ข้อความจากต่างมิติ - มิติคู่ขนาน, โลกใต้พิภพ, UFO, Yeti

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Chayutt, 4 กรกฎาคม 2010.

  1. แม่นายมล

    แม่นายมล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +6,258
    ได้รับ mail มาเรื่องต่อไปนี้


    ดวงจันทร์สองดวง
    วันที่ 27 สิงหาคม 2010


    27 สิงหาคมทั่วโลกรอ .............


    ดาวอังคารจะส่องสว่างบนท้องฟ้า เริ่มตั้งแต่สิงหาคม มันจะดูมีขนาดใหญ่เท่าดวงจันทร์เต็มดวง ดูได้ด้วยตาเปล่า มันจะพัฒนาเต็มที่ 27 สิงหาคม เมื่อดาวอังคารเข้ามาภายในรัศมีของโลกระยะ 34.65 ไมล์ โปรดเฝ้าดูท้องฟ้าที่ 27 สิงหาคม 00:30(12:30 am.) จะมองเห็นเหมือนโลกมี 2 ดวงจันทร์

    ในครั้งต่อไปดาวอังคารอาจมาใกล้อีกในปี ค.ศ. 2287
     
  2. Pelagia

    Pelagia เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    790
    ค่าพลัง:
    +1,198
    mail นี้อีกแล้วเหรอ มีมาทุกปีเลยนะ คาดว่าปีหน้าก็ยังมีอีก ข้างล่างนี้คือข้อมูลอ้างอิงครับจาก แก้ไข เที่ยงคืนครึ่ง วันนี้ จะเห็นดวงจันทร์สองดวง [27/08]



    เมื่อปี 2546 ดาวอังคารได้โคจรเข้าใกล้โลกมากเป็นพิเศษ ผมได้เขียนถึงเรื่องปรากฏการณ์นี้ในปีนั้นอย่างน้อย 3 ครั้ง มีทั้งข้อมูลการเข้าใกล้โลกของดาวอังคาร การสังเกตการณ์ด้วยตาเปล่าและด้วยกล้องดูดาว และปิดท้ายด้วยควันหลงที่เอ่ยถึงข่าวลือซึ่งมีเนื้อหาเหมือนกันกับข้อความ ที่กล่าวไว้ในตอนต้นของบทความนี้แบบลอกกันมา หลังจากนั้นผมได้เขียนเรื่องดาวอังคารใกล้โลกอีกในปลายเดือนตุลาคมปีที่แล้ว แต่การเข้าใกล้ครั้งล่าสุดนี้ห่างไกลกว่าเมื่อ 2 ปีก่อนหน้า

    ทั้งสองครั้งมีข่าวลือในอินเทอร์เน็ตที่ว่าดาวอังคารจะมีขนาดใหญ่ราวกับ เห็นดวงจันทร์สองดวงบนท้องฟ้า มาถึงปีนี้ที่น่าแปลกใจยิ่งกว่า คือ แม้ว่ามันจะเป็นปีที่ดาวอังคารอยู่ห่างจากโลกมาก ไม่สว่างเหมือนครั้งนั้น แต่ข่าวเรื่องนี้ก็ยังคงย้อนกลับมาเหมือนเมื่อสองครั้งที่แล้วไม่มีผิด

    ต้นตอข่าวลือไม่ได้มาจากไหน แต่มันวนเวียนอยู่ในโลกไซเบอร์ที่มีทั้งเรื่องจริงและเรื่องที่ต้องอาศัย วิจารณญาณในการรับรู้ข่าวสารของผู้อ่าน ต้นฉบับของข่าวลือเขียนเป็นภาษาอังกฤษ เริ่มแพร่กระจายเมื่อราวกลางปี 2546 ซึ่งเป็นช่วงที่ดาวอังคารใกล้โลกมากที่สุด

    The Red Planet is about to be spectacular! This month and next, Earth is catching up with Mars in an encounter that will culminate in the closest approach between the two planets in recorded history. The next time Mars may come this close is in 2287. Due to the way Jupiter’s gravity tugs on Mars and perturbs its orbit, astronomers can only be certain that Mars has not come this close to Earth in the Last 5,000 years, but it may be as long as 60,000 years before it happens again.

    The encounter will culminate on August 27th when Mars comes to within 34,649,589 miles of Earth and will be (next to the moon) the brightest object in the night sky. It will attain a magnitude of -2.9 and will appear 25.11 arc seconds wide. At a modest 75-power magnification Mars will look as large as the full moon to the naked eye. Mars will be easy to spot. At the beginning of August it will rise in the east at 10p.m. and reach its azimuth at about 3 a.m.

    By the end of August when the two planets are closest, Mars will rise at nightfall and reach its highest point in the sky at 12:30 a.m. That’s pretty convenient to see something that no human being has seen in recorded history. So, mark your calendar at the beginning of August to see Mars grow progressively brighter and brighter throughout the month. Share this with your children and grandchildren. NO ONE ALIVE TODAY WILL EVER SEE THIS AGAIN

    เนื้อหาโดยสรุปกล่าวว่าวันที่ 27 สิงหาคม ดาวอังคารจะใกล้โลกมากที่สุดในประวัติศาสตร์ จะเห็นดาวอังคารมีขนาดเท่าดวงจันทร์เมื่อดูด้วยกล้องโทรทรรศน์กำลังขยาย เพียง 75 เท่า

    ในขณะนั้นเนื้อหาของข้อความล้วนเป็นข้อเท็จจริง มิได้มีส่วนใดกล่าวเกินจริง แต่การส่งต่อข้อความโดยอาจมีการตัดทอนบางส่วนออก การตัดข้อความบรรทัดเดียวกันแยกเป็นสองส่วน ผู้อ่านอาจไม่มีความรู้ในศัพท์เทคนิคทางดาราศาสตร์มากพอ การสื่อสารผิดพลาด หรือด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม ทำให้ข้อความเหล่านั้นถูกบิดเบือน กลายเป็นว่าดาวอังคารจะใกล้โลกมากจนดูเหมือนเห็นดวงจันทร์สองดวง

    การที่เนื้อหาในจดหมายดังกล่าวไม่ระบุปีที่ดาวอังคารใกล้โลก มันจึงถูกส่งต่อทางอีเมลอีกครั้งเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้วรวมทั้งปีนี้ โดยเฉพาะข้อความที่ชวนให้ตื่นเต้นว่าเราจะมีโอกาสเห็นดาวอังคารใหญ่เท่าดวง จันทร์ ในประเทศไทยเองก็มีผู้หวังดีสร้างไฟล์พรีเซนเทชันนำเสนอเรื่องราวของข่าว ที่ถูกบิดเบือนนี้ในภาคภาษาไทย โดยมีสมาชิกสมาคมฯ ส่งไฟล์ดังกล่าวสอบถามข้อเท็จจริงเข้ามาที่สมาคมฯ ผมจึงได้รู้ว่าในเมืองไทยเองก็ส่งต่อข่าวนี้กันอย่างเป็นเรื่องเป็นราว

    ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน จากข้อความเดิมที่ไม่มีส่วนใดผิดไปจากข้อเท็จจริงกลายเป็นข้อความที่ “ไม่มีแม้แต่ประโยคเดียวที่เป็นความจริง” ดาวอังคารไม่เคยและไม่มีวันที่จะเข้าใกล้โลกจนถึงกับมีขนาดใหญ่เท่าดวง จันทร์ ตำราดาราศาสตร์บอกเราว่าดาวอังคารมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 6,792 กิโลเมตร ดวงจันทร์มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 3,476 กิโลเมตร ห่างจากโลกเฉลี่ย 384,400 กิโลเมตร อาศัยความรู้ตรีโกณมิติระดับมัธยมก็คำนวณได้ไม่ยากว่ามันจะมีขนาดปรากฏบน ท้องฟ้าใหญ่เท่าดวงจันทร์ก็ต่อเมื่ออยู่ห่างจากโลกเพียง 780,000 กิโลเมตร หรือไกลกว่าดวงจันทร์ประมาณ 2 เท่า ซึ่งไม่มีทางที่จะเป็นไปได้เลย และหากเป็นจริงแรงโน้มถ่วงของดาวอังคารจะทำให้ระดับน้ำในโลกสูงขึ้นอย่างมาก
    เรื่องจริงของดาวอังคารใกล้โลก

    โลกและดาวเคราะห์ในระบบสุริยะโคจรรอบดวงอาทิตย์ในวงโคจรเกือบเป็นวงกลม โลกอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มากกว่าดาวอังคารจึงเคลื่อนที่เร็วกว่า เมื่อถึงจังหวะเวลาที่ดวงอาทิตย์ โลก และดาวอังคาร มาอยู่ในแนวเส้นตรงเดียวกันโดยมีโลกอยู่ตรงกลาง เราเรียกช่วงเวลานั้นว่าดาวอังคารกำลังอยู่ตรงข้ามกับดวงอาทิตย์ (ใช้โลกเป็นจุดอ้างอิง) และมักจะเป็นช่วงที่ดาวอังคารใกล้โลกมากที่สุดด้วย โดยเฉลี่ยดาวอังคารจะอยู่ตรงข้ามกับดวงอาทิตย์ทุกๆ ประมาณ 2 ปีเศษ

    ดาวอังคารไม่ได้โคจรรอบดวงอาทิตย์เป็นวงกลมสมบูรณ์แต่เป็นวงรีที่มีความ รีเล็กน้อย ระยะห่างระหว่างดาวอังคารกับดวงอาทิตย์แปรผันอยู่ระหว่าง 207-249 ล้านกิโลเมตร แต่ละครั้งที่มันเข้าใกล้โลกจึงมีระยะห่างจากโลกไม่เท่ากัน (ดูภาพประกอบ) ดาวอังคารเคยเข้าใกล้โลกมากเป็นพิเศษเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2546 ขณะนั้นอยู่ห่าง 56 ล้านกิโลเมตร ครั้งล่าสุดที่ดาวอังคารเข้าใกล้โลกเกิดขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม 2548 ครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นอีกในเดือนธันวาคม 2550 และ มกราคม 2553


    ที่มา http://thaiastro.nectec.or.th
     
  3. cosmiccell

    cosmiccell เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    184
    ค่าพลัง:
    +253
    [​IMG]

    ขอบคุณที่ขุดมาให้อ่านครับ

    สนใจเรื่องราวของชาวเลมูเรีย ที่อยู่ใต้โลกเป็นพิเศษครับ

    จากประสบการณ์ที่เคยตั้งจิตขอเข้าไปในความฝัน ด้วย lucid dream

    พบว่า มิติใต้โลก เป็นมิติโปร่งแสง เป็นเหมือนภาพโครงร่างใสๆ เหมือนกับตัวเราโปร่งแสง ทุกอย่างโปร่งแสง มองทะลุเห็นกันทั้งหมด

    ตั้งใจลงไปตำแหน่งใจกลางโลก ก็หมุนผ่านความมืดลงไป
    กลับมาโผล่ที่อวกาศ

    มิติของเค้า เบาบางมากเหมือนอยู่ในอวกาศ

    โลกเรามองออกไป ไม่เห็นดวงดาว

    แต่ของเค้า ไม่ใช่ มองออกไปเห็นดวงดาวทั้งหมด ไม่มีขอบเขต

    ปราสาทสัมผัสรับรู้ สามารถรับรู้ได้พร้อมๆกันหมดทุกๆมิติ เพราะไม่ถูกพรางด้วยเวลา (การรับรู้ในมิติของเรา มันจำกัดมากๆเมื่อเทียบกับมิติทางพลังงานของเค้า)

    การเดินทางไปสัมผัส เราสามารถเข้าไปสัมผัสได้หมด ด้วย lucid dream
    (แต่ lucid dream ก็ไม่ใช่จะเกิดบ่อยๆ ฝึกฝนได้โดย การฝึกสติสัมปชัญญะให้คมชัด และยาวนาน)

    ช่องทางก็อยู่ในกลางทรวงอก ซึ่งมีท่อเชื่อมต่อไปที่หัวใจ

    จริงๆแล้ว เราจึงไม่เคยเดินทางไปไหน เกินกว่าร่างกายเราเลย

    โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านครับ เพราะเป็นประสบการณ์ส่วนตนเท่านั้นครับ
    :)
     
  4. มหิศวระ

    มหิศวระ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    130
    ค่าพลัง:
    +8
    ใจกลางโลกกลวง ผมก็เห็นเป็นเช่นท่าน
     
  5. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    มีผู้สนใจอ่านเกี่ยวกับการเทเลพอต
    ขอขุดมาให้อ่านกัน
     
  6. ผ่านมาจริงๆ

    ผ่านมาจริงๆ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    501
    ค่าพลัง:
    +635
    อ่านแล้วอ่านอีกค่ะ
    ข้อความที่ส่งมาจากท่านเมตาตรอน อ่านไม่รู้เบื่อจริงๆ
    ขอบคุณค่ะ
     
  7. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ปล. กระทู้ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับกระทู้นี้ ได้แก่


    1). เรื่องเกี่ยวกับ มิติคู่ขนาน, โลกทั้งมวล (Omni-Earth)

    "ข้อความจากต่างมิติ-ปิระมิด-and-12th-wave-of-ascension-โลกคู่ขนาน-จุดประสานมิติ"

    http://palungjit.org/posts/5205352

    2). เรื่องเกี่ยวกับภพชาติต่างๆของเรา ที่มีอยู่-เป็นอยู่ และดำเนินไปพร้อมเพียงกันหมด ในเวลาเดียวกัน

    "ข้อความจากต่างมิติ-จักรวาลที่กำลังกระพริบ-และความเป็นจริงหลากมิติ"

    http://palungjit.org/threads/ข้อควา...วามเป็นจริงหลากมิติ.261510/page-3#post5206029

    3). เรื่องเกี่ยวกับจุดประสานมิติ

    "จุดประสานมิติ"

    http://palungjit.org/threads/จุดประสานมิติ.90702/page-4#post5205965

    4). เรื่องเกี่ยวกับกาลเวลาที่ไม่เป็นเส้นตรง และธรรมชาติของกาลเวลา

    "ข้อความจากต่างมิติ-การท่องกาลเวลา-การเปลี่ยนแปลงแก้ไขอดีต-และธรรมชาติของกาลเวลา"

    http://palungjit.org/threads/ข้อควา...ยนแปลงแก้ไขอดีต-และธรรมชาติของกาลเวลา.266549/
    ...........................................................
     
  8. ไอ้นอกโลก

    ไอ้นอกโลก Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    572
    ค่าพลัง:
    +72
    ความรักแบบไร้เงื่อนไข อยู่ในมิติที่5นี่เอง มิน่าล่ะ...ผมถึงไปไม่ถึงซ่ะที 55+
    ผมชอบลีลา ภาษาที่สื่อของท่าน"เมตาตรอน"มากฮะ..(หรือว่าพี่"ชยุต" แปลเก่งด้วยก็ไม่ทราบนะครับ) อ่านแล้วรู้สึกดี..ชวนติดตาม..

    พี่"ชยุต" พักผ่อนบ้างนะฮะ.. ผมเห็นแปลแต่ละที เหนื่อยแทน..
    ขอบคุณมากๆสำหรับความตั้งใจดีที่มีต่อเพื่อนๆสมาชิก ขอบคุณครับ..
     
  9. AFIKLIFI๋

    AFIKLIFI๋ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    869
    ค่าพลัง:
    +78
    เคยดูสารคดี เห็นเขาเข้าไปในโพรง
    ที่อยู่บนพื้นโลก ลงไปลึกมาก มีน้ำ
    ด้วยบางครั้งต้องใส่ชุดดำน้ำลงไปตาม
    ช่องว่าต่างๆ ลึกมากๆ พอลงไปก็เจอ
    พวกอุปกรณ์ต่างๆร่องรอยการใช้ชีวิต
    ในนั้น ขึ้นจากน้ำเจอพื้นดิน เจอพื้นดิน
    ก็ยังเจอรูเจอโพรง ต่อลงไปอีกเรื่อยๆ
    มันแปลกมากที่ว่ามันอยู่ลึกและมีการ
    ใช้ชีวิตของคนสมัยก่อนๆ อยู่ในนั้น งง
    ที่ว่าพวกเขาทำรูหรือว่ารูมันมีอยู่แล้ว
    อย่างนี้แสดงว่า สิ่งที่ท่านได้สื่อมามันก็
    มีเค้าความจริงอยู่ซินะว่าข้างในนั้น ต้อง
    มีผู้อาศัยอยู่
     
  10. มุมฟ้า

    มุมฟ้า สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +3
    ..

    ผมคิดว่าเวลาอาจไม่มีอยู่จริงก็เพราะเรากำหนดมันขึ้นมาเอง
    1วัน=โลกหมุนรอบตัวเอง 1ปี=หมุนรอบดวงอาทิตย์
    ผมคิดว่าเวลาอาจจะ=ความเร็วหรือความเร่งนี่แหละ
    แล้วถ้ามีอะไรที่เร็วกว่าแสงผมว่าทุกอย่างคงจะหยุดนิ่ง
    และถ้าเราเร็วกว่าแสงได้อาจจะกระชากไปสู่มิติอื่นก็ได้
    หรือจริงๆแล้วมิติอาจจะซ้อนกันอยู่แต่เราความเร็วไม่พออาจ
    เป็นงั้นก็ได้เพราะถ้าจำไม่ผิดจักรวาลมีกลไกที่ควบคุมด้วยแสงอยู่
    แล้วที่บอกว่ามนุษย์ต่างดาว(ใช่ป่ะ)มองเห็นณปัจจุบันไม่มีอนาคต
    หรืออดีตหรือทุกสิ่งจริงๆมันเกิดขึ้นพร้อมกันอยู่แล้ว
    ผมคิดว่าถ้าสังเกตตัวเราดูดีๆก็มีคำตอบได้อย่างผมเคยคิดว่า
    อย่างผมเกิดปี1900แต่ผมรู้สึกว่า1900ปีประวัติศาสตร์หรือก่อน
    ประวัติศาสตร์ผมไม่มีความรู้สึกเลยว่าช้าหรือเร็วจำได้ก็เกิดมาปี
    1900แล้วเคยรู้สึกไหมว่าตัวเองหลับสนิทแล้วตื่นขึ้นมาแล้วแ่ค่พริบ
    ตาเดียวทั้งๆที่ผ่านมาแล้วหลายชั่วโมงความรู้สึกคงประมาณนั้น
    สมมุติว่าเราตายไปไม่ว่าจะปีไหนจะเรียกเวลาไหนก็ตามผมคิดว่า
    ทุกคนคงจะอยู่ในห้วงเวลาเดียวกันแล้วผมหมายความว่าสำหรับคนที่
    ตายไปแล้วจะผ่านไปกี่พันกี่หมื่นปีก็เหมือนพริบตาเดียวเท่านั้น
    หรือจะเป็นยังงั้นได้ต้องนิพพานมองอีกแง่เราอาจไม่มีความทรงจำ
    เหลืออยู่เราเลยจำไม่ได้ก็ได้ อิอิ
     

แชร์หน้านี้

Loading...