กำลังหมุนอยู่

    แต่ว่าความจริงแล้ว มันไม่ใช่เลย ยานบินจะรักษาสภาพโครงสร้างเดิมของมันเอาไว้ เท่าที่มันจะทำได้
    และเปลี่ยนรูปแบบโครงสร้างของมันเอง ในส่วนที่จำเป็นจะต้องเปลี่ยน เพื่อให้เข้ากับกฎของระนาบแห่งมิติใหม่นั้นๆได้


    เพราะว่าชาวโลกเมื่อได้เห็นภาพเดียวกันนี้แล้ว ก็แปรความหมายเอาเองตามความเชื่อและภูมิปัญญาของตนเอง
    เพราะฉะนั้น สิ่งที่พวกเขารายงานเกี่ยวกับรูปร่าง, ขนาด และสีของมัน จึงผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริงไปมาก

    มีน้อยครั้งที่ยานบินถูกพบเห็นในมุมที่ถูกต้อง ตรงกับที่มันถูกสร้างมา ตามที่ปรากฏอยู่ในมิติของมันเองจริงๆ



    (ยังมีอยู่ครับ)

    …………………..

    <!--[if !supportLineBreakNewLine]--> <!--[endif]-->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • obr022-023.jpg
      obr022-023.jpg
      ขนาดไฟล์:
      53.8 KB
      เปิดดู:
      7,064
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ธันวาคม 2014
  11. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตมาจากท่านเมตาตรอน (Metatron)

    ผู้รับการสื่อสาร: Tyberonn
    วันที่รับการสื่อสาร: 20 กรกฎาคม 2008
    ที่มา:
    http://www.earth-keeper.com/EKchronicles_20pdf.pdf

    เรื่อง: อาณาจักรใต้พิภพ, อาณาจักรเทวะ และ ปรากฏการณ์ UFO

    ตอนที่ 11

    <link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;} @font-face {font-family:Tahoma; panose-1:2 11 6 4 3 5 4 4 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:1627421319 -2147483648 8 0 66047 0;} @font-face {font-family:"\@Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; font-family:Arial; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Arial Unicode MS"; color:darkblue;} p {mso-margin-top-alt:auto; margin-right:0cm; mso-margin-bottom-alt:auto; margin-left:0cm; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; font-family:Tahoma; mso-fareast-font-family:"Times New Roman";} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> ดังนั้น สิ่งที่ดูเหมือนจริงเหลือเกินสำหรับพวกคุณ อย่างมากมันก็เป็นแค่ภาพที่บิดเบือนเท่านั้นเอง

    ยานบินส่วนมาก มาจากมิติและระนาบที่มีความก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมากกว่าพวกคุณมากมายนัก
    ยานบินที่พวกคุณพบเห็น แม้แต่ที่เป็นภาพที่บิดเบือนนั้นก็ตาม ก็ไม่ได้ถูกสร้างมาจากสิ่งที่พวกเราเรียกว่า
    “ระนาบที่สูงกว่าของความคิดที่บริสุทธิ์” หรือ “ระนาบแห่งจิตสำนึก-วิทยาศาสตร์” เลย




    เพราะฉะนั้น ภาพสะท้อนจากคุณสมบัติบางอย่างของเครื่องพราง บางครั้งจึงดูเหมือนว่าสามารถมองเห็นได้
    ยานบินเหล่านี้ ที่ตั้งใจเดินทางมาที่มิติของพวกคุณ จะมาอยู่เพียงแค่ประเดี๋ยวประด๋าวเท่านั้น
    เพราะว่ายานพาหนะจากอวกาศชั้นในเหล่านี้ ไม่สามารถอยู่ในระนาบของพวกคุณได้นานๆ
    เพราะว่ามันมีเรียงตึงเครียดมหาศาลเกิดขึ้น ที่จะไปบีบอัดความแข็งแกร่งของโครงสร้างของยานบินเข้า
    และแรงบีบอัดเหล่านี้ก็สามารถทำให้เกิดแรงกดดันอย่างมหาศาลขึ้น จนสามารถทำให้ยานบินเหล่านั้นสลายตัวไปในอากาศ
    ภายในระยะเวลาไม่นาน ได้เลยทีเดียว



    การจะทำให้โครงสร้างของยานบินเปลี่ยนรูปแบบกลายเป็นวัตถุธาตุทางกายภาพ เพื่อให้เข้ากันได้กับกฎทางฟิสิกส์ของพวกคุณ
    ซึ่งอยู่ต่างมิติกันแบบนี้ จำเป็นจะต้องได้รับการฝึกฝน และในเวลานี้ จึงไม่มียานบินใดๆที่สามารถอยู่ได้ในมิติของพวกคุณ
    โดยไม่มีขีดจำกัดด้านเวลาเลย


    เปรียบเทียบคร่าวๆก็จะเหมือนกับ การที่เรือดำน้ำของพวกคุณ ถ้าลงไปลึกเกินระดับลึกสุดที่มันสามารถจะลงไปได้แล้ว
    มันก็จะประคองตัวเองไว้ไม่ให้ได้รับความเสียหายได้อย่างยากลำบาก และในไม่ช้ามันก็จะได้รับความเสียหาย
    จากความดันที่สูงเกินจะทนรับได้ในที่สุด คุณเข้าใจไหม๊?

    ดังนั้น รูปร่างของยานบินที่พวกคุณเห็น มันจึงเป็นรูปร่างลวงตา ที่บิดเบี้ยวไปจากความเป็นจริงของมัน

    มีหลายครั้งที่ชาวโลกรายงานว่าพบเห็นยานบินรูปทรงซิการ์ หรือยาวๆเหมือนบุหรี่ซิการ์ แต่ในความเป็นจริงแล้ว
    นั่นก็เป็นการมองเห็นที่บิดเบือนเหมือนกัน และมันก็ไม่ได้มีส่วนสัมพันธ์อะไรกับรูปร่างที่แท้จริงของมัน
    ที่ถูกถูกออกแบบมาอย่างสลับซับซ้อน และถูกมองเห็นในมิติบ้านเกิดของมันเองเลยแม้แต่น้อย



    (ยังมีต่อครับ)

    ………………………

    <!--[if !supportLineBreakNewLine]--> <!--[endif]-->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ธันวาคม 2014
  12. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตมาจากท่านเมตาตรอน (Metatron)

    ผู้รับการสื่อสาร: Tyberonn
    วันที่รับการสื่อสาร: 20 กรกฎาคม 2008
    ที่มา:
    http://www.earth-keeper.com/EKchronicles_20pdf.pdf

    เรื่อง: อาณาจักรใต้พิภพ, อาณาจักรเทวะ และ ปรากฏการณ์ UFO

    ตอนที่ 12

    <link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;} @font-face {font-family:Tahoma; panose-1:2 11 6 4 3 5 4 4 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:1627421319 -2147483648 8 0 66047 0;} @font-face {font-family:"\@Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; font-family:Arial; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Arial Unicode MS"; color:darkblue;} p {mso-margin-top-alt:auto; margin-right:0cm; mso-margin-bottom-alt:auto; margin-left:0cm; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; font-family:Tahoma; mso-fareast-font-family:"Times New Roman";} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> เราอยากจะบอกพวกคุณว่า มีชาวโลกหลายคนที่เชื่อเหลือเกินว่าการพบเห็นจานบินของพวกเขาเป็นเรื่องจริง
    แม้ว่ามันจะมาจากภาพที่พวกเขาสร้างขึ้นมาเองบ่อยๆก็ตาม



    ตอนพวกคุณเป็นเด็ก มีพวกคุณกี่คนที่เคยเห็นซานตา คลอส อยู่บนท้องฟ้า นั่งอยู่บนรถเลื่อนที่ถูกลากด้วยกวางเรนเดียร์จริงๆบ้าง

    ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ซานตา คลอส ของพวกคุณ ก็มีตัวตนอยู่จริงๆ และมีความตระหนักรู้อยู่จริงๆซะด้วย
    เพราะว่าพวกคุณได้ป้อนอาหารให้แก่ “สิ่งมีชีวิตในรูปแบบความคิด” (thought form life) ของพวกคุณ
    ผ่านทางระบบความเชื่อของพวกคุณเองอยู่เสมอ


    [​IMG]


    และอันที่จริงแล้ว “ตัวละคร” มากมายจากนวนิยายของพวกคุณ ก็มีตัวตนอยู่จริงๆ และมีการตระหนักรู้อยู่จริงๆด้วยเช่นกัน
    แต่อยู่ในรูปแบบของความคิดหรือจิต ที่ถูกสร้างขึ้นมาจากกระแสจิตของผู้คนจำนวนมาก

    คุณจะเห็นว่าพวกคุณมีความคิดสร้างสรรค์กันมากแค่ไหน เพราะว่าโดยแท้จริงแล้ว มันเป็นความสามารถอย่างหนึ่ง
    ของ “วิทยาศาสตร์ทางจิต” (Mental Science) ของพวกคุณเอง ที่ทำให้มันสัมฤทธิผล และสำแดงตัวตนออกมาได้
    เพราะระบบความเชื่อของพวกคุณ



    (ยังมีต่อครับ)

    ……………………
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ธันวาคม 2014
  13. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ยังไม่จบครับ แต่เดี๋ยวค่อยมาต่อวันหลังนะครับ
    วันนี้มึนแล้วครับ


    ...................................................
     
  14. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    อ่านที่บอกว่ารูปร่างจานบินมันจะบิดเบือนไปจากของจริงเพราะว่าอยู่กันคนละมิตินั้น ทำให้นึกถึง Lacerta ตอน 2 เลย ที่อธิบายเกี่ยวกับจานบิน

    แต่ของ Lacerta จะใช้ศัพท์วิทยาศาสตร์เยอะหน่อย


    ส่วนเรื่องที่ว่าทุกความคิดของเราจะเกิดขึ้นจริงเสมอแม้ว่าจะเป็นเรื่องราวในนิยายที่แต่งขึ้นเองก็ตาม ก็เหมือนกับที่โนวา อนาลัยว่าไว้เลย ซึ่งมันจะไปเกิดในสถานที่ที่เหมาะสม ไม่จำเป็นต้องเป็นบนโลกนี้เสมอไป เหมือนเมล็ดพืชที่ล่องลอยไปเติบโตในสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสม

    ด้วยเหตุนี้เราจึงได้ยินคำสอนทางศาสนาว่าให้ระวังความคิดตัวเองให้ดี
     
  15. TheLionSleepsNoMore

    TheLionSleepsNoMore เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    171
    ค่าพลัง:
    +1,211
    ขอบคุณครับ(f) สำหรับบทความดีๆ:cool: ที่นำให้อ่าน ลงมาเรื่อยๆ เลยนะครับ

    ป.ล. รักษาสุขภาพด้วยนะครับ เป็นห่วง :boo::boo:
     
  16. ลูกท่าน

    ลูกท่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    393
    ค่าพลัง:
    +1,649
    รออ่านตอนต่อไปอยู่นะครับ
    ขอบคุณสำหรับข้อมูลต่างๆ
    ทำให้การวิเคราะห์ของเรา
    มีขอบเขตที่กว้างออกไปได้อย่างไม่สิ้นสุด
    เราไม่ควรบีบความคิดตัวเอง
    ในกรอบที่เราเคยคิดว่า "มันมีกรอบ" อยู่แค่นั้น

    การเรียนรู้มีอีกมากมาย
    หากเปิดใจให้กว้าง
     
  17. 1redstar

    1redstar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +1,366
    ช่วงปีใหม่ ๒๕๕๓ ไปคุยกับ
    หลวงปู่ ในดง อดีตชาติ เคยสร้างจานบิน
    เล่าให้ฟังว่า มนุษย์ต่างดาว หรือจานบินที่เราเห็น มาจากมิติคู่ขนาน
    ที่อยู่ซ้อนกันกับโลกมนุษย์นี่เอง

    หลวงปู่ เล่าว่า การควบคุมจานบินนั้น ใช้พลังจิตร่วมด้วย มิใช่ใช้แต่เครื่องยนต์กลไกเท่านั้น
    นักบินจิตต้องนิ่งมาก ๆ จนกระทั่งจานบิน และตัวนักบิน ประหนึ่งว่า รวมกันเป็นวัตถุเดียวกัน หาไม่แล้ว จานบินจะบินล่วงจากฟ้า

    หลวงปู่ คุยสนุก ทุกเรื่อง โลกมนุษย์ โลกกายทิพย์

    โดยเฉพาะเรื่องการเมือง อยู่ในป่าแท้ ๆ ยังวิจารณ์ได้อย่างเฉียบคม สงสัยจะดูจากอดีตชาติ..
    หลวงปู่บอกว่า..ตอนที่ประเทศสยาม พินาศย่อยยับ ก็พากันไปอันเชิญท่านมากู้ชาติ สร้างบ้านสร้างอาณาจักร..
    พอมาสมัยนี้ นักการเมืองคิดละโมภในอำนาจ ก็พากันรวมหัวไปขับไล่ไสส่งท่าน เสียให้พ้นจากหนทางอำนาจ
    หลวงปู่เคยบอกเป็นนัย ๆ ว่า มีแกนนำ ชาตาขาด ซึ่งตอนนั้นไม่รู้ว่าเป็นใคร เพราะหลวงปู่ไม่ยอมบอก

    หลวงปู่ แจ้งว่า หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน สุดยอดที่สุดในสยาม ในเรื่องของการสื่อเจ้ากรรมนายเวรให้แก้กรรม ได้แทบทุกกรณี
    เพียงแค่เอาพานและของที่ถูกกับกรณี ไปถวายหลวงพ่อจรัญ พิธีการมีแค่นั้นเอง..น้อยคนที่ทราบเรื่องนี้
    คนที่จะสามารถทำหน้าที่ สื่อเจ้ากรรมนายเวรแก้กรรม แทนหลวงพ่อจรัญ
    หลวงปู่ บอกว่า ยังนึกไม่ออก
    หลวงปู่บอกว่า หลวงพ่อจรัญ ใกล้จะละสังขารเต็มทนแล้ว อาจจะภายในปี สองปีนี้ ให้รีบ ๆ ไป หาท่าน
    ก็เลยสงสัย ก็ถามหลวงปู่ว่า หลวงพ่อจรัญ หน้าตา ผ่องใสมาก
    หลวงปู่จึงตอบว่า จะไม่ให้ผ่องใสได้ไง ก็คนกำลังจะไปรับ lottery รางวัลที่ ๑ (พระนิพพาน)

    อีกเรื่องนึง หลวงปู่ บอกว่าต่อไป จะไม่ค่อยได้เห็น บั้งไฟพญานาค แล้ว
    เนื่องจาก หลวงปู่ไป ถอนมนต์ที่สกด พญานาคเอาไว้
    สาเหตุที่เราเห็นบั้งไฟพญานาค ก็เพราะพญานาคดังกล่าว จะหลุดจากมนต์สกด เฉพาะในคืนวันออกพรรษา เท่านั้น
    และจะหาวออกมาเป็นดวงไฟ
    แต่พญานาค ก็สัญญาจะพยายาม พ่นดวงไฟออกมา แต่คงไม่มากนัก เพราะบังคับการหาวไม่ได้

    หลวงปู่ชราภาพ มากแล้ว นอนอาพาธในถ้ำ ลุกเดินไปเดินมา ก็ไม่ค่อยได้
    บอกว่าคงจะเกิดเป็นชาติสุดท้ายแล้ว

    และได้ซื้อที่ดินเอาไว้จำนวนหนึ่ง บอกว่าจะให้คนมาปฏิบัติธรรม
    แต่ก็พูดเป็นนัย ๆ ว่า เพื่อรองรับคนที่จะหนีจากภัยน้ำท่วมโลก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กรกฎาคม 2010
  18. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตมาจากท่านเมตาตรอน (Metatron)

    ผู้รับการสื่อสาร: Tyberonn
    วันที่รับการสื่อสาร: 20 กรกฎาคม 2008
    ที่มา:
    http://www.earth-keeper.com/EKchronicles_20pdf.pdf

    เรื่อง: อาณาจักรใต้พิภพ, อาณาจักรเทวะ และ ปรากฏการณ์ UFO

    ตอนที่ 13

    <link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} @font-face {font-family:"Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;} @font-face {font-family:Tahoma; panose-1:2 11 6 4 3 5 4 4 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:1627421319 -2147483648 8 0 66047 0;} @font-face {font-family:"\@Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; font-family:Arial; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Arial Unicode MS"; color:darkblue;} p {mso-margin-top-alt:auto; margin-right:0cm; mso-margin-bottom-alt:auto; margin-left:0cm; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; font-family:Tahoma; mso-fareast-font-family:"Times New Roman";} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> แต่ก็อย่าเข้าใจผิดไปว่าสิ่งมีชีวิตนอกโลกจะมีเพียงที่อยู่ในมิติต่างๆเท่านั้น
    เพราะว่ามันมีรูปธรรมชีวิตมากมายดาษดื่นอยู่ในเอกภพเต็มไปหมด และอันที่จริงแล้ว
    มันก็มีอีกมากมายที่อยู่ภายใน และอยู่บนดาวเคราะห์โลกของพวกคุณด้วย

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เป็นบรรพบุรุษของพวกคุณเอง ที่กำลังทำงานร่วมกับพวกคุณ
    ในกระบวนการเลื่อนระดับขึ้น (ascension) และกระบวนการพัฒนาโลกใบนี้อยู่ในขณะนี้
    ซึ่งในบรรดารูปธรรมที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตากรุณาเหล่านี้ กลุ่มที่เป็นที่รู้จักกันมากที่สุด
    ก็คือชาวกลุ่มดาวลูกไก่ (Pleades), ชาวกลุ่มดาวซีรีอุส A และ B (Sirius A and B),
    ชาวกลุ่มดาวแอนโดรมีด้า (Andromeda) และชาวกลุ่มดาวอาร์คทูริอุส (Arcturius)



    อันที่จริงแล้ว พวกคุณหลายคน เคยอยู่ในยุคแอตแลนติสมาก่อน เหมือนๆกับรูปธรรมชีวิตเหล่านี้แหละ
    และพวกคุณก็เคยอยู่ร่วมกันกับพวกเขาด้วย แต่อยู่ในมิติคู่ขนานกัน แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาเดียวกันก็ตาม
    อย่างที่เราได้บอกท่านไปแล้วก่อนหน้านี้

    ความจริงแล้ว รูปธรรมชีวิตเหล่านี้ สามารถดำรงอยู่ในรูปกายเนื้อได้บนดาวเคราะห์โลกของพวกคุณ
    และพวกเขาก็ได้ทำเช่นนั้นมาแล้วเป็นเวลานานแสนนาน แต่นี่ก็ไม่บ่อยเท่ากับการเปลี่ยนรูปแบบ
    โดยใช้วิทยาศาสตร์ทางจิต หรือการควบคุมอำนาจจิต


    ยานอวกาศของพวกเขา ไม่มาปรากฏในมิติของพวกคุณอย่างที่พวกคุณหลายคนจินตนาการไว้
    เพราะความจริงแล้วรูปธรรมชีวิตเหล่านี้ ใช้ประโยชน์จากสิ่งที่เรียกว่าเทคโนโลยีประตูมิติหรือสตาร์เกต (Stargate)
    เพื่อช่วยให้พวกเขามาปรากฏตัวที่มิติของพวกคุณได้ ซึ่งมันก็คล้ายๆกับ “การบีม” (beaming)
    ในหนังเรื่องสตาร์เทร็ก (Star-Trek) ของพวกคุณนั่นแหละ



    [​IMG]

    (ยังมีต่อครับ)
    …………………

    <!--[if !supportLineBreakNewLine]--> <!--[endif]-->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ธันวาคม 2014
  19. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตมาจากท่านเมตาตรอน (Metatron)

    ผู้รับการสื่อสาร: Tyberonn
    วันที่รับการสื่อสาร: 20 กรกฎาคม 2008
    ที่มา:
    http://www.earth-keeper.com/EKchronicles_20pdf.pdf

    เรื่อง: อาณาจักรใต้พิภพ, อาณาจักรเทวะ และ ปรากฏการณ์ UFO

    ตอนที่ 14

    <link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} @font-face {font-family:"Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;} @font-face {font-family:Tahoma; panose-1:2 11 6 4 3 5 4 4 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:1627421319 -2147483648 8 0 66047 0;} @font-face {font-family:"\@Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; font-family:Arial; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Arial Unicode MS"; color:darkblue;} p {mso-margin-top-alt:auto; margin-right:0cm; mso-margin-bottom-alt:auto; margin-left:0cm; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; font-family:Tahoma; mso-fareast-font-family:"Times New Roman";} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> ตอนนี้ ระนาบระหว่างมิติต่างๆ แห่งโลกหลากมิติ สามารถรวมกัน และก็ได้รวมเข้าด้วยกันแล้วในดาวเคราะห์หลายดวง
    เหมือนกันกับบนดาวเคราะห์โลกของพวกคุณ และบ่อยครั้งที่พวกเขา ไม่ตระหนักรู้ หรือรู้สึกถึง
    รูปธรรมชีวิตที่อยู่ในระนาบอื่นๆที่อยู่บนดาวดวงเดียวกันนั้นเลย


    คุณรู้ไหมว่า ระนาบของมิติคู่ขนาน บ่อยครั้งที่จะมีลักษณะโฮโลแกรม (hologramic) โดยธรรมชาติ
    เพราะฉะนั้น พวกมันจึงไม่จำเป็นต้องอาศัย “พื้นที่ว่าง” ในการดำรงอยู่เลย
    พวกมันไม่ใช่สถานที่จริงๆในนิยาม หรือ หลักการเกี่ยวกับ “สถานที่” ของพวกคุณ

    ระนาบโฮโลแกรมคู่ขนานใดๆ อาจจะเป็นภพภูมิแห่งจิต ที่แทรกอยู่ในกาลเวลาใดกาลเวลาหนึ่งก็ได้
    หรือมันอาจจะเป็นภพภูมิพิเศษเฉพาะที่อยู่อย่างเดี่ยวๆก็ได้ แต่สิ่งเหล่านี้ ก็ไม่ได้ทำให้ความมีอยู่ของมัน
    ลดน้อยถอยลงแต่ประการใด



    ความจริงแล้วงานศิลปะของคริสโต (Christo Vladimirov Javacheff) จำนวนมากมาย
    ก็เป็นการสอดแทรกโฮโลแกรมเข้าไปอย่างตั้งใจแบบนั้นเหมือนกัน การสอดแทรกโฮโลแกรม
    อาจจะดำรงอยู่ในแค่ในช่วงเวลาหนึ่ง แล้วหลังจากนั้นก็หายไป เพราะว่ามันไม่ใช่ “สถานที่”
    ที่แท้จริงในเอกภพ

    การสอดแทรกโฮโลแกรมใดๆ จะถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้รูปธรรมชีวิตทั้งหลาย
    ใช้เติมเต็มอารมณ์และเติมเต็มบทเรียน ในระดับต่างๆ
    กัน

    มนุษย์โลกมักจะไม่รู้ว่า “อารมณ์ความรู้สึก” และ “จินตนาการ” มีความสำคัญและให้ผลลัพธ์ออกมาได้มากแค่ไหน
    ทั้งสองอย่างนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุดในวิทยาศาสตร์ทางจิต (Mental science) เลยทีเดียว

    เพราะว่าในความเป็นจริงแล้ว สภาวะของอารมณ์ และสิ่งที่พวกคุณเรียกว่า “จินตนาการ”
    หรือความคิดเพ้อฝันนั้น มันคือ “ระนาบแห่งมิติ” และความจริงแล้ว ระนาบแห่งมิติหนึ่งๆ
    ก็มีความคล้ายคลึงกันกับสภาวะอารมณ์ใดอารมณ์หนึ่งนั่นเอง ซึ่งถ้าเปรียบเทียบแบบนี้แล้ว
    มันจะเหมาะสมและสมเหตุสมผลมากกว่าการที่จะไปเปรียบเทียบระหว่าง “ระนาบ” กับ “สถานที่” ซะอีก


    [​IMG]

    (ยังมีต่อครับ)
    ………………………


    <!--[if !supportLineBreakNewLine]--> <!--[endif]-->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ธันวาคม 2014
  20. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตมาจากท่านเมตาตรอน (Metatron)

    ผู้รับการสื่อสาร: Tyberonn
    วันที่รับการสื่อสาร: 20 กรกฎาคม 2008
    ที่มา:
    http://www.earth-keeper.com/EKchronicles_20pdf.pdf

    เรื่อง: อาณาจักรใต้พิภพ, อาณาจักรเทวะ และ ปรากฏการณ์ UFO

    ตอนที่ 15

    <link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} @font-face {font-family:"Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;} @font-face {font-family:Tahoma; panose-1:2 11 6 4 3 5 4 4 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:1627421319 -2147483648 8 0 66047 0;} @font-face {font-family:"\@Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; font-family:Arial; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Arial Unicode MS"; color:darkblue;} p {mso-margin-top-alt:auto; margin-right:0cm; mso-margin-bottom-alt:auto; margin-left:0cm; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; font-family:Tahoma; mso-fareast-font-family:"Times New Roman";} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> ตอนนี้ ชาวกลุ่มดาวลูกไก่ และดาวซีรีอุส ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของ DNA ของพวกคุณ
    กำลังทำงานอย่างใกล้ชิดอยู่กับมนุษย์โลก และหากจะพูดตามภาษาของพวกคุณ ที่เข้าใจว่าเวลาเป็นเส้นตรงแล้ว
    ก็น่าจะพูดได้ว่า รูปธรรมชีวิตผู้เปี่ยมไปด้วยความเมตตากรุณาเหล่านี้ เคยทำงานกับพวกคุณมาแล้ว
    ทั้งในอดีต, ปัจจุบัน และในอนาคต
    พวกเขาพยายามทำทุกวิถีทาง เพื่อที่จะช่วยให้มนุษย์โลก ได้ "อำนาจอันยิ่งใหญ่ที่แท้จริงของตนเอง" กลับคืนมา


    รูปธรรมชีวิตเหล่านี้ทำงานกับสนามแรงโน้มถ่วง, ระบบโครงข่ายแม่เหล็ก,
    ระบบการหมุนเวียนของกระแสลมและกระแสน้ำ และระบบทางเข้าออกของดาวเคราะห์โลกของพวกคุณ
    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การอัพเกรดประตูมิติของโลกที่กำลังมีการปรับปรุงกันใหม่อยู่ในขณะนี้
    เพราะเหตุนี้ พวกเขาจึงได้พัฒนาวิธีการที่จะให้สามารถอยู่ร่วมกันกับพวกคุณให้ได้ในระดับหนึ่ง
    และเพื่อที่จะให้สามารถปรากกกายของตนเองให้สามารถอาศัยอยู่ภายในและอยู่บนโลกของพวกคุณได้



    พวกเขามักจะสร้างรูปวงกลมที่บรรจุรหัสของข้อความบางอย่างเอาไว้ เพื่อช่วยเหลือพวกคุณในด้านต่างๆมากมาย
    ซึ่งส่วนหนึ่งของวงกลมที่ว่านี้ก็คือ “วงกลมปริศนาแห่งท้องทุ่ง” (Crop circle) นั่นเอง

    วงกลมปริศนาเหล่านี้ถูกส่งออกมา โดยเริ่มแรกจะออกมาในรูปของกระแสจิตแห่งแสงสว่างที่เข้มข้นก่อน
    จากนั้นก็จะไปรวมเข้ากับสนามแม่เหล็กไฟฟ้าของโลก เพื่อสร้างให้เกิดรูปสัญลักษณ์ต่างๆ ตามที่ได้ตั้งโปรแกรมเอาไว้



    [​IMG]
    (energy in space)


    วงกลมปริศนาเหล่านี้ มีพลังงานไฟฟ้าสูงโดยธรรมชาติอยู่แล้ว ดังนั้นชาวโลกที่เคยเข้าไปนั่งในวงกลมปริศนา
    ที่เพิ่งสร้างเสร็จใหม่ๆนี้ จึงสามารถยืนยันถึงความแรงของพลังงานที่มีอยู่ในนั้นได้



    (ยังมีต่อครับ)

    …………………………

    <!--[if !supportLineBreakNewLine]--> <!--[endif]-->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ธันวาคม 2014

แชร์หน้านี้

Loading...