เผาตัวเองเป็นพุทธบูชา

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย tamsak, 26 ธันวาคม 2010.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,171
    [​IMG]
    [​IMG]


    ถาม : เรื่องของ นายนก นายเรือง สมัยต้นรัตนโกสินทร์..?

    ตอบ : นั่นเขาพุทธภูมิของแท้เลย เขาใช้ ดอกบัวอ่อน และเสี่ยงอธิษฐานเลยว่า "ถ้าหากว่าความปรารถนาในพระโพธิญาณจะสำเร็จจริง ก็ขอให้ดอกบัวนี้บาน"

    แล้วดอกบัวของท่านบานจริงๆ ดอกบัวตูมๆ เพิ่งจะเก็บไม่่น่าจะบานได้ ก็เลย ตั้งใจเผาตัวเองเป็นพุทธบูชา ชาวบ้านผ่านไปผ่านมาทราบเจตนาเข้าก็ช่วยกันเผา คือ ขอบุญด้วย คนผ่านไปผ่านมาถอดเสื้อผ้าบ้าง มีข้าวของอะไรบ้าง ก็โยนไปเผาร่วมกัน

    กำลังใจระดับนั้นหายาก ถ้าหากว่าไม่ใช่ ทรงสมาบัติ จริงๆ เขาเผาขนาดนั้นก็ดิ้นพราดเท่านั้น แต่ว่าท่านนั่งขัดสมาธินิ่งอยู่ในกองไฟ

    ลักษณะเข้าสมาธิให้เขาเผาอีกองค์หนึ่งก็ พระเจ้าอโศกมหาราช เมื่อท่านสร้างพระเจดีย์ ๘๔,๐๐๐ องค์ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุเป็นพุทธบูชาเสร็จแล้ว แต่ยังไม่เต็มกำลังใจ

    ท่านเอาตัวเองเป็นไส้เทียน ใช้สำลีชุบน้ำมันพันตัวเอง ตั้งใจว่าเราจะจุดไฟนี้เพื่อเป็นพุทธบูชา แล้วก็ให้คนจุดไฟ

    ตัวท่านเองตั้งสมาธิเพ่งมองเจดีย์ ตั้งใจว่าสิ่งที่เราทำนี่ตั้งใจจะถวายเป็น พุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา ไฟไหม้อยู่ ๗ วันกว่าเชื้อจะหมด แต่ท่านไม่เป็นอะไรเลย เพราะว่ากำลังใจที่เกาะพระพุทธเจ้ามั่นคง พุทธานุภาพก็เลยรักษาได้



    สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนกุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๔๔



    ที่มา : http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=2351



    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 ธันวาคม 2010
  2. j.chaisat

    j.chaisat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    299
    ค่าพลัง:
    +842
    ลูกขออนุโมทนา สาธุ กับผู้แน่วแน่ ใจท่านหาใดเปรียบ
    อันตัวข้าพเจ้ากลายเป็นเศษของเศษดินเลย ไม่หาญเปรียบ
     
  3. วสันตฤดู

    วสันตฤดู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,321
    ค่าพลัง:
    +8,714
    อนุโมทนาค่ะ เเต่การเผาตนเองไม่ถือเป็นการฆ่าตัวตายเหรอคะ ถึงเเม้จะเป็นผู้ได้สมาธิเเต่การถวายเป็นพุทธบูชาสามารถทำได้หลายอย่างในสมัยปัจจุบัน เช่น สวดมนต์ สร้างพระพุทธรูป ถ้าจะจุดตนเองเป็นประทีปจุดสมัยพระพุทธเจ้าทรงพระชนม์ชีพน่าจะมีผลเเน่นอนกว่าค่ะ
     
  4. ปราชญ์ขยะ

    ปราชญ์ขยะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +256
    มองอีกมุมหนึ่ง ในหน้าประวัติศาสตร์ กรณีการเผาตัวบูชาพระพุทธนะครับ

    [​IMG]

    ความยุ่งยากของพระสงฆ์ในแผ่นดินของสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว



    วัดพุทธศาสนาในสมัยก่อนนั้นมีประโยชน์หลายอย่างเป็นที่ประกอบการศาสนาสำหรับพุทธศาสนิกชนทั่วไป เป็นโรงเรียนสอนหนังสือ เป็นโรงพยาบาลสำหรับผู้ที่เจ็บไข้ได้ป่วยและยังทำหน้าที่เป็นสถานสังคมสงเคราะห์ให้แก่ผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากอีกด้วย เพราะเหตุนั้นจึงมีบทบาทสำคัญในระบบสังคมของกรุงสยามโบราณอย่างยิ่ง แต่เมื่อมีคนมาบวชอาศัยเป็นภิกษุมาก ก็เป็นธรรมดาที่จะต้องมีพระกำมะลอปะปนกับพระจริง และมีพระเขลารวมอยู่กับพระฉลาด ภิกษุที่ประพฤติตนอยู่ในวินัยที่ดีนั้น ก็ไม่เป็นปัญหาอะไร แต่นักบวชที่ถือธรรมแบบครึ่งๆ กลางๆ มีความรู้ขนาดครึ่งสุกครึ่งดิบ ก็ก่อความยุงยากให้เกิดขึ้นได้ โดยเทศนาสั่งสอนแบบผิดๆ ถูกๆ ทำให้ชาวบ้านไม่มีความเข้าใจพุทธศาสนาอย่างลึกซึ้งและปฏิบัติตนอย่างผิดพลาดไปได้



    พระภิกษุบางรูปสอนศาสนาด้วยความรุนแรง จนทำให้คนคลั่ง สติเสียเป็นบ้า เริ่มนิยมฆ่าตัวตายถวายสวรรค์ ราวกับเป็นศาสนาแขกไป บางคนก็เผาตนเอง บ้างก็เชือดเนื้อให้เลือดไหลใส่ลงในพานบูชา ที่บ้ากว่านั้นก็ยอมตัดศีรษะยกเป็นเครื่องสักการะเสียเลย การกระทำเหล่านี้ไม่ถูกต้องหลักธรรมแม้แต่น้อย แต่ผู้ที่โง่งมงายก็หลงปฏิบัติกันมากมาย จนข่าวมาถึงพระกรรณของสมเด็จพระจอมเกล้าฯ จึงทรงประกาศสั่งสอนราษฎรทั้งหลายว่า



    “ว่าธรรมเนียมผู้ครองแผ่นดินที่เปนยุติธรรม มิได้ห้ามราษฎรทั้งปวงในการถือสาสนาเปนที่พึ่งของตัว ในเวลาที่สุดแลกาลเบื้องหน้า ทรงอนุญาตยอมให้คนถือสาสนาตามอัธยาศัย ด้วยว่าการถือสาสนา ลางสิ่งก็ถูกต้องกัน เหมือนอย่างไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ ไม่ล่วงเกินในการเมถุนสังวาสทำชู้ภรรยาของผู้อื่น แลไม่เจรจาคำเท็จ แลไม่เสพสุรา แลอดความโกรธ มีเมตตากรุณาต่อกัน แลซื่อสัตย์กตัญญูกัตเวที แลให้ปันสิ่งของ เฉลี่ยความสุขแก่กัน แลทำความดีอื่นๆ ซึ่งเปนคุณประโยชน์แก่กัน ก็มีอีกหลายอย่าง คนทุกชาติ ทุกภาษา ทุกสาสนา ก็เห็นพร้อมกันว่า เปนความดีความชอบ เปนยุติธรรม”



    ท่านผู้อ่านจะเห็นว่า สมเด็จพระจอมเกล้าฯ ทรงเริ่มต้นสอนโดยเอ่ยถึงข้อดีในศาสนา เช่นการถือศีลห้า ไม่ฆ่า ไม่ขโมย ไม่คบชู้ ไม่โกหก หรือเมาเหล้า พร้อมทั้งการดำรงไว้ซึ่งความซื่อสัตย์ กตัญญูกตเวที มีความเมตตากรุณาและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกัน สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นข้อปฏิบัติที่ดีและสมควรในพุทธศาสนา หลังจากนั้นก็ทรงเอ่ยถึงการปฏิบัติแบบผิดๆ บ้าง



    “ก็การลางสิ่งซึ่งเปนการขัดต่อการแผ่นดินบ้านเมือง ถึงคนบางจำพวกที่เปนคนใกล้จะเสียจริต นับถือว่าใครทำได้เปนคนดีมีศรัทธาแก่กล้า จนเห็นว่าเปนบุญกุศลมาก ด้วยได้ฟังคำเล่าลือ แลได้ฟังพระสงฆ์บางรูป ที่ไม่ได้เล่าเรียนศึกษาพระไตรปิฎกธรรมให้รู้จริง มาเทศนาเลอะๆ ลามๆ ใกล้จะเสียจริตพรรณนาสรรเสริญว่า เปนบุญเปนกุศลมาก แล้วหลงใหลเห็นตามไปเหมือนอย่างเผาตัวบูชาพระรัตนตรัย แลเชือดคอเอาศีร์ษะบูชาพระ เชือดเนื้อรองเลือดใส่ตะเกียงตามบูชา แลทำการอื่นที่ขัดต่อราชการแผ่นดินก็ดีมีโดยชุกชุม เหมือนอย่างสามเณรสุกเผาตัวที่วัดหงสาราม แลนายเรือนายนกเผาตัวบูชาพระที่หน้าพระอุโบสถวัดอรุณราชวราราม แลนางชีผู้หนึ่งเผาตัวบูชาพระพุทธบาท เปนตัวอย่างเห็นอยู่ทั่วกันดังนี้ ผู้ครองแผ่นดินที่เปนธรรม แลท่านเปนคนฉลาดทั้งปวง ไม่เห็นว่าเปนความดีความชอบด้วยเลยแต่สักสาสนาหนึ่ง ก็การเผาตัวบูชาพระก็ดี เชือดเนื้อรองโลหิตใส่ตะเกียงตามบูชาพระก็ดี ตัดศีร์ษะบูชาพระก็ดี เห็นว่าไม่ใช่ทางของคนฉลาด เปนหนทางของคนเสียจริต ไม่ควรที่คนทั้งปวงจะเห็นว่า เปนการบุญการกุศลในพระพุทธศาสนา นักปราชญ์ได้ค้นหาในพระคัมภีร์ที่ควรเชื่อได้ว่าเปนพระบาลีพุทธภาสิต ฤาสาวกภาษิตในสาสนาก็ไม่พบเห็นเลยแต่สักแห่งหนึ่ง ว่าการทำอย่างนั้น เปนบุญเปนกุศล ถึงจะมีในหนังสือแปลร้อยที่ พระสงฆ์ซุ่มซ่ามเทศนาลวงสัปรุษที่โง่ๆ ตื่นๆ ให้นับถืออยู่บ้างก็ดี เมื่อพิเคราะห์ดูจริงๆ ก็เห็นว่าไม่ใช่สำนวนในพระสาสนา ชะรอยจะเป็นสำนวนของคนที่โง่ๆ ตื่นๆ ใกล้จะเสียจริตแน่แล้ว”



    หลังจากนี้ก็ทรงประกาศห้ามมิให้พระสงฆ์สั่งสอนชาวบ้านแบบผิดๆ เช่นยุให้คนเชือดเนื้อตัดคอตัวเอง หรือเผาร่างกายโดยนึกไปว่าจะได้ขึ้นสวรรค์ และทรงเน้นอีกด้วยว่าประชาชนผู้ใดเห็นคนกำลังจะทำพิธีแบบอย่างนี้ ต้องรีบห้ามปรามขัดขวาง มิฉะนั้นจะโดนทำโทษ



    “อย่าให้ใครเชื่อฟัง เอาเปนตัวอย่างเลยเปนอันขาด ถึงในพระวินัยบัญญัติ ก็ห้ามไว้ มิให้พระสงฆ์ชักชวนคนให้ฆ่าตัว ถ้าพระสงฆ์รูปใดชักชวนมนุษย์ให้ตาย ด้วยวจีประโยคก็เปนปาราชิก เพราะฉะนั้นจึงเห็นว่า ไม่ใช่การบุญการกุศลไม่ควรจะอนุโมทนายอมตามเลย เปนการขัดต่อแผ่นดิน ถึงในพระสาสนาอื่นๆ ก็เห็นว่าจะไม่มีใครสรรเสริญว่าเปนความดีมีความชอบแต่สักแห่งเลย เพราะฉะนั้นตั้งแต่นี้สืบไป อย่าให้ใครเผาตัวบูชาพระ ตัดศีร์ษะบูชาพระ เชือดเนื้อรองโลหิตตามตะเกียงบูชาพระเลยเปนอันขาด เพราะว่าเปนการขัดต่อราชการแผ่นดิน เมื่อใดเห็นใครเผาตัวบูชาพระ ฤาตัดศีร์ษะเชือดเนื้อรองโลหิตตามตะเกียงบูชาพระก็ดี ฤาได้เห็นใครผูกคอตายโจนน้ำตายก็ดี ก็ได้เข้าช่วยว่ากล่าวห้ามปราม แย่งชิงเครื่องศัสตราวุธเสียอย่าให้ผู้นั้นทำได้ ถ้าตัวผู้เห็นคนเดียวกำลังน้อย ฤากลัวศัสตราวุธ จะเข้าแย่งชิงมิได้ ก็ได้ร้องบอกเรียกผู้อื่นมา ให้ช่วยกันห้ามปราม ผู้ซึ่งได้รู้เห็นแล้วดูดายเสีย ไม่ห้ามปราม ฤาจะพลอยเห็นว่าได้บุญได้กุศลด้วยนั้นไม่ได้ ถ้าผู้ใดได้รู้เห็นแล้วดูดายเสีย ไม่ว่ากล่าวห้ามปราม แย่งชิงเครื่องศัสตราวุธ ฤาไม่ช่วยตัดเชือกก็ดี จะให้ผู้นั้นเสียเบี้ยปรับตามรางวัด ถ้าผู้รู้เห็นอยู่ในที่ใกล้”



    ผู้เขียนเข้าใจว่า การฆ่าตัวบูชายันต์นี้ก็คงจะหยุดยั้งเลิกหายกันไป เพราะเมื่ออ่านบันทึกต่อๆ มา ในรัชกาลของพระองค์และในแผ่นดินของรัชกาลที่ห้าหรือที่หก ก็ไม่ได้พบเรื่องตายแบบวิตถารนี้อีก มาเห็นการฆ่าตัวตายแบบนี้ในศาสนาพุทธก็ตอนสงครามเวียตนาม เมืองญวนปั่นป่วนน่าเวทนา จนมีผลให้พระภิกษุญวนและผู้ศรัทธาอีกหลายท่านทั้งหญิงและชายเผาตัวเองในที่สาธารณะ โดยเอาน้ำมันราดเสื้อผ้าจนเปียกชุ่มแล้วจุดไฟให้ลุกเป็นคบเพลิงมนุษย์ การฆ่าตัวตายของพระและคนญวนนี้ มิได้ทำขึ้นเพื่อบูชาสวรรค์ แต่เป็นการประท้วงวิถีทางอันผิดพลาดของบ้านเมือง แต่ถึงแม้จะเผาตัวตายกันมากมาย ก็มิได้ประสพผลดีอย่างใด เมืองญวนก็ยังพินาศเพราะสงครามกลางเมืองระหว่างเหนือและใต้อยู่ดี



    ศาสนาพุทธของเราสอนไว้เสมอ ให้ผู้เชื่อถือนั้นเดินทางสายกลาง จะปล่อยละเลยไม่นับถือหลักธรรมเสียเลยก็ไม่ดี แต่จะหลงเชื่องมงายจนมอบชีวิตให้ได้ก็ไม่ถูก การศึกษาพระธรรมขนาดกลางๆ ให้กำลังพอดีนั้น จึงจะถูกต้องตรงตามคำสอนของสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว




    ข้อมูลนำเสนอ คัดมาบางส่วนจาก :- เรื่องสนุกในแผ่นดินพระจอมเกล้า
    ผู้แต่ง : วิบูล วิจิตรวาทการ
    <!--MsgFile=0-->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 ธันวาคม 2010
  5. canopus

    canopus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2009
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +531
    อนุโมทนาครับ เคยอ่านเรื่องของนายเรืองและนายนกนานแล้ว ผมเชื่อว่าท่านต้องพุทธภูมิแน่ ๆ แม้แต่ปลาจำนวนหลายตัวก็ยังกระโดดเข้ากองไฟตามไปด้วย เป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดา

    ส่วนกระทู้นี้พระภิกษุเวียดนามเผาตัวเองเพื่อปกป้องพระุพุทธศาสนา มีคลิปด้วยในความเห็นของคุณหญิงทิพย์
    ผมก็เพิ่งเคยเห็นคลิปเมื่อก่อนเคยเห็นแต่ภาพ ท่านมีจิตใจเข้มแข็งเด็ดเดี่ยวมากจริง ๆ
    กำลังใจของท่านคงต้องอยู่ในระดับเดียวกับพระโพธิสัตว์ที่สละชีวิตเป็นทานหรือเป็นพุทธบูชาแน่ ไม่ต่างจากนายเรืองและนายก
    และส่วนตัวเชื่อว่าท่านต้องทรงฌานระดับใดระดับหนึ่งแน่ ๆ เพราะเปลวไฟที่ร้อนแรงขนาดนั้นแต่ท่านนั่งสมาธินิ่งเลย ไม่มีอาการทุลนทุลายปรากฏ

    http://palungjit.org/threads/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%9E%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A7%E0%B9%8C%E0%B8%97%E0%B8%B4%E0%B8%88-%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%87-%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B9%8A%E0%B8%81-%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98-%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95.217589/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 ธันวาคม 2010
  6. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    *
    [​IMG]
    เว็บทางนิพพาน เว็บไซด์ เผยแพร่ ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น<O:p
    ที่รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน<O:p
    ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่
    www.tangnipparn.com
    <?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p>ขอเชิญแวะเยี่ยมชมและโมทนาบุญเว็บศูนย์พุทธศรัทธา </O:p>
    *
    [​IMG]
     
  7. aroonoldman

    aroonoldman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +462
    โมทนาครับ เรื่องของทานบารมีต้องระดับปรมัตถบารมีถึงทำได้
    อย่าเอากำลังใจของเราไปเทียบกับท่านเลยครับ มดกับช้าง
     
  8. อุปคุต

    อุปคุต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +132
    ขอ อนุโมทนาบุญๆ.........ด้วย สาธุๆๆจริง
    ศรัทธาๆๆๆ จริง กำลังใจ ต้องสูงยิ่ง กว่า ธรรมดา (พระโพธิสัตว์... หน่อแห่งพุทธภูมิ)
     
  9. COME&Z

    COME&Z เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,144
    ค่าพลัง:
    +234
    โมทนาสาธุค่ะ ดูตามเจตนาของท่านทั้งสอง ก็น่านับถือค่ะ แต่....เหมือนจะเป็นมิจฉานะคะ ไม่ใช่สัมมา ไม่ใช่ทางค่ะ ห้ามลอกเลียนแบบนะคะ อิอิ^_^
     
  10. นะ สมุย

    นะ สมุย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +196
    แล้วการเผาสิ่งของที่มีคนมาถวายให้(ของหลวงพ่อกบและหลวงพ่อโอภาสี)เป็นการบูชาแบบไหนครับ อยากทราบครับท่านผู้รู้ช่วยบอกด้วยครับ สาธุๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
     
  11. ๑กุหว่าใจ๋๑

    ๑กุหว่าใจ๋๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2006
    โพสต์:
    371
    ค่าพลัง:
    +2,730
    ท่านที่ถวายชีวิตบูชานั้น ท่านต่างมองเห็นว่าร่างกายนี้ เป็นแต่เพียงเครื่องใช้สอย ไม่ได้มีความยึดมั่นถือมั่นว่าเป็นตัวเป็นตน ซึ่งจิตของพระโพธิสัตว์ที่อยู่ในช่วงบารมีปลายนั้น มีกำลังใจสูงมาก ยากที่บุคคลทั่วไปจะเข้าใจ

    เมื่อท่านทราบว่าในอนาคตภายภาคหน้า ท่านจะสามารถทำอธิษฐานของท่านได้สำเร็จ ได้มาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง ท่านจึงเกิดธรรมปิติเป็นอันมาก จึงตั้งจิตอธิษฐานถวายชีวิตจุดไฟเผาร่างตนดั่งเทียนบูชาเพื่อพระโพธิญาณ นี้จึงเป็นปรมัตถบารมีตามธรรมโพธิสัตว์ประเภณี

    ไม่จัดเป็นมิจฉาทิฐิและไม่จัดว่าเป็นการฆ่าตัวตายเพื่อหนีทุกข์ อย่างพระสงฆ์ในสมัยพุทธกาลที่มองเห็นในทุกข์ของการมีอยู่ของขันธ์5 จึงฆ่าตัวตายด้วนตนเองบ้าง วานคนอื่นให้ฆ่าตนเองบ้าง พระพุทธเจ้าจึงทรงตั้งพระวินัยห้ามพระภิกษุฆ่าตัวตายด้วยตนเอง ห้ามจ้างวานคนอื่นให้ฆ่าตนเอง และห้ามชักชวนคนอื่นให้ฆ่าตัวตาย ดังนี้
     
  12. Bacary

    Bacary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,210
    ค่าพลัง:
    +23,196
    อย่างบุพจริยา ของพระมังคลพุทธเจ้า เมื่อครั้งยังเป็นพระโพธิสัตว์
    ได้เผากายบูชาเจดีย์ ถวายเป็นพุทธบูชา
    บุพกรรมนี้ พอได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงมีพระรัศมีสีทองแผ่ออกไปโดยรอบตลอดหมื่นโลกธาตุ อยู่ตลอดเวลา
    ในมธุรัตถวิลาสินี ก็ได้กล่าวไว้

    แต่นี่เป็นบุพจริยาของผู้บำเพ็ญบารมีโพธิสัตว์ เพื่อตรัสรู้เป็นเอกบุรุษ
    ผู้บำเพ็ญเป็นสาวกอาจจะเห็นเป็นเรื่องแปลก
    ตามแต่จะพิจารณา
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. ตรีเพชร์

    ตรีเพชร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    160
    ค่าพลัง:
    +528
    อย่างเราๆถ้าจะบูชาพระพุทธเจ้าก็ขอให้เป็นปฏิบัติบูชาเถิดครับ
     
  14. ชุนชิว

    ชุนชิว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    722
    ค่าพลัง:
    +780
    การที่เรามองว่าการบำเพ็ญบารมี เป็นการทำร้ายตัวเองเป็นการฆ่าตัวตายนั้น จริงๆ แล้วการตายมันเป็นเพียงสมมติเท่านั้นเอง รูปลักษณ์อาจจะดูคล้ายเช่นนั้น แต่เจตนาแตกต่างห่างไกลกันโดยสิ้นเชิง ผลก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงอีกนั่นแหล่ะ คนฆ่าตัวตายหนีทุกข์ส่วนมากจิตใจเศร้าหมองที่ไปก็ข้างล่าง ส่วนพุทธภูมิทั้งหลายท่านทำด้วยความเสียสละอย่างยิ่ง จิตของท่านเหล่านั้นมั่นคง แจ่มใส ระลึกถึงพระรัตนตรัย ทางไปก็คือข้างบน ลองมาดูอานิสงค์ของท่านนะครับ หากท่านตรัสรู้ รัศมีท่านจะสว่างไสวมากและไกลมาก ทำให้สรรพสัตว์ที่ได้เห็นระลึกถึงท่าน เร่งทำความดี และกันตกนรกได้ เรื่องนี้ไม่ใช่เล็กๆเลยนะครับ เรียกว่าเสียสละมากๆเลยทีเดียว ไอ้คนธรรมดาอย่างเรา แค่เอาตัวเองให้รอดยังลำบากเลยครับ แถมไม่พอบ้างครั้งยังแช่งให้คนอื่นลงนรกอยู่เลย ทำไมช่างแตกต่างกันได้ขนาดนั้น
     
  15. Baramee

    Baramee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    230
    ค่าพลัง:
    +1,032
    น่าจะขึ้นกับเจตนาครับ
    ท่านไม่ได้ตั้งใจฆ่าตัวตายนี่ครับ
    แต่ท่านตั้งเจตนาเป็นพุทธบูชาต่างหาก
    อย่างบางท่านก็ถึงกับตัดศีรษะเพื่อเป็นพุทธบูชาก็ยังมี
    แล้วท่านก็ได้บุญมากเสียด้วย

    เขาถึงบอกไงครับว่าเรื่องกรรมมันลึกซึ้งและซับซ้อน
     
  16. permbun

    permbun Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +52
    ขออนุโมทนาบุญกับการจุดไฟเผาตัวเองเป็นพุทธบูชาเพื่อปรารถนาโพธิญาณของท่านทั้งสองด้วยครับ
    ขอบุญกุศลอันเนื่องจากการอนุโมทนาบุญครั้งนี้ โปรดเป็นปัจจัยเกื้อกูลให้ข้าพเจ้าบรรลุปัจเจกโพธิญาณ เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าในอนาคตกาลครั้งหน้าด้วยเทอญ
     
  17. Phusaard

    Phusaard เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    436
    ค่าพลัง:
    +349
    ตัวเองแค่โดนน้ำมันกระเด็นใส่ก็กระโดดโหย่งแล้ว

    นี่จิตใจของท่านต้องสูงส่ง กว่าคนธรรมดาทั่วไปอย่างไม่ต้องสงสัยเลย

    ขอกราบ อนุโมทนา สาธุ ครับ
     
  18. อัสนี

    อัสนี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,401
    ค่าพลัง:
    +3,566
    แม้นแต่พลังไฟยังแพ้พลังใจของผู้มีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา
    อนุโมทนาบุญ
     
  19. นายดอกบัว

    นายดอกบัว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +5,676
    ไปเผาตัวเองในปรโลกอีก หากเกิดมาก็ต้องตายเพราะโดนเผาอีก หลายร้อยชาติ
    พระพุทธเจ้าไม่เคยบัญญัติไว้ ให้ปฎิบัติ

    เป็นโพธิสัตว์ก็ไปนรกได้และก็นานด้วย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ธันวาคม 2010
  20. นายดอกบัว

    นายดอกบัว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +5,676
    คุณทำลายร่างกายเพื่อเป็นพุทธบูชา แต่คิดเอาเอง ว่าตายห่าไปเสียเวลาในการบำเพ็ญในโลกมนุษย์ขนาดไหน แล้วอยู่โลกอื่นมันนานมากทำในโลกมนุษย์นั้นเร็วกว่า

    ไม่เคยได้ยินเรื่องที่วัดไหนสักแห่ง สมัยก่อนมีอนุยธยาได้มีแม่ชีแขวนคอตัวเองเพื่อถวายพุทธบูชา แต่ไม่ได้เข้าฌาน เลยเป็นแค่ภูมิเทวดา และก็เกิดมาเป็นคน ฆ่าตัวตายอีก 500 ชาติ และชาติรองสุดท้าย เป็นภูมิเทวดา ได้มาบอกหลวงพ่อรูปนึงถึงกรรมที่ตนทำไว้ จะเกิดมาเป็นคนอีกชาติและก็ฆ่าตัวตายเพราะทุกข์ใจอีก ถึงจะหมดกรรม(กว่าจะคิดได้ก็ทำไปแล้ว) ดีที่ตอนตายยังนึกถึงความดี นึกถึงพระพุทธเจ้าไม่ทรมาน ทำให้ยังได้เสวยสุข แต่กรรมมันก็คือกรรม ไม่รู้จะสมน้ำหน้าในความโง่เขลาดีหรือไม่
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...