ระเบิดสนั่นกรุงส่งท้ายปีใหม่ 5 จุด เจ็บกว่า 20 ราย

ในห้อง 'ข่าวทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 31 ธันวาคม 2006.

  1. obwan

    obwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +517
    ปีใหม่เป็นเทศกาลแห่งความสุข ไม่น่ามีคนทำแบบนี้เลย
    เสียบรรยากาศของเทศกาลส่งความสุขหมดเลย
    กลายเป็นเรื่องน่าเศร้า ><"
     
  2. WCH

    WCH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +154
    กรรมจะตามทันเองครับ!!!!!!!!!
     
  3. Khunkik

    Khunkik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2006
    โพสต์:
    2,150
    ค่าพลัง:
    +18,072
    สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
    มีกรรมเป็นเครื่องกำเนิด กรรมเป็นเครื่องก่อเกิด
    ใครทำอะไรไว้ก็ย่อมได้รับกรรมนั้น
     
  4. Catt Bewer

    Catt Bewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,768
    ค่าพลัง:
    +16,673
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="100%"><TBODY><TR><TD>พฐ.สรุประเบิดเวลาแอมโฟร์ เร่งคลี่ปมIRK

    คมช.เชื่อคนร้ายเขียนลวง ในหลวง-ราชินีให้กำลังใจ

    </TD><TD vAlign=top align=right>
    [​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#f8b8cb><TD>[​IMG]
    สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมให้กำลังใจผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ จากเหตุระเบิดในเขตกรุงเทพมหานคร และพระราชทานสิ่งของให้แก่ญาติของผู้ไดัรับบาดเจ็บ ที่ตึกสิรินธร โรงพยาบาลราชวิถี เมื่อวันที่ 1 มกราคม

    </TD></TR></TBODY></TABLE>นิติวิทยาศาสตร์ ตร. สรุปหลักฐานบึ้ม กทม. 8 แห่งเหมือนกัน เป็นชนิดแสวงเครื่อง"แอมโฟร์" จุดชนวนด้วยนาฬิกาดิจิตอลยี่ห้อคาสิโอ ใช้ตะปูกับตลับลูกปืนเป็นสะเก็ดระเบิด พบอักษร IRK เขียนทิ้งที่เกิดเหตุ 4 จุด เชื่อกลุ่มเดียวกัน เร่งคลี่ปม"ป่วนใต้-อำนาจเก่า"ลงมือ ด้าน คมช.ไม่เชื่อมาจาก 3 จว.ใต้ ชี้"ไออาร์เค"เขียนเบี่ยงประเด็น



    **ผู้ว่าฯกทม.สั่งงดตักบาตรสนามหลวง

    นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ร่วมกับ นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสรรต์ ปลัด กทม. เรียกประชุมผู้บริหาร และผู้อำนวยการเขตทั้ง 50 เขต หลังเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิด 7 จุด ทั่ว กทม. เมื่อวันส่งท้ายปีเก่า 31ธันวาคม 2549 ที่ผ่านมาจนทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บกว่า 30 ราย ที่ศาลาว่ากรุงเทพมหานคร เมื่อ เวลา 09.00 น. วันที่ 1 มกราคมว่า ทาง กทม.เร่งมาตรการรักษาความปลอดภัย ประสานกับ พล.ท.ประยุทธ จันทรโอชา แม่ทัพภาคที่ 1 และ และ พล.ต.ท.วิโรจน์ จันทรังษี ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) จะให้ตำรวจ ทหาร เข้าไปประจำจุดเสี่ยงต่างๆ ที่มีการจัดงานเฉลิมฉลอง และทาง กทม.ยังสั่งงดการจัดงานฉลองปีใหม่ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ที่บริเวณหน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์ และท้องสนามหลวง รวมถึงเช้าวันนี้ (1 มกราคม) ที่งดงานทำบุญตักบาตรที่บริเวณท้องสนามหลวง และจะไปประชุมกับ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อประเมินสถานการณ์ต่อไป

    **เก็บถังขยะ-ให้ปชช.ใส่ถุงดำแทน

    นายอภิรักษ์กล่าวว่า จะมีทหารประจำตามจุดสำคัญต่างๆ จึงขอร้องไม่ให้ประชาชนตกใจ และหากพบเห็นสิ่งผิดปกติให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่โดยตรง จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าวัตถุระเบิดที่ใช้ก่อเหตุทั้งหมด เป็นวัตถุระเบิดที่มีความคล้ายคลึงกัน ขณะนี้ กทม.ได้เก็บถังขยะที่ตั้งวางอยู่ริมถนนใหญ่และซอยต่างๆ ออกหมดแล้วเพื่อป้องกันไม่ให้มีการซุกซ่อนระเบิดไว้ภายใน จึงขอให้ประชาชนนำขยะใส่ถุงดำไว้วางไว้ในบริเวณที่ถังขยะจุดเดิม ทั้งนี้ กทม.จะส่งเจ้าหน้าที่หมุนเวียนจัดเก็บถี่ขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายแรง

    **หารือด่วนงานวันเด็กยกเลิกหรือไม่

    นายพงศ์ศักติฐ์กล่าวว่า ย้ำให้ผู้อำนวยการเขตเฝ้าระวังอาคารสำนักงานเขตและสถานที่ราชการอย่างเข้มงวด ให้ตรวจตราบุคคลผ่านเข้าออกและวัตถุสิ่งของต่างๆใกล้ชิด หากพบเห็นสิ่งผิดปกติหรือวัตถุต้องสงสัยให้ประสานแจ้งหน่วยงานเก็บกู้วัตถุระเบิดทันที ทั้งนี้ ต้องกันประชาชนและผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องออกนอกพื้นที่เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด และให้สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเตรียมกำลังคนและยานพาหนะพร้อมรับมือตลอด 24 ชม. ส่วนสำนักการแพทย์และโรงพยาบาลของ กทม.ต้องเตรียมพร้อมเรื่องแพทย์ พยาบาลและเครื่องมือต่างๆ ไว้รับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นได้เช่นกัน

    "สำหรับการจัดงานวันเด็กในวันเสาร์สัปดาห์ที่ 2 ของปีนี้นั้น เดิมที กทม.จะจัดขึ้นที่สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) ขณะที่หน่วยงานราชการ และบริษัทเอกชนหลายแห่งจะกระจายจัดงานกันทั่ว กทม.โดยจะมีการนำเรื่องนี้หารือกันอย่างละเอียด หากได้ข้อยุติว่าควรยกเลิกจะได้ประสานไปยังผู้จัดงานทันที" นายพงศ์ศักติฐ์กล่าว

    **สมเด็จพระเทพฯทรงห่วงเหตุระเบิด

    ก่อนหน้านี้ เวลา 07.00 น. พล.ต.ท.วิโรจน์ จันทรังษี ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.นิพนธ์ ภุมรินทร์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ ผู้บังคับการตำรวจปฏิบัติการพิเศษ (ผบก.ตปพ.) เข้าเฝ้าฯถวายพระพรสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ณ วังสระปทุม เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ โดยสมเด็จพระเทพฯได้แสดงความเป็นห่วงใยต่อเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพฯ ทรงรับสั่งให้กำลังใจว่า "ผู้ร้ายก็คือผู้ร้าย ไม่รู้ว่าจะจับได้หรือเปล่า ตำรวจนครบาลต้องทำงานกันเหนื่อยมากหน่อยนะในช่วงนี้"

    **โฆษกตร.สรุปลอบบึ้ม8แห่งตาย3

    ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เวลา 11.30 น. พล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและโฆษก ตร. แถลงข่าวเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิด 8 แห่งในพื้นที่กรุงเทพฯ และ จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม ที่ผ่านมาว่า ช่วงเวลาที่เกิดเหตุ 6 จุดแรก เกิดขึ้นระหว่างเวลา 18.10-18.30 น. จุดแรกบริเวณป้ายรถเมล์ภัตตาคารพงษ์หลี ใกล้ห้างเซ็นเตอร์วัน อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ท้องที่ สน.พญาไท มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 17 ราย ผู้เสียชีวิต 2 ราย คือ นายสงกรานต์ กาญจนะ และนายเอกชัย เรือพุ่ม จุดที่ 2 ป้อมสัญญาณไฟจราจรสี่แยกสะพานควาย ท้องที่ สน.บางซื่อ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย จุดที่ 3 ป้อมตำรวจจราจรสี่แยกแคราย อ.เมือง จ.นนทบุรี ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่ป้อมได้รับความเสียหายเล็กน้อย จุดที่ 4 ป้อมตำรวจจราจร ซ.สุขุมวิท 62 ท้องที่ สน.บางนา ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ รถยนต์ประชาชนเสียหาย 1 คัน จุดที่ 5 ตลาดสดคลองเตย 2 ท้องที่ สน.ท่าเรือ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 7 ราย ผู้เสียชีวิต 1 รายคือ นายสุวิชัย นาคเอี่ยม อายุ 61 ปี จุดที่ 6 ลาดจอดรถจักรยานยนต์ ห้างซีคอนสแควร์ ท้องที่ สน.ประเวศไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

    **เจ็บ38รายต่างชาติ9-คนไทย29

    "สำหรับเหตุระเบิดอีก 2 แห่งสุดท้าย เกิดขึ้นในท้องที่ สน.ลุมพินี ช่วงเวลา 00.05 น. วันที่ 1 มกราคม 2550 จุดที่ 7 บริเวณตู้โทรศัพท์ ห้างเกสรพลาซ่าตรงข้ามเซ็นทรัลเวิลด์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 10 ราย ถัดมาอีกไม่กี่นาทีก็เกิดเหตุจุดที่ 8 บริเวณท่าเทียบเรือประตูน้ำ เชิงสะพานเฉลิมโลก มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย สรุปยอดผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 38 ราย มีผู้เสียชีวิต 3 ราย แยกเป็นชาวต่างชาติบาดเจ็บ 9 ราย ส่วนคนไทยบาดเจ็บ 29 ราย และเสียชีวิต 3 ราย" โฆษก ตร.ระบุ

    **บึ้มมัสยิดเชียงใหม่ไม่เกี่ยวกทม.

    พล.ต.อ.อชิรวิทย์กล่าวว่า ล่าสุด ได้รับรายงานเมื่อเวลา 09.30 น. วันเดียวกันนี้ ( 1 มกราคม) ว่า เกิดเหตุระเบิดที่มัสยิดสุเหร่าช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ขณะที่นายนาซิส อาหมัด สัญชาติพม่า เข้าไปละหมาด จึงเกิดระเบิดขึ้นทำให้ผนังสุเหร่าได้รับความเสียหายเล็กน้อย ซึ่งกองวิทยาการเขต 13 จ.เชียงใหม่ ระบุเป็นระเบิดที่ประกอบขึ้นเอง เบื้องต้นไม่พบว่าเกี่ยวพันกับเหตุระเบิดในกรุงเทพฯและจ.นนทบุรี แต่อย่างใด

    **ชี้เป็นระเบิด"M4"มุ่งทำร้ายให้บาดเจ็บ

    "ได้รับรายงานจากกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) สำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ (สนว.) ระบุการตรวจสอบสภาพที่เกิดเหตุและซากระเบิดทั้ง 8 จุด เป็นระเบิดแบบเดียวกันคือระเบิดแรงดันสูง มีสารประกอบของ แอมโมเนียมไนเตรท หรือ เอ็มโฟร์ ( M4) ซึ่งถูกบรรจุอยู่ในกล่องเหล็กขนาดกว้าง-ยาว 3X5 นิ้ว หนา 1 นิ้ว พร้อมสะเก็ดระเบิดที่ทำด้วยตลับลูกปืน ที่ใช้ในรถยนต์และเศษตะปูโดยใช้นาฬิกาดิจิตอลเป็นตัวจุดระเบิด ไม่ใช่โทรศัพท์มือถือซึ่งสันนิษฐานรัศมีการทำลายล้างเพียงเพื่อต้องการทำร้ายประชาชนให้ได้รับบาดเจ็บ" รอง ผบ.ตร.กล่าว

    **ชี้จุดบึ้ม"เกสรพลาซ่า"มีวงจรปิด

    เมื่อถามว่า ลักษณะระเบิดเป็นแบบเดียวกับการก่อเหตุในภาคใต้หรือไม่ พล.ต.อ.อชิรวิทย์กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ ลักษณะการประกอบระเบิดและการวางระเบิดครั้งนี้จะเป็นเทคนิควิธีของกลุ่มใดก็ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ ต้องรอให้ผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดจากหน่วยเก็บกู้ระเบิดของกองพลาธิการและสรรพาวุธ ตรวจวิเคราะห์อย่างละเอียดอีกครั้ง จึงจะชี้ชัดได้ว่าผู้ที่ประกอบระเบิดนั้นต้องมีความเชี่ยวชาญมากน้อยเพียงใด คาดว่าพรุ่งนี้น่าจะมีคำตอบที่ชัดเจนกว่านี้

    "ทราบว่าบริเวณจุดเกิดเหตุห้างเกสรพลาซ่าใกล้เซ็นทรัลเวิลด์ มีภาพบันทึกจากล้องวงจรปิดมาช่วยในการสอบสวน แต่เหตุระเบิดเมื่อคืนที่ผ่านมาไม่มีการแจ้งเตือนด้านการข่าวมาก่อน" โฆษก ตร.กล่าว

    **พบอักษร"IRK"ในที่เกิดเหตุ 4 แห่ง

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 12.00 น. พล.ต.อ.อชิรวิทย์เข้าฟังสรุปการวิเคราะห์พยานหลักฐานที่ได้จากที่เกิดเหตุทั้ง 8 จุด ที่ห้องประชุมสำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ตำรวจ (สนว.) มี พล.ต.ท.เอก อังสนานนท์ ผู้บัญชาการสำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ตำรวจ (ผบช.สนว.) พล.ต.ต.แสงชัย สุวัฒนภักดี ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐาน (ผบก.พฐ) และเจ้าหน้าที่วิทยาการบรรยายสรุป ซึ่งภายหลังการสรุปมีการตั้งข้อสังเกตว่าในที่เกิดเหตุหลายจุดมีการเขียนสัญลักษณ์บางอย่างด้วยปากกาเมจิกสีดำ ลักษณะคล้ายภาษาอังกฤษคือ (IRK) เขียนติดกันในที่เกิดเหตุ 4 แห่งใน 3 จุดเกิดเหตุ คือ 1.เสาศาลาพักรอรถโดยสารประจำทาง บริเวณอนุสาวรีย์ชัยฯ 2.ข้างตู้โทรศัพท์ หน้าห้างเกษรพลาซ่า และ 3.ตัวเครื่องและที่ข้างตู้โทรศัพท์ท่าเรือประตูน้ำ และ 4.ตู้โทรศัพท์บริเวณหน้าห้างบิ๊กซี สาขาราชดำริ ซึ่งอยู่ระหว่างท่าเรือประตูน้ำและห้างเกษรพลาซ่า <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#f8b8cb><TD>[​IMG]
    รับเคราะห์ - เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยกำลังช่วยเหลือนักท่องเที่ยวต่างด้าวที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิด โดยนำส่งตัวรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ เมื่อค่ำวันที่ 31 ธันวาคมที่ผ่านมา (เอเอฟพี)

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    **เจอชิ้นรองเท้าผ้าใบ-นาฬิกาข้อมือ

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.เอกสั่งการให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบว่ามีสัญลักษณ์แบบเดียวกันนี้ตามจุดที่เกิดเหตุอีก 5 แห่งหรือไม่ เพื่อหาว่าจะเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกความเชื่อมโยงกับสถานการณ์กันทั้ง 8 จุดหรือไม่ หรืออาจเป็นเพียงความบังเอิญที่กลุ่มวัยรุ่นขีดเขียนเล่นเท่านั้น แต่ทั้งนี้จะต้องใช้วิธีการทางนิติวิทยาศาสตร์ว่าตัวเขียนทั้งหมดเขียนด้วยหมึกชนิดเดียวกัน และเวลาใกล้เคียงกันหรือไม่ และสั่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบรอยนิ้วมือแฝงของคนร้ายและที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง

    นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ พฐ. ยังพบชิ้นส่วนรองเท้าผ้าใบแบบหุ้มข้อ ยี่ห้อเบรกเกอร์ (BREAKER) สีเขียวเข้มพร้อมถุงเท้า และนาฟิกาข้อมือ ซึ่งได้ในที่เกิดเหตุ สันนิษฐานว่าผู้ก่อเหตุได้ซุกซ่อนมาพร้อมกับวัตถุระเบิดด้วย

    **ระบุพบยี่ห้อคาสิโอ-ตะปูทุกจุดบึ้ม

    ด้าน พล.ต.ท.เอกกล่าวว่า วัตถุพยานที่พบ ไม่ว่าจะเป็นตะปู นาฬิกาข้อมือยี่ห้อคาสิโอเป็นชนิดเดียวกัน น่าจะมาจากแหล่งผลิตเดียวกัน โดยเฉพาะนาฬิกาข้อมือยี่ห้อคาสิโอกำลังตรวจสอบว่าเป็นรุ่นเดียวกับที่คนร้ายใช้ก่อเหตุใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่ ส่วนพยานหลักฐานอีกชิ้นที่พบคือสัญลักษณ์อักษรที่พบตามจุดเกิดเหตุมีลักษณะคล้ายคำว่า IRK มีการจับคู่ที่เหมือนกันมากตรงกันได้ 1 คู่ คือที่ เสาไฟบริเวณแยกอนุสาวรีย์ชัย กับที่ตู้โทรศัพท์หน้าห้างเกษรพลาซา นอกจากนี้ ยังเก็บลายนิ้วมือแฝงมาตรวจสอบ โดยเก็บจากสายนาฬิกาข้อมือกับที่กรอบบานประตูตู้โทรศัพท์หน้าห้างเกษร และยังได้รับความร่วมมือและช่วยเหลือจากนักวิทยาศาสตร์จากประเทศญี่ปุ่นมีความเชี่ยวชาญในการเก็บภาพถ่ายในที่เกิดเหตุมาวิเคราะห์

    **เชื่อฝีมือกลุ่มเดียวกันก่อเหตุทั้งหมด

    ด้าน พล.ต.ต.แสงชัยกล่าวว่า จากหลักฐานที่เก็บได้ในที่เกิดเหตุทั้ง 8 แห่ง ทั้งตลับลูกปืนที่เป็นชนิดเดียวกันทั้งหมด ตะปูขนาดครึ่งนิ้วสีดำ เหมือนกันแทบทุกที่ ก็พอจะเชื่อมโยงได้ว่ากลุ่มที่ก่อเหตุเป็นกลุ่มเดียวกัน โดยจากวัตถุพยานที่เก็บได้พบว่าเป็นระเบิดชนิดเอ็มโฟร์จุดระเบิดด้วยถ่านขนาด 9 โวลท์ เชื่อมสัญญาณระเบิดด้วยเสียงนาฬิกาปลุกติจิตอล อย่างไรก็ตาม ต้องส่งหลักฐานข้อมูลระเบิดที่ได้ส่งให้ผู้เชี่ยวชาญของหน่วยสรรพาวุธชี้ชัดอีกครั้ง

    **มุ่ง2กลุ่มลงมือ"ป่วนใต้-อำนาจเก่า"

    รายงานข่าวจากพนักงานสอบสวน แจ้งว่า จากการสอบสวนพื้นที่เกิดเหตุพบว่า ทั้ง 8 จุดมีอุปกรณ์คือ นาฬิกายี่ห้อคาสิโอ และตะปูขนาด 1.5 ซม. เหมือนกันหมด แสดงว่ากลุ่มคนที่ประกอบระเบิดชนิดนี้เป็นคนกลุ่มเดียวกัน และกระจายกันไปวางตามจุดต่างๆ โดยรูปแบบดังกล่าวมีความคล้ายคลึงกับการวางระเบิดใน 3 จังหวัดภาคใต้ ที่จะมีนาฬิกาและตะปูอยู่ในที่เกิดเหตุ ฉะนั้น หากเป็นกลุ่มอำนาจเก่าที่วางระเบิดครั้งนี้ ก็แสดงว่ามีความพยายามที่จำลองสถานการณ์ให้เหมือนกับที่เกิดใน 3 จังหวัดภาคใต้

    **"ภาณุพงศ์-จงรัก"หน."สืบ-สอบ"

    ต่อมาเวลา 15.00 น. ที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติฝ่ายป้องกันปราบปรามอาชญากรรม (รอง ผบ.ตร.ปป.) เรียกประชุมตำรวจฝ่ายสืบสวน สอบสวน ป้องกันปราบปราม เพื่อคลี่คลายคดีลอบวางระเบิดทั้ง 8 แห่งอีกครั้ง มี พล.ต.อ.อชิรวิทย์ พล.ต.ท.จงรัก พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ต.เจตน์ มงคลหัตถี รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมประชุม

    พล.ต.อ.อชิรวิทย์กล่าวว่า ที่ประชุมแบ่งงานด้านการสืบสวนและสอบสวน โดยให้ พล.ต.ท.ภาณุพงศ์เป็นหัวหน้าชุดสืบสวน ส่วนด้านสอบสวนให้ พล.ต.ท.จงรัก และ พล.ต.ต.เจตน์ เป็นหัวหน้าและรองหัวหน้าทีมสอบสวน ภายใต้การกำกับดูแลของ พล.ต.อ.พัชรวาท สำหรับการแถลงข่าวนั้นให้ พล.ต.อ.อิสระพันธ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รอง ผบ.ตร.ฝ่าบกฎหมายและสอบสวน ส่วนกรณีใดที่เกี่ยวกับความมั่นคงนั้นให้ไปสอบถามกับทาง กอ.รมน. (กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน) โดยตำรวจจะพูดเฉพาะงานในหน้าที่ จะไม่วิพากษ์วิจารณ์เกินกรอบที่มีอยู่

    "ทั้งนี้ ในส่วนการรักษาความปลอดภัยนั้น พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร. กำชับให้ตรวจตราเข้มทุกพื้นที่ โดยเฉพาะจุดที่ต้องเฝ้าระวัง กำลังตำรวจที่มีอยู่ได้สนธิกำลังทั้งหมด ทั้งจากนครบาลที่รับผิดชอบพื้นที่ สันติบาล และสอบสวนกลาง เข้าดูแลพื้นที่และหาข่าว ส่วนทหารจะเข้ามาร่วมดูแลพื้นที่ด้วยหรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับทหารเนื่องจากช่วงนี้ยังอยู่ในช่วงของการประกาศกฎอัยการศึก" พล.ต.อ.อชิรวิทย์กล่าว

    **หมอพรทิพย์แย้งบึ้มไม่เหมือนป่วนใต้

    ด้าน พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ รักษาการผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า หลังเกิดเหตุระเบิดได้รับคำสั่งจาก คมช. ผ่านมาทางปลัดกระทรวงยุติธรรม ให้ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ คือที่ห้างเกษร พลาซ่า ห้างบิ๊กซี เซ็นทรัลเวิลด์ พลาซ่า และสะพานเฉลิมโลก บริเวณที่มีกำหนดจัดงานเคานท์ดาวน์ แต่กลับไม่ได้รับความร่วมมือจากตำรวจเท่าที่ควร แต่จากที่ดูตามพฤติการณ์ใน 4 จุดดังกล่าว มองว่าไม่เหมือนกับการก่อเหตุใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะเหตุใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คนร้ายจะใช้ระเบิดแสวงเครื่องเป็นส่วนใหญ่ แต่ที่พบเหตุระเบิดทั้ง 4 จุดในครั้งนี้ไม่ได้บรรจุตะปูหรืออุปกรณ์แสวงเครื่องไว้ แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้ยืนยันว่าไม่ใช่กลุ่มคนร้ายใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาก่อเหตุ

    **ระเบิดบังคับทิศทางได้-ตัวหนังสือแตกต่าง

    "จากที่เข้าตรวจสอบเหตุระเบิดใน 4 จุดนี้ มีความแปลกตรงที่เป็นระเบิดที่สามารถบังคับทิศทางได้ โดยเหตุระเบิดที่ตู้โทรศัพท์ข้างห้างเกษร พลาซ่า นั้น ทิศทางมุ่งมาที่ห้างเซ็นทรัล เวิลด์ พลาซ่า ส่วนเหตุระเบิดที่สะพานเฉลิมโลก ที่มีชาวต่างชาติบาดเจ็บขาขาดนั้น ทิศทางมุ่งมายังประตูน้ำ ส่วนเหตุระเบิดที่หน้าห้างบิ๊กซี ตำรวจสามารถเก็บกู้ได้ทันก่อนระเบิด และที่หน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์ พลาซ่า เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ปืนยิงตัดวงจรได้ทัน ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าเหตุระเบิดที่สะพานเฉลิมโลก คนร้ายได้พ่นหรือเขียนด้วยหมึกสีเข้ม ไม่แน่ใจว่าเป็นสีเขียวหรือสีน้ำเงิน เป็นภาษายาวี ซึ่งดิฉันอ่านไม่ออก แต่จากการสอบถามทหารที่เคยประจำอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เข้าร่วมตรวจสอบด้วย บอกว่าตัวหนังสือไม่เหมือนกับคนร้ายที่ก่อเหตุใน 3 จังหวัดชายแดนใต้" พญ.คุณหญิงพรทิพย์ระบุ

    **"สุรยุทธ์"สั่งภาค1เสริมกำลังสถานที่สำคัญ

    แหล่งข่าวจากกองทัพบก เปิดเผยว่า ที่ประชุมหน่วยงานข่าวด้านความมั่นคงที่ กอ.รมน.เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงความเป็นห่วงกับเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดพร้อมกันหลายจุดในพื้นที่ กทม. จึงสั่งการให้หน่วยงานด้านความมั่นคงระมัดระวัง และป้องกันเหตุการณ์ ซ้ำรอยที่อาจจะเกิดขึ้นได้ สำหรับมาตรการป้องกันจะให้ทางกองทัพภาคที่ 1 จัดกำลังเข้าไปเสริมตำรวจเพื่อดูแลความปลอดภัยตามสถานที่สำคัญๆ เบื้องต้นทางทหารจะยังคงใช้แผน "ปฐพี 149" ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะใช้แผน "พิทักษ์เมือง" ในการควบคุมดูแลสถานการณ์

    **คมช.เชื่อทิ้ง"ไออาร์เค"เบี่ยงประเด็น

    ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 15.00 น. ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.สนธิ บุญยรัตนกลิน ผบ.ทบ. และประธาน คมช. เรียกประชุม คมช.นัดพิเศษทันที ภายหลังเดินทางกลับจากประเทศซาอุดีอาระเบีย จากนั้นแถลงว่า สำหรับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องน่าเสียใจ จากการประเมินดูแล้วพบว่า ยังไม่มั่นใจว่าเชื่อมโยงปัญหาภาคใต้จะกลับขึ้นมาด้านบนนี้หรือไม่ แต่จากเหตุผลหลักการแล้ว ไม่น่าจะเชื่อมโยงกัน

    แหล่งข่าว คมช.กล่าวว่า ส่วนกรณีที่มีอักษร "IRK" ซึ่งหมายถึงกลุ่มกองกำลังปฏิวัติที่ถูกฝึกให้เป็นหน่วยจรยุทธ์ในเมือง โดยได้รับการฝึกจากประเทศอัฟกานิสถาน ทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุนั้น เป็นการพยายามเบี่ยงเบนประเด็นของผู้กระทำเพื่อให้เข้าใจผิดว่าเป็นกระทำของกลุ่มผู้ก่อการร้าย ซึ่งจากการตรวจสอบวัตถุระเบิด และการกระทำที่เกิดขึ้นไม่มีสิ่งใดบ่งบอกว่าเป็นฝีมือของกลุ่มการร้าย เพราะการก่อเหตุของกลุ่มนี้จะต้องมีเหตุผลและมีอุดมการณ์ ไม่ใช่ทำโดยไม่มีเหตุผลเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุขึ้นทาง คมช.ได้รับรายงานข่าวแจ้งเตือนมาเช่นกันว่าจะเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบขึ้น ซึ่งได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารระมัดระวังไว้อยู่แล้ว แต่เนื่องจากไม่สามารถล่วงรู้ได้ว่าผู้ก่อเหตุจะก่อเหตุเมื่อไรที่ไหน จึงทำให้ไม่สามารถป้องกันการระเบิดได้ทันท่วงที <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#f8b8cb><TD>[​IMG]
    ปริศนา - ตัวอักษรย่อ IRK เขียนด้วยปากกาเมจิกสีดำ ที่พนักงานพิสูจน์หลักฐานตรวจพบในที่เกิดเหตุ 4 แห่ง ใน 3 จุดเกิดเหตุระเบิด กทม. ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบว่ามีความเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดใน กทม. เมื่อค่ำวันที่ 31 ธันวาคม หรือกลุ่มวัยรุ่นเขียนเล่น

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    **โฆษกคมช.ให้ข้อมูลโทร.แจ้งบึ้ม

    พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวว่า ขอความร่วมมือจากประชาชนในการสังเกต และระวังวัตถุต้องสงสัยที่อาจเป็นระเบิดแสวงเครื่องโดยสังเกตคือ ระเบิดแสวงเครื่องเหมือนกับวัสดุ หรือของใช้ทั่วไป แต่ถ้าเป็นวัตถุที่ไม่มีเจ้าของลักษณะภายนอกผิดไปจากรูปเดิม และเป็นวัตถุที่ไม่เคยพบเห็น ให้นึกไว้เสมอว่า "วัตถุต้องสงสัยนั้น อาจจะเป็นระเบิดแสวงเครื่อง" ต้องห้ามจับต้องหรือเคลื่อนไหวโดยเด็ดขาด ขณะเดียวกันจดจำลักษณะทั่วไปของวัตถุต้องสงสัยเพื่อเป็นข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิด และอพยพผู้คนออกนอกอาคารสถานที่นั้นโดยด่วน กำหนดเขตอันตรายระยะตั้งแต่ 100-400 เมตร โดยแจ้งได้ที่ 191 หรือ ศูนย์บรรเทาสาธาณภัยกองทัพบก โทร.0-2297-7648-9 ร่วมด้วยช่วยกัน โทร.1677 จส.100 โทร.1137 หรือ หน่วยทหารใกล้บ้าน

    **กองปราบฯขยายผลจับน.ศ.3จว.ใต้

    ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เวลา 13.00 น. พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ พล.ต.ท.มนตรี จำรูญ ผบช.ก. เรียกตำรวจในสังกัด บช.ก.ประชุมเพื่อหาแนวทางการสืบสวนหาตัวคนร้ายและแนวทางการป้องกันเหตุร้ายในแต่ละพื้นที่รับผิดชอบ ในส่วน บก.ป.เรียกประชุมรอง ผบก.-ผกก.ทุกนาย โดยมุ่งเน้นไปหากลุ่มเป้าหมายสำคัญซึ่งเป็นนักศึกษาเครือข่าย 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เคยถูกจับกุมหลังออกมาเคลื่อนไหว

    ส่วนเวลา 16.00 น. ที่ บช.น. พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร. ประชุมร่วมกับตำรวจนครบาล มี ผบช.น.พร้อมคณะเพื่อรับฟังสรุปสถานการณ์ การเกิดเหตุระเบิดใน กทม. พร้อมกับให้พนักงานสอบสวนทำงานไปตามพยานหลักฐานที่มี

    **ผู้เชี่ยวชาญระบุเป็นชนิดแอมโฟร์

    ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิด จากหน่วยเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด ระบุถึงความแตกต่างระหว่างระเบิดซีโฟร์และแอมโฟร์ว่า ระเบิดสองชนิดมีความแตกต่างกัน จากหลักฐานที่มีการตรวจพบในที่เกิดเหตุลอบวางระเบิดนั้นเบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นระเบิดชนิดแอมโฟร์ หรือระเบิดแสวงเครื่องนั่นเอง คือประกอบขึ้นเอง โดยใช้แอมโมเนียมไนเตรต หรือยูเรีย บรรจุดินระเบิดและต่อสายเชื้อประทุ เพื่อให้ระเบิดทำงาน โดยระเบิดชนิดนี้จะผสมทั้งแอมโมเนียมไนเตรตและดินระเบิดในกล่อง ใส่ตะปู หรือเศษแก้ว ลูกเหล็ก เพื่อทำเป็นสะเก็ดระเบิด ต่อเชื้อปะทุชนิดต่างๆ ให้ระเบิดทำงาน โดยมากระเบิดชนิดแอมโฟร์นี้หากมีการผสมน้ำมันดีเซลเข้าไปด้วยจำนวนมากก็จะคล้ายระเบิดเพลิง มีไฟลุกท่วม แต่สำหรับระเบิดซีโฟร์นั้น เป็นระเบิดมาตรฐาน สำเร็จรูปจากโรงงาน มีลักษณะเหนียว คล้ายดินน้ำมัน ปั้นได้ ใช้งานโดยต่อกับเชื้อประทุและต่อสายชนวน

    **โฆษกรบ.มั่นใจหลักฐานสาวถึงตัวการ

    ที่ กอ.รมน. ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาชี้แจงหลังการประชุมร่วมหน่วยงานความมั่นคงว่า รัฐบาลเพิ่มมาตรการด้านการป้องกันเหตุร้ายอย่างเต็มที่ และเร่งสอบสวนหาผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้โดยเร็ว ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่ากลุ่มบุคคลใดอยู่เบื้องหลังครั้งนี้ แต่เชื่อมั่นว่า ด้วยข้อมูลหลักฐานต่างๆ ที่รวบรวมได้ จะสามารถชี้ชัดถึงตัวผู้ก่อเหตุได้ในที่สุด

    "รัฐบาลได้ประสานโรงพยาบาลต่างๆ ซึ่งให้การดูแลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตให้การรักษาพยาบาลบุคคลดังกล่าวโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย รวมถึงการมอบเงินช่วยเหลือให้แก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ" โฆษกรัฐบาลกล่าว

    **วอนปชช.เป็นหูเป็นตาอย่าตระหนก

    ร.อ.นพ.ยงยุทธกล่าวว่า รัฐบาลใคร่ขอให้ประชาชนให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่แก่เจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน ดังต่อไปนี้ 1.โปรดอย่าตื่นตระหนกต่อเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ขอให้ดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท 2.ช่วยกันเป็นหูเป็นตา สอดส่องดูแลสิ่งผิดปกติ 3.รายงานให้เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงทราบในทันทีที่พบการกระทำหรือสิ่งอันส่อพิรุธ โดยสามารถติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ที่ Call Center สำนักนายกรัฐมนตรี หมายเลขโทรศัพท์ 1111 ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพบก หมายเลขโทรศัพท์ 0-2297-7648-9 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมายเลขโทรศัพท์ 191 ศูนย์รับเรื่องราว กทม. หมายเลขโทรศัพท์ 1555

    ร.อ.นพ.ยงยุทธกล่าวว่า การก่อเหตุร้ายในครั้งนี้ เป็นการกระทำของกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่ต้องการสร้างความแตกแยก รัฐบาลจึงใคร่ขอให้ประชาชนได้ร่วมผนึกกำลังความสามัคคี ร่วมแรงร่วมใจกันเป็นหนึ่งเดียว และให้ความร่วมมือแก่รัฐบาลใน ทุกๆ ด้าน เพื่อความสงบสุขของชาติบ้านเมือง

    **มท.1เตือนคิดให้ดีโยนกลุ่มป่วนใต้

    นายอารีย์ วงศ์อารยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การนำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปเชื่อมโยงกับสถานการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น เชื่อว่าคงจะคิดกันไปเอง เพราะการพูดว่ามีการเชื่อมโยงกันหรือไม่จะต้องให้เจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานเป็นผู้พิสูจน์ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งรูปแบบของวัตถุระเบิดและลักษณะของการใช้งานมีส่วนสัมพันธ์กันหรือไม่

    ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุที่เกิดขึ้นมีการแจ้งเตือนก่อนล่วงหน้าหรือไม่ นายอารีย์กล่าวว่า รู้มาพอสมควร และแจ้งเตือนล่วงหน้าพอสมควร อย่างไรก็ดี การนำเรื่องนี้ไปเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ทางภาคใต้ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะเมื่อคืนที่ผ่านมานอกจากจะเป็นวันขึ้นปีใหม่ ยังเป็นวันสำคัญทางศาสนาของศาสนาอิสลาม (วันอีดิ้ลอัฎฮา) ซึ่งพี่น้องชาวมุสลิมไปทำละหมาดและมีความสุขหลังจากนั้น การเชื่อมโยงในลักษณะนี้ผู้ที่คิดหรืออ้างเหตุเชื่อมโยงต้องคิดให้ดีว่าจะใช่หรือไม่ใช่

    **แจ้งทุกจว.ระวัง-ฮึ่มต้องใช้ไม้แข็งกำจัด

    นายอารีย์กล่าวว่า เรียกประชุมอธิบดีที่เกี่ยวข้อง และทำการชี้แจงผ่านระบบประชุมทางไกลให้ทุกจังหวัดมีความระมัดระวังในพื้นที่ชุมชน ตรวจสอบและตื่นตัวในทุกพื้นที่ รวมทั้งแนะนำให้ทุกจังหวัดเพิ่มความระมัดระวังในสถานที่สำคัญและสถานที่ที่เป็นยุทธศาสตร์ในพื้นที่

    "ที่สำคัญคือผู้ที่ทำหรือผู้ที่มีความคิดในเรื่องนี้ ผมว่าเขาเห็นแก่ประโยชน์ตัวมากเกินไป การที่จะทำอย่างนี้ให้เกิดความปั่นป่วนกับประชาชนซึ่งอยู่ในวันขึ้นปีใหม่ ที่ทุกคนต้องการหาความสุข แต่มาทำในลักษณะอย่างนี้เป็นการสร้างความทุกข์ให้กับประชาชน เขาไม่รักชาติ ทำลายชาติ ทำลายความสุขของประชาชนทั่วประเทศ คงต้องไปคิดเอาดูว่า คนที่ทำเป็นใคร แล้วถ้าคนที่คิดอยู่อย่างนี้ต่อไป คงต้องมีมาตรการเข้มแข็ง ผมว่าต้องกำจัด เพราะเป็นการสร้างความทุกข์ให้กับประชาชน" นายอารีย์กล่าว

    **มท.เปิดวอร์มรูมประสานงานข่าว

    นายพงศ์โพยม วาศภูติ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ขณะนี้เป็นสถานการณ์ที่ไม่ปกติ จึงเปิดศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงมหาดไทย อย่างเต็มรูปแบบเป็นเวลา 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 1-8 มกราคม โดยศูนย์ปฏิบัติการจะทำหน้าที่ประสานงานข่าว และเป็นศูนย์กลางในการสั่งการ กรณีที่มีความจำเป็น ทั้งนี้ หากยังมีสถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจจะขยายเวลาออกไปอีก เชื่อว่าเหตุที่เกิดขึ้นน่าจะมี 2 แนว คือไฟใต้ลามขึ้นมาหรือเป็นเรื่องทางการเมือง ซึ่งหน่วยข่าวให้น้ำหนักทั้งสองด้าน

    **"บรรณวิทย์"ฟันธงไม่เกี่ยวโจรใต้

    ด้าน พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน รองปลัดกระทรวงกลาโหม และ สมาชิก สนช. กล่าวว่า คนที่ก่อเหตุหวังลดความน่าเชื่อถือรัฐบาล และ คมช.แน่นอน ฟันธงว่าเป็นคนละกลุ่มกับกลุ่มป่วนใต้ เพราะระเบิดที่ใช้เป็นคนละชนิดกัน ในจังหวัดชายแดนภาคใต้จะจุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ แต่เหตุที่เกิดใน กทม.ใช้นาฬิกา และไม่หวังผลทำลายชีวิต เพียงแค่ทำให้คนตกใจแต่เศษสะเก็ดทำให้บาดเจ็บ "น่าจะเป็นฝีมือของขั้วอำนาจเก่า ซึ่งถือว่าแย่มาก คนทำไม่เห็นแก่ประเทศชาติเลย ไม่มีจิตสำนึกของความเป็นคนไทยอยู่เลย ถึงได้ทำชั่วๆ"

    พล.ร.อ.บรรณวิทย์กล่าวว่า การข่าวรู้ล่วงหน้า แต่หาระเบิดไม่ได้ เพราะ กทม.กว้างใหญ่มากมีประชากร 10 ล้านคน และปัญหาทั้งหมดเกิดมาจากการทำงานของหน่วยงานตรวจสอบทั้งหลายที่ไม่เด็ดขาด ล่าช้าไป ทำให้การเช็คบิลช้ามาก การตรวจสอบ ผลงานไม่ออกสักที

    **โรงหนังผวา-ห้างบิ๊กซีป่วนโทร.ขู่บึ้ม

    ส่วนการสถานการณ์ในพื้นที่ กทม.ยังคงมีการพบวัตถุต้องสงสัยสร้างความตกใจให้กับประชาชน โดยเมื่อเวลา 11.30 น. พ.ต.อ.ชวลิต ประสบศิลป ผกก.สน.บางยี่ขัน รับแจ้งพบวัตถุต้องสงสัยบริเวณลานข้างโรงภาพยนตร์เมเจอร์ ถนนสิรินทร เขตบางกอกน้อย จึงประสานกลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด กองบังคับการตำรวจปฏิบัติการพิเศษ (บก.ตปพ.) กองบัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมกันประชาชนออกห่าง พบวัตถุที่พบเป็นกล่องโลหะ จึงใช้เครื่องสแกนภาพภายในเป็นขนมปังคุกกี้จึงเก็บมาไว้ที่ สน.บางยี่ขัน

    เวลา 13.30 น. พนักงานประชาสัมพันธ์ประจำห้างบิ๊กซีซุปเปอร์เซ็นเตอร์ สาขาลาดพร้าว ถนนลาดพร้าว เขตวังทองหลาง แจ้งตำรวจ สน.โชคชัย ว่า มีเสียงชายโทรศัพท์มาข่มขู่วางระเบิดภายในห้าง 3 จุด เวลา 15.00 น. โดยไม่บอกตำแหน่ง จึงประสานกลุ่มงานเก็บกู้ฯและสุนัขตำรวจ บก.ตปพ.พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ลูกค้าที่จับจ่ายซื้อสินค้าอยู่ รวมทั้งสั่งร้านอาหารที่อยู่ภายในห้างปิดชั่วคราว และให้ลูกค้าทยอยออกจากตัวห้างเพื่อความปลอดภัย

    จากนั้นตำรวจกลุ่มงานเก็บกู้ฯกับสุนัขตำรวจระดมค้นหาตั้งแต่ชั้นล่างซึ่งเป็นลานอาหารซีฟู้ด ขึ้นมาแผนกซุปเปอร์มาเก็ตและร้านอาหารต่างบริเวณชั้นสอง ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงไม่พบวัตถุต้องสงสัยแต่อย่างใด

    อีกรายบริเวณห้างสรรพสินค้าคาร์ฟูร์พระโขนง ตำรวจรับแจ้งพบกระเป๋าต้องสงสัยวางอยู่ เมื่อพนักงานประชาสัมพันธ์ประกาศหาเจ้าของแต่ไม่มีใครมาแสดงตัว จึงประสานกลุ่มงานเก็บกู้ฯ ระหว่างนั้นมีผู้หญิงมาแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของกระเป๋าวางไว้เนื่องจากเข้าไปซื้อสินค้าภายในห้าง เมื่อตรวจสอบภายในเป็นเสื้อผ้าจึงให้คืนกับเจ้าของไป

    **"ในหลวง-ราชินี"พระราชทานดอกไม้

    สำหรับทางด้านผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ระเบิดซึ่งรักษาตัวอยู่ตามโรงพยาบาลต่างๆ นั้น เมื่อเวลา 16.10 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯยังโรงพยาบาลราชวิถี ในโอกาสนี้ พระราชทานแจกันดอกไม้ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ให้กับคณะแพทย์และบุคลากรโรงพยาบาลราชวิถีและคนไข้ เพื่อให้กำลังใจและขอบใจที่คณะแพทย์ให้การรักษาอย่างเต็มที่

    **พระเทพฯเสด็จเยี่ยมผู้บาดเจ็บรพ.ราชวิถี

    จากนั้นสมเด็จพระเทพราชสุดาฯ ทรงเยี่ยมนายสำรวย สีดาว ในห้องไอซียู ทรงซักถามอาการบาดเจ็บจาก นพ.มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถี นพ.ชาตรี บานชื่น อธิบดีกรมการแพทย์ ด้วยความห่วงใย พร้อมพระราชทานอาหารว่างให้กับนางส้มลิ้ม นายเที่ยง และนายสำรวย ประกอบด้วย ซาลาเปา ขนมจีบ น้ำดื่มจิตรลดา น้ำหวานรสลำไย น้ำมะตูม จากโครงการส่วนพระองค์ จากนั้น ทรงเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่พักรักษาที่โรงพยาบาลราชวิถีอีก 4 ราย พระราชทานของเยี่ยม ทรงให้กำลังใจให้หายจากการเจ็บป่วย

    นพ.เจษฎากล่าวว่า สมเด็จพระเทพราชสุดาฯ มีพระราชดำรัสให้ราชเลขาธิการในพระองค์ดูแล ฝ่ายสังคมสงเคราะห์จะจัดหาที่พักให้กับบิดาและมารดาของนายสำรวยที่เดินทางจาก จ.ศรีสะเกษมาเยี่ยมบุตร

    **"สนธิ"มอบเงินเหยื่อบึ้ม5พันทุกราย

    เวลา 17.30 น. พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ได้เดินทางไปเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ระเบิดที่โรงพยาบาลราชวิถี โดยได้มอบกระเช้าดอกไม้และเงินสดจำนวน 5,000 บาทให้ญาติผู้ได้รับบาดเจ็บทุกราย

    **2เหยื่อบึ้มรพ.ตำรวจอาการปลอดภัย

    ที่โรงพยาบาลตำรวจเวลา 13.00 น. นายสุวิทย์ ยอดมณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ พล.ต.อ.อชิรวิทย์ เข้าเยี่ยมอาการผู้บาดเจ็บจากเหตุระเบิด คือนาย ดวงจันทร์ โลนุช อายุ 38 ปี และ นายโจวาน สโตกาโนวิช อายุ 34 ปี ชาวเซอร์เบีย

    ด้านนายดวงจันทร์ผู้บาดเจ็บกล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรู้สึกเสียใจตั้งใจจะมาฉลองงานปีใหม่ ไม่น่าจะเกิดเหตุแบบนี้ขึ้นเลย เพราะก่อนหน้านั้นเห็นตำรวจ และทหารคอยรักษาการณ์อย่างเต็มที่ รวมทั้งมีสุนัขตำรวจคอยตรวจค้นหาสิ่งผิดปกติทั่วบริเวณงาน ขณะนี้ยังรู้สึกกลัวอยู่เลย

    พล.ต.ท.วรพจน์ เลิศลักษณา พตร.กล่าวว่า อาการของนายดวงจันทร์อยู่ในขั้นปลอดภัย สะเก็ดระเบิดที่ทะลุเข้าไปที่ช่องอกและมีเหล็กทิ่มเข้าไปที่กล้ามเนื้อซี่โครง แต่ไม่ทะลุเข้าไปทำอันตรายต่อปอดและตับ ไม่มีอาการแทรกซ้อนอะไร คงต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลประมาณ 7 วัน สามารถกลับบ้านได้ ส่วนนายโจวาน ซึ่งถูกแรงอัดของระเบิดมีอาการเลือดออกในตาข้างซ้าย อาการน่าไม่เป็นห่วง คาดว่าเลือดที่ออกในตาร่างกายจะดูดซึมกลับเข้าไปเอง ใช้เวลาประมาณ 5 วัน สามารถออกจากโรงพยาบาลได้ และยืนยันว่าตาไม่บอดแน่นอน

    พล.ต.อ.อชิรวิทย์กล่าวอีกว่า ขอยืนยันว่าข่าวที่ออกมาว่ามีหญิงชาวต่างประเทศถูกระเบิดจนต้องตัดขานั้นไม่เป็นความจริง เป็นเพียงถูกสะเก็ดระเบิดที่ขาต้องผ่าตัด ซึ่งขณะนี้ก็ปลอดภัยแล้ว และค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดของผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้ทางโรงพยาบาลตำรวจจะเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด

    **คุมเข้ม"รถไฟ-บ.ข.ส.-สุวรรณภูมิ-ท่าเรือ"

    นายถวิล สามนคร รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวว่า ได้รับรายงานว่าในช่วงเวลาประมาณ 8 โมงเช้าวันนี้ จะมีการลอบวางระเบิดที่สถานีรถไฟสามเสน แต่ภายหลังการส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบก็ไม่พบความผิดปกติอะไร แต่เพื่อไม่ประมาท ขณะนี้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความระมัดระวัง ในการตรวจตราสถานีต่างๆ มากขึ้นกว่า

    นายสมชัย สวัสดีผล ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวว่า เพิ่มกำลังตรวจตรารถยนต์ที่จะเข้าออกสุวรรณภูมิทั้ง 4 เส้นทาง พร้อมเพิ่มกำลังลาดตระเวนตามจุดต่างๆ ที่อาจเป็นจุดล่อแหลม ส่วนภายในอาคารที่พักผู้โดยสารยังขอตรวจค้นสัมภาระของผู้โดยสาร เพื่อป้องกันการเกิดเหตุร้ายด้วย

    นายถวัลย์รัฐ อ่อนจิระ อธิบดีกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี กล่าวว่า ให้เจ้าหน้าที่ของกรมร่วมกับผู้ประกอบการเรือด่วนเจ้าพระยา ผู้ให้บริการเรือด่วน และบริษัทครอบครัวขนส่ง จำกัด ผู้ให้บริการเรือคลองแสนแสบ เพิ่มกำลังตรวจตราสิ่งผิดปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณท่าเทียบเรือ ที่มีผู้โดยสารใช้บริการหนาแน่น ในส่วนของโป๊ะเรือก็สั่งเจ้าหน้าที่ทำการปิดล็อคบริเวณตู้ขยะ เนื่องจากเกรงว่าจะมีผู้ไม่หวังดี นำวัตถุระเบิดไปวางไว้

    นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท บ.ข.ส.จำกัด กล่าวว่า ขอกำลังตำรวจและทหารเข้ามาช่วยดูแลรักษาความปลอดภัยที่สถานีขนส่ง บ.ข.ส.ตลอด 24 ชั่วโมง จะนำเครื่องตรวจหาวัตถุระเบิดด้วยมือมาใช้ตรวจสัมภาระทุกใบที่น่าเป็นห่วง คือ ในวันที่ 2 มกราคม จะมีผู้โดยสารเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร ประมาน 2-3 แสนคน จึงขอความร่วมมือให้ประชาชนลงรถระหว่างทางไม่ต้องมาลงที่หมอชิต 2 ทั้งหมด

    **ปชป.จี้"สพรั่ง"ทำงานหลังของบฯอื้อ

    ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ อ่านแถลงการณ์พรรคประชาธิปัตย์ว่า ขอประณามผู้กระทำการให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์ และทำร้ายประเทศชาติบ้านเมืองอย่างไร้สำนึกความรับผิดชอบชั่วดี เพียงเพื่อหวังผลทางการเมือง ขอให้รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ช่วยกันทำหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ หาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษโดยเร็ว และการที่ พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วยเลขาฯคมช. ได้ของบฯไปเพื่อเตรียมกำลังเพื่อใช้แก้ปัญหาก็ต้องทำให้มากกว่านี้แล้ว รวมถึงตำรวจที่ต้องทำงานให้เข้มขึ้น

    http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01p0101020150&day=2007/01/02
     
  5. Catt Bewer

    Catt Bewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,768
    ค่าพลัง:
    +16,673
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="100%"><TBODY><TR><TD>พบรหัสลับจุดบึ้ม อักษร"IRK" ตายศพ3เซ่น8ตูม

    "แอ้ด-สนธิ"ฟันธง ฝีมือการเมืองแน่ แต่ตร.มุ่งทั้ง2ปม ทนายแม้ว-โต้ลั่น

    </TD><TD vAlign=top align=right>
    [​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯเยี่ยมให้กำลังใจ และพระราชทานสิ่งของให้ประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิด 8 จุดในเขตกทม. ณ ตึกสิรินธร โรงพยาบาลราชวิถี เมื่อวันที่ 1 ม.ค.

    </TD></TR></TBODY></TABLE>เผยตัวเลขความสูญเสียจากเหตุระเบิดทั่วกรุง 8 จุดเมื่อวันส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่ เสียชีวิตรวม 3 ราย บาดเจ็บอีก 38 คน เป็นชาวต่างชาติ 9 คน แฉคนร้ายเป็นทีมเดียวกันเพราะใช้ระเบิดชนิดแสวงเครื่องเอ็มโฟร์ หรือแอมโมเนียมไนเตรต บรรจุอยู่ในกล่องเหล็กขนาด 3x5 นิ้ว ใช้ตลับลูกปืนและเศษตะปูเป็นสะเก็ดระเบิด จุดชนวนด้วยนาฬิกาดิจิตอลยี่ห้อคาสิโอ เหมือนกันทั้งหมด ตะลึงพบสัญลักษณ์ "IRK" อยู่บริเวณจุดระเบิดเหมือนเป็นรหัสลับ สงสัยโยงถึงโจรใต้ ด้าน "สุรยุทธ์"นัดถกกอ.รมน.ก่อนฟันธงสาเหตุเรื่องการเมือง สงสัยเป็นฝีมือของกลุ่มอำนาจเก่าเพื่อดิสเครดิตรัฐบาล ยันไม่น่าจะเกี่ยวกับโจรใต้ หลายประเทศเตือนอย่าเพิ่งมาเที่ยวเมืองไทยเพราะไม่ปลอดภัย เหยื่อบึ้ม-ญาติปลื้มปีติ "สมเด็จพระเทพฯ" เสด็จฯเยี่ยมถึงร.พ. ส่วน"สนธิ"ประธานคมช.ที่บินด่วนจากเมืองนอกกลับไทย ประชุมผู้เกี่ยวข้องก่อนรุดเยี่ยมคนเจ็บ มั่นใจปมมาจากเรื่องการเมือง เผยเชิญกลุ่มอำนาจเก่ามาคุยจริงอ้างอยากได้รายละเอียดเท่านั้น "หมอมิ้ง"เผยคมช.เรียกเข้าพบหลังเกิดเหตุ ก่อนยกเลิกภายหลัง ด้านทรท.โต้วุ่นไม่เกี่ยวอย่าโยงมาเรื่องการเมือง ทนายแม้วทนไม่ไหวแถลงโต้ ยันทักษิณโทร.มาถามข่าวพร้อมยันไม่เกี่ยวและไม่เคยคิดจะทำ

    สรุปบึ้มกรุงชุดแรก6จุด

    จากเหตุการณ์สะเทือนขวัญคนไทยทั่วประเทศ เมื่อคนร้ายลอบวางระเบิดถล่มทั่วกรุงเทพฯ และจังหวัดปริมณฑลหลายจุดพร้อมกันตั้งแต่เย็นวันที่ 31 ธันวาคม ที่ผ่านมา ต่อเนื่องถึงวันที่ 1 มกราคม 2550 เริ่มจากช่วงเวลาประมาณ 17.50 น. วันที่ 31 ธ.ค. เกิดระเบิดลูกแรกที่ป้อมตำรวจบริเวณสี่แยกสะพานควาย แขวงสามเสนในและเขตพญาไท กทม. มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 1 คน คือ น.ส.สุดารัตน์ มหาจันทร์ อายุ 24 ปี ในที่เกิดเหตุพบชิ้นส่วนนาฬิกาดิจิตอล แบตเตอรี่ 9 โวลต์ กล่องเหล็ก โดยต่อวงจรระเบิดด้วยการตั้งเวลาจากนาฬิกาปลุก

    ต่อมาเวลาประมาณ 18.10 น. เกิดเหตุระเบิดลูกที่ 2 ตามมาบริเวณป้ายรถประจำทางหน้าลานกิจกรรมวิคตอรี่พอยต์ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยคนร้ายนำระะเบิดไปวางซุกไว้ในถังขยะ เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บรวม 15 ราย ที่จุดนี้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย คือนายสงกรานต์ กาญจน์ อายุ 36 ปี และนายเอกชัย เรือพุ่ม อายุ 26 ปี โดยนายเอกชัย เสียชีวิตช่วงเช้าวันที่ 1 ม.ค. ในเวลาไล่เลี่ยกันก็เกิดระเบิดจุดที่ 3 บริเวณตลาดท่าเรือคลองเตย ตลาด 3 หน้าศาลเจ้าพ่อเสือ ซึ่งคนร้ายนำระเบิดไปทิ้งไว้ในถังขยะ มีผู้บาดเจ็บรวม 7 คน ในจำนวนนี้มีเสียชีวิต 1 รายคือนายสุวิชัย นาคเอี่ยม หรือลุงจุก อายุ 61 ปี คนดูแลศาลเจ้าพ่อเสือ

    ช่วงเคานต์ดาวน์ตูมอีก2จุด

    จุดที่ 4 เกิดในเวลาไล่เลี่ยกันที่ลานจอดรถจักรยานยนต์หลังห้างซีคอนสแควร์ ถ.ศรีนครินทร์ โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ถัดมาเป็นจุดที่ 5 เกิดระเบิดบริเวณป้อมควบคุมสัญญาณไฟจราจรสี่แยกแคราย อ.เมือง นนทบุรี ระหว่างเกิดเหตุตำรวจ 2 นายที่ประจำอยู่ออกไปอำนวยการจราจรจึงรอดพ้นจากสะเก็ดระเบิดไปได้ สุดท้ายในช่วงเย็น เกิดเหตุลอบวางระเบิดป้อมตำรวจ ซอยสุขุมวิท 62 ทางลงทางด่วน มีรถประชาชนที่จอดติดไฟแดงเสียหาย 2 คัน

    กระทั่งเวลาเกือบๆ เที่ยงคืนเกิดเหตุระเบิดขึ้นอีก 2 ลูก จุดแรกบริเวณสะพานท่าเรือคลองแสนแสบ ใกล้ร้านอาหารทะเล"เบสต์ ซีฟู้ด" ถัดมาไม่กี่นาทีเกิดระเบิดขึ้นอีกบริเวณถังขยะใกล้ตู้โทรศัพท์หน้าห้างเกษรพลาซ่า ฝั่งตรงข้ามเซ็นทรัลเวิลด์ มีผู้บาดเจ็บอีกหลายรายรวมทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย นอกจากนี้ ยังพบระเบิดอีกลูกซุกซ่อนอยู่ในถังขยะหน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์ แต่เจ้าหน้าที่เก็บกู้ไว้ได้ทัน โดยก่อนหน้านี้ช่วงเกิดระเบิดในช่วงเย็น 6 ลูกซ้อน กทม.สั่งยกเลิกการเคานต์ดาวน์ที่จุดใหญ่สุดคือถนนหน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์ เพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย ก่อนให้คนเดินทางแยกย้ายกันไป ซึ่งหากไม่สั่งยกเลิกแล้วเกิดระเบิดขึ้นเชื่อว่าจะทำให้เกิดความสูญเสียมากกว่านี้

    เผยตัวเลขตาย3-เจ็บ39

    ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 ม.ค. พล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช รองผบ.ตร. ในฐานะโฆษกตร. รายงานเหตุระเบิดในพื้นที่กรุงเทพฯ และจ.นนทบุรี ว่า เกิดเหตุระเบิดขึ้น 8 จุด ตั้งแต่เวลาประมาณ 18.00 น. วันที่ 31 ธ.ค.49 ถึงเวลา 00.05 น. วันที่ 1 ม.ค.50 มียอดผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 39 ราย เสียชีวิต 3 ราย แยกเป็นต่างชาติบาดเจ็บ 9 ราย คนไทยบาดเจ็บ 30 ราย เสียชีวิต 3 ราย

    พล.ต.อ.อชิรวิทย์กล่าวว่า สำหรับเหตุระเบิดจุดที่ 1 เกิดขึ้นเวลาประมาณ 18.00 น. บริเวณป้ายรถเมล์ภัตตาคารพงษ์หลี ใกล้ห้างสรรพสินค้าเซ็นเตอร์วัน อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ท้องที่สน.พญาไท มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 18 ราย เสียชีวิตที่โรงพยาบาล 2 ราย นำส่งโรงพยาบาล 2 แห่ง คือ โรงพยาบาลราชวิถี 16 ราย ประกอบด้วยน.ส.พรรัตน์ ปั้นแตง น.ส.ปัทมา รัตคช น.ส.พรศิริ ตาระเกษ นายณรงค์ชัย รุ่งเจริญ นายสหรัฐ เชื้อดวงผุย น.ส.รัชนีวรรณ คล้ายหริ่ม นายสงกรานต์ กาญจนะ(เสียชีวิต) นางนิพร ทองศรี นายสำรวย สีดา(ไอซียู) นายสมหวัง วิทยาเจริญ นายยศพันธ์ ม่วงเป้า น.ส.อ้อยใจ พงษ์พรเชษฐา น.ส.ณัฐิยา ยามกระโทก นายสุภาพ ภิรมย์ น.ส.อรนุช เนรภู น.ส.วิลาสินี เทียนอ่อน โรงพยาบาลพระมงกฎเกล้า 3 ราย คือ นายเอกชัย เรือพุ่ม (เสียชีวิตที่โรงพยาบาล) นายยงสิน บุญมาก น.ส.ทัตติยา วินิจการ

    ป้อมตร.กระจุยไม่มีชิ้นดี

    พล.ต.อ.อชิรวิทย์กล่าวว่า เหตุระเบิดจุดที่ 2 เกิดขึ้นเวลาประมาณ 18.00 น. บริเวณป้อมสัญญาณไฟจราจรสี่แยกสะพานควาย ท้องที่สน.บางซื่อ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย นำส่งโรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียล คือ น.ส.สุดารัตน์ มหาจันทร์ เหตุระเบิดจุดที่ 3 เวลา 18.00 น. ที่ป้อมตำรวจจราจร บริเวณสี่แยกแคราย อ.เมือง จ.นนทบุรี ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ป้อมควบคุมสัญญาณไฟจราจรเสียหาย เหตุระเบิดจุดที่ 4 เวลาประมาณ 18.05 ป้อมตำรวจจราจรบริเวณซอยสุขุมวิท 62 ท้องที่สน.บางนา ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ป้อมควบคุมสัญญาณไฟจราจรเสียหาย และรถยนต์ประชาชนได้รับความเสียหาย 1 คัน

    "จุดที่ 5 เกิดขึ้นเวลาประมาณ 18.10 น. บริเวณตลาดสดคลองเตย 2 ชุมชนไผ่สิงโต บริเวณตลาดผลไม้ สะพานลอยข้ามถนนพระราม 4 ท้องที่สน.ท่าเรือ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 7 ราย เสียชีวิต 1 ราย นำส่งโรงพยาบาล 2 แห่ง คือ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ 7 ราย ประกอบด้วยนางใบ วงศ์สา ด.ญ.ธัญศินี มังกรพันธ์ นายคำพันธ์ อาจโยธา นายกำจัด ดีแสน น.ส.อริศรา ต่อดอก นายคำดี แมนีแสง นายสุวิชัย นาคเอี่ยม (เสียชีวิต) โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท 1 ราย คือนายเพชรพิชัย เมยะกุล โฆษกตร.แห่งชาติกล่าว และว่า ส่วนเหตุระเบิดจุดที่ 6 เวลาประมาณ 18.30 น. บริเวณลานจอดรถจักรยานยนต์ ห้างซีคอนสแควร์ ถ.ศรีนครินทร์ ท้องที่สน.ประเวศ ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

    ตูมชุดหลังต่างชาติเจ็บอื้อ

    พล.ต.อ.อชิรวิทย์กล่าวอีกว่า เหตุระเบิดจุดที่ 7 เกิดขึ้นเวลาประมาณ 00.00 น. บริเวณตู้โทรศัพท์ หน้าห้างเกษรพลาซ่า ฝั่งตรงข้ามห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ท้องที่สน.ลุมพินี มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 10 ราย เป็นชาวไทย 2 ราย ชาวต่างชาติ 8 ราย นำส่งโรงพยาบาล 2 แห่ง คือ โรงพยาบาลตำรวจ 8 ราย ประกอบด้วย นายสมพงษ์ กาลีรัตน์ นายดวงจันทร์ โสนุช Mr.Alister Sckvhc Mrs.Vera Sekvhc Mr.Joram ทั้ง 3 คนเป็นชาวเซอร์เบียร์ Ms.Marina Kovass ชาวฮังการี Mr.Heewitt Paul ชาวอังกฤษ Ms.Lingalla Founthin ชาวอังกฤษ ส่วนที่โรงพยาบาลพญาไท 1 มี 2 ราย คือ Ms.Schrcinez Edit และ Ms.Aliz Farkas เป็นชาวฮังการีทั้ง 2 คน

    พล.ต.อ.อชิรวิทย์กล่าวว่า เหตุระเบิดจุดที่ 8 เกิดขึ้นเวลาประมาณ 00.01 น. บริเวณท่าเทียบเรือประตูน้ำ เชิงสะพานเฉลิมโลก ฝั่งตรงข้ามห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ท้องที่สน.ลุมพินี มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย นำส่งโรงพยาบาลรามาธิบดี 3 ราย คือ Miss Tunde Matgolan ชาวฮังการี น.ส.อาจารี มีธนะทรัพย์ นายปิติยา วัฒนะปานวงศ์

    แฉใช้ระเบิดเหมือนกันทุกจุด

    พล.ต.อ.อชิรวิทย์กล่าวอีกว่า ได้รับรายงานจากกองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) ระบุการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุและซากระเบิดทั้ง 8 จุด เป็นระเบิดแบบเดียวกันคือระเบิดแรงดันสูง มีสารประกอบของ แอมโมเนียมไนเตรด หรือเอ็มโฟร์ (M4) ซึ่งถูกบรรจุอยู่ในกล่องเหล็กขนาดกว้าง-ยาว 3X5 นิ้ว สูง 1 นิ้ว พร้อมสะเก็ดระเบิดที่ทำด้วยตลับลูกปืนและเศษตะปูโดยใช้นาฬิกาดิจิตอลเป็นตัวจุดระเบิด ซึ่งสันนิษฐานรัศมีการทำลายล้างเพียงแค่ต้องการทำร้ายประชาชนให้ได้รับบาดเจ็บเท่านั้น ไม่ได้หวังผลทำลายล้างชีวิต

    "ล่าสุดได้รับรายงานเมื่อเวลา 09.30 น.วันเดียวกันนี้เกิดเหตุระเบิดที่มัสยิดสุเหร่าช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ หลังจากนายนาซีส อาหมัด สัญชาติพม่า เข้าไปละหมาด จึงเกิดระเบิดขึ้น ทำให้ผนังสุเหร่าได้รับความเสียหายเล็กน้อย ซึ่งกองวิทยาการเขต 13 จ.เชียงใหม่ ระบุเป็นระเบิดที่ประกอบขึ้นเอง" พล.ต.อ.อชิรวิทย์กล่าว

    พฐ.พบสัญลักษณ์"IRK"

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.00 น. พล.ต.อ.อชิรวิทย์ เดินทางไปรับฟังสรุปการวิเคราะห์พยานหลักฐานที่ได้จากที่เกิดเหตุทั้ง 8 จุด โดยมีพล.ต.ท.เอก ผบช.สนว. และเจ้าหน้าที่วิทยาการให้การต้อนรับพร้อมบรรยายสรุปการตรวจที่เกิดเหตุ ภายหลังการบรรยายสรุปได้มีการตั้งข้อสังเกตว่าในที่เกิดเหตุหลายจุดมีการเขียนสัญลักษณ์บางอย่างด้วยปากกาเมจิกสีดำ ลักษณะคล้ายภาษาอังกฤษคือ (IRK) เขียนติดกันในที่เกิดเหตุ 4 แห่งใน 3 จุดเกิดเหตุคือ 1.เสาศาลาพักรอรถโดยสารประจำทาง บริเวณอนุสาวรีย์ชัยฯ 2.ข้างตู้โทรศัพท์ หน้าห้างเกสรพลาซา และ 3.ตัวเครื่องและที่ข้างตู้โทรศัพท์ท่าเรือประตูน้ำ ซึ่งได้ให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบว่ามีสัญลักษณ์แบบเดียวกันนี้ตามจุดที่เกิดเหตุอีก 5 แห่งหรือไม่ เพื่อหาความเชื่อมโยงกับสถานการณ์กันทั้ง 8 จุดหรือไม่ พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบรอยนิ้วมือแฝงของคนร้าย นอกจากนี้ มีรายงานด้วยว่าเจ้าหน้าที่ พฐ. ยังพบชิ้นส่วนรองเท้าผ้าใบแบบหุ้มข้อ ยี่ห้อเชกเกอร์ (CHECKER) สีเขียว และนาฟิกาข้อมือ ซึ่งได้ในที่เกิดเหตุ ซึ่งสันนิษฐานว่าผู้ก่อเหตุได้ซุกซ่อนมาพร้อมกับวัตถุระเบิดด้วย

    ญี่ปุ่นส่งทีมมาช่วยเหลือ

    พล.ต.ท.เอก อังสนานนท์ ผบช.สนว. กล่าวถึงการเก็บวัตถุพยานในที่เกิดเหตุว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่วิทยาการของตำรวจได้ออกตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุทุกจุดพอจะสรุปเบื้องต้นได้ว่า วัตถุพยานที่เราพบ ไม่ว่าจะเป็นตะปู นาฬิกาข้อมือยี่ห้อคาสิโอเป็นชนิดเดียวกัน น่าจะมาจากแหล่งผลิตเดียวกัน โดยเฉพาะนาฬิกาข้อมือยี่ห้อคาสิโอกำลังตรวจสอบว่าเป็นรุ่นเดียวกับที่คนร้ายใช้ก่อเหตุในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่ ส่วนพยานหลักฐานอีกชิ้นที่พบคือสัญลักษณ์อักษรที่พบตามจุดเกิดเหตุมีลักษณะคล้ายคำว่า "IRK" มีการจับคู่ตรงกันได้ 1 คู่ คือที่เสาไฟฟ้าบริเวณแยกอนุสาวรีย์ชัยฯ กับที่ตู้โทรศัพท์หน้าห้างเกษรพลาซ่า

    "นอกจากนี้ เรายังได้เก็บลายนิ้วมือแฝงมาตรวจสอบ โดยเก็บจากสายนาฬิกาข้อมือกับที่กรอบบานประตูตู้โทรศัพท์หน้าห้างเกษรฯ นอกจากนี้ เรายังได้รับความร่วมมือและช่วยเหลือจากนักวิทยาศาสตร์จากประเทศญี่ปุ่น ที่มีความเชี่ยวชาญในการเก็บภาพถ่ายในที่เกิดเหตุมาวิเคราะห์ และในวันนี้สั่งการให้พล.ต.ต.แสงชัย สุวัฒนภักดี ผบก.พฐ. พร้อมนักวิทยาศาสตร์ ลงไปตรวจสอบในพื้นที่เกิดเหตุซ้ำอีกครั้ง" ผบช.สนว.กล่าว และว่า ขณะนี้ทางสำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ ตำรวจได้เตรียมการรับสถานการณ์ต่างๆ อย่างเต็มที่ โดยมีการจัดชุดปฏิบัติการตรวจที่เกิดเหตุจำนวน 10 ชุด สแตนบายตอลด 24 ช.ม. และหากประชาชนท่านใดพบวัตถุต้องสงสัยให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันทีอย่าได้เข้าไปตรวจสอบด้วยตนเองจะเป็นการปลอดภัยที่สุด

    สรุปผลการตรวจที่เกิดเหตุ

    จุกแรกเวลา 18.15 น. วันที่ 31 ธ.ค.49 ท้องที่สน.พญาไท เกิดระเบิดเกิดขึ้นภายในถังขยะบริเวณป้ายรถเมล์ หน้าภัตตาคารพงษ์หลี ใกล้อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือนายสงกานต์ กาญจนะ และบาดเจ็บ 15 คน ตรวจสอบพบชิ้นส่วนนาฬิกาข้อมือ ชิ้นส่วนโลหะ ถ่านกระดุมนาฬิกา ชิ้นส่วนถ่าน 9 โวลต์

    จุดที่ 2 เวลา 18.10 น. วันที่ 31 ธ.ค.49 ท้องที่สน.บางซื่อ เกิดระเบิดบริเวณป้อมสัญญาณไฟจราจรสี่แยกสะพานควาย ถ.พหลโยธิน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ตรวจพบเศษตะปู ลูกเหล็กทรงกลมขนาดเล็ก ชิ้นส่วนนาฬิกา ชิ้นส่วนถ่าน 9 โวลต์

    จุดที่ 3 เวลา 18.15 น. วันที่ 31 ธ.ค. ท้องที่สน.ท่าเรือ เกิดระเบิดบริเวณตรงข้ามหน้าศาลเจ้าพ่อเสือตลาดคลองเตย โดยคนร้ายวางระเบิดในถังขยะ มีผู้บาดเจ็บ 6 ราย และเสียชีวิต 1 คน คือนายสุวิทชัย นาคเอี่ยม ตรวจพบชิ้นส่วนนาฬิกา ขั้วแบตเตอรี่ ลูกเหล็กทรงกลม ตะปูขนาดเล็ก

    จุดที่ 4 เวลา 18.20 น. วันที่ 31 ธ.ค. ท้องที่สน.พระโขนง เกิดระเบิดบริเวณป้อมตำรวจปากซอยสุขุมวิท 62 โชคดีจุดนี้ไม่มีผู้บาดเจ็บ ตรวจเก็บซากสายไฟ และซากกล่องเหล็ก

    จุดที่ 5 เวลา 18.15 น. วันที่ 31 ธ.ค. ท้องที่สน.ประเวศ เกิดระเบิดบริเวณลานจอดรถโซนอี ห้างสรรพสินค้าซีคอนสแคว์ ถ.ศรีนครินทร์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ตรวจสอบพบลูกเหล็กทรงกลมขนาดใหญ่ ถ่าน 9 โวลต์ ซากกล่องมันฝรั่งทอดกรอบ

    จุดที่ 6 เวลา 00.50 น. วันที่ 1 ม.ค. ท้องที่สน.พญาไท เกิดระเบิดท่าเทียบเรือประตูน้ำฝั่งมุ่งหน้าม.รามคำแหง ถ.ราชดำริ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ตรวจเก็บเศษชิ้นส่วนโลหะ เศษตะปู แบตเตอรี่ 9 โวลต์ ชิ้นส่วนเชื้อปะทุไฟฟ้า

    จุดที่ 7 เมื่อเวลา 00.05 น. วันที่ 1 ม.ค. ท้องที่สน.ลุมพินี เกิดระเบิดบริเวณตู้โทรศัพท์หน้าเกษรพลาซ่า ถ.ราชดำริ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ตรวจเก็บชิ้นส่วนโลหะ ตะปู 0.5 นิ้ว ชิ้นส่วนรองเท้าและถุงเท้า ชิ้นส่วนนาฬิกาคาสิโอ

    จุดที่ 8 เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 31 ธ.ค. ท้องที่สภ.อ.เมือง นนทบุรี เกิดระเบิดบริเวณป้อมควบคุมสัญญาณไฟจราจร สี่แยกแคราย ถ.ติวานนท์ ตรวจพบเศษโลหะ และตะปู โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

    ผบช.น.เข้าเฝ้าฯพระเทพฯ

    เวลา 07.00 น. พล.ต.ท.วิโรจน์ จันทรังษี ผบช.น.พร้อมด้วย พล.ต.ต.นิพนธ์ ภุมิรินทร์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล ผบช.น. พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ ผบก.ตปพ. ได้เดินทางเข้าเฝ้าฯถวายพระพรสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ณ วังสระปทุม เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ โดยสมเด็จพระเทพฯ ได้แสดงความเป็นห่วงต่อเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นในพื้นที่กทม. ทรงมีรับสั่งให้กำลังใจว่า ผู้ร้ายก็คือผู้ร้าย ไม่รู้ว่าจะจับได้หรือเปล่า ตำรวจนครบาลต้องทำงานกันเหนื่อยมากหน่อยนะในช่วงนี้

    ที่ห้องประชุมใหญ่ บช.น. พล.ต.ต.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น รอง ผบช.น. เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนประกอบด้วยศูนย์สืบสวน บช.น. รอง ผบก.น.1-9 ที่รับผิดชอบงานสืบสวน ผกก.สส.น.1-9 รอง ผกก.และ สว.สืบสวนทุกสน. โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากนอกหน่วยมาร่วม เช่น พ.ต.อ.ฉัตรกนก เขียวแสงส่อง รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.อัตชัย ดวงอัมพร รอง ผบก.สันติบาล 1 พ.ต.อ.วรชิต กาญจนะเสน ผกก.งานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด บก.ตปพ. โดยมีวาระการประชุมสืบสวนสอบสวนเหตุระเบิดในพื้นที่กทม. เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. ทั่วกทม. จำนวน 8 จุด ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของสน.พญาไท ดินแดง ประเวศ ลุมพินี ท่าเรือ และพระโขนง ในที่ประชุมได้มีการนำเอารายละเอียดของระเบิด ภาพสถานที่เกิดเหตุเพื่อหาแนวทางในการสืบสวนมาวิเคราะห์หากลุ่มผู้กระทำการครั้งนี้อย่างเป็นรูปธรรม และประสานข้อมูลหาข่าวในเชิงลึก

    ตรึงกำลังหน้าบ้านนายกฯ

    สำหรับความเคลื่อนไหวที่หน้าบ้านพักพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ที่เดอะรอยัลกอล์ฟ ลาดกระบัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพล.อ.นิพนธ์ สิริพร หัวหน้าประจำสำนักงานนายกรัฐมนตรี นายทหารคนสนิทเข้าพบตั้งแต่เช้าเพื่อรายงานและสรุปสถานการณ์เหตุระเบิดในกรุงเทพฯ โดยด้านหน้าทางเข้าเดอะรอยัลกอล์ฟ เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสภ.อ.จรเข้น้อย ผลัดเปลี่ยนเวรยามเข้าประจำการตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมตรวจเข้มรถยนต์และบุคคลเข้าออกหมู่บ้าน <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    รหัสลับ - ตัวอักษรคล้ายคำว่า IRK ซึ่งตำรวจตรวจพบบริเวณจุดระเบิดที่ป้ายรถเมล์อนุสาวรีย์ชัยฯ และยังมีอักษรแบบเดียวกันนี้ปรากฏที่จุดระเบิดอีกหลายจุด คาดว่าน่าจะเป็นรหัสเชื่อมโยงกลุ่มระเบิด

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    เวลา 09.45 น. พล.อ.สุรยุทธ์เดินทางไปลงนามถวายพระพรเนื่องในเทศกาลขึ้นปีใหม่ที่พระที่นั่งจักรีมหาปราสาทในพระบรมมหาราชวัง ก่อนจะเดินทางไปเป็นประธานการประชุมหน่วยงานด้านการข่าวและกอ.รมน.ที่สวนรื่นฤดีในเวลา 10.45 น.

    ภายหลังแถลงข่าวถึงเหตุการณ์ระเบิด พล.อ.สุรยุทธ์เดินทางกลับบ้านพักที่เดอะรอยัล กอล์ฟในเวลา 13.00 น. โดยให้เจ้าหน้าที่แจ้งสื่อมวลชนว่าขอพักผ่อน

    "สุรยุทธ์"ประชุมกอ.รมน.

    ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(กอ.รมน.) พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์กรณีเหตุระเบิดหลายจุดในกรุงเทพฯ โดยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการข่าวของทุกหน่วย ไม่ว่าจะเป็นทหาร ตำรวจ และสำนักข่าวกรองแห่งชาติ เข้าร่วมประชุม โดยมี พล.อ.วินัย ภัทธิยกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม ในฐานะเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.มนตรี สังขทรัพย์ เสนาธิการทหารบก และนายประกิจ ประจนปัจจนึก เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) และพล.อ.บุญรอด สมทัต รมว.กลาโหม นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง

    ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าการประชุมครั้งนี้ได้รับความสนใจจากบรรดาผู้สื่อข่าวทั้งในประเทศ และสำนักข่าวต่างประเทศมาติดตามทำข่าวเป็นจำนวนมาก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรได้ปิดถนนหนึ่งช่องจราจร บริเวณหน้าสำนักงาน กอ.รมน. และตรวจตรารถยนต์ทุกคันที่ผ่านเข้าออกอย่างเข้มงวด รวมทั้งติดตามสังเกตการณ์กลุ่มผู้สื่อข่าวที่มาคอยติดตามทำข่าวด้วย

    นายกฯประณามผู้ก่อเหตุ

    เวลาประมาณ 11.30 น. เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของ กอ.รมน. ได้เปิดให้ผู้สื่อข่าวที่รอทำข่าวอยู่ได้แลกบัตร และใช้เครื่องตรวจโลหะตรวจเช็กตามร่างกายผู้สื่อข่าวแต่ละคนก่อนที่จะอนุญาตให้เข้าไปนั่งรอภายในห้องแถลงข่าวชั้น 1 อาคาร กอ.รมน.

    เวลา 12.25 น. พล.อ.สุรยุทธ์ พร้อมด้วย พล.อ.บุญรอด สมทัต รมว.กลาโหม นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. แถลงข่าวร่วมกัน พล.อ.สุรยุทธ์กล่าวว่า การก่อเหตุร้ายในช่วงเมื่อคืนวันที่ 31 ธ.ค.ที่ผ่านมาสรุปได้ว่าผู้ที่ก่อเหตุร้ายเป็นผู้ที่ไม่หวังดีต่อชาติบ้านเมือง และเป็นผู้ที่ทำงานเพื่อมุ่งหวังที่จะให้เกิดผลกระทบทางการเมือง เพราะฉะนั้นก็ขอให้พี่น้องประชาชนคนไทยทั้งหลายได้ตระหนักถึงเป้าหมายที่ผู้กระทำพยายามที่จะสร้างความรู้สึกให้ประชาชนรู้สึกว่าเรามีความไม่มั่นคงทางการเมือง ซึ่งประเด็นตรงนี้ขอประณามผู้ที่ดำเนินการว่าทำโดยไม่ได้คำนึงถึงชีวิตและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนเลย ทั้งที่ประชาชนเหล่านั้นเป็นผู้บริสุทธิ์ เขาต้องสูญเสียชีวิต บาดเจ็บโดยที่ผู้กระทำได้มุ่งจะสร้างความระส่ำระสายให้เกิดขึ้น เพราะในช่วงของวันที่จะผ่านไปสู่วันปีใหม่ผู้คนทั้งหลายต่างก็มุ่งที่จะหาความสุขความสำราญกัน แต่ผู้กระทำกลับสร้างเหตุการณ์ให้เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลานั้น แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าต้องการที่จะทำให้เกิดปัญหา และต้องการที่จะทำให้พี่น้องประชาชนไม่ได้มีความสุขในช่วงวันปีใหม่ตามที่ทุกคนมุ่งหวัง

    เร่งทำความเข้าใจกับตปท.

    "ผมในนามของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ทุกคนรู้สึกเสียใจที่ได้เกิดเหตุร้ายนี้ขึ้น เพราะเราก็ได้พยายามที่จะป้องกันเหตุร้ายในเบื้องต้นไว้แล้ว แต่ก็ไม่สามารถที่จะสกัดกั้นการใช้มาตรการซึ่งถือได้ว่าเป็นการลอบทำร้าย และใช้วิธีการที่อาจจะลอกเลียนแบบมาจากที่อื่น จึงขอแสดงความเสียใจต่อผู้บาดเจ็บและครอบครัวของผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์เมื่อคืนด้วย ในส่วนของรัฐบาลจะดูแลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ดูแลครอบครัวของผู้เสียชีวิต และให้การสนับสนุนในเรื่องต่างๆ เท่าที่จะสามารถดำเนินการได้ ในเบื้องต้นกทม. และกระทรวงมหาดไทยจะเป็นผู้ที่ดูแล ถ้าหากเกินกว่าที่ทั้ง 2 หน่วยงานจะสามารถดำเนินการได้ ทางรัฐบาลก็จะเข้าไปดำเนินการต่อไป ในส่วนที่เป็นชาวต่างประเทศที่ได้รับบาดเจ็บ ทางรัฐบาลก็จะดำเนินการต่อไปในการทำความเข้าใจกับประเทศต่างๆ และทำความเข้าใจกับสถานทูตของมิตรประเทศที่อยู่ในประเทศไทย ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศจะดำเนินการในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้" นายกรัฐมนตรี กล่าว

    พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวอีกว่า ขอขอบคุณภาคเอกชน ส่วนราชการต่างๆ ที่ได้ช่วยเหลือและระงับการดำเนินการได้ทันเวลาก่อนที่จะมีความสูญเสียมากขึ้นกว่านั้น เพราะหากเราไม่ได้ยุติหรือสั่งระงับการจัดงานเคานต์ดาวน์ที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ก่อนเวลา ก็อาจจะมีผู้ที่ได้รับความสูญเสียมากขึ้น เพราะเมื่อมีคนอยู่เป็นจำนวนมากและเกิดระเบิดขึ้น ความสูญเสียก็อาจจะไม่เกิดเฉพาะเรื่องของระเบิด แต่อาจจะเกิดจากผู้คนที่ตื่นตระหนกได้ นอกจากนี้ก็ขอขอบคุณโรงพยาบาลต่างๆ ทั้งแพทย์ และพยาบาลที่ให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บอย่างเต็มที่

    ฟันธงปมจากการเมือง

    นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ในช่วงระยะเวลาที่เหลืออยู่คือวันที่ 1-2 ม.ค.นี้ ซึ่งเป็นวันที่พี่น้องประชาชนเดินทางกลับเข้ามา ต้องขอความร่วมมือจากประชาชนและหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรุงเทพฯ ส่วนงานของทหารที่จะช่วยกันดูแลเรื่องความปลอดภัยในด้านของสถานที่ที่จะมีผู้ลักลอบมาวางระเบิดอีก หากเห็นสิ่งใดแปลกปลอม น่าสงสัย หรือมองแล้วไม่ปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นถุง หรือวัสดุ ก็ขอให้แจ้งมายังศูนย์รับแจ้งเหตุ ซึ่งเราจะมีการรวมศูนย์รับแจ้งเหตุต่างๆ มาไว้ที่จุดเดียวคือที่ กอ.รมน. รวมทั้งเรื่องการชี้แจงสถานการณ์ความไม่ปลอดภัยต่างๆ ด้วยก็จะให้ทางกอ.รมน.เป็นศูนย์รวมของการทำความเข้าใจและชี้แจงให้ประชาชนรับทราบ ส่วนทางกรุงเทพฯ ก็จะดูแลถังทิ้งขยะที่มีผู้นำระเบิดไปวาง ซึ่งเราจะหาทางป้องกันในโอกาสต่อไป

    "ขอเรียนว่าเราพยายามอย่างเต็มที่ที่จะควบคุมสถานการณ์และเฝ้าระวังสถานที่ต่างๆ ที่น่าจะเป็นเป้าหมาย หรือจุดที่ผู้ไม่หวังดี ผู้ที่มีจิตใจวิกลจริตได้ใช้เป็นประโยชน์ในการลอบทำร้ายต่อประชาชน" นายกรัฐมนตรี กล่าว เมื่อถามว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เชื่อมโยงกับสถานการณ์ทางภาคใต้หรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า น้อยมากที่จะมีโอกาสเชื่อมโยงกับเรื่องภาคใต้ เพราะเป้าหมายในพื้นที่ถ้าเขาจะทำก็ทำได้ง่ายกว่า ซึ่งสรุปจากการทำงานของหน่วยข่าวต่างๆ และจากหลักฐานที่เราได้รับเป็นเรื่องของกลุ่มที่เสียประโยชน์ทางการเมือง เมื่อถามว่าเชื่อมโยงกับรัฐบาลชุดที่แล้วหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงไม่ใช่เฉพาะรัฐบาลชุดที่แล้ว แต่รวมถึงกลุ่มที่เสียประโยชน์ทางการเมืองทั้งหมด ซึ่งเรายังไม่สามารถที่จะชี้ลงไปได้ชัดเจนว่ากลุ่มใดบ้าง แต่เราก็มีเป้าหมายอยู่แล้วที่จะต้องดำเนินการติดตามกันต่อไป

    ต้องการดิสเครดิตรัฐบาล

    เมื่อถามว่าเป้าหมายของกลุ่มคนที่เสียประโยชน์ทางการเมืองในครั้งนี้ทำเพื่อต้องการดิสเครดิตรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ในภาพรวมคงพูดได้ว่าเป็นการก่อความเสียหายขึ้นกับชาติบ้านเมืองของเรา เพื่อต้องการสร้างความระส่ำระสายให้ประชาชน และสะท้อนให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่สามารถจะควบคุมสถานการณ์ได้ เมื่อถามว่าทางการข่าวพอจะทราบกลุ่มผู้ที่อยู่เบื้องหลังหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่สามารถจะสรุปได้ เมื่อถามว่าหลักฐานอะไรที่ทำให้เชื่อว่าเป็นฝีมือของคนที่เสียผลประโยชน์ทางการเมือง พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ในขณะนี้เป็นเรื่องของการประมาณการทางด้านการข่าว ที่หน่วยข่าวต่างๆ ได้สรุป แต่ตนคงไม่สามารถชี้ลงไปได้ว่าเป็นอะไร แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งในเรื่องการใช้วัตถุระเบิด การกำหนดสถานที่ กำหนดเวลา แสดงให้เห็นเจตนาของผู้ที่ดำเนินการอย่างชัดเจนว่า มุ่งหวังที่จะทำให้ประชาชนเกิดความตื่นตระหนก และทำในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ซึ่งเป็นวันที่ทุกคนตั้งใจจะฉลองกันอยู่แล้ว

    เมื่อถามต่อว่าจะมีการเรียกแกนนำกลุ่มอำนาจมาพูดคุยหรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของทางเจ้าหน้าที่ที่จะดำเนินการต่อไป ตนไม่สามารถเข้าไปในรายละเอียดได้ทั้งหมด อย่างไรก็ตามมีโอกาสพูดคุยกับทางพล.อ.สนธิแล้วเมื่อช่วงเช้า เมื่อถามว่ามีความเป็นไปได้แค่ไหนที่จะมีการยึดทรัพย์ของฐานอำนาจเก่าเพราะยังมีการส่งท่อน้ำเลี้ยงมาก่อเหตุความวุ่นวาย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ทางเจ้าหน้าที่จะต้องตรวจสอบก่อน เรายังไม่สามารถชี้ลงไปได้ชัดเจนว่าเป็นในส่วนไหน อย่างไร

    ยังห่วงเกิดเหตุต่อเนื่อง

    เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ว่าจะเป็นฝีมือของคนในเครื่องแบบ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ตนยังไม่สามารถชี้ในส่วนเหล่านี้ได้ เมื่อถามว่ามาตรการรักษาความปลอดภัยต่อจากนี้ไปต้องมีอะไรบ้าง พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า คงต้องขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน เพราะเจ้าหน้าที่คงดูได้ไม่มากพอ เช่นเรื่องสถานที่ที่เป็นจุดชุมชน ทั้งท่ารถ สถานีรถไฟหรือสถานีรถไฟฟ้า ประชาชนต้องช่วยกัน หากเห็นอะไรที่ผิดปกติ หรือมีอะไรที่เอามาวางไว้โดยไม่สมควรจะอยู่ในพื้นที่ ต่อไปนี้เราจะต้องระวังแล้วไม่ควรมีของวางอยู่โดยไม่มีเจ้าของ ซึ่งในบางจุดและบางเวลาก็อาจจะต้องนำกำลังทหารเข้ามาเสริมในเรื่องการดูแลรักษาความปลอดภัยด้วย อย่างไรก็ตามยังไม่จำเป็นต้องมีการประกาศเคอร์ฟิวในขณะนี้ แต่เราคงต้องเฝ้าระวัง

    ผู้สื่อข่าวถามว่าคิดจะสามารถจับกุมคนร้ายได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่จะต้องติดตามกันต่อไป คงไม่สามารถให้รายละเอียดเพิ่มเติมได้ในขณะนี้เนื่องจากการพิสูจน์หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ เมื่อถามว่าทางการข่าวมีรายงานว่าจะมีเหตุการณ์เกิดขึ้นอีกหรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ยังไม่มี คงเป็นการประมาณสถานการณ์ เราไม่อยากให้มีการวางระเบิดเพิ่มเติมขึ้นมาอีก เพราะในอดีตที่ผ่านมามีหลายครั้งที่มีการกระทำต่อเนื่อง

    ทั่วโลกเตือนอย่ามาไทย

    วันเดียวกัน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานไปทั่วโลกว่า จากการเปิดแถลงข่าวของพล.อ.สุรยุทธ์ ที่ระบุว่า กลุ่มผู้เสียประโยชน์ทางการเมืองที่ต่อต้านการรัฐประหารเมื่อปีก่อน คือ ผู้อยู่เบื้องหลังเหตุวินาศกรรมพื้นที่หลายจุดในกรุงเทพฯ นั้นแม้พล.อ.สุรยุทธ์จะไม่พูดออกมาตรงๆ แต่ก็ตีความได้ว่า รัฐบาลพุ่งเป้าคนร้ายไปยังกลุ่มผู้สนับสนุนอดีตนายกฯ นอกจากนั้นผลกระทบจากเหตุระเบิดยังทำให้รัฐบาลออสเตรเลีย อังกฤษ แคนาดา นิวซีแลนด์ สหรัฐอเมริกา และอีกหลายประเทศ ทยอยออกประกาศเตือนภัยไม่ให้พลเมืองของตนเดินทางมาประเทศไทย หรือถ้าอยู่ในไทยอยู่แล้วก็ให้ระมัดระวังตัวอย่าออกจากที่พักในช่วงนี้โดยไม่จำเป็น

    พุ่งเป้าอำนาจเก่า-โจรใต้

    นอกจากนั้น เอเอฟพียังได้สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ เช่น อาจารย์ปณิธาน วัฒนายากร จากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งประเมินว่า เมื่อดูจากความพยายามสร้างสถานการณ์ทำลายความเชื่อมั่นของรัฐบาลในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา อาทิ การเผาโรงเรียน เชื่อว่าเหตุระเบิดกรุงเทพฯ น่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มคนที่ยังสนับสนุนกลุ่มอำนาจเก่า เนื่องจากการก่อเหตุวินาศกรรมครั้งนี้ต้องอาศัยการวางแผนที่ละเอียดถี่ถ้วนมาก อย่างไรก็ตาม กลุ่มคนร้ายก็อาจเป็นผู้ก่อความไม่สงบในภาคใต้เช่นกัน เพราะสมาชิกจากขบวนการนี้ได้ส่งคนมาสำรวจเป้าหมายในกรุงเทพฯ มาระยะหนึ่งแล้ว

    ด้านนายจอห์น แฮร์ริสัน ผู้เชี่ยวชาญด้านกลุ่มก่อการร้ายจากสถาบันยุทธศึกษา ประเทศสิงคโปร์ มองว่า มีความเป็นไปได้ที่กลุ่มอำนาจเก่าที่ยังภักดีต่อพ.ต.ท.ทักษิณอยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดหลายจุดในกรุงเทพฯ

    ตร.ประชุมแบ่งงานคลี่คดีบึ้ม

    ที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปก.ตร.) ชั้น 20 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองผบ.ตร. เรียกประชุม เจ้าหน้าที่ตำรวจในฝ่ายสืบสวนสอบสวน ป้องกันปราบปราม เพื่อคลี่คลายคดีลอบวางระเบิดทั้ง 8 แห่งในกทม.และจ.นนทบุรี โดยมี พ.ต.อ.อชิรวิทย์ รองผบ.ตร., พล.ต.ท.จงรัก จุฑานนท์, พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ต.ต.เจตน์ มงคลหัตถี รองผบช.น. เข้าร่วมประชุม ใช้เวลาประชุม 1 ชั่วโมง

    พล.ต.อ.อชิรวิทย์ กล่าวภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมแบ่งงานด้านการสืบสวนและสอบสวนในแต่ละพื้นที่และกำหนดผู้รับผิดชอบ โดยได้นำหลักฐานต่างๆมาพิจารณาว่าควรจะสืบสวนสอบสวนไปในแนวทางใด และนำหลักฐานที่ได้เพิ่มเติมมาวิเคราะห์กัน

    "ในด้านการสืบสวนได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ เป็นหัวหน้าชุดสืบสวน ส่วนในด้านการสอบสวนมอบหมายให้ พล.ต.ท.จงรัก และพล.ต.ต.เจตน์ เป็นหัวหน้าและรองหัวหน้าทีมสอบสวน ภายใต้การกำกับดูแลของพล.ต.อ.พัชรวาท รองผบ.ตร.ฝ่ายปราบปราม สำหรับการแถลงข่าวนั้นมอบหมายให้พล.ต.อ.อิสระพันธ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รองผบ.ตร. ฝ่าบกฎหมายและสอบสวน ส่วนกรณีใดที่เกี่ยวกับความมั่นคงนั้นให้ไปสอบถามกับทางกอ.รมน. (กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน) โดยตำรวจนั้นจะพูดเฉพาะงานในหน้าที่ จะไม่วิพากษ์วิจารณ์เกินกรอบที่มีอยู่" โฆษก.ตร. กล่าว

    ญาติร่ำไห้รับศพเหยื่อบึ้ม

    ที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลจุฬา น.ส.ศรีลักษณ์ อุนัยบัน อายุ 48 ปี ภรรยานายสุวิชัย นาคเอี่ยม อายุ 61 ปี ผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดที่หน้าศาลเจ้าพ่อเสือ ย่านคลองเตย พร้อมญาติๆ เดินทางมาขอรับศพสามีนำไปบำเพ็ญกุศล ซึ่งตกลงกันว่าจะนำไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดคลองเตยใน ช่วงเย็นวันนี้

    น.ส.ศรีลักษณ์ กล่าวทั้งน้ำตาว่า อยู่กินกับลุง 5-6 ปีลุงแกจะเป็นคนทำความสะอาดศาลเจ้าพ่อเสือแห่งนี้เป็นประจำทุกวัน จากนั้นเวลา 11.00 น.ก็จะกลับเข้าบ้านกินข้าว และช่วงบ่ายก็จะกลับออกมาอีกครั้งหนึ่ง ในวันเกิดเหตุตนออกมาซื้อกับข้าวที่ตลาดเพื่อนำไปทำกับข้าวเลี้ยงฉลองปีใหม่ โดยในวันนั้นเพื่อนบ้านได้เปิดเพลงเสียงดังตลอดทั้งซอย จนกระทั่งมีเพื่อนบ้านวิ่งมาบอกว่าสามีถูกระเบิดบาดเจ็บสาหัสอยู่โรงพยาบาลจุฬาฯ จึงรีบเดินทางมาจึงทราบว่าสามีได้เสียชีวิตแล้ว อยู่มาจนอายุป่านนี้แล้ว ไม่คิดว่าเมืองไทยจะไม่ปลอดภัยถึงขนาดนี้

    เผยผู้โชคดีรอดหวุดหวิด

    ที่บริเวณจุดเกิดเหตุระเบิดอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ นางวงเดือน สร้อยทอง อายุ 30 ปี เจ้าหน้าที่ตรวจการณ์ฝ่ายประชาสัมพันธ์(ขสมก.)นำพวงมาลัยมาวางเพื่อเป็นการเคารพศพเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายและเสียชีวิตจากเหตุการณ์ระเบิดที่บริเวณจุดที่เกิดเหตุดังกล่าว นางวงเดือนกล่าวว่าที่นำพวงมาลัยมาวางเคารพศพ เนื่องจากสนิทสนมกับผู้ตายซึ่งตามปกติแล้วผู้ตายจะแวะเวียนมาพูดคุยที่ป้อมนี้เสมอ ซึ่งเมื่อวานที่เกิดเหตุเป็นวันหยุดของตน ทำให้คลาดแคล้วไปได้ ทำให้เพื่อนต้องมารับเคราะห์แทน แต่โชคยังดีที่บาดเจ็บเพียงเล็กน้อย จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่นำกล้องวงจรปิดมาติดตั้งบริเวณนี้ เนื่องจากจุดบริเวณนี้มีผู้คนสัญจรไปมาจำนวนมาก จึงไม่อยากให้มีเหตุการณ์เกิดขึ้นอีก หลังเกิดเหตุทำให้ตนรู้สึกหวาดระแวงไปหมด ขณะมาทำงานตอนเช้าจะเข้าป้อมต้องคอยสอดส่องดูว่ามีสิ่งอะไรแปลกปลอมมาวางไว้หรือไม่ ตนรู้สึกเสียใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

    นางดวงใจ มะแม้น อายุ 49 ปี พนักงานทำความสะอาดของกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า เมื่อวานนี้เหตุเกิดหลังจากที่ตนออกเวรได้เพียงไม่กี่นาที และนับว่ายังโชคดีที่เป็นวันหยุด ถ้าหากเป็นวันธรรมดาจะมีเพื่อนๆ พนักงานที่ชอบมานั่งกันบริเวณนี้จำนวนหลายคนคงได้รับบาดเจ็บและล้มตายกันอีกหลายคน <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    ที่นี่ก็มี - ซากตู้โทรศัพท์สาธารณะบริเวณห้างเกษร พลาซ่า กทม. ซึ่งโดนระเบิดจนเสียหายยับเยิน ปรากฏสัญลักษณ์คล้ายกับอักษร IRK เช่นเดียวกับจุดระเบิดที่อนุสาวรีย์ชัยฯ ซึ่งตำรวจกำลังตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มใดบ้าง ตามข่าว

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    พระเทพฯเสด็จฯเยี่ยมคนเจ็บ

    วันเดียวกันสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ระเบิดทั่วกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 49 ซึ่งรักษาอาการที่โรงพยาบาลราชวิถี พร้อมทรงอัญเชิญดอกไม้พระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ พระราชทานให้แก่คณะแพทย์และพยาบาลที่รักษาคนไข้จากเหตุการณ์ดังกล่าว จากนั้นเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมนายสำรวย สีดาว อายุ 37 ปี นายตรวจรถโดยสารประจำทางสาย 38 ซึ่งถูกสะเก็ดระเบิดจากบริเวณลานวิคตอรี่พอยท์ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ได้รับบาดเจ็บสาหัส และพักรักษาตัวอยู่ที่ห้องพักผู้ป่วยหนักศัลยกรรมทั่วไป ชั้นที่ 3 รวมถึงผู้ป่วยในเหตุการณ์ดังกล่าวผู้อื่นที่พักรักษาตัวอยู่บริเวณชั้นที่ 8 และชั้นที่ 10 อาคารสิรินธร ก่อนเสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิด ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

    "สนธิ"มอบเงินปลอบขวัญ

    วันเดียวกัน พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธานคมช. เดินทางไปยังร.พ.ราชวิถี โดยตรงไปที่ห้องพักผู้ป่วยหนักศัลยกรรมทั่วไป ชั้นที่ 3 ซึ่งนายสำรวยพักรักษาอยู่ โดยพล.อ.สนธิพูดคุยกับนายสำรวยพร้อมตบบ่าให้กำลังใจอย่างเป็นกันเอง ก่อนมอบกระเช้าผลไม้ และเงินจำนวนหนึ่งเป็นการปลอบขวัญและให้กำลังใจ จากนั้นได้พูดคุยกับบิดาและมารดาของนายสำรวยด้วยความเป็นห่วง ซึ่งทราบความว่าทั้งหมดเดินทางออกจากจ.ศรีสะเกษ ในช่วงกลางดึกวันที่ 31 ธ.ค. มาถึงช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.สนธิจึงกล่าวอย่างเป็นกันเองว่า เรามาถึงพร้อมกัน จากนั้นพล.อ.สนธิจึงไปเยี่ยมผู้ประสบเหตุรายอื่น ก่อนเดินทางไปเยี่ยมผู้ประสบเหตุที่ร.พ.จุฬาลงการณ์ต่อ

    พ่อเหยื่อวอนจัดการเด็ดขาด

    ที่จ.อุตรดิตถ์ นายสัมพันธ์ กาญจนะ อายุ 65 ปี บ้านเลขที่ 44 หมู่ 12 ต.งิ้วงาม อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ อดีตผู้ใหญ่บ้าน และนางเมือง กาญจนะ บิดา-มารดาของนายสงกรานต์ กาญจนะ ผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดในกรุงเทพฯ กล่าวว่า เมื่อคืนติดตามข่าวระเบิดจากทีวีและทราบว่าบุตรชาย มีอาชีพรับเหมาตกแต่งภายใน ที่ไปร่วมงานเคานต์ดาวน์ และถูกระเบิดเสียชีวิตจึงรีบติดต่อนายชุมพล กาญจนะ อดีตส.ส.สุราษฎร์ธานี เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์, นายพิภพ กาญจนะ อดีตผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ และนายวิมล กาญจนะ ผู้จัดการทีมฟุตบอลชุดไทเกอร์คัพ และอดีตประธานกรรมาธิการการกีฬา น้องชายและมีศักดิ์เป็นอาของนายสงกรานต์ ช่วยติดตามข่าวให้ด้วย

    นายสัมพันธ์ กล่าวอีกว่า ครั้งแรกจะเดินทางไปรับศพบุตรชายที่โรงพยาบาลด้วยตนเอง แต่ญาติที่กรุงเทพฯ บอกว่าไม่ต้องมารับแต่ให้ช่วยเตรียมงานศพที่วัดปากฝาง ต.งิ้วงาม อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ และได้แจ้งลูกๆที่เหลือซึ่งทำงานอยู่ต่างประเทศให้ทราบข่าวร้ายแล้ว

    "เรื่องที่เกิดขึ้นอยากให้รัฐบาลช่วยแก้ไขปํญหาบ้านเมืองที่กำลังวุ่นอยู่นี้อย่างเด็ดขาด หากรัฐบาลปล่อยให้เป็นเช่นนี้และไม่มีมาตรการอะไรที่เด็ดขาดออกมา อาจจะส่งผลทำให้ผู้ที่ไม่หวังดีฮึกเหิมลงมือกระทำอย่างต่อเนื่องอีก ผู้ที่รับกรรมคือประชาชน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ภาคใต้ก็แย่อยู่แล้วยังจะลามมาถึงที่กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นถึงเมืองหลวงของประเทศไทย อยากให้คุมสถานการณ์ให้อยู่ ไม่อยากให้บานปลายจะเป็นเหตุนองเลือดขึ้นมาอีก"นายสัมพันธ์ กล่าวทั้งน้ำตานองหน้า

    เหยื่อบึ้มเปิดใจยังผวา

    เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ร.พ.ตำรวจ นายสุวิทย์ ยอดมณี รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วย พล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช รอง.ผบ.ตร. เดินทางเข้าเยี่ยมอาการของผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดที่พักรักษาตัวที่ร.พ.ตำรวจ ประกอบด้วย นายดวงจันทร์ โลนุช อายุ 38 ปี และนายโจวาน สโตกาโนวิช อายุ 34 ปี ชาวเซอร์เบีย

    นายสุวิทย์ กล่าวภายหลังการเยี่ยมว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสิ่งแรกที่กระทรวงการท่องเที่ยวต้องดำเนินการ คือสร้างความเชื่อมั่นกับนักท่องเที่ยวว่า ประเทศไทยมีความปลอดภัย โดยสั่งการให้เจ้าหน้าที่ประสานกับกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อให้ทำข้อมูลชี้แจงกับสถานทูตต่างๆ เชื่อว่าเรื่องนี้ไม่มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของประเทศไทย ส่วนการจัดงานรื่นเริงครั้งต่อๆไป เราคงต้องประสานงานกับหน่วยงานด้านความมั่นคงให้ช่วยตรวจสอบและดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวให้มากขึ้น

    ด้านนายดวงจันทร์ หนึ่งในผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า รู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนตั้งใจจะมาฉลองงานปีใหม่ ไม่น่าจะเกิดเหตุแบบนี้ขึ้นเลย เพราะก่อนหน้านั้น ตนก็เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจทหาร คอยรักษาการณ์อย่างเต็มที่ รวมทั้งมีสุนัขตำรวจคอยตรวจค้นหาสิ่งผิดปกติทั่วบริเวณงาน ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังรู้สึกกลัวอยู่เลย

    สธ.จัดสายด่วนสุขภาพจิต

    วันเดียวกัน น.พ.มงคล ณ สงขลา รมว.สาธารณสุข(สธ.) พร้อมด้วย น.พ.สุวัจน์ เฑียรทอง น.พ.สมยศ เจริญศักดิ์ รองปลัด สธ. น.พ.ชาตรี บานชื่น อธิบดีกรมการแพทย์ น.พ.ม.ล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต และน.พ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย ผอ.ศูนย์นเรนทร เดินทางไปตรวจเยี่ยมผู้บาดเจ็บจากเหตุระเบิด ที่ร.พ.ราชวิถี โดยมี น.พ.เจษฎา โชคดำรงสุข ผอ.โรงพยาบาลราชวิถี ให้การต้อนรับและนำเยี่ยมผู้ป่วย

    น.พ.มงคล กล่าวว่าเหตุการณ์ครั้งนี้สร้างความหวาดกลัวตื่นตระหนกให้กับประชาชนในกทม.อย่างมาก จึงสั่งการให้กรมสุขภาพจิตเปิดสายด่วน 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง โดยจัดจิตแพทย์ นักจิตวิทยา พยาบาล เพื่อให้คำปรึกษาและปลอบขวัญผลกระทบด้านจิตใจแล้ว และกำชับให้ทีมจิตเวชที่มีอยู่แล้วในร.พ.ใหญ่ ให้การดูแลผู้บาดเจ็บและครอบครัวอย่างใกล้ชิด ส่วนเรื่องค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นทั้งหมด ทั้งรัฐและเอกชน รวมทั้ง สธ.จะเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด ขณะเดียวกันปลัดสธ.ได้สั่งเตรียมความพร้อมระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินในโรงพยาบาลทุกแห่งทั่วประเทศ เพิ่มอีกร้อยละ 60 จะทำให้สามารถรองรับเหตุการณ์ได้ 100 % ที่สำคัญ สธ.กำลังดำเนินการร่างกฎหมายระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน หากกฎหมายฉบับนี้ผ่านจะทำให้ระบบบริการมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว รถพยาบาลสามารถไปรับผู้ป่วยที่จุดเกิดเหตุไม่เกิน 15 นาที

    ด้านน.พ.ม.ล.สมชาย กล่าวว่า ขอให้ทุกคนตั้งสติและช่วยกันดูแลซึ่งกันและกัน และขอให้หลีกเลี่ยงการเข้าไปในที่ชุมชนหนาแน่น ซึ่งเป็นเป้าหมายของผู้ไม่หวังดี โดยกรมสุขภาพจิตได้ประสานกับทีมจิตแพทย์ นักจิตวิทยาของโรงพยาบาลต่าง ๆ ที่รับผู้บาดเจ็บรักษา พร้อมให้การสนับสนุนทีมทันทีหากต้องการ ขณะเดียวกันได้สั่งการให้ร.พ.จิตเวชในสังกัด 17 แห่งทั่วประเทศ เตรียมพร้อมให้การสนับสนุนจังหวัดต่าง ๆ ด้วย และอาจมีการออกเยี่ยมบ้านในรายที่อยู่ต่างจังหวัดด้วย

    ยกเลิกตักบาตรสนามหลวง

    ผู้สื่อข่าวรายงานจากบริเวณท้องสนามหลวง ซึ่งกทม.เตรียมจัดพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ในช่วงเช้า ก่อนสั่งยกเลิกพิธีทำบุญตักบาตรอย่างกะทันหัน เนื่องจากเกรงว่าอาจจะมีผู้ไม่หวังดีสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในบริเวณดังกล่าว โดยการลอบวางระเบิดเช่นเดียวกับเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นในหลายจุดทั่วกรุงเทพฯ ในช่วงคืนวันที่ 31 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้มีประชาชนบางส่วนที่ไม่ทราบข่าวเดินทางมาร่วมพิธี แต่ก็ได้เดินทางกลับบ้านตามปกติ

    ที่ห้องเจ้าพระยา ศาลาว่าการ กทม. นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. พร้อมด้วยนายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัด กทม. ได้เรียกประชุมมอบนโยบายเตรียมการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยมีผู้บริหารระดับสูง ผู้อำนวยการสำนักและผู้อำนวยการเขตทั้ง 50 เขต ร่วมประชุม โดยนายอภิรักษ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า การเรียกประชุมด่วนในวันนี้ เพื่อมอบนโยบายให้ผู้บริหารและข้าราชการระดับสูง เตรียมพร้อมในการแก้ไขสถานการณ์ โดยสั่งการให้ทุกเขตเข้มงวดกับการจัดเก็บขยะ และงดตั้งวางถังขยะทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ นอกจากนี้ให้จัดเจ้าหน้าที่ตรวจตราบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัย และพื้นที่สาธารณะซึ่งเป็นที่ชุมนุมของประชาชนอย่างเข้มงวด เพื่อเป็นการสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหารอีกทางหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือประชาชนหากไม่มีความจำเป็น ขอให้ฉลองปีใหม่หรือพักผ่อนอยู่ที่บ้าน เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งขอให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตา หากพบเห็นสิ่งผิดปกติให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือทหารที่อยู่บริเวณใกล้เคียงให้ทราบโดยเร็ว เพื่อจะได้เข้าไปตรวจสอบแก้ไขได้อย่างทันท่วงที

    หมอมิ้งเผยคมช.ขอพบด่วน

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุระเบิดมีรายงานว่าคมช.ติดต่อให้แกนนำพรรคไทยรักไทยหลายคนเข้าพบ จากการโทรศัพท์ติดต่อไปยังพล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ที่ช่วยราชการสำนักนายกฯเพื่อสอบถามกระแสข่าวถูกเรียกรายงานตัว โดยพล.ต.อ.จุมพล ปฏิเสธว่าไม่มีการติดต่อเรียกเข้ารายตัวแต่อย่างใด และไม่ทราบว่ากระแสข่าวดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะมีคนโทรศัพท์มาสอบถามกันมาก ส่วนจะมีการเรียกบุคคลอื่นเข้ารายงานตัวหรือไม่นั้นไม่ทราบ เพราะขณะนี้พักผ่อนอยู่ที่บ้านในต่างจังหวัด

    ด้านน.พ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช อดีตเลขาธิการนายกฯให้สัมภาษณ์ยอมรับว่า หลังเกิดเหตุในช่วงกลางคืนของวันที่ 31 ธ.ค. 549 ที่ผ่านมา มีโอกาสคุยกับพล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วยผบ.ทบ. และผู้ช่วยเลขาธิการคมช. โดยได้บอกไปว่าตั้งแต่มีการทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 549 ที่ผ่านมา ไม่ได้เข้ายุ่งเกี่ยวกับทางการเมืองอีกเลย อย่างไรก็ตามพล.อ.สพรั่งขอให้มาเดินทางมาพูดคุยกันแต่ในช่วงเช้าวันที่ 1 ม.ค. ที่ผ่านมา โทรศัพท์ติดต่อไปยังสำนักงานของพล.อ.สพรั่ง ปรากฏมีการแจ้งขอเลื่อนออกไปก่อน แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นเมื่อไหร่ สำหรับแกนนำคนอื่นของรัฐบาลที่แล้วนั้นจะมีการติดต่อให้เข้ารายงานตัวหรือไม่ตนไม่ทราบ แต่ในส่วนของตนมีการติดต่อ แต่ปรากฏว่ามีการเลื่อนออกไป

    เมื่อถามว่าหลังเกิดเหตุระเบิดและมีการกล่าวหาพรรคไทยรักไทยอยู่เบื้องหลัง ได้มีการติดต่อกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯและอดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทยบ้างหรือไม่ น.พ.พรหมินทร์ กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุระเบิด ตลอดทั้งคืนจนถึงปัจจุบันยังไม่ได้ติดต่อกับพ.ต.ท.ทักษิณเลย

    โฆษกทรท.โวยใส่ร้าย

    รายงานข่าวจากคนใกล้ชิดของพล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี แจ้งว่า พล.ต.อ.ชิดชัย ไม่ได้ถูกทางคมช.เชิญตัว หรือส่งเจ้าหน้าที่มาควบคุมตัวไปอย่างที่เป็นข่าวแต่อย่างใด โดยเมื่อคืนวันที่ 31 ธ.ค. 2549 ที่ผ่านมานั้นพล.ต.อ.ชิดชัยก็ได้เลี้ยงฉลองปีใหม่อยู่กับครอบครัว และในช่วงเช้าวันที่ 1 ม.ค. 2550 นี้พล.ต.อ.ชิดชัยก็ได้เก็บตัวพักผ่อนอยู่ที่บ้าน ซ.ประชาราษฎร์ 10 จ.นนทบุรี กับครอบครัวตามปกติ และไม่ได้มีกำลังทหารเข้ามาตรึงกำลังแต่อย่างใด

    นายจตุพร พรหมพันธุ์ รองโฆษกพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า พรรคไทยรักไทยขอประณามผู้ก่อการครั้งนี้ ที่ไม่คำนึงถึงชีวิตและความสงบสุขของประชาชน และขอแสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บขอร้องให้ทางตำรวจ เร่งสอบสวนหาผู้กระทำความผิดมาลงโทษโดยเร็ว แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง ไม่เป็นไปตามกระแส เพราะขณะนี้มีการมุ่งเป้าโดยที่ยังไม่มีพยานหลักฐานว่าเป็นฝีมือของอำนาจเก่า ก็คือพรรคไทยรักไทย ซึ่งเป็นเรื่องไม่เป็นธรรม และไม่สร้างความสมานฉันท์

    "นักการเมืองมีทั้งชั่วและดี แต่คงไม่มีใครกล้าพอที่จะทำร้ายชีวิตประชาชนถึงเพียงนี้ แต่หากมีพยานหลักฐานชัดเจนว่านักการเมืองเกี่ยวข้อง ก็สามารถดำเนินการตามกฎหมายได้ แต่การที่นายกฯระบุว่า เป็นกลุ่มที่เสียประโยชน์ทางการเมือง คนอาจคิดว่าเป็นฝีมือของไทยรักไทย ซึ่งไม่เป็นธรรม ขอให้นายกฯออกมาระบุให้ชัดเจนเลยว่าเป็นใคร" นายจตุพรกล่าว

    "อ๋อย"จี้เร่งจับมือบึ้มกรุง

    นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวว่าพรรคไทยรักไทยขอประณามการก่อวินาศกรรมครั้งนี้ ว่าเป็นการกระทำที่เลวร้าย ไร้คุณธรรม ขาดจิตสำนึก ความรับผิดชอบต่อประชาชน และทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ เมื่อนายกรัฐมนตรีแถลงว่า ได้ทราบวัตถุประสงค์ของการก่อความไม่สงบแล้ว ตนหวังว่ารัฐบาลและเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบจะจับกุมผู้กระทำผิดได้โดยเร็ว เพื่อให้สถานการณ์ของประเทศกลับสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุด พรรคไทยรักไทยยังยืนยันที่จะดำเนินกิจกรรมทางการเมืองอย่างสร้างสรรค์ ส่งเสริมความสมานฉันท์ และต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย โดยยึดมั่นในหนทางสันติวิธี เพราะเชื่อว่าเป็นหนทางเดียวที่จะแก้ปัญหาของประเทศได้อย่างแท้จริงและถาวร

    ยธ.จ่ายชดเชยเหยื่อบึ้ม

    นายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) กล่าวถึงเหตุระเบิดในกทม.ว่า เบื้องต้นสั่งการให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์เข้าไปดูแล โดยเป็นหน่วยเสริมในการตรวจหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อคลี่คลายคดีลอบวางระเบิด อย่างไรก็ตาม ในวันพุธที่ 3 ม.ค. นี้ จะเรียกประชุมกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพทันที เพื่อเข้าไปดูแลจ่ายเงินค่าชดเชยให้กับผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุระเบิด ซึ่งถือเป็นเหยื่ออาชญากรรม ในส่วนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ยังไม่สามารถส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุได้ เพราะกฎหมายให้อำนาจเฉพาะการสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นไม่น่าจะเข้าข่ายเป็นคดีพิเศษ

    นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เปิดเผยว่า เหยื่อจากเหตุลอบวางระเบิด เข้าข่ายได้รับค่าทดแทนในฐานะเหยื่ออาชญากรรม ในกรณีนี้กรมคุ้มครองสิทธิฯ จะดำเนินการอย่างเร่งด่วน โดยวันพุธที่ 3 ม.ค. เจ้าหน้าที่กรมคุ้มครองสิทธิฯ จะนำหนังสือคำร้องขอรับเงินทดแทนไปพบญาติของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตตามข้อมูลที่รัฐบาลสรุปที่โรงพยาบาล และจะเรียกประชุมคณะกรรมการพิจารณาค่าทดแทนและค่าตอบแทนให้กับผู้เสียหายในคดีอาญา เพื่อพิจารณาจ่ายเงินช่วยเหลือให้แก่เหยื่อเป็นวาระเร่งด่วน ทั้งนี้ ผู้บาดเจ็บมีสิทธิได้รับค่ารักษาพยาบาลตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 30,000 บาท ผู้มีอาชีพแต่ต้องขาดงาน มีสิทธิได้รับเงินชดเชยวันละไม่เกิน 200 บาท ในรายที่เสียชีวิต มีสิทธิได้รับค่าปลงศพ 20,000 บาท และค่าเสียหายอื่น ๆ ไม่เกิน 30,000 บาท

    "สนธิ"ประชุมด่วนคมช.

    ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.สนธิ บุญยรัตนกลิน ผบ.ทบ. และประธานคมช. เรียกประชุมคมช.นัดพิเศษทันที ภายหลังเดินทางกลับจากประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยมีสมาชิกคมช.เข้าร่วมพร้อมเพียง อาทิ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ. และรองประธานคมช. พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผบ.ทร. และรองประธานคมช. พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร. และรองประธานคมช. พล.อ.วินัย ภัททิยกุล ปลัดกระทรวงกลาโหมและเลขาธิการคมช. พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.สส. พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วยผบ.ทบ.และผู้ช่วยเลขาธิการคมช. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้ช่วยผบ.ทบ. พล.ท.ประยุทธ จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 1 รวมทั้งพล.ต.ท.วิโรจน์ จันทรังษี ผบช.น. ใช้เวลาประชุมนาน 1 ชั่วโมง 30 นาที

    พล.อ.สนธิแถลงภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมว่า คมช.สามารถดำเนินงานด้านการข่าวและงานด้านปฏิบัติการได้อย่างเรียบร้อยตามแผนปฐพี 149 ซึ่งเป็นแผนเฝ้าระวังที่ได้ปฏิบัติในการเฝ้าระวังมาโดยตลอด ดังนั้น การเตรีมกำลังเพื่อป้องกันเหตุร้ายเสริมกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงไม่น่ามีปัญหาใดๆ และการทำงานของคมช.จากนี้ไป เรื่องความมั่นคงทั้งหมดจะเป็นหน้าที่ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(กอ.รมน.) ที่ต้องเข้าแก้ปัญหาและกำกับดูแลการปฏิบัติของกอ.รมน.ภาค กอ.รมน.จังหวัด ดังนั้นงานด้านความรับผิดชอบที่เป็นภัยที่อาจจะเกิดขึ้น เราต้องทำให้ง่ายขึ้น

    เชื่อมาจากปัญหาการเมือง

    พล.อ.สนธิกล่าวว่า คมช.มีหน้าที่กำกับดูแลงานของสภานิติแห่งชาติ(สนช.) สภาร่างรัฐธรรมนูญ(สสร.) และงานในภารกิจ 4 ประการ โดยคมช.จะเน้นเรื่องเหล่านี้ แต่งานด้านความมั่นคงจะให้กอ.รมน.เป็นหลัก ซึ่งกระบวนการบริหารจัดการในเรื่องการรักษาวามมั่นคงภายใน ตามแนวทางที่วางไว้คือ โฮมแลนด์ซิเคียวลิตี้ ที่เราเอามาจากสหรัฐอเมริกา มาผสมผสานกับการกำกับของเรา ก็เชื่อว่าน่าจะดีขึ้น อย่างไรก็ตาม มันเพิ่งเริ่มต้น ก็เชื่อว่าจะสามารถกำกับดูแลการปฏิบัติได้ดีขึ้น

    พล.อ.สนธิกล่าวว่า สำหรับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นในกทม.นั้น ขอเรียนว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียใจ จากการประเมินดูแล้วพบว่า เป็นบุคคลที่สูญเสียผลประโยชน์ทางการเมือง ซึ่งยังไม่มั่นใจว่าเชื่อมโยงปัญหาระหว่างทางภาคใต้จะกลับขึ้นมาด้านบนนี้หรือไม่ แต่จากเหตุผลหลักการแล้วไม่น่าจะเชื่อมโยงกัน เพราะถ้าเชื่อมโยงกันอย่างนั้นมันก็จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ เวลานี้จากการประมวลขีดความสามารถ สถานการณ์ ผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้แล้ว คิดว่าไม่น่าจะเชื่อมโยงกัน จึงทำให้มุ่งไปในประเด็นที่ว่า เป็นการกระทำของผู้สูญเสียผลประโยชน์ทางการเมือง ซึ่งต้องยอมรับว่า เป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นจากการกระทำของผู้ไม่หวังดี ทำให้ประชาชนเกิดความไม่สบายใจ ซึ่งตนเชื่อว่าเมื่อทุกคนเข้าใจปัญหาของชาติ ที่ตนเรียกว่า ภัยในรูปแบบใหม่ ที่กำลังจะเกิดขึ้น หากทุกคนเข้าใจร่วมกัน ปัญหาต่างๆ ย่อมมีทางแก้

    ไม่เชื่อโจรใต้จะทำได้

    ผู้สื่อขาวถามว่า จะมียุทธวิธีในการดูแลรักษาความสงบเพิ่มเติมอย่างไร พล.อ.สนธิกล่าวว่า การรบในเมืองกับการปฏิบัติการในชนบทมันแตกต่างกันอยู่แล้ว ซึ่งภัยในรูปแบบใหม่ เป็นภัยที่เกิดขึ้นหลายรูปแบบและมีลักษณะแตกต่างกันออกไป ดังนั้น ในการฝึก มีคำสั่งตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว เพราะเราวาดภาพของการก่อความไม่สงบและคาดว่าวันนี้มันจะต้องเกิดขึ้นกับประเทศเรา จึงฝึกหน่วยทหารต่างๆ เพื่ออย่างน้อยในชั้นต้น ระดับผู้นำหน่วยจะได้มีความเข้าใจในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม การก่อการร้ายในเมือง มีสิ่งที่ต้องพัฒนาไปเรื่อยๆ เหมือนที่ภาคใต้ ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ต่างคนต่างจะหารูปแบบของตัวเองมาทำใหม่ๆ เช่นเดียวกับในอิรักเป็นต้น ทั้งนี้ การก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้มันมีหลักการของมัน เพียงแค่อยู่ในยะลา ปัตตานี นราธิวาส เขาก็พยายามที่จะหลบอย่างหัวซุกหัวซุนพอสมควร ดังนั้น ถ้ามาในกทม.เขาไม่หลงแย่หรือ เขาคงมาไม่ถูก ดังนั้น การที่เขาไม่รู้จักพื้นที่ เขาคงทำการรบหรือปฏิบัติการไม่ได้

    เมื่อถามว่า มีข้อมูลหรือไม่ว่าผู้เสียผลประโยชน์ทางการเมืองนั้นเป็นคนกลุ่มไหน พล.อ.สนธิกล่าวว่า กำลังตรวจสอบอยู่ เพราะเราพยายามหาเป้าหมายที่ชัดเจนในการเข้าไปกำกับดูแล แต่ยังบ่งชี้ไม่ได้ว่าตอนนี้กำลังเป็นใคร ขอเวลาให้เราได้ศึกษาสักนิด เมื่อถามว่าเกี่ยวข้องกับกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ อยากเดินทางกลับประเทศไทยหรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน เมื่อถามว่าจะเป็นเหตุผลในการดูแลป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น ในช่วงที่พ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางกลับประเทศไทยหรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า ตนไม่กังวล

    ยอมรับขอพบขุมอำนาจเก่า

    เมื่อถามว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเชื่อมโยงกับต่างประเทศหรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า ไม่น่าเชื่อมโยง เมื่อถามว่าการที่เชิญน.พ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช อดีตเลขาธิการนายกฯ มาสอบถามข้อมูล แสดงว่ามีความเชื่อมโยงกับรัฐบาลที่ผ่านมาใช่หรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า การเฝ้าระวัง หรือเรามีข้อสงสัยตรงไหน เราก็เชิญมาสอบถามทั้งหมด ซึ่งนี่เป็นการเชิญชุดแรก และเดี๋ยวจะมีชุด 2-3-4-5 มาเรื่อยๆ ซึ่งการเชิญมานั้น ไม่ได้หมายความว่าเราสงสัยว่าเขาเป็นฝ่ายไหน แต่ในฐานะที่เป็นผู้มีประสบการณ์หลากหลาย การเชิญมานั้น ทำให้เราได้รับฟังข้อคิดเห็นของเขาเหล่านั้น เมื่อถามว่าจะมีการเชิญ ใครมาให้ข้อมูลอีกบ้าง พล.อ.สนธิกล่าวว่า อยู่ที่ว่าใครมีข้อมูลที่เราต้องการและสะดวกที่จะมาให้ข้อมูล ซึ่งตนยังไม่ทราบว่าจะเป็นใครบ้าง เมื่อถามว่ามีรายชื่อพล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ อดีตรองนายกฯด้วยหรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า ยังไม่ขอบอก

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อพลอ.สนธิกล่าวถึงช่วงนี้ได้หันไปถามพล.อ.มนตรี สังขทรัพย์ เสนาธิการทหารบก ซึ่งได้รับคำตอบว่า ได้เรียกพล.ต.อ.ชิดชัยไปแล้ว แต่ยังไม่มารายงานตัว พล.อ.สนธิจึงหันมากล่าวกับผู้สื่อข่าว ว่า ก็มีเรียกไปแล้วแต่ยังไม่มา ซึ่งวันนี้ได้เชิญมา 4 คน ตามที่เป็นข่าว(พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ อดีตรองนายกฯ พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย อดีตผอ.สำนักข่าวกรองฯ น.พ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช อดีตเลขาฯนายกฯ และพล.ต.อ.ชลอ ชูวงศ์ ช่วยราชการสำนักนายกฯ)

    ชี้ได้ข่าวมาก่อนแล้ว

    เมื่อถามว่าเมื่อเชิญมาแล้วจะทำให้ถูกมองว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับรัฐบาลที่ผ่านมาหรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า ที่เชิญมาก็เพราะส่วนหนึ่งอยากรู้ว่าเขาคิดอย่างไร เมื่อถามว่ามองว่าผู้ก่อความไม่สงบตั้งใจหรือไม่ที่เลือกทำในช่วงที่ประธานคมช.ไม่อยู่ในประเทศ ประธานคมช.กล่าวว่า เขาคิดว่าเป็นจังหวะที่ดีเพราะเป็นช่วงว่างของตน แต่คงไม่ใช่ เพราะทุกคนทำงานกันได้อย่างเรียบร้อย ซึ่งพล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร. รายงานว่า ทางตำรวจจะเร่งสืบสวน

    เมื่อถามว่าหน่วยข่าวมีการรายงานก่อนหน้านี้หรือไม่ว่าจะมีเหตุระเบิดเกิดขึ้นในช่วงปีใหม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า เรามีข่าวอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะแม่ทัพภาคที่ 1 ทราบดี เพียงแต่ไม่รู้ว่าที่ไหน อย่างไร เมื่อถามว่าเหตุใดจึงป้องกันไม่ได้ทั้งๆ ที่รู้ พล.อ.สนธิกล่าวว่า "โอ๊ย กรุงเทพฯ แต่เราก็พอจะรู้เหมือนกัน แต่ไม่คิดว่าเขาจะทำถึงขนาดนี้"

    เมื่อถามว่ามีรายงานข่าวหรือไม่ว่าจากนี้จะต้องรับสถานที่ใดเป็นพิเศษ พล.อ.สนธิกล่าวว่า เราอ่านเจตนาของเขาที่เขาทำอยู่ในขณะนี้ว่า เพราะต้องการทำลายความมั่นคงของประเทศ เศรษฐกิจ สังคม เพื่อต้องการล้มรัฐบาล ดังนั้น จึงตอบไม่ได้ว่าตรงไหนที่เขาจะทำ แต่วัตถุประสงค์ต่างๆ เขาคงวางไว้แล้ว และไปจัดวางในที่ที่วางได้ง่าย เมื่อถามว่าเป็นเครือข่ายใหญ่หรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า คงไม่น่าห่วง

    มั่นใจไม่มีเหตุปฏิวัติซ้อน

    เมื่อถามว่ารวมถึงกระแสข่าวการปฏิวัติซ้อนหรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า ไม่มีแน่ เชื่อว่าทั้งกองทัพบกไม่เป็นอย่างนั้นแน่นอน เพราะจากการที่นั่งพูดคุยกันเมื่อสักครู่ 4-5 คน ก็หัวร่อต่อกระซิกหยอกเย้ากันดี ไม่มีทางเป็นไปได้ เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่า จะมีการปฏิวัติซ้อนเพื่อที่จะยึดทรัพย์พ.ต.ท.ทักษิณ จริงเท็จอย่างไร พล.อ.สนธิกล่าวว่า "โอ๊ย กฎหมายมันมี อะไรที่เราทำได้ก็ทำ อะไรทำไม่ได้ก็ไม่ทำ เราต้องเอาความเป็นธรรมในสังคมมาว่ากัน เพราะกฎหมายมีอยู่ การยึดทรัพย์นั้น ถ้าจะเกิดขึ้นได้เราให้คตส.เป็นคนตัดสิน"

    เมื่อถามว่าจะต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินหรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า การนำกฎหมายข้อใดมาใช้ประกอบเพิ่มเติมเพื่อการรักษาความสงบเรียบร้อยหรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า ความจริงเรามีอยู่แล้วในมือ แต่เรายังไม่ได้ใช้เลย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังถือว่ายังอยู่ในระหว่างการประการกฎอัยการศึกอยู่ เมื่อถามว่าถือว่ากลุ่มที่สูญเสียทางการเมือง ต้องการต่อต้านคมช.ใช่หรือไม่ ประธานคมช.กล่าวว่า ในการมอง เราก็ต้องมองหลายๆมุม เหมือนการที่ตำรวจสอบสวนคดีต่างๆ ว่า มีสาเหตุจากเรื่องใด เราก็ใช้หลักการเดียวกัน แต่ตนไม่อยากให้พูดไปชัดๆ ว่าเป็นการต่อต้านคมช. อย่างไรก็ตาม มีกระบวนการในการทำลาย ทั้งคมช.และรัฐบาลอยู่อย่างต่อเนื่องในขณะนี้ เพื่อให้ขาดความน่าเชื่อถือ

    เมื่อถามว่าจากการตรวจเศษวัตถุระเบิดพบว่า ต้องเป็นฝีมือผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น พล.อ.สนธิกล่าวว่า การจัดหาในกทม.นั้นง่าย เช่น ซีโฟร์ เพาเวอร์เจล และใช้ส่วนอื่นประกอบ เช่น ตะปู ตลับลูกปืนเม็ดกลมๆ ซึ่งเป็นส่วนประกอบในการวิ่งไปทำลายสิ่งที่อยู่รอบข้าง แต่ทางภาคใต้ จะใช้ปุ๋ยผสม และการทำระเบิดวางนั้นไม่ยาก อย่างพวกสื่อก็ทำได้ถ้าให้ตนฝึกเพียง 1 ชั่วโมง เมื่อถามว่ามีรายงานข่าวหรือไม่ว่ามีคนในเครื่องแบบ หรือทหารเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า ไม่ทราบ แต่หากมีก็ขอให้ช่วยบอก ส่วนกรณีที่ประชาชนหวาดวิตกไม่กล้าเดินทางไปไหนมาไหนนั้น ก็อย่างที่ตนบอกแล้วว่า หากมีความเข้าใจและช่วยกัน ก็คิดว่าเราแก้ปัญหาได้

    ปชป.ก็เชื่อปมการเมือง

    ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์แถลงว่า ขอประณามกลุ่มบุคคลผู้กระทำการให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์ และทำร้ายประเทศชาติบ้านเมืองอย่างไร้สำนึกความรับผิดชอบชั่วดี เพียงเพื่อหวังผลทางการเมือง โดยไม่คำนึงถึงความเสียหายของประเทศชาติและประชาชน รัฐบาลต้องเพิ่มมาตรการทางด้านการข่าวให้มากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาพล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ที่ปรึกษาผู้บัญชาการทหารบก ของบประมาณเพื่อเตรียมกำลังในการแก้ปัญหาด้านความมั่นคงไว้ ดังนั้น คงต้องมีมาตรการดูแลเพิ่มเติมมากขึ้นด้วย

    เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์มองว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นการกระทำของกลุ่มผู้มีอำนาจเก่าใช่หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า เชื่อว่าประชาชนทั้งประเทศรู้สึกเหมือนตนว่าผู้กระทำต้องการให้ประชาชนเห็นว่ารัฐบาลไม่มีความสามารถในการปกครองประเทศ จึงชัดเจนว่าเป็นการหวังผลทางการเมืองแน่นอน โดยเป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมมาก ไม่คำนึงถึงคุณธรรม และศีลธรรม

    "ชูวิทย์"ตั้งค่าหัว1ล้าน

    นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ รองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวว่า ขอประณามทั้งผู้อยู่เบื้องหลัง และคนวางระเบิดป่วนเมืองในครั้งนี้ เพราะถือเป็นการทำลายขวัญกำลังใจของคนทั้งชาติ เป็นการบ่อนทำลายชาติ อีกทั้งเป็นการตั้งใจดิสเครดิตรัฐบาลชุดนี้ จึงพยายามเจาะจงให้ระเบิดในวันขึ้นปีใหม่ โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบด้านเศรษฐกิจที่จะตามมา ทั้งนักท่องเที่ยว นักลงทุนชาวต่างชาติ ใครเขาจะเข้ามาเที่ยวมาลงทุนในประเทศไทย เพราะขณะนี้สถานทูตนานาชาติต่างออกคำเตือนว่า ประเทศไทยไม่ปลอดภัย และกว่าจะเรียกความเชื่อมั่นและสร้างภาพลักษณ์ให้กลับคืนมาเหมือนเดิม ซึ่งไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหน

    "ผมจึงขอตั้งรางวัลนำจับให้กับคนที่ชี้แบะแสจนสามารถจับกุมผู้วางระเบิดมาลงโทษได้ ให้มารับเงินที่ผม 1 ล้านบาทได้ทันที แต่ทั้งนี้คดีดังกล่าวต้องถึงที่สุดว่า คนดังกล่าวเป็นคนวางระเบิดจริง เพราะเงินเพียงแค่นี้ ผมไม่รู้สึกเสียดาย หากเอาคนผิดมาลงโทษได้ เพราะเราจะต้องสร้างความเชื่อมั่นของประเทศกลับคืนมาโดยเร็ว" นายชูวิทย์กล่าว

    เผยตร.สงสัยทั้ง2ปม

    รายงานข่าวแจ้งว่าแม้จะมีหลายฝ่ายออกมาแสดงความเห็นว่าการระเบิดถล่มกรุงครั้งนี้มาจากปัญหาการเมือง ขุมอำนาจเก่า แต่ตำรวจไม่ได้ทิ้งปมเรื่องโจรใต้ขึ้นมาสร้างสถานการณ์ โดยเฉพาะเรื่องตัวอักษร"IRK" มีลักษณะการเขียนและมีจุดต่างๆคล้ายกับภาษาเขียนของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นอกจากนี้การประกอบระเบิด หรือวิธีจุดระเบิดใกล้เคียงกับที่โจรใต้ชอบใช้

    ส่วนเรื่องการเมืองแม้ตำรวจจะไม่ตัดทิ้ง แต่ก็ตั้งข้อสังเกตไว้ว่าการสร้างสถานการณ์ทางการเมืองที่ผ่านมา มักจะใช้ระเบิดเสียงเป็นหลักและให้เสียหายต่อทรัพย์สินเล็กน้อย หรือมีแค่ผู้บาดเจ็บเท่านั้น มักจะไม่ต้องการให้เกิดเสียชีวิตขึ้น แต่กับระเบิดที่เกิดขึ้นรวม 8 จุดทั่วกรุง คนร้ายใส่สะเก็ดระเบิดทั้งตะปู และตลับลูกปืน ทั้งยังนำไปวางในจุดชุมชนพลุกพล่าน เหมือนต้องการให้มีความสูญเสียเกิดขึ้นจำนวนมาก ซึ่งเป็นเรื่องผิดปกติหากเป็นเรื่องทางการเมือง เพราะรุนแรงเกินขีดนั่นเอง

    ทนายทักษิณโต้ลั่น-ไม่เกี่ยว

    ที่โรงแรมเซ็นทรัล โซฟิเทล ลาดพร้าว นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และครอบครัว เปิดแถลงข่าวว่า วันเดียวกันนี้โทรศัพท์พูดคุยกับพ.ต.ท.ทักษิณ 2 ครั้ง คือ ช่วงเช้า ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณสอบถามเหตุการณ์ด้วยความห่วงใยประชาชนมาก และอีกครั้งในช่วงบ่ายภายหลังจากที่พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ออกมาแถลงข่าวสถานการณ์ลอบวางระเบิดที่เกิดขึ้น ซึ่งจากการหารือกับพ.ต.ท.ทักษิณ ตนจึงตัดสินใจแถลงข่าวในที่สุด เนื่องจากพ.ต.ท.ทักษิณ แสดงความไม่พอใจมากที่มีการเชื่อมโยงว่าเหตุการณ์ลอบวางระเบิดที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำของกลุ่มการเมืองเก่าที่เสียประโยชน์ ซึ่งการเชื่อมโยงดังกล่าวถือว่าไม่เป็นธรรมและร้ายแรงมาก เพราะหลังจากพ้นตำแหน่งพ.ต.ท.ทักษิณได้ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย และไม่เคยเคลื่อนไหวทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น การเชื่อมโยงเช่นนี้จึงถือเป็นการทำลายทางการเมืองอย่างรุนแรง

    "พ.ต.ท.ทักษิณติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความห่วงใยประชาชน และขอประณามการกระทำที่โหดเหี้ยมครั้งนี้ด้วยคำพูดที่รุนแรงที่สุด เพราะเป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรมกับผู้บริสุทธิ์ ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้นในเทศกาลปีใหม่ และพ.ต.ท.ทักษิณ ขอแสดงความห่วงใยกับญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บด้วย ส่วนการพยายามโยงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็นกลุ่มการเมืองเก่าที่เสียประโยชน์ หรืออดีตนายกฯ นั้น พ.ต.ท.ทักษิณปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการก่อการครั้งนี้ แม้ในยามวิกฤตกับตนเองพ.ต.ท.ทักษิณก็ไม่เคยคิดทำร้ายหรือใช้ความรุนแรงกับประชาชน เพราะตระหนักดีว่านักการเมืองมีที่มาจากประชาชนหากทำร้ายประชาชนถือเป็นการกระทำที่เลวร้ายมาก แม้พ.ต.ท.ทักษิณมีอุปสรรคปัญหาต้องพ้นจากตำแหน่งนายกฯ แต่ไม่เคยคิดทำร้ายประชาชนแน่นอน ซึ่งตอนนี้พ.ต.ท.ทักษิณพำนักอยู่ที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย และติดต่อพูดคุยกับเพื่อนฝูงที่นับถือ รวมถึงติดตามสถานการณ์ของประเทศด้วยความห่วงใย แต่ไม่เคยเคลื่อนไหวทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น" นายนพดลกล่าว

    สอนมวยคมช.แก้ปัญหา

    ที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวต่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังฝากมายังรัฐบาลว่าอย่าตัดประเด็นใดประเด็นหนึ่งในการสอบสวนออกไป เพราะจากการที่พล.อ.สุรยุทธ์แถลงว่าเป็นกลุ่มผู้เสียประโยชน์ทางการเมือง แต่ไม่รู้ว่าเป็นกลุ่มใด และอาจไม่ใช่กลุ่มภาคใต้นั้น ในเมื่อไม่รู้ว่าเป็นกลุ่มใดก็ไม่ควรตัดประเด็นภาคใต้ออกไป ที่สำคัญพ.ต.ท.ทักษิณ มองว่ามีกระบวนการวางระเบิด หรือการใช้ระเบิดที่เหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในภาคใต้ ซึ่งรัฐบาลควรเพิ่มสรรพกำลังเข้าไปแก้ไขปัญหาภาคใต้ และขอฝากไปยังรัฐบาลว่า สิ่งที่จะต้องทำในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 3 ประการ คือ 1.ใช้มืออาชีพในการสอบสวน 2.ใช้หลักวิชาการสืบสวนสอบสวน และ 3. ใช้แผนประทุษกรรมเพื่อคลำทางว่าวิธีการเหล่านี้มาจากที่ไหนบ้าง เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอกจากกระทบชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนแล้ว ยังกระทบชื่อเสียงประเทศด้วย ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณขอเอาใจช่วยรัฐบาลในการแก้ปัญหาให้สำเร็จ และติดตามจับกุมผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้ไม่ว่าหน้าไหนก็ตาม

    ผู้สื่อข่าวถามว่า การก่อความไม่สงบที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯครั้งนี้มีผลต่อการตัดสินใจเดินทางกลับประเทศไทยของพ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ นายนพดลกล่าวว่าจะไม่มีการเลื่อนกลับให้เร็วขึ้น แต่การเดินทางกลับเข้ามาชี้แจงสิ่งที่ถูกกล่าวหานั้น ขึ้นอยู่กับการแจ้งข้อกล่าวหาของคณะกรรมการป.ป.ช. และคตส. และการคำนึงถึงความสมานฉันท์ในประเทศ
    http://www.matichon.co.th/khaosod/khaosod_detail.php?s_tag=03p0101020150&day=2007/01/02
     
  6. น้องหน่อยน่ารัก

    น้องหน่อยน่ารัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,976
    ค่าพลัง:
    +4,975
    ถึงคุณ free

    ผู้ใดมาระดมม๊อบในเว็บไซต์ศักดิ์สิทธิ์นี้เพื่อนำสาธุชนคนดีไปตายแทนเพื่อ
    ประโยชน์ตน ขอชีวิตมันผู้นั้นจงพินาศบัลลัย ตกนรกลงอบายนานแสนเทอญ


    เอวัง...


    คุณกำลังทำชาติพินาศ มาเอาม๊อบคนดีไปสู้ทหาร
    ทำเลวขนาดนี้รู้สำนึกหรือไม่ ว่าจะตกอบายขุมไหน
    จงไปบอกทักษิณ หัวหน้าคุณด้วยว่าผมคือคู่ปรับเก่า
    คนที่ปราบเขาได้ จงเตรียมตัวรับกรรม


    กลับไปบอกทักษิณนายของคุณ จงเตรียมตัวรับกรรม
     
  7. paweepawee

    paweepawee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +218
    ขอให้คนไทยและชาวโลกทุกท่านจงปลอดภัยด้วยเถิด
     
  8. free

    free สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2005
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +18
    ฤษีแปลงสาร = ติ๊งต๊อง
     
  9. free

    free สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2005
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +18
    ฤษีแปลงสาร=
    5555 อืม เหลือเชื่อ อะไร คุณคิดเอง-เออเอง หรอ สติอยู่ไหน ผมโพสเพื่อให้ทุกคนอ่าน จริงเท็จมันอีกเรื่องนึง ผมไม่ได้พิมว่าใครจริงหรือเท็จ แต่ตงกันข้ามคุณมีแช่งด้วย อิอิไหนคุณบอกว่ารู้ทางธรรม แล้ว อารมย์คุณอ่ะมาจากไหน คุมให้อยู่ แล้วอะไรคือนิพพาน อิอิ ความอยากนิพพาน มันจะนิพพานได้อย่างไร ในเมื่อมันมีความอยากอยู่ในตัว อิอิ คิดให้ดี อารมย์มาจากไหน รู้แค่งูๆปลาๆ อย่าริมาสอนชาวบ้าน คุมตัวเองให้ปฏิบัติให้ดีก่อน อย่าอวดอุตริ ว่าทําอะไรก็นิพพาน มันไม่ใช่ความอยากก่อเกิดมันจะนิพพานได้อย่างไร ทุกอย่างมันว่างเปล่า จําไว้ ทุกอย่างมันว่างเปล่า

     
  10. free

    free สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2005
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +18
    ฤษีแปลงสา=
    5555 อืม เหลือเชื่อ อะไร คุณคิดเอง-เออเอง หรอ สติอยู่ไหน ผมโพสเพื่อให้ทุกคนอ่าน จริงเท็จมันอีกเรื่องนึง ผมไม่ได้พิมว่าใครจริงหรือเท็จ แต่ตงกันข้ามคุณมีแช่งด้วย อิอิไหนคุณบอกว่ารู้ทางธรรม แล้ว อารมย์คุณอ่ะมาจากไหน คุมให้อยู่ แล้วอะไรคือนิพพาน อิอิ ความอยากนิพพาน มันจะนิพพานได้อย่างไร ในเมื่อมันมีความอยากอยู่ในตัว อิอิ คิดให้ดี อารมย์มาจากไหน รู้แค่งูๆปลาๆ อย่าริมาสอนชาวบ้าน คุมตัวเองให้ปฏิบัติให้ดีก่อน อย่าอวดอุตริ ว่าทําอะไรก็นิพพาน มันไม่ใช่ความอยากก่อเกิดมันจะนิพพานได้อย่างไร ทุกอย่างมันว่างเปล่า จําไว้ ทุกอย่างมันว่างเปล่า
     
  11. ดอกเข็ม

    ดอกเข็ม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +479
    ถึงความคิดทางการเมืองจะแตกต่างกัน
    แต่ไม่ควรแตกแยก เพราะเรามีในหลวง
    ที่เรารักยิ่งองค์เดียวกัน

    จะทำอะไรให้นึกถึงประเทศด้วย
    และขอประนามในการกระทำครั้งของผู้ที่ไม่หวังดี
     

แชร์หน้านี้

Loading...