ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    สงขลา-ไข้เลือดออกระบาดหนัก

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    สาธารณสุขจังหวัดสงขลา เผย 6 เดือนที่ผ่านมาพบผู้ป่วยไข้เลือดออกในพื้นที่แล้วเกือบ 2,000 คน เสียชีวิตแล้ว 5 คน

    สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา เผยว่าจากข้อมูลเฝ้าระวังทางระบาดวิทยา ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.- 3 ก.ค.53 จ.สงขลา พบผู้ป่วยไข้เลือดออก 1,905 คน เสียชีวิต 5 คน อำเภอที่พบผู้ป่วยมากที่สุด คือ อำเภอสะเดา รองลงมาคือ นาทวี บางกล่ำ สะบ้าย้อย และควนเนียง กลุ่มอายุที่พบมากที่สุด เฉลี่ยอยู่ที่ 15-24 ปี รองลงมาคือ 10-14 ปี

    อาการของโรคไข้เลือดออกในเบื้องต้น คือมีไข้สูง หลังรับประทานยาลดไข้ก็ยังมีไข้อยู่แต่ไข้จะลดลง มีอาการปวดศีรษะ อาจปวดกระบอกตา ปวดตามตัว เช่น ปวดกระดูกหรือกล้ามเนื่อ มีจุดเลือดออกตามผิวหนัง เลือดกำเดาไหล หรือเลือดออกตามไรฟัน บางรายมีผื่น อาการทั่วไปอื่นๆที่พบ มีคลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร ปวดท้อง

    อาการที่บ่งชี้ว่าควรมาพบแพทย์ ทันที คือไข้ลดต่ำลง หรือไม่มีไข้แต่ยังอ่อนเพลีย ไม่สามารถทำกิจกรรมตามปกติ หรือไม่สามารถรับประทานอาหารได้ อาการนำของภาวะช็อกที่ต้องสังเกตและพาผู้ป่วยไปโรงพยาบาลทันที

    โดยเฉพาะเวลาไข้ต่ำลงหรือไม่มีไข้ได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน หรือปวดท้องมาก กระสับกระส่าย มีเลือดออกมาก เช่นเลือดกำเดาหรือถ่ายอุจจาะเป็นสีดำ กระหายน้ำ ตลอดเวลา ปัสสาวะน้อยลง หรือไม่ถ่ายปัสสาวะนานเกิน 4-6 ชั่วโมง

    สำหรับเด็กทารกอาจมีอาการร้องกวนไม่หยุด หากมีอาการดังกล่าวข้อใดข้อหนึ่งผู้ปกครองควรพาบุตรหลานมาพบแพทย์ทันที โดยระหว่างทางควรให้เด็กดื่มน้ำเกลือแร่หรือน้ำผลไม้เป็นระยะๆ เพื่อช่วยให้อาการช็อกดีขึ้นบ้าง

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันเสาร์ ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

    หนองคาย-ระดมฆ่าเชื้อหมูติดเชื้อ PRRS

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ผู้ว่าฯหนองคาย คาด อีก 5-7 วันสถานการณ์หมูติดเชื้อ PRRS จะเข้าสู่ภาวะปกติ เผยจังหวัดเตรียมให้ความช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ 3 อำเภอที่เกิดโรคระบาดไว้แล้ว ขณะที่ยอดหมูตายแล้วกว่า 500 ตัว

    สถานการณ์หมูป่วยจากการติดเชื้อ PRRS ในพื้นที่ 3 อำเภอ โพธิ์ตาก ท่าบ่อ และศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย วันนี้ (8 ก.ค. 53) พบว่ายังมีหมูติดโรคระบาดบางส่วนที่ได้รับเชื้อและอาการทรุดหนัก จากรายงานของปศุสัตว์จังหวัดหนองคาย พบว่าตั้งแต่วันที่ 22 มิ.ย.-7 ก.ค.53 ในพื้นที่เกิดโรคระบาดมีหมูป่วย 1,115 ตัว ตายไปแล้ว 520 ตัว จากจำนวนหมูที่เลี้ยงไว้ทั้งหมดในพื้นที่ 2,868 ตัว

    เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ อ.โพธิ์ตาก ได้ระดมกำลังฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโรคตามคอกหมู และบริเวณโดยรอบ ขุดหลุมฝังกลบหมูที่ตายทุกตัว รวมถึงตั้งด่านควบคุมการขนย้ายสัตว์เข้า-ออก พื้นที่ประกาศเขตโรคระบาด

    ด้านนายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า ขณะนี้ได้บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งปศุสัตว์ ฝ่ายปกครอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้ามาแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือประชาชนเป็นการเบื้องต้นแล้วโดยแบ่งหน้าที่รับผิดชอบและต้องสรุปผลการปฎิบัติงานทุกวัน

    โดยคาดว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 5-7 วัน ส่วนการให้ความช่วยเหลือและเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการเลี้ยงสุกร ทางจังหวัดได้จัดเตรียมงบประมาณด้านภัยพิบัติโรคระบาดไว้สำหรับเบิกจ่ายตามระเบียบของทางราชการไว้แล้ว ที่ต้องรอการสรุปยอดผู้ได้รับผลกระทบอีกครั้งหนึ่งและจังหวัดจะดำเนินการให้เร็วที่สุด

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันเสาร์ ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

    กาฬสินธุ์-แล้งหนักเร่งเจาะบาดาลเกือบ 50 บ่อ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้จัดทำโครงการขุดเจาะบ่อบาดาล เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชนและเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาภัยแล้งในพื้นที่นอกเขตชลประทาน ซึ่งขณะนี้ได้ขุดเจาะไปแล้ว 45 บ่อ

    นางชะม้อย วรามิตร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์กล่าวว่า จากการคาดการณ์ของทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ว่าปีนี้จะเป็นปีหนึ่งที่ประสบกับปัญหาภัยแล้งเป็นอย่างมากจึงได้ตั้งงบประมาณในการจัดซื้อเครื่องเจาะบ่อบาดาล เพื่อให้บริการแก่เกษตรกรและพี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่ของจังหวัดกาฬสินธุ์ในการแก้ไขปัญหาภัยแล้งโดยเฉพาะพื้นที่นอกเขตชลประทาน ด้วยการขุดเจาะบ่อบาดาลเพื่อให้ประชาชนได้มีน้ำใช้ในการอุปโภค บริโภค และใช้เพื่อการเกษตร ซึ่งได้เริ่มดำเนินการในหลายพื้นที่ เช่นในพื้นที่อำเภอยางตลาด กุฉินารายณ์ ดอนจาน ร่องคำ ห้วยผึ้ง นามน สมเด็จ เขาวง สามชัย คำม่วง และอำเภอสหัสขันธ์ มาตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม 2553 จนถึงปัจจุบันสามารถขุดเจาะบ่อบาดาลได้แล้วทั้งสิ้นจำนวน 45 บ่อ ซึ่งสามารถช่วยเหลือเกษตรกรได้เป็นอย่างดี

    นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์กล่าวอีกว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดมีเป้าหมายจะขุดเจาะบ่อน้ำบาดาลนอกเขตชลประทาน ขนาด 4 นิ้วถึง 6 นิ้ว ในพื้นที่ของจังหวัดกาฬสินธุ์ทั้ง 18 อำเภอ โดยมีเงื่อนไขว่า กรณีเจาะบ่อบาดาลเพื่อทำเป็นประปาหมู่บ้านส่วนรวม หน่วยงาน อบต./เทศบาลในพื้นที่ ต้องขออนุญาตจากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกาฬสินธุ์เอง และต้องออกค่าใช้จ่ายในด้านน้ำมันเชื้อเพลิงและหล่อลื่น ท่อ พีวีซี กรวด ทราย และค่าเบี้ยเลี้ยงเจ้าหน้าที่ดำเนินการ

    ถ้าเป็นกลุ่มเกษตรกร เพื่อใช้ในการทำการเกษตร ต้องรวมกลุ่มไม่น้อยกว่า 10 คน พื้นที่ทำการเกษตรกรรมอยู่ในพื้นที่เดียวกันไม่เกิน 10 ไร่ต่อ 1 บ่อ และต้องยื่นเอกสารสิทธิที่ชอบด้วยกฎหมายในที่ดิน รูปถ่ายพื้นที่แสดงการทำการเกษตร อบต./เทศบาลเป็นผู้ขอรับการสนับสนุนการขุดเจาะให้กับเกษตรกร กลุ่มเกษตรกรต้องเป็นผู้ชำระค่าธรรมเนียมการขออนุญาตขุดเจาะตลอดจนอุปกรณ์ ท่อ กรวด ทราย ส่วนเครื่องจักรขุดเจาะ น้ำมันเชื้อเพลิง และเบี้ยเลี้ยงเจ้าหน้าที่ ทาง อบจ.จะเป็นผู้รับผิดชอบ กรณีขุดเจาะบ่อบาดาลให้กับโรงเรียนในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ ทาง อบจ.กาฬสินธุ์จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเองทั้งหมด

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันเสาร์ ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

    ที่มา http://www.krobkruakao.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. kittitpx

    kittitpx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    570
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +2,000
    น้ำท่วม-ดินถล่มทางใต้ของจีนคร่าชีวิตแล้ว 27 คน

    จีน 10 ก.ค. - เหตุน้ำท่วมและดินถล่มทางตอนใต้ของจีน คร่าชีวิตประชาชนอย่างน้อย 27 คน ขณะทางการต้องเร่งอพยพประชาชนหลายหมื่นคน

    สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานว่า เหตุน้ำท่วมและดินถล่มจากพายุฝนที่พัดถล่มพื้นที่ส่วนใหญ่ทางตอนใต้ของประเทศ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 27 คน โดยเมืองฉงชิ่ง ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด ทางการต้องอพยพประชาชนราว 27,000 คนไปยังพื้นที่ปลอดภัย ขณะที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในช่วง 2 วันนี้ ทั้งนี้ ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ทางตอนใต้ของจีนได้เผชิญกับอุทกภัยครั้งใหญ่ คร่าชีวิตประชาชนไปเกือบ 400 คน คิดเป็นมูลค่าความเสียหายราว 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 33,000 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย

    MCOT - NEWS
     
  3. jho7799

    jho7799 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +71
    เมื่อประมาณ21.00น ที่บ้านพ่อศิวะท่านเสด็จมาและให้เรียกพี่และครอบครัวของผมมา
    แปลกครับท่านให้พรว่าให้ลูกหลานปฏิบัติดีให้ทำบุญรักษาศีลเพื่อคุ้มครองภัยใหญ่ที่จะเกิด
    แก่โลกที่เราอยู่นี้ว่าอีกสามปีจะเกิดการสั่นสะเทือนของโลกอย่างร้ายแรง ท่านตรัสมาแค่นี้ครับ ฟังท่านให้พรแล้วใจหายครับส่วนตัวผมติดตามเว็บนี้มานานพอสมควรได้ความรู้หลายอย่างที่เป็นสิ่งที่ที่เพื่อนมนุษย์พึงมีให้กัน ที่มาให้ข้อมูลนี้ไม่ได้ให้เชื่อนะครับเป็นความคิดเห็นที่อยากแสดง
    และไม่ได้หลอกเพื่อหวังสิ่งใดแต่เพื่อการป้องกันครับ ปราถนาดีแด่เพื่อนร่วมโลกด้วยกันครับ
     
  4. Jurassic_Park

    Jurassic_Park เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +288
    ข้อมูลทุกอย่างจากทั่วทุกสารทิศตรงกันคือ อีก 3 ปี ภัยพิบัติใหญ่มาแน่ๆ
    ผมมั่นใจว่านี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญครับ อนุโมทนาครับ
     
  5. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ======================================


    10 ก.ค. 53

    พรุ่งนี้-----------วันดี------------เลขเอ็ดสอง
    ให้พี่น้อง--------ได้ระวัง---------ภัยพิบัติ
    วันนี้ดี-----------ภัยชอบมา------มักอุบัติ
    ให้เห็นชัด-------โปรดระวัง-------ให้จงดี

    ถ้าไม่เกิด---------ไม่เป็นไร--------ไม่เสียหาย
    เตรียมการไว้------ไม่ประมาท------จะดีกว่า
    ถ้าเกิดมา---------การเตรียมตัว-----ก็จะช้า
    ถ้าภัยมา----------เตรียมตัวทัน-----ดีกว่าเอย



    องค์อินทร์ - ๙๗
    ทำการแทน

    ======================================
    ;aa59
    คอยติดตามชม อติกานต์ หนุนภักดี (จิ๊บ พิธีกรช่องยูบีซี)
    จะออกรายการ วู๊ดดี้ เกิดมาคุย ทางทีวีช่อง 9 ทุกคืนวันอาทิตย์
    เวลา 22.31น. เกี่ยวกับคำสั่งฟ้าเรื่องภัยพิบัติ เร็วๆนี้
    ======================================

    ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







    ---------------------------------------------------------------------
    หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น
     
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    The Great Depression รอบ 2

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ดร.เทียนชัย วงศ์ชัยสุวรรณ เจ้าของนามปากกา "ยุคศรีอาริยะ" ผู้เชี่ยวชาญและศึกษา "ระบบโลก" โดยใช้มุมมองการเข้าใจโลกแบบ "องค์รวม" ด้วยการนำทฤษฎีคลื่นลูกยาว กับการเติบโตของจักรวรรดิ มาอธิบายระบบโลกทั้งใบ ได้ชี้ให้เห็นถึงปรากฏการณ์ของวัฏจักรเศรษฐกิจโลกที่มีทั้งขาขึ้นหรือพลวัต เชิงบวก และขาลงหรือพลวัตเชิงลบ

    ในประวัติศาสตร์เศรษฐกิจโลก ช่วงที่เศรษฐกิจโลกเจริญรุ่งเรืองเป็นคลื่นลูกยาวขาขึ้น อย่างในช่วงการปฏิวัติอุตสาหกรรมเมื่อ ปี 1850 ที่อังกฤษเป็นเจ้าจักรวรรดิ ในปี 1900 เศรษฐกิจโลกก็เริ่มเป็นขาลงในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เกิดวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่เรียกว่า The Great Depression ในปี 1929 ซึ่งเป็นพลวัตขาลงของเศรษฐกิจที่ลากยาวไปสิ้นสุดในปี 1950

    ต่อมาใน ปี 2000 เกิดเศรษฐกิจฟองสบู่และแตกอีกครั้งในอเมริกา แต่เศรษฐกิจโลกช่วงนี้ ดร.เทียนชัยมองว่าไม่ใช่ขาลง เพราะมีกองทุนเก็งกำไรขนาดใหญ่เข้ามาดันเศรษฐกิจในลักษณะเงินต่อเงิน เป็นการกำไรมากกว่าการทำธุรกิจจริง ทำให้เศรษฐกิจอเมริกามีลักษณะเป็น "speculation economy" นี่คือโลกที่เรากำลังเผชิญ ซึ่งเป็นมหาอำนาจที่ใหญ่กว่ามหาอำนาจ

    ดร.เทียนชัยบอกว่า สิ่งที่โลกเรากำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ คือ โลกที่มีวิกฤตเศรษฐกิจหลายจุดและแก้ยาก เพราะไม่ใช่แค่ปัญหาน้ำมันอย่างเดียวที่ทำให้เกิดคลื่นลูกที่ 2 ซึ่งทำให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อและปัญหาเงินฝืด แต่ปัญหาซับไพรม์ ที่กำลังเจ๊งอาจสร้างปัญหาที่ใหญ่กว่าปกติ เพราะปัญหาซับไพรม์เปรียบเหมือน "ยักษ์" ถ้า อเมริกาเข้าไปอุ้มแสดงว่ากำลังอุ้มยักษ์ แต่ถ้าไม่อุ้มก็จะเกิดวิกฤตอีกรูปแบบหนึ่งที่หนักหน่วง

    "โลกกำลัง เผชิญคลื่นลูกยาวช่วงขาลงอีกครั้งหนึ่งของระบบโลก เพราะเศรษฐกิจโดยพื้นฐานถูกกระทบมาก โดยรอบแรกที่เกิดขึ้นคือเงินเฟ้อจากราคาน้ำมันที่ถูกปั่นให้สูง แต่รอบที่ 2 จะกระทบเศรษฐกิจจริง ถ้าเศรษฐกิจญี่ปุ่น ยุโรป อเมริกาแย่ลง นี่คือสิ่งที่ไทยต้องระวัง"

    "ในปี 2009 อเมริกาจะปั่นราคาน้ำมันอีกครั้ง เร่งฟองสบู่จีนให้แตก ถ้าเป็นจริงในปี 2010 อาจเกิด The Great Depression รอบ 2" นี่คือสิ่งที่ ดร.เทียนชัยทำนายและย้ำว่าอาจจะผิดหรือถูกก็ได้

    อย่างไรก็ตาม ดร.เทียนชัยเดาว่า สิ่งที่อเมริกาทำได้ในขณะนี้คือต้องเลือกระหว่างการฟื้นตัวเองกับสงคราม ถ้าหยุดสงครามจะดึงเงินกลับมาอุ้มเศรษฐกิจตัวเองได้ แต่อเมริกาจะเกิดฟองสบู่แตกจากการทรุดตัวครั้งใหญ่ของบริษัทค้าอาวุธที่ เชื่อกันว่ารายได้หลักของสหรัฐมาจากบริษัทค้าอาวุธ

    ที่มา http://www.namchiang.com/th/othermenu-7/6-2008-08-16-07-04-20/187-2008-09-29-02-39-20.html

    เศรษฐกิจโลกยังไม่พ้นขีดอันตราย

    [​IMG]

    วิกฤติหนี้สินของกรีซอาจทำให้เศรษฐกิจโลกตกต่ำครั้งใหญ่ในปีนี้ ทั่วโลกเชื่อกันว่า เราสามารถรอดพ้นจากเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ที่สุด ที่เรียกว่า Great Depression เป็นครั้งที่ 2 ไปได้แล้ว เป็นเพราะประเทศต่างๆ ได้เรียนรู้บทเรียนจากเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ หรือ Great Depression ครั้งแรก ในช่วงทศวรรษ 1930 ทำให้เมื่อเกิดวิกฤติการเงินในช่วงปลายปี 2008 การรับมือจึงเป็นไปอย่างรวดเร็ว

    ธนาคารกลางของประเทศใหญ่ๆ อย่างธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve: Fed) ธนาคารกลางยุโรป (ECB) พร้อมใจกันลดดอกเบี้ยทันที และปล่อยเงินกู้ฉุกเฉินเพื่ออุ้ม สถาบันการเงินที่ใกล้ล้มอย่างไม่จำกัด สหรัฐฯ หลายๆ ประเทศเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการลดภาษีและเพิ่มการใช้จ่าย ทำให้ความตื่นตระหนกยุติลงอย่างรวดเร็ว สามารถช่วยยับยั้งการลดการใช้จ่ายของภาคเอกชน และอัตราการว่างงานที่กำลังพุ่งสูงขึ้นอย่างได้ผล แม้ว่าการถดถอยของเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นตามมานั้นยังคงส่งผลที่เลวร้าย แต่อย่างน้อยก็ไม่หนักถึงขั้น Great Depression เมื่อทศวรรษ 1930 ขณะนี้ทุกคนเชื่อว่า โลกได้รอดพ้นช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดไปแล้ว

    แต่จริงล่ะหรือ วิกฤติใหม่ที่กำลังเกิดขึ้นในกรีซขณะนี้กำลังท้าทายความเชื่อนั้น ชี้ให้เห็นว่า เราด่วนฉลองกันเร็วเกินไป หรือไม่ วิกฤติเศรษฐกิจโลกนอกจากจะยังไม่ยุติลงแล้ว ยังกลับเคลื่อนสูงขึ้นไปอีกขั้น จากวิกฤติการเงินโลกไปสู่วิกฤติหนี้สินในประเทศพัฒนาแล้ว เช่นเดียวกับหลังจากเกิด Great Depression เมื่อ 80 ปีก่อนก็คือ เรายังคงไม่รู้เลยว่า วิกฤติใหม่ที่เกิดขึ้นในกรีซ ครั้งนี้จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงระบบเศรษฐกิจของโลกอย่างไรบ้าง

    สงครามโลกครั้งที่ 1 ได้ทำลายระเบียบเศรษฐกิจโลกในยุคนั้นลงอย่างสิ้นเชิง ในยุคนั้น อังกฤษครองความเป็นเจ้าเศรษฐกิจ โลก เป็นผู้สนับสนุนการค้า และพึ่งพิงระบบมาตรฐานทองคำ (ระบบมาตรฐานทองคำหมายถึง การเงินกระดาษสามารถแลกเปลี่ยนกลับเป็นทองคำได้) สงครามโลกยังทำให้เกิดหนี้สินระหว่างประเทศจำนวนมหาศาล เนื่องจากการบูรณะปฏิสังขรณ์เยอรมนีหลังสงคราม และการที่สหรัฐฯ ปล่อยกู้อย่างมหาศาลให้แก่อังกฤษและฝรั่งเศส

    หลังสงครามโลกสิ้นสุดลง เป็นไปไม่ได้แล้วที่จะฟื้นระเบียบเศรษฐกิจโลกก่อนสงครามขึ้นมาใหม่ เพราะอังกฤษที่เคยครองความเป็นใหญ่อยู่ในสภาพอ่อนแอเกินไป ระบบมาตรฐานทองคำดูเหมือนจะคับแคบเกินไป และหนี้สินมีมากเกินไป แต่ประเทศต่างๆ ในขณะนั้นก็ยังพยายามที่จะฟื้นระเบียบเศรษฐกิจโลกในช่วงก่อนสงครามขึ้นมาใหม่ เพราะเป็นระบบที่เคยสร้างความมั่งคั่ง ให้แก่โลกแต่ความพยายามที่ไร้ประโยชน์นี้ รวมทั้งความไม่สามารถมองเห็นและปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงในช่วงทศวรรษ 1920 กลายเป็นชนวนที่ทำให้เกิดเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่หรือ Great Depression ครั้งแรกในทศวรรษ 1930 และต้อง รอให้ความทุกข์ยากทางเศรษฐกิจพุ่งขึ้นถึงขีดสุด จนเหลือจะทนทานไหวเท่านั้น จึงสามารถทำให้ทุกคนจำต้องยอมรับว่า การพยายามจะฝืนการเปลี่ยนแปลงและฟื้นระเบียบเศรษฐกิจโลกแบบเก่าขึ้นมานั้น (การฟื้นมาตรฐานทองคำและการจ่ายคืนหนี้มหาศาล) เป็นเป้าหมายที่ไม่มีทางเป็นไปได้

    สถานการณ์ของเศรษฐกิจโลกในตอนนี้ มีส่วนคล้ายกับ Great Depression ครั้งแรก ระบบรัฐสวัสดิการในปัจจุบัน อาจเปรียบได้กับระบบมาตรฐานทองคำในอดีต ในขณะที่สังคมเริ่มมีแต่คนชรามากขึ้น แต่ประเทศพัฒนาแล้วกลับให้สัญญาเรื่องการให้สวัสดิการแก่สังคม มากเกินกว่าที่ฐานรายได้จากภาษีจะรับไหว ผลก็คือ ทำให้รัฐบาลต้องก่อหนี้มหาศาล แต่นักการเมืองมักต่อต้าน การลดสวัสดิการสังคม เว้นเสียแต่ว่าจะถูกกดดันขนาดหนักเท่านั้น ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิดวิกฤติหนี้สินในประเทศพัฒนาแล้ว

    ส่วนอำนาจอิทธิพลของประเทศที่ครองความเป็นเจ้าโลก หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา คือสหรัฐฯ ก็กำลังเสื่อมถอยลง ตั้งแต่ก่อนที่จีนจะเริ่มผงาดขึ้นมา ขณะนี้จึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดสุญญากาศทางอำนาจ การเข้าอุ้มกรีซที่ล่าช้า เป็นเพราะไม่มี ประเทศใดที่ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ทั้งๆ ที่วิกฤติของกรีซทำให้ตลาดหุ้นร่วงลงทั่วโลก

    แม้ว่ากลไกปกติของวัฏจักรธุรกิจในขณะนี้ จะส่งสัญญาณการฟื้นตัว ทว่าความอ่อนแอทางเศรษฐกิจที่ฝังอยู่ข้างในลึกๆ กลับกำลังคุกคามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก 3 ปัญหาใหญ่ที่ฝังรากลึกอยู่คือ หนึ่งภาระของการเป็นรัฐสวัสดิการและการที่สังคมเริ่มมีประชากรสูงวัย มากกว่าประชากรอายุน้อย สองภาระหนี้สินมหาศาล (เงินกู้ซื้อบ้านและเงินกู้ภาคครัวเรือนในสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ) และสุดท้าย ความไม่สมดุลในการค้าโลก ซึ่งเกิดจากการที่บางประเทศโดยเฉพาะจีน เกินดุลการค้ามหาศาลกับประเทศอื่นๆ และทำให้ประเทศอย่างสหรัฐฯ ต้องขาดดุลการค้ามหาศาล ปัญหาเศรษฐกิจทั้งสามนี้ ล้วนคุกคามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และอาจฉุดให้เศรษฐกิจโลกกลับไปตกต่ำอย่างยาวนานได้

    ในปี 2009 ยอดขาดดุลงบประมาณของกรีซพุ่งสูงเกือบ 14% ของ GDP ส่วนหนี้สาธารณะสะสมสูงถึง 115% ของ GDP แต่กรีซไม่ใช่ประเทศเดียวที่ประสบปัญหาขาดดุลงบประมาณมหาศาล อิตาลี ขาดดุลงบประมาณ 5% ของ GDP หนี้สะสม 116% ของ GDP สเปนขาดดุล 11% ของ GDP หนี้สะสม 53% เยอรมนีขาดดุล 3% หนี้สะสม 73% ส่วนสหรัฐฯ ขาดดุล 9.9% หนี้สะสม 53% ของ GDP

    หนี้ภาคครัวเรือนของประชาชนในประเทศพัฒนาแล้ว ก็อยู่ในสภาพแทบไม่ต่างกับปัญหาหนี้สาธารณะของรัฐบาล หนี้ภาคครัวเรือนในสหรัฐฯ สูงถึง 138% ของรายได้สุทธิในปี 2007 ส่วนในแคนาดา หนี้ครัวเรือนสูงถึง 138% ญี่ปุ่น 128% อังกฤษ 186% และเยอรมนี 102%

    ความเชื่อที่ว่าโลกเรารอดพ้นเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ครั้งที่ 2 ไปได้ วางอยู่บนแนวคิดแคบๆ ว่าที่ว่า เศรษฐกิจตกต่ำเป็นสิ่งที่ ป้องกันได้ และความรู้ที่ก้าวหน้าในทางเศรษฐกิจ จะทำให้เราป้องกันไม่ให้เกิดเศรษฐกิจตกต่ำได้ บทเรียนที่เราได้รับจาก Great Depression ในทศวรรษ 1930 คือ หากครั้งนั้นธนาคารกลางอย่างเช่น Fed ลงมือแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ประวัติศาสตร์คงจะเปลี่ยนแปลงไป ทำให้ครั้งนี้บรรดาธนาคารกลางจึงไม่ทำผิด ซ้ำเดิมอีก และรีบแทรกแซงด้วยการเข้าอุ้มสถาบันการเงิน และอัดฉีดเงินเข้าสู่ตลาดสินเชื่อไม่อั้น จนสามารถหยุดยั้งการตกต่ำของเศรษฐกิจได้จริง

    อย่างไรก็ตาม นั่นเป็นเพียงการซื้อเวลา และหลีกเลี่ยงการจัดการกับปัญหาที่แท้จริง ที่ฝังรากลึกอยู่ข้างใน และหากยังไม่มีการแก้ไขปัญหาความไม่สมดุลทางการค้า ซึ่งเกิดจากประเทศ กำลังพัฒนาในเอเชีย สร้างการเติบโตด้วยการส่งออกเป็นหลัก จนสร้างปัญหาการขาดดุลการค้าให้แก่ประเทศอื่น รวมถึงปัญหา รัฐสวัสดิการในประเทศพัฒนาแล้ว ที่แบกภาระสวัสดิการสังคมมากเกินไป ซึ่งทำให้เศรษฐกิจโลกไม่มีเสถียรภาพ ก็ยังไม่รู้ว่าจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เช่นใดรออยู่ข้างหน้า

    สิ่งหนึ่งที่ Great Depression เมื่อ 80 ปีก่อนได้แสดงให้เราเห็นก็คือ การเปลี่ยนแปลงที่เจ็บปวดและคาดคิดไม่ถึงจะเกิดขึ้น ก็ต่อเมื่อเราถูกกดดันอย่างหนัก ด้วยวิกฤตการณ์ที่หนักหนาสาหัสเท่านั้น สาเหตุที่ แท้จริงที่ทำให้บรรดาธนาคาร กลางเชื่องช้าในการแก้ปัญหา เศรษฐกิจตกต่ำเมื่อทศวรรษ 1930 คือการยึดติดกับระบบ มาตรฐานทองคำ โดยไม่ยอมเปลี่ยนแปลง เพราะเกรง ว่าหากเร่งรีบผ่อนคลายนโยบายดอกเบี้ยเร็วเกินไป เพื่อช่วยอุ้มธนาคารที่ประสบ ปัญหา อาจทำให้ต้องสูญเสีย ทองคำมากเกินไป เพราะผู้คนจะรีบแห่กัน เอาเงินกระดาษมาแลกทอง ดังนั้น กว่าโลกจะสามารถเลิกใช้ระบบมาตรฐานทองคำได้ ก็ต่อเมื่อวิกฤติได้เกิดขึ้นจน ถึงขีดสุดที่จะทนทานไหวแล้ว

    ปัญหาหนี้สินมหาศาลในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งถูกปล่อยปละละเลยไม่ได้รับการแก้ไข ทำให้ในที่สุดการจ่ายคืนหนี้เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ และอังกฤษก็ต้องสูญเสียตำแหน่งผู้นำโลกไปให้แก่สหรัฐฯ

    บทเรียนจากอดีตดูเหมือนจะชี้ว่า ปัญหาเศรษฐกิจที่ยังไม่ได้แก้ไขในวันนี้ คือภาระการเป็นรัฐสวัสดิการ และการไม่มีผู้นำ ในเศรษฐกิจโลก กำลังเป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะหากปัญหานี้ยังคงถูกปล่อยปละจนกลายเป็นวิกฤติใหญ่ เราก็จะถูกสถานการณ์ บีบบังคับอีกครั้งหนึ่ง ให้ต้องเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่และอย่างเจ็บปวด ซึ่งยังคงไม่มีใครบอกได้ว่า การเปลี่ยนแปลงนั้นจะเป็นอะไร

    แต่ความจริงข้อหนึ่งที่หลายคนอาจลืมเลือนไปแล้วก็คือ ความทุกข์ยากแสนสาหัสที่เกิดขึ้นจาก Great Depression ในทศวรรษ 1930 นั้น ทำให้การเมืองในหลายๆ ประเทศเปลี่ยนแปลงไปในทางที่เลวร้าย และนำไปสู่การเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2

    แปล/เรียบเรียง เสาวนีย์ พิสิฐานุสรณ์
    เรื่อง นิวสวีคนิตยสารผู้จัดการ 360 องศา มิถุนายน 2553

    ที่มา http://www.gotomanager.com/news/details.aspx?id=87185
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กรกฎาคม 2010
  7. คนคิดเอง

    คนคิดเอง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +43
    จะเกิดหรือไม่เกิดนี้ผมไม่เคยกลัวครับ
    เพราะยังไงๆเกิดมาก็ตายทุกคนอยู่แล้วครับ
    ไม่ตายนิก็แปลกครับ
    เพราะเรป2ที่ท่านพิมครับ
    ผมก็เคยอ่านของคุณป้าแล้วครับ(ผมยังเด็กวัยรุ่นอยุ่เลย555)

    คือนั่งอ่านแล้วก็เหลือเชื่อ
    แบบ"มันจะเกิดหรือ"อ่ะไรยังงี้

    ตอบต่อ
    ผมไม่เสียเวลามา เตรียมตัวกันภัย อันตรายหรอกครับ
    ผมคิดว่าเมื่อคนเราถึงคราวตายก็ต้องตาย
    ยังไม่สมควรตายก็ไม่ต้องตาย
    ถ้าอยู่ไปมันลำบากมาก เราจะอยู่ไปทำไม

    ทุกคนละครับ คิดไปเท่านั่นว่าเห้ย "ตูยังไม่อยากตาย"
    ผมจะถามกลับบว่า"แล้วคุณไม่อยากตายเพราะอ่ะไรละครับ"

    คิดในเชิงบวก
    การทำนายก็เหมือนการคาดเดา , คาดคะเน ไม่มีใครตอบได้หรอกมันจะจริง 100 เปอเซ็น
    เลยหรือไม่
    อย่าเพิ่ง ด่วนสรุป ตัดสินใจ ว่าใครถูกใครผิด
    คิดไปก็เครียดเปล่าๆ
    ในหนังสือนั่น ที่เรป2 ไม่ได้พิมต่อ คือ ประเทศไทยจะรอด
    และพุทธศานา จะอยู่ในประมาณนั่น 1พันปีหลังจากนั่น(ถ้าผมจำไม่ผิดนะครับ)

    ซึ่งจากการที่ผมคิด
    คือคนตีพิมหนังสือ ฉบับนั่นไม่ได้ให้มีเตรียมตัวแต่อย่างใด
    แต่แฝงให้รู้ว่า "ทำตัวดีตอนนี้ยังไม่สายเกินไป"
     
  8. เด็กสร้างบ้าน

    เด็กสร้างบ้าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,195
    ค่าพลัง:
    +538
    ต้องเตรียมตัวไว้ก่อนแล้วครับ และทำกรรมดีมากๆ
     
  9. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ======================================


    11 ก.ค. 53

    กำลังหน่วยเหนือ

    เช้านี้ในนิมิตหน่วยเหนือต้องการผู้นำ จึงได้มีการเลือกผู้นำ เห็นขานเรียกตั้ง
    นานก็ไม่มีใครเดินออกมา ผมอยู่ในที่นั้นก็เดินออกมาอาสา หน่วยเหนือได้ให้
    ผมเซ็นชื่อลงในกระดาษก๊อปปี้สีดำให้เป็นผู้นำกลุ่มหนึ่งในหลายๆกลุ่ม ผมได้
    อยู่ในกลุ่มที่16 จากนั้นก็ได้เห็นท่านหนุมาน เหาะขึ้นไปในอากาศแล้วปล่อย
    ควันสีขาวเป็นสายไหมพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า

    จากนั้นภาพก็ตัดมาที่หอประชุม ตอนแรกผมคิดว่าทุกคนในที่นั้นกำลังฟังธรรมอยู่
    มีเสียงแทรกมาว่า เที่ยวนี้หน่วยเหนือส่งกำลังลงมามากกว่าคราวที่แล้ว
    เที่ยวนี้ส่งลงมา 35ญาณด้วยกัน


    องค์อินทร์ - ๙๗
    ทำการแทน

    ======================================
    ;aa59
    คอยติดตามชม อติกานต์ หนุนภักดี (จิ๊บ พิธีกรช่องยูบีซี)
    จะออกรายการ วู๊ดดี้ เกิดมาคุย ทางทีวีช่อง 9 ทุกคืนวันอาทิตย์
    เวลา 22.31น. เกี่ยวกับคำสั่งฟ้าเรื่องภัยพิบัติ เร็วๆนี้
    ======================================

    ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







    ---------------------------------------------------------------------
    หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น
     
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ธนาคารพาณิชย์สหรัฐล้มละลายอีก 2 แห่ง

    [​IMG]

    สหรัฐเผยมีธนาคารล้มละลายอีก 2 แห่ง ส่งผลยอดรวมธนาคารล้มละลายปีนี้พุ่งเป็น 88 แห่ง

    วันนี้(10ก.ค.)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรษัทประกันเงินฝากแห่งสหรัฐ (FDIC) เปิดเผยว่า มีธนาคารพาณิชย์ล้มละลายเพิ่มขึ้นอีก 2 แห่งในสหรัฐส่งผลให้จำนวนธนาคารล้มละลายในสหรัฐในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 88 แห่ง ธนาคารพาณิชย์ที่ปิดกิจการลงได้แก่ ธนาคาร Bay National Bank และ Ideal Federal Savings Bank ซึ่งทั้งสองแห่งอยู่ในเมืองบัลติมอร์ รัฐแมริแลนด์

    โดยธนาคาร Bay National Bank มีสินทรัพย์รวม 282.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมียอดเงินฝากมูลค่า 276.1ล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ วันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ธนาคาร Ideal Federal Savings Bank มีสินทรัพย์ 6.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมียอดเงินฝาก 5.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

    ทั้งนี้ จำนวนธนาคารพาณิชย์ที่ล้มละลายในสหรัฐตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้ปรับตัวขึ้นเร็วกว่าเมื่อปีที่ผ่านมามาก เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีดังกล่าวที่มีธนาคารล้มละลาย 45 แห่ง ซึ่งตัวเลขที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากยอดขาดทุนด้านการปล่อยเงินกู้ในตลาดอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 10 กรกฎาคม 2553 18:06

    ที่มา http://www.bangkokbiznews.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>อะไรๆ มันก็ไม่แน่นอน ไม่ว่ากรุงเทพหรือภูธร


    ถนนทรุดทำรถเมลล์ตกหล่ม เหตุท่อน้ำใต้ดินรั่วซึม
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ทีมข่าวอาชญากรรม</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>11 กรกฎาคม 2553 21:42 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=12 vAlign=bottom align=left>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top width=160 align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=1 vAlign=center width=165 align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=/images/linedot_vert3.gif width=4>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=7 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>รถเมล์สาย 5 พลาดตกหล่มกลางถ.พระราม 5 หลังพื้นถนนทรุด เหตุเพราะท่อลำเลียงน้ำดิบของกปน.ซึ่งอยู่ใต้พื้นผิวถนนรั่วซึม ทำให้ถนนเกิดการอ่อนตัว

    วันนี้( 11 ก.ค.)เมื่อเวลา 18.30 น. ร.ต.ท.จำเนียร เศษฤทธิ์ รองสวป.ทำหน้าที่หัวหน้าสายตรวจ สน.เตาปูน รับแจ้งเหตุถนนทรุดตัวทำให้มีรถประจำทางตกหล่มลงไปในพื้นผิวถนน เหตุเกิดบริเวณหน้าปั๊มน้ำมันปตท. สาขากรมการขนส่งทหารบก ถนนพระราม 5 แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต จึงรุดไปตรวจสอบ

    ที่เกิดเหตุเป็นถนน 4 เลน หน้าปั๊มน้ำมันดังกล่าวพบรถประจำทางร่วมบริการสีครึมคาดน้ำเงิน สาย 5 วิ่งระหว่างหมอชิตใหม่-สะพานพุทธ ทะเบียน 11-6032 กทม. หมายเลขข้างรถ5-8 มีนายสุชาติ พงศ์กัลปพฤกษ์ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่54/23 ซ.รัชดาภิเษก 58 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร เป็นผู้คนขับ

    นายสุชาติให้การว่าได้วิ่งขับรถรับส่งผู้โดยสารตามเส้นทางมุ่งหน้าไปสะพานพุทธ ก่อนจะถึงจุดเกิดเหตุตนได้สังเกตเห็นว่ามีน้ำไหลทะลักออกมาจากบริเวณพื้นถนนหน้าปั๊มและซัดเอาดินโคลนและทรายจากใต้พื้นถนนขึ้นมาจำนวนมาก ตนจึงพยายามจะขับเลี่ยง แต่ปรากฏว่าเมื่อขับรถผ่านตรงที่จุดน้ำทะลัก ถนนได้เกิดการยุบตัวอย่างรวดเร็วทำให้รถเมล์ของตนเกิดตกหล่มลงไปทั้ง4ล้อ ทำให้ผู้โดยสารที่อยู่บนรถประมาณ 20 คนตกใจ แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ

    หลังเกิดเหตุ นายเจริญ ภัสระ ผู้ว่าการประปานครหลวง (กปน.)ได้เดินทางมาตรวจที่เกิดเหตุพร้อมกับเปิดเผยว่า สาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้น่าจะเกิดจากการที่ท่อลำเลียงน้ำดิบจากโรงกรองน้ำบางซื่อไปโรงกรองน้ำธนบุรี ที่มีการวางอยู่ใต้พื้นผิวถนนดังกล่าวเกิดการรั่วซึม เนื่องจากท่อลำเลียงน้ำนี้มีการวางท่อมาตั้งแต่พ.ศ. 2500 มีลักษณะเป็นท่อเหล็กหล่อ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 90 ซม. จึงอาจทำให้เกิดการเสื่อมตามข้อต่อท่อและมีน้ำรั่วซึมออกมา เป็นเหตุให้ดินใต้ผิวถนนเกิดการอ่อนตัวและทรุดตัวดังกล่าวเมื่อถูกน้ำหนักของรถกดทับ

    นายเจริญ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้จะให้เจ้าหน้าที่ทำการปิดถนนตั้งแต่แยกสะพานแดงจนถึงแยกระนอง2 เพื่อตรวจสอบความเสียหายของพื้นผิวถนน และจะใช้เวลาในค่ำคืนนี้ (11ก.ค.) ทำการซ่อมแซม เพื่อให้สามารถเปิดใช้เส้นทางได้โดยเร็วที่สุดเพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับการจราจร รวมถึงจะต้องมีการปิดการส่งน้ำของท่อลำเลียงดังกล่าวเพื่อที่จะได้ยกรถออกจากพื้นผิวถนน รวมถึงอาจต้องลดแรงดันการส่งน้ำบริเวณนี้เพื่อเป็นการแก้ปัญหาเบื้องต้นด้วย อย่างไรก็ดีตนยอมรับว่าเมื่อปีที่แล้วก็ได้เกิดเหตุการณ์แบบเดียวกันที่บริเวณจุดนี้มาแล้ว แต่เหตุการณ์ในครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบกับผู้ใช้น้ำประปาบริเวณนี้ เนื่องจากท่อดังกล่าวเป็นท่อลำเลียงน้ำดิบ ซึ่งตนก็จะกำชับให้เจ้าหน้าที่การประปาคอยหมั่นมาตรวจสอบพื้นที่อย่างเป็นระยะเพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้อีก
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    Crime - Manager Online
     
  12. ragpon

    ragpon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    456
    ค่าพลัง:
    +954
    ดึกๆ เข้ามาอ่านก็พบ
    คุณ คนคิดเอง ขอรับใจลุ่มๆนะครับ(ใจเย็นๆ)
    คือว่ากระทู้นี้มิได้มีเจตนาทำให้เกิดความกลัวหวาดวิตกหรือกระโต่ยตื่นตูมแต่อย่างใด พี่ๆลุงๆ ป้าๆในนี้ก็ไม่ได้แนะนำให้วิ่งหาช่องทางเอาตัวรอดแบบกลัวชีวาวายหูดับตับไหม้ก็ไม่มี
    เรื่องตายนะครับมีคนมากมายหลายรูปแบบละเอียดบ้างหยาบบ้าง คือกลัวมากบ้าง กลัวน้อยบ้าง หรือน้อยมากๆบ้าง หรือดีที่สุดหน่อยไม่ยึดแล้วครับกายสังขารเขาเอาทำประโยชน์เพื่อบารมีอย่างเดียวบ้าง เช่นคนทำงานเพื่อการกุศลหรือคนหาข้อมูลแม้แต่ผู้มีความรู้ทางด้านนี้โดยตรงท่านเอามาเตือนให้ไม่ประมาทบ้าง รักษาตนอย่างไรให้มีประโยชน์เพื่อตนและผู้อื่นบ้างและก็ไม่มีหรอกครับที่จะคิดคนเดียวได้ตลอดเขาเข้ามาช่วยกันคิดกันครับในที่แห่งนี้ ช่วยกันปรับปรุงใจของกันและกันยกระดับของตนที่ดีให้ดีขึ้นยิ่งๆขึ้นไปกันครับ หาใช้นั่งคิดอยู่คนเดียวและก็ตอบคนเดียวก่อน มีความรู้มากขึ้นก็เอามาสร้างความกระตุกขวัญแก่ผู้ที่เริ่มหวังเดินในทางสร้างบารมีเช่นบ้างการเตือนหรือการระแวดระวังภัยแก่ผู้อื่นหาใช้เรื่องน่าขี้ขลาดไม่ครับ แต่การปิดกั้นหรือไม่รับฟังผู้ใดเลยย่อมน่าสงสารมากยิ่งกว่าครับ ในส่วนที่กล่าวมานี้ไม่ใช้แต่ท่านนะครับที่ผมกล่าวอ้างมาข้างต้น แต่บอกถึงผู้ที่เริ่มหวังสร้างจิตสำนึกของการไม่ประมาทนี้ทุกๆคนครับ รวมถึงงวิเคราะห์และศึกษาข้อมูลทุกๆด้านของความสูญเสียของผู้ที่เคยประสพมาแล้วทุกสถานที่คือสิ่งที่เราเรียนรู้และจดจำได้ เอาเป็นเครื่องมือแห่งการสร้งบารมีของตนเองแล้วแต่ว่าใครจะสร้างเช่นใด แล้วแต่ความถนัดครับ ฝันดีครับทุกคน อุอุอุหลับหมดแล้วแน่เลยไปนอนด้วยดีฝ่า
     
  13. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    ไม่รู้ยังไง แต่เคยเจอบางคนในยุคนี้แหละ ยังมีความคิดความเชื่ออยู่กับคำว่ามงคล - อัปมงคลอย่างหนัก ขนาดว่าไม่อยากมีตู้ยาในบ้านเพราะจะเป็นลางว่าจะป่วย ไม่อยากให้ในชุมชนสร้างเมรุเพราะเดี๋ยวคนจะตายเยอะ แต่ไม่รู้ว่ากลัวถูกถ่ายรูปเพราะจะทำให้อายุสั้นด้วยหรือเปล่า
     
  14. angelpair

    angelpair เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +101
    ดีจ้า ขอถามหน่อยนะจ๊ะ

    คำว่า กัป และ มหากัป นี่มันต่างกันไหมจ๊ะ ถ้ามันต่างกันนี่เวลามันต่างกันเท่าไรช่วยอธิบายทีจ๊ะ ขอบคุณมากจ้า
     
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=556 align=center border=0><TBODY><TR><TD colSpan=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE style="HEIGHT: 2556px" cellSpacing=0 cellPadding=0 width=717 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top bgColor=#eef6df height=2556>
    <TABLE style="HEIGHT: 38px" cellSpacing=0 cellPadding=0 width=510 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center bgColor=#e7f2d0 height=38>กาลเวลาที่เรียกว่า อสงไขย คือ การกำหนดเวลาที่จะนับจะประมาณไม่ได้ ซึ่งมีอุปมาเปรียบเทียบไว้ว่า
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="58%" align=center border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR><TR bgColor=#e7f2d0><TD vAlign=top height=13>ถ้านับเม็ดฝนที่ตกลงมาทั้งวันทั้งคืนตลอดทั้ง 3 ปี ไม่ได้ขาดเลย
    จนกระทั่งเต็มท่วมขอบจักรวาล
    มีระดับความสูง 84,000 โยชน์ อย่างต่อเนื่องได้ 1 อสงไขย ก็คือจำนวนเม็ดฝนที่นับได้เป็น 1 อสงไขย
    </TD><TD vAlign=top>ส่วนกาลเวลาที่เรียกว่า มหากัป คือ ระยะเวลาที่โลกเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และเสื่อมสลายไป
    </TD><TD vAlign=top>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    เรามาศึกษากาลเวลาที่เรียกว่า อสงไขย ที่เราได้ยินว่า ๒๐ อสงไขย ๔๐ อสงไขย ๘๐ อสงไขย อสงไขยคืออะไร

    กาลเวลาที่เรียกว่า อสงไขย คือการกำหนดเวลาที่นับประมาณมิได้ ซึ่งมีอุปมาเปรียบเทียบเอาไว้ว่า ฝนตกใหญ่อย่างมโหฬารทั้งวันทั้งคืน เป็นเวลานานถึง ๓ ปี ไม่ได้ขาดสายเลย จนกระทั่งน้ำฝนท่วมเต็มขอบจักรวาล ซึ่งมีระดับความสูง ๘๔,๐๐๐ โยชน์ หากว่ามีใครสามารถนับเม็ดฝนที่ตกลงมาตลอดทั้ง ๓ ปีได้ นับได้เท่าไร นั่นคือระยะเวลา ๑ อสงไขย
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="26%" align=center border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR><TR bgColor=#e7f2d0><TD vAlign=top height=52>เมื่อครบร้อยปีจะมีเทวดาเอาผ้าทิพย์ที่บางเบามาลูบภูเขานี้ ๑ ครั้ง เมื่อใดที่เทวดานั้นเอาผ้าทิพย์บางเบามาลูบ จนภูเขาสึกกร่อนเรียบเสมอพื้นดิน จึงเรียกว่า มหากัป</TD><TD vAlign=top>หรือ มีกำแพงสี่เหลี่ยมใหญ่มหึมา มีความกว้าง ยาว ลึก อย่างละ 1 โยชน์
    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    ส่วนกาลเวลาที่เรียกว่า มหากัป คือ ระยะเวลาที่โลกเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และเสื่อมสลายไป ซึ่งมีอุปมาเปรียบเทียบไว้ว่า มีภูเขาศิลาแท่งทึบ กว้าง ยาว สูง อย่างละ ๑ โยชน์ เมื่อครบ ๑๐๐ ปีทิพย์ จะมีเทวดานำผ้าทิพย์ที่บางเบาเหมือนควันมาลูบ ๑ ครั้ง เมื่อใดที่เทวดาได้นำผ้าทิพย์บางเบาเหมือนควันมาลูบ จนภูเขาสึกกร่อนเรียบเสมอพื้นดิน เมื่อนั้นจึงจะเรียกว่า ๑ มหากัป
    หรืออีกอุปมาหนึ่งว่า มีกำแพงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่มหึมา มีความกว้าง ยาว ลึกอย่างละ ๑ โยชน์ เมื่อครบ ๑๐๐ ปีทิพย์จะมีเทวดาองค์หนึ่ง นำเมล็ดพันธุ์ผักกาดซึ่งเมล็ดนิดเดียว มาหยอดใส่ในกำแพงสี่เหลี่ยมนั้น ๑ เมล็ด เมื่อใดที่เทวดานั้นนำเมล็ดผักกาดมาหยอดใส่จนเต็มเสมอขอบปากกำแพงนั้น เมื่อนั้นจึงจะเรียกว่า ๑ มหากัป
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="26%" align=center border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR><TR bgColor=#e7f2d0><TD vAlign=top height=52>พอถึงร้อยปีจะมีเทวดาองค์หนึ่ง เอาเมล็ดผักกาดมาหยอดใส่ในกำแพงสี่เหลี่ยมนี้ 1 เมล็ด เมื่อใดที่เทวดานั้นเอาเม็ดผักกาดมาหยอดใส่จนเต็ม เสมอขอบปากกำแพงนั้นแล้ว เมื่อนั้นจึงเรียกว่า มหากัป</TD><TD vAlign=top>ในมหากัปยังแบ่งออกเป็น 4 อสงไขยกัป หากจะอธิบายให้ง่ายขึ้น ก็คือสมมุติว่าเรามีเค็กอยู่ 1 ก้อนในแต่ละชิ้นมีระยะเวลาเท่ากับ 64 อันตรกัป
    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    มหากัปนั้นจะแบ่งเป็น ๔ ช่วง โดยสมมุติว่า เรามีเค้กอยู่ก้อนหนึ่ง เราแบ่งเค้กนั้นออกเป็น ๔ ชิ้นเท่ากัน ในแต่ละชิ้นมีระยะเวลาเท่ากับ ๖๔ อันตรกัป

    ชิ้นที่ ๑ มีชื่อเรียกว่า สังวัฏฏอสงไขยกัป หมายถึง ช่วงที่โลกกำลังถูกทำลาย หรือกัป กำลังพินาศอยู่ เป็นช่วงที่เกิดบรรลัยกัลป์ อาจจะ เป็นไฟบรรลัยกัลป์ เกิดไฟไหม้ หรือน้ำบรรลัยกัลป์ เกิดน้ำท่วม หรือลมบรรลัยกัลป์ เกิดลมพายุ อย่างใดอย่างหนึ่ง สมมุติว่า เกิดไฟบรรลัยกัลป์ ใช้เวลาถึง ๖๔ อันตรกัป

    ชิ้นที่ ๒ มีชื่อเรียกว่า สังวัฏฏฐายีอสงไขย-กัป หมายถึง ช่วงที่โลกถูกทำลาย เรียบร้อยไปแล้ว จนเหลือแต่อวกาศว่างเปล่า สมมุติว่า ไฟบรรลัย-กัลป์ไหม้ไปแล้ว ช่วงนี้ไฟเริ่มมอด แต่ยังระอุอยู่เป็นเวลาถึง ๖๔ อันตรกัป

    ชิ้นที่ ๓ มีชื่อเรียกว่า วิวัฏฏอสงไขยกัป หมายถึง ช่วงที่โลกกำลังพัฒนาสู่ภาวะปกติ หรือกัปที่เจริญขึ้น เป็นช่วงที่แผ่นดินเริ่มก่อตัวใหม่ ซึ่งต้องใช้เวลาถึง ๖๔ อันตรกัป

    ชิ้นที่ ๔ มีชื่อเรียกว่า วิวัฏฏฐายีอสงไขยกัป หมายถึง ช่วงที่โลกเจริญขึ้น พัฒนาเรียบร้อย เป็นปกติตามเดิม คือ มีสิ่งมีชีวิตปรากฏเกิดขึ้น มีต้นไม้ ภูเขา คน สัตว์ สิ่งของ ซึ่งเป็นช่วงที่เรากำลังอยู่ โดยเริ่มจากอาภัสราพรหม ลงมากินง้วนดิน ใช้เวลาถึง ๖๔ อันตรกัป
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="26%" align=center border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR><TR bgColor=#e7f2d0><TD vAlign=top height=52>ชิ้นที่ 1 เรียกว่า สังวัฏฏอสงไขยกัป หมายถึง ช่วงที่โลกถูกทำลาย หรือกัปกำลังพินาศอยู่
    ใช้เวลาถึง 64 อันตรกัป

    </TD><TD vAlign=top>ชิ้นที่ 2 เรียกว่า สังวัฏฏฐายีอสงไขยกัป หมายถึง ช่วงที่โลกถูกทำลายเรียบร้อยเเล้ว จนเหลือแต่อวกาศว่างเปล่า ใช้เวลาถึง 64 อันตรกัป
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="26%" align=center border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR><TR bgColor=#e7f2d0><TD vAlign=top height=52>ชิ้นที่ 3 เรียกว่า วิวัฏฏอสงไขยกัป หมายถึง ช่วงที่โลกกำลังเริ่มพัฒนาเข้าสู่ภาวะปกติ หรือกัปที่เจริญขึ้น ใช้เวลาถึง 64 อันตรกัป</TD><TD vAlign=top>ชิ้นที่ 4 เรียกว่า วิวัฏฏฐายีอสงไขยกัป หมายถึง เป็นช่วงที่โลกเจริญขึ้น พัฒนาเรียบร้อยเป็นปกติตามเดิม หรือ กัปที่เจริญขึ้นพร้อมเเล้วทุกอย่างตั้งอยู่ตามปกติ ใช้เวลาถึง 64 อันตรกัป
    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    ต่อจากนี้เรามาศึกษาว่า ๑ อันตรกัป มีระยะเวลานานขนาดไหน

    ๑ อันตรกัป คือ ช่วงที่มนุษย์มีอายุสูงสุดถึง ๑ อสงไขยปี คือ อายุมนุษย์ที่นับประมาณมิได้ และค่อยๆ ลดลงมาเรื่อยๆ คือ ๑๐๐ ปี ลด ๑ ปี จนกระทั่งอายุมนุษย์เหลือเพียงแค่ ๑๐ ปี ที่อายุมนุษย์เสื่อมลง เพราะสั่งสมอกุศลธรรมมากขึ้น เรียกว่า ไขลง จากนั้นมนุษย์ก็สั่งสมกุศลธรรมมากขึ้น เรียกว่า ไขขึ้น อายุมนุษย์จึงค่อย ๆ เพิ่มขึ้น จาก ๑๐ ปี คือ ๑๐๐ ปี เพิ่ม ๑ ปี ไปจนกระทั่งอายุมนุษย์สูงสุดคือ ๑ อสงไขยปี
    [​IMG]
    <TABLE style="HEIGHT: 38px" cellSpacing=0 cellPadding=0 width=268 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top bgColor=#e7f2d0 height=38>ใน 1 อันตรกัป คือช่วงที่มนุษย์มีอายุสูงสุด ถึง 1 อสงไขยปี และค่อยๆ ลดลงมาเหลือ เพียงแค่ 10 ปี จากนั้นมนุษย์ก็เริ่มมีอายุเพิ่มขึ้นอีกจนกระทั่ง 1 อสงไขยปี เรียกว่า 1 อันตรกัป</TD></TR></TBODY></TABLE>​
    ดังนั้นสรุปว่า ช่วงอายุมนุษย์ตั้งแต่ ๑ อสงไขยปีลดลงเหลือ ๑๐ ปี และจาก ๑๐ ปี เพิ่มขึ้นจนถึงอสงไขยปี อย่างนี้จึงเรียกว่า ๑ อันตรกัป

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=565 align=center border=0><TBODY><TR><TD>
    [​IMG]
    </TD><TD>
    [​IMG]
    </TD><TD>
    [​IMG]
    </TD><TD>
    [​IMG]
    </TD><TD>
    [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE style="HEIGHT: 38px" cellSpacing=0 cellPadding=0 width=565 align=right border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center bgColor=#e7f2d0 height=38>
    ทั้ง 4 ช่วงรวมเป็น 256 อันตรกัป หรือเรียกว่า มหากัป
    </TD></TR></TBODY></TABLE>​

    เพราะฉะนั้น ระยะเวลา ๔ ช่วงรวมกันแล้วเท่ากับ ๒๕๖ อันตรกัป หรือเรียกว่า ๑ มหากัป
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ที่มา http://dhammavoice.wordpress.com<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ความหมายที่แท้จริงของคำว่า"โลกแตก"


    [​IMG]

    "โลกแตก"ในความหมายที่แท้จริงแล้ว หมายถึงระยะเวลาที่โลกแตกสลายเป็นจุลมหาจุลไป ซึ่งก็คือการสิ้นสุดของระยะเวลา 1 มหากัปป์ แต่ชาวพุทธเรานิยมเรียกกันว่า 1 กัป ซึ่งก็มีความหมายเดียวกันกับคำว่า 1 มหากัปป์ นี้นั่นเอง

    เมื่อทุกอณูของธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ กลับมารวมตัวกันเป็นโลกธาตุอีกครั้ง จึงจะถือว่าเป็นการเริ่มต้นกัปป์ใหม่ หมุนเวียนกันไปเช่นนี้ไม่มีที่สิ้นสุด คือเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็ดับสลายไป

    ไฟล้างโลก จึงหมายถึง ไฟที่มากวาดล้างทุกสรรพสิ่งบนโลกนี้ เป็นยุคๆ เป็นคราวๆไป แต่ยังไม่ได้ทำให้โลกต้องแตกสลายไป เหมือนไฟประลัยกัลป์ ที่จะมาทำลายโลกให้ต้องแตกสลายไปเมื่อตอนสิ้นกัปป์ เช่นเมื่อสิ้นสุดอายุพระศาสนานี้ครบ 5,000 ปีไปแล้ว ก็จะเกิดไฟล้างโลกขึ้นมาตามที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสบอกเอาไว้

    ดังนั้น"โลกแตก" จึงยังไม่เกิดขึ้นในยุคสมัยนี้ แต่จะเกิดขึ้นเมื่อหลังจากสิ้นสุดศาสนาของพระศรีอาริยเมตไตรยพุทธเจ้าไปแล้วเท่านั้น ตามหลักฐานที่มีปรากฏอยู่ในพระไตรปิฏกดังนี้

    ระยะเวลาที่โลกกำลังวินาศ(โลกแตก) คือ วินาศด้วยไฟ ด้วยน้ำ หรือด้วยลม ตามคติเก่าแก่กล่าวว่า วินาศด้วยไฟนั้น จะเกิด “มหาเมฆกัปวินาศ” คือฝนตกใหญ่ทั่วโลกก่อน ครั้นฝนหยุดแล้วจะไม่มีฝนอีก โลกจะแห้งแล้งไปโดยลำดับ แล้วเกิดดวงอาทิตย์ดวงที่ ๒ ปรากฏขึ้น และ ดวงมี่ ๓ ดวงที่ ๔ จนถึงดวงที่ ๗ ซึ่งทำให้โลกร้อนมากขึ้นเรื่อยๆ

    จนก่อตัวเป็นไฟประลัยกัลป์ เผาไหม้โลกจนกลายเป็นจุลมหาจุล ส่วนโลกวินาศด้วยน้ำนั้น จะเกิด “มหาเมฆกัปวินาศ” ก่อน แล้วเกิดฝนด่างตกลงมาท่วมโลกไปทั่ว กลายเป็นน้ำประลัยกัลป์ ย่อยโลกให้สลายไปเป็นจุลมหาจุล ส่วนโลกพินาศด้วยลมนั้น จะเกิด “มหาเมฆกัปวินาศ” ก่อนแล้วจะเกิดลมวินาศเป็นลมประลัยกัลป์ พัดทำลายโลกให้แหลกเป็นจุลมหาจุล

    เกณฑ์โลกวินาศตามคตินี้กล่าวไว้ว่า โลกวินาศด้วยไฟ ๗ ครั้ง แล้วจึงวินาศด้วยน้ำในครั้งที่ ๘ หนึ่งครั้ง ครั้นวินาศด้วยไฟและน้ำดั่งนี้ครบ ๘ ครั้ง ๘ หนแล้ว จึงวินาศด้วยลมครั้งหนึ่ง ระยะเวลาตั้งแต่เกิดมหาเมฆกัปวินาศ จนถึงไฟประลัยกัลป์ไหม้โลกจนหมดสิ้นสลายไป ใช้เวลายาวนานหนึ่งกัปย่อย กัปย่อยที่โลกกำลังวินาศนี้เรียก สังวัฏฏกัป

    เมื่อโลกวินาศเป็นจุลเหลือแต่ความว่างเปล่า ก็จะว่างเปล่าปราศจากโลกนี้ต่อไปอีกยาวนานหนึ่งกัปย่อย เรียกกัปย่อยนี้ว่า สังวัฏฏฐายีกัป

    หลังจากผ่านพ้นความว่างเปล่าที่ยาวนานหนึ่งกัป ดวงอาทิตย์จะเริ่มลดลงจนเหลือดวงเดียวอีกครั้งหนึ่ง “มหาเมฆกัปสมบัติ” เริ่มตั้งขึ้น เกิดฝนตกทั่วทุกที่ในจักรวาล ลมจะประคองน้ำฝนรวมเป็นก้อนกลม แล้วก็แห้งไป ปรากฏเป็นโลกขึ้นใหม่ เกิดวิวัฒนาการของเปลือกโลกเป็นแผ่นดิน ภูเขา และมหาสมุทร และเกิดชั้นบรรยากาศหุ้มห่อโลก ซึงใช้ระยะเวลายาวนานหนึ่งกัปย่อย เรียกกัปย่อยนี้ว่า วิวัฏฏกัป

    เมื่อโลกก่อกำเนิดขึ้นแล้ว มีแผ่นดิน ท้องฟ้าและมหาสมุทร รวมทั้งบรรยากาศ เกิดกลางวัน กลางคืน และฤดูกาลหมุนเวียนต่อเนื่องขึ้น ดังนี้นสิ่งมีชีวิตก็เริ่มเกิดขึ้น เริ่มจากสัตว์เซลล์เดียวก่อน และวิวัฒนาการเป็นหลายเซลล์ แล้วเกิดพืชและสัตว์พันธุ์ต่างๆมากขึ้น จนปรากฏมนุษย์บุรุษและสตรีขึ้น สืบเผ่าพันธุ์ต่อกันมาแล้วตั้งบ้านเรือนและประเทศต่างๆขึ้น เรียกกัปนี้ว่า วิวัฏฏกัป และจะมีพระพุทธเจ้าเสด็จมาอุบัติขึ้นในกัปย่อยนี้

    ที่มา http://larndham.net/index.php?showtopic=26514&st=2
     
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    [​IMG]

    เผยในหลวงทรงเตือนคนไทย

    คมชัดลึก : งาน"มหกรรมรวมพลังองค์การบริหารส่วนตำบลอุทิศตนปิดทองหลังพระ" บนเวทีเสวนาเรื่อง"ภูมิปัญญากับการพัฒนาท้องถิ่น" ระบุ"ในหลวง" ทรงเตือนคนไทย-ประเทศ เผชิญวิกฤติ ภัยสิ่งแวดล้อม ภัยทางสังคม ภัยเศรษฐกิจ มาตลอด

    ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการจัดงาน"มหกรรมรวมพลังองค์การบริหารส่วนตำบลอุทิศตนปิดทองหลังพระ" ที่สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 28 ก.พ.2553 ซึ่งเป็นวันที่ 3 ของการจัดงาน โดยเวทีเสวนาเรื่อง"ภูมิปัญญากับการพัฒนาท้องถิ่น" มีนายพงศา ชูแนม รองผู้จัดการใหญ่ธนาคารต้นไม้ นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร ประธานมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ และ ดร.สุมิท แช่มประสิทธิ์ เลขาธิการสถาบันเศรษฐกิจพอเพียง ร่วมเป็นวิทยากร ส่วนผู้เข้าร่วมเวทีเสวนามีประมาณ 80 - 100 คน เท่านั้น โดยส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่และข้าราชการประจำ อบต.ต่างๆ รวมทั้งภาคประชาชนที่เข้าร่วมสังเกตการณ์

    [​IMG]

    นายวิวัฒน์ กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเคยเตือนสังคมไทย เท่าที่จับความได้ตั้งแต่ปี 2510 เตือนมาตลอดส่ง ส.ค.ส.ให้คนไทยทั้งประเทศมาโดยตลอด ในนั้นมี ส.ค.ส. เป็นรูปประเทศไทยล้อมรอบด้วยระเบิดอยู่ 4 ลูก จุดฉนวนแล้ว ลูกหนึ่งอยู่บนเรือสินค้า ใน ส.ค.ส.เขียนว่ามีระเบิดอยู่ทั่วโลก ลูกระเบิดใน ส.ค.ส.นั้นตนเองตีความเอาเองว่าลูกที่ 1 พบว่าหมายความถึงสภาพแวดล้อมโลกกำลังไปไม่รอดแล้ว จ.เชียงใหม่ในช่วงฤดูหนาวมีไฟป่าจนเกิดปัญหาหมอกควัน 2 ปีก่อนรัฐบาลต้องประกาศเป็นเขตภัยพิบัติหมอกควัน ภัยธรรมชาติไม่ได้เกิดเฉพาะ จ.เชียงใหม่ ขณะที่ภาคเหนือมีปัญหาไฟป่า ภาคกลางก็แห้งแล้ง หลายภูมิภาคทั่วประเทศต้องเผชิญภัยพิบัติทางธรรมชาติ

    นอกจากภัยธรรมชาติ โรคระบาดเป็นระเบิดลูกที่สองที่ตามมา โรคระบาดในพืชผักในประเทศไทยเกิดแล้ว ทั้งสวนยาง สวนผลไม้ใน จ.จันทบุรี โรคระบาดในสัตว์ ไม่มียารักษา วิธีแก้ปัญหาต้องขุดหลุดขนาดใหญ่ฝังนั้นคือสิ่งที่มนุษย์กระทำกับสัตว์ที่ตัวเองเลี้ยง และโรคระบาดได้ลามถึงคนแล้ว แต่ยังน้อยกว่าโรคระบาดที่ไม่ติดต่อ เช่น โรคระบาดจากยาเสพติด ฯลฯ มีโรคระบาดเกิดขึ้นกับมวลมนุษย์และพืชพันธุ์ หลังเกิดโรคระบาดในคนสัตว์ พืช และภัยธรรมชาติ ระเบิดลูกที่สาม คือ ความอดยากภาวะข้าวยากหมากแพงกำลังเข้าครอบงำเต็มไปทั้งโลกรวมทั้งประเทศไทยซึ่งขณะนี้ก็เกิดแล้ว ภัยที่เกิดขึ้นอาจเรียกได้ว่า เป็นภัยสิ่งแวดล้อม ภัยทางสังคม และสุดท้ายคือ ภัยเศรษฐกิจ

    นายวิวัฒน์ กล่าวว่า โลกทั้งโลกพยายามยกเลิกการจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้า แต่ขณะนี้เอเชียทำสำเร็จแล้ว ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2553 ไม่มีกำแพงภาษี เราจะมีทั้งได้เปรียบเสียเปรียบ แต่คนรวยจะได้เปรียบ ส่วนคนจนจะลำบากมาก นี้คือภัยทางเศรษฐกิจที่เปิดเสรีการค้า ทำให้คน 90% อดอยาก คนอีก 10% จะมีกำลังไปกว้านซื้อสินค้าที่ไหนก็ได้อย่างเสรี แต่คน 90% จะอดอยาก นี้คือทฤษฎีของเศรษฐกิจทุนนิยมเสรีที่ทำให้คนจนอดอยาก

    ส่วนระเบิดลูกที่ 4 คือความขัดแย้ง คู่ขัดแย้งมีเต็มไปหมดจนน่าเป็นห่วง มีทั้งเสื้อเหลือง เสื้อแดง เสื้อน้ำเงิน เสื้อเขียว และเสื้อขาว ความขัดแย้งจะเกิดขึ้นทั่วโลกไม่เฉพาะประเทศไทย ความขัดแย้งจะนำไปสู่สงครามทั่วโลก กระจัดกระจายไปในหลายประเทศ มีคู่ขัดแย้งเต็มไปหมด แต่ที่น่าห่วงผลพวงของสงครามจะนำไกปสู่การทำลายล้างต่อ ทำให้ผู้คนอดอยากเพราะผู้คนไม่สามารถทำมาหากิน ถ้าโลกร้อนแล้งจนถึงที่สุด ต้นไม้จะหยุดโตไม่สามารถกักเก็บคาร์บอนไว้ในต้นได้ ต้นไม้ใช้อ๊อกซิเจนหายใจเหมือนคนเพราะเป็นสิ่งมีชีวิต ถ้าแล้งมากจนต้นไม้หยุดโตต้นไม้จะเก็บอ๊อกซิเจนไว้แล้วคายคาร์บอนไดอ๊อกไซต์แยกอ๊อกซิเจนจากคน เป็นสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ห่วงที่สุด

    "ทุกคนเห็นด้วยหรือไม่กับวิกฤตระเบิด 4 ลูก ที่พระองค์ท่านทรงเตือนอย่าประมาท และต้องเร่งเอาจริงเอาจังในหาการร่วมมือกันและเตรียมการแก้ไข อย่ามองข้ามไม่ใช่เรื่องกระต่ายตื่นตูมแล้ว เพราะเชื่อมั่น 100% ว่าหากเรายังเป็นเช่นนี้จะไปไม่รอด จึงต้องหันมาพึ่งตัวเองให้มาก หลายเรื่องเรามีเคล็ดวิชา มียุทธวิธีและกำหนดก้าวการเดินซึ่งไปได้พอสมควรแล้ว "นายวิวัฒน์กล่าว

    นายพงศา กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2553 ได้เคาะระฆังยกเลิกการจัดเก็บภาษีตามข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน หรืออาฟต้า นั้นหมายถึงว่าพ่อค้าจะใหญ่กว่านายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีทุกคน มีการทำลายขอบเขตห้ามเก็บภาษีนำเข้าสินค้า ยกเว้น มันฝรั่ง มะพร้าวแห้ง วิกฤตกำลังอยู่รอบประเทศไทย นำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจข้าวยากหมากแพง เกิดวิกฤตเศรษฐกิจจนนำไปสู่สงครามในที่สุด

    "ส.ค.ส.ของในหลวงปี 2547 มีแผนที่ประเทศไทยอยู่ตรงกลางกรอบสี่เหลี่ยม มีระเบิดล้อมรอบอยู่ 4 ลูก และมีข้อความเขียนว่ามีระเบิดอยู่ทั่วโลก ส่วนด้านซ้ายในมหาสมุทรอินเดียมีรูปเรื่องสินค้าแล่นมาจากตะวันตกสู่แผ่นดินสุวรรณภูมิ แสดงว่าชาติเราจะถูกล่าอาณานิคมอีกครั้งหนึ่ง แต่ไม่ใช่เรือรบเป็นเรือการค้า เป็นการล่าอาณานิคมรูปแบบใหม่ วิธีการที่ทำใช้การค้าเปลี่ยนทุกอย่างในประเทศเราให้เป็นกระดาษาและค้าขาย" นายพงศา กล่าวและว่า

    ปัจจุบันประเทศไทยมีที่ดินอยู่ 321 ล้านไร่ 121 ล้านไร่เป็นที่ป่าเข้าทรัพยากรส่วนรวม ไม่นับรวมทะเล อีก 200 ล้านไร่ เป็นที่ทำกินของคน 66 ล้านคน ใน 200 ล้านไร่ จำนวน 100 ล้านไร่ เป็นของคนรวยนายทุนไม่ถึง 5 แสนคน อีก 65 ล้านคน มีที่ดิน 100 ล้านไร่ หรือเฉลี่ยคนละ 2 ไร่ และใน 100 ล้านไร่ของนายทุนแปลงเป็นกระดาษแล้วนำไปจำนำไว้กับธนาคารต่างชาติ ปัจจุบันคนไทยกลายเป็นแค่ผู้ใช้ในแผ่นดินเท่านั้นไม่ใช่เจ้าของ แผ่นดินตกเป็นของต่างชาติหมด

    ดร.สุมิท กล่าวว่า สิ่งที่พระเจ้าอยู่หัวเตือนเรื่องวิกฤตที่จะเกิดขึ้น ข้อมูลเชิงประจักษ์เกิดขึ้นแล้ว ถ้าเราแยกการพัฒนา ชุมชนและภูมิปัญญาอยู่ที่พวกเราจะนำประเทศไปรอดหรือไม่ เพราะตั้งแต่อดีตที่ผ่านมาประเทศไทยพัฒนาโดยคนกลุ่มน้อยเพื่อคนกลุ่มใหญ่ คนกลุ่มน้อยที่พัฒนาจะทำเพื่อตัวเองจึงเป็นการพัฒนาที่ผิด การพัฒนาแบบที่ประเทศเราทำมา 50 ปี ถ้าเห็นว่าเป็นเรื่องผิด ผู้บริหารชุมชนต้องตั้งเป้าหมายใหม่ คนคือกลุ่มเป้าหมายและเป้าหมายการพัฒนาคืออะไร ประเทศเราตั้งเป้าหมายการพัฒนาโดยจีดีพี หรือผลิตภัณฑ์มวลรวมทั้งประเทศ แต่บริบทสังคมไทยไม่ได้วัดแบบนั้น ไม่ใช่สังคมเงินตรา เป็นสังคมเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่

    "ทุกอย่างที่เป็นจุดแข็งของสังคมไทยไม่ได้อยู่ในระบบวัดค่าความเจริญ การถ้าตั้งโจทย์วัดคืออะไร ที่ผ่านมาเป็นเงินเข้าระบบอย่างเดียว ส่งเสริมแบบนี้แล้วจะวัดค่าความเจริญได้ วิถีความเข้มแข็งของสังคมไทยและการพึ่งตนเองไม่ได้อยู่ในระบบวัดด้วย ฉะนั้นผู้บริหารประเทศที่พูดว่าจะบริหารด้วยหลักเศรษฐกิจพอเพียงกำลังหลอกตัวเอง เพราะการพึ่งตัวเองไม่ได้อยู่ในระบบวัดด้วย(จีดีพี)"ดร.สุมิทกล่าว

    หนังสือพิมพ์คมชัดลึก วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2553

    ที่มา http://www.komchadluek.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • King.jpg
      King.jpg
      ขนาดไฟล์:
      99 KB
      เปิดดู:
      3,459
    • HNW2547.jpg
      HNW2547.jpg
      ขนาดไฟล์:
      79.3 KB
      เปิดดู:
      1,952
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กรกฎาคม 2010
  18. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,926
    *** สัจจะพาให้คนไทยสามัคคี ****

    :::::::::::::::: เราไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ::::::::::::::::


    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  19. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    ทอร์นาโด เข้าย่างกุ้ง (พม่า) สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

    <table border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="100%"><tbody><tr><td colspan="2" valign="top" width="100%">2010-07-12 08:12:54 - Tornado - Myanmar (Burma)

    </td> </tr> <tr> <td colspan="2" width="100%">
    </td> </tr> <tr> <td valign="top"> <table align="left" border="0" cellpadding="1" cellspacing="1" width="100%"> <tbody><tr> <td width="25%">EDIS Code:</td> <td>TO-20100712-26926-MMR</td> </tr> <tr> <td>Date&Time:</td> <td>2010-07-12 08:12:54 [UTC]</td> </tr> <tr> <td>Continent:</td> <td>Asia</td> </tr> <tr> <td>Country:</td> <td>Myanmar (Burma)</td> </tr> <tr> <td>State/Prov.:</td> <td>Capital City, </td> </tr> <tr> <td>Location:</td> <td>Kamwu, </td> </tr> <tr> <td>City:</td> <td>Yangon</td> </tr> <tr> <td colspan="2"> Number of dead people: 1
    Damage level: Moderate (Level 2)

    Not confirmed information!
    </td> </tr> </tbody></table> </td> <td align="right" width="440"> [​IMG] </td> </tr> <tr> <td colspan="2" valign="top"> Description: </td> </tr><tr> <td colspan="2" valign="top"> One person has been confirmed killed by tornado which swept Myanmar's Kawmu in Yangon division near last weekend. The person died of being hit by thunder lightning. A total of 60 wooden and bamboo houses were destroyed by the tornado which hit the area for minutes on last Thursday.
    </td> </tr> <tr> </tr></tbody></table>
     
  20. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    <table style="border-collapse: collapse;" align="center" border="0" bordercolor="#669933" cellpadding="3" cellspacing="0" width="600"><tbody><tr bgcolor="#669933"><td width="130" nowrap="nowrap">วัน-เวลา</td> <td width="40" nowrap="nowrap">ขนาด</td> <td width="50" nowrap="nowrap">lat</td> <td width="50" nowrap="nowrap">long</td> <td width="120" nowrap="nowrap">บริเวณที่ เกิด</td> <td nowrap="nowrap">ข้อมูลอื่นๆ</td> </tr> <tr bgcolor="#ffffff"> <td valign="top">2553-07-12 15:58:00</td> <td valign="top">3.4</td> <td valign="top">20.30</td> <td valign="top">99.74</td> <td valign="top">พรมแดนไทย-พม่า</td> <td valign="top"> - ต.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย</td></tr></tbody></table>
     

แชร์หน้านี้

Loading...