10 สิ่งที่ไม่ควรกราบไหว้ในประเทศไทย

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย เหมยหลิน, 4 ธันวาคม 2010.

  1. เหมยหลิน

    เหมยหลิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +220
    10 สิ่งที่ไม่ควรกราบไหว้ในประเทศไทย


    อันดับ 10: ไข่นกกระจอกเทศ

    เรื่องมีอยู่ว่า...

    เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา ที่ อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงามีชาวประมงพบไข่ขนาดใหญ่ขนาดเท่าลูกมะพร้าว ซึ่งเจ้าของไข่เปิดเผยว่าขณะที่เขาตระเตรียมอวนตาข่ายเพื่อหาปลาได้สังเกตเห็นวัตถุสีขาวลักษณะกลมรีคล้ายไข่ไก่ แต่มีขนาดใหญ่ผิดปกติตั้งอยู่บนพื้นในพงหญ้า จึงเดินเข้าไปดูใกล้ๆพบว่าลักษณะภายนอกเปลือกแข็งเหมือนไข่ทั่วไป มีสีขาวครีม ส่งกลิ่นคาวซึ่งชาวบ้านบางคนคาดว่าสัตว์ที่เป็นเจ้าของคงจะตัวใหญ่มากและบริเวณที่พบมีน้ำลึกมาก อาจมีสัตว์น้ำขนาดใหญ่มาอาศัยอยู่ขณะเดียวกันบริเวณนั้นอยู่ห่างจากทะเลประมาณ 700 เมตรถือว่าไม่ไกลมากนักอาจมีสัตว์บางชนิดขึ้นมาจากทะเลแล้ววางไข่ก็เป็นได้จึงมีการจุดธูปกราบไหว้บูชาและใช้แป้งโรยไปที่ไข่(หมายถึงไข่ใบที่เก็บมาจากทะเล) แล้วใช้มือลูบหวังให้เห็นเลขเด็ด
    [​IMG]
    เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้...

    นางระวีวรรณ ยิ่งวรรณศิริ หัวหน้าปศุสัตว์ จ.พังงา เปิดเผยว่าไข่ที่พบน่าจะเป็นไข่ของนกกระจอกเทศโดยที่จังหวัดพังงามีฟาร์มนกกระจอกเทศอยู่ 2-3 แห่งลูกจ้างของเจ้าของฟาร์มอาจจะขโมยมาจากที่อื่น แล้วนำมาทิ้งไว้เพื่อจะนำไปปรุงรับประทาน เพราะไข่นกกระจอกเทศนั้นมีราคาแพงมาก ใบละ 100กว่าบาท แต่เพื่อมั่นใจว่าใช่หรือไม่ ใช่ ต้องนำไข่ไปพิสูจน์ในห้องแล็บแต่คงเป็นไปไม่ได้ เพราะจากการสอบถามเจ้าของไข่แล้ว ไม่ยอมให้นำไปพิสูจน์และขณะนี้พบว่าไข่เริ่มมีกลิ่นเหม็นเน่าแล้ว

    [​IMG]


    อันดับ 9: ต้นหว้า

    เรื่องมีอยู่ว่า...

    วันที่ 15 กุมภาพันธ์ ปีนี้ ที่ อำเภอชุมพวง จังหวัดนครราชสีมาชาวบ้านจำนวนมากแห่ไปมุ่งดูและกราบไหว้ต้นหว้าที่มีน้ำไหลออกมาอย่างขาดสายเจ้าของที่ดินกล่าวว่า ตนเองกำลังจะตัดต้นไม้ต้นดังกล่าวเพื่อต้องการไถดินเพื่อนำนาแต่หลังจากทำงานมาตลอดทั้งวันจึงได้หยุดพักโดยได้นั่งหลบแดดอยู่ใต้ต้นไม้ดังกล่าวซึ่งเป็นต้นหว้าแต่เมื่อนั่งไปได้ระยะหนึ่งรู้สึกว่ามีหยดน้ำไหลออกมาจากต้นไม้ดังกล่าวเป็นจำนวนมากจึงเริ่มเดินตรวจสอบบริเวณต้นไม้จึงพบว่ามีหยดน้ำที่ไหลลงมาจากต้นไม้และไม่ใช่หยดน้ำที่เกิดจากน้ำค้างอย่างแน่นอนและเมื่อข่าวแพร่สะพรัดออกไปชาวบ้านจำนวนมากต่างพากันมาดูพร้อมกับน้ำภาชนะมารองรับน้ำเพื่อนำกลับไปดื่มและอาบเพราะเชื่อว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์อีกทั้งชาวบ้านบางส่วนยังเชื่ออีกว่าน้ำที่หยดลงมานั้นเป็นหยดน้ำตาของต้นไม้ที่เสียใจว่าจะต้องถูกตัดทิ้งจึงได้ร้องไห้ออกมาอย่างไรก็ตามหลังจากนี้ไปตนเองคงจะไม่กล้าที่จะตัดต้นไม้ต้นนี้ทิ้งอย่างแน่นอนเนื่องจากชาวบ้านต่างมามุงดูและไม่ยอมให้ตนเองตัดทิ้ง
    [​IMG]
    เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้...

    ต้นไม้ดังกล่าวเป็นต้นหว้าที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติความสูงประมาณ 15 เมตรมีอายุราว 20 ปี ซึ่งต้นว่าเป็นต้นไม้ที่รับประทานผลได้ส่วนสาเหตุของเรื่องประหลาดที่มีน้ำหยดลงมานั้นจากการตรวจสอบพบว่าน้ำได้ไหลออกมาจากส่วนใบ ผ.ศ. ยงยุทธ์ จรรยารักษ์กล่าวว่านี่เป็นปรากฎการณ์ที่เกิดจากปัจจัยต่างๆ ที่เหมาะสม เช่น ความชื้นความกดอากาศ สภาวะแวดล้อม และ กระบวนการหาอาหารของต้นไม้ซึ่งในบางครั้งที่อากาศมีความชื้นสัมพันธ์สูงน้ำจะระเหยเป็นไอสู่บรรยากาศได้น้อยลง ทำให้การคายน้ำลดลงแต่แรงดันน้ำในต้นพืชยังสูงอยู่จึงสามารถพบหยดน้ำที่บริเวณกลุ่มรูเปิดที่ผิวใบซึ่งเรียกว่า ไฮดาโทด(hydathode) มักพบอยู่ใกล้ปลายใบหรือขอบใบตรงตำแหน่งของปลายท่อลำเลียงการคายน้ำในลักษณะนี้เรียกว่า กัตเตชัน (guttation)ทำให้พืชสามารถดูดน้ำทางรากเข้าไปใช้ได้ไม่ได้เกิดจากความเศร้าเสียใจของต้นไม้แต่อย่างใด
    [​IMG]



    อันดับ 8:ควาย

    เรื่องมีอยู่ว่า...

    บ่ายวันที่ 23 กันยายน 2550ได้มีชาวบ้านจากทั่วสารทิศในจ.ศรีสะเกษจำนวนมากนำดอกไม้ธูปเทียนมากราบไหว้ลูกควายประหลาดมีรูปร่างหน้าตาเหมือนคนถูกจัดวางให้อยู่ในสภาพนอนหงายแขนขากางออกจากกันลักษณะเหมือนกับท่าทางคนนอนหลับ เจ้าของลูกควายประหลาดเปิดเผยว่า มีควายอยู่ทั้งหมด 9 ตัว โดยแม่ของลูกควายประหลาดนี้เป็นตัวที่5 ได้ตกลูกออกมาเมื่อ มีลักษณะประหลาดท่าทางเหมือนคนทุกอย่าง ตั้งแต่ศีรษะปาก จมูกหู รวมทั้งขาทั้ง 4 ข้าง (เหมือนคนทุกอย่าง???)แต่ไม่มีอวัยวะแสดงลักษณะของเพศผู้หรือเพศเมียและลูกควายประหลาดได้เสียชีวิตทันทีตั้งแต่แรกตนกับสามีจึงได้นำซากควายประหลาดไปฝังดินไว้ในนาของตัวเองชาวบ้านบางส่วนได้นำน้ำปะพรมบนซากควายประหลาดและเอาแป้งทาตามร่างของซากลูกควายเพื่อขอหวยตามความเชื่อของตัวเองอย่างคึกคัก พร้อมนำเงินมาทำบุญใส่ในขันเงินและหยอดตู้ไม้ตามแต่ศรัทธา
    [​IMG]

    เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้...

    หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรมบ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่าอาตมาเห็นว่าการที่ชาวศรีสะเกษพากันแห่ไปกราบไหว้ซากลูกควายประหลาดนี้ถือว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคลที่สามารถจะทำได้แต่ว่าตามหลักธรรมคำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ได้บัญญัติไว้ว่าจะต้องให้พุทธศาสนิกชนไปกราบไหว้ซากสัตว์แต่อย่างใด
    [​IMG]


    อันดับ 7: เห็ดเขาเหม็น

    เรื่องมีอยู่ว่า...

    เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมามีชาวบ้านล่ำลือกันว่าพบเห็ดประหลาดโผล่ขึ้นมามีลักษณะคล้ายกับหนวดปลาหมึกสูงประมาณ 7-8 นิ้ว โผล่ชูหนวดขึ้นมาประมาณ 8-9หนวดแถมยังมีน้ำคล้ายน้ำเมือก เจ้าของเห็ดกล่าวว่าก่อนหน้านี้ตนก็ได้ฝันเห็นงูสีปีกแมงทับเขียวมรกตขนาดใหญ่ 3 ตัวในฝันนั้นบอกว่างูทั้ง 3ตัวเป็นผัวเมียและลูกได้มาเกี้ยวพันกันอยู่ในขื่อภายในบ้านของตนแต่ก็ไม่ได้ฝันอะไรต่อไปอีกจึงทำให้ตนสงสัยว่าจะเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งนี้หรือไม่เพื่อความสบายใจของประชาชนในละแวกนี้และผู้ที่พบเห็นตนจึงได้นำดอกไม้ธูปเทียนมาบูชาเพื่อให้สิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นเหตุที่ดีแก่ครอบครัวและชุมชน

    [​IMG]

    เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้...


    เช่นเดียวกับเห็ดมือผีที่โด่งดังเมื่อหลายปีก่อนเห็ดชนิดนี้อยู่ในกลุ่มของเห็ดเขาเหม็น (Stink Horn) เห็ดกลุ่มนี้มีลักษณะพิเศษคือจะส่งกลิ่นเหม็นเมื่อดอกเห็ดแก่เพื่อดึงดูดแมลงให้มาตอมซึ่งจะทำให้สปอร์ติดตัวไปกับแมลงเพื่อกระจายพันธุ์ยังที่อื่นได้เป็นเห็ดที่มีลักษณะแตกต่างไปจากราทั่วไป คือบางชนิดมีรูปร่างคล้ายการพนมมือไหว้ เช่น เห็ดในสกุล Pseudocolusหรือบางชนิดอาจมีลักษณะคล้ายเขาสัตว์

    [​IMG]




    อันดับ 6:ปลาจระเข้


    เรื่องมีอยู่ว่า...

    วันที่ 27 กุมภาพันธ์ปีที่แล้วชาวปทุมธานีพบกับปลาประหลาดที่ลำตัวมีเกล็ดสีดำเทาเงาคล้ายเกล็ดงูเห่ามีลิ้น 2 แฉก ลักษณะแฉกมนคล้ายรูปหัวใจ และมีกลิ่นคาวปลาเหม็นแรงกว่าปลาชนิดอื่นๆ มีความแปลกเหมือนมีลักษณะของอวัยวะในส่วนต่างๆของปลา งู จระเข้ รวมกัน ซึ่งเจ้าของปลาดังกล่าว เล่าว่าตนฝันแปลกๆฝันเห็นว่ามีผู้หญิงแก่เดินเข้ามาหาและจับมือตนไว้ จากนั้นเข้ามากอดเมื่อหญิงแก่คนนั้นกอดตนแล้วสภาพร่างกายของหญิงแก่ก็กลายสภาพเน่าเฟะเหม็นเหมือนศพ จากนั้นตนสะดุ้งตื่น ตอนเช้ามาจึงใส่บาตรทำบุญและจุดธูปไหว้ขอขมา ซึ่งชาวบ้านที่เข้ามาดูต่างพากันมาลูบที่ตัวปลามีบางคนมาขอเกล็ดไปไว้บูชาที่บ้านบ้าง จุดธูปไหว้บ้างวันนั้นทั้งวันตนไม่เป็นอันขายของเพราะต้องเดินเข้าออกไปมาหยิบปลาประหลาดให้ชาวบ้านที่แห่มาขอดู

    [​IMG]

    เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้...

    ดร.สมหญิง เปี่ยมสมบูรณ์ อธิบดีกรมประมง กล่าวว่าจากการตรวจสอบในเบื้องต้นทราบว่า ปลาที่พบคือ ปลาจระเข้หรือปลาอัลลิเกเตอร์ การ์ อาศัยอยู่มากในแถบรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกาสำหรับปลาชนิดนี้เป็นปลาที่กินเนื้อเป็นอาหารโดยส่วนมากถูกนำเข้ามาในประเทศไทย เพื่อเลี้ยงเป็นปลาสวยงามและเลี้ยงไว้ในบ่อตกปลาปลาในข่าวอาจจะมีผู้นำมาเลี้ยงเมื่อเกิดเบื่อก็นำมาปล่อยทิ้งหรืออาจจะหลุดออกมาในช่วงน้ำท่วม ซึ่งในปีพ.ศ.2545ทางกรมประมงประกาศห้ามนำเข้าปลาจระเข้ เนื่องจากเป็นปลากินเนื้ออาจทำลายระบบนิเวศของแหล่งน้ำ ด้วยการกินปลาพื้นเมืองที่มีขนาดเล็กกว่าจนทำให้ระบบนิเวศเกิดความเสียหายหรือปลาอาจสูญพันธุ์ได้

    [​IMG]


    อันดับ 5: ต้นบุก

    เรื่องมีอยู่ว่า...

    ในวันที่ 24 เมษายน 2550 ชาวบ้านเมืองพิจิตร ต่างมาชุมนุมกันหลังทราบข่าวว่าที่บ้านหลังดังกล่าวมีต้นไม้ประหลาดผุดขึ้นมาจากพื้นดินมีลักษณะคล้ายพานพุ่มที่จัดวางบนโต๊ะหมู่บูชา โดยต้นไม้ดังกล่าวสูงประมาณ25 เซนติเมตร เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 20 เซนติเมตรซึ่งหากมองจากทางด้านข้างจะเห็นคล้ายพานพุ่มแต่ถ้ามองจากด้านบนจะคล้ายใบโพธิ์เรียงล้อมรอบ ชาวบ้านที่เดินทางมาดูต้นไม้ประหลาดดังกล่าวต่างพากันจุดธูปเทียนกราบไหว้พร้อมทั้งบนบานขอให้มีโชคลาภเพราะลือกันว่าในงวดที่ผ่านมามีผู้ถูกรางวัลเลขท้ายสองตัวจากจำนวนก้านธูปที่คนนำมากราบไหว้กัน

    [​IMG]

    เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้...

    มันคือต้นบุก ซึ่งอยู่ในวงศ์เดียวกับต้นบอน (Araceae) เป็นไม้ล้มลุก ลำต้นอวบไม่มีแก่น สูง 3-6 ฟุต มีดอกสีม่วงเหมือนดอกหน้าวัว เป็นพืชท้องถิ่นของประเทศญี่ปุ่น จีน ไทย ฟิลิปปินส์ และอินโดจีน ในประเทศไทย คนไทยใช้เป็นอาหารกันมาช้านานแล้ว โดยใช้ต้นใบ และหัวบุกมาทำขนม เช่น ขนมบุกแกงบวชมันบุก แกงอีสาน (แกงลาว) ซึ่งการนำบุกมาทำอาหารจะแตกต่างกันในแต่ละภาค นอกจากประโยชน์ดังกล่าวแล้วบุกใช้เป็นไม้ประดับที่สวยงามโดยนักจัดสวนนิยมนำมาประดับตามใต้ร่มเงาของไม้ยืนต้นที่มีป่าโปร่งหรือจะนำมาใส่กระถางเป็นไม้ประดับ

    [​IMG]





    อันดับ 4: จิ้งจก

    เรื่องมีอยู่ว่า...

    ในเวลาราวๆ ตีสาม เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมาซึ่งตรงกับวันวิสาขบูชาที่บ้านหลังหนึ่งใน อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเจ้าของบ้านตื่นขึ้นมากลางดึกและจิ้งจกสีแดงตัวหนึ่งเกาะอยู่ในมุ้งซึ่งตอนแรกเจ้าของบ้านก็ไม่ได้สนใจอะไรและนอนหลับไปจนกระทั่งเช้าจิ้งจกสีแดงก็ยังเกาะอยู่ที่เดิมจึงอธิษฐานจิตบอกจิ้งจกตัวนั้นว่า "อยากอยู่ด้วยกันก็ได้"พร้อมทั้งยกมือไหว้แล้วเอื้อมมือไปจับจิ้งจกได้อย่างง่ายดายโดยมันไม่ได้คลานหลบหนีไปไหน และได้ไปนำเอาตู้ปลามาใส่เลี้ยงไว้พร้อมตั้งชื่อเจ้าจิ้งจกสีแดงว่า "ถุงเงินถุงทอง"โดยจิ้งจกตัวดังกล่าวมีสีแดงทั้งตัว ขนาดความยาวประมาณ 10 เซนติเมตรนอกจากนี้นิ้วเท้าทั้ง 4 ข้าง ยังแปลกประหลาดกว่าจิ้งจกทั่วไปซึ่งปกติจะมีนิ้วข้างละ 4 นิ้ว แต่จิ้งจกสีแดงดังกลาวมีนิ้วข้างละ 5 นิ้วเจ้าของบ้านจับใส่ไว้ในตู้ปลามีมุ้งลวดปิดคลุมไว้ซึ่งบริเวณแผ่นกระจกด้านนอกตู้ ได้มีชาวบ้านนำแผ่นทองคำเปลวมาปิดไว้บางรายนำผ้าแพร 3 สี และพวงมาลัยมาผูกไว้ที่หน้าตู้ประชาชนที่เดินทางไปดูจิ้งจกสีแดงต่างแสดง ความตื่นเต้นประหลาดใจบางคนก็พูดว่าเป็นมันเป็นจิ้งจก นปช.

    [​IMG]

    เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้...

    นายอรรถกร สุขทวี ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ปีกและสัตว์เลื้อยคลาน สวนสัตว์ดุสิตกล่าวว่ายังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าจิ้งจกดังกล่าวเป็นสายพันธุ์อะไรเนื่องจากยังไม่เห็นตัวจริง แต่เบื้องต้นจากลักษณะที่บอกคาดว่าอาจเป็นจิ้งจกสายพันธุ์ต่างประเทศที่มีผู้นำเข้ามาเลี้ยงแต่ยังไม่สามารถระบุชื่อพันธุ์ได้ชัดๆ เพราะไม่มีในเมืองไทย ทั้งนี้ปัจจุบันมีผู้นิยมนำสัตว์เลื้อยคลานจากต่างประเทศเข้ามาเลี้ยงเป็นจำนวนมาก- อย่างไรก็ดีทางผู้ชื่นชอบสัตว์เลื้อยคลานจากเว็บ siamreptileเชื่อว่าเป็นจิ้งจกบ้านหางอ้วนตัวเมียที่ตกถังสีมาและยังกล่าวไว้ว่าจิ้งจกดังกล่าวนั้นมี 5นิ้วอยู่แล้วไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดแต่อย่างใด
    [​IMG]


    อันดับ 3: เสาอาคาร

    เรื่องมีอยู่ว่า...

    เรื่องเล่ามีอยู่ว่า มีคนงานสาวชาวพม่าตกลงไปในแบบหล่อเสา ขนาดใหญ่แต่เพื่อนคนงานไม่รู้เลยเทปูนซีเมนต์ทับลงไป ทำให้ฝังร่างเหยื่อทั้งเป็นมารู้อีกครั้งก็ตอนแกะแบบเหล็กออกไปแล้วจึงเห็นเป็นรูปตัวคนปรากฏอยู่ในเสาวิศวกรคุมงานสั่งให้คนงานช่วยกันกะเทาะคอนกรีตเพื่อนำศพออกมาแต่เนื่องจากคอนกรีตหล่อเสาดังกล่าวมีความแข็งมากจึงนำศพออกมาได้เพียงบางส่วนจากนั้นวิศวกรจึงสั่งให้อัดซีเมนต์เข้าไปในรอยกะเทาะดังเดิมและฉาบปูนปิดทับแต่ก็ยังคงปรากฏเป็นรอยปะอยู่ที่เสาสองรอยซึ่งบริเวณตรงกลางเสาต้นดังกล่าวมีร่องรอยการฉาบปูนซีเมนต์ขนาดใหญ่ปิดทับอยู่ 2 จุดลักษณะคล้ายถูกเจาะเนื้อปูนเดิมออกแล้วมีการฉาบปูนใหม่ปิดทับผิดกับเสาต้นอื่นที่จะมีลักษณะของเนื้อปูนที่ราบเรียบสม่ำเสมอเป็นเนื้อเดียวกัน โดยบริเวณรอยฉาบปูนมีคราบแป้งคล้ายมีคนมาถูหาตัวเลขและมีแผ่นทองคำเปลวมาติดที่ต้นเสาเพื่อขอหวยนอกจากนี้ยังมีผู้นำสายสร้อยลูกปัดมาแขวนไว้คล้ายเป็นเครื่องเซ่นไหว้สักการะ

    [​IMG]

    เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้...

    ทางรายการเรื่องจริงผ่านจอได้ติดต่อไปทางวิศวกรผู้สร้างอาคารดังกล่าวและได้คำอธิบายว่าโครงสร้างของเสาที่อาคารหลังนั้นเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กเป็นเสาขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 60 เซนติเมตรซึ่งภายในเสาจะเสริมด้วยเหล็กเสริมขนาด 28 มิลลิเมตรมัดรวมกัน จำนวน 60เส้น ซึ่งรอยปูนนั้นเกิดจากการไหลเวียนขอวงน้ำปูนขณะเทคอนกรีดบางช่วงน้ำปูนไหลไม่สะดวกซึ่งเกิดจาการติดเหล็กเส้นจำนวนมากทำให้เกิดรอยดังกล่าว และในขณะทำการหล่อเสานั้นจะมีการตรวจสอบที่ละเอียดอย่างต่อเนื่องทั้งก่อนการเทคอนกรีต ขณะเทคอนกรีต และหลังการเทคอนกรีตถ้ามีสิ่งแปลกปลอมใดๆเช่นเศษลวดหรือเศษไม้ทางผู้ตรวจสอบจะไม่อนุมัติให้เทปูนจึงยากที่จะมีวัสดุแปลกปลอมหลุดเข้าไปได้ นอกจากนี้แล้วจำนวนเหล็กเสริมที่ผูกเรียงกันข้างในนั้นทำให้มีพื้นที่ภายในเสาเพียง 35เซนติเมตร ซึ่งแคบกว่าคนจะเข้าไปได้นอกจากนี้แล้วอาจารย์ภาควิศวกรรมโยธาแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้นำเอาเครื่อง Ultra Sonic ไปตรวจสอบ และไม่พบว่ามีสิ่งแปลกปลอมใดๆอยู่ในเสาต้นนั้นอย่างที่ข่าวลือกล่าวไว้เลย
    [​IMG]


    อันดับ 2: แผ่นเจลลดไข้

    เรื่องมีอยู่ว่า...

    เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2549 เกิดพายุฝนตกฟ้าคะนองอย่างรุนแรงที่อำเภอลานสักจังหวัดอุทัยทานี และปรากฎวัตถุเรืองแสงคล้ายผีพุ่งไต้หล่นลงมาจากฟากฟ้าเมื่อพายุสงบลงเจ้าของบ้านหลังหนึ่งได้พบสิ่งมีชีวิตประหลาดมีลักษณะคล้ายตัวหนอนเป็นปล้อง สีขาวเป็นวุ้น ข้างในลำตัวมีลักษณะสีขาวขุ่นคล้ายเป็นแกนน้ำแข็ง มีจุดเล็ก ๆ 2 จุดคล้ายตาและมีติ่งยื่นออกมาคล้ายใบหูมีขนาดเท่าฝ่ามือ ซึ่งพอจับจะหดตัว แต่พอใส่ในขวดโหลตัวจะพองใหญ่ขึ้นเจ้าของบ้านหลังนั้นจึงนำธูป หมากพลูและดอกไม้มาบูชาเชื่อว่าหากใครมีในครอบครอง 7 อัน (เช่นเดียวกับดราก้อนบอล)จะทำให้เจริญรุ่งเรือง สามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้มากไปกว่านั้นยังนำเอาเนื้อเยื่อที่หลุดลุ่ยไปคลุกเคล้ากับข้าวกินกันในครอบครัวอีกด้วย ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวมีประชาชนเดินทางไปดูเป็นจำนวนมากทั้งนี้ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ฟ้าประทานมาให้ก่อนจะลงมือจุดธูปเทียนขอเลขเด็ดไปเเทงหวย เลขที่ได้รับความสนใจคือ 115เเละ 17 โดยตัวเเรกเป็นเลขที่บ้าน ส่วน 17เป็นจำนวนปล่องที่นับได้จากตัวหนอน

    [​IMG]

    เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้...

    จากข้อมูลที่ได้มาตามเว็บบอร์ดต่างๆว่าแท้จริงแล้วหนอนที่ตกมาจากฟ้านั้นนั้นเป็นเพียงเจลลดไข้ที่อมน้ำไว้ดร.นำชัย ชีววิวรรธน์ นักวิทยาศาสตร์จากศูนย์พันธุวิศวกรรมฯจึงได้ทดสอบนำหนอนประหลาดที่ส่งมาจากชาวบ้านมาเปรียบเทียบกับแผ่นเจลลดไข้ที่แช่น้ำไว้ พบว่าวัตถุทั้ง 2 ชิ้นมีลักษณะเหมือนกันทุกประการและหลังจากข่าวได้เผยแพร่ออกไปแผ่นเจลลดไข้ก็ถึงกับขาดตลาดเนื่องจากผู้คนแห่กันไปซื้อมาเล่นโดยมีการนำเอาเอาแผ่นเจลมาย้อมสีและทำการตกแต่งประดับไปด้วยวัสดุต่างๆเป็นที่สนุกสนานกัน
    [​IMG]


    อันดับ 1: น้ำท่อส้วม

    เรื่องมีอยู่ว่า...

    เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2550 ชาวบ้าน อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่และหมู่บ้านใกล้เคียงนับพันคนแห่มาดูสิ่งประหลาดในรั้วของบ้านหลังหนึ่งที่มีน้ำผุดขึ้นจากดินไหลนองไปทั่วบริเวณ โดยชาวบ้านเชื่อว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประทานมาให้กับประชาชนที่ยากจนได้ใช้น้ำดังกล่าวไปรักษาโรคภัยไข้เจ็บ และเป็นสิริมงคล เจ้าของพื้นที่ที่น้ำผุดขึ้นมา กล่าวว่าเห็นสนามหน้าบ้านผิดสังเกตตั้งแต่ในช่วงเช้าเมื่อตรวจสอบพบว่ามีน้ำซึมออกมาจากดิน เมื่อลองเอานิ้วเขี่ยดูน้ำยิ่งออกมากขึ้น จึงได้บอกให้ชาวบ้านมาดู ซึ่งคืนก่อนเกิดเหตุตนได้ฝันเห็นยายซึ่งเสียชีวิตไปแล้วมาเข้าฝันบอกว่าไม่สบายอยากได้ยาพาราเซตามอล เมื่อตนเดินไปหยิบยามาให้ยายก็หายไปแล้วยายอาจมาเข้าฝันบอกเรื่องยารักษาโรคในขณะตอนเช้าน้ำก็ผุดขึ้นมาทำให้นึกถึงฝันดังกล่าวและเชื่อว่าเป็นยารักษาโรคจึงได้เอาธูปเทียนดอกไม้มาบูชา และขอน้ำไปเก็บไว้เพราะเชื่อว่ารักษาโรคได้ชาวบ้านบางคนกล่าวว่าเข้าคิวรอตักน้ำตั้งแต่ทราบข่าวในตอนเช้ากว่าจะได้ตักน้ำก็เกือบเที่ยงโดยนำธูปเทียน-เงินถวายจำนวน 20 บาท วางใส่ในถาดดอกไม้คงเป็นบุญของชาวบ้านที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์เห็นใจชาวบ้านที่อยู่ในสภาวะข้าวยากหมากแพง จึงประทานน้ำศักดิ์สิทธิ์มาให้รักษาโรคคนยากคนจนโดยชาวบ้านต่างรุมล้อมเพื่อขอตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ไปบ้านในขณะที่น้ำใต้ดินก็ผุดขึ้นมาตลอดเวลาชาวบ้านที่นั่งรอน้ำผุดขึ้นมามีทั้งน้ำและฟองอากาศเมื่อชาวบ้านร้องขอให้แสดงปาฏิหาริย์ให้ผุดฟองอากาศบ่อน้ำขนาดเล็กก็สำแดงให้เห็นทันที

    [​IMG]

    เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้...


    เมื่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจากโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุเพื่อเก็บตัวอย่างน้ำ ในขณะที่จะเข้าไปตักน้ำปรากฏว่าน้ำที่ไหลออกมาอย่างรุนแรงหยุดทันทีและยุบตัวจนพื้นดินแห้งซึ่งหลังจากนั้นประมาณ 20 นาที น้ำก็ผุดขึ้นมาอีกทำให้ชาวบ้านเชื่อว่าแพทย์ที่ไปเก็บตัวอย่างน้ำสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่พอใจเมื่อไหลออกมาอีก นายสุรินทร์ นิภาโยธิน กำนันตำบลแม่จั๊วะได้นำลูกบ้านขุดหาที่มาของน้ำศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าวก็พบท่อเก่าเป็นท่อพีวีซีขนาด 6 หุน ซึ่งมีน้ำไหลออกมาเมื่อขุดตรวจสอบไปอีกจึงพบว่าเป็นท่อจากส้วมเก่าบ้านติดกันห่างจากจุดเกิดเหตุเพียง 4เมตรเท่านั้น ซึ่งกำลังมีการสร้างส้วมและกำลังทำการเปลี่ยนปั๊มน้ำเพื่อสูบน้ำเข้าไปในส้วมเมื่อชาวบ้านทราบว่าน้ำดังกล่าวมาจากท่อในส้วมเก่าหลายคนที่ดื่มน้ำศักดิ์สิทธิ์เข้าไปแล้วถึงกับอาเจียนออกมาทันที
    [​IMG]

    อ่านต่อ : #'____10
     
  2. ยิ้มให้กับทุกวัน

    ยิ้มให้กับทุกวัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    176
    ค่าพลัง:
    +183
    อันดับ 1 นี่ได้ใจมาก ๆ เลยค่ะ
     
  3. emaN resU

    emaN resU เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    2,944
    ค่าพลัง:
    +3,294
    อันดับ 1: น้ำท่อส้วม

    อืมมม์... แล้วมีรายงานของผู้ป่วยที่ดื่มน้ำส้วมผุดศักสิทธิ์แล้วหายจากอาการป่วยบ้างมั๊ยอ่ะครับ

    ดีนะที่พิสูจน์กันก่อนที่จะนำไปบรรจุขวดขาย
    ตอนนำไปขอ อย. คงส่งกลิ่นแห่งความศักสิทธิ์กันคละคลุ้งน่าดูดม
     
  4. Kama-Manas

    Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    5,351
    ค่าพลัง:
    +6,491
    ความเห็นตลกได้ใจ ขำจริงๆ
     
  5. คิดดีจัง

    คิดดีจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,626
    ค่าพลัง:
    +5,353
    ความเชื่อไม่จำเป็นต้องมีเหตุผล

    คือ...ถ้ากูจะเชื่อสะอย่างใครจะว่ายั่งงัยก็ชั่ง

    ผู้มีปัญญา ย่อมพิจารณาเหตุแห่งการควรเชื่อ
     
  6. rossalen

    rossalen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    188
    ค่าพลัง:
    +323
    อันดับ1 ฮ่าๆๆๆๆ เอิ๊กๆๆๆๆ ;ปรบมือ
     
  7. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    แปลกมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ..............
     
  8. noppo

    noppo สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +0
    หุหุหุ..................
     
  9. สาวปีใหม่

    สาวปีใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    1,004
    ค่าพลัง:
    +2,368
    [​IMG]

    อืมมม .............. ไม่ควรเลยจริงๆครับผม

    [​IMG]
     
  10. rossalen

    rossalen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    188
    ค่าพลัง:
    +323
    จะเศร้าหรือว่าจะขำดีคะ อันดับ1 เนี่ยะ 5555
     
  11. ๖T8๙

    ๖T8๙ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    251
    ค่าพลัง:
    +302
    อันดับหนึ่ง เนี่ย
    แถวบ้านเรียก "งมงาย" นะเออ~
     
  12. minkbbk1993

    minkbbk1993 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +0
    อันดับหนึ่งนี่...มีจุลินทรีย์ แลกโทบาซีลัส รึเปล่า?

    น่าคิดๆ...สงสัยต้องเอาจากห้องน้ำบ้านเรานี่แหละมาชิม

    เหอะๆ
     
  13. นมสดปั่น

    นมสดปั่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    508
    ค่าพลัง:
    +1,623
    มิน่าประเทศไม่เจริญซักที เ็ห็นอะไรแปลกๆก็จุดธูปไหว้
    ไหว้น้ำส้วมแล้วยิ่งไปกันใหญ่ เฮ้อ
     
  14. namotussa

    namotussa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    341
    ค่าพลัง:
    +1,470
    อันดับ 1 เช่นกันครับ น้ำท่อส้วม อย่าคิดมากเลยนะครับ คนไทยขึ้นชื่อว่าหลงเชื่อได้โดยง่าย ดูอย่าง แชร์แม่ชม้อย แชร์แม่นกแก้ว สารพัดที่คนไทยถูกหลอกลวง แม้แต่ระดับชาติอย่างเลห์แมนบราเดอร์ที่เข้ามาเป็นทั้งผู้ประมูล และที่ปรึกษา ของโครงการ ปรส. จาก 850,000 ล้านบาท ประมูลไปเพียง 190,000 ล้านบาท สวาปามเงินจากประเทศไทยไปมากหลาย แล้วในที่สุดเลห์แมนบราเดอร์ก็ล้มละลายชดใช้กรรมกันไป ขอจงเจริญในธรรมของพระพุทธเจ้ากันเถิดในเรื่องเกี่ยวกับความเชื่อ กาลามสูตร กาลามสูตรเป็นหลักแห่งความเชื่อที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ให้แก่พุทธศาสนิกชน ไม่ให้เชื่อสิ่งใด ๆ อย่างงมงายโดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นจริงถึงคุณโทษหรือดีไม่ดีก่อนเชื่อ มีอยู่ 10 ประการ ได้แก่
    1. อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ฟังๆ กันมา
    2. อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ทำต่อๆ กันมา
    3. อย่าเพิ่งเชื่อตามคำเล่าลือ
    4. อย่าเพิ่งเชื่อโดยอ้างตำรา
    5. อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกเดา
    6. อย่าเพิ่งเชื่อโดยคาดคะเนเอา
    7. อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกคิดตามแนวเหตุผล
    8. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะถูกกับทฤษฎีของตน
    9. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะมีรูปลักษณ์ที่ควรเชื่อได้
    10. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะผู้พูดเป็นครูบาอาจารย์ของตน
     
  15. namotussa

    namotussa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    341
    ค่าพลัง:
    +1,470
    อันดับ 1 เช่นกันครับ น้ำท่อส้วม อย่าคิดมากเลยนะครับ คนไทยขึ้นชื่อว่าหลงเชื่อได้โดยง่าย ดูอย่าง แชร์แม่ชม้อย แชร์แม่นกแก้ว สารพัดที่คนไทยถูกหลอกลวง แม้แต่ระดับชาติอย่างเลห์แมนบราเดอร์ที่เข้ามาเป็นทั้งผู้ประมูล และที่ปรึกษา ของโครงการ ปรส. จาก 850,000 ล้านบาท ประมูลไปเพียง 190,000 ล้านบาท สวาปามเงินจากประเทศไทยไปมากหลาย แล้วในที่สุดเลห์แมนบราเดอร์ก็ล้มละลายชดใช้กรรมกันไป ขอจงเจริญในธรรมของพระพุทธเจ้ากันเถิดในเรื่องเกี่ยวกับความเชื่อ กาลามสูตร กาลามสูตรเป็นหลักแห่งความเชื่อที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ให้แก่พุทธศาสนิกชน ไม่ให้เชื่อสิ่งใด ๆ อย่างงมงายโดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นจริงถึงคุณโทษหรือดีไม่ดีก่อนเชื่อ มีอยู่ 10 ประการ ได้แก่
    1. อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ฟังๆ กันมา
    2. อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ทำต่อๆ กันมา
    3. อย่าเพิ่งเชื่อตามคำเล่าลือ
    4. อย่าเพิ่งเชื่อโดยอ้างตำรา
    5. อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกเดา
    6. อย่าเพิ่งเชื่อโดยคาดคะเนเอา
    7. อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกคิดตามแนวเหตุผล
    8. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะถูกกับทฤษฎีของตน
    9. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะมีรูปลักษณ์ที่ควรเชื่อได้
    10. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะผู้พูดเป็นครูบาอาจารย์ของตน
     
  16. YUT_KOP

    YUT_KOP เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,033
    กว่านักข่าวจะลง กว่าเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบ

    คนแถวนั้นคงอิ่มน้ำ ทิพย์ ไปนานแล้วว

    ทั้งล้างหน้า แปรงฟัน อาบน้ำ กิน ยิ่งพูด ยิ่งขนลุก
     
  17. rossalen

    rossalen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    188
    ค่าพลัง:
    +323
    อันดับหนึ่ง ขำอย่างเดียวจ้าาาาาา 55555
     
  18. อธิมุตโต

    อธิมุตโต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    4,741
    ค่าพลัง:
    +13,087
    ประเทศไทยมีอย่างนี้มานานแล้ว โยม ครับ
     
  19. Mr.Boy_jakkrit

    Mr.Boy_jakkrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    2,063
    ค่าพลัง:
    +2,676
    ทำตามๆกันอย่างไม่ลืมหูลืมตาเอาเสียเลย มีให้เห็นทุกที่ พระพุทธองค์ท่านก็เคยแสดงธรรมกับคนที่ลุ่มหลงกับความเชื่อผิดๆมาหลายต่อหลายหน อย่างเช่นคนที่อาบน้ำที่แม่น้ำคงคาในประเทศอินเดียสมัยพุทธกาล

    ความเชื่อ และความจริง เป็นสิ่งที่มนุษย์ควรให้ความสำคัญและแยกแยะให้เป็น

    อนุโมทนาครับ
     
  20. mosmosba

    mosmosba เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +106
    ฮา อัน 1 คนไทยหนอ คนไทย อยากเป็น อัมตะ ขนาดนั่นกันเลยหรอ กินน้ำหมักป้าเชง ยังจะดีกว่าอีก อิอิ


    อันที่2 นี้ก็ดัง กำลังเป็นหนังเลย ใช้ไหมเนีย อิอิ
     

แชร์หน้านี้

Loading...