เรื่องเด่น สืบสานปณิธาน "ณรงค์ เพ็งลาภ" ผ่าน ۩۞۩ สโมสรบุญ ☀★☀ เพื่อพระพุทธศาสนา

ในห้อง 'พระพุทธรูป - วิหารทาน - สิ่งก่อสร้าง' ตั้งกระทู้โดย Nar, 8 ธันวาคม 2009.

  1. Nar

    Nar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,154
    ค่าพลัง:
    +37,385
    กราบโมทนาสาธุการด้วยครับ
    เติมยอดปัจจัยให้กับสโมสร ให้มีพลังร่วมบุญต่อไปได้เรื่อยๆ
    เงินในสโมสรจะนำไปร่วมบุญเท่านั้นนะครับ ไม่มีการนำไปใช้อย่างอื่นแม้แต่บาทเดียว
    ผมจะเดินทางไปทำบุญที่ไหน ไปที่แห่งใด จะใช้เงินส่วนตัวทุกกรณีย์
    และนำภาพมาฝากกัน เพื่อร่วมโมทนา จึงขอชี้แจงมาให้ทราบ
     
  2. Nar

    Nar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,154
    ค่าพลัง:
    +37,385
    สโมสรออนไลน์พาเที่ยว พุทธมณฑล

    พุทธมณฑล สวนพุทธศาสน์สถาน ไปกราบพระประธาน และ พระคำภีร์โบราณ
    สถานที่กว้างใหญ่ เดินไม่ทั่วถึง ต้องใช้รถกันถึงเที่ยวรอบได้
    เอาภาพแต่จุดสำคัญๆมาให้ชมกัน พอหอมปากหอมคอ ความจริงมีภาพเยอะครับ
    การไปครั้งนี้ตั้งใจไปกราบนมัสการพระคำภีร์โบราณ ชมภาพครับ

    DSCF5855_resize.JPG DSCF5852_resize.JPG DSCF5824_resize.JPG
    DSCF5816_resize.JPG DSCF5810_resize.JPG DSCF5835_resize.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 3 ธันวาคม 2010
  3. Nar

    Nar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,154
    ค่าพลัง:
    +37,385
    [​IMG]

    ที่แสดงพระคำภีร์โบราณให้สัการบูชา
     
  4. Nar

    Nar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,154
    ค่าพลัง:
    +37,385
    สโมสรพาเที่ยว วัดที่สรพงษ์ สร้างที่โคราช

    ครั้งนี้พาไปที่โคราช วัดที่สรพงษ์สร้าง ใหญ่โตอลังการ เป็นที่น่ายินดีกับคุณสรพงษ์ อย่างยิ่ง
    ที่สำคัญ เป็นความรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนา อีกรูปแบบหนึ่งของโลก ที่อยู่ในประเทศไทย
    ช่วยกันหลายๆฝ่าย สร้างกันหลายๆที่ ทุกหนทุกแห่งมีวัดให้พระรัตนะตรัยประดิษฐาน
    สาธุชนได้อาศัยสักการะกราบไหว้บูชา เป็นมหาอานิสงส์ ที่ต่อเนื่องอยู่เนืองๆ
    สิ่งเหล่านี้เป็นบุญวาสนาของแต่ละคน เป็นความโชคดีของแต่ละท่าน ใครเข้าใจมีจิตศรัทธาก็เป็นบุญไป
    ส่วนใครคิดว่าไม่สำคัญ ก็แล้วแต่ท่าน ใครทำใครได้ ใครกินคนนั้นก็อิ่ม

    มีรูปมาฝากกันเช่นเคย

    DSCF5860_resize.JPG DSCF5862_resize.JPG DSCF5865_resize.JPG DSCF5868_resize.JPG

    DSCF5877_resize.JPG DSCF5878_resize.JPG DSCF5889_resize.JPG DSCF5896_resize.JPG
     
  5. Nar

    Nar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,154
    ค่าพลัง:
    +37,385
    ใครคือพระเอกตัวจริง

    [​IMG]

    ส่วนภาพนี้เป็นเพียงเปรียบเทียบการกระทบไหล่คนดัง เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่า ใครกันแน่คือพระเอกตัวจริง (smile)
     
  6. Nar

    Nar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,154
    ค่าพลัง:
    +37,385
    ปิยโปฎกธรรมสถาน ภาคสอง

    [​IMG]

    เชิญติดตามประสบการณ์เรื่องราว ของการเข้าปฎิบัติธรรม ณ ปิยโปฎกธรรมสถาน ภาคสอง (เร็วๆนี้)
     
  7. JitKrajang

    JitKrajang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2010
    โพสต์:
    176
    ค่าพลัง:
    +1,593
    ขออนุญาตประชาสัมพันธ์งานบุญค่ะ
    ด่วน!!! โปรดอ่านสักนิด ร่วมสร้างหอพระก่อนจะโดนทุบทิ้ง

    http://palungjit.org/threads/ด่วน-โ...จะโดนทุบทิ้ง-อยากให้เสร็จอยากไปธุดงค์.266134/

    ยอดทำบุญยังไม่ไปถึงไหน แต่ท่านเขียนเล่าเรื่องเกี่ยวกับประวัติของวัดและประวัติของท่านได้น่าอ่านมาก ลองเข้าไปอ่านกันดูค่ะ
     
  8. Nar

    Nar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,154
    ค่าพลัง:
    +37,385
    [​IMG]


    สวัสดีปีใหม่ 2554
    ขอให้ทุกท่านมีความสุข ความสมปรารถนา
    ในสิ่งที่ดีๆจงทุกประการ
    <!-- google_ad_section_end -->
     
  9. kratium

    kratium เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2007
    โพสต์:
    484
    ค่าพลัง:
    +3,670
    มารอฟังและชม ข่าวคราวงานบุญ เมื่อไหร่พี่ณรงค์จะมาเล่าต่อล่ะคะ
     
  10. Nar

    Nar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,154
    ค่าพลัง:
    +37,385
    มาสวัสดีหลังปีใหม่

    สวัสดีอีกทีหลังปีใหม่ ห่างหายไปนานกับการมาพูดคุยในกระทู้สโมสร
    เนื่องจากสังขารไม่เอื้ออำนวย เหนื่อยล้าอ่อนแรงด้วยความไม่เที่ยงของสังขาร
    ไม่มีบุคคลตัวตนผู้ใดหลีกพ้นความเสื่อมไปได้ ไม่วันนี้ก็วันใดวันหนึ่ง
    ในที่สุดก็แตกดับของกายสังขาร หากไม่ประสบพบพานด้วยตัวเองหรือปัญญาจะไม่ค่อยนึกถึงกัน
    เพราะฉนั้นหากเกิดมาแล้วไม่มีโอกาสสร้างบุญกุศล นับว่าเสียเวลาชาติเกิดอย่างยิ่ง

    ในขนะที่ผู้เขียนประสบกับโรคภัยเบียดเบียน ก็ไม่ได้นิ่งเสียจากการสร้างบุญกุศล
    นอกจากได้ทำบุญใหญ่ในจิตใจของตัวเอง แล้วยังได้เดินทางไปตามงานบุญต่างๆที่เราสามารถไปร่วมบุญได้
    ติดค้างกันหลายงานที่ยังไม่ได้เอามาลงให้ได้ร่วมโมทนา ก็จะทยอยนำมาลงให้ชมกันครับ
    พร้อมทั้งการที่ผมนำเงินของสโมสรไปร่วมสร้างบุญตามที่ต่างๆด้วย ก็จะมารายงานให้ทราบทุกครั้งครับ
     
  11. Nar

    Nar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,154
    ค่าพลัง:
    +37,385
    ปิยะโปฎกธรรมสถาน ภาคสอง

    ปิยะโปฎกธรรมสถาน

    เป็นสถานปฏิบัติธรรมที่เน้นคุณภาพ ซึ่งในปัจจุบันยังเหมือนเป็นพลังเงียบ
    ที่อยู่แต่เฉพาะคนใกล้ชิดกับพระอาจารย์ผู้สอน กำลังจะขยายไปสู่วงกว้างขึ้นในอีกไม่นาน
    จุดประสงค์เพื่อยืดอายุพระพุทธศาสนา ในรูปของการปฏิบัติเพื่อเข้าถึงความรู้แจ้งในพระสัจจะธรรม เพื่อความพ้นทุกข์ หรือพระนิพาน

    ปิยะโปฎกธรรมสถาน นอกจากเป็นที่พึ่งทางใจ ยังจะใช้เป็นที่พึ่งทางกายด้วย
    เนื่องจากพระอาจารย์พูดไว้ว่า วันข้างหน้าหากเกิดเหตุเภทภัยพิบัติ ณ ที่แห่งนี้จะเป็นที่พึ่งของผู้มาปฏิบัติด้วย
    จะเห็นได้ว่าไม่ต่างจากสถานที่ ที่ชาวเว็บพลังจิตบางส่วนได้จัดเตรียมสถานที่รับภัยภิบัติในวันข้างหน้า
    แต่ที่เน้นกันจริงในที่แห่งนี้ ปฏิบัตเพื่อความพ้นทุกข์ จากการเวียนว่าย เกิด ตาย มากกว่า เพราะการเกิดเป็นทุกข์อย่างยิ่ง
    เดิมมีพื้นที่ 10 ไร่ แต่ได้ขยายพื้นที่อีก 30-40 ไร่ เพื่อขีดความสามารถรองรับของผู้ต้องการเข้ามาปฏิบัติ
    จากการที่ผมได้เข้าปฏิบัติรอบสองจึงได้มีโอกาสร่วมสมทบทุนซื้อที่ดินขยายพื้นที่ด้วย
    ในส่วนของผมมี คุณสุชาดา ได้นำบุญนี้ไปบอกกล่าวต่อกับเพื่อนร่วมงาน จึงได้เงินปัจจัยสมทบ 14,500 บาท
    มีภาพมาให้ร่วมโมทนาครับ

    [​IMG]

    งานนี้ผมไม่มีโอกาสนำมาบอกบุญในเว็บเพราะผมไม่ได้อยู่บ้าน ไม่มีโอกาสเข้าเน็ตก็ได้แต่ทำไปเพียงลำพัง
    ก็ขอให้ท่านที่เข้ามาพบเห็นใน ณ ที่นี้ร่วมโมทนาบุญกุศลร่วมกัน ขอให้ทุกท่านได้มีส่วนร่วมกุศลทุกประการ
    <!-- google_ad_section_end -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF6096.jpg
      DSCF6096.jpg
      ขนาดไฟล์:
      84.3 KB
      เปิดดู:
      737
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 20 มกราคม 2011
  12. Nar

    Nar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,154
    ค่าพลัง:
    +37,385
    ปิยะโปฎกธรรมสถาน

    ปิยะโปฎกธรรมสถาน

    [​IMG]

    การเข้าไปปฏิบัติธรรมไม่มีพิธีรีตองอะไรมาก เตรียมกาย เตรียมใจ พร้อมที่จะเป็นผู้บริสุทธิ์ ด้วยศีลห้าข้อเป็นอย่างน้อย
    ใส่ชุดขาว(เตรียมไปเอง) มีคนทำอาหารให้ฟรี ที่พักฟรี อยู่อย่างสมถะ บรรยากาศสงบร่มเย็น อากาศดีมาก
    หากเข้าปฏิบัติ 7 วัน จะต้องปฏิบัติกับพระอาจารย์ในศาลารวม 3 วัน อีก 4 วันก็จะให้ปฏิบัติตามลำพัง แล้วทดสอบการปฏิบัติ
    การปฏิบัติตามลำพัง ก็ต้องซื่อสัตว์ต่อตนเอง ตั้งใจปฏิบัติอย่างเต็มกำลังแม้ไม่มีพระอาจารย์ดูแล
    เมื่อตั้งใจปฏิบัติ 7 วันนี่ต้องได้อะไรกลับมาบ้านบ้างไม่มากก็น้อย แล้วแต่บุญของแต่ละคนที่ทำมา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF5978.jpg
      DSCF5978.jpg
      ขนาดไฟล์:
      144.7 KB
      เปิดดู:
      700
    • DSCF5986.jpg
      DSCF5986.jpg
      ขนาดไฟล์:
      73.4 KB
      เปิดดู:
      670
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 20 มกราคม 2011
  13. Nar

    Nar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,154
    ค่าพลัง:
    +37,385
    [​IMG]

    ค่ำคืนของวันพระ จะมีประทีปบูชาให้ได้เห็นแบบนี้
    บรรยากาศของความสงบ ศรัทธาอันยิ่งต่อพระรัตนะตรัย ของการเข้าปฏิบัติบูชาของพวกเรา
    หนึ่งในหลายครั้งที่เพียรทำ ย่อมนำความเต็มเปี่ยมในบุญบารมีมาถึงเราได้ครับ
     
  14. Nar

    Nar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,154
    ค่าพลัง:
    +37,385
    บุญพระสงฆ์อาพาธที่โรงพยาบาลสงฆ์

    [​IMG]

    บุญช่วงรับปีใหม่ 2554 มีโอกาสไปร่วมบุญกับพระสงฆ์อาพาธมาก็นำภาพมาให้ร่วมโมทนากันครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF6051.jpg
      DSCF6051.jpg
      ขนาดไฟล์:
      135.6 KB
      เปิดดู:
      684
  15. Nar

    Nar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,154
    ค่าพลัง:
    +37,385
    พระเสริมและพระแสน

    [​IMG]

    มากราบนมัสการพระเสริมและพระแสนองค์จริงกันครับ
    วัดปทุมวนาราม พระอารามหลวง สถาปนาในรัชสมัยพระบาท
    สมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ใกล้สระปทุมวัน มีพระพุทธรูปโบราณ
    ศิลปะล้านช้างประดิษฐานอยู่ 3 องค์ นามว่า พระเสริม พระ-สายน์
    และพระแสน
    พระเสริม และพระสายน์ ตามตำนานว่าสร้างขึ้นพร้อมกัน
    พร้อมพระสุกอีกองค์หนึ่ง โดยพระราชธิดากษัตริย์ล้านช้าง ชาวเวียง
    จันทร์ได้อัญเชิญมาประดิษฐาน ณ เมืองหนองคาย แต่สมัยธนบุรี
    แต่พระสุกจมหายไปในลำน้ำโขงระหว่างทาง
    พระเสริมนั้น พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวอัญเชิญมาไว้
    ณ พระบวรราชวังก่อน
    ส่วนพระสายน์โปรดให้อัญเชิญเป็นประธานในพระอุโบสถวัด
    ปทุมวนาราม ครั้งรัชกาลที่ 4 ซึ่งครั้งนั้นได้อัญเชิญพระแสนจากเมือง
    มหาไชยลงมาด้วยโปรดให้ประดิษฐานในพระวิหาร
    ต่อมาเมื่อพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวสวรรคต จึงโปรด
    ให้อัญเชิญพระเสริมมาประดิษฐานคู่กับพระแสน เพราะเคยเป็น
    พระพุทธรูปที่เคยอยู่ด้วยกันมาก่อนตามตำนาน
    พระเสริม พระสายน์ และพระแสน ซึ่งเคยเป็นพระพุทธรูปโบราณ
    จากกรุงศรีสัตนาคนหุต จึงประดิษฐานอยู่ด้วยกัน ณ วัดปทุมวนารามแห่งนี้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF6087.jpg
      DSCF6087.jpg
      ขนาดไฟล์:
      259.9 KB
      เปิดดู:
      75
    • DSCF6086.jpg
      DSCF6086.jpg
      ขนาดไฟล์:
      290.5 KB
      เปิดดู:
      804
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 20 มกราคม 2011
  16. pinkpink

    pinkpink เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,246
    ค่าพลัง:
    +11,631
    ร่วมบุญสโมสรออนไลน์ มกราคม 2554


    หมายเลขอ้างอิง TRTR110122439840
    พื่อเข้าบัญชี 273-2-62070-5 ณรงค์เพ็งลาภเพื่องานบุญ
    จำนวนเงิน (บาท) 300.11
    วันที่โอนเงิน 22/01/2011


    ขอให้ท่านทั้งหลายมีส่วนในบุญยนี้กับข้าพเจ้าด้วยเทอญ
    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
  17. Nar

    Nar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,154
    ค่าพลัง:
    +37,385
    [​IMG]

    จะได้นำเงินสโมสรไปมีส่วนร่วมสร้างบุญกุศลกับงานบุญสำคัญๆต่อไปครับ
     
  18. Nar

    Nar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,154
    ค่าพลัง:
    +37,385
    ข้อความของจิตที่มีคุณธรรมความเมตตา

    เอี๋ยนหุยใฝ่ศึกษา มีคุณธรรมงดงาม เป็นศิษย์รักของขงจื้อ

    วันหนึ่ง เอี๋ยนหุยออกไปทำธุระที่ตลาด เห็นผู้คนจำนวนมากห้อมล้อมอยู่ที่หน้าร้านขายผ้า จึงเข้าไปสอบถามดู จึงรู้ว่าเกิดการพิพาทระหว่างคนขายผ้ากับลูกค้า ได้ยินลูกค้าตะโกนเสียงดังโหวกเหวกว่า “3x8ได้ 23 ทำไมท่านถึงให้ข้าจ่าย24เหรียญล่ะ!”
    เอี๋ยนหุยจึงเดินเข้าไปที่ร้าน หลังจากทำความเคารพแล้ว ก็กล่าวว่า “พี่ชาย 3x8 ได้ 24 จะเป็น 23 ได้ยังไง? พี่ชายคิดผิดแล้ว ไม่ต้องทะเลาะกันหรอก”

    คนซื้อผ้าไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง ชี้หน้าเอี๋ยนหุยและกล่าวว่า “ใครให้เจ้าเข้ามายุ่ง! เจ้าอายุเท่าไหร่กัน! จะตัดสินก็มีเพียงท่านขงจื้อเท่านั้น ผิดหรือถูกมีท่านผู้เดียวที่ข้าจะยอมรับ
    ไป ไปหาท่านขงจื้อกัน ”
    เอี่ยนหุยกล่าวว่า “ก็ดี หากท่านขงจื้อบอกว่าท่านผิด ท่านจะทำอย่างไร?”
    คนซื้อผ้ากล่าวว่า“หากท่านวินิจฉัยว่าข้าผิด ข้ายอมให้หัวหลุดจากบ่า! แล้วหากเจ้าผิดล่ะ?”
    เอี๋ยนหุยกล่าวว่า “หากท่านวินิจฉัยว่าข้าผิด ข้ายอมถูกปลดหมวก(ตำแหน่ง)” ทั้งสองจึงเกิดการเดิมพันขึ้น
    เมื่อขงจื้อสอบถามจนเกิดความกระจ่าง ก็ยิ้มให้กับเอี๋ยนหุยและกล่าวว่า “3x8ได้ 23 ถูกต้องแล้วเอี๋ยนหุย เธอแพ้แล้ว ถอดหมวกของเธอให้พี่ชายท่านนี้เสีย”

    เอี๋ยนหุย ไม่โต้แย้ง ยอมรับในการวินิจฉัยของท่านอาจารย์ จึงถอดหมวกที่สวมให้แก่ชายคนนั้น ชายผู้นั้นเมื่อได้รับหมวกก็ยิ้มสมหวังกลับไป

    ต่อคำวินิจฉัยของขงจื้อ ต่อหน้าแม้เอี๋ยนหุยจะยอมรับ แต่ในใจกลับไม่ได้คิดเช่นนั้น
    เอี๋ยนหุยคิดว่าท่านอาจารย์ชรามากแล้ว ความคิดคงเลอะเลือน จึงไม่อยากอยู่ศึกษากับขงจื้ออีกต่อไป
    พอรุ่งขึ้น เอี๋ยนหุยจึงเข้าไปขอลาอาจารย์กลับบ้าน ด้วยเหตุผลที่ว่าที่บ้านเกิดเรื่องราว ต้องรีบกลับไปจัดการ
    ขงจื้อรู้ว่าเอี๋ยนหุยคิดอะไรอยู่ ก็ไม่ได้สอบถามมากความ อนุญาตให้เอี๋ยนหุยกลับบ้านได้

    ก่อนที่เอี๋ยนหุยจะออกเดินทาง ได้เข้าไปกราบลาขงจื้อ ขงจื้อกล่าวอวยพรและให้รีบกลับมาหากเสร็จกิจธุระแล้ว
    พร้อมกันนั้นก็ได้กำชับว่า “อย่าแฝงเร้นกายใต้ต้นไม้ใหญ่ อย่าฆ่าผู้ใดหากไม่ชัดแจ้ง”
    เอี๋ยนหุยคำนับพร้อมกล่าวว่า “ศิษย์จะจำใส่ใจ” แล้วลาอาจารย์ออกเดินทาง
    เมื่อออกเดินทางไปได้ระยะหนึ่ง เกิดพายุลมแรงสายฟ้าแลบแปลบ เอี๋ยนหุยคิดว่าต้องเกิดพายุลมฝนเป็นแน่
    จึงเร่งฝีเท้าเพื่อจะเข้าไปอาศัยอยู่ไต้ต้นไม้ใหญ่ แต่ก็ฉุกคิดถึงคำกำชับของท่านอาจารย์ที่ว่า
    “อย่าแฝงเร้นกายใต้ต้นไม้ใหญ่ อย่าฆ่าผู้ใดหากไม่ชัดแจ้ง”
    เราเองก็ติดตามท่านอาจารย์มาเป็นเวลานาน ลองเชื่ออาจารย์ดูอีกสักครั้ง คิดได้ดังนั้น จึงเดินออกจากต้นไม้ใหญ่
    ในขณะที่เอี๋ยนหุยเดินไปได้ไม่ไกลนัก บัดดล สายฟ้าก็ผ่าต้นไม้ใหญ่นั้นล้มลงมาให้เห็นต่อหน้าต่อตา เอี๋ยนหุยตะลึงพรึงเพริด คำกล่าวของพระอาจารย์ประโยคแรกเป็นจริงแล้ว หรือตัวเราจะฆ่าใครโดยไม่รู้สาเหตุ?

    เอี๋ยนหุยจึงรีบเดินทางกลับ กว่าจะถึงบ้านก็ดึกแล้ว แต่ไม่กล้าปลุกคนในบ้าน เลยใช้ดาบที่นำติดตัวมาค่อยๆเดาะดาลประตูห้องของภรรยา เมื่อเอี๋ยนหุยคลำไปที่เตียงนอน ก็ต้องตกใจ ทำไมมีคนนอนอยู่บนเตียงสองคน!
    เอี๋ยนหุยโมโหเป็นอย่างยิ่ง จึงหยิบดาบขึ้นมาหมายปลิดชีพผู้ที่นอนอยู่บนเตียง
    เสียงกำชับของอาจารย์ก็ดังขึ้นมา “อย่าฆ่าผู้ใดหากไม่ชัดแจ้ง”

    เมื่อเขาจุดตะเกียง จึงได้เห็นว่า คนหนึ่งคือภรรยา อีกคนหนึ่งคือน้องสาวของเขาเอง
    พอฟ้าส่าง เอี๋ยนหุยก็รีบกลับสำนัก เมื่อพบหน้าขงจื้อจึงรีบคุกเข่ากราบอาจารย์และกล่าวว่า “ท่านอาจารย์ คำกำชับของท่านได้ช่วยชีวิตของศิษย์ ภรรยาและน้องสาวไว้ ทำไมท่านจึงรู้เหมือนตาเห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับศิษย์บ้าง?”

    ขงจื้อพยุงเอี๋ยนหุยให้ลุกขึ้น และกล่าวว่า “เมื่อวานอากาศไม่ค่อยสู้ดีนัก น่าจะมีฟ้าร้องฟ้าแลบเป็นแน่
    จึงเตือนเธอว่า อย่าแฝงเร้นกายใต้ต้นไม้ใหญ่
    และเมื่อวาน เธอจากไปด้วยโทสะ แถมยังพกดาบติดตัวไปด้วย
    อาจารย์จึ้งเตือนเธอว่า อย่าฆ่าผู้ใดหากไม่ชัดแจ้ง ”
    เอี๋ยนหุยโค้งคำนับ “ท่านอาจารย์คาดการดังเทวดา ศิษย์รู้สึกเคารพเลื่อมใสท่านเหลือเกิน”
    ขงจื้อจึงตักเดือนเอี๋ยนหุยว่า “อาจารย์ว่าที่เธอขอลากลับบ้านนั้นเป็นการโกหก ที่จริงแล้วเธอคิดว่าอาจารย์แก่แล้ว ความคิดเลอะเลือน ไม่อยากศึกษากับอาจารย์อีกแล้ว เธอลองคิดดูสิ อาจารย์บอกว่า 3x8ได้ 23 เธอแพ้ ก็เพียงแค่ถอดหมวก หากอาจารย์บอกว่า 3x8ได้ 24 เขาแพ้ นั่นหมายถึงชีวิตของคนๆหนึ่ง เธอคิดว่าหมวกหรือชีวิตสำคัญล่ะ? ”

    เอี๋ยนหุยกระจ่างในฉับพลัน คุกเข่าต่อหน้าขงจื้อ แล้วกล่าวว่า “ท่านอาจารย์เห็นคุณธรรมเป็นสำคัญ โดยไม่เห็นแก่เรื่องถูกผิดเล็กๆน้อยๆ ศิษย์คิดว่าอาจารย์แก่ชราจึงเลอะเลือน ศิษย์เสียใจเป็นที่สุด”

    จากนั้นเป็นต้นไป ไม่ว่าขงจื้อจะเดินทางไปยังแห่งหนตำบลใด เอี๋ยนหุยติดตามไม่เคยห่างกาย
    จากตำนานเรื่องเล่านี้ ทำให้ข้าพเจ้านึกถึงเพลงๆหนึ่งของอิวเค่อหลี่หลิน(นักร้องดูโอของไต้หวัน)
    ที่ร้องว่า “หากสูญเสียเธอไป ต่อให้เอาชนะทั้งโลกได้แล้วจะยังไง? เช่นกัน
    บางครั้งคุณอาจเอาชนะคนอื่นด้วยเหตุผลของคุณ
    แต่อาจจะสูญเสียสิ่งที่สำคัญที่สุดไป

    เรื่องราวต่างๆ แบ่งเป็นหนักเบารีบช้า อย่าเป็นเพราะต้องการเอาชนะให้ได้ แล้วทำให้เสียใจไปตลอดชีวิต
    เรื่องราวมากมายที่ไม่ควรทะเลาะกัน ถอยหนึ่งก้าวทะเลกว้างฟ้างาม

    ทะเลาะกับลูกค้า ต่อให้ชนะ ก็แพ้อยู่ดี (วันที่ส่งตัวอย่างผลิตภัณฑ์ใหม่ คุณก็จะรู้สึก)

    ทะเลาะกับเถ้าแก่ ต่อให้ชนะ ก็แพ้อยู่ดี (วันที่ตรวจผลงานปลายปีมาถึง คุณก็จะรู้สึก)

    ทะเลาะกับภรรยา ต่อให้ชนะ ก็แพ้อยู่ดี (เธอไม่สนใจคุณ คุณก็หากับข้าวกินเองละกัน)

    ทะเลาะกับเพื่อน ต่อให้ชนะ ก็แพ้อยู่ดี (เคลียร์ไม่ได้ คุณอาจจะเสียเพื่อนไปเลย)

    ใบชา เกิดสีสวยและกลิ่นหอมน่าลิ้มลองได้ ก็เพราะโดนน้ำร้อนลวก

    ชีวิตของคนเราก็เช่นเดียวกัน เพราะเผชิญกับอุปสรรคครั้งแล้วครั้งเล่า
    จึงเหลือไว้ซึ่งเรื่องราวเป็นตำนานให้ได้เล่าขานน่าตามติด
    ผู้ที่รู้สำนึกคุณอยู่เสมอ จึงเป็นผู้มีวาสนามากที่สุด
     
  19. Nar

    Nar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,154
    ค่าพลัง:
    +37,385
    ชีวิตกับการพึ่งตนเองในยามเจ็บป่วยด้วยแนวทางของหมอเขียว

    [​IMG]

    เรื่องราวที่น่าสนใจอยากนำมาลงเผยแพร่ สลับกับเรื่องราวของการทำบุญของ สโมสร
    เป็นความโชคดีของผมที่ได้มีโอกาสเข้าไปสัมผัส เรื่องราวของ หมอเขียว หรือ หมอใจเพชร กล้าจน
    เห็นว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ต่อมวลมนุษย์ชาติ สืบต่อจากนี้ไป จึงขอเอามาเผยแพร่ออกอากาศอีกทางหนึ่ง
    อาจเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย จะทะยอยค่อยๆเล่าไปทีละหน่อยก็แล้วกัน ด้วยสุขภาพของผู้เล่า อยู่ในช่วงซ่อมแซมให้คืนสภาพ
    สังขารไม่ต่างอะไรกับ รถยนต์ เรือ บ้านเรือน นานไปก็เสื่อมโทรม ผุพัง ก็ต้องซ่อม
    จะซ่อมได้หรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ต้องไปฟังเพลง ซ่อมได้ของเบิร์ดกระมังหนอ (เดี๋ยวมาต่อนะครับ)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF6166.jpg
      DSCF6166.jpg
      ขนาดไฟล์:
      143.8 KB
      เปิดดู:
      469
    • DSCF6155.jpg
      DSCF6155.jpg
      ขนาดไฟล์:
      127.9 KB
      เปิดดู:
      339
  20. Nar

    Nar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,154
    ค่าพลัง:
    +37,385
    ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ

    "อโรคยา ปรมาลาภา การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ" เป็นคำตรัสขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    [​IMG]

    พระเจ้าสุทโธทนะผู้มีพระราชบิดา และ พระญาติวงศ์ทั้งปวงปรารถนาที่จะให้เจ้าชาย
    สิทธัตถะเสด็จอยู่ครองราชสมบัติ มากกว่าที่จะให้เสด็จออกบรรพชาอย่างที่คำทำนายของพราหมณ์บาง
    ท่านว่าไว้ จึงพยายามหาวิธีผูกมัดพระโอรสให้เพลิดเพลินในกามสุขทุกอย่าง แต่เจ้าชายสิทธัตถะทรงมี
    พระอัธยาศัยเป็นนักคิดสมกับที่ทรงเกิดมาเป็นพระศาสดาโปรดชาวโลก จึงทรงยินดีในความสุขนั้นไม่
    นาน พอพระชนมายุมากขึ้นจนถึง ๒๙ ก็ทรงเกิดนิพพิทา คือ ความเบื่อหน่าย
    [​IMG]
    ต้นเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดความรู้สึกในพระทัยเช่นนั้น อยู่ที่ทรงเห็นสิ่งที่เรียกว่า เทวฑูต
    ทั้ง ๔ ระหว่างทางในวันเสด็จประพาสพระราชอุทยานนอกเมืองด้วยรถม้าพระที่นั่ง พร้อมด้วยสารถี
    คนขับ เทวฑูตทั้ง ๔ คือ คนแก่ คนเจ็บ คนตาย และนักบวช ทรงเห็นคนแก่ก่อน
    [​IMG]
    ปฐมสมโพธิบรรยายลักษณะของคนแก่ไว้ว่า "มีเกศาอันหงอก แลสีข้างก็คดค้อม กายนั้น
    ง้อมเงื้อมไปในเบื้องหน้า มือถือไม้เท้าเดินมาในระหว่างมรรควิถี มีอาการอันไหวหวั่นสั่นไปทั่วทั้งกาย
    ควรจะสังเวช..."
    [​IMG]
    ก็ทรงสังเวชสลดพระทัย เช่นเดียวกับเมื่อทรงเห็นคนเจ็บและคนตายในครั้งที่สอง และที่
    สาม เมื่อเสด็จประพาสพระราชอุทยาน ทรงปรารภถึงพระองค์ว่าจะต้องเป็นอย่างนั้น ทรงพระดำริว่า
    สภาพธรรมดาในโลกนี้ย่อมมีสิ่งตรงกันข้ามคู่กัน คือ มีมืดแล้ว มีสว่าง มีร้อน แล้วมีเย็น เมื่อมีทุกข์
    ทางแก้ทุกข์ก็น่าจะมี
    [​IMG]
    ในคราวเสด็จประพาสพระราชอุทยานครั้งที่ ๔ ทรงเห็นนักบวช "นุ่งห่มผ้ากาสาวพัสตร์
    กอปรด้วยอากัปกิริยาสำรวม..."
    [​IMG]
    เมื่อทรงเห็นนักบวชก็ทรงเกิดพระทัยน้อมไปในทางบรรพชา ทรงรำพึงในพระทัยที่เรียก
    อีกอย่างหนึ่ง ทรงเปล่งอุทานออกมาว่า "สาธุ ปัพพชา" สองคำนี้เป็นภาษาบาลี แปลให้ตรงกับสำนวน
    ไทยว่า "บวชท่าจะดีแน่" แล้วก็ตัดสินพระทัยว่า จะเสด็จออกบวชตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
    ..................................................................................................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 20 กุมภาพันธ์ 2011

แชร์หน้านี้

Loading...