นักวิทยาศาสตร์รัสเซียไขปริศนา "โลกปรภพ" อยู่ที่ไหน

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย pinitko, 25 พฤศจิกายน 2010.

แท็ก: แก้ไข
  1. pinitko

    pinitko เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    264
    ค่าพลัง:
    +291
    [​IMG]



    คนไทยเรามีประเพณีปฏิบัติ เมื่อ จุดธูป 1 ศพ คนตาย มักส่งจิตอธิษฐาน ขอให้ดวงวิญญาณคนตายจงไปสู่สรวงสวรรค์ หรือ “ปรภพ”

    โลกปรภพในความเชื่อของชาวพุทธ เป็นที่อยู่ของดวงวิญญาณ ซึ่งเดิมเชื่อว่าเป็นดินแดนสวรรค์ ทั้ง 16 ชั้นฟ้า แต่ขณะนี้นักวิทยาศาสตร์เป็นผู้ให้คำตอบ ดินแดนปรภพ ไม่ใช่สวรรค์ เป็นดินแดนที่มีแต่ความสงบสุข ไร้ทุกข์ ไร้กังวล

    นักดาราศาสตร์ฟิสิกส์ชาวโปแลนด์ เบอร์นาร์ด ชิมลิตต์ แห่งสถาบันเฟิร์สต์ สเปซ ไซน์ โพลีเทคนิค แห่งกรุงกลาสโกว์ กล่าว ยืนยันว่า จากการเฝ้าสังเกตการณ์และตรวจ ชั้นบรรยากาศอย่างละเอียด เรามั่นใจว่าดวงดาว เอ็มโอเอ-192 บี (MOA-192 b) ซึ่งตั้งอยู่ใน กลุ่ม ดาวแคปริคอน (ม้ามีหัวเป็นคน ราศีที่ 9 จาก 12 ราศี) ซึ่งอยู่ห่างจากดาวโลก ราว 3,000 ปีแสง

    คือแดนสวรรค์ที่สิงสถิตของ ดวงวิญญาณ หรือที่ชาวพุทธเรียกว่า ดินแดน "ปรภพ"

    “เรานำข้อมูลที่เก็บมาได้ โดยเฉพาะ ข้อมูลชั้นบรรยากาศ บอกให้รู้ถึงร่องรอยสิ่งมีชีวิต อาศัย
    อยู่บนดาวดวงนั้น 2 กรณี”

    “ประการแรก เราตรวจพบสัญลักษณ์พลังงานไฟฟ้าระดับต่ำ ซึ่งเป็นไปได้ว่าไฟฟ้าเกิดจากพายุ
    ฟ้าคะนอง หรือเกิดจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้าก็ได้”

    “ประการที่ 2 เราตรวจพบคล้าย เป็นดินแดนที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตที่มี รูปแบบต่างไปจาก
    คน บริเวณขั้วโลกเหนือ ของดวงดาว MUA-192 b”

    “ชั้นบรรยากาศดวงดาวแห่งนี้ แตกต่างไปจากชั้นบรรยากาศของโลก สิ่งที่น่าตระหนก เราพบ
    ว่ามีก๊าซคาร์บอน- ไดออกไซด์ เกิดขึ้นในปริมาณสูงมาก พอ ๆ กับการพบไอน้ำระเหยขึ้นมาในชั้นบรรยากาศ”

    “ทั้ง 2 ประการนี้ ล้วนเป็นร่องรอย ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง นับเป็นการค้นพบครั้ง ยิ่งใหญ่ใน
    ประวัติศาสตร์ดาราศาสตร์ ที่ได้พบ ร่องรอยว่าดาว MOA อาจเป็นที่อยู่ของสิ่งมีชีวิต ที่มีอารยธรรมสูง”

    ขณะเดียวกันผู้เชี่ยวชาญด้าน วิปัสสนาอธิบายว่าสิ่งมีชีวิตดังกล่าว หากเป็น ดวงวิญญาณ ก็
    ย่อมมีลักษณะเป็นกายทิพย์ (ขณะมีชีวิตอยู่บนโลก กายทิพย์ อาศัยอยู่ใน กายหยาบ)

    ทั้งนี้ตั้งแต่การเริ่มต้นศึกษาวิจัยกลุ่มดาวที่อยู่ห่างจากโลก 3,000 ปีแสง เมื่อหลายปีก่อน ทีม
    งานนักดาราศาสตร์ฟิสิกส์ เบอร์นาร์ด ชิมมิตต์ พบว่ามีกลุ่มดาวกลุ่มหนึ่งมีชั้นบรรยากาศแตกต่างไปจากโลก
    โดยสิ้นเชิง นับแต่นั้นมาได้ใช้กล้องโทรทรรศน์ทางไกลแรงสูง คอยติดตามความเปลี่ยนแปลงมาโดยตลอด

    ต่อมาได้ประสานงานกับโรงการ “พลังโทรจิต” ที่ยูเครน (เดิมเป็นสหภาพ หนึ่งของรัสเซีย
    ปัจจุบันแยกตัวเป็นอิสระ) ซึ่งรัฐบาลสหภาพรัสเซีย ตั้งโครงการขึ้น ในยุคสงครามเย็น

    โครงการลับสุดยอดพลังโทรจิต ทางไกล ตั้งขึ้นบนข้อสมมติฐานว่าเมื่อคนเราฝึกฝนทางจิตจนแก่กล้า จนสามารถ ถอดดวงจิตออกจากร่างกาย ได้แล้ว ก็สามารถท่องจักรวาลไป ที่ไหนก็ได้ โดยมีความเร็วเหนือกว่า ความเร็วของแสง

    โครงการนี้มีหน่วยงานข่าวกรอง รัสเซีย หรือเคจีบี. เป็นเจ้าภาพ โดยรับคัดเลือก ผู้มีพลังจิตสูงมาแต่กำเนิดมาฝึกเพิ่ม ต่อมา ได้สร้างผลงานดีเด่น เมื่อครั้งเครื่องบินรบ มิก.29 ฟอกซ์ แบท ของรัสเซียตกที่โคลัมเบียทั้งเคจีบี.และซีไอเอ.ต่างแย่งชิงเพื่อไปถึงซากมิ ก.29ก่อนอีกฝ่าย เพราะ มิก.29 ในยุคนั้นคือ เครื่องบินโจมตีทิ้งระเบิดทรงอานุภาพที่สุด

    ซีไอเอ. ใช้พิกัดจากดาวเทียมจารกรรม แต่เคจีบี.ใช้นักพลังจิตตามโครงการโทรจิตทางไกล แผ่พลังจิตตามหาซากเครื่องบิน

    ปรากฏว่าหน่วยข่าวกรองรัสเซีย ไปถึงซากเครื่องบินก่อน ขณะที่ฝ่ายสหรัฐรู้ว่า ตกอยู่ในหุบเขา แต่ไม่อาจเจาะจงได้ เป็นที่ จุดใด

    หลังจากรัสเซียประสบความ สำเร็จจากโครงการนี้ รัฐบาลสหรัฐ โดย ซีไอเอ. ก็ได้ตั้งแผนงานโทรจิตทางไกล ขึ้นมาเช่นกัน แต่พัฒนาได้ไม่ทันรัสเซีย

    เมื่อนักวิทยาศาสตร์โปแลนด์ ไป ประสานงานไปยังรัฐบาลยูเครน ขอตัวนัก พลังจิตมาช่วย เพื่อถอดดวงจิตเดินทางไปยัง ดวงดาว MOA-192 b

    วิธีส่งพลังจิตเดินทางไกล คือการ นั่งเข้าสมาธิให้พลังจิต เดินทางไปยังจุดหมาย ปลายทางที่กำหนด

    ผู้รู้อธิบายตรงนี้ว่า คือการทำ วิปัสสนากรรมฐาน จนกระทั่งเกิดฌานชั้นสูง ระดับอภิญญาฌาน ดวงจิตจึงถอดออกจากร่างได้ และดวงจิตที่ถูกถอดออกจากกายหยาบนี่เอง เรียกกันว่า “กายทิพย์”

    การเข้าฌานโดยนักพลังจิตยูเครน ใช้เวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง แสดงว่าใช้เวลาไปกลับ ดวงดาว MOA แค่ชั่วโมงกว่า ๆ เท่านั้น แต่หากนักวิทยาศาสตร์โลกสามารถสร้่าง ยานอวกาศมีความเร็วเท่าความเร็วของแสงได้ ยานลำนั้นใช้เวลาเดินทางถึง 3,000 ปี จึงจะเดินทางถึงดวงดาว MOA ได้ (ระยะทาง 1 ปีแสง = 10 ล้านกิโลเ้มตร)

    นักดาราศาสตร์ฟิสิกส์ เบอร์นาร์ด เปิดเผยเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า ผลการส่งพลังจิต ได้พบกับถิ่นฐานของสิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์ มีเคหะสถานบ้านเรือนเหมือนชาวโลก แต่สร้างในรูปทรงต่างกันโดยสิ้นเชิง

    “ผู้ถอดดวงจิตยืนยันว่า เขาได้ พบกับสิ่งมีชีวิตที่มีใบหน้ารูปร่างเหมือนกับ คนที่เขา่รู้จักด้วย ไม่ใช่จำได้แค่คนเดียว แต่จำได้หลายคน”

    “ตรงนี้เป็นข้อมูลสำคัญที่ทำให้ โครงการวิจัยของเราสามารถสรุปได้ว่า คนบางคนเมื่อตายไปแล้ว ดวงวิญญาณของ พวกเขาเดินทางมาอยู่ที่นี่”

    “เพื่อความมั่นใจ เราให้ผู้ส่งพลังจิต อย่างน้อย 3 คน ตรวจสอบหลายครั้งจนมั่นใจ ว่า เขาจำได้ว่าคนที่เขาพบเห็นในดวงดาว เอ็มโอเอ.จริง ๆ ไม่ได้ผิดตัวแต่อย่างใด”

    “เขายืนยันว่าเขาพบนักเต้นบัลเล่ต์ ผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งเขาชื่นชอบมาก ขณะที่ เปิดการแสดงที่โรงละครกรุงมอสโคว์ ต่อมา นักบัลเล่ต์ผู้นี้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถชน ได้ไม่นาน เขาได้ถอดจิต แล้วไปพบกันที่นั่น”

    “ไม่มีการพูดคุยกับผู้ที่อยู่บนดาว เอ็มโอเอ. กับพลังจิตที่ส่งออกไปจากโลก เพราะ ผู้ที่อยู่ที่นั่น มองไม่เห็นพลังจิต” นักดาราศาสตร์ เบอร์นาร์ดกล่าว

    โครงการได้ทดลองนำภาพ คนตายจำนวน 43 คน ให้นักพลังจิตดู ว่าพบใครบ้างที่โน่น ปรากฏว่านักพลังจิต 2 คน จำได้ 3 คน

    “ภาพใบหน้าที่เราเอาไปให้เลือกดู ล้วนเป็นคนตายในช่วงเวลาไม่เกิน 2 สัปดาห์ ตรงนี้เป็นอีกข้อมูลยืนยันว่าดวงวิญญาณ เดินทางด้วยความเร็วพอ ๆ กับพลังจิต”

    “นักพลังจิตที่ส่งพลังจิตไปสำรวจ ดวงดาวเอ็มโอเอ. อธิบายว่าไม่ได้มีความเหมือน กับแดนสวรรค์ ตามภาพวาดตามผนังโบสถ์ แต่อย่างใด ไม่มีกลุ่มเมฆ ไม่มีนางฟ้า เทพ สวรรค์ หรือถนนปูลาดด้วยทองคำ”

    “ภาพลักษณ์ดินแดนปรภพ เหมือนเมืองเล็ก ๆ อยู่ตามภูธร ไม่มีรถยนต์ ไม่มีเครื่องจักร ผู้คนอยู่อย่างสงบสุข”

    “ผู้อยู่ที่นั่นล้วนมีสุขภาพดี ปรากฏตัว เป็นอย่างไรก็อยู่เช่นนั้ตลอดไป ไม่มีความแก่เฒ่า ไม่มีอาการเจ็บป่วย ไม่มีการต่อสู้ ไม่มีสงคราม”

    “ไม่มีเด็กเกิดใหม่ พบเห็นผู้คน หน้าใหม่เดินออกจากอาคารขนาดใหญ่ เหมือน ศูนย์รับส่ง เหมือนศูนย์กลางรอรับดวงวิญญาณ มาจุติที่นี่” ดร.เซอร์ไก อูซนิดอฟ ผู้อำนวยการ โครงการโทรจิตทางไกลแห่งยูเครนกล่าว

    “ในโลกของเราอาจมีกลไก ธรรมชาติที่เรายังค้นหาไม่พบ ทำหน้าที่เป็น ภาคส่งดวงวิญญาณไปยังดาวดาวต่าง ๆ ทั่วทั้งจักรวาล ไม่จำเพาะเจาะจงที่ดวงดาว เอ็มโอเอ. เท่านั้น”

    ดร.เซอร์ไกกล่าวอีกว่า “มีนักวิจัย บางคนบอกกับผมว่ามีอยู่ทฤษฎีหนึ่ง ที่เป็น ไปได้สูง เกี่ยวกับพลังชีวภาพ (bioenergy) ซึ่งในร่างกายคนทุกคนมีพลังงานนี้ จะปรากฏ ออกมาเมื่อคนกำลังจะตาย ทำหน้าที่เป็นแรงส่ง ดวงวิญญาณไปยังดวงดาวต่าง ๆ”

    แล้วแรงส่ง “พลังชีวภาพ” จะ เลือกส่งดวงวิญญาณหรือกายทิพย์ไปยัง ดวงดาวใกล้ไกลโดยอาศัยเหตุปัจจัย อะไร? พระนักวิปัสสนา ผู้ได้ฌานมาบ้าง แล้ว ต่างรู้ดีว่า...ล้วนมีบาปบุญคุณโทษเป็น ตัวกำหนดนั่นเอง

    ปล. ความคิดเห็นส่วนตัวแล้ว ผมดีใจที่นักวิทยาศาสตร์พิศูจน์เรื่องราวเหล่านี้ได้ ตามหลักของวิทยาศาตร์เอง ในฐานะที่ผมนับถือศาสนาพุทธ และเชื่อมั่นในคำสอนของพระพุทธองค์ พระองค์ท่านได้ไขปริศนาเรื่องราวเหล่านี้มากว่า 2500 ปีมาแล้ว







    Credit : plak.nokroo.com

    From : Boss/....
     
  2. Ozzy_ross

    Ozzy_ross Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +47
    สิ่งที่เรายังไม่รู้มีอีกเยอะ แต่ผมก็เคยคิดว่า จักรวาลอื่นต้อง เป็นที่อาศัยของจิตวิญาณ
     
  3. Amantrai

    Amantrai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    273
    ค่าพลัง:
    +162
    ถ้าเป็นจริงดังว่า ก็ไม่น่าไปเที่ยวเลยอ่ะ

    คิดถูกแล้วที่ไม่เคยสนใจเรื่องถอดจิต

    ;););)
     
  4. jack_za

    jack_za Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +74
    ถ้าเป็นจริงอย่างว่า....จะทำดีหรือชั่ว ก็ไม่เกี่ยวงะดิ
    เพราะจะต้องได้ไปอยู่ดาว MOA เหอะๆ .....มั่วกันไปหมด
    ไม่ต้องไปนรก หรือสวรรณ์ ไป MOA หรือดาวอื่นๆ เหอะๆๆ..มั่วจริง
     
  5. Ozzy_ross

    Ozzy_ross Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +47

    ผมว่าเชื่อว่าจักรวาลอื่นบางที้เป็นนรก หรือสวรรค์ ก็ได้นะครับ เพราะยังมีเรื่องอีกมากมายที่เรายังไม่ทราบ และพระพุทธเจ้าไม่ได้บอกเราว่า นรกหรือสวรรค์ อยู่หนใด
     
  6. Siani_3D

    Siani_3D เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    723
    ค่าพลัง:
    +607
    เห็นด้วยอย่างยิ่ง...
     
  7. singhol

    singhol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,376
    ค่าพลัง:
    +1,941
    นานาจิตตัง....อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด
     
  8. คิดดีจัง

    คิดดีจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,626
    ค่าพลัง:
    +5,354
    น่าทึ่งมากเลยครับ

    อ่านแล้วตกใจ ว่าพิสูตรได้ด้วยหรือดินแดนเหล่านี้

    แต่หยั่งว่า ต้องพิสูตรด้วยตัวของตัวเองเท่านั้น (

    ตอนแรกคิดว่าเรื่องจิต เรื่องณานเป็นของเราชาวพุทธเท่านั้น

    ต่างชาติเขาก็มีเหมือนกันนิ แต่เขาไปแนววิทยาศาสตร

    ตื่นเต้นจริงๆ
     
  9. เมทิกา

    เมทิกา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    952
    ค่าพลัง:
    +2,393
    มีจริง แต่อายตนะมนุษย์ธรรมดาสัมผัสไม่ได้ เนื่องจากมนุษย์มีขันธ์ 5 เป็นกายหยาบ

    จะสัมผัสได้ด้วยการเพิ่มความไว ความมีกำลังของสติ
     
  10. aossv

    aossv เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +279
    การเข้าฌานโดยนักพลังจิตยูเครน ใช้เวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง แสดงว่าใช้เวลาไปกลับ ดวงดาว MOA แค่ชั่วโมงกว่า ๆ เท่านั้น แต่หากนักวิทยาศาสตร์โลกสามารถสร้่าง ยานอวกาศมีความเร็วเท่าความเร็วของแสงได้ ยานลำนั้นใช้เวลาเดินทางถึง 3,000 ปี จึงจะเดินทางถึงดวงดาว MOA ได้ (ระยะทาง 1 ปีแสง = 10 ล้านกิโลเ้มตร)

    ลองอ่านดูตรงนี้ ผมว่ามันแปลกๆ ทำไมจิตถึงเดินทางเป็นชั่วโมงเคยได้ยินแต่ว่า พอนึกแล้วถึงเลย 55
     
  11. Siani_3D

    Siani_3D เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    723
    ค่าพลัง:
    +607
    สิ่งที่คนเรามองว่าลึกลับหรือเป็นความเชื่อ
    อีกไม่นาน เราก็จะรับว่าว่าสิ่งนั้นคืออะไร
    และก็จะไม่กลายเป็นสิ่งที่ลึกลับอีกต่อไป..

    และอาจกลายเป็นเรื่องปกติ ในการใช้ชีวิตประจำวัน

    เมื่อมีการพิสูจน์แล้วว่า สวรรค์ และนรก นั้นมีจริง และเป็นดวงดาวที่สถิตของวิญญาณ

    ผมว่าผู้คน จะหันมาทำดี กันมากขึ้น


    ผมไม่แปลกใจเลย ว่าทำไม พ่อกับแม่หรือ ญาติ คนแก่ๆ มักเล่าให้ฟังว่า
    ฝันเห็น ปู่ย่า ตา ยาย หรือ ทวด อยู่ในอีกดินแดนหนึ่ง ที่คล้ายกับโลกเรา
    แต่อยู่กันอย่างสงบสุขสบาย มีบ้านอยู่ด้วย

    ผมจึงคิดว่า ดินแดนสวรรค์เหล่านั้น น่าจะเป็นดวงดาวที่อยู่ หลังจากลาลับไปจากโลก
    และผมก็คิดเช่นนี้มาตั้งแต่นั้น
     
  12. รวียากร

    รวียากร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    342
    ค่าพลัง:
    +1,309
    วิทยาศาสตร์ ก็พยามพิสูจน์ไปเรื่อย นี่ หันมาศึกษา ศาสนาพุทธนี่ แล้วจะรู้อะไรหลายๆอย่าง ไม่ต้องไปเสียเวลา สืบค้นนู่นนี่นั่นหรอก ศาสนา ละเอียดอ่อนกว่าเยอะ
    พระพุทธเจ้า ท่านทรงรู้ตั้งแต่ 2500 กว่าปีแล้ว
     
  13. nonglynne

    nonglynne เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +376
    คิดเหมือนกันคะว่า จักรวาลและแกแล็คซี่ต้องมีสิ่งมีชีวิตอยู่ยังแอบคิดว่าเป็นสวรรค์นะค่ะ
     
  14. Siani_3D

    Siani_3D เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    723
    ค่าพลัง:
    +607
    เพราะคนส่วนใหญ่ ยึดถือ หลักฐานในการพิสูจน์ ว่าจริงหรือเท็จ
     
  15. prachabeodee

    prachabeodee สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +14
    แล้วที่มข่าวว่ามีพระ(ไทย)ที่กำลังจัดตั้งสถานีเพื่อรับส่งหรือติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวล่ะ...ไปถึงไหนแล้ว,พบหรือสื่อสารกันได้หรือเปล่า???.....
     
  16. Santajitto

    Santajitto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2010
    โพสต์:
    263
    ค่าพลัง:
    +455
    "พลังชีวภาพ" ที่นักวิทยาศาสตร์ใช้เรียก ในขณะที่คนเราเสียชีวิตไปแล้ว จะมีพลังงานบางอย่างเป็นตัวผลักให้ดวงวิญญาณไปอยู่ยังที่ใดๆ ในจักรวาล ...พลังงานที่ว่านั้นก็คือ
    บุญ กับ บาป นั่นเอง อีกหน่อยศาสนาทั้งหลายก็คงจะสูญสลายไป เพราะไม่สามารถพิสูจน์ให้เห็นจริงได้ ยกเว้น พุทธศาสนา ที่ยังคงเป็นหนึ่งในโลกตลอดกาล เพราะพุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งจักรวาล (ขนาดไอสไตน์ยังบอกไว้เลย) ...แต่น่าเสียดายตรงที่ไอสไตน์ มาเจอศาสนาพุทธ ช้าไปหน่อย คือมาเจอเอาช่วงปลายของชีวิตแล้ว จึงยังไม่ได้ทำการทดลอง หาเหตุผลมาอธิบาย ความรู้ที่ พระพุทธเจ้า ทรงค้นพบมาแล้วเมื่อ 2500 ปีก่อน ...แต่ปัจจุบัน ความรู้ที่พระพุทธองค์ ทรงค้นพบกำลังจะถูกเปิดเผย ออกมาสู่ชาวโลกมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว....
     
  17. Siani_3D

    Siani_3D เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    723
    ค่าพลัง:
    +607
    ผมคิดอยู่เสมอๆ ว่า
    เทพเจ้า ที่ลงมายังโลกมนุษย์ ที่ทรงสัตว์ๆเป็นยานพาหนะ
    แท้จริงแล้วอาจเป็น ยานอวกาศ
    แต่คนสมัยโบราณ ไม่รู้จัก เครื่องจักรกล หรือยานอวกาศ
    จึงเปรียบเสมือน สัตว์ต่างๆบนโลก เพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน
    และเป็นเพราะรูปร่างของยาน หรือสิ่งอื่นๆ

    มีใครคิดเหมือนผมไหม...(เอ๊ะ..ทำไมผมจึงมักคิด ในสิ่งที่แตกต่าง..)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤศจิกายน 2010
  18. ritta

    ritta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    214
    ค่าพลัง:
    +228
    เขานับเวลาตั้งแต่นั่งจนถึงออกจากสมาธิหรือเปล่าครับ
     
  19. Aqua-ma-rine

    Aqua-ma-rine เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,242


    ไม่แตกต่างนะความคิดแบบนี้ มีคนคิดประมาณนี้อีกเพียบ เรื่องพระเจ้ามาจากอวกาศ หรืออีกทฤษฎีก็ เป็นมนุษย์ในอนาคตใช้ไทม์แมชชีนย้อนเวลากลับมา

    อีกเรื่องคือ คนอาจจะเป็นประดิษฐกรรมจากการโคลนนิ่งของมนุษย์ต่างดาว แบบเดียวกับสัตว์หิมพานต์หน้าตาแปลกๆ ที่เป็นส่วนผสมของสัตว์ต่างๆ หลากหลายน่ะเอง

    ส่วนเรื่องการทรงเจ้า หรือเทพผ่านร่าง ก็อาจจะเป็นการที่มนุษย์ต่างดาว เลือกคนจำนวนนึงบนโลก ที่มีความพิเศษตรงที่มีเสาอากาศรับกระแสโทรจิตของตัวเองได้ มาทำหน้าที่เครื่องมือสื่อสารก็ได้นะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤศจิกายน 2010
  20. mu-nice

    mu-nice เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    229
    ค่าพลัง:
    +650
    ใครอยากรู้นั่งกรรมฐานซิถ้าตั้งใจจริงๆน่าจะทำได้แต่ต้องทำความดีด้วยนะบุญเท่านั้นที่จะทำให้เราสมหวัง
     

แชร์หน้านี้

Loading...