ในความมืดขณะจนมุมที่ก้นเหว

ในห้อง 'ดูดวง และ ทำนายฝัน' ตั้งกระทู้โดย TupLuang, 19 กรกฎาคม 2008.

  1. TupLuang

    TupLuang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,143
    ค่าพลัง:
    +1,371
    ในความมืดขณะจนมุมที่ก้นเหว<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p></O:p>

    [​IMG]

    <O:p></O:p>
    หลายคนบ่นให้ผมฟัง อารมณ์ประมาณกำลังโดนแชมป์มวยเฮฟวี่เวทรุมสกรัมสัก ๕-๖ คนพร้อมกัน ขนาดมีลงยันต์คงกระพันชาตรียังคางเหลือง ตาเหลือกยกขาชี้ฟ้ากันเป็นแถว คนที่สนิทกับผมบางคนหย่าเมียแถมบริษัทร่อแร่จวนอยู่จวนไป บางคนโดนคดีฉ้อโกงเฉียดคุกเฉียดตาราง บางคนใกล้จะโดนยึดบ้าน เอ้อ! ทำไมช่างประจวบเหมาะพร้อมกันเอาในปีนี้?

    <O:p></O:p>
    แต่มันจะเป็นปีมืดฟ้ามัวฝนตามเกณฑ์อะไรก็ช่างเถอะ ฝนจะตกเราห้ามไม่ได้ ดวงตกบ้างจะเป็นไรไป ใจทำหน้าที่ดูดวงตกโดยไม่ต้องตกตามดวงก็แล้วกัน
    <O:p></O:p>
    การเฝ้าดูดวงตัวเองตกในอาการโค้งคำนับรับชะตาโดยดุษณีนั้น เป็นศิลปะของความนิ่งอันงดงาม เมื่อปล่อยให้ตัวเองกระสับกระส่าย คุณจะรู้สึกเป็นไปไม่ได้ที่จะนิ่ง แต่หากรักษาความนิ่งไว้ได้เสียก่อนกระสับกระส่าย คุณจะถามตัวเองว่าทำไมแต่ก่อนถึงต้องดิ้นพล่านอย่างนั้น สถานการณ์เลวร้ายที่สุดแค่ไหนมันก็อยู่นอกจิต ไม่ได้บังคับให้จิตคุณต้องเต้นเร่าๆสักหน่อย แล้วทำไมคุณต้องเต้นเร่าๆไปด้วย?

    <O:p></O:p>
    ความสงบเงียบของคลื่นความคิดท่ามกลางความฟุ้งซ่านระส่ำระสายของคนรอบตัว และความสว่างโพลงของจิตในท่ามกลางบาปอันมืดมิดของใครต่อใคร คือความสง่างามตามแบบฉบับของพุทธที่เคารพและถือปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ตราบใดที่จิตคุณส่องสว่างอยู่ ตราบนั้นคุณจะไม่เห็นมุมไหนในโลกเป็นจุดอับจนเลย

    <O:p></O:p>
    สิ่งเดียวที่ทำให้จิตคุณยังสว่างอยู่ได้ภายใต้สถานการณ์บีบเข้าตาจน ก็คือสติ หากคุณไม่รู้จักคำว่า ‘สติ’ เพียงในหน้ากระดาษ ทว่าฝึกให้มีภาวะระลึกได้อยู่กับตัวตลอดเวลา ชีวิตคุณจะไม่มีวันมืดขนาดคิดไม่ออกบอกไม่ถูกว่าประตูอยู่ตรงไหน แล้วจะก้าวเดินไปถึงประตูกันอย่างไร

    <O:p></O:p>
    สติเป็นประธานของบุญน้อยใหญ่ทั้งปวง หากสตินั้นปราศจากม่านอคติรู้เห็นตามจริง มีความเพียรแก้ปัญหาด้วยความอิ่มเอมเปรมใจ และด้วยอาการสงบเงียบไม่ฟุ้งซ่านพล่านไป ในที่สุดก็เข้าสู่ความหนักแน่นเป็นสมาธิ ตลอดจนเกิดอาการวางเฉยอันงดงามเสียได้ นั่นแหละความสว่างของจิตที่ฉายขึ้นเต็มดวง ท่ามกลางเส้นทางที่เหมือนพามุ่งสู่ความอับจน

    <O:p></O:p>
    หากคุณเคยเห็นตัวอย่าง หากคุณเคยได้รับแรงบันดาลใจจากใครสักคนหนึ่งจริงๆ คุณจะเห็นว่าคุ้มค่าน่าจดจำและควรแก่การเอาแบบอย่าง และเหมือนคุณจะทำได้โดยไม่ต้องท่องจำเป็นข้อๆเลยด้วยซ้ำ ว่าความวางเฉยอันงดงามประกอบด้วยอะไรบ้าง
    แต่ถ้าโดยประสบการณ์ตรงคุณยังไม่มีโอกาสพบแรงบันดาลใจเช่นนั้น คุณก็จำเป็นต้องสร้างตัวอย่างขึ้นมาในตนเอง เพราะถ้าคุณเป็นมนุษย์ ก็มีสิทธิ์เกิดคุณสมบัติครบทุกข้อดังที่กล่าวมาทั้งสิ้น

    <O:p></O:p>
    มีปัญหา ท่องไว้ขึ้นใจ เอาสติชูขึ้นมาเป็นธงรบ อาการที่เกิดสติ ก็คืออาการที่จิตมีความสามารถระลึกได้ ว่าเกิดอะไรขึ้น จากนั้นค่อยให้ความคิดทำงานอย่างเป็นระเบียบ เห็นตามจริงว่าสิ่งใดเป็นตัวปัญหา ปัญหาประกอบด้วยชิ้นส่วนใดบ้าง เห็นให้ครบ หรือถ้าไม่ครบก็ให้มากพอจะรู้ต้นตอของปัญหา ขอให้จำไว้อย่างหนึ่ง คือถ้ามีความตระหนักว่ากำลังเกิดปัญหาใด และเห็นตามจริงว่ารายละเอียดของปัญหามี อะไรบ้าง ความฉลาดจะเกิดขึ้นเอง ที่ตรงนั้นเมื่อคุณถามว่า ‘ปัญหาเกิดจากอะไร?’ จิตของคุณจะมีคำตอบให้

    <O:p></O:p>
    เมื่อทราบว่าปัญหาคืออะไร สิ่งต่อไปที่ต้องทำคือการโจนเข้าเผชิญกับปัญหาด้วยความกระตือรือร้น หากคุณเฉื่อยชาตั้งแต่นาทีแรกที่รู้จักปัญหา หรือท้อถอยเห็นรายละเอียดของปัญหายุบยิบจนชวนให้มือไม้อ่อน ภายหลังคุณจะปลุกใจตัวเองยาก และลำบากยิ่งที่จะมีกำลังใจสู้กับปัญหาอย่างต่อเนื่อง จำไว้ว่าความต่อเนื่องคือวิริยะ วิริยะคือความเข้มแข็ง คือพลังจิตที่จะพิชิตปัญหาทุกชนิดได้ก่อนสาย

    <O:p></O:p>
    การมีวิริยะโดยปราศจากความเคร่งเครียดเกินไป จะทำให้คุณรู้สึกมีชีวิตชีวาและสนุกกับภาระ สนุกกับการแก้ปัญหาเป็นเปลาะๆ คุณจะพบว่าตนเองอยู่ท่ามกลางเวลาที่ธรรมชาติให้มาให้แก้ปัญหาได้ทันเสมอ เว้นเสียแต่คุณทอดหุ่ย ไม่รู้สึกสนุก ก็จะไม่อยากทำให้ต่อเนื่อง แล้วบ่นกระปอดกระแปดว่าเวลาไม่พอ
    <O:p></O:p>
    ศิลปะทางจิตของแต่ละคนมาถึงทางแยกให้เกิดความแตกต่างอย่างสำคัญอีกทีก็ตรงนี้ หากคุณสนุกกับภาระ เพลิดเพลินกับการแก้ปัญหาได้ด้วยอาการไม่กวัดแกว่งระส่ำระสาย ทั้งแขนขาภายนอก และทั้งคลื่นความคิดภายใน ยิ่งแบกภาระนานคุณจะยิ่งนิ่งลงเรื่อยๆ กระทั่งจิตเรียบใสดุจกระจก และปากคุณจะปิดสนิทไร้คำบ่น บังเกิดความหนักแน่นเป็นสมาธิ จิตไม่ซัดส่ายไหวติงแม้กายยังเคลื่อนไหวอย่างฉับไวทันสถานการณ์

    <O:p></O:p>
    โดยคุณสมบัติที่ทำให้ปรากฏแล้วข้างต้น หากผลของการแก้ปัญหาเป็นสำเร็จ คุณจะไม่กระโดดโลดเต้นแบบพวกสติแตก และหากล้มเหลว คุณก็จะไม่ล้มลงตีอกชกหัวใกล้เป็นใกล้ตาย คุณอาจดีใจบ้างหรือเสียใจบ้าง แต่จิตที่เป็นสมาธิอย่างดีจะไม่ปล่อยให้คุณแสดงอาการขึ้นๆลงๆเหมือนไฟที่วูบหนึ่งสว่าง อีกวูบหนึ่งมืดสลับกัน

    <O:p></O:p>
    หรือในที่สุดแล้ว แม้ต้องยอมรับว่าปัญหาบางอย่างจำต้องจบลงด้วยการรับบทลงโทษจากกรรมที่คุณก่อขึ้น จิตคุณก็จะไม่ยอมจำนนให้กับความมืดที่โรยตัวลงมาครอบงำเลย นี่แหละ สุดยอดของศิลปะการทำจิตให้สว่างท่ามกลางความมืดรอบด้าน หากคุณไม่เหลืออะไรเลย ขอให้มีเพียงสติตัวเดียว ยอมรับตามจริงให้ได้ ระลึกให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณ

    <O:p></O:p>
    เมื่อจิตไม่มืดตามสิ่งแวดล้อม ในที่สุดสิ่งแวดล้อมก็จะยอมแพ้ด้วยการสว่างตามจิตไม่มากก็น้อยไปเอง<O:p></O:p>

    </B>
    <!--poem--><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=550 border=0><TBODY><TR><TD class=general style="BORDER-RIGHT: #cccccc 1px solid; BORDER-BOTTOM: #cccccc 1px solid" align=right><O:p></O:p>
    การตกต่ำถึงที่สุด<O:p></O:p>

    คือการหยุดอยู่กับจิตที่มืดมิด<O:p></O:p>
    แต่ตราบใดยังรักษาจิตให้สว่าง<O:p></O:p>
    ก็ไม่มีทางตกต่ำถึงที่สุด



    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    http://www.dungtrin.com/empty2/15.htm
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • shadow.jpg
      shadow.jpg
      ขนาดไฟล์:
      142 KB
      เปิดดู:
      6,599
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 20 กรกฎาคม 2008
  2. QuaOs

    QuaOs เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    139
    ค่าพลัง:
    +480
    ขอบคุณครับ บทความยอดเยี่ยม มีประโยชน์มาก ต้องเซฟไว้อ่าน
     
  3. อิสวาร์ยาไรท์

    อิสวาร์ยาไรท์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,608
    ค่าพลัง:
    +1,955
    न्यवा
     
  4. supatach

    supatach เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,638
    ค่าพลัง:
    +6,666
    ขอขอบคุณสำหรับสาระดีๆเช่นนี้ครับ
     
  5. PhuKan~*

    PhuKan~* Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +89

    เห็นด้วยค่ะ
    ภาษาสื่ออารมณ์ได้ดีมากค่ะ:cool:
     
  6. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    :cool::cool::cool::cool:
     
  7. เนตรนที

    เนตรนที เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    457
    ค่าพลัง:
    +4,122
    เยี่ยมมากเลยค่ะ อ่านเข้าใจง่าย คล้อยตาม
    ได้ความคิดดีมากเลยค่ะ ขอเซฟไว้นะคะ ได้กำลังใจดีมากค่ะ
     
  8. JPN8

    JPN8 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +458
    จะไม่ดีใจหรือเสียใจกับทุกๆเรื่อง
     
  9. pasit_99

    pasit_99 การเวียนว่ายตายเกิดนั้นน่ากลัว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,669
    ค่าพลัง:
    +3,460
    เห็นด้วยทุกประการครับ เพราะเคยผ่านมาแล้ว
    ขณะที่มีทุกข์หลายๆอย่างรุมเร้า ต้องมีสติ
    เพ่งทุกข์แต่ละอย่างเป็นอารมณ์ไปเลย

    แล้วเราจะรู้ว่า ความทุกข์ นั้นมีหลายแบบ
    มีทั้งทุกข์แท้ และทุกข์เทียม

    ทุกข์ก็เหมือนกิเลสอื่นๆ ถ้าเพ่งมันมากๆ เหมือนเราเป็นผู้ดู ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
    มันก็มักจะอาย แล้วค่อยๆหายไปเอง

    แล้วเราจะรู้ ว่า อ้อ...ความทุกข์บางตัว ที่แท้เราสร้างมันขึ้นมาเอง

    เราสร้างภาพเสือขึ้นมาแล้วก็กลัวมันซะเอง ทั้งๆที่เป็นแค่เสือปลอมๆ มันไม่มีปัญญาทำอะไรเราได้ นอกจากหลอกหลอนให้เรากลัว ทั้งที่ความจริงแล้ว ไม่มีทุกข์ใดเลยที่เราจะทนไม่ได้ นอกจากเราไม่ยอมทนมันเท่านั้น

    ความสุขก็ไม่ได้ดีไปกว่าความทุกข์เท่าไหร่หรอกครับ สิ่งที่เราคิดว่าสวยๆงามๆ น่าอภิรมย์ ที่แท้ก็จอมปลอมทั้งเพ จะหาสิ่งที่มั่นคงถาวรนั้นไม่มีเลย เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เป็นไปตามกฏนี้ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...