♣ 10การทดลองในมนุษย์ที่สุดแสนจะน่ากลัว ♣

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย หมอก้อย, 25 สิงหาคม 2010.

แท็ก: แก้ไข
  1. หมอก้อย

    หมอก้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2010
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +996
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>อันดับ 10 Stanford Prison Experiment

    การทด สอบคุกสแตนฟอร์ดเป็นการทดลอบทางจิตวิทยาเพื่อการศึกษาการตอบสนองของมนุษญ์ เมื่อถูกจับกุมและผลกระทบต่อพฤติกรรมเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขังในเรือนจำ การทดลองดำเนินการในปี 1971 โดยนักจิตวิทยา ฟิลิป ซิมบาโด(Philip Zimbardo) ของมหาลัยสแตนฟอร์ดมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศสหรัฐอเมริกา โดยให้อาสาสมัครเป็นนักศึกษาทั้งหมด 20 คน มาเล่นบทนักโทษและผู้คุม(ทั้งหมดไม่รู้จักกันมาก่อน)ในคุกจำลองในชั้นใต้ดิน ของอาคารจิตวิทยาสแตนฟอร์ด 8 คนที่ถูกสุ่มจะได้เป็น ผู้คุมได้ชุดฟอร์ม อุปกรณ์ครบมือ อีก12 คนที่เหลือเป็นนักโทษ ซึ่งไม่มีสิทธิในฐานะความเป็นมนุษย์ใดๆทั้งสิ้น แล้วกำหนดเงื่อนไขสถานการณ์ต่างๆ เข้าไประหว่างการทดลอง เพื่อให้ฝ่ายผู้คุมได้ใช้อำนาจของตน และให้ฝ่ายนักโทษปฏิบัติตาม (โดยห้ามใช้ความรุนแรงใดๆทั้งสิ้น หากใช้ความรุนแรงจะถูกตัดออกจากการทดลองทันที และสามารถออกไปกลางคันได้ไม่ได้เงินค่าจ้าง) โดยตอนแรกกะว่าจะทดลองสองสัปดาห์ แต่ปรากฏว่าล้มเหลวต้องหยุดกลางคันเพียงหกสัปดาห์เท่านั้น เนื่องจากบทบาทของอาสาสมัครเกินขอบเขตที่จะคาดการณ์ได้และนำไปสู่สถานการณ์ ที่อันตรายและเสียทางทางจิตใจ และตอนเริ่มต้นการทดลองก็เพิ่งมา ทำความรู้จักกัน พวกเขายังยิ้มแย้ม หยอกล้อเล่นหัวกันแบบเพื่อน แต่เมื่อการทดลองนี้ดำเนินไปเรื่อยๆ ปรากฏว่าอาสาสมัครแต่ละคน แต่ละฝ่าย ค่อยๆ อินกับบทบาทสมมติของตนมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาเริ่มทะเลาะกัน กลั่นแกล้งกัน ทำร้ายกันไปมา แล้วในที่สุด พวกเขาก็กลายเป็นผู้คุมจอมโหดและนักโทษเดนตายไปได้จริงๆหนึ่งในสามของผู้ คุมกลายเป็นคนที่มีนิสัยโหดร้ายทารุณชอบทรมานนักโทษ(จำลอง)หลายคนจนบอบช้ำ และสองคนถูกตัดจากการทดลอง(บางเว็บบอกเพราะสองคนนั้นตาย) ทำให้การทดลองนี้ล้มเหลวในที่สุด



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>อันดับ 9 The Monster Study

    The Monster Study เป็นการทดสอบการพูด ติดอ่างของเด็ก โดยใช้เด็กกำพร้า 22 คน(อายุ 5-15) ใน ดาเวนพอร์ท, ไอโอวา ปี 1939 ดำเนินการโดย จอห์นสัน(Wendell Johnson) แห่งมหาลัยไอโอวา จอห์นสันเลือกหนึ่งในนักศึกษาระดับบัณฑิตของเขาแมรี่ ทิวเดอร์ (Mary Tudor) ดำเนินการทดสอบและวิจัยดูแลเด็กกับด้วย สำหรับวิธีการทดลองจอห์นสันจะแบ่งเด็กเป็นสองกลุ่ม เด็กกลุ่มหนึ่งจะได้รับฟังแต่คำพูดที่ดี คำพูดสรรเสริญในแง่บวก เด็กอีกกลุ่มได้รับฟังแต่ถ้อยคำที่หยาบช้า ทับถม ติเตียนแง่ลบ ผลการทดลองพบว่า เด็กที่ฟังแต่คำชมสามารถพูดคล่องแคล่วและพูดจาสุภาพ แต่ปัญหาของการทดลองนี้คือกลุ่มที่ 2 ที่เป็นกลุ่มเด็กที่ฟังด้วยคำพูดในแง่ลบ มีปัญหาทางจิต ดื้อ เก็บกด ไม่ค่อยกับคนอื่น สร้างโลกส่วนตัว ชอบพูดติดอ่าง และส่งผลกระทบต่อการใช้ภาษาไปชั่วระยะหนึ่ง การทดลองนี้ทำให้จอห์นสันเสื่อมเสียชื่อเสียงเป็นอย่างมากและสังคมเริ่มตื่น ตัวการทดลองนี้เทียบเท่ากับการทดลองมนุษย์ของพวกนาซีในสงครามโลกครั้งที่ 2 จนมหาลัยไอโอวาต้องออกมาขอโทษต่อสาธารณะชนในการทดลอง The Monster Study ในปี 2001 (และจ่ายเงินค่าเสียหายแก่เด็กกำพร้า 6 คน เป็นจำนวนถึง 920,000 ดอลลาร์)



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>อันดับ 8 Project 4.1

    รัฐบาลสหรัฐได้มี โครงการเกี่ยวกับการศึกษาการแพทย์โดยการนำประชาชนจำนวนหนึ่งไปปล่อยบนเกาะ มาร์แชล Marshalls เพื่อสัมผัสกัมมันตภาพรังสีที่ ออกมาจากของเสียในเหตุการณ์ Castle Bravo ที่เกาะบิ กีนี่ เมื่อ 1 มีนาคม 1954 ซึ่งเกาะแห่งนี้ได้รับปริมาณรังสีนี้ในปริมาณมากกว่าที่คาดคิด ผู้ทดลองได้รับกัมมันตภาพรังสีปริมาณหนึ่งๆอย่างต่อเนื่อง และเมื่อสิ้นสุดโครงการ ก็สังเกตผลกระทบ ระยะแรกผู้เข้าร่วมโครงการยังปกติอยู่หากแต่อีกไม่กี่ปีต่อมา ผลกระทบก็ตามมา เช่น การแท้งบุตร มะเร็งต่อมไทรอยด์ เด็กที่เกิดมาพร้อมความผิดปกติต่าง ฯลฯ จนโครงการนี้ได้ถูกประณามจากผู้เชี่ยวชาญว่า “พวกเขาถูกใช้เป็นหนูตะเภาทดสอบรังสี”



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>อันดับ 7 Project MKULTRA

    โครงการ เอ็มเคอัลทราหรืออีกชื่อหนึ่งว่า CIA mind-control research program เป็นการทดลองลับๆ ที่หน่วยข่าวกรองกลางและสืบราชการลับของสหรัฐ หรือที่เรารู้จักกันดีในนามของ"ซีไอเอ" พยายามปิดบังซ่อนเร้นไม่ให้ประชาชนรู้ โครง การเอ็มเคอัลทราเป็นการศึกษาและทดลอง "การควบคุมพฤติกรรมมนุษย์" โดยใช้สารเคมีและสารชีวภาพ เพื่อนำมาดัดแปลงใช้ทำอาวุธสงครามแรกเริ่มเดิมทีนั้น ซีไอเอ ไม่ได้คิดจะสร้างอาวุธชนิดนี้ พวกเขาเพียงแต่กลัวว่าประเทศที่เป็นปฏิปักษ์ต่อสหรัฐจะใช้อาวุธเคมีและ ชีวภาพในการทำสงคราม พวกเขาจึงต้องทำการศึกษาเตรียมไว้ก่อนเพื่อจะได้ป้องกันและแก้ไขแก่ สถานการณ์ภายภาคหน้าเอาไว้ การ ทดลองนี้เกิดขึ้นในช่วงต้นทศวรรษที่ 1950 และต่อเนื่องจนถึงปี 1960 มีข่าวลื่อต่างๆ นาๆ เกี่ยวกับการทดลองนี้ว่าโครงการนี้ใช้ยาหลายประเภทรวมทั้งวิธีการต่างๆ มาทดลองกับคนทดลองเพื่อเปลี่ยนแปลงจิตใจและสมองโดยไม่สนจะเต็มใจหรือไม่ สำหรับวิธีการทดลองพวกนักวิทยา ศาสตร์ผู้เข้าร่วมโครงการนี้การทดลองในช่วงแรกนั้นทำขึ้นที่ ศูนย์บำบัดผู้ติดยาเสพติด เล็กซิงตัน (Lexington Rehabillitation Center) ซึ่งปัจจุบันก็คือสถาบันสุขภาพจิตแห่งชาติ (National Institute of Mental Health) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้เป็นนัก โทษอาสาสมัครคดียาเสพติดนักโทษเหล่านี้จะต้องเซ็นชื่อยินยอม อนุญาตให้นำสารเสพติดเข้าสู่ร่างกายของพวกเขาได้ จากนั้นพวกเขาก็ได้รับสารเสพติดชนิดเดียวกับที่พวกเขาแต่ละคนติด ต่อมาก็มีทดลองโดยฉีดยาหลอนประสาท LSD((Lysergic acid diethylamide)) ให้กับลูกจ้าง CIA, ทหาร, แพทย์, ข้าราชการ, โสเภณี, ผู้ป่วยจิตเวช และบุคคลทั่วไปจำนวนหนึ่งซึ่งมีหลายระดับชนชั้นตั้งแต่อาชญากรชั้นต่ำไปจน ถึงระดับไฮโซ มีทั้งคนอเมริกันและคนต่างชาติ เพื่อศึกษาฤทธิ์ของยา LSD ซึ่งคนที่ทดลองบางคนก็ยินยอม บางคนไม่ได้รับเนื้อหาการทดลอง และบางคนไม่ยอมให้ตนเองมาทดลองกับโครงการนี้ แต่กระนั้นบรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลและวุฒิสมาชิกต่างก็พากัน ปฏิเสธกันให้พัลวันว่าไม่มีการทดลองที่ผิดศีลธรรมและจรรยาดังกล่าว ในปี 1973 CIA ถูกสั่ง ให้ทำลายไฟล์ทั้งหมด ทำให้เอกสารเกี่ยวกับโครงการนี้ถูกทำลายเผาไหม้ไปด้วย ทำให้ไม่มีหลักฐานว่ามีการทดลองนี้เกิดขึ้นจริงใน CIA



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>อันดับ 6 The Aversion Project

    โครงการแห่ง ความเกลียดชัง เป็นการทดลองของหน่วยงานตามนโยบาย การแบ่งแยกสีผิวในแอฟริกาใต้ที่บังคับนำทหารรักร่วมเพศผิวขาว (เลสเบี้ย นและเกย์) มาทำการทดลอง "เปลี่ยนเพศ" (The Aversion Project) ซึ่งดำเนินตั้งแต่ปี 1970 และ 1980 โดยใช้สารเคมีที่มีผลทำให้หมดความรู้สึกทางเพศ/เป็นหมัน (chemical castration) ใช้กระแสไฟฟ้าช็อต ฮอร์โมน และอื่นๆ การทดลองทางแพทย์ที่ผิดจรรยาบรรณนี้ไม่มีตัวเลขผู้ทดลองที่แน่นอนแต่ก็มีการ ประเมินว่าผู้ทดลองมีมากถึง 900 คนที่ถูกบังคับให้เปลี่ยนเพศ และอาจมีการดำเนินการระหว่าง 1971 และ 1989ที่โรงพยาบาลทหารซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการลับสุดยอด ผลกระทบต่อการทดลองนี้คือคนที่โดนทดลองกลายเป็นอาการทางจิต ไม่สามารถหายจากการติดยาเสพย์ติดได้ ต้องบำบัดอาการช็อกความเกลียดชังเรื่องเพศของตัวเอง และการรักษาฮอร์โมนและอื่นๆ



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>อันดับ 5 North Korean Experimentation

    มีรายงานจำนวนมากเกี่ยวกับการ ทดลองในมนุษย์ในค่ายกักกัน( นรก)ของเกาหลีเหนือ รายงานฉบับนี้แสดงให้เห็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรงและการทดลองนั้น คล้ายกับการทดลองมนุษย์ของนาซีและญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองไม่มี ผิด แต่กระนั้นข้อกล่าวหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนเหล่านี้ถูกปฏิเสธทั้งหมดโดย รัฐบาลเกาหลีเหนือโดยอ้างว่านักโทษทั้งหมดในเกาหลีเหนือถือว่าเป็นมนุษย์ อดีต นักโทษเกาหลีเหนือที่สามารถหลบหนีไปยังต่างประเทศได้บอกว่า นักโทษที่ค่ายกักกันเกาหลีเหนือถูกทดลองมนุษย์เสมือนพวกเขาเป็นสัตว์ไม่ใช้ คน และวิธีการทดลองนั้นสยดสยอง พวกเขายกตัวอย่างว่า 50 นักโทษหญิงที่สุขภาพดีถูกคัดเลือกและได้ถูกบังคับรับประทานใบกะหล่ำปลีที่ เต็มไปด้วยพิษร้ายแรง(หากนักโทษไม่กินจะโดนซ้อมทั้งตัวนักโทษและครอบครัว) หลังจากที่ได้กินนักโทษส่งเสียงกริ๊ดร้องและทุกข์ทรมาน หลังจากนั้น 20 นาทีต่อมาพวกเขาทั้งหมดอาเจียนเป็นเลือดออกทางปากและทางทวารหนัก ก่อนที่จะตายอย่างน่าสงสาร ควอน (Kwon Hyok) อดีตผู้คุมหัวหน้ารักษาความปลอดภัยที่แคมป์ 22 บอกว่าพวกเขาจะมีห้องปฏิบัติการหลายห้องสำหรับทดลองก๊าซพิษ,การสำลักอากาศ และการทดลองเลือด ซึ่งจะเลือก 3 ใน 4 คนหรือทั้งครอบครัวมาทดลอง หลังจากระยะการตรวจสอบต่างๆ พวกเขาจะถูกส่งไปยังห้องรมก๊าซ แพทย์จะฉีดยาพิษเข้าสู่ทดลองและพวกเขาก็มองผ่านกระจก มองดูคนทดลองตายอย่างช้าๆ อดีตผู้คุมอ้างว่าเขาได้เห็น 2 ครอบครัว พ่อ แม่ และลูกสาวตายจากการสำลักก๊าซ และผู้ปกครองอีกคนพยายามช่วยเด็กด้วยการเป่าปากกับปากไปตราบเท่าพวกเขายังคง มีลมหายใจอยู่



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>อันดับ 4 Poison laboratory of the Soviets

    ห้องปฏิบัติการพิษของหน่วย ลัยโซเวียต หรือเรียกว่าปฏิบัติการ 1, ปฏิบัติการ 12 และ Chamber เป็นการทดลองวิจัยเกี่ยวกับพิษต่างๆ ที่พัฒนาในสถานที่หน่วยงานตำรวจลับของโซเวียตภายใต้การนำของ Pavel Sudoplatov โดยโซเวียตทดสอบพิษร้างแรงชนิดต่างๆ กับนักโทษจากคุก Gulag (ศัตรูของประชาชน)โดยการสูด ดมหรือกิน,ดื่มที่มีส่วนผสมของนา เช่นก๊าซมัสตาร์ด,ไรซิน (Ricin) เป็นสารพิษ อาจอยู่ในรูปของฝุ่นผง ละอองหรือเป็นเม็ด,ไดจิท็อกซิน(digitoxin) และยาพิษอื่นๆ อีกหลายขนาน เป้าหมายของการทดสอบเพื่อหาสารพิษที่ไม่มีรส ไม่มีกลิ่น ไม่มีสี ส่งผลให้เหยื่อการทดลองมีร่างกายเปลี่ยนไป และบางรายตายภายในสิบห้านาที



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>อันดับ 3 Tuskegee Syphilis Study

    ปี ค.ศ. 1972 เกิดข่าวเสื่อมเสียเกี่ยวกับการทดลองศึกษาโรคซิฟิลิสในอเมริกา เรียกว่า Tuskegee Syphilis Study ซึ่งดำเนินการมา ตั้งแต่ ค.ศ. 1932 -1972 ระยะเวลานานถึง 40 ปี ใน Tuskegee เมืองชนบทในมลรัฐอลาบามา โดย U.S. Public Health Service (PHS) ของอเมริกาที่ต้องการศึกษาการเจริญเติบโตของ โรคซิฟิลิส เพื่อเข้าใจโรคที่ยังไม่มียารักษา โดย การทดลองนี้คือการการฉีดยาให้แก่ผู้ทดลองแก่คนผิวดำกว่า 412คน(ชุดแรก) ในย่านอาศัยแถวนั้น โดยคนผิวดำส่วนใหญ่ไม่รู้หนังสือและยากจน จากนั้นก็ศึกษาวิจัยการดำเนินโรคซิฟิลิสตามธรรมชาติในคนโดยที่คนเหล่านั้น ผู้โชคร้ายเหล่านี้เข้าใจว่า ตนกำลังได้รับการรักษาจากรัฐ โดยไม่เคยมีใครบอกให้รู้ว่าเป็นโรคอะไร และจะไม่ได้รับการแจ้งว่าเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และไม่ได้รับการรักษาใด ๆ เลย มีการทำหัตถการหลายอย่างเพียงเพื่อการศึกษาวิจัย เช่น การเจาะหลังเพื่อนำน้ำไขสันหลังไปตรวจ เป็นต้น ตอน แรกการทดลองวางกำหนดการณ์ไว้ที่ไม่กี่เดือน แต่การวิจัยครั้งนี้กลับดำเนินการต่อเนื่องถึง 40 ปี ส่งผลให้ผู้ถูกทดลองรอดชีวิตเพียงประมาณ 70 คนจากทดลอง(ไม่รวมผู้ที่ติดเชื้อจากการทดลองนี้) แล้วสิ่งที่ได้คือวงการแพทย์ได้ศึกษาเกี่ยวกับซิฟิลิสอย่างละเอียด นิวยอร์ก ไทม์ได้ประนามการทดลองนี้ว่า "เป็นการทดลองที่ไม่มีการให้ยารักษา ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของวงการแพทย์" เป็นการทดลองที่ไม่มีความจำเป็นอะไรเลย อีกทั้งโรคนี้มียารักษามานานแล้ว เห็นได้ว่าเป็นการเพิ่มความเสี่ยงโดยไม่จำเป็น และมีการกระจายภาระไม่เป็นธรรมโดยเลือกแต่ชาวผิวดำในพื้นที่ยากจน ส่งผลให้ประธานาธิบดีแถลงขอโทษต่อผู้เข้าร่วมโครงการที่ยังมีชีวิตอยู่ หรือครอบครัว และชุมชน และเสนอให้ดูแลชดใช้ความเสียหายอันเกิดจากโครงการวิจัย ในปี ค.ศ. 1997 ผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ ได้เข้าทำเนียบขาวเพื่อรับฟังคำกล่าวขออภัยจากประธานาธิบดีคลินตัน นำไปสู่การออกกฎหมายควบคุมดูแลการวิจัยในประเทศสหรัฐอเมริกา (National Research Act)



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>อันดับ 2 Unit 731

    ย้อนไปในสมัยสงคราม โลกครั้งที่ 2 อันเป็นที่มาของการก่อ ตั้งหน่วยปฏิบัติการ 731 ด้วยเหตุว่าเมื่อเกิด สงคราม เป้าหมายคือชัยชนะ ทั้งสองฝ่ายต่างงัดเล่ห์เพทุบายมาใช้โดยไม่คำนึงถึงศีลธรรมหรือความชอบธรรม ใด ๆ และสิ่งหนึ่งที่ถือว่าเป็นสิ่งที่น่ากลัวเป็นอย่างยิ่งคือการใช้สารพิษและ อาวุธชีวภาพ หรือพูดง่าย ๆ ว่าอาวุธเชื้อโรคเพื่อทำลายพลเมืองทีละเป็นหมื่นเป็นแสนคน จนเป็นเรื่องฉาวโฉ่ที่สุดในอาชญากรรมสงครามของญี่ปุ่น หน่วยปฏิบัติการ 731 (1937-1947) เป็นชื่อหน่วยปฏิบัติการทางการแพทย์ของญี่ปุ่น ภายใต้การควบคุมกำกับโดยนายแพทย์ อิชิอิ ชิโร(Shiro Ishii) การทดลองนี้ มีวัตถุประสงค์ในการสร้างพัฒนาอาวุธเชื้อโรคเพื่อใช้ในสงครามอย่างมี ประสิทธิภาพ และการทดลองนี้จำเป็นที่ต้องใช้มนุษย์เป็นๆ ในการทดลองจำนวนมาก หน่วยนี้ได้ถูกส่งมายังประเทศจีนและเลือกเมืองฮาร์ปินเป็นที่ตั้ง และปกปิดชื่อโครงการโดยใช้ชื่อ “หน่วยงานพิเศษเพื่อ การศึกษาภูมิคุ้มกันและการบำบัดน้ำเสีย” จากนั้นก็นายทหารผู้ช่วยให้ตระเวนจับชาวจีนหรือรัสเซียผู้โชคร้ายมายังห้อง ปฏิบัติการ เพื่อทดลองมนุษย์เป็นๆ การทดลองของโครงการ นี้มีหลายอย่าง เช่น การผ่ามนุษย์โดยไม่ใช้ยาสลบ, การใส่สารพิษที่คิดค้นมาใหม่ลงไปในหารและน้ำดื่ม เพื่อฆ่าประชาชนทีละมาก ๆ, การบังคับ ให้หญิงสาวร่วมเพศกับชายที่ป่วยเป็นโรคซิฟิลิส (หนองใน) นับสิบคน เพื่อศึกษาการพัฒนาเชื่อซิฟิลิสที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษย์, การฉีดเลือดสัตว์ที่มีเชื่อเข้าร่างกายมนุษย์ที่ถูกจับมา เป็นเหยื่อ เพื่อดูผลการแพร่เชื้อในมนุษย์เป็น ๆ, การจับ เหยื่อห้อยหัวลงจนกว่าจะตาย เพื่อทดสอบความทนในการเอาชีวิตรอด, การจับเหยื่อเข้าไปในห้องทดลอง และอัดความดันหรือดูดอากาศออกจนร่างระเบิดเละ, การจับ มนุษย์เปลือยร่างแช่ในน้ำอุณหภูมิเป็นลบ, การตัดเอา ชิ้นส่วนมนุษย์ออก เช่น ตัดกระเพาะออก นำลำไส้ต่อตรงมาที่หลอดอาหารเพื่อดูว่ามนุษย์ไม่มีกระเพาะอาหารจะมีชีวิต อยู่ได้หรือไม่, การตัดแขนขา และนำต่อใหม่ด้วยการสลับข้าง ฯลฯ ซากของเหยื่อผู้ เคราะห์ร้ายจะถูกโยนเข้าไปในเตาเผาด้านหลังของหน่วยปฏิบัติการ สิ่งเหล่านี้คือภารกิจของหน่วยปฏิบัติการ 731 สิ่งที่น่าตะหนกคือ หน่วยปฏิบัติการ 731 ได้เคยทดลองใช้อาวุธ ชีวภาพเพื่อฆ่ามนุษย์ทั้งในห้องปฏิบัติการและในสนามรบของประเทศจีนมากกว่า 2,700 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตล้มตายนับจำนวนไม่ได้ มีการลอบใส่สารพิษลงไปในน้ำดื่มและอาหารที่ประชาชนบริโภค การโปรยหมัดที่ติดเชื้อรุนแรงลงไปในเมืองใหญ่ ๆ ปล่อยเชื้อไข้ไทฟอยด์ อหิวาห์ บิด ลงไปในน้ำดื่ม การใช้ก๊าซพิษฆ่าคนทีละ มาก ๆ ในเวลาต่อมาเมื่อ หน่วยถูกยุบ นายแพทย์อิชิอิ ชิโร ไม่ได้ถูกตัดสินหรือจำคุกในฐานะอาชญากรในสงครามใดๆ ทั้งสิ้น เขาเสียชีวิตลงเมื่ออายุ 67 โดยโรคมะเร็งลำคอ



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>อันดับ 1 Nazi Experiments

    การทดลอง มนุษย์ของนาซีเป็นการทดลองมนุษย์ที่ใช้มนุษย์เป็นๆ จำนวนมากและสังเวยชีวิตกับการทดลองนี้มากเช่นกัน ภายใต้ระบอบนาซีเยอรมันเต็มที่ในการทดลองมนุษย์ในค่ายกักกันในช่วงสงครามโลก ครั้งที่ 2 โดนเฉพาะที่"ค่ายเอาชวิตซ์" (Auschwitz) และดาเชา (Dachau) และที่ค่ายกักกันอื่นๆ ทั่วยุโรป นักโทษที่ส่วนใหญ่เป็นชาวยิวหรือชาวรัสเซียนั้นถูกพวกนาซีใช้เป็นหนูตะเภาใน การทดลองทางการแพทย์หลายอย่าง ส่วนใหญ่มีวัตถุประสงค์ในการคิดค้นยา และการหาวิธีการรักษาทหารเยอรมันจากโรคภัยและอันตรายที่เกิดขึ้นเนื่องๆ ในระหว่างสงคราม วัตถุประสงค์ทางการทหาร การทดลองระดับลับสุดยอด โดยได้รับเงินสนับสนุนจากกองกำลังทหารนาซี แพทย์เหล่านั้นมิใช่ถูกบังคับข่ม ขู่ แต่เป็นการกระหายใคร่รู้ในผลลัพธ์ทางวิทยาศาสตร์โดยไม่มีเหตุผล ไม่คำนึงถึงศีลธรรมและไร้ซึ่งจรรยาบรรณ เมื่อคำพิพากษาหนึ่งเดียวสำหรับนักโทษชาวเยอรมัน เชลยชาวยิว โปแลนด์ เชค รัสเซียฯลฯ คือ "ไร้ค่า" แพทย์ในคราบสัตว์กระหายเลือดเฝ้ารอคำสั่งจากท่านผู้นำฮิตเลอร์ให้ใช้นักโทษ "ทดลอง" เพื่อความรุ่งเรืองของเยอรมนี นัก วิจัยที่มีชื่อเสียมากกว่าชื่อเสียงที่สุดก็คือ Dr.Sigmund Rascher เป็นผู้ควบคุมการทดลองในดาเชา และยังเป็นคนคิดค้นวิธีการทดลองแนวไซโคแบบต่างๆ เช่น -การฉีดไข้มาเลียให้นักโทษที่มี ร่างกายปกติดี(ประมาณ 1,100 ในค่ายคาเคา)เพื่อให้คนเหล่านั้นเป็นไข้ขึ้นมา แล้วจึงทดลองรักษาด้วยการใช้ยาชนิดต่างๆ เพื่อศึกษาผล ปรากฏว่า นักโทษหนูตะเภาและนักโทษอื่นๆ ที่ร่างกายอ่อนแอก็พลอยรับเชื้อติดต่อจากนักโทษคนอื่นๆ ไปด้วย ทำให้มีนักโทษจำนวนไม่น้อยที่ต้องสังเวยชีวิตไปในการทดลองครั้งนี้ -นอก จากนี้พวกนาซียังทดลองเรื่องสภาวะความกดดันอากาศลดต่ำโดยฉับ พลัน(Decompression)ซึ่ง สภาวะนี้เกิดขึ้นเมื่อเครื่องบินถูกยิงในขณะบินในระดับสูงๆ อันทำให้ความกดดันอากาศในห้องนักบินที่ปรับไว้พอดีสำหรับร่างกายของมนุษย์ เกิดลดต่ำอย่างกะทันหัน นักโทษที่เป็นหนูตะเภาจะต้องถูกนำไปใส่ห้องที่ปรับความดันอากาศต่ำ และสังเกตอาการ ซึ่งอาการที่ปรากฏก็คือขาดออกซิเจนจนตัวเขียว หายใจเร็ว หนาว อาเจียน จนหมดสติ มีบันทึกของนักโทษคนหนึ่งในค่ายคาเคาที่ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยในการทดลองนี้ ว่ามีนักโทษ 200 คนเข้ามาเป็นหนูทดลอง มีคนตาย 70-80 คน -การทดลองเพื่อหาวิธีช่วยชีวิตนัก บินทหารอีกอย่างคือ การทดลองคนที่หนาวจนแข็ง เพราะนักบินอาจตกลงในน้ำทะเลที่เย็นจัด เมื่อช่วยนักบินขึ้นจากน้ำแล้วจะมีวิธีใดที่ทำให้ร่างกายของเขาอบอุ่นโดย เร็ว ดังนั้น นักโทษจึงถูกสวมชุดนักบิน แล้วนำไปแช่อ่างที่มีน้ำเย็นจัดจนเป็นน้ำแข็ง ให้หนาวจนถึงที่สุดแล้วนำไปให้ความอบอุ่นด้วยวิธีต่างๆ ถ้าไม่สำเร็จก็ตายไปเถอะ -นอกจากนี้ยังมีการ ทดลองเกี่ยวกับโรคทั่วไป เช่น วัณโรค เชื้อหนองที่ทำให้เป็นแผลอักเสบ ซึ่งกระทำโดยการฉีดเชื้อเหล่านี้ให้กับนักโทษเพื่อลองยาเช่นกัน -ร่วมประเวณีกับนักโทษโสเภณีจากค่ายกักกัน และที่น่าหดหู่ใจกว่านั้นก็คือ ท้ายที่สุดเหยื่อผู้รอดชีวิตทั้งหมดจะต้องถูกยิงตายในที่สุด - การพยายามผ่ากะโหลกศีรษะของเหยื่อออกเป็นสองซีก ในขณะที่เหยื่อยังมีสติดีอยู่ (ถ้าไม่เผลอช็อคตายไปซะก่อน) ทั้งนี้ก็เพราะต้องการตรวจสอบระบบการทำงานของสมองมนุษย์ขณะที่ยังมีลมหายใจ นั่นเอง นักวิจัยที่ มีชื่อ เสียมากกว่าชื่อเสียงที่สุดอีกคนคือดร.โจเซฟ แม็งเกเล่ (Josef Mengele) ผู้ควบคุมการทดลอง มนุษย์ในค่ายเอาชวิตซ์ ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้าง -การ ตัดอวัยวะเพศหรืออวัยวะบางส่วนเพื่อการทดสอบเรื่องยีน โดยไม่ใช้ยาสลบ การนำนักโทษหญิงมาทดลองต่อกระแสไฟฟ้าว่าชาร์ตสูงเพียงใดถึงจะมีชีวิต การเอานักโทษมาเอ็กซ์เรย์อวัยวะเกี่ยวกับเพศสัมพันธ์ โดยไม่สนใจว่าถ้าปล่อยกระแสไฟฟ้านานๆ จะทำให้อวัยวะนั้นถูกเผาไหม้ ฯลฯ - การทดลองปลูกถ่ายอวัยวะ โดยการผ่าตัดร่างกายของนักโทษคนหนึ่งเพื่อเปลี่ยนถ่ายให้กับอีกคน, -เหยื่อที่ หมอโจเซฟ ชื้นชอบที่สุด คือ ฝาแฝด และคนแคระ มีฝาแฝดประมาณ14 คู่ที่ต้องจบชีวิต โดยมือของ หมอโจเซฟ ( รูปซ้ายล่าง คือครอบครัว Ovitzทั้ง หมดเป็นพี่น้องกัน ตระกูลนี้มีพี่น้อง 10 คน 7 คน เป็นคนแคระ ทั้ง 12ชีวิตถูกจับ ส่งเข้าสู่ค่ายเอาชวิตซ์ เมื่อ หมอโจเซฟ พบครอบครัว Ovitzเขาคิดว่าพระเจ้าได้ประทานสิ่งหายากยิ่งให้แก่เขา 2 ใน 12เสียชีวิตในการทดลอง ที่เหลือโชคดีที่การทดลองยังไม่ทันจบเยอรมันก็แพ้สงครามก่อนจึงรอดชีวิตมา ได้ ไม่เพียงแต่แพทย์ ชายเท่านั้น แพทย์หญิงก็ไม่เว้นที่จะทำการทดลองมนุษย์ด้วย แพทย์หญิง เฮอร์ทา โอเบอร์ฮอยเซอร์ ( Dr. Herta Oberheuser )หมอ เฮอร์ทา ทำการทดลองเกี่ยวกับการรักษาบาดแผล ที่เกิดจากสงครามซึ่งการทดลองของเธอคือการทำให้นักโทษเกิดบาดแผลต่างๆ เพื่อให้เธอรักษา เช่น ผ่าร่างกายของเชลยให้เกิดบาดแผล แล้วใส่เศษดิน ต้นไม้ใบหญ้า เศษกระจก เศษเหล็กเป็นการจำลองแผลจากสงครามขึ้น ขอจนอับแสบอย่างรุนแรง แล้วทำการรักษาด้วยตัวยาสูตรต่างๆ ส่วนบาดแผลไฟไหม้ เธอก็ทำเหมือนเช่นเดิน เธอจะกีดร่างกายเหยื่อแล้วใส่สาร Phosphorous ลงในแผล แล้วจุดไฟ จะเกิดการลุกไหม้อย่างแรงทำให้เกิดแผลไฟไหม้รุนแรง สุดท้าย ก่อนที่สงครามโลกจะยุติ หลักฐานทุกอย่างเกี่ยวกับการทดลองเหล่านี้ถูกทำลายไปภายในระยะเวลาอันแสน สั้น กลุ่มแพทย์นาซีที่มีเอี่ยวกับการทดลองมนุษย์ที่รอดชีวิตจากสงคราม ส่วนหนึ่งถูกพิจารณาคดีในฐานะอาชญากรสงคราม และอีกส่วนหนึ่งซึ่งเป็นจำนวนไม่น้อย ได้กลับเข้ามาทำงานในแวดวงการศึกษาโดยมีทั้งที่ใช้ชื่อเดิม และชื่อใหม่ บางคนก็หลบหนีไปยังต่างประเทศและใช้ชีวิตจนหมดสิ้นอายุไข ทำให้เรื่องของการทดลองมนุษย์ของนาซีกลายเป็นเพียงแค่ฝันร้ายข้ามคืนของชาว โลกเท่านั้นเอง



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 สิงหาคม 2010
  2. Vatairat

    Vatairat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,294
    โหดร้ายทารุณที่สุดเท่าที่เคยอ่านเจอมา โอ้โหสุดยอดเลยนาซี
     
  3. Jera

    Jera เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2009
    โพสต์:
    1,001
    ค่าพลัง:
    +2,040
    --มนุษย์หนอมนุษย์.........................
     
  4. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    คนเรานี่ช่างสรรหาอะไรมากระทำในสิ่งเลวร้ายเหลือเกิน
     
  5. งูขาว

    งูขาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2008
    โพสต์:
    945
    ค่าพลัง:
    +1,824
    กงกรรม กงเกวียน แท้ๆหน่อ เพิ่งผ่านไปไม่นานนี้เอง ผลคงรออยู่ข้างหน้าแล้ว
     
  6. คนข้างทาง

    คนข้างทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2009
    โพสต์:
    216
    ค่าพลัง:
    +392
    เพราะบาปที่มนุษย์สร้างขึ้นมากมายไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่

    จึงทำให้ธรรมชาติรอวันที่จะชำระล้างบาปที่มนุษย์ได้ก่อไว้

    [​IMG]
     
  7. mmie

    mmie เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    466
    ค่าพลัง:
    +1,986
    ทุคติภูมิคือทางไปอันเบื้องหน้าของพวกเขาทั้งหลาย...
     
  8. จิตอารี

    จิตอารี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    132
    ค่าพลัง:
    +223
    นึกว่าจะมี แต่ใน หนัง สุดยอดคน จริงๆ ทำปายได้
     
  9. Fabreguz

    Fabreguz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    645
    ค่าพลัง:
    +1,911
    บนโลกนี้ ที่จริง จำลอง แดนนรก แดนสวรรค์ ไว้ให้ดูแล้ว หลายแบบ
     
  10. sinyorrae

    sinyorrae เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2010
    โพสต์:
    132
    ค่าพลัง:
    +424
    โหดกว่าหนังอีก
    :'(
     
  11. tumkuk

    tumkuk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    586
    ค่าพลัง:
    +1,851
    น่าสังเวชยิ่งนัก...เวรกรรมๆ
     
  12. นายดอกบัว

    นายดอกบัว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +5,676
    เคยเห็นวิดิโอ การทดลอง ของทหารญี่ปุ่นกับเชลยจีน ในการเอามือแช่แข็งในอุณภูมิที่ติดลบ มือนั้นแข็งไปหมด แต่คนมีชีวิตอยู่ แล้วเอาค้อนทุป จนแตก แม้แต่กระดูก เห็นเชลยร้อง ทรมานนอนไปชักดิ้นชักงอก่อนตาย
    แต่ก็ช่างเหอะ มันก็แค่ขี้โรคเอเชีย ถ้ามันสามัคคีกันญี่ปุ่นก็ทำอะไรมันไม่ได้หรอก นี่ญี่ปุ่นใช้ทหารบุก 4000 คน ในขณะที่ประชากรมีอยุ่ 200000 คน แต่มีคนสู้ไม่ถึง 800 ที่เหลือหนีหมด สุดท้ายตายอย่างเขียด (ไอ้ขี้โรคเอเชียเอ้ย)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กันยายน 2010
  13. ยิ้มให้กับทุกวัน

    ยิ้มให้กับทุกวัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    176
    ค่าพลัง:
    +183
    เลววววววว


    จบ


    ....................................
     
  14. PhuKan~*

    PhuKan~* Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +89
    อ่านแล้วหดหู่ใจจัง


    นอกจากมนุษย์(บางคน)จะมองว่าตัวเองดีกว่าสัตว์ทั้งหลายแล้ว
    บางพวกยังมองข้ามค่าของมนุษย์ด้วยกันเองอีก
    เศร้า
     
  15. Anupap9

    Anupap9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    566
    ค่าพลัง:
    +503
    ผู้ใดทำกรรมไว้ คงต้องได้รับผลกรรมนั้นไปอย่างแน่นอนครับ
     
  16. เด็ก3ขวบ

    เด็ก3ขวบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    349
    ค่าพลัง:
    +1,524
    วิธีที่11ลองมีลูกมีเมียเด่ะ.....นรกชัดๆ....555555
     
  17. *~*Sea Anemone*~*

    *~*Sea Anemone*~* เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2010
    โพสต์:
    791
    ค่าพลัง:
    +9,121
    โหดร้ายมากกกกกก ไม่รู้จิตใจเค้าทำด้วยอะไรอ่ะ
     
  18. จิดา

    จิดา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    447
    ค่าพลัง:
    +1,505
    บอกจากความจริงเลยค่ะ ว่าไม่กล้าอ่านหมด แค่ถีง อันดับที่ 8 ก็รู้สึกสังเวช สะอิด สะเอียนแล้ว ไม่ไหว ไม่ไหว ยิ่งเห็นแต่ละคอมเม้น โชคดีเหลือเกินที่ไม่อ่านต่อไป เครียดแน่ๆ ใครทำอย่างไร ได้อย่างนั้นแน่ๆค่ะ
     
  19. The Bentley

    The Bentley Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +64
    คนเรานี่แหละน่ากลัวยิ่งกว่าผีสางที่ไหนอีก
    โหดร้ายกันได้ขนาดนี้ สลดใจ :'(
     
  20. akkawin

    akkawin Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +81
    มนุษย์กลายเป็นหนุทดลองไปแล้ว .....
     

แชร์หน้านี้

Loading...