กระบวนการทำลายพุทธศาสนา

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย kob_saetan, 9 กันยายน 2010.

  1. kob_saetan

    kob_saetan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +204
    เราทราบมาพอประมาณแต่ไม่กล้าโพสทั้งหมด ขอความรู้เพื่อนๆด้วยว่าพอตรงกันไหม

    ในบทความที่ได้รับมานี้ เขาเกริ่นว่า คนไทยส่วนใหญ่นับถือพระพุทธศาสนา
    แต่ส่วนใหญ่ไม่ใส่ใจศึกษาและไม่ปฏิบัติตามคำสอนในพระพุทธศาสนา แต่กลับถูก
    กระทำให้เราเข้าใจกันว่า ​
    ทุกศาสนาสอนให้ทุกคน เป็นคนดีเหมือนกันนั่นแสดงว่า
    เรากำลังถูกเขาครอบงำขั้นต้นเข้าให้แล้ว
    ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น แต่ชาวโลกส่วนใหญ่ก็ยังไม่มีคำตอบที่ถูกต้อง
    ว่าเราเกิดมาเป็นมนุษย์ หรือ เกิดเป็นสัตว์เพราะเหตุใด ทำไมคนเราจึงแตกต่างกัน
    มากมาย
    .. เราเกิดมาทำไม ต้องทำสิ่งใดกันบ้าง นรก- สวรรค์ มีจริงหรือไม่ อยู่ที่ใด
    กฎแห่งกรรมนั้นจริงแท้แค่ไหน
    ..ทำไมคนชั่วในสังคม จึงยังคงได้ดีมีสุขอยู่ในปัจจุบัน
    ใครกันหนอจะเป็นผู้ให้คำตอบที่ถูกต้องแก่เรา บางคนถึงกับพูดว่า พระพุทธเจ้ามี

    จริงหรือ
    ???. ตราบใดที่ศาสนาทั้งหลาย ยังไม่อาจให้คำตอบที่ถูกต้องแท้จริง แก่
    [LEFT]ศาสนิกของตนแล้วไซร้ ผู้คนก็จะยังคงหลงผิดอยู่ร่ำไป ดังนั้น แม้จนตายก็ยังไม่รู้[/LEFT]
    หรอกว่า ตายแล้วไปไหน
    .. คิดแล้วน่าเสียดายลม..หายใจ?


     
  2. โมก

    โมก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    435
    ค่าพลัง:
    +1,737
    เข้าใจความรู้สึกค่ะ ยิ่งถ้าท่านใดด้วยสัญญาเก่ามาปฏิบัติมาย่อมผูกพันธ์กับพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก และเมื่อเห็นใครทำไม่ถูกต้อง จิตปรุงแต่งเป็นอารมณ์ไปตามนั้น เมื่อกาลเข้าสู่กึ่งพุทธกาล ก็ย่อมมีพวกแปลกๆออกมา ไม่ใช่แค่ศาสนาอื่นที่พยายามดึงชาวพุทธที่เป็นพุทธแต่ชื่อ แต่ใจไม่ได้เข้าถึงพุทธเลย ก็ย่อมไม่แปลก

    ดิฉันเคยกังวลเช่นกัน พระอาจารย์ใหญ่ท่านจึงสื่อมาในจิตว่า
    "จิตมนุษย์ปรุงแต่งกันมาก สิ่งอันแปลกปลอมไปจากคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้านั่นเป็นธรรมดา เพราะเกิดขึ้นมานมนานแล้ว มีมาตั้งแต่สมัยที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้"

    ส่วนศาสนาอื่น ไม่ต้องไปใส่ใจอะไร เขาชักชวนอย่างไร ใช้เล่ห์กลใดๆของฟรีใดๆ อย่างทุนการศึกษาหรืออะไรต่างๆเพื่อให้คนรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณและเอนเอียงไปนับถือศาสนาของเขา
    แล้วถ้าใครจะหันไปเปลี่ยนศาสนาไป นั่นก็ความพอใจของเขา มันอยู่ที่สัญญาเก่าทำให้แต่ละคนมีวิถีต่างกันไป

    แต่ที่น่าเป็นห่วงคือพวกที่แอบอ้างว่าเป็นพุทธ แต่แอบแฝงการทำมาหากิน การขายบุญ ขายสวรรค์ ซึ่งพวกนี้เขามีทีมจิตวิทยาศึกษา มีทีมงานการตลาดเป็นอย่างดี และพยายามใช้เงินซื้อทุกอย่าง กระทั่งซื้อพระป่ามาเป็นพวก อันนี้เจ้าอาวาสสายพระป่ารูปหนึ่ง ที่ดิฉันเคยสนทนาท่านเล่าให้ฟัง

    ปัญหาคือตราบใดมนุษย์ยังไม่เข้าใจว่าพระพุทธศานาท่านสอนอะไร มนุษย์จำพวกนี้ก็ยังคงต้องตกเป็นเครื่องมือของอวิชชาต่อไป ด้วยจิตที่ตกอยู่กิเลสตัณหาทั้งความอยากมีอยากเป็นและไม่อยากมีอยากเป็น
    "ทำบุญเพราะอยากรวย ทำบุญเพราะกลัวตกนรก ทำบุญเพราะอยากไปสวรรค์ ไปอยู่ชั้นนั้นชั้นนี้"
    มนุษย์เหล่านั้นย่อมตกเป็นเหยื่อของมารศาสนาที่แอบอิงอยู่กับพระพุทธศาสนาได้อย่างแนบเนียนในคราบต่างๆ เหมือนหมาป่าสวมหนังราชสีห์ ตามนุษย์ที่จิตไม่เห็นธรรมไม่เอาธรรมย่อมเห็นเพียงภายนอกที่เขาแสดงให้เห็นว่าเป็นราชสีห์ หากแต่พิจารณาเนื้อในแล้ว เป็นหมาป่านี่เอง มนุษย์ผู้มีธรรมในใจเท่านั้นแล จึงจะเข้าใจและไม่หลงไหลได้ใคร่กับอวิชชาทั้งหลายที่พวกนี้คอยหยิบยื่นให้

    เมื่อวานดิฉันจิตเฟ้อไปเหมือนกันกับเรื่องพวกนี้ ทำไมถึงหลอกคน ทำไมถึงทำแบบนี้ จิตมันไม่เป็นสุข ในสมาธิพระอาจารย์ใหญ่ท่านเมตตามาโปรดสั่งสอน ท่านใดจิตไม่ใคร่สบายกังวลเพราะเหตุนี้ ลองพิจารณากันดูค่ะ
    "คิดดี ทำดี พูดดี ใครเขาทำอย่างไรช่างเขา ให้คิดว่าเขาจะทำดี คิดเป็นกุศล จะถูกจะผิดช่างเขา เมื่อภูมิธรรมของเขาสูงขึ้น เขาจะรู้เองว่าถูกหรือผิด ควรแก้ไขอย่างไร"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กันยายน 2010
  3. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    คำสอนของพระพุทธเจ้า นั้นท่านเผยแพร่เพื่อผู้อื่น ใครได้อ่าน ได้เข้าใจ ได้นำไปปฏิบัติ
    ก็ถือเป็นวาสนาของคนๆนั้น ไม่จำกัดลัทธิ ไม่จำกัดศาสนา
    คนไทยที่เกิดในศาสนาพุทธเถระวาท ก็ถือว่ามีวาสนาที่ได้รู้คำสอนจากพ่อแม่ครูบาจารย์
    มาตั้งแต่เกิด ถ้าสมาทานคำสอนไปปฏิบัติ จนเกิดเป็นปฏิเวชได้ ก็นับว่าประเสริฐแล้ว
    การสืบทอดคำสอนหรือต้องการจะรักษาคำสอนที่ถูกต้องไว้ ก็คือต้องเข้าใจ ปฏิบัติได้ถูก
    ปฏิเวชได้ถูก ย่อมเกิดกุศลจิตต่อผู้อื่นเป็นปฐม คือมีเมตตา กรุณา สงสาร ต่อผู้อื่น มีความรู้
    มีความเข้าใจที่ถูกต้องตามจริง เพื่อเผยแผ่ความรู้ความเข้าใจให้ผู้อื่นได้ แม้จะนับถือคนละศาสนา
    และย่อมเป็นผู้รู้ผู้เข้าใจธรรมชาติพฤติกรรมของมนุษย์ผู้ไม่รู้ความจริง
    จึงเป็นความสงสารผู้ไม่รู้ มากกว่าจะเป็นผู้ซ้ำเติมผู้ไม่รู้ให้ห่างไกลความจริงที่พระพุทธองค์
    เผยแพร่คำสอนไว้

    หลวงปู่หลวงพ่อหลายๆท่าน ที่ไปเผยแพร่วิปัสนากรรมฐานในต่างประเทศ
    ท่านก็ไม่ได้หวงห้ามคนศาสนาอื่นไม่ให้มารู้ แต่ท่านกลับสอนองค์ความรู้ทางพุทธ
    ให้กับทุกคนที่เข้ามาแสวงหาสัจธรรม และไม่ต้องเปลี่ยนศาสนาด้วยหมายความว่า
    การปฏิบัติวิปัสนากรรมฐาน ทำได้ทุกคน ทำได้ทุกศาสนา
    คนที่มีความรู้ถูกต้องตามจริง ย่อมรักษาและเผยแพร่ศาสนาพุทธได้ยั่งยืนอย่างมีคุณต่อตัวเองและผู้อื่น
    ถ้าวันใดไม่มีคนที่รู้คำสอนและปฏิเวชที่ถูกต้อง ย่อมเหลือเพียงคัมภีร์ให้รักษา

    หากคำสอนที่เราถือไว้ว่าประเสริฐและเป็นของดี ย่อมเปลี่ยนคนเลวให้เป็นคนดีได้เสมอ
    ถ้าคนศาสนาอื่นเขาเข้ามาศึกษาตามเรา แล้วไม่สามารถทำให้เขาเห็นความจริง
    ไม่สามารถเปลี่ยนมิจฉาทิฏฐิในคนเหล่านั้นให้เป็นสัมมาทิฏฐิได้ แปลว่าต้องมีที่ผิดพลาด
    ในความเข้าใจที่ตัวเรารึเปล่า เป็นที่เราไม่เข้าใจเอง จึงทำให้ผู้อื่นเข้าใจตามในทางที่ถูกไม่ได้
    ตกลงว่า เราจะช่วยกันรักษาและเผยแพร่สัจธรรมให้ผู้อื่น หรือเราจะรักษาและปิดกั้นผู้อื่น
    ไม่ให้เข้าถึงสัจธรรมเพราะกลัวคนอื่นจะครอบงำพวกเราแทน เอาไงดีหนอ

    ไม่เข้าใจตนเอง จึงยากจะเข้าใจผู้อื่น
    ไม่เข้าใจคัมภีร์ตนเอง จึงไม่เข้าใจคัมภีร์ของผู้อื่น
    ไม่เข้าใจคำสอน ก็เป็นการยากที่จะสืบทอดคำสอนนั้น
    ไม่เข้าใจสัจธรรม ก็เป็นการยากที่จะเข้าใจโลกตามจริง

    สิ่งใดที่เป็นกิจอันควรทำของเหล่าพุทธมามกะ
    มุ่งรักษาคัมภีร์ หรือทำตนให้รู้แจ้งด้วยความเข้าใจคำสอนในคัมภีร์ให้ได้ก่อนค่อยไปคิดรักษาและสืบทอดคำสอน

    ถ้ามุ่งรักษาคัมภีร์ก่อน ก็ควรระวังการปิดกั้นคนอื่นจนก่อให้เกิดสงครามความเชื่อกับคนศาสนาอื่น
    ถ้าศาสนาอื่นเขาอาศัยศรัทธาความเชื่อมาเข้าห้ำหั่นเราแล้วเราก็เอาศรัทธาความเชื่อของเราไปห้ำหั่น
    กับคนอื่น แล้วเราจะต่างจากคนอื่นที่ตรงไหน ถ้าหากว่าเราถือว่าเรามีปัญญาเหนือคนอื่น
    รู้ถูกกว่าคนอื่นแต่พฤติกรรมก็ไม่ต่างจากคนอื่น ก็แย่เนอะ ยิ่งกลัวว่าคนอื่นจะมาครอบงำพวกเราได้
    ก็ยิ่งแสดงว่าพวกเราขาดปัญญาจึงต้องเสื่อมไปเพราะคนอื่นเขามีกำลังและปัญญามากกว่าเรา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กันยายน 2010
  4. Mr.Boy_jakkrit

    Mr.Boy_jakkrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    2,063
    ค่าพลัง:
    +2,676
    พุทธศาสนาสอนเน้นเรื่อง "การหลุดพ้น" หากคำถามที่เกิดจากความคิดที่วกวนเหล่านั้นมันเป็นคำถามที่เกิดจากการแปรปรวนของสภาพจิตใจ ที่หลั่งไหลไปสู่ห้วงอุบายแห่งความทุกข์สิ่งนั้นก็ควรถูกขจัดจากความคิดไป แต่คนส่วนใหญ่มักจะหาคำตอบเหล่านั้นจากบุคคลที่ตนเชื่อถือเท่านั้น เช่น ถามว่า มนุษย์เกิดมาได้อย่างไร, พระพุทธเจ้ามีจริงหรือ , ไปจนถึงบางศาสนิกของศาสนาอื่นยังกล่าวว่า พุทธศาสนาเป็นคนที่สร้างพระเจ้าแต่ศาสนาของตนนั้นพระเจ้าสร้างขึ้น หมายถึงว่า ศาสนาพุทธเป็นสร้างพระเจ้าเอง สร้างพระพุทธรูปเองแล้วก็ยึดติดเองเป็นต้นฯ
    ต่างๆเหล่านี้เป็นความคิดเห็นที่เกิดจากความสงสัยใคร่รู้ แต่ติดตรงที่ว่าการใคร่รู้นั้นมันผิดวิสัย มันไม่ตรงทางจึงทำให้การใคร่รู้ที่นำไปสู่การแสวงคำตอบเหล่านั้นไปสู่ทางตันและในที่สุดก็ไม่ว่าฝ่ายไหนต่างก็ยึดเกาะเช่นเดียวกันอยู่ดี

    ดังนั้นพุทธศาสนานี้โดยมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นศาสดาแห่งพุทธศาสนา มีใจความสำคัญๆหลายวรรคที่เน้นถึง การปล่อยวาง ความสำคัญในการปล่อยวาง และวิธีการการปล่อยวางที่เป็นคำสอนที่แยบยลและลงตัวที่สุด มากกว่าการที่จู่ๆจะอ้างสิ่งนั้นสิ่งนี้ลอยๆแล้วก็โยนให้พระเจ้าเป็นผู้สร้างทั้งหมด ใครฝ่าฝืนตกนรก โดยปราศจากหลักการณ์และเหตุผล จึงกล่าวได้ว่าศาสนาพุทธหากพิจารณาเอาเฉพาะแก่นแท้และคำสอนแล้ว เป็นคำสอนที่ทันสมัยที่สุดและเก่าแก่ที่สุดทั้งหลักฐานอ้างอิงทางโบราณคดี หลักฐานทางประวัติศาสตร์ หลักฐานที่เป็นรูปธรรม เช่นพระพุทธรูปโบราญที่เกิดในหลายๆพื้นที่ทั่วโลก และยังเป็นการสอนเชิงใช้การคิดวิเคราะห์ด้วยสติปัญญาของผู้ปฏิบัติเองมากกว่าการกดขี่ทางความคิดโดยมุ่งให้คนเชื่อโดยสิ้นเชิงและเด็ดขาด ส่วนบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่กระทำการทำลายพุทธศาสนานี้มีทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ แต่บางอย่างมักจะสอดคล้องมาพร้อมกับความเชื่อทางประเพณีและวัฒนธรรม อย่างไรก็ดีผู้ที่จะกล่าวอะไรใดๆต่อศาสนานี้และศาสนาอื่นก็ตามควรทำการศึกษาด้วยเองอย่างถ่องแท้แล้วจึงนำมาเปรียบเทียบ จงอย่าเชื่อเพราะสิ่งต่างๆทั้ง 10 ประการตาม พระสูตรที่ชื่อว่า กาลามาสูตร มิฉนั้นท่านทั้งหลายอาจจะหลงเข้าไปอยู่ในห้วงของการกดขี่ทางความคิดหรือย้อนกลับติดที่ยุคมืดซึ่งเคยเกิดขึ้นมาแล้วใน คริสต์ศัตวรรษที่ 5- 15 ที่เรียกได้ว่าเป็นยุคมืดทางวิชาการของยุโรปนั่นเอง

    ขอจงนำไปพิจารณาด้วยเทอญ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กันยายน 2010
  5. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    พระพุทธศาสนา จริงแท้ นั้นอยุ่ที่ใจ ถ้าเรามีความเชื่อและศรัทธา ก็มี ถ้าไม่มีความเชื่อหรือคลางแคลงใจ นั่นก็ไม่มี สุดแท้ว่าใครจะคิดยังไง ทุกอย่างล้วนเป็นปัจจัตตัง ใครปฎิบัติใครได้ รู้เอง ใครไม่ปฎิบัติ ก็ไม่ได้ ก็จะมีแต่ความคลางแคลงใจ ไม่รู้จักจบจักสิ้น ถึงต้องเกิดมาใช้กรรมกันร่ำไป อนุโมทนาสาธุค่ะ
     
  6. ผู้พันจุ่น

    ผู้พันจุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,396
    ค่าพลัง:
    +2,983
    คนที่อาศัยศาสนาอยู่เขายังไม่กลัว..........ทั้ง ๆ ที่กำลังทำลายอยู่โดยไม่รู้สึกตัว เช่นปลวกกัดกินเสาเรือนขณะอาศัยเสาเรือนอยู่

    เปรียบดังมหาสมุทรย่อมซัดขยะ สิ่งของที่สกปรก เข้าสู่ฝั่ง .....ทองดี ย่อมไม่กลัวไฟ หากเราเห็นว่าศาสนาดี กลัวถูกทำลาย ก็ต้องอย่ากลัว กล้าหาญที่จะกำจัดมาร เหลือบศาสนาให้พ้นไป......ผมเห็นนักบวชแอบมีเมีย ลูกศิษย์ลูกหาเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ตำรวจ ทหาร เพราะเขาเกื้อหนุนกัน ขอตำแหน่งให้กันเป็นฉากหน้า แล้วก็ช่วยดูแลกัน..................

    ผมกลัวครับ ไม่กล้าครับ นอกจากรอให้กรรมสนอง......ผมยังเป็นซะอย่างนี้ จะให้ไปแอบยิงมันขณะกำลังกกกอดกันอยู่ก็กลัวบาปกรรมครับ หาทางอื่นเถอะครับ ไม่มีอาชีพแต่รวยกว่าเราอีก ......แค่คิดอย่างนี้ ผมก็เป็นตัวทำลาย..
    ..ศาสนาแล้ว
     
  7. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    คนอื่นกัดกินบ่อนทำลายศาสนา อาศัยทำมาหากินกับศาสนา วันหนึ่งกรรมก็จะสนองเขาเอง
    มันอาจจะช้า ไม่ทันใจเรา ก็เป็นทุกข์เมื่อเห็น เมื่อได้ยินได้ฟังอยู่ตำตา แต่ทำอะไรไม่ได้
    แต่จริงๆแล้วเราทำได้ตลอดเวลา คือเชื่อมั่นในกฏแห่งกรรม
    ใครทำดีย่อมได้ดี ใครทำชั่วย่อมได้ชั่ว อุเบกขาที่เราไม่ไปก่อกรรมให้เป็นเวรเป็นกรรม
    แก่ตัวเราและเขาให้ผูกพันกันไป แต่หาทางช่วยกันรักษาศาสนา ด้วยการเข้าถึงคำสอน
    ในทางที่ถูกที่ควร ทำในทางที่ถูกที่ควร ทำความรู้แจ้งให้เกิดแก่ตัวเราด้วยคำสอนที่เรา
    เชื่อว่าประเสริฐที่สุดในจักรวาลนี้ให้ได้ ปล่อยวางคนอื่น เร่งทำกรรมดีในส่วนของตนเอง
    เมื่อเชื่อในกฏแห่งกรรมได้ตามจริงแล้ว จะสงสารคนไม่รู้ไปเอง เห็นคนก่อกรรมเพราะไม่รู้
    ก็จะเกิดเป็นสงสาร มากกว่าเกิดเป็นอาฆาต พยาบาท ปฏิฆะ อยากทำให้คนที่ไม่ดีได้รับ
    กรรมที่สาสมอย่างที่ใจเราต้องการ การอุเบกขารอให้กฏแห่งกรรมส่งผลมากกว่าเราลงมือ
    เองก็ถือเป็นขันติบารมีเป็นการสร้างกำลังใจในการปล่อยวางไม่สร้างกรรมด้วยตัวเราเอง
    นับว่าเป็นการยากที่ใครจะทำได้นะ ดีที่เราไม่มีฤทธิ์ไปทำร้ายคนอื่นนะ ก็เลยปล่อยวางได้
    ง่ายกว่า เพราะทำอะไรเขาไม่ได้อยู่แล้ว ต้องรอกฏแห่งกรรมส่งผลอย่างเดียว ไม่ต้องไป
    ก่อเวรกรรมกับคนที่เราเห็นว่าทำไม่ถูก รอดูผลกรรมด้วยใจที่เป็นกลางก็ยากอยู่นะ เพราะ
    บางทีก็เผลอไปสะใจที่เห็นบางคนต้องรับผลกรรมจากกฏแห่งกรรม ติดบ่วงที่ใจเราอีก
    เวรกรรม เจงๆ ติดหนึบ ถอนยากอยู่
     
  8. Thepkanya

    Thepkanya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2008
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +10,071
    ตอนนี้ เกิดอะไรขึ้นใน...ประเทศไทย

    เขาลวงหลอก บอกให้ ไทยหลงเชื่อ
    ใช้เป็นเหยื่อ ล่อสู่..ทาง สร้าง..ทุกเข็ญ
    ไทยทะเลาะ เพราะไม่รู้ ดูไม่เป็น
    ผู้เลือดเย็น จึงเข่นฆ่า ไทยอาดรู

    หวังให้แตก แยกไทย ไปเป็นเสื่ยง
    หวังให้เพลี้ยง พล้ำสิ้น แผ่นดินสูญ
    ปั่นให้ไทย สู้กับไทย ไร้เกื้อกูล
    ไม่เป็น..คุณ บุญก็ลด บาปทดแทน

    เขาหวังเปลี่ยน แผ่นดิน จากถิ่นพุทธ
    ให้สิ้นสุด พุทธหายไป ดั่ง..ไร้แขน
    ประนมกราบ องค์สัมมา พระทั่วแดน
    หากไร้แขน....ไทยกราบได้ อย่างไรกัน

    เขาร่วมมือ ถือสัตย์ ขจัดเรา
    แล้วคอยเข้า กลืนถิ่น แผ่นดินฉัน
    เขาเปลี่ยนแปร แก้กฎหมาย มานานวัน
    แล้วร่วมกัน สร้างเหตุ..แยก ให้แตกคอ

    เหตุระเบิด เกิดทีไร ไทยไม่รู้
    ว่ามีผู้ วาง..ห้าศูนย์ ต้น พ.ศ. (ปีใหม่ 2550)
    หาใช่ทั้ง เหลือง-แดง แปลงมาก่อ
    ตำรวจท้อ..สืบสาวถึง จึงปลด..ไป

    ทั้งแฝงตน ปนมา ทุกอาชีพ
    หากไม่รีบ ทวนทบ จบสมัย
    จะไม่เหลือ เชื้อไทยพุทธ สุดช้ำใจ
    ความเป็นไทย จะถูกย้อม พร้อมแผ่นดิน

    ชาวละว้า ก็คือไทย ในยุคนี้
    ที่หลีกลี้ การรุกราน ผลาญทรัพย์สิน
    สุวัณณภูมิ คือหัวใจ พุทธแผ่นดิน
    หวัง..กลืนกิน เปลี่ยนพุทธศาสตร์ และชาติไทย

    เปลี่ยนเจ้าของชื่อ ซื้อแผ่นดิน เตรียมถิ่นเขา
    แล้วเร่งเอา เงินตรา มาหว่านไถ
    หลายพันล้าน หมุนวน เพื่อคนไทย
    เป็นหนี้ไป ถ้วนหน้า ประชาคม

    คน..เก่ง..ดี หากมีอยู่ รู้..ขจัด
    หน่วยงานรัฐ ดูเหมือนชื่น จริงขื่นขม
    หาตัวอย่าง ดีไม่ได้ ในสังคม
    ทุกข์ระทม ละว้า..ไทย ไร้พึงพา

    หากรู้คิด พินิจดู จะรู้ค่า
    พระศาสดา ทรงปูทาง สร้างพุทธศาสนา
    ให้สาธุชน คนทั้งหลาย ใช้..เมตตา
    เพื่อนำพา ดวงจิต คิด..ให้เป็น

    อย่าด่าว่า จ้วงจาบ บาปไม่ลด
    ทั้งไม่ปลด เปลื้องกรรม ย้ำยุคเข็ญ
    แผ่เมตตา ให้ทุกฝ่าย ใช้ความเย็น
    คิด..ให้เป็น เย็นที่จิต พิชิตมาร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กันยายน 2010
  9. kob_saetan

    kob_saetan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +204
    ขอบคุณค่ะ


    ขอบคุณ คุณน้าค่ะ รบกวนช่วยแนะนำการอุทิศผลบุญ ที่คุณน้ากล่าวไว่ในเมล์ค่ะ
     
  10. ๛อาภากร๛

    ๛อาภากร๛ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    898
    ค่าพลัง:
    +3,580
    ไม่ถูกต้องครับ คนส่วนมากก็เชื่อเช่นนั้น ยกตัวอย่างเช่นการบูชายัญเป็นต้น บางกลุ่มศาสนามองว่าเป็นการบูชาพระเจ้าเป็นความดี อันที่จริงการบูชาพระเจ้าก็จะมองว่าเป็นความดีก็ได้ เมื่อพิจรณาจากมงคล 32 เพราะเป็นเครื่องยึดไม่ให้เบียดเบียนผู้อื่น แต่การค่าสัตว์เพื่อบูชายังมีความเป็นมิจฉาอยู่ เพราะยังมีการเบียดเบียนสัตว์ พุทธศาสนิก รู้ว่ามันเป็นปาณาติปาต สมมุติฐานความดีแตกต่างกันครับ คุณค่าของคําว่าความดีแตกต่างกัน​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กันยายน 2010
  11. Thepkanya

    Thepkanya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2008
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +10,071

    เขียนให้ในกระทู้..สมเด็จพระพุทธองค์ศรีอาริยเมตไตรย์กับช่วงกึ่งพุทธกาลของพระโคดม แล้วเมื่อวาน...(เพราะเห็นโชว์อยู่ในกระทู้ แต่พอส่งความแล้ว ไม่รู้ว่า..โพสต์ ที่ถามเรื่อง กรวดน้ำลงพระแม่ธรณี...เกิดหายไปไหน เห็นมีแต่ที่ถามมาในข้อความส่วนตัว..เท่านั้น)
     
  12. Thepkanya

    Thepkanya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2008
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +10,071
    พบระเบิด...ที่ห้างใหญ่ในกทม. ใกล้บ้านข้าพเจ้า ตอนค่ำวันพุธที่ 8 ก.ย.53 (เข้าใจว่า ไม่เป็นข่าว เพราะ ทุกวันนี้..กำลังซื้อน้อยลงอยู่แล้ว)
    ให้ทุกคนระวังตนด้วย ไม่ว่า..สถานที่ใด ๆ ก็ตาม และรวมถึงเหตุอื่น ๆ อันเกิดขึ้นได้ทุกประการ และอย่าด่าว่า..คนไทยด้วยกัน ว่า...ใครทำ...เพราะ ตาอินกับตานา ทะเลาะกัน...ตาอยู่จะเอา...พุงปลาไปกิน โดยไม่ต้องออกแรงอะไรเลย.....ด้วยตาอินกับตานา สู้กันจนตายไปเอง
     
  13. โมก

    โมก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    435
    ค่าพลัง:
    +1,737

    โอ้ ร่ายได้แจ่มมากค่ะ หางกระดิกตามหัวส่าย หัวไม่รู้เลยก็ดูซื่อเกินไป ไม่น่าเป็นไปได้
     
  14. OLDMAN AND A CAR

    OLDMAN AND A CAR เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    823
    ค่าพลัง:
    +2,752
    ๑. บทความที่ได้รับมานี้ เขาเกริ่นว่า คนไทยส่วนใหญ่นับถือพระพุทธศาสนา
    แต่ส่วนใหญ่ไม่ใส่ใจศึกษาและไม่ปฏิบัติตามคำสอนในพระพุทธศาสนา แต่กลับถูก
    กระทำให้เราเข้าใจกันว่า

    “ทุกศาสนาสอนให้ทุกคน เป็นคนดีเหมือนกัน” นั่นแสดงว่า
    เรากำลังถูกเขาครอบงำขั้นต้นเข้าให้แล้ว


    ความเห็น

    ทุกศาสนาสอนให้ทุกคน เป็นคนดีเหมือนกัน

    ก็ ถูกต้องตรงที่ เป็นคนดี แต่ จะต่างกัน ตรงที่ ..ระดับของความดี และ อย่างน้อยจุดหมายปลายทาง ก็ ไม่เหมือนกัน...

    ..ว่า ก็ ว่าเถอะ...ชาวพุทธ ส่วนใหญ่ ไม่รักษาตนเอง ไม่สนใจ ที่จะ แสวงหาความหลุดพ้น ยัง ทำบุญ หวัง สวรรค์ และ มนุษย์สมบัติ แก่ จะตายแล้ว ยัง บ้าสมบัติ อยากจะรวยไม่พอสักที...ชอบ พึงพาวัตถุภายนอก แบบนี้แล้ว จะไปเรียนรู้อะไรๆ ตามพระธรรม คงยาก...หนักเข้า ปัญญาไม่เกิด เลย ไม่เอาธุระ กับพระศาสนา อ้างอย่างเดียวว่า ศาสนาดี แต่ คนไม่ดี...ปล่อยวาง ไม่รักษาประโยชน์ ของพระศาสนา ดูซิ เป็นคนส่วนใหญ่แท้ๆ...กลับไม่มี ปัญญา บรรจุพระศาสนาไว้ในรัฐธรรมนูญไทย...อาย ประเทศศรีลังกา และ เขมรจริงๆ...ซ้ำยัง ฝันเฟื่องจะ เป็นผู้นำศาสนาพุทธ ในโลก อีก...


    ๒. ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น แต่ชาวโลกส่วนใหญ่ก็ยังไม่มีคำตอบที่ถูกต้อง
    ว่าเราเกิดมาเป็นมนุษย์ หรือ เกิดเป็นสัตว์เพราะเหตุใด ทำไมคนเราจึงแตกต่างกัน
    มากมาย.. เราเกิดมาทำไม ต้องทำสิ่งใดกันบ้าง นรก-สวรรค์ มีจริงหรือไม่ อยู่ที่ใด
    กฎแห่งกรรมนั้นจริงแท้แค่ไหน..ทำไมคนชั่วในสังคม จึงยังคงได้ดีมีสุขอยู่ในปัจจุบัน
    ใครกันหนอจะเป็นผู้ให้คำตอบที่ถูกต้องแก่เรา บางคนถึงกับพูดว่า พระพุทธเจ้ามี

    จริงหรือ???

    ความเห็น

    .....ทำไมคนเราจึงแตกต่างกันมากมาย.. ทุกอย่างเป็นไปตามแรงกรรม...มุ่งหวังในสิ่งใด ย่อมได้ อย่างนั้น...คนที่ เกิดมาแล้ว มองเห็นว่า...ชีวิตนี้...เป็นทุกข์ มากกว่าสุข น่าจะ เป็นผู้ได้เปรียบ...ส่วนคนที่สนุก รื่นเริง ในกิเลส ในที่สุด ย่อม เป็นทุกข์...

    นรก-สวรรค์ มีจริงหรือไม่ ตรงนี้ อันตรายนะครับ ใครที่ยังทำไม่ได้ จริงๆ คือ ยังสงสัยอยู่ ...น่าเป็นห่วง .....ผมหมายถึง หาย สงสัย ด้วยความรู้จริง ไม่ใช่ ด้วย ความเชื่อ....หรือ ไป อ้างตำรา อย่างหลังนี้ ไป อยู่ที่ไหน คนรอบข้างก็ เดือดร้อน...

    ทำไมคนชั่วในสังคม จึงยังคงได้ดี มี สุขอยู่ในปัจจุบัน

    เป็นเพราะ เขาเหล่านั้น เป็น ผู้มีอำนาจและอิทธิพล ไปกระทำการฝืนกฎแห่งกรรม...ที่ว่า ทำดีย่อมได้ดี ทำชั่วย่อมได้ชั่ว และ สามารถ ทำได้ในระดับหนึ่ง ที่ ผู้คนทั่วไป เห็นเป็นแบบอย่าง จึงนิยมทำตาม...เรียกว่า อำนาจนิยม หรือ อธรรมเป็นใหญ่...

    ....ในกรณีทั่วๆไป...การที่เรามีหน้าที่ ที่ต้องอำนวยความยุติธรรม และ รักษากฎ กติกาสังคม แล้ว ละเลย ไม่ทำหน้าที่ เอาปัญหาต่างๆ ซุกในพรม ปัดให้พ้นตัวไป ก็ ไม่ต่างอะไรกับคนชั่ว...

    พระพุทธเจ้ามีจริงหรือ???

    ..มัน ก็ เหมือนที่เราสงสัยว่า...พระเจ้ามีตัวตนจริงๆหรือ นั้นแหล่ะ หลายคนอาจชอบใจและหยุดลงที่ ระดับ นรกสวรรค์ และ ชีวิตอันนิรันดร์ ก็ เป็นเรื่องของเขา... แต่ ที่เป็นเรื่องเดือดร้อนกันไปทั่ว คือ การยัดเยียด ความเชื่อ ของตนให้ ผู้อื่นและ คนนอกศาสนา เชื่อตามไปด้วย...

    สำหรับ ชาวพุทธ ที่ ปฏิบัติดีนั้น...จะไม่มีคำถามข้างต้น แม้แต่ ในใจ...

    ๓. ตราบใดที่ศาสนาทั้งหลาย ยังไม่อาจให้คำตอบที่ถูกต้องแท้จริง แก่
    ศาสนิกของตนแล้วไซร้ ผู้คนก็จะยังคงหลงผิดอยู่ร่ำไป ดังนั้น แม้จนตายก็ยังไม่รู้
    หรอกว่า ตายแล้วไปไหน.. คิดแล้วน่าเสียดายลม..หายใจ?

    ความเห็น

    .....อันนี้...จริงแท้ แน่นอน...และ บางที ต่อไปในอนาคตเบื้องหน้าโลกทั้งใบ คงเหลือ แค่ศาสนาเดียว...ซึ่ง ก็ นำไปสู่ สันติสุข หรือ ไม่ก็ นำไปสู่ สิ่งที่ตรงกันข้าม ขึ้นอยู่กับ สติปัญญาของมนุษย์ ว่า จะ เลื่อก อะไร...หากไม่ใช่ สันติสุข ก็ เป็นวาระสุดท้ายของมนุษย์ ... เพราะ มนุษย์ไม่ได้ เป็นเจ้าของโลกนี้...เป็นได้แค่ผู้ อาศัยเขาอยู่...ทำ อะไรไม่ดีมากๆ ก็ ย่อมถูกลงโทษ เป็น ธรรมดา...
     
  15. guaregod

    guaregod เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    962
    ค่าพลัง:
    +1,009
    อ่านยังไม่เข้าใจครับ ว่าตรงไหนมันเป็นกระบวนการทำลายพุทธศาสนา
    แล้วอีกอย่างที่คนทำชั่วได้ดี เพราะว่าคนดีไม่ออกมาปกป้องและสนับสนุนคนดี การละเลยไม่ลงโทษคนกระทำผิด ก็เท่ากับส่งเสริมให้เขาทำความชั่วต่อไปเรื่อยๆ
     
  16. kob_saetan

    kob_saetan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +204
    ผู้ไม่เข้าใจ


    ต้องขอโทษด้วยที่กล่าวไว้ไม่หมด อาจทำให้ยังไม่เข้าใจ ขอกล่าวย่อๆดังนี้ อาจเป็นเพราะว่า กระบวนการทำลายพระพุทธศาสนานี้มันค่อยๆกัดกร่น ไปในทางต่างๆ โดยที่สำคัญ มันมุ่งให้คนที่นับถือศาสนาพุทธเริ่มมีความรู้สึกว่า ศาสนาพุทธไม่น่านับถือ โดยการกระทำของสมมติสงฆ์ ในปัจจุบัน และสร้างเหตุการณ์ เรื่องราวต่างๆ ที่เป็นการทำให้ความน่าเชื่อถือ ความศัทธาลดลง หวังเปลี่ยนให้เมืองพุทธนี้เป็นเมือง..... เป็นประเด็นหลัก

    แต่ที่เรายังสานต่อพระพุทธศาสนาให้อยู่ได้นั่น คือ ซึ่งคำสั่งสอนของพระองค์ท่าน เน้นย้ำอยู่เสมอว่าให้เรา "มีสติ" คิดพิจารณาผลและเหตุของมันเสมอ เพราะการมีสติเป็นการย้ำเตือนให้จิตสงบ และผลแห่งการกระทำมันก็มีแต่ผลดีกับตัวเราเอง.
     
  17. kob_saetan

    kob_saetan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +204
    สาธุค่ะ


    สวัสดีค่ะคุณน้าเทพกัญญา

    รบกวนช่วยส่ง อีกรอบนะค่ะ ขอบคุณค่ะ
     
  18. Kama-Manas

    Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    5,351
    ค่าพลัง:
    +6,491
    เห็นด้วย! ^^ พูดจาเข้าท่ามาก อ่านแล้ว โอ.เคค่ะ...
     

แชร์หน้านี้

Loading...