ระยะเวลาของการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า3แบบ

ปัญญาธิกะพุทธเจ้า = ใช้เวลาการตรัสรู้ 6-7 ปี
- เกิดมาอยู่ในช่วงอายุคนน้อยๆ ตอนคนลำบากๆ
- มีจำนวณคำสอนธรรมมะมากที่สุด เพราะว่ามนุษย์มีช่วงอายุสั้น ต้องเรียนรู้ธรรมให้มากที่สุด

ศรัทธาธิกะพุทธเจ้า = ใช้เวลาการตรัสรู้ 6-7 เดือน
- เกิดช่วงคนมีอายุระดับกลางๆ
- มีคำสอนแบบกลางๆ

วิริยะกะพุทธเจ้า = ใช้เวลาการตรัสรู้ 6-7 วัน
- เกิดช่วงคนมีอายุมาก คนสุขสบาย
- มีคำสอนน้อย

------------------------------------------------------------------
ตัวเลขผมจำได้ไม่แน่นอนนะ ว่า 6-7 หรือ เพียงแค่ 7

************************************************

ขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงจาก "มีคำสอน" เป็น " หมวดหมู่ธรรมคำสอน " แทน

 

ผมอาจจะผิดหรือถูก
ที่เขียนไว้นั้นนั้น ผมคิดและพิจารณาเอาเอง
ไม่มีบอกไว้ในพระไตรปิฏก ว่า พระพุทธแบบใดสอนมากที่สุด

---------------------
ผมขออธิบายต่อ

ปัญญาธิกะพุทธเจ้า
- เกิดมาอยู่ในช่วงอายุคนน้อยๆ ตอนคนลำบากๆ
- มีจำนวณคำสอนธรรมมะมากที่สุด เพราะว่ามนุษย์มีช่วงอายุสั้น ต้องเรียนรู้ธรรมให้มากที่สุด

+++
อายุคน ของช่วงพระพุทธเจ้าปัญญาธิกะ 100 ปี อายุศาสนามี 5 พันปี
อายุคน ของช่วงพระพุทธเจ้าวิริยะธิกะ 4หมื่นปี (ผมจำได้ไม่แน่นอน)

++ พุทธศาสนา พระพุทธเจ้าปัญญาธิกะ คนมีอายุน้อย
ระยะเวลาการเรียนรู้เห็นความเป็นไปของโลกน้อย ประสบการณ์ทางโลกก็น้อย คนมีอายุสั้นไม่สามารถเรียนรู้ธรรมได้ด้วยตัวเองมากมาย
พระพุทธเจ้าจึงมีคำสอนมากๆ เพื่อให้คนได้เรียนรู้ได้มากๆ

ช่วงนี้โลกเจริญไม่มาก ความลำบากก็มาก เมื่อลำบากมาก
เห็นทุกข์ได้เร็ว
เมื่อช่วงคนอายุสั้นๆ เห็นคนเกิด แก่ เจ็บ ตาย หมุนเวียนกัน เห็นวงจรของชีวิตได้ง่าย

ช่วงในศาสนาของพระพุทธเจ้าปัญญาธิกะ คนในยุคนี้จะมีครบ มีทั้งคนดี คนเลว มารศาสนา คนมีบารมีมากและน้อยอยู่ผสมกัน มีหลายศาสนา
อะไรที่ผสมๆกันแบบนี้
พระพุทธเจ้าจึงมีคำสอนครบและหลากหลาย มีหมวดหมู่มากมาย
เพื่อรองรับหลายกลุ่มคนและธรรมใช้ได้กับหลายยุคและสถานการณ์

พระพุทธเจ้ายังต้องออกแบบสอนธรรมที่สามารถใช้ได้กลับกลุ่มคนรุ่นหลัง อีกประมาณ 50 ช่วงอายุคนถัดไป ในตอนที่พระพุทธเจ้าไปนิพพานแล้ว
คนแต่ละยุคก็มีค่านิยมต่างกันและการเปลี่ยนแปลงต่างๆมากมาย

การเผยแผ่พุทธศาสนาในของศาสนาแบบพระพุทธปัญญากะถือว่าไม่ใช่เรื่องง่าย มีตัวแปรต่างๆเยอะมาก

และในช่วงที่พระพุทธเจ้าไปนิพพานแล้ว บุคคลสำคัญต่างๆก็ลงมาจุติเยอะ
มาเพื่อสืบทอดและเผยแผ่คำสอนของพุทธศาสนาให้ครบ 5,000ปี

คำสอนของพระพุทธเจ้าจำเป็นต้องมีมากๆและมีหลากหลายหมวดหมู่

------------------------------------------
พุทธศาสนาของพระพุทธเจ้าวิริยะธิกะ อายุศาสนามี 8 พันปี
++ ช่วงคนมีอายุมาก 4 หมื่นปี

คนมีอายุมาก มีความรู้มากประสบการณ์ทางโลกมาก มีระยะเวลาการเรียนรู้โลกมาก คนและเทวดาอยากจะมาจุติกันมาก
ด้วยการบำเพ็ญที่นานยาวถึง 16 อสงไขย บริวารของพระพุทธเจ้ามากมาย
เป็นช่วงพุทธศาสนามีความพร้อมสูง ช่วงนี้คนที่จะลงมาเกิดได้ ต้องเป็นคนมีบุญบารมีมาก การสอนธรรมก็ไปได้ด้วยง่าย ไม่ต้องสอนมากก็บรรลุธรรมได้

เวลาพระพุทธเจ้า สอนหัวข้อธรรมกับคนที่มีบุญมาก สอนง่าย สอนหน่อยเดียวก็บรรลุธรรม เพราะว่าคนเขาสะสมบุญมานาน

กลุ่มคนบนโลกโดยมากจะเป็นคนมีบุญวาสนา คนเลวแทบไม่มี และไม่มีมารศาสนา

พระพุทธเจ้าเผยแผ่ธรรมด้วยตัวเอง 8 พันปี สอนคน 1 ช่วงอายุคน
ไม่ต้องออกแบบคำสอนให้คนมารับช่วงเผยแผ่พุทธศาสนาตอนพระพุทธองค์ไปนิพพาน
เมื่อไม่มีมารศาสนา และแทบไม่มีคนเลว และสอน1ช่วงอายุคน
หมวดของคำสอนที่จะรองรับ คนช่วงต่อไปก็ไม่ต้องมี การปราบมารก็ไม่มี

ความแตกต่างของกลุ่มคนมีไม่มาก
สอนคนกลุ่มใหญ่ที่คล้ายๆกัน หมวดหมู่ธรรมจึงไม่มากเท่ากับพระพุทธเจ้าแบบปัญญาธิกะ

************************

 

สรุปสั้น ๆ

1. ศาสนาแบบพระพุทธเจ้าปั__าธิกะ มีหมวดหมู่ธรรมมาก เพราะว่า มีกลุ่มสาวกที่หลากหลายกลุ่มและตัวแปรต่างๆมีมาก

2. ศาสนาแบบพระพุทธเจ้าวิริยะธิกะ มีหมวดหมู่ธรรมไม่มาก เพราะว่า สาวกที่บำเพ็_บารมีมากและเป็นกลุ่มให_่ที่คล้ายคลึงกัน

-----------------------
ถ้าจะนับแบบว่า ใครสอนมากกว่ากัน ถ้านับจากธรรมที่ออกจากพระโอรถ
พระพุทธเจ้าแบบวิริกะ สอนมากกว่า เพราะว่าระยะเวลาสอนถึงหลายพันปี และแบบพระพุทธเจ้าใช้เวลาสอนไม่กี่สิบปี

 

ผมมาขอแก้ ที่ผมเคยเขียนไว้

ปัญญาธิกะพุทธเจ้า = ใช้เวลาการตรัสรู้ 6-7 ปี

อันนี้ไม่จริงเสมอไป ผมเคยอ่านพบว่า ปัญญาธิกะพุทธเจ้า บางพระองค์ ใช้เวลาตรัสรู้ เพียง 6 เดือน
ตอนนี้ยังจำแหล่งที่เคยอ่านได้ ถ้าพบอีกครั้งจะเอามาโพสครับ
---------------------------------------------------------

ส่วนกรรมที่ทำให้พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันตรัสรู้ได้ช้า
ถ้าผมจำไม่ผิดนะ เคยฟังหลวงพ่อฤาษีลิงดำเทศว่า

เมื่ออดีตกาล
ตอนนั้นมีพระพุทธเจ้าอุบัติในโลก
เพื่อนและพระโพธิสัตว์อาบน้ำอยู่ในแม่น้ำ
เพื่อนพระโพธิสัตว์ชวนพระโพธิสัตว์ไปพบพระพุทธเจ้า แต่พระโพธิสัตว์ไม่อยากไปพบ กรรมนี้เลยทำให้พระโพธิสัตว์ตรัสรู้ได้ช้า

----------------------------------------------------------
ส่วนเรื่องอายุน้อย พระพุทธเจ้าปัญญาธิกะจะมาตรัส ตอนโลกที่ยุคคนมีอายุน้อยหรือ100 ปี ผมยังเชื่อเหมือนเดิม....
จนกว่าผมจะได้ไปอ่านพบว่าพระพุทธเจ้าปัญญาธิกะบางพระองค์ตรัสตอนช่วงคนอายุมากหลายพันปีหรือหมื่นปี

ที่ผมคิดคือ อาจจะเป็นคล้ายๆหลักสูตรของพระพุทธเจ้า
บำเพ็ญบารมีเท่านี้ xxx
แบบนี้ xxxx
จะได้ลงมาตรัสบนรู้โลกตอนคนอายุเท่านี้ xxxx

-------------------------------------------------------------

พระพุทธเจ้าสอนธรรมไม่เท่ากัน
แต่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือละกิเลศและนิพพาน
พระพุทธเจ้าทุกพระองค์สอนเหมือนกันคือ
1. ละชั่ว
2. ทำดี
3. ทำใจให้ผ่องใจ

พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน เผยแพร่ธรรม 45 ปี
พระศรีอารย์ เผยแผ่ธรรม 4,000-8000 ปี ผมจำไม่ค่อยได้

เวลาสาวก ไปถามอะไรพระพุทธเจ้า
เวลาพระองค์ตอบอะไรต่างๆที่ออกมาจากพระโอฐก็เป็นธรรมมะ
ถ้าลองคำนวณดูนะ 4,000 ปี นี่ธรรมจะมีมากขนาดไหน

พระพุทธศาสนาทุกยุค จะไม่มี 84,000 ธรรมขันต์ เหมือนกันทุกครั้ง
1 ธรรมขันต์คือ 1 หมวดธรรม

ในพระสุตันตปิฏก คือ ว่าด้วยเหตุการเรื่องราว และบุคคล
รวบรวมแล้วได้ 21,000 พระธรรมขันต์ นี่ คือ พระพุทธศาสนาของพระพพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ที่ใช้เวลาเผยแพร่พุทธ 45 ปี

ถ้าในพระศาสนาของ พระศรีอารย์ ที่เผยแผ่พุทธศาสนา 4,000ปี
ในพระสุตันตปิฏก คือ ว่าด้วยเหตุการเรื่องราว และบุคคล ผมเชื่อว่าจะมีมากกว่า 21,000 พระธรรมขันต์


การสอนพระธรรมความมากน้อย ตอนนี้ผมไม่มั่นใจว่า เกี่ยวกับแบบของพระพุทธเจ้าหรือไม่
-----------------------------------------------

พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมไม่เท่ากัน
ทรงแสดงธรรม มีมาก มีน้อยและไม่มี

อ้างอิงจาก ในพระไตรปิฎกและอรรถาแปล
http://www.palungjit.org/tripitaka/default.php?cat=100008





<TABLE style="BORDER-COLLAPSE: collapse" borderColor=#111111 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=644 border=0><TBODY><TR><TD width=560>
เหตุให้พระศาสนาดำรงอยู่ไม่นานและนาน


[๗] ครั้งนั้น ท่านพระสารีบุตรไปในที่สงัดหลีกเร้นอยู่ ได้มีความปริวิตกแห่งจิตเกิดขึ้นอย่างนี้ว่า พระศาสนาของพระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทั้งหลาย พระองค์ไหนไม่ดำรงอยู่นาน ของพระองค์ไหนดำรงอยู่นาน ดังนี้ครั้นเวลาสายัณห์ท่านออกจากที่เร้นแล้ว เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถวายบังคมนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้วกราบทูลว่า พระพุทธเจ้าข้า ข้าพระพุทธเจ้าไปในที่สงัดหลีกเร้นอยู่ ณ ตำบลนี้ ได้มีความปริวิตกแห่งจิตเกิดขึ้นอย่างนี้ว่า พระศาสนาของพระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทั้งหลาย พระองค์ไหน ไม่ดำรงอยู่นาน ของพระองค์ไหนดำรงอยู่นาน.

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า ดูก่อนสารีบุตร พระศาสนาของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามวิปัสสี พระนามสิขี และพระนามเวสสภู ไม่ดำรงอยู่นาน
ของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามกกุสันธะ พระนามโกนาคมนะ และพระนามกัสสปะดำรงอยู่นาน.


</PRE></TD><TD vAlign=top width=100>

หน้าที่ 12 ​

</TD></TR></TBODY></TABLE><!--</p>

<table width='90 %' border=0 cellpadding=0><tr><td> ภ. อย่าเลย โมคคัลลานะ การพลิกแผ่นดิน เธออย่าพอใจเลยสัตว์ทั้งหลายจะพึงได้รับผลตรงกันข้าม. ม. ขอประทานพระวโรกาส ขอภิกษุสงฆ์ทั้งหมดพึงไปบิณฑบาตในอุตรกุรุทวีป พระพุทธเจ้าข้า. ภ. ก็ภิกษุผู้ไม่มีฤทธิ์เล่า เธอจักทำอย่างไรแก่ภิกษุเหล่านั้น ม. ข้าพระพุทธเจ้าเจ้าจักทำให้ภิกษุทั้งหมดไปได้ พระพุทธเจ้าข้า. ภ. อย่าเลย โมคคัลลานะ การที่ภิกษุสงฆ์ทั้งหมดไปบิณฑบาตถึง อุตรกุรุทวีป เธออย่าพอใจเลย. เหตุให้พระศาสนาดำรงอยู่ไม่นานและนาน​

[๗] ครั้งนั้น ท่านพระสารีบุตรไปในที่สงัดหลีกเร้นอยู่ ได้มีความปริวิตกแห่งจิตเกิดขึ้นอย่างนี้ว่า พระศาสนาของพระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทั้งหลาย พระองค์ไหนไม่ดำรงอยู่นาน ของพระองค์ไหนดำรงอยู่นาน ดังนี้ครั้นเวลาสายัณห์ท่านออกจากที่เร้นแล้ว เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถวายบังคมนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้วกราบทูลว่า พระพุทธเจ้าข้า ข้าพระพุทธเจ้าไปในที่สงัดหลีกเร้นอยู่ ณ ตำบลนี้ ได้มีความปริวิตกแห่งจิตเกิดขึ้นอย่างนี้ว่า พระศาสนาของพระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทั้งหลาย พระองค์ไหน ไม่ดำรงอยู่นาน ของพระองค์ไหนดำรงอยู่นาน. พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า ดูก่อนสารีบุตร พระศาสนาของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามวิปัสสี พระนามสิขี และพระนามเวสสภู ไม่ดำรงอยู่นาน ของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามกกุสันธะ พระนามโกนาคมนะ และพระนามกัสสปะดำรงอยู่นาน.[คำวิจารณ์][โหวต] </td></tr><tr><td></td></tr><tr><td></td></tr></table>
<hr noshade color="#CCCCCC" align="right" width="60%" size="1"> -->


<CENTER><TABLE style="BORDER-COLLAPSE: collapse" borderColor=#111111 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=644 border=0><TBODY><TR><TD width=644 colSpan=2><HR color=#ebebeb noShade SIZE=1></TD></TR><TR><TD width=560>

ส. อะไรเป็นเหตุ อะไรเป็นปัจจัย ให้พระศาสนาของพระผู้มีพระ-ภาคเจ้าพระนามวิปัสสี พระนามสิขี และพระนามเวสสภู ไม่ดำรงอยู่นาน พระพุทธเจ้าข้า. ภ. ดูก่อนสารีบุตร พระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามวิปัสสี พระนามสิขีและพระนามเวสสภู ทรงท้อพระหฤทัยเพื่อจะทรงแสดงธรรมโดยพิสดารแก่ สาวกทั้งหลาย อนึ่ง สุตตะ เคยยะ เวยยากรณะ คาถา อุทาน อิติวุตตกะชาดก อัพภูตธรรม เวทัลละ ของพระผู้มีพระภาคเจ้าทั้งสามพระองค์นั้นมีน้อย สิขาบทก็มิได้ทรงบัญญัติ ปาฏิโมกข์ก็มิได้ทรงแสดงแก่สาวก เพราะอันตรธานแห่งพระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าเหล่านั้น เพราะอันตรธานแห่งสาวกผู้ตรัสรู้ตามพระพุทธเจ้าเหล่านั้น สาวกชั้นหลังที่ต่างชื่อกัน ต่างโคตรกัน ต่างชาติกันออกบวชจากตระกูลต่างกัน จึงยังพระศาสนานั้นให้อันตรธานโดยฉับพลันดูก่อนสารีบุตร ดอกไม้ต่างพรรณที่เขากอบไว้บนพื้นกระดาน ยังไม่ได้ร้อยด้วยด้าย ลมย่อมกระจาย ขจัด กำจัดซึ่งดอกไม้เหล่านั้นได้ ข้อนั้นเพราะเหตุอะไร เพราะเขาไม่ได้ร้อยด้วยด้าย ฉันใด เพราะอันตรธานแห่งพระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าเหล่านั้น เพราะอันตรธานแห่งสาวกผู้ตรัสรู้ตามพระพุทธเจ้าเหล่านั้น สาวกชั้นหลังที่ต่างชื่อกัน ต่างโคตรกัน ต่างชาติกัน ออกบวชจากตระกูลต่างกัน จึงยังพระศาสนานั้นให้อันตรธานโดยฉับพลันฉันนั้นเหมือนกันเพราะพระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าเหล่านั้น ทรงท้อพระหฤทัยเพื่อจะทรงกำหนดจิตของสาวกด้วยพระหฤทัย แล้วทรงสั่งสอนสาวก. ดูก่อนสารีบุตร เรื่องเคยมีมาแล้ว พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมา-สัมพุทธเจ้าพระนามเวสสภู ทรงกำหนดจิตภิกษุสงฆ์ด้วยพระหฤทัยแล้วทรงสั่งสอน พร่ำสอน ภิกษุสงฆ์ประมาณพันรูป ในไพรสณฑ์อันน่าพึงกลัวแห่ง


</PRE></TD><TD vAlign=top width=100>

หน้าที่ 13 ​

</TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER><!--</p>

<table width='90 %' border=0 cellpadding=0><tr><td> ส. อะไรเป็นเหตุ อะไรเป็นปัจจัย ให้พระศาสนาของพระผู้มีพระ-ภาคเจ้าพระนามวิปัสสี พระนามสิขี และพระนามเวสสภู ไม่ดำรงอยู่นาน พระพุทธเจ้าข้า. ภ. ดูก่อนสารีบุตร พระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามวิปัสสี พระนามสิขีและพระนามเวสสภู ทรงท้อพระหฤทัยเพื่อจะทรงแสดงธรรมโดยพิสดารแก่ สาวกทั้งหลาย อนึ่ง สุตตะ เคยยะ เวยยากรณะ คาถา อุทาน อิติวุตตกะชาดก อัพภูตธรรม เวทัลละ ของพระผู้มีพระภาคเจ้าทั้งสามพระองค์นั้นมีน้อยสิขาบทก็มิได้ทรงบัญญัติ ปาฏิโมกข์ก็มิได้ทรงแสดงแก่สาวก เพราะอันตรธานแห่งพระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าเหล่านั้น เพราะอันตรธานแห่งสาวกผู้ตรัสรู้ตามพระพุทธเจ้าเหล่านั้น สาวกชั้นหลังที่ต่างชื่อกัน ต่างโคตรกัน ต่างชาติกันออกบวชจากตระกูลต่างกัน จึงยังพระศาสนานั้นให้อันตรธานโดยฉับพลันดูก่อนสารีบุตร ดอกไม้ต่างพรรณที่เขากอบไว้บนพื้นกระดาน ยังไม่ได้ร้อยด้วยด้าย ลมย่อมกระจาย ขจัด กำจัดซึ่งดอกไม้เหล่านั้นได้ ข้อนั้นเพราะเหตุอะไร เพราะเขาไม่ได้ร้อยด้วยด้าย ฉันใด เพราะอันตรธานแห่งพระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าเหล่านั้น เพราะอันตรธานแห่งสาวกผู้ตรัสรู้ตามพระพุทธเจ้าเหล่านั้น สาวกชั้นหลังที่ต่างชื่อกัน ต่างโคตรกัน ต่างชาติกัน ออกบวชจากตระกูลต่างกัน จึงยังพระศาสนานั้นให้อันตรธานโดยฉับพลันฉันนั้นเหมือนกันเพราะพระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าเหล่านั้น ทรงท้อพระหฤทัยเพื่อจะทรงกำหนดจิตของสาวกด้วยพระหฤทัย แล้วทรงสั่งสอนสาวก. ดูก่อนสารีบุตร เรื่องเคยมีมาแล้ว พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมา-สัมพุทธเจ้าพระนามเวสสภู ทรงกำหนดจิตภิกษุสงฆ์ด้วยพระหฤทัยแล้วทรงสั่งสอน พร่ำสอน ภิกษุสงฆ์ประมาณพันรูป ในไพรสณฑ์อันน่าพึงกลัวแห่ง[คำวิจารณ์][โหวต] </td></tr><tr><td></td></tr><tr><td></td></tr></table>​

<hr noshade color="#CCCCCC" align="right" width="60%" size="1"> --><CENTER><TABLE style="BORDER-COLLAPSE: collapse" borderColor=#111111 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=644 border=0><TBODY><TR><TD width=644 colSpan=2><HR color=#ebebeb noShade SIZE=1></TD></TR><TR><TD width=560>

หนึ่งว่า พวกเธอจงตรึกอย่างนี้ อย่าได้ตรึกอย่างนั้น จงทำในใจอย่างนี้ อย่าได้ทำในใจอย่างนั้น จงละส่วนนี้ จงเข้าถึงส่วนนี้อยู่เถิด ดังนี้ ลำดับนั้นแลจิตของภิกษุประมาณพันรูปนั้น อันพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามเวสสภูทรงสั่งสอนอยู่อย่างนั้น ทรงพร่ำสอนอยู่อย่างนั้น ได้หลุดพ้นแล้วจากอาสวะทั้งหลาย เพราะไม่ถือมั่น ในเพราะความที่ไพรสณฑ์อันน่าพึงกลัวนั้นซิ เป็นถิ่นที่น่าสยดสยองจึงมีคำนี้ว่า ผู้ใดผู้หนึ่งซึ่งยังไม่ปราศจากราคะเข้าไปสู่ไพรสณฑ์นั้น โดยมากโลมชาติย่อมชูชัน. ดูก่อนสารีบุตร อันนี้แลเป็นเหตุ อันนี้แลเป็นปัจจัย ให้พระศาสนาของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามวิปัสสี พระนามสิขี และพระนามเวสสภูไม่ดำรงอยู่นาน.

ส. อะไรเป็นเหตุ อะไรเป็นปัจจัย ให้พระศาสนาของพระผู้มีพระ-ภาคเจ้า พระนามกกุสันธะ พระนามโกนาคมนะ และพระนามกัสสปะ ดำรงอยู่นาน พระพุทธเจ้าข้า.

ภ. ดูก่อนสารีบุตร พระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามกกุสันธะ พระนามโกนาคมนะ และพระนามกัสสปะ มิได้ทรงท้อพระหฤทัยเพื่อจะทรงแสดงธรรมโดยพิสดารแก่สาวกทั้งหลาย อนึ่ง สุตตะ เคยยะ เวยยากรณะ คาถา อุทานอิติวุตตกะ ชาดก อัพภูตธรรม เวทัลละ ของพระผู้มีพระภาคเจ้าทั้งสามพระองค์นั้นมีมาก สิขาบทก็ทรงบัญญัติ ปาติโมกข์ก็ทรงแสดงแก่สาวก เพราะอันตรธานแห่งพระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าเหล่านั้น เพราะอันตรธานแห่งสาวกผู้ตรัสรู้ตามพระพุทธเจ้าเหล่านั้น สาวกชั้นหลังที่ต่างชื่อกัน ต่างโคตรกันต่างชาติกัน ออกบวชจากตระกูลต่างกัน จึงดำรงพระศาสนานั้นไว้ได้ตลอดระยะกาลยืนนาน ดูก่อนสารีบุตร ดอกไม้ต่างพรรณที่เขากองไว้บนพื้นกระดาน




</PRE></TD><TD vAlign=top width=100>

หน้าที่ 14 ​

</TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>

 

ผมได้ไอเดียเพิ่มนะ

คิดว่า เราน่าจะหาสถิติของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์
มาลงในตารางและเราแยกแต่ละแบบไว้
แล้วก็ดูสถิติของพระพุทธเจ้าแต่ละแบบ

แล้วทำการสังเกตุผล ตรงนี้ทำให้ได้ความรู้ใหม่ๆขึ้นมา