เรื่องเด่น มงคลสามสาย...มงคลรัตนะ พระคาถาที่เหนือธรรมดา ฉบับหลวงปู่ทอง วัดราชโยธา

จากบทคาถาแต่งองค์ ของหลวงปู่ดู่ ที่หมวดอรรถได้นำมาเผยแพร่ให้ผู้อ่านได้ศึกษากันแล้ว ผมได้ไปพบวิชาเดียวกันนี้ในหนังสือเล่มหนึ่งที่อ้างอิงมาจากวิชาของหลวงปู่ ทองวัดราชโยธา หรือวัดลาดบัวขาว เกจิยุคเก่าของเมืองกรุง เขตสะพานสูงนี่เองครับ....

พระคาถามงคลสามสายและการชักมงคลเข้าตัว

วิชานี้เป็นของ ลป.ทอง วัดราชโยธา โดยคุณปรีชา เอี่ยมธรรมเคยเขียนลงหนังสือลานโพธิ์ ไว้ดังนี้ครับ

พระคาถามงคลสามสาย

มงคลสายที่ 1 พุทธะ สังมิ ธัมมะ สังมิ สังฆะ สังมิ พุทธะสัง อะระหัง มังคะลังโลเกมิ อุมะอะปิด
มงคลสายที่ 2 พุทธะ สังมิ ธัมมะ สังมิ สังฆะ สังมิ ธัมมะสัง อะระหัง มังคะลังโลเกมิ อุมะอะปิด
มงคลสายที่ 3 พุทธะ สังมิ ธัมมะ สังมิ สังฆะ สังมิ สังฆะสัง อะระหัง มังคะลังโลเกมิ อุมะอะปิด

วิธีการชักมงคลเข้าตัว

ก่อนจะชักมงคล ให้นั่งสมาธิแล้วว่า นะโม 3 จบ ระลึกถึง ลป.ทอง วัดราชโยธา แล้วชักมงคลดังนี้

การชักมงคลสายที่ 1

ให้ ใช้หัวแม่มือทั้งสองจรดชิดกันที่กลางหน้าผาก แล้วลากหัวแม่มือทั้งสองออกจากกัน หัวแม่มือขวาลากไปทางขวา หัวแม่มือซ้ายลากไปทางซ้าย ไปชนกันที่ด้านหลังของศรีษะ พร้อมกับว่าพระคาถามงคลสายที่ 1 ว่า “ พุทธะสังมิ ธัมมะสังมิ สังฆะสังมิ... “
จากนั้นลากหัวแม่มือทั้งสองกลับมาทางเก่าจนจรดกันที่หน้าผาก หร้อมกับว่าพระคาถามงคลสายที่ 1 ต่อ “...พุทธะสัง อะระหัง มังคะลังโลเกมิ อุมะอะปิด”
พอจบคำว่า “ อุมะอะปิด” ก็ให้หัวแม่มือมาจรดกันที่หน้าผากพอดี ทั้งนี้ขณะที่เริ่มว่าพระคาถามงคลสายที่ 1 พร้อมกับชักยันต์จากด้านหน้าไปด้านหลัง และชักกลับมาที่หน้าผาก ต้องทำลมหายใจพร้อมกันไปด้วย โดยก่อนที่จะเริ่มว่าพระคาถานั้น ให้หายใจออกให้จนหมด พอเริ่มว่าพระคาถาพร้อมกับชักยันต์นั้น ให้สูดลมหายใจเข้า จากต้นจนจบการชักมงคลสายที่ 1

การชักมงคลสายที่ 2

ให้ลากหัวแม่มือทั้งสองพร้อมกันจากหน้าผากผ่านระหว่างคิ้ว จมูก กลางปาก คาง ลูกกระเดือก ลงมาหยุดที่ใต้ลูกกระเดือกตรงกลางลำคอ
ระหว่างที่ลากหัวแม่มือทั้งสองลงมาจากหน้าผากนั้น ให้ว่าพระคาถามงคลสายที่ 2 “พุทธะสังมิ ธัมมะสังมิ สังฆะสังมิ ...”หัวแม่มือทั้งสองจะมาหยุดอยู่ที่ตรงส่วนต่อระหว่างลำคอ ระหว่างกระดูกไหปลาร้าที่มาชนกันตรงที่เป็นรอยลึก (เอามือคลำดูจะรู้ได้)
แล้ว ลากหัวแม่มือทั้งสองแยกทางกัน หัวแม่มือซ้ายลากไปทางซ้าย หัวแม่มือขวาลากไปทางขวา ไปบรรจบกันที่กึ่งกลางคอด้านหลัง จากนั้นลากกลับมาบรรจบกันที่เดิมคือที่กึ่งกลางคอด้านหน้า
ขณะที่ลากหัวแม่มือไปทางด้านหลังและกลับมาที่เดิมนั้น ให้ภาวนาพระคาถาสายที่สองต่อว่า “...ธัมมะสัง อะระหัง มังคะลังโลเกมิ อุมะอะปิด”
พอถึงคำว่า “อุมะอะปิด” หัวแม่มือจะต้องมาชนกันพอดี พร้อมกันนั้นก็ให้หายใจอัดเข้าเหมือนกับการชักมงคลสายที่ 1

การชักมงคลสายที่ 3

จากจุดเดิมคือกึ่งกลางลำคอด้านหน้าที่หัวแม่มือมาชนชิดติดกัน ลากผ่านกลางทรวงอกลงมาที่สะดือ พร้อมกับว่าคาถามงคลสายที่ 3 “พุทธะสังมิ ธัมมะสังมิ สังฆะสังมิ...”จาก นั้นลากหัวแม่มือแยกออกจากกันไปชนที่กึ่งกลางด้านหลังตรงกระเบนเหน็บ แล้วลากกลับมาที่เดิม มาชนกันที่สะดือ พร้อมกับว่าพระคาถามงคลสามสายสายที่ 3 ต่อว่า “...สังฆะสัง อะระหัง มังคะลังโลเกมิ อุมะอะปิด”
พอ สิ้นคำว่า...ปิด...หัวแม่มือทั้งสองต้องกลับมาชนกันที่กลางสะดือพอดี และในขณะที่ชักมงคล อย่าลืมหายใจอัดเข้าเหมือนกับการชักมงคลสามยที่ 1 และ 2

แล้วจากกลาง สะดือ ให้ชักหัวแม่มือทั้งสองแยกออกจากกัน มือขวาไปทางขวา มือซ้ายไปทางซ้าย ลากจากสะดือผ่านต้นขา ผ่านหัวเข่า ลงไปจับที่หัวแม่เท้าทั้งสอง พร้อมกับภาวนาพระคาถาผูกกรึงว่า “ อิมังกายะ เพชชะคงกระพัน พันธานัง อธิษฐามิ."
แล้วให้ใช้หัวแม่มือทั้งสองพันรอบหัวแม่เท้าทั้งสอง 3 รอบ พร้อมกับภาวนาพระคาถาว่า “ ..นะมะยามิ นะมะยามิ นะมะยามิ...” เป็นอันเสรจพิธี

***คัดลอกมาจาก หนังสือ SPIRIT ART&ANTIQUE เล่มที่ 38 หน้าที่ 79-80***

### มาลงเพิ่มรูปหลวงปู่ทองให้ตามคำขอครับ เป็นรุปตอนท่านนั่งมรณะภาพรูนึงกับตอนท่านมีชีวิตอยู่รูปหนึ่งครับ ###

 

คาถานี้ใช้ทางไหน อย่างไร ต้องทำทุกวันหรือ

 

............ทั้งนี้ขณะที่เริ่มว่าพระคาถามงคลสายที่ 1 พร้อมกับชักยันต์จากด้านหน้าไปด้านหลัง และชักกลับมาที่หน้าผาก ต้องทำลมหายใจพร้อมกันไปด้วย โดยก่อนที่จะเริ่มว่าพระคาถานั้น ให้หายใจออกให้จนหมด พอเริ่มว่าพระคาถาพร้อมกับชักยันต์นั้น ให้สูดลมหายใจเข้า จากต้นจนจบการชักมงคลสายที่ 1

.... คำว่าชักยันต์ ต้องทำไงคะ

 

คำว่าชักยันต์ จริงๆก็เหมือนกันกับคำว่าชักมงคลละครับ
ให้เราเปรียบเสมือนว่าเรามีสายสิญจ์นเส้นยาวๆเอามาขึงมาผูกไว้รอบนิ้วโป้งมือทั้งสองข้าง จากนั้นลากแล้วผูกเป็นมงคลสวมศรีษะ หรือจะว่าไปเหมือนมงคลนักมวยเวลาจะเริ่มชกน่ะแหละครับ
จากรอบศรีษะ ก็ลากมาต่อที่รอบคอ รอบเอว แล้วก็ลากเส้นด้ายนั้นลงมาผูกไว้ที่หัวแม่เท้า เหมือนกับว่าเส้นด้ายสายสิญจ์นนี้ได้ถูกเชื่อมโยงถึงกันทั้งร่างกายครับ

 

ใช้ทางป้องกันภยันอันตราย แคล้วคลาด ถึงขนาดคงกระพันได้ครับ ผู้ใดขณะที่ทำการชักมงคล มีการทรงความเป็นสมาธิมาก ผลของพระคาถานี้ก็จะมีมาก เปรียบเหมือนกันการตอบตะปูด้วยฆ้อน ถ้าคนที่ตอกมีสมาธิแน่วแน่ ตอกได้ตรงตำแหน่งหัวตะปู และตอกด้วยความแรง ตะปูก็จะเข้าเนื้อไม้ได้เยอะ และไม่บิดงอ ถ้าขาดสมาธิคงจะต้องตอกหลายครั้ง หรือบิดเบี้ยวไปครับ นี่เป็นสาเหตุว่าทำไมบงท่านท่องคาถาแล้วไม่ค่อยจะเห็นผล

อีกประการคือในบางวิชานั้น ต้องถึงขนาดมีการครอบครู กันเสียก่อนถึงจะใช้งานวิชานั้นได้เต็มร้อย....ดังนั้นก่อนที่จะใช้พระคาถานี้ ให้ทำสมาธิและระลึกถึงหลวงปู่ทองวัดราชโยธา ผู้เป็นเจ้าตำราด้วยทุกครั้งครับ

พระคาถานี้ใช้กันสิ่งเสนียดจัญไร คุณไสยต่างได้เช่นกันครับ และถ้าเป็นไปได้ให้ทำทุกวันก่อนออกจากบ้านครับ

 

อนุโมทนาด้วยครับ ... สาธุ พอจะมีภาพหลวงปู่ทองมั๊ยครับขอความกรุณาช่วยลงภาพให้ด้วยครับจะได้ปริ้นท์ไปบูชาครับ ขอบคุณครับ

 

ชักยันต์ก็หมายถึงการลากนิ้วนั้นล่ะครับ