10 เสียงลึกลับประหลาดของโลก

nondanun · 11 พฤศจิกายน 2010

วิกิพีเดียอังกฤษนี้ช่างรวบรวมเรื่องลึกลับมากมาย ผมชอบจริงๆ ใช่ เรามีรายการลึกลับมากมายที่เกิดขึ้นในอดีตจนถึงปัจจุบันบนโลกใบนี้ วันนี้เราจึงรวบรวมเรื่องลึกลับแปลกๆ สนุกๆ มาให้คนสนใจเรื่องนี้ได้อ่านกัน คราวนี้จะเป็นเรื่องของเสียง ที่หลายเสียงนั้นเราไม่สามารถอธิบายได้ว่ามันเกิดจากอะไร บางเสียงน่าขนหัวลึก บางเสียงน่าพิศวง ฟังแล้วเหลือเชื่อมากว่ามีเสียงแบบนี้บนโลกด้วย+ +

10. Slow Down Unidentified Sound

เสียง ช้าลง(เสียงยูเอฟโอ) เป็นเสียงที่บันทึกไว้เมื่อ 19 พฤษภาคม 1997 ในแถบมหาสมุทรแปซิฟิก โดยจากการสหรัฐอเมริกา แหล่งที่มาของเสียงไม่ปรากฏ เสียงตรวจพบที่บริเวณ 15°S 115°W จากการตรวจสอบเสียงลึกลับนี้ พบว่ามันมี ความถี่ต่ำ ยาวต่อเนื่องกันนานถึง 7 นาที เสียงนี้ค่อยๆ ลดระดับความถี่ลงเรื่อยๆ ตามระยะเวลาที่เกิดเสียง จนเงียบหายไปในที่สุดหลายคนเชื่อว่าน่าจะเป็นเสียงของสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล แต่นักวิทยาศาสตร์ไม่ยืนยันความคิดนี้ เนื่องจากระยะเวลาเกิดเสียงต่อเนื่องถึง 7 นาที แต่ถ้าเป็นสิ่งมีชีวิตจริงมันน่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน นอกจากนี้หลายคนเชื่อว่ามันน่าเป็นยูเอฟโอ จานผีจากนอกโลก นอกจากนั้นยังมีทฤษฎีให้เชื่อว่าเสียงนี้น่าจะมาจากการเคลื่อนที่ของน้ำแข็งแอนตาร์กติกา หรืออาจเป็นปรากฏการณ์เสียดทานของน้ำแข็งระหว่างพื้นดิน หลังจากการตรวจพบเสียงลึกลับ "Slow Down" ครั้งนี้ ก็ไม่เคยมีการตรวจพบเสียงดังกล่าวอีกเลย ทำให้เสียงลึกลับ "Slow Down"ยังเป็นปริศนาจนถึงทุกวันนี้
ส่วนคลิปที่ให้ไว้เป็นเสียง "Slow Down" ที่ถูกเร่งความเร็วขึ้น 16 เท่า เพื่อให้เราได้ยินชัดเจนขึ้น
ฟังที่ [ame="http://www.youtube.com/watch?v=MRzCbolcnag"]YouTube - Slow Down Unidentified Sound[/ame]

9. Electronic voice phenomenon

Electronic voice phenomenon(เรียกย่อว่า EVP) อันนี้ออกจะหลอนๆ หน่อยนะครับ เพราะเสียงออกเหมือนผีวิญญาณร้าย โดยเสียง EVP นี้ ถูกเรียกว่า “ปรากฏการณ์เสียงอีเล็กทรอนิกส์” ซึ่งเป็นจู่ๆระบบอิเล็กทรอนิกส์สามารถสร้างเสียงคล้ายเสียงพูดทั้งๆ ที่ไม่มีการอัดบันทึกเทปหรือสร้างเสียงลงไป โดยมันเกิดขึ้นกับวิทยุ,โทรทัศน์ เวลาไม่มีส่งสัญญาณคลื่นโทรทัศน์ขึ้นมา ซึ่งจะเกิดเสียงซ่าๆ(ส่วนของโทรทัศน์นอกจากเสียงภาพพื้นหลังยังซ่าๆ ด้วย....ผมบรรยายรู้เรื่องไหมเนี้ย) แต่กระนั้นเสียงซ่าๆ เหล่านี้กลับมีเสียงประหลาดแทรกลงไปด้วย โดยมักจะเป็นข้อความสั้นๆ เช่น “พวกเราอยู่ที่นี้”, “ฉันมีชีวิต”, “ฉันรักเธอ” ฯลฯ บางคนก็บอกว่าเสียงเหล่านี้เหมือนคนในครอบครัวที่ตายแล้วพยายามสื่อสารกับคน เป็น(เกิดขึ้นทั่วโลก และเสียงก็เป็นภาษาของประเทศนั้นๆ) โดยหลายฝ่ายพยายามหาคำอธิบายปรากฏการณ์เหล่านี้ โดยบอกว่าเสียงเหล่านี้อาจเกิดมาจากระบบอีเล็กทรอนิกส์ หรือไม่ก็อาจเกิดจากภาวะจิตวิทยาที่สมองของเรามักได้ยินเสียงที่สุ่มจนตี ความเป็นเสียงในภาษาของตนเองและแน่นอนอีกข้อสันนิษฐานหนึ่งคือมีคนบอกว่า เสียงนี้อาจเป็นเสียงที่ถูกสร้างขึ้นโดยสิ่ง<wbr>ลี้ลับ ผี วิญญาณ หรือการติดต่อของวิญญาณ มนุษย์ต่างมิติ แถมยังโยงไปถึงโทมัส อันวา แอดิสัน ถูกกำเนิดอุปกรณ์เหล่านี้สมัยก่อนโน้น โดยจับเอาตอนโทมัสสัมภาษณ์กับสื่อว่าเขากำลังทำเครื่องมือที่สามารถติดต่อ กับคนตายได้ หากแต่ตายเสียงก่อนที่จะทำสำเร็จ และบางทีเสียงนั้นอาจเป็นผลมาจากการประดิษฐ์ของโทมัสก็ได้ใครจะไปรู้
ดาวน์โหลดเสียงมาฟังได้ที่ Download and listen to the Phantom Words
ดูสารคดีได้ที่ [ame="http://www.youtube.com/watch?v=oAzveGLhUAE"]YouTube - electronic voice phenomenon (EVP)[/ame]

8. Quacker (sound)

Quacker(เป็น ภาษารัสเซียแปลว่าเสียงกบ) เป็นเสียงลึกลับคล้ายกบ ที่รายงานอย่างกว้างขวางโดยลูกเรือของกองทัพโซเวียตในช่วงสงครามเย็น ในขณะใช้เรือดำน้ำขีปนาวุธนำวิถีลาดตระเวนไปยังทะเลภาคเหนือของแอตแลนติกและ มหาสมุทรอาร์กติก และแล้วพวกเขาก็ได้ยินเสียงลึกลับหนึ่งที่ไม่สามารถระบุได้ว่ามันมาจากไหน มันเกิดจากอะไร มันเหมือนเสียงกบ โดยเสียงเหล่านี้ปรากฏเหมือนมีอะไรบางอย่างผ่านเรือดำน้ำในขณะดำน้ำ และเมื่อทำการตรวจสอบก็ไม่พบอะไร แม้ว่าจะมีที่มาในจอเรดาห์ว่าเป็นวัตถุชนิดหนึ่ง ซึ่งวัตถุนี้มีพฤติกรรมไม่แตกต่างอะไรกับสิ่งมีชีวิตและพยายามหลีกหนีเมื่อ เรือดำน้ำผ่าน ความเร็วของวัตถุนี้อยู่ประมาณ 200 กม./ชม.(วัดจากกะประมาณจากการเปลี่ยนแปลงของความถี่ของเสียงดอปเลอร์ของพวก เขา)ซึ่งความเร็วขนาดนี้สูงกว่าเรือใดๆ ที่มนุษย์สร้างมาในช่วงเวลานั้น เสียง นี้ปรากฏในรายงานของโซเวียตมาช้านาน จนกระทั้งสิ้นสุดลงเมื่อปี 1980 ส่วนข้อสันนิษฐานก็มีหลากหลาย บ้างก็ว่าเป็นสัตว์ทะเลที่สูญพันธุ์จำพวกงูทะเล หรือจะเป็นเทคโนโลยีลับของอเมริกันในช่วงสงครามเย็น

7. Sounds from Planets in Vaccum

NASA - Eerie Sounds of Saturn's Radio Emissions
“เสียง จากดาวเสาร์” เป็นเสียงที่บันทึกโดยนาซ่า โดยที่มาจากยานอวกาศแคสสินีที่ห่างจากดาวเสาร์ไป 374 ล้านกิโลเมตร โดยใช้เทคโนโลยีวิทยุแคสสินีและเครื่องมือวิทยาศาสตร์คลื่นพลาสม่า ซึ่งได้จับสัญญาคลื่นวิทยุประหลาดได้ที่ดาวเสาร์ เมื่อเดือนเมษายน 2002 แล้วพบว่าเสียงนี้มีความถี่สูงมากและมีความซับซ้อนมากพอๆ กับคลื่นวิทยุของโลก โดยเสียงเหล่านี้สันนิษฐานว่ามาจากพื้นที่สุญญากาศ โดยข้อสันนิษฐานคราวๆ ก็มีเสียงนี้อาจเป็นเสียงแม่เหล็กไฟฟ้า หรือไม่ก็เสียงสัญญามนุษย์ต่างดาว (ฟังเสียงอย่างหลอนยังกับว่าเราหลุดไปนอกโลกอย่างงั้นแหละ)
+ Play sound of Saturn's radio emissions, which have changing frequencies
ฟังได้ที่ [ame="http://www.youtube.com/watch?v=mFFGdTI9KeA&feature=player_embedded"]YouTube - sounds of saturn[/ame]

6.The Brown Noise

เสียงรบกวนน้ำตาล(ชื่อมาจากสีของอุจาระ) เป็นคลื่นเสียงความถี่(คาดคะเนอยู่ระหว่าง 5 และ 9 เฮิร์ตช์ ความถี่ต่ำกว่า 20 Hz) ที่มันสามารถทำให้มนุษย์สูญเสียการควบคุมลำไล้เนื่องจากเรื่องสั่นสะเทือนเร โซแนนท์ (เสียงสะท้อนที่เกิดขึ้นกับระบบทุกชนิดที่มีการสั่นแกว่ง)ทำให้คนได้รับแรง สั่นสะเทือนนี้คลื่นไส้และปวดอุจจาระอยากถ่ายหนัก(ภาษาบ้านๆ ก็คือ ปวดขี้) โดยสาเหตุไม่สามารถหาคำอธิบายในทางวิทยาศาสตร์(สาขาอาวุธเสียง)ได้เพราะไม่ มีหลักฐานเชื่อถือได้ว่าเสียงนี้จะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียนจากการสั่ง สะเทือนของเสียง(ซึ่งความจริงแล้วเสียงและแรงสั่นสะเทือนก็สามารถทำให้ มนุษย์ตายได้เหมือนกัน)
เสียงนี้เคยถูกนำมาทดลองในรายการดังอย่าง MythBusters รายการโทรทัศน์ของอเมริกาซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับการทดลองวิทยาศาสตร์ ออกฉายในช่อง Discovery Channel ทาง ทรูวิชั่นส์ ดำเนินรายการโดย อดัม ซาเวจ (Adam Savage) และ เจมี่ ไฮน์แมน (Jamie Hyneman) สอง ผู้เชี่ยวชาญด้านสเปเชียลเอฟเฟค ที่พยายามที่จะพิสูจน์มูลความจริง และฐานความเป็นไปได้ของ ตำนานเมือง และเรื่องเล่าขานที่ถูกบอกเล่าต่อกันไปปากต่อปาก) และมีหลายประเทศให้ความสนใจทดลองอย่างญี่ปุ่นและฝรั่งเศสเพื่อศึกษา นอกจากนี้มันยังถูกนำไปล้อเลียนในการ์ตูนอย่าง South Park ใครที่อยากปวดขี้สามารถฟังเสียงจากลิงค์ได้ล่างได้เลย ผมการันตีว่าปวดจริงๆ
ฟังได้ที่ [ame="http://www.youtube.com/watch?v=hc2DbWGZmN0"]YouTube - The Brown Noise[/ame]

5.Mistpouffers “Unexplained Sonic Booms”

(รูป Sonic booms ครับไม่เกี่ยวกับเสียง Mistpouffers เน้อ)
Mistpouffers เป็น เสียงลึกลับที่ไม่สามารถอธิบายได้ โดยเสียงที่ว่าเหมือนเสียงปืนใหญ่หรือเสียงระเบิดดังมากๆ เสียงเหมือนฟ้าร้องมาแต่ไกลแต่ดังสุดฤทธิ์ทั้งๆ ที่เวลานั้นไม่มีเมฆขนาดใหญ่ที่สามารถสร้างสายฟ้าได้เลย บางคนถูกกล่าวว่าเสียงนั้นเหมือนเสียง Sonic booms(เสียงดังเช่นเสียงฟ้าร้อง อันเกิดจากอากาศยานเคลื่อนผ่านอากาศเหนือศีรษะของเรา ด้วยความเร็วสูงกว่าความเร็วของเสียง) โดย ส่วนใหญ่เสียงมักปรากฏในชุมชนริมแม่น้ำหลายแห่งทั่วโลก(บางแห่งเกิดขึ้นใน วันที่เงียบสงบของฤดูร้อน) เช่นริมฝั่งแม่น้ำคงคาในประเทศอินเดียฝั่งตันตก, ฝั่งน้ำจืด Finger Lakes ของ สหรัฐอเมริกา, ทะเลเหนือของญี่ปุ่น, อิตาลี และชื่อของมันก็ถูกเรียกแตกต่างกันออกไปในแต่ละพื้นที่ด้วย เช่น บังคลาเทศเรียกมันว่า “Barisal Guns”, อิตาลีเรียกมันว่า "marinas", ญี่ปุ่นเรียกมันว่า"uminari", เบลเยี่ยมเรียกมันว่า"mistpoeffers", ฟิลิปปินส์ "retumbos" และ อื่นๆ เรียกมันว่า ปืนหมอก โดยข้อสันนิษฐานถูกนำมาอธบายปรากฏการณ์นี้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น การระเบิดของแก๊สธรรมชาติใต้น้ำ, เครื่องบินทหารที่ความเร็วเหนือเสียง, ปรากกฎการณ์ของชั้นบรรยากาศ, ดาวตก, ปรากฏารณ์ธรณีวิทยา(ที่ไม่มีหลักฐานสนับสนุน), ฟ้าร้อง, ถ้ำใต้น้ำยุบตัว ฯลฯ
(ปล. ฟังคลิป Sonic booms เสียงกรุณาอย่าสะดุ้งหรือตกใจจนหัวใจวายเราเตือนคุณแล้ว)
ฟังคลิปเสียงได้ที่ [ame="http://www.youtube.com/watch?v=_"]YouTube - Broadcast Yourself.[/ame]0_SI0cDwkM&feature=player_embedded

4.UVB - 76 Buzzer

เป็นคลื่นสั้นของสถานีวิทยุลึกลับที่ออกอากาศในรัสเซีย โดยต้องหมุนความถี่ที่ 4,625 kHz(AM suppressed lower sideband).เป็นที่รู้จักดีในหมู่ผู้ฟังในชื่อเล่นว่า Buzzer โดย เนื้อหาวิทยุนั้นมีข้อความคลุมเครือแปลกๆ คล้ายกับรหัสอะไรบางอย่าง คุณภาพเสียงไม่ชัด และน่าเบื่อหน่ายเพราะเล่นซ้ำไปซ้ำมา โดยตัวอย่างรหัสบางตัวมีความเพี้ยนสูงและเข้าใจยาก เช่น ที่ 2100 UTC 24 ธันวาคม1997 มีรหัสออกมาว่า "Ya, UVB-76, 18008, BROMAL, Boris, Roman, Olga, Mikhail, Anna, Larisa, 742, 799, 14."
โดย คลื่นนี้มีการเล่นเสียงซ้ำ 25 เสียงต่อ 24 ชั่วโมงต่อวัน สถานีที่ส่งคลื่นวิทยุ(ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงมอสโก) สถานีนี้ตั้งมาเมื่อปี 1982 และยังอยู่ถึงปัจจุบัน(ตอนแรกสถานที่ตั้งสถานีปกปิดจนถึงปี 1997 ถึงจะเปิดเผย) โดยไม่ทราบสาเหตุว่าวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของสถานีมีไว้เพื่ออะไรกัน แน่(ทางราชการไม่ชี้แจงแก่ประชาชนให้ทราบ) บางคนบอกว่าเป็นรหัสเพื่อสอดแนมหรือสัญญาทางการทหาร หรือเกี่ยวข้องกับอะไรที่เป็นความลับของข้าราชการบางอย่าง
ฟังได้ที่ [ame="http://www.youtube.com/watch?v=tMFAYqyU"]YouTube - Broadcast Yourself.[/ame]0HM&feature=player_embedded

3. Bloop

บลุป เป็นชื่อเรียกของเสียงความถี่ต่ำมากใต้มหาสมุทรซึ่ง องค์การสมุทรและบรรยากาศแห่งชาติ (National Oceanic and Atmospheric Administration) ของสหรัฐอเมริกาสามารถตรวจจับได้ในช่วงฤดูร้อนของ 1997 ที่มาของบลุปนั้นสามารถระบุได้ว่าเป็นบริเวณ 50°S 100°W / 50°S 100°W (ชาย ฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของทวีปอเมริกาใต้) ในมหาสมุทรแปซิฟิก บริเวณเส้นศูนย์สูตร ซึ่งใช้ระบบฟังเสียงใต้น้ำของนาวิกโยธินอเมริกาที่เดิมใช้ตรวจหาเรือดำน้ำ ของสหภาพโซเวียต สามารถจับเสียงของบลุปได้หลายครั้งNOAA ได้บรรยายว่าบลุปนั้นมีความถี่สูงขึ้นเรื่อยๆเป็นเวลากว่าหนึ่งนาที และเป็นเสียงดังในบริเวณกว้างพอที่เซนเซอร์จำนวนมากในระยะกว่า 5,000 กิโลเมตรสามารถตรวจจับได้
นัก วิทยาศาสตร์พยายามไขปริศนานี้โดยบอกว่า เสียงบลุปมีลักษณะเหมือนเสียงของสัตว์สิ่งมีชีวิต แต่ไม่มีสัตว์น้ำชนิดใดที่เรารู้จักซึ่งสามารถสร้างเสียงเช่นนี้ได้ ถ้าเสียงนี้มาจากสัตว์ มันต้องเป็นมีขนาดใหญ่กว่าวาฬสีน้ำเงินหลายเท่าตัว และปัจจุบันต้นกำเนิดของบลุปยังเป็นปริศนา ส่วนเสียงบลุปนั้นมาจากเว็บไซต์ของ NOAA เล่นด้วยความเร็ว 16 เท่าของเสียงดั้งเดิมเพื่อให้เราได้ยินชัดเจนขึ้น
โหลดที่ [ame]YouTube - Broadcast Yourself.[/ame]9M3Rpy3tv50

2. Hums

“เสียงฮัมลึกลับ” เป็นเสียงต่ำแปลกๆ ที่เกิดขึ้นเฉพาะในสหรัฐอเมริกา(ในปี ค.ศ.1977), อังกฤษ และยุโรปเหนือ ที่มักได้ยินเสียงฮัมต่ำๆ คล้ายๆ เครื่องยนต์ดีเซลแปลกๆ(เช่นเครื่องใช้ในครัวเรือน,เสียงจราจรเป็นต้น) โดย เจ้าเสียงที่ว่านี้ดังติดต่อกันตลอดเวลาแต่บางทีก็เว้นจังหวะเป็นระยะแบบ สม่ำเสมอกันและเสียงนี้จะเข้มข้นตอนกลางคืนทำให้ผู้ได้ยินเป็นประสาทตามๆ กัน โดยเสียงที่ว่านี้จะต้องตั้งใจฟังในสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบเท่านั้น เช่นทะเลทรายในนิวเม็กซิโก, เกาะฮาวาย โดยไม่มีใครรู้ว่าต้นเสียงมาจากไหน.
ใน ปี 1977 มีการตรวจสอบโดยตรงจากวิทยาศาสตร์จากสถาบันที่มีชื่อเสียงในประเทศอเมริกา โดยทำการสำรวจและวัดคลื่นความถี่ของเสียงปริศนาในท้องที่และรอบๆ เมือง Taos นิวเม็กซิโก(โดยปกติเสียงนี้พบยากต้องใช้ไมโครเฟนพิเศษช่วย) พบว่าเสียงฮัมเบาๆ นี้มีความถี่ของเสียงประมาณ 30-80 Hz แต่เหลือเชื่อตรงที่ใช่ทุกคนจะได้ยิน มีบางคนที่ได้ยินเสียงนี่เท่านั้น โดยจากสถิตพบคนในเมือง Taos ได้ยินเสียงนี้เพียง 2 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ก็ส่วนสาเหตุไม่พบว่าเสียงปริศนานี้เกิดจากอะไร บ้างก็สันนิษฐานว่า เป็นหูอื้อ, เสียงลม, คลื่นมหาสมุทร ไม่ก็ยูเอฟโอ ฯลฯ
ดูสารคดีได้ที่ [ame="http://www.youtube.com/watch?v=qGHe7rdq0Ds&feature=player_embedded"]YouTube - Taos Hum[/ame]

1. Wow! Signal

Wow! signal เป็นชื่อเรียกสัญญาณวิทยุ ที่ตรวจพบโดย ดร.เจอร์รี อาร์. เอฮ์แมน นักดาราศาสตร์ชาวอเมริกันที่ทำงานให้กับโครงการเซติ ของหอดูดาว The Big Ear แห่งมหาวิทยาลัยโอไฮโอสเตต เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม1977 ในขณะที่กำลังหาสัญญาจากนอกโลกภายใต้โครงการ SETL อยู่ สัญญาณที่ ดร.เอฮ์แมน ตรวจพบนี้ มีความเข้มสูงมาก ความยาว 72 วินาที และมีความเป็นไปได้ที่ จะเป็นสัญญาณจากนอกโลก และนอกระบบสุริยะ จากการสันนิษฐานแหล่งที่มาน่าจะตั้งอยู่ในกลุ่มดาวราศีธนู ด้วยความประหลาดใจ ดร.เอฮ์แมน ทำเครื่องหมายบนกระดาษคอมพิวเตอร์ เขียนข้อความว่า ว้าว! (WOW!) และเป็นที่มาของชื่อสัญญาณนี้ และสัญญาณนี้ยังเป็นที่กังขากันในวงการวิทยาศาสตร์ ว่าสิ่งมีชีวิตนอกโลกนั้นมีอยู่จริงหรือเป็นเพียงเรื่องในจินตนาการ มีองค์การและหน่วยงานต่างๆ ทั่วโลก ที่ทุ่มเทค้นคว้าเพื่อไขความลี้ลับสัญญาณนี้แต่จนบัดนี้ก็ไม่สามารถไขได้
ลองๆไปฟังเสียงดูนะครับที่[ame="http://www.youtube.com/watch?v=f"]YouTube - Broadcast Yourself.[/ame]143-ak3q_Q&feature=related

ที่มา http://writer.dek-d.com/cammy/writer/viewlongc.php?id=486572&chapter=278