ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618


    มีอะไรมั่งในโลกใบนี้ ที่แน่นอนมั่นคง สถิตย์สถาวรชั่วกัลปาวสาน อย่างน้ำท่วมแทบจะทั่วไทยคราวนี้


    รวมถึงภัยธรรมชาติ อย่างแผ่นดินไหว ที่กระหน่ำประเทศเพื่อนบ้านทั้งหลายในช่วงที่ผ่านๆ มา ก็มาแบบปุบปับ ไม่บอกไม่เตือน


    ส่วนภัยอื่นๆ ก็เตือนได้นานมาก นานน้อย ลดหลั่นกันไป
     
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เถ้าถ่านภูเขาไฟอินโดนีเซียปกคลุมบุโรพุทโธ

    [​IMG]

    ภูเขาไฟเมราปี, อินโดนีเซีย 29 ต.ค. – เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียเปิดเผยวันนี้ว่า เถ้าถ่านจากภูเขาไฟเมราปีกำลังปกคลุมบุโรพุทโธ ศาสนสถานซึ่งมีอายุเก่าแก่และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูงสุดอีกแห่งหนึ่งของอินโดนีเซีย

    รายงานระบุว่า หลายพื้นที่ของบุโรพุทโธถูกสั่งปิดไม่ให้ประชาชนเข้าชม เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถทำความสะอาดเศษเถ้าถ่านสีขาวจากภูเขาไฟเมราปี ซึ่งเริ่มปะทุขึ้นเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา นักประวัติศาสตร์เป็นกังวลว่า เถ้าถ่านเหล่านั้นอาจเร่งให้หินผุกร่อนเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวยังคงสามารถเข้าไปเยี่ยมชมบริเวณสนามด้านหน้าของบุโรพุธโธได้ แต่ไม่สามารถไปชมด้านในของศาสนสถานดังกล่าวได้จนถึงราวสัปดาห์หน้า ขณะที่การแสดงร่ายรำโบราณจะมีขึ้นตามกำหนดในวันเสาร์นี้

    ทั้งนี้ บุโรพุทโธก่อสร้างขึ้นราวปีคริสต์ศตวรรษที่ 9 เพื่อแสดงถึงความรุ่งเรืองของศาสนาฮินดู และพุทธศาสนา โดยบุโรพุทโธสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาเยี่ยมชมปีละหลายล้านคน -สำนักข่าวไทย

    วันศุกร์ ที่ 29 ต.ค. 2553

    น้ำท่วมที่โตโก ตาย 21 ได้รับผลกระทบอีกกว่า 8 หมื่นคน

    [​IMG]

    โลเม 29 ต.ค.- เกิดน้ำท่วมที่ประเทศโตโก ทางตะวันตกของทวีปแอฟริกา คร่าชีวิตประชาชนไปแล้ว 21 คน บาดเจ็บ 85 คน และอีกกว่า 82,000 คนได้รับผลกระทบ และยังคงต้องการความช่วยเหลือ

    นายดีจิมอน ออเร่ รัฐมนตรีกระทรวงสื่อสารของโตโก เผยว่า น้ำท่วมเป็นบริเวณกว้างในเขตพื้นที่ตอนกลางและตะวันตกของทวีปแอฟริกาในช่วงฤดูฝนนี้ คร่าชีวิตประชาชนกว่า 300 คน และอีกเกือบ 1.5 ล้านคนได้รับผลกระทบ

    แถลงการณ์ของรัฐมนตรีโตโก ระบุว่าจำนวนผู้เสียชีวิตได้จากการประเมินที่ครบถ้วนสมบูรณ์โดยทีมงานของรัฐบาลซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากสหประชาชาติ เพิ่มขึ้นจากตัวเลขผู้เสียชีวิตที่ประกาศเมื่อกว่า 1 สัปดาห์ที่แล้วซึ่งมีประมาณ 10 คนและมีผู้ได้รับผลกระทบเกือบ 3,000 คน และจากการประเมินครั้งล่าสุดบ่งชี้ว่าผู้ประสบภัยต้องการความช่วยเหลือระยะสั้น เช่น อาหาร เครื่องอุปโภค และความช่วยเหลือด้านการเกษตร ในแถลงการณ์ระบุว่าบ้านเรือนกว่า 7,000 หลังพังเสียหาย

    ประเทศเบนิน ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านของโตโก ได้รับผลกระทบหนักที่สุด โดยมีประชาชนที่ประสบภัยจากน้ำท่วมประมาณ 680,000 คนจากการประเมินของสหประชาชาติ ล่าสุดได้จัดส่งกระโจมพักชั่วคราว 1,500 หลังไปยังผู้ประสบภัย และคาดว่าจะตามมาอีก 1,500 หลังในวันนี้

    พื้นที่เกือบ 2 ใน 3 ของเบนินถูกน้ำท่วม มีผู้เสียชีวิต 43 คน และไร้ที่อยู่อาศัยเกือบ 100,000 คน มีรายงานการระบาดของโรคอหิวาต์โดยพบผู้ป่วยแล้ว 800 รายทั่วประเทศ และเสียชีวิตแล้ว 7 ราย องค์กรความช่วยเหลือกล่าวว่ามีปัญหาการขนส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปช่วยผู้ประสบภัย อีกทั้งเบนินไม่มีสิ่งของสำรองมากเพียงพอที่จะช่วยเหลือยามฉุกเฉิน.-สำนักข่าวไทย

    วันศุกร์ ที่ 29 ต.ค. 2553

    พายุไต้ฝุ่นชบาพัดมุ่งหน้าเข้าถล่มทางใต้ของญี่ปุ่น

    [​IMG]

    ญี่ปุ่น 29 ต.ค.-พายุไต้ฝุ่นชบากำลังพัดมุ่งหน้าเข้าถล่มพื้นที่ทางใต้ของญี่ปุ่น ทำให้ทางการต้องอพยพประชาชนบนเกาะทางใต้ไปยังที่ปลอดภัย พร้อมระงับเที่ยวบินหลายเที่ยว

    สำนักอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ไต้ฝุ่นชบา ซึ่งมีความเร็วลมสูงสุดใกล้จุดศูนย์กลาง 144 กิโลเมตร/ชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวห่างจากหมู่เกาะอะมามิไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 150 กิโลเมตร ทำให้ต้องอพยพชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าวอย่างน้อย 257 คน ไปอยู่ตามศาลากลางและโรงเรียนต่าง ๆ พร้อมกับยกเลิกเที่ยวบิน 19 เที่ยวบิน ส่งผลให้ผู้โดยสาร 390 คน ต้องตกค้างอยู่ที่สนามบิน

    อิทธิพลของไต้ฝุ่นชบาทำให้เกิดฝนตกหนักและมีกระแสลมกระโชกแรง แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานความเสียหายหรือผู้เสียชีวิต ขณะที่ชาวบ้านต่างเฝ้าระวังภัยแผ่นดินถล่ม คาดว่าไต้ฝุ่นลูกนี้จะถล่มกรุงโตเกียวภายในสุดสัปดาห์นี้.-สำนักข่าวไทย

    วันศุกร์ ที่ 29 ต.ค. 2553

    ที่มา http://www.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • untitled.JPG
      untitled.JPG
      ขนาดไฟล์:
      51.8 KB
      เปิดดู:
      1,365
    • untitled1.JPG
      untitled1.JPG
      ขนาดไฟล์:
      29.9 KB
      เปิดดู:
      1,281
    • untitled2.JPG
      untitled2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      32.2 KB
      เปิดดู:
      1,269
  3. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>คนกาญจน์จี้เขื่อนเปิดแผนรับเหตุธรณีไหว</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>กลุ่มอนุรักษ์กาญจน์ จี้"ผู้ว่าฯ-กฟผ.-กรมอุตุ"ชี้แจงแผนเผชิญเหตุภัยธรณีไหว และความเสี่ยงเขื่อนเมืองกาญจน์บนรอยเลื่อนศรีสวัสดิ์-เจดีย์สามองค์


    <!--<iframe scrolling="no" src="fullURLmain/include/adsense/indetail.php" frameborder="0" height="266" width="250"></iframe>-->
    จากกรณีเกิดเหตุธรณีไหวเมื่อเวลา 21.32 น. วานนี้(27ต.ค.) ต.สมเด็จเจริญ อ.หนองปรือ จ.กาญจนบุรี ซึ่งชาวบ้านได้ยินเสียงสั่นสะเทือน 2 ครั้งในพื้นที่ป่าเขตอุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ บริเวณบ้านเขาหินตั้ง ต.เขาโจด อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี สามารถวัดแรงสั่นสะเทือนได้ 3.5 ริกเตอร์ ซึ่งต่อมา พนักงานของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ได้ให้ข่าวว่าจุดแผ่นดินไหวในรอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ และห่างจากเขื่อนศรีนครินทร์ประมาณ 39 กิโลเมตร


    ล่าสุด วันนี้(28 ต.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. นางภินันทน์ โชติรสเศรณี ประธานกลุ่มอนุรักษ์กาญจน์ และเป็นประธานกลุ่มสตรีกาญจนบุรี

    เปิดเผยเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมว่า ขณะนี้เป็นเรื่องที่ชาวกาญจนบุรีทุกคนต้องเตรียมความพร้อม จะต้องสามารถเผชิญต่อทุกเรื่องให้ได้ เพราะจากการที่เครือข่ายเฝ้าระวังแผ่นดินไหวจังหวัดกาญจนบุรีเคยยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อขอให้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับแผนเผชิญเหตุกรณีเกิดแผ่นดินไหวที่กระทบกับเขื่อนในพื้นที่กาญจนบุรี เพื่อชาวกาญจนบุรีจะได้สามารถดำเนินชีวิตในภาวการณ์เช่นนั้นได้อย่างไร จนถึงวันนี้ร่วม 4 ปีแล้ว ยังไม่มีคำตอบจากราชการ


    "มีนักวิชาการ ดอกเตอร์สมิทธ ธรรมสโรช ดอกเตอร์เป็นหนึ่ง เตือนให้ระวังรอยเลื่อนแผ่นดินไหวในพื้นที่กาญจนบุรี ประกอบกับตอนนี้มักเกิดแผ่นดินไหวถี่ขึ้นมาก เท่าที่จำได้ปี 2553 มีการสั่นไหวระดับมากกว่า 3 ริกเตอร์ร่วม 5 ครั้งห่างจากสันเขื่อนศรีนครินทร์ระยะทางไม่เกิน 40 กิโลเมตรเท่านั้น เป็นเรื่องน่าห่วง จึงอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบทั้งผู้ว่ากาญจนบุรี ทั้งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยที่ดูแลเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมเผชิญเหตุภัยพิบัติต่างๆ ทั้งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตผู้ดูและเขื่อนศรีนครินทร์ที่ตั้งบนรอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ และเขื่อนวชิราลงกรณที่ตั้งอยู่บนรอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ กรมอุตุนิยมวิทยาที่รับผิดชอบเตือนภัยต้องออกมาให้ความชัดเจนต่อประชาชนว่าควรเตรียมความพร้อมอย่างไรจึงอยู่กับพื้นที่แผ่นดินไหวถี่ได้" นางภินันทน์ กล่าว
    <!-- Tags Keyword -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>นราฯฟ้าครึ้ม ฝนตกหนัก เรือประมงกว่า700ลำ ไม่กล้าออกทะเล </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

    ผู้สื่อข่าวรายงานสภาพทั่วไปในพื้นที่ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 29 ต.ค. ว่า ท้องฟ้ามืดครึ้ม เกิดฝนตกหนักสลับกับตกประปรายคลอบคลุมพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอเป็นบางช่วง ในทะเลอ่าวไทยคลื่นลมยังสงบ แต่เจ้าของเรือประมงชายฝั่ง เป็นเรือประมงขนาดเล็กในเขต ต.บางนาค และ ต.โคกเคียน ประมาณ 700 ลำ ไม่กล้าออกทำประมง จึงได้นำเรือมาจอดหลบลมมรสุมที่ริมแม่น้ำบางนรา เขตเทศบาลเมืองนราธิวาสกันเป็นจำนวนมาก

    ส่วนเรือประมงขนาดใหญ่นั้น หลังได้รับคำแจ้งเตือนจากสำนักงานอุตุนิยมวิทยา ว่า จะเกิดพายุลมมรสุมขึ้นในทะเลอ่าวไทยภายในวันหรือสองวันนี้ ไต๋ก๋งเรือบางส่วนได้เริ่มทยอยนำเรือประมงกลับเข้าฝั่งแล้วเช่นกัน
    <!-- <script Language="JavaScript">function BackPage() {history.back();}</script>
    กลับสู่หน้าแรก ​
    -->

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>เหยื่อสึนามิอินโดฯเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ400ศพ </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>จากเหตุการณ์เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.7 ริคเตอร์ ในทะเลนอกชายฝั่งตะวันตกเกาะสุมาตราของอินโดนีเซีย เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้เกิดให้คลื่นสึนามิความสูงประมาณ 3 เมตร พัดกระหน่ำ โดยจุดที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ เกาะเมนตาไว ที่อยู่นอกชายฝั่ง

    นายบัมบัง ซูฮาร์โจ เจ้าหน้าที่สำนักงานจัดการภัยพิบัติอินโดนีเซีย เผยในวันนี้ (29 ต.ค.) ว่า

    ตัวเลขผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 394 ศพ และยังมีผู้สูญหายอยู่อีก 312 ราย ซึ่งแทบไร้ความหวังที่จะพบผู้รอดชีวิตในจำนวนนี้ ส่วนประชาชนอีกราว 12,865 คน ยังต้องพักอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว บนเกาะเมนตาไว เนื่องจากหมู่บ้านถูกคลื่นยักษ์ทำลายจนราบเป็นหน้ากลอง

    ส่วนการระเบิดของภูเขาไฟเมราปี บนเกาะชวาตอนกลาง เมื่อวันอังคาร ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 33 ศพ

    จากเถ้าถ่านร้อนที่ฟุ้งกระจายออกจากปากปล่อง ล่าสุด ภูเขาไฟขนาดความสูง 2,968 เมตรลูกนี้ ปะทุพ่นเถ้าถ่านอีกเมื่อช่วงเย็นวานนี้ หลังจากสงบลงชั่วคราว แต่การปะทุไม่รุนแรงนัก และเริ่มมีลาวาหินหลอมละลายไหลทะลักออกจากปากปล่องเป็นครั้งแรก เมื่อเวลาประมาณ 6.10 น. เช้าวันนี้

    ขณะเดียวกัน นายบัน คี-มูล เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ได้เสนอให้ความช่วยเหลืออินโดนีเซีย


    หลังเกิดภัยพิบัติซ้ำซ้อนในครั้งนี้ โดยแถลงการณ์ของโฆษกสหประชาชาติ จากสำนักงานใหญ่ในนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ในวันนี้ ระบุว่า เลขาธิการยูเอ็นรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งต่อความสูญเสียต่อชีวิต และทรัพย์สินในอินโดนีเซีย อันเป็นผลจากการระเบิดของภูเขาไฟเมราปี และคลื่นสึนามิที่ส่งผลกระทบต่อเกาะเมนตาไว สหประชาชาติพร้อมที่จะมีส่วนร่วมกับเจ้าหน้าที่ทางการอินโดนีเซีย ในการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัย.


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  4. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>มือมืดดึงกระสอบทรายกั้นริมคลองรังสิตฯ น้ำทะลักท่วมหมู่บ้านเมืองเอก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>
    เมื่อคืนวันที่ 28 ต.ค. ที่ผ่านมา นายสมพงษ์ ศรีอนันต์ นายกเทศมนตรีเทศบาลต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี

    ได้รับแจ้งเกิดเหตุผู้ไม่ประสงค์ดีดึงแนวกระสอบทรายที่ทางเทศบาลตำบลหลักหกสร้างคันกั้นน้ำเอาไว้ด้วยความสูง 1 เมตร ตลอดทางยาว 4 กิโลเมตร ริมคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ที่เชื่อมต่อกับแม่น้ำเจ้าพระยา ออกได้รับความเสียหายทำให้ปริมาณน้ำไหลเข้าหมู่บ้านเมืองเอก หมู่ที่ 5 ต.หลักหก จำนวนมากจึงเดินทางไปตรวจสอบ


    ทั้งนี้ กำลังเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลหลักหก นักศึกษาของมหาวิทยาลัยรังสิตทั้งชายและหญิง กว่า 200 คน

    และ เจ้าหน้าที่สนามกอล์ฟเมืองเอก และสนามกอล์ฟวินต้า กว่า 100 คน พร้อมเครื่องจักรกลหนัก และรถแบคโฮกำลังช่วยกันสร้างคันดินและเสริมแนวกระสอบทราย ที่ถูกดึงกระสอบทราย ออกได้รับความเสียหายเป็นทางยาวประมาณ 10 เมตร จนน้ำไหลเข้าสู่พื้นที่ชั้นในของหมู่บ้านเมืองเอก


    นายสมพงษ์ กล่าวว่า จุดที่ได้รับความเสียหายนั้นเป็นที่มืดริมคลองไม่มีไฟส่องสว่างจึงไม่มีใครเห็นผู้ก่อเหตุ

    และหากปริมาณน้ำไหลเข้าท่วมภายในหมู่บ้านเมืองเอกได้นั้นค่าความเสียหายจะมหาศาลมาก เพราะภายในหมู่บ้านเมืองเอกประกอบไปด้วยมหาวิทยาลัยรังสิต หอพักนักศึกษา สนามกอล์ฟเมืองเอก และหมู่บ้านเมืองเอกที่บ้านแต่ละหลังราคากว่า 10 ล้านบาท อาจจมบาดาลได้ เพราะน้ำในคลองรังสิตกับพื้นถนนภายในหมู่บ้านนั้นความสูงต่างกัน 1.60 เมตร และในขณะที่ทางมหาวิทยาลัยรังสิตได้ทราบข่าวจัดส่งนักศึกษาของสถาบันมาช่วยกลอกทรายบรรจุกระสอบ พร้อมแก้ไขแนวกระสอบทรายที่ได้รับความเสียหายจากผู้ไม่ประสงค์ดีที่ดึงเอากระสอบทรายออก และทางเทศบาลได้ตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมเพื่อดูดน้ำด้านในออกคาดว่าไม่เกิน 2 ชั่วโมงน่าจะเข้าสู่สภาวะปกติพี่น้องประชาชนไม่ต้องวิตกกังวลแต่อย่างใด


    นายสมพงษ์ กล่าวต่อว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เทศกิจ ออกตรวจสอบแนวกระสอบทรายกั้นน้ำตลอด 24 ชั่วโมง

    เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่ไม่ประสงค์ดีดึงกระสอบทรายออก และหากผู้ใดพบเห็นและจับกุมได้ให้นำตัวมาส่งมอบให้ตนจะมีรางวัลเป็นสินน้ำใจมอบให้ ส่วนสาเหตุ น่าจะมาจากความเครียดของชาวบ้านริมคลองที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมไม่มีที่ขับถ่ายน้ำก็เกิดเน่าเหม็นส่งกลิ่นรบกวนผู้พักอาศัยจึงเป็นเหตุกระสอบทรายถูกดึงครั้งนี้ ส่วนคลองส่งน้ำดิบของการประปานครหลวงที่ทางเทศบาลได้นำกระสอบทรายมาปิดกั้นให้ทางการประปา และที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่บริหารระดับสูงได้นำทรายมาเทให้ทางเทศบาลเพื่อสร้างแนวคันป้องกันน้ำไหลเข้าคลองส่งน้ำดิบของการประปานั้นทางชาวบ้านต่างบ่นว่านำทรายมาให้กรอกกระสอบทรายไปตั้งคันแนวให้แต่ไม่ยอมส่งข้าวปลาอาหารที่จะต้องหากินกันสามมื้อนั้นกับไม่มีให้มาเลย แต่วันนี้ทางการประปาได้ส่งน้ำดื่มมาให้เท่านั้น


    <!-- <script Language="JavaScript">function BackPage() {history.back();}</script>
    กลับสู่หน้าแรก ​
    -->

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>อุตุฯเตือนภัยใต้ฝนตกหนักอ่าวไทยคลื่นลมแรง </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>อุตุฯประกาศเตือนภัย"ฝนตกหนักในภาคใต้และคลื่นลมแรงในอ่าวไทย" ฉบับที่ 9 ชี้ให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่-น้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก


    วันนี้ ( 29 ต.ค.) สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนภัย"ฝนตกหนักในภาคใต้และคลื่นลมแรงในอ่าวไทย" ฉบับที่ 9 (205/2553) ระบุว่าในช่วงวันที่ 29-31 ตุลาคม บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย และ ในช่วงวันที่ 1-2 พ.ย. จะมีหย่อมความกดอากาศต่ำเคลื่อนตัวเข้ามาปกคลุมบริเวณภาคใต้ตอนล่าง


    ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้น กับฝนตกหนักหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัย ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำ บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา ตรัง และสตูล ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่อาจทำให้เกิดสภาวะ น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่งได้

    ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย สำหรับภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ในระยะนี้จะมีอากาศเย็นลงโดยทั่วไป โดยอุณหภูมิลดลงได้ 1-3 องศา ขอให้ประชาชนติดตามข่าวพยากรณ์อากาศและเตือนภัย จากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดในระยะนี้

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้

    ภาคเหนือ อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา กับมีลมแรง โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณ จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน และตาก อุณหภูมิต่ำสุด 20 องศา สูงสุด 33 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา กับมีลมแรง โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 18 องศา สูงสุด 32 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.

    ภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา กับมีลมแรง โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางด้านตะวันตกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศา สูงสุด 33 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

    ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่งของจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา และมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี และ นราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 32 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ตรัง และ สตูล อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศา สูงสุด 32 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา และมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 33 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>จีนสุดเจ๋ง ผงาดแชมป์ซูเปอร์คอมพิวเตอร์เร็วที่สุดของโลก แซงหน้าสหรัฐ </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 29 ต.ค.ว่า ศาสตราจารย์แจ๊ค ดอนการ์ร่า
    ซึ่งเป็นผู้จัดอันดับซูเปอร์คอมพิวเตอร์เร็วที่สุดของโลก 500 อันดับ เปิดเผยว่า ณ วินาทีนี้ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์"เทียนฮี 1A"หรือ"ทางช้างเผือก"ของจีน ถือว่าเป็นซูเปอร์คอมพิวเตอร์เร็วที่สุดของโลก แซงหน้าซูเปอร์คอมพิวเตอร์ "The Cray XTS Jaguar"ของสหรัฐ ซึ่งเคยครองแชมป์โลกในช่วงที่ผ่านมา โดย"เทียนฮี 1A" โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์นี้ ใช้งบประมาณสร้างจำนวน 50 ล้านดอลลาร์ และใช้วิศวกรจำนวน 200 คน ด้วยระยะเวลาสร้าง 2 ปี


    รายงานระบุว่า ซูเปอร์คอมพ์"เทียนฮี 1A ซึ่งตั้งอยู่ที่ศูนย์ซูเปอร์คอมพิวเตอร์แห่งชาติในเมืองเทียนจิน

    สามารถวัดสมรรถนะในการทำงานของคอมพิวเตอร์ได้ 2.507 peteFLOPS หรือสูงกว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์"The Cray XTS jaguar ของสหรัฐ ซึ่งตั้งอยู่ในกระทรวงพลังงานสหรัฐถึง 1.4 เท่า และมีประสิทธิภาพพลังในการประมวลผลสูงกว่าคอมพิวเตอร์ปัจจุบัน 14,000 เท่า และประกอบด้วยโปรเซสเซ่อร์กราฟฟิคที่ใช้ในเกมส์คอมพิวเตอร์ จำนวน 4,000 โปรเซสเซ่อร์ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำงาน อย่างไรก็ตาม ซูเปอร์คอมพ์จีนตัวนี้ ยังถือว่าประหยัดพลังงานมากที่สุดด้วย เนื่องจากมันใช้พลังงานไฟฟ้าคิดเป็นจำนวนกว่า 5,000 ครัวเรือน ต่อปี


    สำหรับซูเปอร์คอมพ์"เทียนฮี 1A"ถูกใช้เพื่อประเมินแบบแผนของสภาพดินฟ้าอากาศของหน่วยงานอุตุนิยมวิทยา และใช้เพื่อคำนวนตัวเลขต่าง ๆ ด้านอุตสาหกรรมน้ำมัน

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  5. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    หลังจากเหตุการณ์โจรสลัดโซมาเลียพยามเข้าโจมตีเรือสินค้าในอ่าวเอเดนแต่ถูกสกัดกั้นโดยหมู่เรือปราบปรามโจรสลัดของกองทัพเรือ เมื่อ 23ต.ค.53 ผ่านพ้นมาได้เพียงห้าวันเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันได้อุบัติขึ้นอีกครั้งแต่ก็ต้องประสบความล้มเหลวด้วยปฎิบัติการอันเฉียบขาดของทหารเรือไทย
    โดยสำนักงานเลขานุการกองทัพเรือเปิดเผยว่าในวันที่ 28 ต.ค.53 พลเรือเอกกำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือได้รับรายงานจากศูนย์ปฎิบัติการกองทัพเรือ (ศปก.ทร.)ว่าเวลา 09.55 น.(ตามเวลาท้องถิ่น) ซึ่งตรงกับเวลา 12.55 น.ของประเทศไทย ขณะที่ เรือหลวงสิมิลัน กำลังคุ้มกันเรือสินค้านานาชาติ ขนาดใหญ่ จำนวน 9 ลำ เดินทางจากภายในอ่าวเอเดนด้านทะเลแดง เพื่อไปส่งที่ปากอ่าวด้านมหาสมุทรอินเดีย บริเวณ แลตติจูด 13 องศา 05 ลิปดา เหนือ ลองจิจูด 049 องศา 08 ลิปดา ตะวันออก ซึ่งเป็นพื้นที่สีแดง ห่างจากชายฝั่งประเทศโซมาเลีย ประมาณ 100 ไมล์ทะเล และเป็นตำบลที่ใกล้เคียงกับที่หมู่เรือปราบปรามโจรสลัด ประสบความสำเร็จในการตรวจค้น สกัดกั้นและผลักดันโจรสลัดโซมาเลียที่พยามเข้าโจมตีเรือสินค้ามาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ 23 ต.ค.53 ที่ผ่านมา
    เรือ HELLESPONT PROTECTOR สัญชาติไลบีเรีย ซึ่งอยู่แถวหน้าด้านซ้ายของกระบวนเรือ ได้แจ้งมายังเรือหลวงสิมิลันว่ามีเรือเร็วเครื่องยนต์ติดท้าย (Skiff) 1 ลำคนในเรือประมาณ 6 คน ถืออาวุธปืน แต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีดำ ลักษณะเหมือนโจรสลัด กำลังมุ่งหน้าเข้าหากระบวนเรือขณะเดียวกันเรือ MARI UGLAND สัญชาตินอร์เวย์ซึ่งอยู่ในกระบวนเรือ ได้แจ้งมายังเรือสิมิลันว่าได้ถูกโจมตีด้วยอาวุธปืนจากเรือ Skiff ลำดังกล่าวซึ่งแสดงให้เห็นว่าเป็นการกระทำเยี่ยงโจรสลัดที่ต้องการปล้นยึดเรืออย่างแน่นอน
    [​IMG]
    พล.ร.ต.ไชยยศ สุนทรนาคผู้บังคับหมู่เรือปราบปรามโจรสลัดกองทัพเรือจึงสั่งให้ เรือหลวงสิมิลัน ซึ่งอยู่ทางกราบขวาของกระบวนเรือ ห่างจากจุดเกิดเหตุ ประมาณ 2 ไมล์แล่นเข้าหาเพื่อตรวจสอบในทันที พร้อมทั้งส่งเฮลิคอปเตอร์ แบบ BELL 212 พร้อมด้วยชุดปฏิบัติการพิเศษ ขึ้นบินเข้าสกัดกั้น
    เมื่อเดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุ พบเรือ Skiff 1 ลำ อยู่ในพื้นที่ และเมื่อคนในเรือเห็นเฮลิคอปเตอร์ ได้เร่งความเร็วเพื่อหลบหนีออกจากพื้นที่ พร้อมกับโยนอาวุธทิ้งน้ำ เจ้าหน้าที่บนเฮลิคอปเตอร์จึงใช้ระบบกระจายเสียงประกาศให้หยุดเรือแต่ไม่ได้รับการสนองตอบนักบิน จึงทิ้งทุ่นควันเพื่อเป็นการเตือน ถึงสามชุด แต่เรือยังคงแล่นหนีพลประจำปืนบนเฮลิคอปเตอร์ จึงได้รับคำสั่งให้ใช้อาวุธยิงลงสู่ผิวน้ำในตำแหน่งดักหน้าเพื่อบังคับให้เรือหยุดเคลื่อนที่ซึ่งก็ได้ผลตามต้องการเพราะ เรือ Skiff หยุดเรือยอมจำนน

    [​IMG]
    จากการตรวจสอบเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่บนเฮลิคอปเตอร์ ไม่พบอุปกรณ์การประมงใด ๆ อยู่บนเรือเป้าหมาย ขณะเดียวกันหมู่เรือฯ ได้ส่งซีลทีมซึ่งเป็นชุดตรวจค้นด้วยเรือยนต์เร็วจำนวนสองลำ เข้าตรวจสอบโดยละเอียด พบชายฉกรรจ์ ชาวโซมาเลียอยู่บนเรือ 6 คน มีถังน้ำมันจำนวนมาก เครื่องยนต์ติดท้ายขนาด 60 แรงม้า เสื้อผ้าสีดำ 6 ชุด มีดปลายแหลม 1 เล่ม และยังพบปลอกกระสุนปืน AK47 ที่เพิ่งทำการยิง ตกอยู่ในระวางท้องเรือจำนวนหนึ่ง และที่ตัวเรือถูกพ่นหมายเลข N163 ไว้
    เมื่อตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมจากกองกำลังผสมทางเรือ (CMF) พบว่าเรือ Skiff ลำนี้เคยถูกเรือรบสหรัฐ ชื่อ USS .LABOON ตรวจค้นเมื่อ 23 ต.ค.53ที่ผ่านมา เมื่อนำข้อมูลหลักฐานมาวิเคราะห์ พบว่ามีลักษณะคล้ายคลึงกับหลักฐานที่ยึดได้จากเรือโจรสลัดที่หมู่เรือฯ ได้ดำเนินสกัดและผลักดันออกนอกพื้นที่เมื่อ 23 ต.ค.53 ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกาย มีดที่พบ รวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้บนเรือ จึงเป็นที่แน่ชัดว่าเรือลำนี้เป็นโจรสลัดอย่างแน่นอน
    [​IMG]
    หมู่เรือฯ จึงแจ้งผลสำเร็จของปฏิบัติการให้กองกำลังผสมทางเรือนานาชาติ (CMF)และ ศปก.ทร. รวมถึงเรือสินค้าที่เดินทางผ่านในพื้นที่สำคัญทราบ และได้ดำเนินการถ่ายภาพ จัดทำประวัติบุคคล เพิ่มสัญลักษณ์หมายเลข T002 ไว้ที่ตัวเรืออันแสดงให้เห็นว่าเรือลำนี้ได้ถูกเรือรบไทยสกัดกั้นตรวจค้นมาแล้ว พร้อมกับผลักดันเรือและคนบนเรือกลับประเทศโซมาเลียต่อไปโดยไม่ได้ทำอันตรายแต่อย่างใด การดำเนินการทั้งหมดนี้ยึดถือแนวทางตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเลและเป็นไปตามกรอบนโยบายของกระทรวงการต่างประเทศ
    [​IMG]
    [​IMG]
    โดย ทีมข่าว Mthai
    <LI class=news_src_item>[​IMG]
    ไทม์ เผย 10 อันดับ สถานที่คนค้นหาในกูเกิล เอิร์ธ มากที่สุด
    ในอดีต การที่จะค้นพบสถานที่ใดสััักแห่งต้องใช้เวลาในการเดินทางอย่างยากลำบาก แต่ด้วยเทคโนโลยีปัจจุบัน ทำให้มนุษย์สามารถสำรวจสถานที่ต่างๆบนโลกได้ โดยสำนักข่าวต่างประเทศ เผยผลผลการสำรวจ 10 อันดับ สถานที่ที่คนค้นหาผ่านโปรแกรมกูเกิลเอิร์ธ มากที่สุด ที่นิตยสารไทม์ เผย 10 สถานที่ดังกล่าวมีดังนี้
    อันดับ 1.เมืองที่สาบสูญ ‘แอตแลนติส’ (Atlantis) ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งของทวีปแอฟริกา โดยมองเห็นเป็นลักษณะตาราง คล้ายถนนของเมืองโบราณ มีขนาดเทียบเท่ากับกรุง Wale
    [​IMG]
    ————————————————————————————————
    อันดับ2.ทุ่งข้าวโพดที่เมืองโอเรกอน (Oregon) ซึ่งในปี 2006 มหาวิทยาลัยโอเรกอน ได้เปลี่ยนทุ่งข้าวโพดขนาด 45,000 ตารางฟุตให้เป็นโลโก้ของโมซิลลา ไฟร์ฟ็อกซ์ เพื่อเฉลิมฉลองยอดดาวน์โหลดโปรแกรมครบ 50 ล้านครั้ง
    [​IMG]
    ————————————————————————————————
    อันดับ3. สถานที่แปลกประหลาดแห่งนี้ คือสถานที่บริเวณกองทัพสหรัฐฯและอังกฤษ แต่ภาพที่ไทม์แม็กกาซีนนำมาคือภาพของฐานทัพอังกฤษ ในนอร์วิช ซึ่งกระทรวงความมั่นคงของอังกฤษเรียกลานแห่งนี้ว่า ‘สถานที่ฝึกซ้อมมอเตอร์ไซค์’ หลายคนไม่เคยพบเห็นภาพแปลกๆเช่นนี้มาก่อน
    [​IMG]
    ————————————————————————————————
    อันดับ4. ทุ่งข้าวโพดของโอปราห์ วินฟรีย์ ในปี 2004 ที่ชาวนาเมืองแอริโซน่า( Arizona)เปลี่ยนทุ่งข้าวโพดให้เป็นรูปใบหน้าของโอปราห์ มอบให้เป็นของขวัญแก่พิธีกรชื่อดัง
    [​IMG]
    ————————————————————————————————
    อันดับ5. เป็นตึกในเมืองซาน ดิเอโก้ เมื่อมองจากมุมสูงแล้วจะเห็นเป็นเครื่องหมาย ‘สวัสดิกะ’ อันเลื่องชื่อของนาซี
    [​IMG]
    ————————————————————————————————
    อันดับ6.บริเวณชายฝั่งซูดานจะพบกับซากเรือจมอยู่ ซึ่งสถานที่แห่งนี้เคยเป็นเรือโดยสารขนาดใหญ่และเป็นเพียงลำเดียวในโลกที่ สามารถมองได้จากกูเกิล เอิร์ธ
    [​IMG]
    ————————————————————————————————
    อันดับ7. ที่แคนาดาจะเห็นเป็นรูปใบหน้ามนุษย์ขนาดใหญ่ใ แต่จริงๆแล้วคือหุบเขา
    [​IMG]
    ————————————————————————————————
    อันดับ8. คลองสีเลือดในอิรัก สีแดงที่เห็นนั้น น่าจะมาจากการทิ้งสิ่งปฏิกูลลงในลำคลอง
    [​IMG]
    ————————————————————————————————
    อันดับ9. ลานจอดเครื่องบินในแอริโซน่า สถานที่แห่งนี้ใช้เป็นที่จอดเครื่องบินปลดประจำการของสหรัฐฯกว่า 4,000 ลำ ซึ่งสถานที่แห่งนี้ได้รับความนิยมมากจากนักท่องเที่ยว
    [​IMG]
    ————————————————————————————————
    อันดับ10.สถานที่ทดลองจรวดกลางหุบเขาในรัฐยูทาห์ ซึ่งหลายๆคนอาจโต้แย้งว่าไม่ใช่สถานที่ปล่อยจรวด เพราะภาพที่จับได้มีลักษณะคล้ายเครื่องบินมากกว่า
    [​IMG]
    โดย Mthai news
    <LI class=news_src_item>[​IMG]<LI class=news_src_item>
    <LI class=news_src_item>
    [​IMG]
    .

    [​IMG]

    [B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B]เกาะติด น้ำท่วม 29 ตุลาคม 2553[/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B]

    ชัยนาท 18.00น. เจ้าหน้าที่ร่วมกับอบต.และเกษตรกรในพื้นที่ช่วยกันทำทำนบกั้นปิดช่องขาดของคันคลอง ซ่อมบานที่ชำรุด กันนํ้าทะลัก
    อยุธยา 17.00 น. วิกฤติหนัก นํ้าจ่อท่วมเข้าชั้นในตัวเมือง ใกล้ทะลักถึงวัดไชยวัฒนาราม โบราณสถานสำคัญ
    สถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน 16.00 น. น้ำท่วมรวม 20 จังหวัด ตายแล้ว 94 ราย นครราชสีมามากสุด 18 ศพ
    ลพบุรี 15.00 น. วิกฤติระดับนํ้ายังทรงตัวท่วมนานกว่า 2 สัปดาห์แล้ว นํ้าเริ่มเน่าเสีย ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก
    บุรีรัมย์ 14.30 น. สถานการณ์น้ำท่วมที่จ.บุรีรัมย์ โดยเฉพาะยังน่าเป็นห่วง หลังระดับน้ำในแม่น้ำมูลยังสูงขึ้นต่อเนื่อง อยู่ที่ระดับ 8.30 เมตร บ้านเรือนถูกน้ำท่วมขังร่วม 100 หลังคาเรือน นาข้าวจมน้ำเกือบ 30,000 ไร่
    [B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][COLOR=#ff0000]สุรินทร์ 13.00 น.[/COLOR] [/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B]ผู้ว่าเร่งให้ความช่วยพี่น้องประสบภัยพิบัติแล้ว โดยประชาชนที่ได้ประสบอุทกภัยมากที่สุดคือ อ.ท่าตูม และอ.รัตนบุรีคาดว่าพรุ่งนี้จะมีระดับสูงสุด หลังจากนั้นน้ำก็คงจะลดลง
    กรมชลประทาน 12.00 น. เผยสถานการณ์น้ำเจ้าพระยาเริ่มทรงตัวแล้ว เตรียมเร่งระบายน้ำ 1-2 พ.ย. ช่วงน้ำทะเลลดต่ำ
    มหาสารคาม 11.00 น. นํ้าไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่เกษตรของชาวบ้านเสียหายกว่า 24,000 ไร่
    พิจิตร 10.00 น. ผู้ว่าฯเผย แม่น้ำยมระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีก 30 เซนติเมตร น้ำล้นตลิ่ง 1-2 เมตร ท่วมบ้านเรือนประชาชน
    สิงห์บุรี 09.00 น. นํ้าไหลทะลักเข้าท่วมตัวเมือง หลังพนังกั้นนํ้าเจ้าพระยารั่ว ระดับนํ้าท่วมสูง ชาวบ้านขนข้าวของหนี
    นนทบุรี 08.00 น. สถานการณ์ยังน่าห่วง บางแห่งนํ้าทะลักล้นคันกั้นนํ้าเข้าสู่ถนน เจ้าหน้าที่กับชาวบ้านต้องเร่งขนกระสอบทรายเสริม
    ปทุมธานี 07.00 น. ผู้ว่าฯสรุปผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย 27,326 ครัวเรือน อ.เมือง-สามโคกหนักสุดน้ำท่วมสูงกว่า 3 เมตร
    ขอนแก่น 06.00 น. นํ้าในแม่นํ้าล้นทะลักท่วมบ้านเรือนประชาชน 3 ชั่วโมงสูงเกือบ 2 เมตร เดือดร้อนหนักขนข้าวของไม่ทัน เร่งอพยพประชาชน

    <?xml:namespace prefix = fb ns = "http://www.facebook.com/2008/fbml" /><fb:like class=" fb_edge_widget_with_comment fb_iframe_widget" show_faces="false" layout="standard" width="500" href="http://news.mthai.com/general-news/92303.html"></fb:like>
     
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ARMAGEDDON สงครามระหว่างดวงดาว
    จุดจบของมนุษย์ต่างดาวฝ่ายชั่ว(ซาตาน ฟรีเมสัน อิลลูมินาติ)

    [​IMG]

    ตอนที่ 8

    จากวันที่กำเนิดมนุษย์ จนถึงวันสิ้นสุดศตวรรษที่ 20 เป็นเวลา 6,795 ปี SATAN ครอบงำหลอกล่อมนุษย์ ให้ทำชั่วทุกวิถีทาง มีคำถามที่เป็นที่น่าสงสัยว่า ทำไมพระเจ้า(สิ่งที่มนุษย์ต่างดาวฝ่ายดีนับถือ) ทรงสร้างหรือยังปล่อยให้ SATAN (มนุษย์ต่างดาวฝ่ายชั่ว) ดำรงอยู่ ทั้งที่ท่านมีอำนาจในการทำลาย คำตอบง่ายๆก็คือ พระเจ้าทรงมองเห็นว่าทุกสิ่งที่ท่านสร้าง เป็นสิ่งที่สวยงาม และดีที่สุด หรือพูดให้ง่ายคือ พระเจ้าทรงมีพระเมตตาและรักในทุกสิ่ง SATAN แท้จริงก็เป็นเทวดาองค์หนึ่ง ที่หลงผิดคิดว่าสิ่งที่ตนทำนั้นถูกต้อง ปล่อยให้ความริษยา เข้าครอบงำตนเอง ความโกรธแค้นมีทิฐิ ไม่ยอมรับและอภัยผู้อื่นนั้นเอง แต่พระเจ้าก็ยังทรงเมตตาเสมอ ทั้งๆที่ SATAN ไม่เคยที่จะคิดได้ ยังคงทำความเลวต่อไป

    ในระยะเวลาช่วง 7 ปี ก่อนถึง สงครามครั้งสุดท้ายระหว่าง สวรรค์-นรก SATAN จะมีอำนาจมากขึ้น และทำให้โลกเกิดความพินาศอย่างน่ากลัว จากบันทึกมีการกล่าวถึงสัตว์ร้าย 2 ตัว ที่มีหมายเลขประทับที่หน้าผากด้วยเลข 666 สัตว์ตัวแรกมี 7 หัว 10 เขา และมี อำนาจเหนือมนุษย์ทุกผู้ ส่วนตัวที่ 2 ได้รับอำนาจเสริมจากตัวแรก มีอำนาจให้คนทั้งโลกสยบสยบแทบเท้ามัน SATAN จะมีอำนาจในโลกอย่างอหังการ์นาน 7 ปี และจะถูกจองจำโดยพระเจ้า ไปนาน 1,000 ปี ซึ่งจะเข้าสู่ช่วงยุคของชาววิไล ยุคแผ่นดินโลกใหม่ แต่หลังจากนั้น มันก็จะถูกปล่อยออกมาก่อกรรมอีก และคราวนี้พระเจ้าจะจับมารซาตาน โยนลงไปในบึงไฟและกำมะถัน รวมทั้งสัตว์ร้ายทั้งหลายที่ปลอมตัวเป็นผู้เผยพระวจนะ จะต้องทนทุกข์ทรมานชั่วนิจนิรันดร์ และนั่นคือวาระสุดท้ายของ SATAN

    สงครามขั้นแตกหัก ARMAGEDDON หรือ APOCALYPSE หรือ JIHAD น่าจะเป็นการเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 การทำลายล้างจะทำให้เกิดการสูญเสียของชีวิตมนุษย์ ไปถึง 1 ใน 3 หรือประมาณ 2,000 ล้านคน ตามบันทึกมีการพูดถึง ดวงตราทั้ง 7 หรือ THE SEVEN SEALS เมื่อมีการเปิดผนึกดวงตราทั้ง 7 จะมีการปรากฎตัวของบุรุษลึกลับ 4 คน ขี่ม้า 4 ตัวที่มีลักษณะเหมือนสัตว์ประหลาด มีเสียงร้องอันดังดุจสายฟ้าร้อง หรือที่เรียกกันว่า THE FOUR HORSEMEN OF THE APOCALYPSE หรือ 4 อัศวินแห่งวันโลกาวินาศ เหตุการณ์ ที่จะเกิดขึ้น ประกอบด้วย 3 สิ่งใหญ่ๆ คือ ดวงตราทั้ง 7 การเป่าแตรทั้ง 7 และการเทขันแห่งพระพิโรธทั้ง 7

    เมื่อตราดวงแรกถูกเปิดออก จะมีคนลึกลับขี่ม้าขาวออกมา ในมือถือคันธนู ทำให้โลกเกิดความทุกข์ยากไป 3 ปีครึ่ง และ SATAN ที่มีเครื่องหมาย 666 ก็จะเข้าครอบงำโลกมนุษย์อีก 3 ปีครึ่ง หลังจากนั้นจะเกิดสงครามมหาประลัย พระมาซีอา พระมะห์ดีร์ หรือพระศรีอาริยเมตไตรยก็จะเสด็จมา ทรงทำให้โลกเข้าสู่ยุคแผ่นดินโลกใหม่ ยุคของชาววิไล

    เมื่อดวงตราที่ 2 ถูกเปิดผนึก จะมีคนลึกลับขี่ม้าสีแดงออกมา ในมือถือดาบเล่มใหญ่ คนๆนี้จะทำให้โลกเข้าสู่สงครามอันน่าสะพรึงกลัว มีคนล้มตายถึง 1 ใน 3 ของประชากรโลก

    เมื่อดวงตราที่ 3 ถูกเปิดผนึก คนลึกลับขี่มาสีดำออกมา ในมือถือตราชู ทั่วโลกจะเกิดความกันดาร อดอยาก และกลียุค เขาจะมาในคราบของนักบุญที่นำสันติสุขมาสู่โลก แต่กลับนำพาผู้คนเข้าสู่สงครามมหาประลัย

    เมื่อดวงตราที่ 4 ถูกเปิดผนึก คนลึกลับขี่ม้าสีเขียวอมดำ ออกมา คนๆนี้ถือเป็นมัจจุราช มาคร่าชีวิตผู้คนด้วยโรคระบาด ความอดอยาก ทำให้ผู้คนล้มตายไปอีก 1 ใน 4 ของที่เหลือ

    เมื่อดวงตราที่ 5 ถูกเปิดผนึก วิญญาณของผู้ที่ล้มตายมากมาย จะได้รับเสื้อสีขาวที่พระเจ้าทรงประทานให้ และรับสั่งให้พวกเขาทนรอเพื่อให้ดวงวิญญาณที่ต้องล้ม ตายครบตามจำนวน

    เมื่อดวงตราที่ 6 ถูกเปิดผนึก จะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง กลางวันกลับมืดมิด กลางคืนดวงจันทร์ทอแสงเป็นสีเลือด ทุกคนจะรู้ดีว่าวันที่พระเจ้าทรงพิโรธ ได้มาถึงแล้ว วิญญาณที่ได้รับเสื้อขาว จะถูกนำตัวไปยังน้ำพุแห่งชีวิต พวกเขาจะไม่หิวกระหายอีกต่อไป ไม่เจ็บป่วยอีกต่อไป

    เมื่อดวงตราที่ 7 ถูกเปิดผนึก ความเงียบเข้าครอบคลุมสวรรค์ประมาณครึ่งชั่งโมง เทวทูตทั้ง 7 องค์ ได้รับแตร 7 อัน มีอยู่หนึ่งองค์ที่ถือกระถางไฟทองคำมาด้วย และเตรียมที่จะโยนมันลงมายังโลก เพื่อเผาผลาญคนชั่วให้สิ้นซาก จากนั้นเทวทูตทั้ง 7 ก็ทำการเป่าแตร

    -องค์ที่ 1 เป่าแตร ยังผลให้โลกไหม้ไป 1 ใน 3 ส่วน
    -องค์ที่ 2 เป่าแตร ยังผลให้เกิดอุกาบาตตกลงในทะเล ทำให้ทะเลกลายเป็นสีเลือดไป 1 ใน 3
    -องค์ที่ 3 เป่าแตร ยังผลให้อุกาบาตตกลงในแน่น้ำทั้งหลาย ทำให้น้ำมีรสขม ทำให้ผู้คนล้มตายเพราะน้ำนี้
    -องค์ที่ 4 เป่าแตร เป็นการเตือนว่าความพินาศจะเกิดแก่คนทั้งหลายบนโลก
    -องค์ที่ 5 เป่าแตร อุกาบาตตกลงยังพื้นดินผู้คนที่บาดเจ็บจะได้รับความทรมานแต่ไม่ตายอยู่เป็นเวลา 5 เดือน แม้อยากตายก็ตายไม่ได้
    -องค์ที่ 6 เป่าแตรทูตสวรรค์ที่เคยถูกส่งมายังโลก และถูกมารจับตัวไว้จะได้รับการปลดปล่อย และเตรียมตัวทำลายล้างมนุษย์ที่ชั่วช้าที่ถูก SATAN ครอบงำ
    -องค์ที่ 7 เป่าแตร แผ่นดินใหม่บังเกิด พระเจ้าชนะสงคราม แต่มารหรือซาตานก็ยังล่อลวงมนุษย์ต่อไป ทำให้เกิดการเทขันแห่งพระพิโรธขึ้น

    -ขันที่ 1 ผู้ที่บูชา SATAN จะเกิดแผลร้ายเป็นหนองไปทั้งตัว
    -ขันที่ 2 เทลงในทะเล สัตว์ที่อยู่ในทะเลก็ตายจนสิ้น เกิดโลกระบาดไปทั่ว
    -ขันที่ 3 ล้างพวกที่มีจิตใจใฝ่อธรรมจนหมดสิ้น
    -ขันที่ 4 เทลงไปที่ดวงอาทิตย์ ทำให้ดวงอาทิตย์แผดแสงมากยิ่งขึ้น เกิดความแห้งแล้ง ทุรกันดาร อดอยาก
    -ขันที่ 5 เทใส่ บัลลังก์ ของ SATAN ทำให้อาณาจักรของมันมืดมน
    -ขันที่ 6 เทลงในแม่น้ำ ทำให้แม่น้ำเหือดแห้ง ผีโสโครก 3 ตน ปรากฎกายออกมา ปลอมตัวเป็นผู้เผยวจนะของพระเจ้า ล่อลวงให้มนูษย์ทำสงครามกันเอง
    -ขันที่ 7 เทไปในอากาศ METRATON แผดเสียงแทนพระเจ้าดังกังวารว่า "สำเร็จแล้ว" ทำให้เกิดแผ่นดินไหว มหานครต่างๆบนโลก แยกออกเป็น 3 ส่วนบรรดาเกาะใหญ่น้อยทั้งหลายจมลงสู่ใต่บาดาลเชกเช่นตอนที่อาณาจักร ATLANTIS ถูกพระเจ้าทำลายล้าง

    เมื่อเหตุการณ์ทั้งหลายจบลง SATAN และสัตว์ร้ายทั้งหลาย ถูกจับตัวและถูกโยนลงไปในบึงไฟ และถูกฆ่าตายด้วยแสงที่เปล่งออกมาจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า นกทั้งปวงรุมแทะกินเนื้อพวกมันจนแหลกเหลว แต่วิญญาณชั่วร้ายของมันยังคงอยู่แต่ถูกจับมัดและกัก ขังในบาดาล 1,000 ปี แผ่นดินสงบสุขไป 1,000 ปี ก่อนที่วิญญาณชั่วร้ายจะถูกปลดปล่อยอีกครั้ง....

    ท่านที่สนใจจะอ่านให้ครบตั้งแต่ ตอนที่ 1- 10 สามารถเข้าไปอ่านได้ที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้นะครับ

    ที่มา http://www.gconsole.com/forum/show.php?page=topicdetail&id=56234
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • star-wars.jpg
      star-wars.jpg
      ขนาดไฟล์:
      56.1 KB
      เปิดดู:
      1,065
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ตุลาคม 2010
  7. nut_20036

    nut_20036 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +1,776
    <TABLE border=1 cellSpacing=0 borderColor=blue cellPadding=5 width=600 bgColor=white><TBODY><TR><TD bgColor=blue align=middle>Tropical Disturbance 99W # - : ประกาศเตือนภัยเรื่อง “หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังค่อนข้างแรง 99W ” ฉ </TD></TR><TR><TD>
    <TABLE border=0 width=590 align=center><TBODY><TR><TD>Tropical Disturbance 99W # - : ประกาศเตือนภัยเรื่อง “หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังค่อนข้างแรง 99W ” ฉบับที่ -
    ประกาศศูนย์ร่วมการเตือนภัยไต้ฝุ่น ฮาวาย, สหรัฐฯ (Joint Typhoon Warning Center หรือ JTWC )
    สภาวะโดยทั่วไปของพายุหมุนเขตร้อนเมื่อเวลา 01.00น.
    ประจำวันที่ 30 ตุลาคม 2553 ออกประกาศเวลา 04.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

    ภาพถ่ายดาวเทียมบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิคด้านตะวันตกตอนเหนือ ทะเลจีนใต้ และอ่าวไทย วันที่ 30 ตุลาคม 2553 / 03.57 น. ปรากฎพายุหมุนเขตร้อน 1 ลูก / หย่อมความกดอากาศต่ำ 1 ลูก
    1)Tropical Disturbance 99W (6.0N 109.8E,15kts): เมื่อเวลา 01.00น.วันนี้(30ต.ค.53) หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังค่อนข้างแรง 99W มีศูนย์กลางปกคลุมทะเลจีนใต้ตอนล่าง อยู่ที่ละติจูด 6.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 109.8 องศาตะวันออก หรือมีศูนย์กลางอยู่ทางทิศใต้จากเมืองโฮจิมินทร์ ห่ างประมาณ - กิโลเมตร. กำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกด้วยความเร็ว 5 นอต(9 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) เมื่อ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา . มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 15 นอต(28 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ลมกระโชกแรงสูงสุดประมาณ 25นอต(46กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ความกดอากาศที่พื้นผิวประมาณ 1010 มิลลิบาร์ คลื่นทะเลสูงสุดประมาณ - เมตรในช่วง 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา / คาดหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังค่อนข้างแรง 99W จะมีทิศทางการเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกโดยส่วนใหญ่ต่อไปอีก 12-24 ชั่วโมงข้างหน้า มีแนวโน้มพัฒนาเป็นพายุหมุนเขตร้อนในอีก 48 ชั่วโมงข้างหน้านี้: ประกาศศูนย์ร่วมการเตือนภัยไต้ฝุ่น (Joint Typhoon Warning Center หรือ JTWC )

    2)Typhoon CHABA (16W,31.3N 136.6E,75kts) : เมื่อเวลา 01.00น.วันนี้(30ต.ค.2553) ไต้ฝุ่น CHABA (ชบา/16W) ระดับ 1 ซึ่งมีศูนย์กลางปกคลุมทะเลญี่ปุ่น อยู่ที่ละติจูด 31.3องศาเหนือ ลองจิจูด 136.6 องศาตะวันออก หรือมีศูนย์กลางอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้จาก กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ห่ างประมาณ 360 กิโลเมตร. กำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือด้วยความเร็ว 19 นอต(35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) เมื่อ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา . มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 75 นอต(139 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ลมกระโชกแรงสูงสุดประมาณ 90นอต(167 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ความกดอากาศที่พื้นผิวน้ำทะเลประมาณ 966 มิลลิบาร์ คลื่นทะเลสูงสุดประมาณ 7 เมตรในช่วง 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา.... / คาด ไต้ฝุ่น CHABA (ชบา/16W) ระดับ 1 จะมีทิศทางเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือโดยส่วนใหญ่ในอีก 12-24 ชั่วโมงข้างหน้า คาดว่าจะอ่อนกำลังเป็นพายุโซนร้อนในอีก 12 ชั่วโมงข้างหน้า มีแนวโน้มเคลื่อนตัวเข้าใกล้กรุงโตเกียว อีก 12 ชั่วโฒงข้างหรือช่วงประมาณ 13.00น.วันนี้(30ต.ค.53) : ประกาศศูนย์ร่วมการเตือนภัยไต้ฝุ่น (Joint Typhoon Warning Center หรือ JTWC )

    <เพิ่มเติม/ความเห็น> หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังค่อนข้างแรง 99W ก็เป็นที่แน่นอนแล้วว่าจะเคลื่อนตัวเข้าสู่อ่าวไทยอย่างเต็มลูกในช่วง ประมาณวันที่ 2 ตุลาคม โดยศูนย์กลางพายุ มีแนวโน้มเคลื่อนตัวผ่าน ตามความน่าจะเป็นตามลำดับดังนี้ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช กระบี่ พังงา สงขลา พัทลุง ตรัง เพชรบุรี ราชบุรี กรุงเทฯและปริมณฑล ระยอง และชลบุรี ตามลำดับ ….. ร่องความกดอากาศต่ำกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังค่อนข้างแรง 99W ในทะเลจีนใต้ตอนล่าง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้นกับฝนตกหนักหลายพื้นที่ และคลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัย ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำ บริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา ตรัง และสตูล ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่อาจทำให้เกิดสภาวะ น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่งได้ ส่วนชาวเรือควรระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย …..สำหรับภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ในระยะนี้จะมีอากาศเย็นลงโดยทั่วไป โดยอุณหภูมิลดลงได้ 2-3 องศา ในช่วงวันที่ 1-3 พ.ย. หย่อมความกดอากาศต่ำในทะเลจีนใต้จะมีกำลังแรงขึ้นและเคลื่อนตัวเข้ามาปกคลุมบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้ตอนกลาง ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นอีกและมีฝนตกหนักต่อเนื่องอีก ขอให้ประชาชนติดตามข่าวพยากรณ์อากาศและเตือนภัย จากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดในระยะนี้…. สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น หรือกรุงโตเกียว ควรตรวจสภาพอากาศก่อนออกเดินทางเนื่องจากมี ไต้ฝุ่น CHABA (ชบา/16W) ระดับ 1 อยู่ใกล้บริเวณดังกล่าว / สำหรับวงสีเขียวคือบริเวณที่มีแนวโน้มพัฒนาเป็นพายุหมุนเขตร้อนในอนาคต (ถ้ามี)
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
     
  8. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    เริ่มรบกันแล้วครับ

    ทหารเกาหลีเหนือ-ใต้เปิดฉากยิงปืนใส่กัน!!!

    <!-- CSS = "article-detail partners" -->

    [​IMG]
    ทหารเกาหลีเหนือ-ใต้เปิดฉากยิงปืนใส่กัน!!!

    ทหารเกาหลีเหนือ-ใต้ เปิดฉากยิงปืนใส่กัน บริเวณชายแดน ก่อนเริ่มการประชุม G20 เพียง 2 สัปดาห์ สำนักข่าว เอพี รายงานวันนี้ (29) อ้างแหล่งข่าว เจ้าหน้าที่รัฐบาลเกาหลีใต้ รายหนึ่งที่เปิดเผยว่า ทหารเกาหลีเหนือ เปิดฉากยิงปืน ใส่ทหารเกาหลีใต้ ที่ประจำการอยู่ที่จุดตรวจบริเวณชายแดน ที่กำลังประกับปัญหาความตึงเครียดอยู่ในขณะนี้ โดยทหารของเกาหลีใต้ ก็ทำการยิงกลับ เพื่อตอบโต้โดยทันที หลังเผชิญปัญหาด้านความปลอดภัย ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้น ขณะที่ เกาหลีใต้ กำลังเตรียมความพร้อมเป็นเจ้าภาพ การประชุมสุดยอดประเทศเศรษฐกิจ 20 ประเทศ หรือ G20 โดยจะมีประธานาธิบดี บารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ และผู้นำประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก เข้าร่วมการประชุม
    อย่างไรก็ดี ยังไม่พบรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บในฝ่ายของทหารเกาหลีใต้ และยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า เป็นอุบัติเหตุ หรือ เกิดขึ้นโดยจงใจ ซึ่งสถานการณ์ความตึงเครียดครั้งนี้ เกิดขึ้นเพียง 2 สัปดาห์ ก่อนเริ่มการประชุมสุดยอดประเทศ
    เศรษฐกิจระดับโลก ในกรุงโซล อยู่ห่างจากชายแดน เพียง 51 กิโลเมตร
    ทั้งนี้ เหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้ เกิดขึ้นไม่บ่อยนักในพื้นที่ชายแดน โดยครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในปี 2007 เมื่อเกาหลีใต้ กล่าวหาว่า ทหารเกาหลีเหนือ ยิงปืนเข้าใส่ก่อน และเกาหลีใต้ จึงยิงสวนกลับ ซึ่งขณะนั้นไม่มีรายงานทหารเกาหลีใต้ ถูกทำร้าย และไม่ชัดเจนว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บในฝ่ายของเกาหลีเหนือ

    Ref
    ทหารเกาหลีเหนือ-ใต้เปิดฉากยิงปืนใส่กัน!!!
     
  9. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    น้ำป่าสัก ท่วมสระบุรี 22,000 ครัว อ่วม

    <!-- CSS = "article-detail partners" -->

    • [​IMG]

    น้ำจากแม่น้ำป่าสัก แม่น้ำลพบุรี และคลองชลประทาน ชัยนาท - ป่าสัก เข้าท่วมพื้นที่ อ.ดอนพุด จ.สระบุรี 22,000 ครัวเรือน
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น้ำจากแม่น้ำป่าสัก แม่น้ำลพบุรี และคลองชลประทาน ชัยนาท - ป่าสัก ได้ไหลมาจาก อ.บ้านหมอ อ.เสาไห้ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา และ แม่น้ำลพบุรี ไหลท่วมคลองตาเมฆ เข้าท่วมพื้นที่ อ.ดอนพุด จ.สระบุรี ซึ่งเป็นที่ลุ่มต่ำเหมือนก้นกระทะ ทั้ง 4 ตำบล ถนนภายในอำเภอหลายสาย ถูกตัดขาดน้ำท่วมสูง รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ วัด และโรงเรียน หลายแห่งถูกน้ำท่วม บางจุดสูงกว่า 3 เมตร ชาวบ้าน กว่า 22,000 ครัวเรือน เดือดร้อน คิดเป็นเปอร์เซ็นต์พื้นที่ ที่น้ำท่วม 80% ของอำเภอ ไร่นากว่า 3 หมื่นไร่ จมอยู่ในน้ำ มูลค่าความเสียหายกว่า 150 ล้านบาท

    อ้างอิง
    http://news.sanook.com/977605-น้ำป่าสัก-ท่วมสระบุรี-22000-ครัว-อ่วม.html
    วันนี้ผู้นำเสนอไปไหนกันหมดหนอ..???
     
  10. 2499

    2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    450
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +6,033
    มฟล. ฝากข้อคิดจิตวิทยา ทำตัวอย่างไรหลังภัยพิบัติ

    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ภัยจากภาวะน้ำท่วมหรือภัยพิบัติอื่น ไม่ใช่เพียงสร้างความเสียหายแก่ทรัพย์สินอาคารบ้านเรือนเท่านั้น จิตใจของผู้ประสบภัยได้รับความเสียหายไปด้วยไม่น้อย

    หากสะสมไม่ได้รับการคลี่คลายได้ทันท่วงที ก็อาจจะสร้างความสูญเสียรุนแรงถึงแก่ชีวิตได้ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์อยู่ในเวลานี้ บางคนแขวนคอตาย บางคนเตรียมกระโดดสะพานฆ่าตัวตาย

    การเผชิญกับอุทกภัยหรือภัยอื่นๆ ครั้งใหญ่ เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งภาวะเช่นนี้อาจทำให้เกิดความเครียด หรือปฏิกิริยาทางด้านจิตใจที่เปลี่ยนแปลงไปได้ จนบางครั้งอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพจิต เช่น ภาวะซึมเศร้า หรือการทำร้ายตนเองและผู้อื่นขึ้นได้


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400><TBODY><TR><TD vAlign=top width=400 align=middle>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> งานจิตวิทยาคลินิก โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง มีบทความดีๆที่เป็นแนวคิด สร้างกำลังใจมาฝากผู้ที่ได้รับผลกระทบ

    หลังเกิดภัยพิบัติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว สึนามิ น้ำท่วม ไฟป่า หรือภัยพิบัติที่เกิดจากน้ำมือมนุษย์ เช่น สงคราม การก่อการร้าย ฯลฯ ผู้ประสบภัยจะเกิดความเครียดขึ้นอย่างมาก แต่ความเครียดที่เกิดขึ้นในสถานการณ์ไม่ปกติแบบนี้ถือเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ เพราะไม่มีมนุษย์คนไหนเลยที่จะยังสามารถเป็นปกติสุขอยู่ได้ ท่ามกลางภัยร้ายที่เกือบทำให้เอาชีวิตไม่รอด ซึ่งปฏิกิริยาที่รุนแรงที่เกิดขึ้นทันทีของผู้ได้รับผลกระทบภายหลังเกิดเหตุการณ์ที่คุกคามต่อชีวิต แบ่งออกเป็น 4 ด้าน ดังนี้

    ด้านร่างกาย ได้แก่ อาการหน้ามืด วิงเวียนศีรษะ รู้สึกร้อนหรือหนาว รู้สึกตีบแน่นในลำคอ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ไม่มีแรง ปวดท้องและคลื่นไส้อาเจียน ความอยากอาหารลดลงหรือเพิ่มขึ้น อาการเจ็บป่วยเดิมกำเริบหนักขึ้น ทำให้สุขภาพทรุดโทรมหนัก

    ด้านปฏิกิริยา/การแสดงออก ได้แก่ นอนไม่หลับ หลับๆตื่นๆ ฝันร้าย ตกใจง่าย ร้องไห้โดยไม่มีสาเหตุ เฉยเมย แยกตัวออกจากสังคม หวาดระแวง กวาดตามองไปมาบ่อยๆ หันเข้าหาสุราของมึนเมาหรือยาเสพติดมากขึ้น

    ด้านอารมณ์ ได้แก่ ช็อกไม่ยอมรับในสิ่งที่เห็น วิตกกังวล กลัว เศร้า โกรธ ต้องการแก้แค้น ฉุนเฉียวง่าย โทษตัวเองและผู้อื่น อารมณ์แกว่งไปแกว่งมา คาดเดาไม่ได้

    ด้านการรับรู้ ได้แก่ สับสน มึนงง ไม่มีสมาธิ มีปัญหาด้านความจำ มีปัญหาในการตัดสินใจ ภาพความทรงจำของเหตุการณ์รุนแรงนั้นผ่านเข้ามาแบบวูบวาบ

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450><TBODY><TR><TD vAlign=top width=450 align=middle>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> อาการเหล่านี้เป็นเรื่องปกติที่อาจเกิดขึ้นหลังเผชิญเหตุการณ์สะเทือนขวัญ เช่น ภาวะน้ำท่วมเฉียบพลันนี้ โดยอาการจะเกิดขึ้นและลดลงจนหายไปภายใน 1 เดือน แต่ถ้าหากเวลาผ่านไปแล้วแต่อาการเหล่านี้ยังคงอยู่ จำเป็นที่ต้องพบผู้เชี่ยวชาญทางด้านจิตใจ เช่น จิตแพทย์ นักจิตวิทยา พยาบาลจิตเวช เพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป

    แต่หากผู้ที่ประสบภัย ได้รับการปฐมพยาบาลทางจิตใจ อย่างถูกต้องและทันท่วงทีก็จะสามารถทำให้กลับมามีสภาวะจิตใจที่เป็นปกติได้ในเวลาอันรวดเร็ว สามารถผ่านพ้นเหตุการณ์วิกฤตไปได้ด้วยดี ซึ่งหลักการปฐมพยาบาลทางจิตใจแก่ผู้ประสบภาวะวิกฤต ตามหลัก EASE สามารถทำได้โดย

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450><TBODY><TR><TD vAlign=top width=450 align=middle>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> สร้างความมั่นใจ ( E: Engagement) ด้วยการที่ผู้ให้การช่วยเหลือมีวิธีการเข้าถึงผู้ประสบเหตุการณ์วิกฤตได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม จนได้รับความไว้วางใจ ซึ่งสามารถทำได้ด้วย การสังเกต สีหน้าท่าทาง พฤติกรรมและอารมณ์โดยรวมของผู้ประสบภัย สร้างสัมพันธภาพและแนะนำตัวเองแสดงความจริงใจในการช่วยเหลือ และสื่อสาร พูดคุยเบื้องต้นโดยใช้คำถามปลายเปิด เช่น ถามถึงอารมณ์ความรู้สึกที่เกิดขึ้นในขณะนั้น

    ประเมินอย่างครอบคลุม ( A : Assessment) โดยผู้ช่วยเหลือสำรวจความต้องการรอบด้านของผู้ประสบภัย อันได้แก่ 1) ประเมินและตอบสนองความต้องการอย่างเร่งด่วนด้านร่างกายและจิตใจ เช่น ปัจจัย4 (ยา อาหาร เครื่องนุ่งห่ม น้ำ ที่พักพิง) ความปลอดภัยและบริการทางการแพทย์ 2) ประเมินสภาพจิตใจ ประเมินว่าผู้ประสบภาวะวิกฤตกำลังอยู่ในระยะอารมณ์อย่างไร เช่น ช๊อค ปฏิเสธ โกรธ ต่อรอง เศร้าเสียใจ 3)ประเมินความต้องการทางสังคม โดยเฉพาะการติดต่อ ประสานญาติ ผู้ใกล้ชิด และแหล่งช่วยเหลือทางสังคม

    เสริมสร้างทักษะ (S: Skill) เพื่อให้ผู้ประสบภัยสามารถลดความแปรปรวนทางอารมณ์และสร้างศักยภาพในการจัดการปัญหา ประกอบด้วยหลักการ “เรียกขวัญคืนสติ ลดความเจ็บปวดทางใจ และเสริมทักษะให้เกิดการเรียนรู้วิธีการจัดการอารมณ์ของตนอย่างเหมาะสม”

    เติมเต็มความรู้ (E : Education) คือ การให้สุขภาพจิตศึกษาและข้อมูลจำเป็นเพื่อช่วยให้ผู้ประสบภัยสามารถดำรงชีวิตอย่างปกติโดยเร็ว ประกอบด้วยการ ตรวจสอบความต้องการจำเป็น เติมเต็มความรู้ในการจัดการความเครียด แหล่งช่วยเหลือทั้งส่วนภาครัฐ/เอกชน และ ติดตามต่อเนื่อง ในการวางแผนแก้ไขปัญหาต่อไป
    </TD></TR></TBODY></TABLE>




    Campus - Manager Online -
     
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    สพฉ.เผยน้ำท่วมคร่าแล้ว 100 ศพ กทม.เผยยังไม่พบโรคระบาดร้ายแรง กรมชลฯ ยันไม่มีเขื่อนแตก<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>30 ตุลาคม 2553 12:50 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ หรือ สพฉ. รายงานสรุปยอดผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดต่างๆ ตั้งแต่วันที่ 10 - 30 ตุลาคม พบว่า มีรายงานยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเข้ามาอีก 6 ราย รวมเป็นทั้งสิ้น 100 ราย จากพื้นที่ประสบอุทกภัย 20 จังหวัด โดยเป็นผู้ชาย 84 ราย หญิง 16 ราย

    ทั้งนี้ หากแยกตามรายจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตจากจำนวน 20 จังหวัด เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย พบว่า จ.นครราชสีมา ยังคงมียอดผู้เสียชีวิตมากที่สุด 18 ราย รองลงมาเป็น จ.ลพบุรี 13 ราย จ.นครสวรรค์ 12 ราย จ.พระนครศรีอยุธยา 8 ราย จ.บุรีรัมย์ 6 ราย นนทบุรี และ จ.สุพรรณบุรี จังหวัดละ 5 ราย จ.ลพบุรี จ.ขอนแก่น จ.กำแพงเพชร และ จ.เพชรบูรณ์ จังหวัดละ 4 ราย จ.ชัยนาท จ.ชัยภูมิ จ.ปทุมธานี จังหวัดละ 3 ราย ระยอง และสิงห์บุรี จังหวัดละ 2 ราย ขณะที่จ.สระแก้ว จ.ตราด จ.อุทัยธานี และ จ.พิจิตร จังหวัดละ 1 ราย

    ในขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่าช่วงวันที่ 30-31 ต.ค.นี้ ภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้นและตกหนักหลายพื้นที่ คลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรง เตือนพื้นที่เสี่ยงภัย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา ตรัง และสตูล ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีอากาศเย็นลงในระยะนี้ อุณหภูมิลดลง 2-3 องศาฯ

    อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจชาวบ้าน ชุมชนหลังวัดสร้อยทอง เขตบางซื่อ ซึ่งบางส่วนได้รับความเดือดร้อนจากการเป็นพื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมมอบถุงยังชีพและเวชภัณฑ์ให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วมตามชุมชนต่างๆ ในเขตบางซื่อ รวม 155 ครัวเรือน

    พญ.มาลินี กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมในเขต กทม.เริ่มดีขึ้น หลังผ่านพ้นช่วงน้ำทะเลหนุนสูง โดยวันนี้น้ำทะเลจะหนุนสูงสูดในเวลา 13.39 น. ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูง 2 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง และในช่วงเย็นน้ำจะหนุนสูงอีกครั้งในเวลา 20.39 น.ระดับน้ำสูง 1.78 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง อย่างไรก็ตาม ยังมีความเป็นห่วงน้ำทะเลจะหนุนสูงสุดในช่วงวันที่ 8 พ.ย.นี้อีกครั้ง

    สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคภายหลังอากาศเริ่มเย็นลง ล่าสุดยังไม่พบโรคร้ายแรงใดๆ ยกเว้น โรคไข้หวัด และโรคที่มากับน้ำ เช่น โรคระบบทางเดินอาหาร ตาแดง และน้ำกัดเท้า ซึ่งสำนักอนามัย ได้นำหน่วยแพทย์ลงพื้นที่ให้การรักษา และแจกจ่ายยาทุกวัน

    ด้านศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน ยืนยันว่าไม่มีรายงานว่าเขื่อนกระเสียวและเขื่อนเจ้าพระยาแตกตามที่มีข่าวลือ ซึ่งทำให้ประชาชนแตกตื่นอยู่ในขณะนี้ โยกรมชลประทานยืนยันว่า เขื่อนทุกเขื่อนของกรมชลประทานยังใช้งานได้เต็มศักยภาพ มีการตรวจสอบความปลอดภัยของเขื่อน พร้อมกับการบำรุงรักษาทุกเขื่อนของกรมชลประทานอย่างต่อเนื่อง ประชาชนสามารถสอบถามสายด่วนกรมชลประทาน 1460

    ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมชุมชนมัสยิดหลวงอันซอริซซุนนะห์ เขตบางกอกน้อย หลังวัดดุสิตาราม โดยชุมชนดังกล่าวมีประชาชนอาศัยอยู่ 68 ครัวเรือน ตั้งอยู่หลังแนวเขื่อนกั้นน้ำที่สร้างใหม่เสร็จแล้ว แต่ยังมีปัญหาน้ำซึมเข้าในชุมชน จากนั้นเดินทางไปตรวจเยี่ยมชุมชนสันติชนสงเคราะห์ บริเวณถนนอรุณอมรินทร์ ซึ่งเป็นชุมชนนอกแนวกั้นน้ำ มีประชาชนอาศัยอยู่ 280 ครัวเรือน

    นายองอาจ ให้สัมภาษณ์ว่า ภาพรวมการดูแลปัญหาน้ำท่วมของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ถือว่ามีการป้องกันที่ดี เพราะไม่มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น คาดว่า กทม.สามารถรับมือได้ จะไม่มีน้ำเข้าไปในพื้นที่ กทม.ชั้นในแน่นอน อย่างไรก็ตาม ต้องจับตาเป็นพิเศษช่วงวันที่ 7-8 พฤศจิกายนนี้ เนื่องจากเป็นวันที่น้ำทะเลจะหนุนสูงอีกครั้ง จึงต้องดูด้วยว่าจะมีน้ำเหนือไหลมาสมทบมากน้อยเพียงใด ทั้งนี้ ยังเป็นห่วงพื้นที่ กทม.ที่เคยเป็นพื้นที่เกษตรกรรมเดิม ที่ขณะนี้มีการก่อสร้างในพื้นที่ที่อาจจะไปขวางทางน้ำ ทำให้การระบายน้ำมีปัญหา ดังนั้น การแก้ไขปัญหาระยะยาวของ กทม.จึงต้องมีอุโมงค์ส่งน้ำขนาดใหญ่ที่จะระบายน้ำได้ปริมาณมากออกสู่ทะเล

    ที่มา http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9530000152966

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“ส้วมกล่อง-ส้วมเก้าอี้” ไอเดียเก๋ๆ ยามฉุกเฉิน </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>28 ตุลาคม 2553 10:10 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ส้วมจำเป็นทำจากกล่องกระดาษ สามารถประดิษฐ์ได้เอง

    [​IMG]
    ส้วมเก้าอี้พลาสติกนั่งสบายคลายกังวล​

    สถานการณ์น้ำท่วมในหลายๆ พื้นที่ ทำเอาประชาชนได้รับความเดือดร้อน ลำบากกันทั่วทุกหัวระแหง ทั้งเรื่องที่อยู่ หลับนอน อาหารการกิน และที่สำคัญ คือ ปัญหาการขับถ่าย โดยเฉพาะในสภาวะที่น้ำเอ่อท่วมจนแทบจะมองไม่เห็นผืนดินอย่างนี้ หากปวดปัสสาวะ อุจจาระขึ้นมา ใครบ้างจะสามารถทานทนได้ บางคนจำต้องปล่อยไปตามกระแสน้ำ พานจะทำให้เกิดโรคระบาดตามมา

    ดังนั้น เพื่อสุขอนามัยที่ดีและป้องกันโรคระบาด นอกจาก “ส้วมลอยน้ำ” ที่สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สร้างขึ้นแจกจ่ายให้กับประชาชนซึ่งอาจไม่เพียงพอและผลิตไม่ทันกับความต้องการ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) โดยกรมอนามัยจึงดำเนินการแจกถุงดำจำนวน 360,000 ใบ ให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วม เพื่อนำไปประดิษฐ์เป็นส้วมชั่วคราวไว้สำหรับใช้ในครัวเรือน

    นพ.สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมอนามัย อธิบายวิธีประดิษฐ์ส้วมฉุกเฉินอย่างง่ายๆ 2 แบบ คือ แบบส้วมกล่อง กับส้วมเก้าอี้ ซึ่งล้วนเป็นการหยิบจับสิ่งของรอบๆ ตัวมาประดิษฐ์ หากครอบครัวใดมีเก้าอี้พลาสติกก็ให้เจาะรูตรงกลาง จากนั้นใช้ถุงดำที่ได้รับแจกประกอบเข้ากับเก้าอี้ หรือหากในบ้านมีกล่องพลาสติก เช่น กล่องกระดาษ ลังเบียร์ ขนาดกลาง หรือขนาดใหญ่ ก็สามารถเจาะรูสำหรับทำเป็นส้วมชั่วคราวได้หลายขนาดตามต้องการ หากเป็นเด็กเล็ก ก็อาจใช้กระดาษแข็งเจาะรูแล้วประกอบเข้ากับกล่องเพิ่มเติมเพื่อให้ให้มีขนาดอย่างเหมาะสมได้

    หลายคนอาจยังสงสัยว่า แล้วส้วมฉุกเฉินที่ว่านี้จะต้องใช้งานอย่างไร จึงจะปลอดภัยและถูกสุขลักษณะ นพ.สมยศ บอกว่า กรมอนามัยได้เตรียมคำแนะนำไว้เสร็จเรียบร้อย สามารถจดจำไปใช้ได้ 6 ข้อสั้นๆ ได้แก่ 1.ตรวจสอบลักษณะถุงพลาสติกสีดำให้อยู่ตรงกลางของช่องส้วม 2.ขับถ่ายให้ลงตรงกลางช่องของส้วม 3.ใช้กระดาษชำระทำความสะอาดหลังการขับถ่าย 4.กระดาษชำระที่ใช้แล้วให้ทิ้งในถุงพลาสติก 5.หลังจากใช้งานแล้วให้มัดปากถูกพลาสติกให้มิดชิด และ 6.รวบรวมถุงพลาสติกที่ใช้งานแล้วทิ้งลงถุงใบใหญ่อีกชั้น แล้วมัดปากถุงเพื่อนำไปกำจัดหลังน้ำลด โดยอาจใช้วิธีการขุดหลุมฝัง เนื่องจากถุงดำที่แจกนั้นสามารถย่อยสลายเองได้ในธรรมชาติ หรืออาจใช้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปกำจัด เพื่อป้องกันการระบาดของเชื้อโรค

    “หากทำตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ก็จะสามารถใช้งานส้วมชั่วคราวได้อย่างปลอดภัย และช่วยลดปัญหาพฤติกรรมการขับถ่ายลงน้ำ อันเป็นสาเหตุของการแพร่กระจายเชื้อโรค ส่งผลเสียต่อสุขภาพของประชาชนได้”อธิบดีกรมอนามัยอธิบายถึงความสำคัญของส้วมฉุกเฉิน

    นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่จากกรมอนามัยยังฝากบอกเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ เสริมไอเดียสุดเก๋ นี้ว่า สำหรับใครที่มีหัวคิดด้านการสร้างสรรค์ สามารถเพิ่มคุณค่าของเจ้าส้วมชั่วคราวนี้ได้หลายแบบ เช่น อาจเลือกใช้กระดาษที่มีสีสันสวยงามห่อหุ้มกล่องให้ดูน่าใช้ หรือจะมีการวาดลวดลายเพิ่มเติมลงไปทั้งในส่วนของตัวกล่องหรือฝาปิดเพิ่มเติมได้

    ช่วงสถานการณ์น้ำท่วมแบบนี้ มีเรื่องเครียดๆ มากพออยู่แล้ว บางทีการใช้หัวคิดในแนวสร้างสรรค์ อาจมีส่วนช่วยผ่อนคลายอารมณ์กังวลก็อาจเป็นได้ และระหว่างรอส้วมฉุกเฉินที่ทางกรมอนามัยจะแจกจ่ายในเร็วๆ นี้ ก็ลองทำตามคำแนะนำของ สธ.ไปก่อน เพื่อสุขภาวะที่ดีในการใช้ส้วมของทุกคน

    โดย...จารยา บุญมาก

    ที่มา http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9530000151586
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    การทำเสื้อกันหนาวจากถุงดำ

    [​IMG]
    ภาพเสื้อกั๊ก นำมาประกอบเพื่อเป็นไอเดียครับ

    ความหนาวที่ไม่เคยปรานีใคร คงต้องทำใจที่เราไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงความหนาวเย็นอันเกิดจากธรรมชาติได้ แต่เราสามารถป้องกันได้ด้วยการใส่เสื้อกันหนาว ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น ในการเดินทางในป่าและตั้งแค้มป์ในป่านั้น เราทุกคนต้องได้สัมผัสกับความหนาวเย็นจากป่า ซึ่งหากเราเตรียมตัวไปไม่พร้อม เอาอุปกรณ์กันหนาวไปไม่พอ คงต้องทนทรมานจึงอาจถึงขั้นไม่สบายเอาได้ เรามีวิธีที่น่าสนใจและเอาไปใช้ในยามจำเป็นได้ดีทีเดียวก็คือ การทำเสื้อกั๊กกันหนาวจากถุงพลาสติก (ถุงดำ)

    ก่อนอื่นมาดูคุณสมบัติของถุงพลาสติกกันก่อนว่าช่วยให้เราหายหนาวได้อย่างไร เนื่องจากถุงพลาสติกเป็นวัสดุผิวเรียบและไม่มีช่องระบายอากาศเหมือนผ้าทั่วๆไป ดังนั้นจึงทำให้ถุงพลาสติกไม่ยอมให้อากาศถ่ายเทออกไปยังภายนอกได้ จึงเป็นการรักษาอุณภูมิของร่างกายไว้ได้ ทำให้ร่างกายเรารู้สึกอบอุ่นตลอดเวลา

    อุปกรณ์ในการทำเสื้อกันหนาวดังนี้

    1.ถุงพลาสติก หรือถุงดำ ขนาด 24 x 36 นิ้ว หรือหาขนาดใกล้เคียงตัวผู้ใส่จริง
    2.สก็อตเทป

    ขั้นตอนการทำเป็นดังนี้

    1.ตัดถุงพลาสติกดำในช่วงก้นของถุงให้เป็นคอและแขนเหมือนเสื้อ เพียงเท่านี้จะได้เสื้อกั๊กกันหนาวไว้ใช้อย่างง่ายโดยเร็วที่สุด

    2.เมื่อต้องการทำเป็นเสื้อเเขนยาวให้นำถุงดำมาอีกหนึ่งถุง แล้วตัดเป็นรูปแขนจากนั้นใช้สก็อตเทปปิดและเชื่อมต่อเข้ากับตัวเสื้อในข้อ 1

    ในการใช้เสื้อกันหนาวที่ทำจากถุงดำนี้มีเทคนิคอีกนิดคือให้ใส่เสื้อไว้ก่อนหนึ่งตัว จากนั้นใส่เสื้อกันหนาวจากถุงดำ แล้วให้ใส่เสื้อทับลงไปอีกตัวเพราะถ้าเราใส่เสื้อกันหนาวจากถุงดำก่อน จะทำให้เกิดเหงื่อออกและหมักหมมได้ เพราะร่างกายไม่สามารถระบายเหงื่อผ่านถุงดำได้นั่นเอง


    ที่มา http://www.campinginter.com

    หมายเหตุ

    กระดาษหนังสือพิมพ์ ก็สามารถนำมาเป็นฉนวนกันความหนาวเย็นได้ดีเช่นเดียวกับถุงพลาสติกครับ ดูแบบอย่างได้จากภาพยนต์เรื่อง The Day After Tomorrow ว่าเขามีวีธีเอาชีวิตรอดจากความหนาวเย็นด้วยวิธีการอย่างไรบ้างครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 ตุลาคม 2010
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    อินโดฯ-อพยพชาวบ้านหลังภูเขาไฟปะทุครั้งใหญ่

    [​IMG]

    ภูเขาไฟเมราปีของอินโดนีเซียได้เกิดปะทุครั้งใหญ่ขึ้นอีกระลอกเมื่อรุ่งเช้าที่ผ่านมา ส่งผลให้อินโดนีเซียบังคับอพยพชาวบ้านหลายร้อยคนให้ออกจากพื้นที่

    ภูเขาไฟเมราปีซึ่งคร่าชีวิตชาวอินโดนีเซียไป 35 รายเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาได้เกิดปะทุอย่างรุนแรงเมื่อเวลาประมาณ 6 นาฬิกาที่ผ่านมา โดยได้พ่นลาวาและเถ้าถ่านสูงกว่า 1,300 เมตรขึ้นสู่ท้องฟ้านานถึง 21 นาที ส่งผลให้เจ้าหน้าที่และทหารอินโดนีเซียต้องใช้กำลังบังคับชาวบ้านหลายร้อยคนที่เริ่มทยอยอพยพกลับเข้าบ้านหลังจากระเบิดครั้งแรกเมื่อสัปดาห์ที่แล้วให้อพยพออกจากพื้นที่ ทำให้เกิดเหตุวุ่นวายและทำให้หญิงชาวบ้านวัย 50 ปีเสียชีวิตไป 1 คน ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 35 คน

    เถ้าถ่านจากภูเขาไฟยังปลิวไปถึงเมืองยอร์คยาการ์ต้า ซึ่งอยู่ไกลไปทางใต้ถึง 20 กิโลเมตร ปกคลุมรันเวย์สนามบิน ทำให้ต้องสั่งปิดสนามบินเป็นการชั่วคราว ส่งผลให้เที่ยวบินล่าช้าและเครื่องบินต้องเปลี่ยนไปลงสนามบินอื่น นอกจากนี้ยังทำให้ต้องปิดโรงเรียนอย่างน้อย 1 แห่งเนื่องจากถูกเถ้าถ่านปกคลุมจำนวนมาก

    ส่วนที่ญี่ปุ่น มีรายงานว่าไต้ฝุ่นชบาซึ่งเป็นไต้ฝุ่นลูกที่ 14 กำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่กรุงโตเกียว แต่ขณะนี้เริ่มอ่อนกำลังลง แต่อิทธิพลทำให้เกิดคลื่นลมแรงและฝนตกหนักแล้ว

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันเสาร์ ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2553

    อินโดนีเซียเตือนภัยภูเขาไฟอีก 4 ลูก

    [​IMG]

    ทางการอินโดนีเซียประกาศเตือนภัยระดับสูง ในพื้นที่ใกล้ภูเขาไฟ 4 ลูก หลังภูเขาไฟอานัค กรากะตัว บนเกาะชวาปะทุเล็กน้อยกว่าร้อยครั้งเมื่อวานนี้

    ภูเขาไฟอานัค กรากะตัว ซึ่งตั้งอยู่บนช่องแคบที่คั่นระหว่างเกาะชวาและสุมาตราเกิดการปะทุเล็กน้อย 117 ครั้งเมื่อวานนี้ ทางการต้องประกาศเตือนห้ามชาวประมงเข้าใกล้บริเวณดังกล่าว นอกจากนี้ยังเพิ่มระดับเตือนภัยภูเขาไฟอีก 3 ลูกคือ ภูเขาไฟปาปันดายัน ในจังหวัดชวาตะวันตก, ภูเขาไฟเซเมรู ในจังหวัดชวาตะวันออก และภูเขาไฟอี-กอน ในจังหวัดนูซา เท็งการาในติมอร์ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีการสั่งอพยพประชาชนในพื้นที่รอบภูเขาไฟทั้ง 4 ลูก

    สำหรับเหตุภูเขาไฟเมราปีปะทุเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ล่าสุดพบศพเพิ่มเป็น 35 ศพ ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุคลื่นสึนามิซัดถล่มหมู่เกาะห่างไกลของอินโดนีเซียเพิ่มเป็น 413 คนแล้ว

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันเสาร์ ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2553

    ที่มา http://www.krobkruakao.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ภูเขาไฟระเบิดอีกแรงกว่าครั้งก่อน อินโดฯแตกตื่น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

    เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 30 ต.ค. ตามเวลาท้องถิ่นอินโดนีเซีย เกิดเหตุภูเขาไฟเมราปี บนเกาะชวา จังหวัดชวากลาง ระเบิดขึ้นมาอีกรอบ ทำให้ชาวบ้านพากันตื่นตระหนก ขวัญผวา โดยกล่าวว่า การระเบิดครั้งล่าสุดนี้แรงกว่าและดังกว่าเมื่อวันที่ 26 ต.ค. ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 35 ราย
    ส่วนยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุสึนามิซัดเกาะเมนตาไว ทางตะวันตกของเกาะสุมาตรา เพิ่มเกิน 400 รายแล้ว


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
    [​IMG]</CENTER>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ผู้ว่าฯมหาสารคามเผยระดับลำน้ำชีวิกฤติ เตือนปชช.ริมฝั่งระวังน้ำ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle>ภาพประกอบจากอินเตอร์เนต</TD></TR></TBODY></TABLE>
    ผู้ว่าฯมหาสารคามเผยระดับลำน้ำชีวิกฤติ เตือนปชช.ริมฝั่งระวังน้ำเอ่อท่วมบ้านเรือน ไร่นา

    นายทองทวี พิมเสน ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำล่าสุดปริมาณน้ำที่ท่วม จ.ชัยภูมิ ได้ไหลเอ่อลงมาตามลำน้ำชี และคาดว่าจะถึงพื้นที่ จ.มหาสารคาม ในอีก 2-3 วันข้างหน้า โดยขณะนี้ปริมาณน้ำในลำน้ำชี ระดับสูงกว่าระดับวิกฤตแล้ว และมีปริมาณน้ำสูงขึ้นเฉลี่ยวันละ 6-10 ซม. จึงขอเตือนพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มริมฝั่งลำน้ำชี ให้ระมัดระวังน้ำที่จะไหลเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือน ไร่นา หากผ่านพ้นวันที่ 7-8 พฤศจิกายน คาดว่าสถานการณ์น้ำท่วมและระดับน้ำในลำน้ำชีจะลดระดับลงเรื่อยๆ นายทองทวี กล่าวว่า จังหวัดได้อนุมัติงบฉุกเฉินเพื่อจัดซื้อกระสอบบรรจุทรายทำแนวป้องกันน้ำท่วม จัดซื้อถุงยังชีพแจกจ่ายให้ราษฎรที่ประสบอุทกภัย จ่ายค่าน้ำมันเชื้อเพลิงในการสูบน้ำออกจากไร่นาราษฎร และจ่ายชดเชยให้แก่เกษตรกรที่พื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมแล้ว กว่า 18 ล้านบาทเศษ และให้แต่ละอำเภอนำกระสอบทรายมากั้นเป็นแนวป้องกันน้ำท่วม สามารถป้องกันไม่ให้น้ำในลำน้ำชีเอ่อล้นเข้าท่วมถนนและไร่นาของราษฎรได้ระดับหนึ่ง [SIZE=+0][FONT=Arial, Helvetica][/FONT][/SIZE][SIZE=+0][FONT=Arial, Helvetica][/FONT][/SIZE]
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  16. Aqua-ma-rine

    Aqua-ma-rine เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,242
    ลองสังเกตดูสิ ภัยธรรมชาติมักจะมาแบบโดมิโน

    [​IMG]
     
  17. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>พบสาหร่ายดึกดำบรรพ์ 450 ล้านปีที่ท่ากระดาน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    เมื่อ 29 ต.ค. นายไพบูลย์ สุวรรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่ากระดาน กล่าวถึงกรณีที่นักธรณีวิทยา กรมทรัพยากรธรณี สำรวจและตรวจสอบซากดึกดำบรรพ์หรือฟอสซิล ที่บริเวณป่าหิน หมู่ที่ 2 ตำบลท่ากระดาน ปรากฏว่าบริเวณป่าแห่งนี้ เป็นแหล่งซากดึกดำบรรพ์พวกซากหินนอติลอยด์ (Nautiloid) และสาหร่ายดึกดำบรรพ์(Stromatolite) ฝังอยู่ในก้อนหินขนาดใหญ่ อายุประมาณ 450 ล้านปี
    จำนวนฟอสซิลที่พบบริเวณบ้านท่ากระดานแห่งนี้ถือว่ามากที่สุดในประเทศไทย และในเบื้องต้นองค์การบริหารส่วนตำบลท่ากระดานได้กั้นพื้นที่ดังกล่าว จำนวน 12 ไร่ เป็นเขตควบคุมตาม ม.25 แห่งพ.ร.บ.คุ้มครองซากดึกดำบรรพ์ พ.ศ. 2551 ทั้งนี้เพื่อป้องกันการถูกทำลาย และรักษาสภาพพื้นที่ไว้เพื่อให้นักธรณีวิทยามาสำรวจอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้เมื่อการสำรวจได้เสร็จสิ้นแล้ว องค์การบริหารส่วนตำบลท่ากระดานจะประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุงบริเวณดังกล่าวให้เป็นแหล่งศึกษาค้นคว้า และเรียนรู้ ตลอดจนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดกาญจนบุรีในอนาคตต่อไป

    นายเชิดศักดิ์ จำปาเทศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า จากการตรวจสอบของนักธรณีวิทยา ยืนยันว่า บริเวณดังกล่าวเป็นแหล่งซากดึกดำบรรพ์ที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งน่าจะมีการศึกษาเพิ่มเติม และเรื่องนี้ได้ทำรายงานเรียนนายณฐพลษ์ วิเชียรเพริศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมกับนำคณะของกรมทรัพยากรธรณีเข้าตรวจสอบแล้ว พบว่าเป็นแหล่งซากดึกดำบรรพ์

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    +
    [​IMG]
    Mthai News : เป็นเรื่องฮือฮา และถกเถียงกันอย่างมาก เมื่อชาวเมืองกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ถ่ายภาพเหตุการณ์แสงไฟสีส้มปริศนาเป็นวิดีโอคลิปไว้ได้
    ซึ่งหลังจากคลิปวิดีโอนี้ถูกโพสขึ้นในเว็บไซต์ ทำให้เป็นที่ถกเถียงและตื่นตระหนกกันอย่างมาก โดยหลายคนกลัวว่าจะเป็น UFO หรือวัตถุลึกลับที่มีอันตราย เพราะหากเป็นเครื่องบินน่าจะเป็นลำแสงสีขาว แต่ก็แปลกใจที่วัตถุดังกล่าวมีลำแสงสีส้มเหลือง
    สำนักข่าวเวียดนามเอ็กซ์เพรส รายงานว่า นาย Nguyen Duc Phuong เจ้าหน้าที่องค์การอวกาศเวียดนาม ชี้แจงว่าแท้จริงแล้วเป็นเครื่องบินธรรมดาที่ปล่อยไอน้ำออกมาจากเครื่อง โดยไอน้ำที่เครื่องบินปล่อยออกมาสะท้อนแสงแดดตอนเย็นเป็นสีเหลือง ซึ่งไม่ใช่วัตถุแปลกปลอม หรือยูเอฟโอแต่อย่างใด
    นักท่องเนต ที่ใช้ชื่อว่า Jimmy Hoang แสดงความเห็นในเว็บไซต์ของเวียดนามเอ็กซ์เพรสว่า ปรากฏการณ์แบบนี้เห็นได้ประจำเหนือท้องฟ้าประเทศแคนานาดา ที่มีอากาศเย็นกว่าในเวียดนาม บางครั้งมองเห็นเป็นทางที่ยาวมากจากขอบฟ้าด้านหนึ่งไปจรดอีกด้านหนึ่ง
    เรียบเรียงข่าวโดย Mthai News

    <OBJECT codeBase="http://download.macromedia.com/pub/shockwave/cabs/flash/swflash.cab#version=6,0,40,0" classid=clsid:d27cdb6e-ae6d-11cf-96b8-444553540000 width=490 height=299>
























    <embedtype="application/x-shockwave-flash" width="490" height="299" src="http://www.youtube.com/v/qv9YNwd_BUs&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></embed></OBJECT></P><LI class=news_src_item>[​IMG]<LI class=news_src_item>[​IMG]
    นาซ่า เผยโครงการ เตรียม ส่งมนุษย์อวกาศ ไปอยู่ที่ดาวอังคารให้ได้ ก่อนปี 2030
    ที่ผ่านมามนุษย์พยายามศึกษาและสำรวจถึงความเป็นไปได้ที่สิ่งมีชีวิตจะสามารถดำรงอยู่ได้บนดาวอังคาร โดยผลการสำรวจค้นพบว่า สภาพภูมิอากาศและภูมิประเทศของดาวอังคารมีลักษณะคล้ายกับโลก ซึ่งยังคงมีการศึกษากันอย่างต่อเนื่อง
    ล่าสุด องค์การนาซ่าและหน่วยงานความ มั่นคงแห่งเพนตากอน ได้ทำการวางแผนเรื่องความเป็นไปได้ที่จะส่งมนุษย์อวกาศไปอาศัยอยู่ที่ดาวอังคารให้ได้ภายในปี 2030 ตามโครงการ ‘Hundred Years Starship mission’
    [​IMG]

    โครงการดังกล่าว จะให้เอกชนมาลงทุนด้านเทคโนโลยี เนื่องจากเป็นโครงการระยะยาวที่ต้องใช้เงินทุนมหาศาลในการดำเนินการ ตามรายงานมีการรคาดว่าต้องใช้เงินทุนถึง 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
    นายโฮเวิร์ด แม็คเคอร์ดี้ หนึ่งในศาสตราจารย์ผู้เข้าร่วมโครงการ กล่าวว่าโครงการนี้มีความเสี่ยงสูง เพราะการที่จะอพยพมนุษย์ขึ้นไปอยู่ที่นั่น ก็เปรียบเสมือนการค้นพบโลกใหม่ ซึ่งเราจะไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น ทั้งนี้รัฐบาลควรปล่อยให้เอกชนลงทุนในโครงการดังกล่าว ไม่ควรลงทุนเอง

    เรียบเรียงข่าวโดย Mthai news
    <LI class=news_src_item>[​IMG]
     
  18. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>อุตุฯเตือนใต้ฝนเพิ่ม"เหนือ อีสาน กลาง"อากาศเย็นลง </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>
    อุตุฯเตือนใต้ฝนเพิ่ม"เหนือ อีสาน กลาง"อากาศเย็นลง 2-3 องศา กทม.เย็นสุด 23 องศา
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศประจำวันที่ 30 ตุลาคม 2553 ดังนี้

    ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. ในช่วงวันที่ 30-31 ตุลาคม บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับมีร่องมรสุมพาดผ่านทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำในทะเลจีนใต้ตอนล่าง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้นกับฝนตกหนักหลายพื้นที่ และคลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรง

    ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัย ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำ บริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา ตรัง และสตูล ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่อาจทำให้เกิดสภาวะ น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่งได้ ส่วนชาวเรือควรระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย

    สำหรับภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ในระยะนี้จะมีอากาศเย็นลงโดยทั่วไป โดยอุณหภูมิลดลงได้ 2-3 องศา

    ในช่วงวันที่ 1-3 พ.ย. หย่อมความกดอากาศต่ำในทะเลจีนใต้ตอนล่างนี้จะมีกำลังแรงขึ้นและเคลื่อนตัวเข้ามาปกคลุมบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้ตอนกลาง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักและคลื่นลมแรงต่อเนื่องได้อีก


    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

    ภาคเหนือ อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา กับมีลมแรง
    โดยมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณ
    จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน และตาก
    อุณหภูมิต่ำสุด 20 องศา สูงสุด 32 องศา
    ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.


    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็น
    อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา กับมีลมแรง
    อุณหภูมิต่ำสุด 17 องศา สูงสุด 30 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.


    ภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า
    อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา กับมีลมแรง
    อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศา สูงสุด 33 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.


    ภาคตะวันออก อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา และมีลมแรง
    โดยมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่ง
    ของจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา
    สูงสุด 34 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร


    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองทั่วไป ร้อยละ 90 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่บริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี และ นราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 32 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร


    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
    บริเวณจังหวัดระนอง พังงา ตรัง และ สตูล
    อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศา สูงสุด 32 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
    ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร


    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาและมีลมแรง
    อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 33 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    เวียดนามไปไกล จะมีโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์เป็นครั้งแรกของปท.

    วันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2553 เวลา 13:45:30 น.
    <!-- Start share facebook --><SCRIPT>function fbs_click() {u=location.href;t=document.title;window.open('http://www.facebook.com/sharer.php?u='+encodeURIComponent(u)+'&t='+encodeURIComponent(t),'sharer','toolbar=0,status=0,width=626,height=436');return false;}</SCRIPT><STYLE> html .fb_share_button { display: -moz-inline-block; display:inline-block; padding:1px 20px 0 5px; height:15px; border:1px solid #d8dfea; background:url(http://b.static.ak.fbcdn.net/rsrc.php/zAB5S/hash/4273uaqa.gif) no-repeat top right; } html .fb_share_button:hover { color:#fff; border-color:#295582; background:#3b5998 url(http://b.static.ak.fbcdn.net/rsrc.php/zAB5S/hash/4273uaqa.gif) no-repeat top right; text-decoration:none; } </STYLE>แบ่งปันข่าวนี้บน facebook Share

    ชาวเกาหลีเหนือ-ใต้ได้พบญาติหลังพลัดพราก60ปี ส่วน2กองทัพยังปะทะกันไม่เลิก

    วันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2553 เวลา 19:50:00 น.
    <!-- Start share facebook --><SCRIPT>function fbs_click() {u=location.href;t=document.title;window.open('http://www.facebook.com/sharer.php?u='+encodeURIComponent(u)+'&t='+encodeURIComponent(t),'sharer','toolbar=0,status=0,width=626,height=436');return false;}</SCRIPT><STYLE> html .fb_share_button { display: -moz-inline-block; display:inline-block; padding:1px 20px 0 5px; height:15px; border:1px solid #d8dfea; background:url(http://b.static.ak.fbcdn.net/rsrc.php/zAB5S/hash/4273uaqa.gif) no-repeat top right; } html .fb_share_button:hover { color:#fff; border-color:#295582; background:#3b5998 url(http://b.static.ak.fbcdn.net/rsrc.php/zAB5S/hash/4273uaqa.gif) no-repeat top right; text-decoration:none; } </STYLE>แบ่งปันข่าวนี้บน facebook Share
    <!-- Start share facebook -->

    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=650><TBODY><TR><TD vAlign=top width=90 align=left>[​IMG](ภาพจากเอเอฟพี)

    </TD><TD vAlign=top width=560 align=left><STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>ชาวเกาหลีใต้มากกว่า 430 คน ได้เดินทางข้ามพรมแดนไปพบกับญาติๆ ของตนเอง ที่อาศัยอยู่ในประเทศเกาหลีเหนือ ซึ่งต้องถูกทำให้พลัดพรากจากกันในช่วงสงครามเกาหลี ระหว่างปี พ.ศ.2493-2496 หลังจากเมื่อวันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา กองทัพของทั้งสองประเทศเพิ่งจะเปิดฉากแลกกระสุนปืนกันในเขตปลอดอาวุธ

    โดยงานพบญาติครั้งนี้ถูกจัดขึ้นเป็นเวลา 3 วัน ณ สถานที่พักตากอากาศแห่งหนึ่งในประเทศเกาหลีเหนือ เพื่อเปิดโอกาสให้ชาวเกาหลีใต้จำนวน 97 ครอบครัว ได้พบกับญาติของตนเอง หลังจากประชาชนกลุ่มนี้ถูกแบ่งแยกออกจากกันผ่านสงคราม ความขัดแย้ง และเส้นเขตแดนมาเป็นเวลากว่า 60 ปี

    งานพบญาติระหว่างชาวเกาหลีเหนือ-ใต้ครั้งนี้ ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปี หลังจากเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา รัฐบาลเกาหลีใต้ได้กล่าวโทษว่าทางเกาหลีเหนือได้ยิงตอร์ปิโดทำลายเรือรบของตนเอง

    ภายในงานดังกล่าว คิม แร จุง วัย 96 ปี จากเกาหลีใต้ ถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เมื่อเธอได้พบหน้าวู จอง เฮ ลูกสาววัย 71 ปีของตนเอง ซึ่งปัจจุบันอาศัยอยู่ในเกาหลีเหนือ

    "ลูกเป็นยังไงบ้าง... แม่ได้พบลูกเพียงแค่ในความฝันเท่านั้น" คุณแม่วัยเหยียบ 100 ปี กล่าวกับลูกสาว

    "หนูมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีในเกาหลีเหนือค่ะแม่" ลูกสาววัยเลย 70 ซึ่งถูกทอดทิ้งไว้ที่เกาหลีเหนือ เมื่อสมาชิกในครอบครัวคนอื่นๆ ได้เดินทางอพยพมายังเกาหลีใต้ในปี พ.ศ.2494 เพื่อลี้ภัยหลังจากกองทัพจีนส่งทหารเข้าร่วมในสงครามดังกล่าว กล่าวตอบแม่บังเกิดเกล้า

    ขณะที่ ลี มุน ยอง ชายชราวัย 70 กว่าปี ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เขาถึงกับนอนไม่หลับ เมื่อได้พบว่าหนึ่งในพี่ชาย/น้องชายของตนเองยังคงมีชีวิตอยู่ โดยก่อนหน้านี้ ลีเคยคาดเดาว่าพี่ชาย/น้องชายคนนี้ได้เสียชีวิตไปแล้ว หลังจากเข้าร่วมกับกองทัพเกาหลีเหนือเพื่อสู้รบในสงครามเกาหลี

    "พี่ต้องสู้กับน้อง มันช่างเป็นโศกนาฏกรรมจริงๆ" ชายชราวัยล่วง 70 ปี ที่มีพี่ชาย/น้องชายคนหนึ่งเสียชีวิตในฐานะทหารประจำกองทัพเกาหลีใต้ เมื่อปี พ.ศ.2495 กล่าว

    หลังจากนี้ ชาวเกาหลีใต้และชาวเกาหลีเหนืออีกกลุ่มหนึ่งจะได้พบญาติกันในวันที่ 3-5 พฤศจิกายน ณ สถานที่พักตากอากาศแห่งเดิม

    ทั้งนี้ ประชาชนจากสองเกาหลี จะไม่สามารถส่งจดหมาย โทรศัพท์ หรือส่งอีเมล์ถึงกันได้ เช่นเดียวกับที่พวกเขาไม่สามารถเดินทางข้ามพรมแดนระหว่างเกาหลีเหนือ-ใต้ หากไม่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการจากรัฐบาล

    อย่างไรก็ตาม ก่อนที่งานพบญาติครั้งล่าสุดจะเริ่มขึ้น กองทัพของสองประเทศได้ปะทะกันบริเวณชายแดน ส่งผลให้คาบสมุทรเกาหลีมีความตึงเครียดเพิ่มมากขึ้น ในช่วงเวลา 1 เดือนก่อนหน้าการประชุมจี 20 ที่กรุงโซล นครหลวงของเกาหลีใต้

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <!-- Start share facebook -->

    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=650><TBODY><TR><TD vAlign=top width=90 align=left></TD><TD vAlign=top width=560 align=left><STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 30 ต.ค.ว่า ประธานาธิบดีดิมิทรี่ เมดวีเดฟ มีกำหนดจะเยือนกรุงฮานอย เมืองหลวงประเทศเวียดนาม เพื่อทำข้อตกลงจัดสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์แห่งแรกให้แก่เวียดนาม โดยโฆษกด้านนโยบายต่างประเทศรัสเซียเปิดเผยว่า ข้อตกลงระหว่างรัฐบาลรัสเซียและเวียดนามเพื่อสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ให้แก่เวียดนาม เป็นส่วนหนึ่งของการตกลงด้านทวิภาคีระหว่างทั้งสองประเทศ โดยรัสเซียเต็มใจที่จะให้เวียดนามกู้เงินเพื่อนำเงินมาจ้างรัสเซียสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ดังกล่าว

    ที่ผ่านมา นักวิเคราะห์ได้ชี้ว่า โลกกำลังมีความต้องการด้านพลังงานนิวเคลียร์เพิ่มขึ้น และรัสเซียอยู่ในกลุ่มผู้แข่งขันผลิตโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ดังกล่าว ร่วมกับสหรัฐ จีน และฝรั่งเศส และเมื่อเดือนมี.ค.นายกรัฐมนตรีวลาดิเมียร์ ปูติน ได้ตั้งเป้าให้รัฐบาลรัสเซียมีส่วนแบ่งตลาดดังกล่าวในราว 25 % จากปัจจุบัน 16 เปอร์เซนต์

    ทั้งนี้ เวียดนามได้อนุมัติสร้างสถานีโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์แห่งแรกของประเทศ โดยกำหนดให้มีเตาปฎิกรณ์นิวเคลียร์ 4 เครื่อง มีกำลังผลิตไฟฟ้าได้ 4,000 เมกะวัตต์ และตั้งเป้าว่าหนึ่งในโรงงานเหล่านี้ควรสามารถได้ใช้ก่อนปี 2020


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  19. โชตนา

    โชตนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +773
    พระอาจารย์โกวิน ปวฑฒโน (เป๊ก ซามี) วัีดไผ่รื่นรมย์ นครปฐม มรณะภาพ สวดที่วัดไผ่รื่นรมย์ ถึงวันที่ 7 พย.53 ประชุมเพลิง 19 ธค.53 16.00 น.ที่วัดโพธิ์งาม
    ท่านเคยเล่าว่า มนุษย์ต่างดาวไม่ได้อยู่นอกโลกหรอกอยู่ในโลกเรานี่แหละ มิติมันซ้อนกันอยู่ ท่านเก่งมากรักษาโรคหรือดูคนแต่ละคนด้วยการให้เด็ดใบไม้มาดู
    ส่วนตัวท่านเอง ท่านก็ว่าจะมรณะตอนอายุ 77 ก็ตรง

    พระชื่อโกวินทะ ข้อความจากคุณ ดังตฤณ[FONT=Times New Roman, serif] [/FONT]
    คำถามว่าจะไปหาหมอดูแม่นๆได้ที่ไหน[FONT=Times New Roman, serif]
    [/FONT]
    อันนี้ขอตอบตามตรงว่าส่วนใหญ่ผมเคยได้ยินน้องๆเล่าให้ฟังเท่านั้น[FONT=Times New Roman, serif]
    [/FONT]
    ไม่ทราบเหมือนกันครับว่าอยู่ที่ไหน ไปอย่างไร[FONT=Times New Roman, serif]
    [/FONT]
    สำหรับหมอดูแม่นๆที่ผมรู้จัก ก็แม่นเพียงบางเวลาที่แกมีสมาธิและสติสมบูรณ์[FONT=Times New Roman, serif]
    [/FONT]
    ปัจจุบันแกก็ชราแล้ว และไปอยู่ญี่ปุ่นเสีย[FONT=Times New Roman, serif]
    [/FONT]
    และอีกท่านหนึ่งที่เคยพบมาจริงๆเมื่อเกือบยี่สิบปีก่อนก็ไม่ทราบท่านยังทำอยู่หรือไม่[FONT=Times New Roman, serif]
    [/FONT]
    เป็นพระชื่อโกวินทะ อยู่แถวนครปฐม จะใกล้เคียงกับหมออุปการะที่สุด[FONT=Times New Roman, serif]
    [/FONT]
    เพราะท่านอาศัยญาณรู้กรรม รู้เรื่องราวของผู้คนโดยไม่ใช้หลักโหราศาสตร์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 ตุลาคม 2010
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    งานบรรยายเรื่อง "เตรียมกาย เตือนใจ พร้อมคำแนะนำในการรับมือกับภัยพิบัติ"

    [​IMG]

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->รัตติธรรม<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3979101", true); </SCRIPT> สมาชิก

    ขอเชิญเข้าไปอ่านการบรรยายได้ที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้ค่ะ

    http://mongkoldham.com/text/sanRMC_919.pdf<!-- google_ad_section_end -->

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ปาฏิหาริย์<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3961303", true); </SCRIPT> สมาชิก

    ไม่ทราบว่ามีคนโพสต์หรือยังนะครับ ได้รับรายละเอียดมาจาก คุณชานนคนไทยเลยเอามาโพสต์ตามรายละเอียดด้านล่างครับ

    “เตรียมกาย เตือนใจ พร้อมคำแนะนำในการรับมือกับภัยพิบัติ”

    • เนื้อหาการบรรยาย ครอบคลุมข้อมูลบางส่วนจาก ศ.ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน , ศ.ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ,ดร.สมิทธิ์ ธรรมสโรช ,พระธรรมโกษาจารย์ ,นายไมเคิล กอร์ดอน สกัลเลี่ยน เป็นต้น ฟังครั้งเดียวได้ข้อมูลโดยสรุปจากท่านผู้มีชื่อเสียงและทรงคุณวุฒิหลายท่าน พร้อมกัน ซึ่งหาฟังจากที่อื่นไม่ได้อย่างแน่นอน นานปีมีหน พลาดแล้วจะเสียใจ

    • จริงหรือที่ว่า ขณะนี้โลกพร้อมแล้ว ที่จะเกิดมหันตภัยใหญ่ แล้วส่วนไหนของไทย จะกลายเป็นพื้นที่ทะเลใหม่ ภาคใต้ และ ภาคกลาง จะจมหายไปบางส่วนจริงหรือ บริเวณใดบ้าง พื้นที่บริเวณใดที่จะมีความปลอดภัยสูงกว่าภาคอื่นๆ เวลามีภัยใหญ่ๆมา ชุมชนลักษณะใดที่จะไม่เดือดร้อนมาก จริงหรือที่ตำราและสถิติเดิมที่นักวิทยาศาสตร์ และ ผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายที่มีอยู่นั้น มันไม่เหมือนเดิมแล้ว ไม่ควรอ้างความรู้เดิมเท่านั้น จริงหรือที่โลกกำลังลุกไหม้เป็นไฟ แต่ทุกคนก็ยังเริงร่ากันได้อยู่ ยังไม่ตื่นตัว ยังไม่มีสติ เนื้อหาทั้งหมดนี้ เรียบเรียงมาจากผู้ทรงคุณวุฒิตามที่เอ่ยนามท่านให้ทราบแล้ว

    • นักสังเกตการณ์ทางธรรมชาติได้ยืนยันปัญหาภัยพิบัติไว้อย่างไร จริงหรือที่ประเทศไทย จะได้พบกับ “สึนามิ” อีกครั้ง แต่สึนามิครั้งนี้จะมีความใหญ่มากกว่า เหตุการณ์เมื่อ 26 ธันวาคม 2547 จริงหรือที่กรมทรัพยากรธรณี พบว่าประเทศไทยมีรอยเลื่อนใหญ่ๆที่มีพลังอยู่ 13 กลุ่มรอยเลื่อน พาดผ่านพื้นที่ 22 จังหวัด เป็นจังหวัดใดบ้าง สัตว์อะไรบ้าง รับรู้การเกิดแผ่นดินไหวได้เร็วกว่ามนุษย์ และแสดงออกให้เรารู้ได้อย่างไร จริงหรือที่ ผอ.สำนักธรณีวิทยาเตือนว่า ในเมืองไทยมีพื้นที่ซึ่งมีโอกาสเสี่ยงเกิดแผ่นดินยุบตัว หลังเกิดแผ่นดินไหว มีมากถึง 49 จังหวัดๆอะไรบ้าง จะได้นำมาแฉกันในวันบรรยาย

    • สิ่งที่ทุกท่านควรดำเนินการต่อไปมีอะไรบ้าง แล้วท่านจะได้ประโยชน์อะไร ถ้าท่านต้องการอยู่ในโลกมนุษย์ต่อไป ท่านต้องปฏิบัติตนอย่างไร พระคาถารับมือกับภัยพิบัติ ในขณะเกิดภัยพิบัติ เพื่อหนีภัยพิบัติ เมื่อเผชิญภัยพิบัติ และ ขอลาจากภัยพิบัติ จากเกจิอาจารย์ที่เป็นพระอริยสงฆ์ไทย คําอธิษฐานจิตประจําวัน คําอธิษฐานจิตที่กว้างขวาง

    รวบรวม เรียบเรียง และ นำมาบรรยายโดยนายมงคล กริชติทายาวุธ อดีต Senior Vice President บมจ.ธนาคารกรุงไทย และ ผู้อำนวยการหลักสูตรวิปัสสนากรรมฐาน เจ้าของเว็บไซต์ mongkoldham.com และ ที่ปรึกษาสมาคมค้นคว้าทางจิตแห่งประเทศไทย ฯลฯ วันเสาร์ที่ 30 ตุลาคม 2553 เวลา 13.00 – 16.30 น. ณ ห้องสีดา 3 โรงแรมรัตนโกสินทร์ (Royal Hotel) ถนนราชดำเนิน กรุงเทพฯ

    (หมายเหตุ : อนึ่ง ท่านที่ต้องการแผ่น DVD ที่มีการบันทึกรายละเอียดเนื้อหาการบรรยายเรื่อง “เตรียมกาย เตือนใจ พร้อม คำแนะนำในการรับมือกับภัยพิบัติ ตามรายละเอียดข้างต้น” ที่มีการบรรยายผ่านระบบ Powerpoint ที่มีเนื้อหาถึง 118 หน้า โปรดสั่งจองกับเจ้าหน้าที่ของสมาคมฯ รายได้ทั้งหมดมอบให้แก่สมาคมฯ ในราคาแผ่นละ 300 บาท (จัดทำจำนวนจำกัด เท่าที่มีผู้สั่งจองเท่านั้น) ผู้สนใจเข้าฟังการบรรยาย หรือ สั่งซื้อ DVD

    โทร.0-2441-0602 ถึง 8 ต่อ 1608 คุณนิสารัตน์ฯ

    ที่มา http://palungjit.org/threads/งานบรรยายเรื่อง-เตรียมกาย-เตือนใจ-พร้อมคำแนะนำในการรับมือกับภัยพิบัติ.264148/
    <!-- google_ad_section_end -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 4647828.jpg
      4647828.jpg
      ขนาดไฟล์:
      47.6 KB
      เปิดดู:
      1,717
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 ตุลาคม 2010

แชร์หน้านี้

Loading...