เรื่องเด่น คลิปจากเรื่องเล่าเช้านี้#26 ผวาลางร้ายหลวงพ่อโตหลั่งโลหิต

[MUSIC]mms://202.43.34.236/3_arch/25-11-2010T07.asf[/MUSIC]

youtube เห็นแต่ภาพไม่มีเสียง รอจนโฆษณาจบแล้วมีข่าวเด็กหนึ่งขวบตายแล้วฟื้น กด full screen ขึ้นเต็มจอจะดูง่ายกว่า
[ame="http://www.youtube.com/watch?v=6yQaCtSIGBI"]www.youtube.com/watch?v=6yQaCtSIGBI[/ame]



25พ.ย.53 รายงานข่าวแจ้งว่า วานนี้ชาวบ้านต.สี่ร้อย อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง ต่างพากันตื่นตระหนกหลังพบว่า หลวงพ่อโต พระพุทธรูปปางป่าเลไลยก์ สูง 21 เมตร หน้าตักกว้าง 6 เมตรเศษ ที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัดสี่ร้อย ได้เกิดปรากฏการณ์ประหลาด มีเลือดไหลออกตามร่างกาย
ซึ่งจากการสอบถาม นายจำนง ถนอมศิลป์ อายุ 63 ปี ผู้ดูแลองค์หลวงพ่อโต กล่าวว่า เมื่อวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา ขณะตนเองได้ขึ้นไปเปลี่ยนผ้าให้กับหลวงพ่อโต ยังไม่ได้พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด
กระทั่งวานนี้ มีคนเห็นเลือดไหลออกมาทางจมูกของหลวงพ่อ และวันนี้ปรากฏว่าพบรอยเลือดออกมาจากหน้าอก และด้านหลังอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งปรากฏการณ์ดังกล่าวเคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อปี 2530 และเหตุการณ์นั้นมีชาวบ้านในอ.วิเศษชัยชาญล้มตายไปเป็นจำนวนมาก
เบื้องต้นยังไม่มีรายงานว่าคราบดังกล่าวเกิดจากสาเหตุใด คงต้องรอการพิสูจน์ให้แน่ชัดอีกต่อไป ขณะที่ชาวบ้านหลายคนเชื่อว่าปรากฎการณ์ดังกล่าวอาจจะเกิดจากองค์หลวงพ่อท่านเสียใจ หลังท่านเห็นพระกับชาวบ้านทะเลาะกันในพิธีบวงทรวงเปิดอนุสาวรีย์ขุนรองปลัดชู เมื่อวันที่ 21พ.ย.ที่ผ่านมาก็เป็นได้
สำหรับวัดสี่ร้อย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำน้อย หมู่ 4 ต.สี่ร้อย สันนิษฐานว่า ตั้งขึ้นเป็นอนุสรณ์แก่ ขุนรองปลัดชู และชาวบ้านวิเศษชัยชาญ 400 คน ที่เสียชีวิตในสงคราม ระหว่างไทยกับพม่า ที่เมืองกุย ในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์ แห่งกรุงศรีอยุธยา พ.ศ.2302 ส่วนองค์หลวงพ่อโตนั้น ได้สร้างขึ้นมาพร้อมกับวัด และอยู่คู่กับชาววิเศษชัยชาญมาจนถึงปัจจุบัน.

 

แจ่มเลย ผมว่าคงมีคนอยากรู้เรื่องแปลกเหนือธรรมชาติแบบนี้กันมากครับ

 

อดีตนักข่าวขออย่าเชื่อเรื่องลวงโลก"เลือดไหลจากองค์พระ"หลวงพ่อใหญ่"


จากกรณีชาวบ้าน ต.สี่ร้อย อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง สังเกตุเห็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางพระป่าเลไลยก์ หรือหลวงพ่อใหญ่ ประดิษฐาน ณ วัดสี่ร้อย ต.สี่ร้อย มีเลือดไหลออกมาจากองค์พระหลายแห่ง จนสร้างความตื่นตระหนกและเกิดความเชื่อว่าเป็นรางร้ายที่จะก่อให้เกิดอาเพศ และเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวเคยเกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2530 นั้น


นายสถาพร พึ่งวงษ์ อดีตประชาสัมพันธ์จังหวัดอ่างทอง และอดีตผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ประจำจังหวัดอ่างทอง เปิดเผยเมื่อวันที่ 25 พ.ย. ว่า เมื่อปี พ.ศ.2530 สื่อมวลชนบางส่วนได้นำเสนอข่าวลักษณะนี้เช่นกัน โดยครั้งนั้นชาวบ้านเชื่อว่าองค์พระร้องไห้ มีคราบเลือดไหลออกจากพระนาสิก (จมูก) ด้านซ้าย จึงเสนอข่าวอย่างงมงายตามความเชื่อและปราศจากการพิสูจน์ข้อเท็จจริง ตนเป็นเพียงคนเดียวที่ตั้งข้อสังเกตและพิสูจน์จนความจริงปรากฏชัดว่า เลือดที่ไหลออกจากจมูก เป็นเลือดของนกพิราบที่ถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส บินหนีตายเข้าไปซุกในโพรงจมูกองค์พระ และซากนกก็ตกลงมาเป็นหลักฐานให้เห็น คลี่คลายความตื่นตระหนกหวาดกลัวของชาวบ้าน

“ปรากฏการณ์ในปี 2530 หรือปีต่อมา ไม่มีเหตุการณ์ที่เหนือความคาดคิด ไม่มีผู้คนล้มตายเกิดขึ้น ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้เช่นกัน ไม่ใช่ปรากฏการณ์พลังเหนือธรรมชาติ ที่จะทำให้เกิดอาถรรพ์ อาเพศ ผู้คนล้มตาย ไม่มีแน่นอน ดังนั้น ไม่สมควรเสนอสิ่งลวงโลกที่ปราศจากข้อเท็จจริง หาแหล่งอ้างอิงไม่ได้ ยิ่งทำให้ชาวบ้านเป็นทุกข์ ”นายสถาพร กล่าว

พระครูสุกิจจาทร เลขานุการเจ้าคณะจังหวัดอ่างทอง กล่าวว่า ชาวบ้านควรเชื่อและศรัทธาในพระพุทธศาสนา เพราะพระพุทธศาสนามีข้อบัญญัติที่จะพิสูจน์ข้อเท็จจริงได้เช่นเดียวกับหลักวิทยาศาสตร์ จึงไม่ควรงมงายตื่นตระหนกหลงเชื่อโดยความจริงยังไม่ปรากฏ พระพุทธรูปทั่วประเทศหรือพระพุทธรูปศักดิ์ใน จ.อ่างทอง อายุหลายร้อยปี ยังไม่เคยปรากฏเหตุการณ์เช่นนี้ แต่ที่วัดสี่ร้อยองค์พระอายุ 83 ปี เกิดปรากฏการณ์แปลกประหลาดถึง 2 ครั้ง

นายชวลิต วิเศษสิทธิกุล นายกเทศบาลตำบลบางจัก อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง กล่าวว่า เมื่อวันที่ 21 พ.ย. เทศบาลได้ประกอบพิธีเปิดอนุสาวรีย์ขุนรองปลัดชู หัวหน้ากองอาทมาต ที่อาสานำชาวบ้านวิเศษชัยชาญ 400 คน ไปสู้รบพม่าที่อ่าวหว้าขาว จ.ประจวบคีรีขันธุ์ โดยอนุสาวรีย์ประดิษฐานที่วัดสี่ร้อย การประกอบพิธีสำเร็จลุล่วงด้วยดี ส่วนการที่หลวงพ่อใหญ่มีเลือดไหลออกจากองค์พระ ตนยังไม่ทราบรายละเอียด

สำหรับวัดสี่ร้อย สร้างขึ้นในสมัยใดไม่ปรากฏหลักฐานเด่นชัด แต่อุโบสถมีภาพเขียนฝาผนังสมัย ร.4 ร.5 การสร้างวัดเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับขุนรองปลัดชู และกองอาทมาต 400 นาย โดยมีเจดีย์ย่อเหลี่ยมสี่มุมไม้สิบสอง เป็นที่สถิตดวงวิญญาณ ส่วนองค์หลวงพ่อใหญ่สร้างในปี 2452 แล้วเสร็จปี 2470 ซึ่งขณะนั้นชาวบ้านเลื่อมใสพระพุทธศาสนาเดินทางไปสักการะพระปางป่าเลไลยก์ วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร จ.สุพรรณบุรี จึงจำลองมาสร้างเพื่อไม่ให้เดินทางไกล โดยไม่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ขุนรองปลัดชู
ขอขอบคุณmatichon<!-- google_ad_section_end -->

 

ให้กำลังใจคุณ titawan ครับ ไม่ต้องไปสนพวกปากแร้งปากกา ปากหม- พาจนหรอกครับ เพราะเท่าๆที่อ่านมา พสภัธ ไม่มีมารยาทที่สุด ขอบคุณสักคำก็ไม่มี นิสัยแบบนี้กลับไปตายแล้วเกิดเป็นเห้ ดีกว่าไหม

 

ปี 2530 เครื่องบินตกที่ภูเก็ต
มีผู้โดยสารและลูกเรือรวมกัน 83 ชีวิต จากสนามบินหาดใหญ่ มีจุดหมายที่สนามบินภูเก็ต หลังจากที่ เครื่องบินเดินทางมาใกล้ถึงจุดหมาย จู่ๆ เครื่องยนต์ก็เกิดขัดข้องขึ้น บนน่านน้ำของ อ่าวปอ จ.ภูเก็ต กัปตันพยายามควบคุมเครื่อง รวมทั้งติดต่อไปที่หอบังคับการบิน แต่หลังจากติดต่อได้ไม่นานเสียงกัปตันก็เงียบลง พร้อมกับข่าวที่สร้างความตื่นตระหนกให้แก่คนทั้งประเทศ เพราะเครื่องบินได้ดิ่งลงทะเลเป็นที่เรียบร้อย

แต่เท่าที่ดูภัยพิบัติและอุบัติเหตุก็เกิดขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงเวลาหลายๆปีที่ผ่านมา

ไม่ว่าจะมีอะไรเตือนหรือไม่ คิดว่า..ให้ดำรงค์ไว้ซื่งความไม่ประมาทดีที่สุดค่ะ

 

ง่า....เกิดเรื่องแล้ววววว คุยกานดีๆๆๆ เด้อ อ่านแล้วใจม่ายดีเลย .....

 

ใครมีตาในช่วยเพ่งดูให้หน่อยครับ....ว่าเป็นลางด้านใด

 

อย่าเติมแต่งให้ชีวิต อย่าคิดปรุงรสให้ธรรมชาติ จงรู้เท่าที่เห็น จงเป็นตามที่ชะตากำหนด จงเห็นตัวเรา ก่อนที่เราจะเห็นตัวใคร อย่าเห็นตัวใครถ้าใครไม่อยากให้เห็น

 

น่าสงสาร ชาววิเศษชัยชาญ ที่เสียสละอุทิศชีวิตในครั้งนั้นนะครับ ถึงแม้กำลังจะน้อยกว่า รู้ว่าจะสู้ไม่ได้ แต่ก็ตอบโต้จนชีวิตจะหาไม่ ดีกว่ายอมเห็นอยุธยา ต้องถูกพม่ายึด

 

ข้อมูลดี มีประโยชน์ด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย
อภัยทานัง อามิสทานัง ชินาติ การให้อภัยเป็นทาน ชนะทานทั้งปวง

 

เห็นด้วย คับ..... ^_^ ข้อมูลดี มีประโยชน์ด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย

 

อาตมาขออนุโมทนาสาธุในจิตที่เป็นกุศลของผู้นําเสนอข่าวทั้งหลาย ขอความสุขทั้งกายและใจ จงมีแก่ผู้เสนอกระทู้ ผู้ตอบกระทู้ และผู้อ่านกระทู้ทุกๆท่านเทอญ

พระสุวัณโณ