ประสบการณ์การปฏิบัติธรรม เปิด3โลก ที่วัดแม่จันทร์ทา ฤกษ์ยาม

...ขออนุโมทนาสาธุครับ

 

อนุโมทนาสาธุค่ะ เคยคุยกับแม่ติ๋มแล้วท่านใจดี มากๆเลยค่ะ ซักวันคงได้ไปหาท่าน

 

ถ้าบอกว่าอภิญญา6แล้วก้อต้องเปนพระอรหันต์สิครับ
แล้วท่านมีชีวิตอยู่เกิน7วันได้ไงครับ
ถ้าบอกว่าบวชชี
ก้อไม่ไำด้เปนสงฆ์ หรือภิกษุณี เปนเพียงอุบาสิกาก้อต้องตายภายใน7วันไม่ใช่หรือครับ งงงงงง

 

โอ้ววว ขอโทษด้วยนะครับ ลืมไปว่าลายเซ็นมันลิ้งค์กับกระทู้นี้อยู่ซึ่งมันนานมากแล้ว ไม่อยากให้ขุดขึ้นมาอีก เพราะจากวันนั้นถึงวันนี้ผลการปฏิบัติของผมมันดีกว่าเดิมมาก ปัญญามันดีกว่าเดิมมาก การปกิบัติในช่วงต้นของผมจึงไม่เห็นว่ามีประโยชน์ที่จะต้องเผยแพร่อะไรอีก เดียวจะขอเอาลิ้งค์ออกจากลายเซ็นละลืมครับโทษที

ตอบนิดหน่อย ผมว่าเป็นการเข้าใจผิดกัน อภิญญา6นี่ตองเป็นอรหันต์เท่านั้นอันนี้ผมว่าเป็นการเข้าใจผิดถนัด หลวงพ่อฤาษีท่านไม่เคยเทศน์ว่าอภิญญา6 ต้องเป็นอรหันต์เท่านั้น หรือว่าท่านเคยเทศน์แต่ผมก็ไม่เคยได้ยินอ่ะนะ และ***แม่ก็ไม่เคยพูดจากปากท่านว่าท่านเป็นอรหันต์ ที่พูด ๆ กันไปต่าง ๆ นา ๆ นั้นคนภายนอกเอาไปพุดกันเองทั้งนั้น โปรดใช้ปัญญาพิจารณาเอาเถิด ส่วนท่านจะอยู่ในระดับใดก็ดูปฏิปทาของท่านเอาแล้วกัน***

ปล่อยกระทู้นี้มันตกไปครับ *0*

 

อภิญญา แปลว่า ความรู้ยิ่ง หมายถึงปัญญาความรู้ที่สูงเหนือกว่าปกติ เป็นความรู้พิเศษที่เกิดขึ้นจากการอบรมจิตเจริญปัญญาหรือบำเพ็ญกรรมฐาน
อภิญญาในคำวัดหมายถึงคุณสมบัติพิเศษของพระอริยบุคคลซึ่งเป็นเหตุให้มีอิทธิฤทธิ์ต่างๆ มี 6 อย่าง คือ

1. อิทธิวิธิ แสดงฤทธิ์ได้ เช่น ล่องหนได้ เหาะได้ ดำดินได้
2. ทิพพโสต มีหูทิพย์
3. เจโตปริยญาณ กำหนดรู้ใจผู้อื่นได้
4. ปุพเพนิวาสานุสติญาณ ระลึกชาติได้
5. ทิพพจักขุ มีตาทิพย์
6. อาสวักขยญาณ รู้การทำอาสวะให้สิ้นไป

อภิญญา 5 ข้อแรกเป็นของสาธารณะ (โลกียญาณ) ข้อ 6 มีเฉพาะในพระอรหันต์
ถ้าพบผู้แสดงฤทธิ์ได้ อย่าพึ่งหมายว่าผู้นั้นจะเป็นอริยบุคคล
[แก้] อ้างอิง

• พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช) ป.ธ. ๙ ราชบัณฑิต พจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ ชุด คำวัด, วัดราชโอรสาราม กรุงเทพฯ พ.ศ. 2548

 

พระอรหันต์ คือ ผู้สำเร็จธรรมวิเศษสูงสุดในพระพุทธศาสนา พระอริยบุคคลชั้นสูงสุด สามารถละสังโยชน์ได้ครบ 10 ประการ
ลักษณะของพระอรหันต์

[แก้] แบ่งตามวิธีการในการพัฒนาตน

พระอรหันต์ 2 คือ

1. พระวิปัสสนยานิก ผู้เจริญวิปัสสนาล้วน แล้วได้ฌานในภายหลัง
2. พระสมถยานิก ผู้มีสมถะเป็นญาณ ผู้เจริญสมถะกรรมฐาน จนได้ฌานก่อนแล้ว จึงเจริญวิปัสสนาต่อ

[แก้] แบ่งตามคุณวิเศษ

พระอรหันต์ 4 คือ

1. พระสุกขวิปัสสก (ไม่มีญาณวิเศษใดๆ นอกจากรู้การทำอาสวะให้สิ้นไป (อาสวักขยญาณ) อย่างเดียว) อานิสงค์จากการที่ปฏิบัติวิปัสสนาเพียงอย่างเดียว
2. พระเตวิชชะ (ผู้ได้วิชชา 3 คือบุพเพนิวาสานุสสติญาณ (รู้ระลึกชาติได้) จุตูปปาตญาณ (รู้จุติและอุบัติของสัตว์ทั้งหลาย)อันเป็นที่เกิดจากการเข้าใจในกฎแห่ง กรรมอย่างแท้จริงจึงรู้เหตุการณ์ที่จะเป็นไปได้ทั้งสิ้น อาสวักขยญาณ (รู้ทำอาสวะให้สิ้น) อานิสงค์จากการที่ปฏิบัติวิปัสสนา และถือวัตรธุดงค์
3. พระฉฬภิญญะ (ผู้ได้อภิญญา 6 คือทิพฺพจักขุ ตาทิพย์ (คือฤทธิที่สามารถหยั่งรู้เหตุการณ์ใกล้ไกลได้ มีพระอนุรุทธะ เป็นเอกทัคคะ เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายในด้านการมีตาทิพย์ คือสามารถมองเห็นโลกใบนี้ ราวกับ มองเม็ดมะขามป้อมบนฝ่ามือ) ทิพยโสต หูทิพย์อิทธิวิธี แสดงฤทธิ์ได้ (โดยเฉพาะมโนมยิทธิการ แยกร่างและจิต เป็นฤทธิที่แสดงได้เฉพาะพระอรหันต์ประเภทฉฬภิญโญเท่านั้น ) เจโตปริยญาณ (ทายใจผู้อื่นได้) บุพเพนิวาสานุสสติญาณ (ระลึกชาติได้ ) และอาสวักขยะญาณ (ญานที่ทำให้อาสวะสิ้นไป) อานิสงค์จากการปฏิบัติวิปัสสนาและเจริญสมาธิจนได้ฌานสมาปัตติ
4. พระปฏิสัมภิทัปปัตตะ (ผู้บรรลุปฏิสัมภิทา 4) คือแตกฉานในความรู้อันยิ่ง 4 ประการ ได้แก่ อัตถปฏิสัมภิทา ความแตกฉานในอรรถ ธัมมะปฏิสัมภิทาความแตกฉานในธรรม นิรุตติปฏิสัมภิทาความแตกฉานในภาษา ปฏิภาณปฏิสัมภิทา ความแตกฉานในปฏิภาณไหวพริบ

• อานิสงค์จากการปฏิบัติวิปัสสนา และเล่าเรียน ตรึกตรอง ทรงจำและแสดง ซึ่งพระธรรมวินัยที่พระศาสดาทรงตรัสสอน (ไตรปิฎก) ซึ่ง

1. การเล่าเรียนธรรมอานิสงค์ได้ธรรมปฏิสัมภิทา รู้จริงในเหตุของสรรพสิ่งในธรรมชาติ
2. การตรึกตรองธรรม อานิสงค์ได้อัตถปฏิสัมภิทารู้จริงในผลลัพที่ลึกซึ้ง
3. การท่องทรงจำธรรม อานิสงค์ได้นิรุตติปฏิสัมภิทา รู้จริงในภาษาต่างๆในโลก
4. การเทศนาแสดงธรรม อานิสงค์ได้ปฏิภาณปฏิสัมภิทา รู้จริงในการแก้ไขปัญหาเข้าใจในนิสัยสันดานของสัตว์โลก

[แก้] แบ่งตามคุณสมบัติเฉพาะตน

พระอรหันต์ 5 คือ

1. พระปัญญาวิมุต
2. พระอุภโตภาควิมุต
3. พระเตวิชชะ
4. พระฉฬภิญญะ
5. พระปฏิสัมภิทัปปัตตะ

พระอรรถกถาจารย์แสดงความหมายของพระอรหันต์ไว้ 5 นัย คือ

1. ไกลจากกิเลส
2. กำจัดกิเลสได้หมดสิ้น
3. เป็นผู้หมดสังสารวัฏ คือ การเวียนว่ายตายเกิด
4. เป็นผู้ควรแก่การบูชาพิเศษของเทพและมนุษย์ทั้งหลาย
5. ไม่มีที่ลับในการทำบาป ไม่มีความชั่วเสียหายที่จะต้องปิดบัง

 

อาสวักขยญาณ อาจนับพระอริยะชั้นเสขะไปถึงพระอรหันต์(ละสังโยชน์ไม่เท่ากัน)
แต่ถ้านับแต่พระอรหันต์(ละสังโยชน์สิบ)
อภิญญาห้าของปุถุชน กับพระอริยะชั้นเสขะ ก็น่าจะมีความต่างทางด้านปัญญา
เช่นการนำมาใช้อย่างเท่าทันหรือไม่ ความเสื่อมถอยของฌาน พระอนาคามีน่าจะมีความมั่นคงมากกว่า.. เพราะจิตพ้นปฏิฆะ

แต่อภิญญาห้า นี่ของยาก พระอริยะก็ใช่ว่าจะมีได้ง่ายๆ

6

 

พระสงฆ์แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
1. พระอริยสงฆ์
2. พระสมมุติสงฆ์
พระอริยสงฆ์ พระสงฆ์ผู้บรรลุธรรมวิเศษ 4 ชั้นคือ
1. พระโสดาบัน
2. พระสกทาคามี
3. พระอนาคามี
4. พระอรหันต์
พระอริยสงฆ์ 3 ชั้นแรกจัดเป็นเสขบุคคล ส่วนพระอรหันต์จัดเป็นอเสขบุคคล
เสขบุคคลมี 3 ขั้น ได้แก่
1.โสดาบัน 2. สกทาคามี หรือสกิทาคามี 3. อนาคามี ที่นับว่าเป็น “เสขบุคคล” เพราะผู้นั้น ยังต้องศึกษาต่อไปอยู่ ( เสข=ผู้ยังต้องศึกษา ) เนื่องจากยังไม่จบ “การศึกษา 3” (อธิศีลสิกขา-อธิจิตสิกขา-อธิปัญญาสิกขา) ผู้พัฒนาตนผ่าน “การศึกษา 3” บรรลุธรรมเป็น “อาริยชน” จึงนับเป็นผู้เข้าสู่ “เสขภูมิ” พื้นเพของพระเสขะ คือ เข้าสู่ชั้นอาริยชนแล้ว จะเป็นชั้นหนึ่งชั้นใดใน 3 ก็ตาม แต่ยังต้องศึกษาอยู่ ยังไม่จบถึง “อรหันต์” อันเป็นภูมิสุดท้าย ผู้ยังไม่บรรลุธรรมเข้าขั้น “อาริยะ” ยังไม่ได้ชื่อว่า “เสขบุคคล”
พระอรหันต์ แบ่งออกเป็น 4 ระดับ ได้แก่
1. พระสุกขวิปัสสก (ไม่มีญาณวิเศษใด ๆ นอกจากรู้การทำอาสวะให้สิ้นไป (อาสวักขยญาณ) อย่างเดียว)
2. พระเตวิชชะ (ผู้ได้วิชชา 3 คือ รู้ระลึกชาติได้(บุพเพนิวาสานุสสติญาณ) รู้จุติและอุบัติของสัตว์ทั้งหลาย(จุตูปปาตญาณ) รู้ทำอาสวะให้สิ้น(อาสวักขยญาณ)
3. พระฉฬภิญญะ (ผู้ได้อภิญญา 6 คือ แสดงฤทธิ์ได้(อิทธิฤทธิ์) หูทิพย์(ทิพยโสต) รู้จุติและอุบัติของสัตว์ทั้งหลาย(จุตูปปาตญาณ) ทายใจผู้อื่นได้(เจโตปริยญาณ) ระลึกชาติได้(บุพเพนิวาสานุสสติญาณ) และญาณที่ทำให้อาสวะสิ้นไป(อาสวักขยะญาณ)
4. พระปฏิสัมภิทัปปัตตะ (ผู้บรรลุปฏิสัมภิทา 4)
ปฏิสัมภิทา ความแตกฉาน ความรู้แตกฉาน ปัญญาแตกฉาน มี 4 ขั้นได้แก่
4.1 อัตถปฏิสัมภิทา ปัญญาแตกฉานในอรรถ ความแตกฉานสามารถอธิบายเนื้อความย่อของภาษิตโดยพิสดารและความเข้าใจ ที่สามารถคาดหมายผลข้างหน้าอันจะเกิดสืบเนื่องไปจากเหตุ
4.2 ธัมมปฏิสัมภิทา ปัญญาแตกฉานในธรรม เห็นคำอธิบายพิสดาร ก็สามารถจับใจความมาตั้งเป็นหัวข้อได้เห็นผลก็สืบสาวไปหาเหตุได้
4.3 นิรุตติปฏิสัมภิทา ปัญญาแตกฉานในภาษา คือเข้าใจภาษา รู้จักใช้ถ้อยคำให้คนเข้าใจ ตลอดทั้งรู้ภาษาต่างประเทศ
4.4 ปฏิภาณปฏิสัมภิทา ความแตกฉานในปฏิภาณได้แก่ไหวพริบคือ โต้ตอบปัญหาเฉพาะหน้าได้ทันท่วงที หรือแก้ไขเหตุการณ์ฉุกเฉินได้ฉับพลันทันการ
พระสมมุติสงฆ์
หมายถึงพระสงฆ์ที่กำลังศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย บ้างครั้ง เรียกว่า พระ, พระสงฆ์,ภิกษุ, พระภิกษุ, พระภิกษุสงฆ์ เมื่อพระสงฆ์ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี ก็จะเป็นเหตุจูงใจประชาชนให้เกิดความศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา คำว่า พระสงฆ์ โดยทั่วไปจึงมุ่งถึงชายที่บวชเป็นภิกษุในพระพุทธศาสนา ได้ปฏิบัติตามกฎหมายของสงฆ์ ที่เรียกว่า วินัยสงฆ์ ได้ศึกษาพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้วนำคำสอนนั้นไปถ่ายทอดแก่ประชาชนทั่วไป ไม่คำนึงว่าจะเป็นภิกษุรูปเดียว หรือเป็นคณะที่รวมตั้งแต่ 4 รูปขึ้นไป
ก่อนจะโพสต์ควรทำความเข้าใจในเรื่องเสขะกับอเสขะก่อนนะครับ
และอภิญญา6มีเฉพาะพระอรหันต์เท่านั้นครับ

 

ที่โพสต์มา ดีอยู่แล้ว

6

 

การเข้าถึงนิพพานของพระอริยะบุคคล อันเป็นทางไปสู่บรมสุขอย่างยิ่ง เป็นเนื้อนาบุญของโลกอย่างแท้จริง เป็นตัวอย่าง เป็นครู เป็นมิตรที่ยอดยิ่งของหมู่สัตว์ทั้งปวง

ฤทธิ์เดชทั้งหลายแม้เป็นไปเพื่อการช่วยเหลือหมู่สัตว์ ตาทิตย์ หูทิพย์ รู้อนาคต อย่างไรก็เป็นการช่วยเหลือที่ปลายเหตุ หากว่าก็ได้ของเหล่านี้ยากแล้ว การเห็นทุกข์สัจจ์ เห็นสมุทัยสัจจ์ การที่เห็นนิโรธสัจจ์ การเห็นมรรคสัจจ์ แล้วนำมาเผยแพร่ดังเช่น พระศาสดา พระอรหันต์ ตลอดจนพระอริยะทั้งหลายก็ย่อมเป็นของหาได้ยากยิ่งกว่า เป็นของประเสริฐยิ่งกว่า เป็นอริยทรัพย์ยิ่งกว่าทรัพย์ใด ๆ

อภิญญาของปุถุชนกับพระอริยะ ความต่างมันอยู่ที่ความหมายของคำว่าปุถุชนกับความหมายของคำว่าอริยะนั่นแหล่ะ

ต่อให้ได้อภิญญาห้าลำดับ แต่ไม่มีความรู้ที่นำไปสู่การหลุดพ้น ก็เวียนว่ายตายเกิดเป็นอนันตชาติ วัดดวงเรื่อยไป เปรียบเหมือนคนผีเข้าผีออก เดี๋ยวชาตินี้ชาติหน้า บ้างนรก บ้างเปรต เป็นสัตว์เดรัชฉาน ดีหน่อยก็มนุษย์ ดีกว่าก็สวรรค์ ก็พรหม ท่องเที่ยวไปเรื่อยแล้วแต่กิเลสตัณหาจะชักจูง

 

ธรรมก็อย่าง เจตนาก็อย่าง
ผู้เห็นเจตนา ผู้นั้นเห็นกรรม..

 

แม่จันทา ฤกษ์ยามเป็นแบบอย่างที่ดีให้นักปฎิบัติรุ่นหลังทำตามท่านค่ะ

ขออนุโมทนาค่ะ

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ dangcarry
เอ๊ะ รู้สึกว่าเคยถามท่านเก่ง ไปครั้งหนึ่ง ที่ห้องพุทธภูมิ ว่าท่านปราถนาพุทธภูมิหรือ
วันนี้จะขออนุญาติถามว่าท่านปราถนาพุทธภูมิ หรือเปล่าค่ะ
ถ้าไม่สะดวกตอบก็ไม่เป็นไรน่ะค่ะ แค่อยากถามอ่ะค่ะ
</TD></TR></TBODY></TABLE>
รู้แล้วช่วยให้อะไรๆมันดีขึ้นก็ดีอยู่นะ แต่มันเป็นไปไม่ได้เลยเพราะเรื่องแบบนี้ใครคิดเองได้ก็เท่ากับว่าเสียรู้กิเลส เหมือนกับไอ้พวกที่ปฏิบัติพออ่านออกเขียนได้สักหน่อยมันก็จะคิดว่าตนเองเป็นอริยะบุคคล ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ดีเท่าไรสำหรับผลการปฏิบัติ เหมือนกับคนที่บอกว่าผมนั้นปราถนานรกภูมินั่นแหละ พ่อแม่เขาไม่ได้สั่งไม่ได้สอน ครูบาอาจารย์เขาก็ไม่ได้สั่งไม่ได้สอน ว่าควรทำตัวอย่างไร แถมยังเอารูปหลวงตาบัวมาใช้แล้วยังปฏิบัติตัวอย่างคนขาดการอบรมสั่งสอนเที่ยวไปสอนคนนั้นคนนี้ด้วยโวหารต่างๆนานา แต่ที่จริงปัญญาและภูมิธรรมนั้นมีเท่าหางมด คงรู้นะหางมดคืออะไร(มันไม่มีไง) คุณแดงผมจะปราถนาอะไรก็ตามถ้าต้องการรู้ว่าอะไรอย่างไรก็ใช้การพิจารณาด้วยตนเองดีกว่า เพราะถึงผมบอกว่าผมปราถนาแต่การกระทำต่างๆมันไม่ใช่ก็ไม่น่าจะเกิดประโยชน์อะไรกับคุณ เช่นเดียวกับไอ้พวกมารศาสนาทั้งหลายที่ปากก็บอกว่าตนนั้นดุจดังอริยะบุคคลมากล้นด้วยปัญญา แต่ทั้งการกระทำ คำพูดจิตใจล้วนอยู่ในอเวจีทั้งนั้น จึงไม่มีความดีที่เป็นของตนจริงๆเลย คงไม่ต้องบอกนะว่าใคร คนที่ดีแต่พูด และใช้คำพูดเพื่อให้คนอื่นเสียหายนั้นมันก็เป็นเพียงภูมิหนึ่งที่ต้องรอส่วนบุญส่วนกุศลเท่านั้นเอง เพราะหลงคิดว่าทำสมาธิด้วยมิจฉาทิฐิจะได้กุศล อกุศลกรรมทั้งหลายไม่อาจตามได้ นั่นเพราะมันเป็นพวกมิจฉาทิฐิมันจึงได้ไม่รู้ตัวว่า มันเป็นอยู่และเป็นไปด้วยความหลงในสิ่งต่างๆ ด้วยตัวของมันเองเท่านั้น คุณแดงก็อย่าประมาทแล้วกันนะฟังได้แต่อย่าเชื่อให้พิจารณาเอาครับ ไอ้คนนั้นหนะที่ใช้รูปหลวงตามาบังหน้าหนะถ้าอยากจองเวรให้ถึงชาติสุดท้ายก็อธิฐานเอานะ ถ้าไม่อยากทำอย่างนั้นก็ไปกราบหลวงตาบ้างนะความชั่วในใจที่เป็นเหมือนหอกคอยทิ่มแทงคนอื่นมันจะได้หายไปบ้าง (วิญญาณไม่ดีๆ มันจะได้ออกไปจากจิตใจบ้าง)<!-- google_ad_section_end --> <!-- / message -->

 

ประกาศๆ ด่วน!
ตอนนี้ทีมงานอีทายอมรับผิดทุกข้อกล่าวหาที่มีคดี ฟ้องร้อง หลอกลวงว่าเป็นผู้วิเศษสามารถละลึกชาติถอดจิตได้ หลอกว่าเป็นวัด หลอกว่าสามารถถอดจิตสนทนาธรรมกับหลวงปู่มั่น หลอกว่าถอดจิตไปเมืองบาดาล ขอลูกแก้ว เหล็กไหลจากพญานาคได้ ทั้งหมดที่หลอกมานั้น ตอนนี้มันยอมรับผิดทุกข้อกล่าวหาแล้ว
ประกาศ! เพราะคนที่เป็นโจทก์ฟ้องยายทา ฉ้อโกง หลอกลวงเขามีหลักฐาน มีข้อมูลพร้อมทุกสิ่งทุกอย่างเขารู้หมดว่าครอบครัวยายทามีที่ดินที่นา กี่ไร่ๆซื้อไว้พ.ศ.ไหน ตั้งแต่เมื่อไหร่ คนที่ฟ้องเขารู้หมดแล้ว ประกาศ! คนที่เคยถูกยายทาหลอกลวง กรุณาตาสว่างได้แล้วเขาทำเป็นขบวนการ มีคนมีสี!เป็นหัวหน้าพิมพ์หนังสือ ทำงานอยู่สน.หนองฮีนั่นแหละ ศุภกร...
คนไหนที่โดนหลอกกรุณาหาหลักฐานไปฟ้องเอาที่ศาลนะฮะ ..เอาพระพุทธศาสนามาหลอกลวงหากินกับความเชื่อ ความศรัทธาของคน... คนไหนที่รู้ว่าโดนทีมงานยายทาหลอก กรุณาไปทวงถามเงินที่หลวงทำบุญไปได้นะ
กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมตอบสนองคืน คนที่เขามีจิตศรัทธาอยากทำบุญ เขาก็อยากทำบุญ แต่เงินที่เขาเอาไปทำบุญกลับเอาไปบำเรอครอบครัวและขบวนทีมงานของเขา มีรถ มีบ้านกันทุกๆคน
ทั้งหมดนี้ที่ประกาศให้ทราบเป็นความจริงทุกอย่างตามที่เขียนมาให้ทราบ โปรดอย่าหลงเชื่อหนังสือมากนัก ความงมงาย เชื่อมั่นในตัวเองและเชื่อพระอรหันต์ในบ้านของเราดีกว่า อย่าไปหลงเชื่อวัตถุ เครื่องลางของขลัง มันไม่มีหรอก หลอกลวงชัดๆ ถ้าไม่มีหลักฐานจริงไม่กล้าฟ้องยายทาหรอกนะ ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย คนที่ทำความชั่ววันหนึ่งมาเจอคนที่เขาเอาจริง เห็นไหม ความจริงเป็นสิ่งไม่ตายจริงๆ! หลอกไปได้ว่าเป็นวัด หลอกไปได้ว่าเป็นผู้บรรลุธรรม ถอดจิตถอดจัดได้ หลอกลวงทั้งนั้น...
เตือนทุกๆท่านอย่าไปหลงเชื่อ อย่าไปหลงงมงายกับวัตถุ เครื่องรางของขลัง เคารพในพระพุทธศาสนา องศาสดาจารย์ สัมมาสัมพุทธเจ้าดีกว่านะจ้า!!!!!!!!! ถ้าอยากรู้อะไรให้ถามคนในบ้านหนองบัวแดงและบ้านไร่หนองฮีนะฮะ ตาสว่างเถิดพี่น้องทั้งหลาย สาธุ อนุโมทนา บุญวาสนาบารมี ข้าพเจ้ายังมีอยู่ที่ไม่หมดไปมากกว่าสิบล้าน พร้อมด้วยต่างหู ข้อมือ แหวนเพชร ข้อมือเพชร สร้อยคอทองคำ พวกที่กล่าวมานี้ไม่รวมนะฮะ!!!!
ตื่นๆๆๆพี่น้องทั้งหลายใครโดนยายทาหลอกแบบนี้ ตรวจสอบ สอบถามได้ที่บอกไปข้างต้นนะฮะ

 

คิดว่าจะหลอกเขาได้เนาะ ถึงเขาอยู่ไกลๆ นานๆมาทีคิดว่าเขาไม่รู้ไม่เห็น จะหลอกเอาๆ เป็นไงล่ะ เจอคนจริงบรรดาทีมงานยายทาตอนนี้คงมือแห้งกันหมดแล้วมั้ง ไม่เหมือนสองปีที่ผ่านมา กินกัน อย่กัน อุดมสมบูรณ์ ตอนนี้นอนหลับหรือเปล่าก็ไม่รู้ วัด เอ้าะ ลืมไปว่าไม่ใช่วัด ที่ทำธุรกิจก็ธุรกิจหลอกลวงไง ชาวบ้านแถวนั้นเขารู้หมด ไม่มีใครเคารพศรัทธาในตัวอีทากับบักเหลือแล้ววว มีแต่คนมาไกลๆ ได้แฟนต่างชาติ หลอกเขาให้มาทำบุญเยอะๆ ทำเยอะไปก็ไปใส่กระเป๋าอีทากับบักเหลือและลูกๆมันและแก๊งค์มันเต็มเลย ...
ทุกคนอย่าหลงเชื่อนะฮะ
อนุโมทนา สาธุที่อีทายอมรับสารผิดทุกข้อกล่าวหากับคนที่ฟ้องยายทาด้วยนะฮะ ยินดีด้วย ศาสนาพุทธเราจะได้อยู่ถึงรุ่นลูกรุ่นหลานนานๆ จะได้ไม่เสื่อมหายไปกับพวกที่หากินหลอกลวงเอาของสูงที่ชาวพุทธทุกคนบูชาเคารพมาหลอกมาลวงหากิน หาผลประโยชน์ส่วนตัวใส่ตัวเอง ..
ดีใจดีใจดีใจฮะ

 

สำนักพวกอีทามันหลอกลวง ครอบครัวของมันจะซิปหาย พวกหน้าม้าอีนางตัวดี พวกมึงทั้งแก๊งค์ จะชดใช้ผลกรรมที่หลอกเขามาสมสุขใส่ตัว
ขอโมธนาสาธุ่กับคนที่ฟ้องอีทาด้วย ขอให้บุญ่ที่เขามีให้สิ่วศักดิ์สิทธิ์คุมครองคนที่ฟ้องทาด้วยเทิอญ สาธุ สาธุ สาธุ

 

ขอโมธนากับคนที่ฟ้องอี่ทาด้วย ที่ให้ข้าพเจ้ารู้ตับของพวกมัน อี่นางตัวดีหน้าม้ามันก็เหมือนกันอีพวกหน้าม้า หลอกเขามาเดี๋ยวเขาก็เอากลับ ไอ้ตำตรวจหนองฮี่เหมือนกันชาวบ้านเขาเกลียดมึงทั้งหมู่บ้านแล้ว ตอนนี้หลอกเขาไปซิไอ้พวกเอาศาสนาพุทธมาหากินหลอกคนให้หลงเชื่อ
ข้าพเจ้าขอโมธนาสาธุกับคนที่ฟ้องพวกแก็งค์อี่ทา ขอให้คุณพระคุณเจ้าคุมครอบเทิอญ
กรรมใดใครก่อกรรมนั้นย่อมตามสนองกลับ
สาธุ สาธุ สาธุ

 

อีพวกแก็งค์อีทา มันตายกันหมดรึยังวะ????

 

ไอพวกหัวดอ

อ้อละหนอ ที่มึงด่า อะ ละวังตัวไว้นะ กุจะเอาของฟากไปให้ พวกกุรู้ดี ว่ามึงเป็นใครไอพวกที่มันไม่ได้อะไรไง จะเป็นจะ ตายดิมึง ไม่ได้อย่างที่หวังอะ ลูกอีดอก ไอพวกหัวดอ ปากไว้แดกอะไรดีๆๆๆไม่ดีไชปะ ตองแดกตีน มึงมีไรมึงโทมาหากุนิ 0879452172 โทมา มาหากุก็ได้ นัดมากุจะเอาตีไป ให้พวกมึงกิน มึงจะได้อิม กัน ไม่รู้แล้วทำเป็นมาพูด ลูกอีดอก ไอพวกหัวดอ ไอ...ค...ว....ย .. ไอหน้าหนังหี ถ้าของใจมานะกุจะลอ ไอลูก กระหรี่ ไม่ได้อย่างที่หวัง เก่งจิงมึงมาแล้วมึงจะรู้ว่ากุเป็นใคร แนนจิงมึง ไอกาก ไอพวกไม่มีความคิด วันๆๆๆเอาแต่ด่า คนโน้ คนนี้ อีควาย เเน่จิงมึงมา มึงฟองได้ฟองไป มึงตายเมื่อไหร่ วัดจะได้ดีขึ้น

 

พูดไปได้นะมึง มึงเก่งจิง ทำไมมึงไมมาละอีดอกทอง ไอหัวดอ พ่อ มึง สิ ชิบหาย ไอพวกสอมงหามปัญญาควาย ไอพวกไม่มีหัวคิด กุขอ ให้พวกมึง มาขอโทดแม่ทา สะโดยดี หรือมึง ให้กุไปเอาหัวมึงออกจาก คอ มึง หะไอพวกหน้าหนังหี อีลูก กระหรี่
ท่า มึงเก่งจิง มึงมาให้กุ เอา ลูก ปืน ไปไว้ที่หัวมึง ดีปะ