เรื่องเด่น ปัญหาเด็กติดเกมส์การเรียนตกขอคำแนะนำค่ะ

ในห้อง 'ทุกข์และปัญหาชีวิต' ตั้งกระทู้โดย AF11, 29 ธันวาคม 2010.

  1. AF11

    AF11 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +31
    เด็ก เรียนในมหาวิทยาลัยของรัฐ เคยตกหลายวิชา แต่ก็แก้จนผ่านมาได้แต่ต้องเรียนมากกว่าคนอื่นอีก 1 ปี ยังต้องลุ้น
    อยู่ กลัวจะไม่จบตอนนี้เขาขาดกำลังใจมาก กับพี่น้องก็ไม่ถูกกัน ไม่พูดกัน
    บ่นว่าไม่มีเพื่อน ไม่มีสังคม จะให้กำลังใจหรือหรือแก้ไขยังงัยดีคะ ตอนนี้คุณแม่
    ก็กลุ้มใจ ส่วนเรื่องเงินไม่มีปัญหา ไม่กินเหล้า ไม่เที่ยวกลางคืน ไม่สูบบุหรี่ หน้าตาก็จัดว่าดีมาก มีรถยนส่วนตัว แต่เขาจะคิดในเรื่องที่ตัวเองบกพร่องคือเรื่องไม่มีเพื่อน ทำให้ไม่มีกำลังใจ การเรียนตกต่ำ
    ขอบคุณมากนะคะที่อ่านจนจบ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 23 มกราคม 2011
  2. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    ทำอะไรไม่ได้หรอกครับ เพราะเขาไม่เห็นว่าเรื่องการเรียนตกต่ำ หรือเรื่องเรียนไม่จบเป็นปัญหา ถ้าอยากให้เขาสนใจเรียนจริงๆ ก็ต้องทำให้เขาเห็นว่าการเรียนไม่จบนี่มันเป็นปัญหาอย่างไร ผมเห็นมาหลายคนแล้วที่ไม่สนใจเรียนเลยเพราะรู้ว่าเรียนก็หนัก เรียนไปก็ไม่ได้ใช้อะไรเลย เกรดก็ไม่ได้ใช้ แถมยังมีเรื่องสังคมไม่ดีอีก ก็คงมีความคิดแค่เรียนให้มันจบๆ ไป ถึงเรียนไม่จบก็ไม่ต้องเป็นหลักให้กับครอบครัว แต่คุณเห็นไหมว่าถ้ามองแบบนี้มันไม่มีกำลังใจในการเรียนแน่นอน ผมเห็นว่าจุดเริ่มต้นของปัญหาจริงๆ คือเขาไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง พอไม่เห็นคุณค่าของตัวเองก็ทำอะไรเพื่อตัวเองหรือเพื่อคนอื่นไม่ได้ เมื่อทำอะไรเพื่อตัวเองหรือเพื่อคนอื่นไม่ได้การเรียนให้ดีก็เหมือนจะเป็นไปไม่ได้เลย บางทีคุณต้องลองทำให้เขาเห็นคุณค่าของตัวเอง เรียนเพื่อตัวเองไม่ได้ก็เขาเรียนเพื่อคนอื่น เรียนเพื่อ พ่อ แม่ แบบนี้ หรือก็ลองให้เขาเข้าร่วมกิจกรรมอะไรบางอย่าง ให้เขาเป็นส่วนหนึ่งของอะไรบางอย่าง บางทีเขาอาจจะรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าขึ้นมา
     
  3. prayut.r

    prayut.r เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    150
    ค่าพลัง:
    +1,707
    ลักษณะนี้ถ้าสอบได้คะแนนที่ 1 สักครั้ง (ในวิชาใดก็ได้) ชีวิตเขาก็จะพลิกเลยครับ

    (เพราะที่ 1 จะได้รับการยอมรับจากทั้งจากครอบครัว และดูเป็นคนสำคัญในห้องเรียน)

    เพราะเพื่อนผมก็เป็นแบบนี้กันหลายคน
     
  4. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    ชมรมของทางมหาลัยก็ได้ครับ เรียนเลิกแล้วก็ทำกิจกรรม จะได้มีเพื่อนที่มหาวิทยาลัย
    หรือถ้ามีชมรมพุทธ ชมรมดูหนังอะไรก็ได้แล้วแต่ความชอบ อาจจะเป็นเพราะเขาแก่กว่า
    เพื่อน 1 ปีทำให้ไม่มีเพื่อนจะหาเพื่อนก็เข้าชมรมต่างๆ น่าจะง่ายสุด แล้วเรื่องเรียนไม่ต้อง
    เป็นห่วงหรอกครับ แค่มาเรียนทุกวันอยู่มหาวิทยาลัยนานๆ ก็เรียนจบแล้ว ระหว่างรอทำกิจกรรมว่างๆ
    ก็ให้ทบทวนบทเรียนก็ได้
     
  5. e20ehq

    e20ehq เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    334
    ค่าพลัง:
    +770
    ลองพาเขาไป นั่งสมาธิ จะเป็นยุวพุทธิกสมาคม หรือ หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน สิงห์บุรี ก็ได้นะครับ เมื่อเขาได้ผ่านการฝึกจิตใจแล้ว สิ่งที่น่ากังวลเหล่านี้ จะหายไป แล้วสิ่งดีๆ ก็จะเกิดกับน้องเขานะครับ
     
  6. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    คุณ AF11 เป็นเพื่อนเขาหรือเป็นญาติเขาครับ ถ้าแนะนำให้เขา
    ฝึกสติได้จะดีมากเลย เพราะจะทำให้จิตใจละเอียด ไม่ง่วง
    ไม่ซึม ไม่โกรธ ไม่โลภ ไม่ฟุ้งซ่าน ไม่กระสับกระส่าย
     
  7. thanakritkk

    thanakritkk สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2008
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +14
    ผมก็เป็นคนนึงที่ติดเกมส์เหมือนกัน สมัยก่อนเด็กๆคุมไม่ได้เลย เล่นมันตลอด ยิ่งเกมส์ออนไลน์เนี่ยหยุดไม่ได้เลย เด่วนี้พออายุเริ่มเยอะขึ้นมันก็คุมเวลาได้อ่ะคับ รู้สึกเสียเวลา เสียเงิน แถมได้โรคเครียดมาอีก ก็สงสัยต้องมานั่งจับเข่าคุยกันในครอบครับละมั้ง เอาเป็นว่าเล่นได้ แต่ขอให้เป็นเวลานิดนึง
     
  8. rasetsacrifa

    rasetsacrifa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    263
    ค่าพลัง:
    +127
    คุณ จขกท. ครับ เมื่อสมัยก่อน... เมื่อนานมาแล้ว ตัวผมก็เป็นเช่นเดียวกัน (ขอเรียกคนที่คุณ จขกท. กว่าว่า พี่เค้า แล้วกันนะครับ) พี่เค้าเหมือนกันครับ จากจุดเริ่มต้นนั้น อาจจะเป็นปัญหาที่เริ่มมาจากในครอบครัว ก็เป็นได้ครับ ... แต่เท่าที่ผมอ่าน พี่เค้าไม่เห็นความสำคัญของตัวเองครับ นอกจากจะไม่เห็นแล้วยังหนีปัญหาอีกด้วย ส่วนวิธีแก้ สำหรับผมวิธีการแก้ที่ตรงจุดที่สุดก็คือจุดไฟในตัวเค้าขึ้นมาให้ได้ครับ .... ส่วนวิธีการนั้น ผมแนะนำว่าให้เค้าหาสิ่งที่เค้าชอบจริงๆ ถนัด และรักที่จะทำ และให้เค้าเริ่มต้นทำครับ แต่คุณ จขกท ต้องใจเย็นๆนะครับ คนเราไม่เปลี่ยนเพียงแค่ชั่วข้ามคืน การที่ คุณ จขกท. จะเปลี่ยนเค้า ทำให้เค้าเห็นคุณค่าของตัวเอง ต้องใช้เวลาครับ หรืออีกวิธีคือ ท้าทายพี่เค้า เพื่อให้พี่เค้าสู้ชีวิตขึ้นครับ (แต่ คุณ จขกท . ต้องมองว่าพี่เค้าเป็นคนไม่ยอมใคร หรือถ้าท้าแล้วจะสู้นะครับ บางคนท้าแล้วมันเฟลหนักกว่าเก่า ก็มี)

    และสุดท้ายที่ผมจะกล่าวก็คือ ไม่มีใครในโลกเข้ามาคุยคุณก่อน ถ้าคุณไม่เป็นฝ่ายเข้าไปฝ่ายคุยกับเค้าก่อน ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
     
  9. คิดดีจัง

    คิดดีจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,626
    ค่าพลัง:
    +5,354
    วิธีแก้คือแก้ที่ตัวเราเองนะ เปลี่ยนที่ตัวเราเอง

    เมื่อเราเปลี่ยนเขาก็จะเปลี่ยนครับ ปัญหาคุณคืออยากเปลี่ยนลูก ลองมาเปลี่ยนตัวเองดู

    เปลี่ยนยังงัยก็เปลี่ยนให้ตัวเรา คิดดี ทำดี พูดดี มีเมตตา อย่าให้ขาด

    ความรักความเมตตา ที่ถูกต้อง จะช่วยคุณได้ครับ

    ความรักที่ขาดความฉลาดที่จะรัก มันจะเสียนะครับ
     
  10. Killeen

    Killeen Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2011
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +27
    เรื่องการเรียน ไม่ใช่ว่าคนเรียนเก่งทุกคนจะประสบความสำเร็จในชีวิตทุกคนซะเมื่อไหร หากแต่ว่าได้ทำในสิ่งที่เราชอบและถนัดต่างหากที่จะทำให้คนประสบความสุขได้ หลายคนเรียนเก่งแต่ก็ไม่มีความสุขอย่างที่เข้าใจกัน ถ้าน้องเขาชอบเล่นเกม ก็บอกเขาว่าพยายามเรียนหนังสือตามหลักสูตรให้ดี อย่าให้ขาดตกบรกพร่อง แล้วก็ปล่อยให้เขาจัดเวลาเล่นเกม์ด้วย ผมไม่ติดเกม เคยเล่นแต่มันสนุกแค่ระยะเดียว เลยเลิกเด็จขาดเลย มีลูกคนรู้จักติดมากขนาดโกหกยักยอกเงินไปซื้อเกม อย่างนี้แย่ คิดว่าน้องคงไม่เป็นแบบนี้น่ะครับ เพื่อนและสังคม ไม่ใช่ไม่สำคัญ แต่ก็อย่าไปให้เป็นอันดับต้นมากนัก ผมโตมา เรียนจบมาไม่มีเพื่อนแม้แต่คนเดียว มามีตอนทำงาน จริงจริง เราโตแล้ว รู้จักคิดเป็น ฉะนั้นโอกาศจะรู้จักคบคนจึงมีมากกว่าตอนเรียนช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ เพราะคะนองและคิดยังไม่เป็น เหมือนตอนทำงาน โอกาศดีและเสียคนช่วงเรียนจึงมีพอกันเสี่ยงพอกัน เอาไว้น้องเขาโตขึ้นทำงานและได้พบคนก็จะมีไปเอง น้องชายผมเพื่อนมากตอนเรียนเหลืออีกแค่เทอมเดียวจะจบก็ไม่จบเพราะมีเพื่อนและสังคมมากไปหน่อย เลยได้งานขับรถรับจ้างไปวันวันหนึ่ง ส่วนผมไม่มีเพื่อนมากตอนเรียน อ่อนเรื่องสังคม ตอนนี้ทำงานและอาศัยอยุ่ต่างประเทศมายี่สิบสองปีแล้ว อันนี้เจอกับตัวเองน่ะ การเรียนผมก็ไม่ได้เด่นอะไรมาก จะไม่มี่ใครเก่งทุกวิชาแน่แน่ เพราะขนาดคนจบหมอยังไม่รู้เรื่อง วิชารอบตัวหมดทุกอย่างเลย เอาเป็นว่าน้องเขาชอบอะไรก็ส่งเสริมทางนั้น ทุกคนมีพรสวรรค์มากันทุกคน การบังคับอยากให้ลูกเป็นอย่างนู้อย่างนี้มันเหมือนเรารักตัวเองมากกว่า เอาสิ่งที่ลูกอยากแล้วส่งเสริมเขาดีกว่า เพราะเราเลี้ยงเขาได้แต่ตัว ใจเลี้ยงไม่ได้ คนเราย่อมไม่ชอบให้ใครมาบังคับหรือขัดใจ ขอให้โชคดีครับ
     
  11. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    คุณอย่าไปห่วงลูกเลยครับ ยิ่งคุณห่วงเขาเขาจะยิ่งตกต่ำครับ
    ยิ่งคุณเป็นแม่เขาแล้วมันจะตกเป็นกรรมของเขา ช่วยเถอะครับ
    ถ้าช่วยได้แต่อย่าไปสงสารเขา ลองดูแม่ชีทศพรเปิดกรรมใน
    youtube นะครับ
     
  12. mamboo

    mamboo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,129
    ค่าพลัง:
    +1,973
    คุณพี่ AF11 คะ

    ทราบไหมคะ ว่าทำไมลูกชายของคุณพี่ ถึงไปเล่นเกมส์ และไม่ยอมไปโรงเรียน

    คนเรา เล่นเกมส์ เพื่อความสนุกสนาน เพื่อความไม่น่าเบื่อ..

    ความสนุกสนานนี้ สามารถทดแทนได้ด้วย การละเล่นกับ "เพื่อนฝูง" ค่ะ ^^

    แต่ลูกคุณพี่ AF11 ไม่มีเพื่อนที่มหาลัย

    และ "การไม่มีเพื่อน" นี่แหละ คือตัวปัญหา ที่ทำให้ลูกของคุณพี่ ไม่ไปเรียน

    วิธีแก้นี้ ... จะให้ลูกคุณพี่หาเพื่อนตอนนี้ ไม่ได้แล้วค่ะ เพราะมันเป็นปีปลายๆแล้ว คนที่เขาจับกลุ่มกัน คนพวกนั้น ก็ไม่ยอมเปิดใจให้เพื่อนใหม่ๆหรอก..(นี่เป็นปัญหาของสังคมไทยเลยนะคะ ที่เมืองนอกไม่เป็นแบบนี้)

    วิธีแก้ มีอย่างเดียวคือ

    อย่ากดดันคุณลูก เด็ดขาด!

    ทุกๆคน เขารู้ตัวค่ะ ว่าถ้าเรียนไม่จบ จะเกิดอะไรขึ้น ... โดนสังคมตราหน้า แถมที่เรียนเกินมา 1 ปี ก็ทำให้อายรุ่นน้อง ถ้าไม่จบก็ไม่มีงานทำ

    ทุกๆคน ก็อยากเรียนจบค่ะ .. แต่ที่คนๆนั้นต้องการ ก็คือ "กำลังใจ"

    บอกลูกไปเลยค่ะว่า .. พ่อกับแม่ ของอย่างเดียว คือให้ลูกเรียนจบ จะกี่ปีก็ได้ .. จบมามีงานทำหรือไม่มีก็ไม่เป็นไร ขอแค่ให้เรียนจบ

    พยายาม หาเวลาพูดคุยกับลูกบ่อยๆ เพื่อให้เกิดความเข้าใจและความผูกพันธุ์(อย่าพยายามพูดเรื่องเรียนนะคะ เรื่องเรียนเนี่ย ให้พูดทีเดียวจบ เอาให้ได้ใจความ แล้วไม่ต้องพูดอีก ... เพราะการพูดเรื่องเรียนบ่อยๆ จะทำให้ลูกของคุณ เครียดเข้าไปอีก แล้วก็จะไปเล่นเกมส์อีก)

    ทุกๆวันที่ต้องไป เรียน .. เปรียบเสมือน นรก สำหรับลูกคุณเลยนะคะนั่น ...

    คุณคิดดูว่า .. คนเรา จะเอากำลังใจที่ไหน มาบอกให้ตัวเองเดินลงนรก

    มันก็มีที่เดียวคือ "กำลังใจจากคนเป็นพ่อเป็นแม่"

    ให้กำลังใจลูกบ่อยๆนะคะ ^_^

    คอยตรวจสอบเรื่องเรียนทุกๆปลายเทอม(แต่อย่าบ่อย ขอเน้นว่า อย่าบ่อย! เพราะจะทำให้ยิ่งเครียด)

    ให้กำลังใจลูก และชวนคุยเรื่องจิปาถะ หรืออาจจะคุยเรื่อง วันนี้เรียนเป็นไงบ้างจ้ะ ^_^ มีเพื่อนไหม ?? ^^ (อย่าไปชวนคุยเรื่อง เกรด หรือ การสอบ นอกจากลูกจะเป็นฝ่ายคุยเอง)

    ปัญหาของลูกคุณพี่ จะให้เข้ากิจกรรมของมหาลัยตอนนี้ มันไม่ได้แล้วแหละค่ะ .. เพราะมันเป็นปีปลายๆแล้ว

    แล้วถ้าไปหากิจกรรมเสริมให้ทำนอกมหาลัย ก็ยิ่งทำให้ จิตใจของน้องเค้า ห่างออกไปจากมหาลัย จะทำให้น้องเค้า ยิ่งไม่อยากไปมหาลัยหนักยิ่งกว่าเดิม

    ทางเดียวคือ ... พยายามเตือนสติน้อง เรื่องอนาคตของน้อง .. ว่าถ้าเรียนไม่จบ อายเพื่อนนะลูก ไม่มีงานทำนะ (แต่อย่าพูดบ่อย มันจะเป็นการกดดันค่ะ)

    แล้วพยายามยินดีกับลูกบ่อยๆ เช่น ... อีกปีนึงก็จบแล้ว .. เดี๋ยวแม่จะพาไปฉลองที่กระบี่เลย .. (อะไรก็ว่าไป ^_^)

    พยายามทำให้ลูก มองเห็นวันแห่งความสำเร็จของตัวเองนะคะ ^_^ แล้วลูกจะมีกำลังใจค่ะ

    ^^
     
  13. AF11

    AF11 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +31
    ขอบคุณมากๆ ถึงมากที่สุดเลยค่ะ

    รวมถึงทุกท่านที่เคยตอบมาแล้วขอขอบพระคุณอีกครั้งนะคะ

    ตอนนี้พี่ก็มีกำลังใจดีขึ้นมากแล้วค่ะ

    และก็ได้ปรับปรุงแก้ไขตัวเองอย่างมากเลย

    ก่อนหน้านี้ก็รู้สึกเสียใจและสงสาร สุดๆ เลยค่ะ

    แต่วิกฤตการณ์ครั้งนี้ ก็คงจะค่อยๆคลี่คลายไป

    แต่ก็ยังต้องการข้อเสนอแนะจากทุกท่านค่ะ

    และคิดว่าท่านที่มีปัญหาคล้ายกันก็คงจะได้ประโยชน์ด้วยนะคะ

    ปล.เมื่อวานดิฉันได้เข้าไปอ่าน
    sathira... ก็ได้ข้อคิดหลายอย่างที่มีประโยชน์
    ถ้าใครสนใจก็ลองดูนะคะ ขอให้ทุกท่านโชคดีค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มกราคม 2011
  14. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,075
    ค่าพลัง:
    +52,176
    เรื่องนี้ต้องค่อยๆ ปรับ
    การที่ติดเกมส์ไม่ใช่เป็นคนไม่ดี
    ไม่กินเหล้า ไม่เที่ยวกลางคืน ไม่สูบบุหรี่
    แต่สิ่งที่น่าห่วงคือ การเข้าใจเขา
    หากเรามองเขาจากที่สูงลงมาหาเขา (ผู้ใหญ่มองเด็ก) เราจะไม่เห็นหนทาง
    แต่หากเรามองจากที่ต่ำขึ้นไปหาเขา (เด็กมองผู้ใหญ่)
    การมองคือ นิสัยแบบเด็ก คิดแบบเด็ก โดยมีเหตุและผลแบบเด็ก ไม่ใช่กฏระเบียบข้อบังคับ สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เห็นทางแก้ปัญหา

    การไม่มีเพื่อน ในห้องเรียนอาจไม่มี แต่เพื่อนที่เขามีคือสังคมออนไลน์ในคอมพิวเตอร์นั่นเอง

    การแก้ปัญหาต้องทำตัวเราเป็นเพื่อน เป็นเด็ก เช่น อยากจะลองเล่นคอมบ้าง สอนหน่อยได้รึเปล่า อยากจะดูรายละเอียดเกี่ยวกับอาหาร สิ่งของ เครื่องใช้ ช่วยหาในเน็ตให้หน่อยได้รึเปล่า เล่นเกมส์อะไรเหรอ ทำไมมีคุยกันด้วยแปลกดี แบบนี้เราก็คุยกับเพื่อนๆ โดยไม่เสียเงินใช่รึเปล่า น่าสนุกดีนะ สอนหน่อยได้รึเปล่า ฮ่าๆๆ สู้ไม่ได้ ทำไงต่อ ต้องกดอะไร ก็สนุกดีนะ เดี๋ยววันหลังมาแข่งกัน

    สิ่งเหล่านี้อาจจะพอช่วยได้บ้าง แต่ไม่ใช่ทุกคน หากเข้าถึงจิตใจเขาแล้วการบอกหรือให้เขาแบ่งเวลาเล่นจะช่วยได้บ้างไม่มากก็น้อย

    ส่วนเรื่องการเรียนไม่ต้องห่วง ถึงเขาจะสอบตกกี่ครั้ง หากยังมีกำลังใจข้างๆ ก็ไม่เป็นไร เช่น เทอมหน้าเอาใหม่ ถ้าเทอมนี้จบเดี๋ยวซื้อคอมให้ใหม่ ถ้าไม่ผ่านให้เล่นคอมได้วันละเท่านั้น เท่านี้ชั่วโมง

    จบหรือไม่จบ ไม่ได้บอกว่าคนนั้นดีหรือเลว แต่กำลังใจในการเรียนสำคัญที่สุด ไม่มีใครโง่หากเราเข้าใจเขา

    แต่สิ่งที่น่าห่วงคือสังคมออนไลน์ หากเขาเจอเพื่อนดีก็ไม่เป็นไร หากเขาเจอคนไม่ดี สิ่งเหล่านี้ต่างหากที่น่ากลัว

    ลองปรับเปลี่ยนมุมมองดูครับ อาจจะพอช่วยได้บ้าง
     

แชร์หน้านี้

Loading...