Law of Attraction การควบคุมกฏแห่งแรงดึงดูดให้ทำงานให้เราอย่างมีประสิทธิภาพ

There's A Place For Us

There's a place out there for us,
more than just a prayer or anything you've ever dreamed of.
So if you feel like giving up cause you don't fit in down here,
fear is crashing in, close your eyes and take my hand.

We can be the kings and queens of anything if we believe.
It's written in the stars that shine above,
a world where you and I belong, where faith and love will keep us strong,
exactly who we are is just enough
there's a place for us, there's a place for us.

When the water meets the sky,
where your heart is free and hope comes back to life,
when these broken hands are whole again,
well will find what we've been waiting for,
we were made for so much more



We can be the kings and queens of anything if we believe.
It's written in the stars that shine above,
a world where you and I belong, where faith and love will keep us strong,
exactly who we are is just enough,
there's a place for us, there's a place for us

So hold on, now hold on,
there's a place for us

We can be the kings and queens of anything if we believe.
It's written in the stars that shine above,
a world where you and I belong, where faith and love will keep us strong,
exactly who we are is just enough, exactly who we are is just enough,
there's a place for us.

​

 

ผมจำได้เมื่อ 2-3 ปีก่อนผมเคยอ่านหนังสือเรื่อง The Top Secret แล้วผมก็ลองทำตามที่หนังสือบอกไว้ ขอ เชื่อ รับ ประมาณนั้น เท่าๆที่สังเกตมันก็เป็นไปตามนั้นทุกอย่างถ้าเราได้ลงมือทำอย่างจริงจัง เหมือนเป็นการสร้างแรงบรรดาลใจ สร้างความเชื่อมั่น หรือตั้งเป้าให้ตัวเองไว้นั้นเอง

แต่สมมุติถ้าเราคิดฝันไว้ แต่ก็แค่ฝันไปอย่างงั้นโดยไม่ได้ลงมือทำ เหมือนนอนรอคอยความฝันให้เป็นจริงมันก็เป็นไปได้น้อยมากที่สิ่งที่ฝันไว้นั้นจะเป็นจริงมาได้ ทำให้ผมคิดได้ว่า กฏแรงดึงดูดนั้น ก็ไม่อาจจะสู้ กฏแห่งกรรมได้ เหมือนกฎแรงดึงดูดนั้นเป็นแผนที่นำทางให้เราทำตามที่เราได้วางเอาไว้ แต่ท้ายที่สุดแล้วทุกอย่างมันก็ขั้นอยู่กับตัวเราเองว่าจะทำตามนั้นหรือไม่

และด้วยหลักการคร่าวๆดังนี้ทำให้ผมนึกถึงคำๆหนึ่งที่ว่า ใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน ทุกสิ่งสำเร็จด้วยใจ ซึ่งปัจจุบันนี้ผมก็จำคำๆนี้แทนหลักการที่สอนไว้ใน The Top Secret

แล้วการที่เราทำสิ่งใดด้วยใจรัก รักในสิ่งที่ทำ ทำในสิ่งที่รัก (ถ้าในทางพุทธก็ อิทธิบาท 4 ) หรือทำสิ่งต่างๆเผื่อคนที่เรารักแล้ว ผมว่ามันมีพลังหรือแรงผลักดันให้มากมายจนเราสามารถทำสิ่งนั้นจนสำเร็จได้

ผมยังคิดอยู่เลยว่าถ้าว่างๆจะลองกลับไปอ่าน The Top Secret ดูอีกครั้ง เคยซื้อมาตั้งเล่ม 1 เล่ม 2 แถมวันก่ิอนซื้อหนังสือเรื่อง The Power กับ The meta secret มาก็ยังไม่ได้อ่านเลย

เพลงนี้เพราะดี ขอมอบให้แก่ทุกชีวิตที่มีความรัก และความหวัง
[ame="http://www.youtube.com/watch?v=a3RJnlXtkSg"]YouTube - I'll believe.[/ame]

 

A Secret Scrolls message from Rhonda Byrne
Creator of The Secret and The Power

From The Secret Daily Teachings

Most people can manifest the small things quickly. This is because they do not have any resistance around the small things, and because they don't think thoughts that contradict them. When it comes to the bigger things, however, people often emit thoughts of doubt or worry that contradict those bigger things. This is the only difference in terms of the time it takes for something to manifest.
Nothing is big or small for the Universe.

May the joy be with you,

________________________

คนส่วนใหญ่สามารถทำฝันเล็กๆให้เป็นจริงได้อย่างรวดเร็ว
นั่นก็เพราะมันไม่มีแรงต้านทานรอบๆฝันก้อนเล็กๆ
และเพราะคนมักไม่คิดลบต่อต้านกับฝันก้อนเล็กนั้น

แต่พอเป็นฝันชิ้นใหญ่ๆ
คนมักจะส่งแผ่ความคิด สงสัยและกังวล ต่อต้านกับฝันใหญ่ๆเสมอ

จึงเป็นที่มาซึ่งความแตกต่างในแง่ของ เวลา ที่ต้องใช้ไปในการที่จะทำให้ฝันใดเป็นจริงขึ้นมา

หากแต่สำหรับจักรวาลแล้ว ไม่มีความแตกต่างเลย ไม่ว่าฝันเล็กๆหรือฝันใหญ่ๆ

__________________
แปลไทยเป็นไทยอีกทีนะคะ
__________________

มุมผู้ขอ
ฝันเล็กเป็นจริง เร็ว เพราะคนเชื่อได้ง่ายไม่ใส่ใจมาก
ฝันใหญ่เป็นจริง ช้า เพราะคนเชื่อยาก ขึ้สงสัย กังวล

มุมผู้ให้
ฝันเล็ก จักรวาลก็ทำให้เป็นจริงได้
ฝันใหญ่ จักรวาลก็ทำให้เป็นจริงได้เหมือนกัน
ฝันขนาดไหนๆ ก็จะเป็นจริงได้ ทั้งนั้น


ปล เราเปิดรับข้อความดีดีจากคุณรอนด้ามาระยะหนึ่งแล้ว
ทุกครั้งที่ได้รับก็นึกเสมอว่า
อยากแบ่งปันให้คนอื่นได้รับรู้ด้วย แต่ยังนึกไม่ออกว่าจะไปสื่อที่ไหนดี
กระทู้นี้มาให้คำตอบพอดิบพอดีจริงเชียว
ฉะนั้น หากคุณกำลังอ่านอยู่ โปรดได้รับทราบว่า
ข้อความนี้เขาเลือกและตามหาคุณจนเจอ และเรียกให้คุณมาอ่านอยู่นี่ไงคะ
พูดอีกที คือ ข้อความนี้เขาสื่อถึงคุณโดยเฉพาะเจาะจงค่ะ

เชื่อไหมเอ่ย

อึม...เมื่อตะกี้เราเพิ่งเรียนรู้อะไรกันมานะ...อ้อ...เจอละ

ถ้าเชื่อง่าย ก็เร็ว
ถ้าเชื่อยาก ก็ช้านิดนึง
แต่ถ้าเชื่อซะอย่าง ไม่ช้าก็เร็ว ก็ต้องมาค่ะ
แถมจักรวาลไม่เกี่ยงด้วยว่า ใหญ่ หรือ เล็ก จัดให้ได้หมดจ้า

Hint: เออ รู้งี้ ฝันเล็ก ฝันใหญ่ ดีนะเนี่ย ฝากเพื่อนๆไปเลือกกันตามใจชอบละกันนะคะ

___________________
ปลล ว๊ายกรี๊ด เพลงเพราะอีกแล้ว ขอขอบคุณคุณblackangel

 

จะฝันอะไรก็ตาม ถ้าเป็นเรื่องดีๆ จัดเต็มไปเลยครับ
ความสำเร็จคือการที่เราคิดแต่เรื่องดีๆละคิดเรื่องที่ลบ
แค่นี้ก็คุ้มค่าแล้วครับ

 

เมื่อก่อนบนบานของพรจากสิ่งศักดิ์สิทธ์ด้วยความเชื่อมั่นขนาดไหน แต่มาคราวนี้ก็ขอสิ่งที่ตัวเองอยากได้ด้วยความเชื่อมั่นในความศักดิ์สิทธิ์ของตัวเองแทนเอาละกัน

 

รับผิดชอบการกระทำของตัวเอง แล้วเริ่มต้นใหม่จากจุดที่คุณยืนอยู่

เมื่อมาถึงตอนนี้ คุณผู้อ่านที่ยังคงอ่านอยู่และทำตามแบบฝึกฝน
เพื่อควบคุมพลังแห่งแรงดึงดูดของตัวเราคงเริ่มมีความมั่นใจขึ้นมาในระดับหนึ่ง
แต่ก็อาจจะมีบางช่วงขณะของความคิดที่ไหล
ไปด้านพลังงานลบของความไม่เชื่อว่า
สิ่งที่คุณกำลังจะทำนั้นจะนำมาซึ่งสิ่งที่คุณปรารถนาได้อย่างไร

หรือบางท่านอาจจะเคยมีประสบการณ์ในอดีตที่ล้มเหลว
เพราะความเชื่อคล้ายๆเช่นนี้มาก่อน

เราขอยกตัวอย่างเช่นเรื่องของผู้เขียนเอง
ที่มีความเชื่อเต็มร้อยว่าสิ่งที่ทำลงไปต้องประสบความสำเร็จทุกๆอย่าง
แต่ความเชื่อนั้นไม่ได้เกิดจากความมุ่งมั่นจากแรงบันดาลใจหรือความฝัน
หากแต่เกิดจากความโลภที่ต้องการมีเงินมากขึ้นๆอีก
ความรู้สึกหวาดกลัวที่จะพ่ายแพ้
ความกลัวถ้ารายได้ที่มีอยู่จะลดลงแล้วจะใช้ชีวิตอย่างที่เคยใช้อยู่ไม่ได้

ความรู้สึกเช่นนี้ต่างจากความเชื่อมั่นจากแรงบันดาลใจยิ่ง
แม้มองผิวเผินก็เป็นเรื่องของความต้องการมี
ต้องการเป็นและต้องการครอบครองไม่แตกต่างกัน

ความแตกต่างคือความรู้สึก อารมณ์ในขณะนั้นต่างหาก
ความรู้สึกในครั้งนั้นเต็มไปด้วยความกลัวที่จะสูญเสียแม้กระทั่งกำไร
อย่างที่เขาพูดว่าขาดทุนกำไร

ผู้เขียนรู้สึกราวกับตัวเองขาดแคลนจนหาเท่าไหร่ก็ไม่พอโดยไม่มีความละอายใจ
เมื่อก่อนหากได้นึกถึงอารมณ์ความเครียดกับธุรกิจในครั้งกระนั้น
ผู้เขียนมักคิดเสมอว่า...หากย้อนเวลากลับไปได้...ฉันคง...
ไม่ทำ ไม่พูด ไม่ตัดสินใจแบบนั้น

ข่าวร้ายคือเราไม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้
หากพูดถึงมิติโลกมนุษย์อย่างที่เราอยู่...
ข่าวดีก็คือ นั่นมันเป็นอดีตที่ผ่านไปแล้ว
ปัจจุบันขณะต่างหากที่เราสามารถเริ่มต้นชีวิตใหม่ของเราต่อไป

ไม่สำคัญว่าจากจุดๆนี้ที่คุณยืนอยู่ คุณอาจจะคิดว่ามันสายไปสำหรับคุณแล้ว
คุณได้ผ่านเลยวัยหนุ่มสาวที่ยังมีเรี่ยวแรงไปแล้ว
คุณยากจนจนเกินกว่าจะเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ
คุณเหนื่อยเกินกว่าจะต่อสู้กับชีวิตแล้ว

อย่างที่ผู้เขียนได้กล่าวย้ำกับคุณผู้อ่านที่รักเสมอ
ไม่ว่าคุณเชื่อเช่นใด คุณได้รับเช่นนั้น
ขอให้ผู้เขียนได้เล่าเรื่องราวเรื่องหนึ่งในคุณลองพิจารณาดู

 

เรื่องของสาวแก่ตกงาน ทึนทึกคิ้วหนา ร่างท้วมวัย 47 ปี
ผู้ที่กล้าประกาศบนเวทีว่าเธอยังโสดและยังไม่เคยผ่านการจูบเลยตลอดชีวิต
และยังหาญกล้าตอบคำถามคอมเมนเตเอร์ปากกล้าอย่างไซม่อนที่ถามเธอว่า
เธออยากเป็นเหมือนใคร

ซึ่งเธอตอบกลับว่าเธออยากเป็นเหมือนเอเลน เพจราชินีแห่งวงการเวทีละครของอังกฤษ
ซึ่งทั้งหมดได้สร้างเสียงหัวเราะเยาะหยันจากผู้ชมและมองเธอเป็นตัวตลก

ใช่แล้วค่ะ เรากำลังพูดถึงซูซาน บอยล์ สาวแก่มหัศจรรย์

เธอยังกล้าตอบคำถามว่าความฝันเธอคืออะไร

"ฉันอยากแสดงละครเวทีอยู่ในโรงละคร แต่ฉันไม่เคยได้รับโอกาสเหล่านั้นเลย"

ซึ่งหลังจากการแนะนำตัวให้รู้จัก สาวแก่สุดเปิ่นก็สะกดคนทั่งฮอลล์และ 3 คอมเมนเตเตอร์ด้วยบทเพลง I Dreamed a Dream จากละครเวทีดัง Les Miserables

และทันทีที่เธอร้อง เธอชนะใจคนดูไปทั่วโลกและสร้างปรากฏการณ์คลิปวีดีโอที่มีคนเปิดดูกว่า 100 ล้านครั้งมากกว่าคลิปพิธีการสาบานตนของประธานาธิบดี บารัค โอบามาที่มีคนเข้าชมเพียง 18 ล้านครั้ง

นอกจากเธอจะสามารถสานฝันของตนเองที่อยากขึ้นร้องเพลงต่อหน้าคนมากมายแล้ว
เธอยังเผยถึงความฝันที่เธออยากจะแสดงต่อหน้าควีน อลิซาเบธด้วย

"มันเป็นความมุ่งหวังของฉัน ที่จะได้ร้องเพลงต่อหน้าราชินี พระองค์เป็นสุภาพสตรีที่สิริโฉมงดงามมาก แต่ที่ฉันทำทั้งหมดนี้ฉันขออุทิศให้กับแม่ของฉัน ถ้าเธอยังอยู่และได้เห็นฉันในตอนนี้ เธอต้องภูมิใจมากแน่ๆ"

แล้วดูซิ เธอสามารถทำความฝันของเธอเป็นจริงได้แค่ไหน
ซูซาน บอยล์ได้แสดงต่อหน้าพระพักตร์ควีน อลิซาเบธจริงๆ

คำถามที่ดิฉันจะถามคุณผู้อ่านคือ

คุณพร้อมที่จะปล่อยวางการจำกัดกรอบของตัวเองด้วยความเชื่อที่คับแคบและใช้ชีวิตที่เหลือบนความเชื่อผิดๆ ต่อไป

หรือพร้อมจะสร้างความเป็นจริงใหม่ของชีวิตที่เหลือของคุณ
โดยปล่อยวางความไม่พอใจในอดีตและปัจจุบันของเรา
ที่เราติดกับดักความเคยชินด้วยการใช้ชีวิตแบบมีสติบ้าง ไม่มีสติบ้างจนคุณอยู่ ณ จุดนี้

 

ขอให้คุณหลับตาลง
ถามตัวคุณเองว่าคุณต้องการปลดปล่อยสิ่งใดออกไปจากชีวิตคุณบ้าง
หรือมีสิ่งใดที่คุณอยากจะเปลี่ยนแปลงในชีวิตข้างหน้าของคุณบ้าง
จงมุ่งมั่นกับความคิดของคุณ

จำไว้ว่า นี่คือช่วงเวลาแห่งการเริ่มต้นใหม่

ตอนนี้คุณตัดสินใจแล้วว่าคุณจะรับผิดชอบชีวิตที่เหลือของคุณ
คุณจะไม่ตำหนิหรือกล่าวโทษสิ่งอื่นหรือผู้อื่น
คุณจะไม่แก้ตัวหรือแสดงบทบาทผู้ตกเป็นเหยื่อแห่งโชคชะตาอีกต่อไป
คุณยอมรับว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณมาจากการกระทำของคุณ
มาจากความคิดความเชื่อของคุณแม้ว่าคุณจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตาม

คุณรู้ว่าทุกอย่างเริ่มต้นจากการคิด ตามมาด้วยการเลือกตัดสินใจแล้วกลายเป็นการกระทำในที่สุด
การตัดสินใจทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งในช่วงเวลาหนึ่งจะกำหนดผลลัพธ์ของคุณ ณ ขณะนี้
ถ้าคุณคิดที่แตกต่าง เลือกตัดสินใจที่แตกต่าง คุณก็จะได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างเช่นกัน

ยกตัวอย่างเช่น คุณเดินเข้าไปในร้านอาหารกับเพื่อนของคุณ
ทุกคนสั่งอาหารที่ตนชอบ
คุณเองก็เลือกสั่งอาหารจานหนึ่งที่เห็นในเมนูเพราะคุณคิดว่าอาหารนี้ดูน่ารับประทาน

แต่เมื่อบริกรนำอาหารมาวางลงต่อหน้าคุณ
คุณอาจจะพบว่าอาหารจานนี้ไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องการ
เพราะคุณเพิ่งพบว่าอาหารจานนี้อาจจะอุ่นด้วยไมโครเวฟ
แล้วคุณไม่ชอบอาหารไมโครเวฟ
หรืออาหารจานนี้มีรสชาดขมเสียจนคุณทานไม่ลง
ขณะที่อาหารของเพื่อนคุณกลับเอร็ดอร่อย แล้วคุณจะทำอย่างไร

คุณก็เพียงยอมรับกับตัวเองว่า
คุณแค่สั่งผิดและยอมรับผิดชอบค่าอาหารจานนั้น
คุณจะไม่โทษบริกรที่ไม่แนะนำอาหารจานอื่น
หรือคุณจะไม่ต่อว่าร้านอาหารร้านนั้นที่ปรุงอาหารรสชาติห่วย

เพราะคุณเลือกที่จะสั่งเอง

คุณไม่อิจฉาที่จานของเพื่อนอร่อยกว่าคุณ
คุณไม่จำเป็นต้องฝืนกินอาหารนั้นจนหมดจานถ้าคุณกินไม่ได้
คุณก็แค่สั่งอาหารจานใหม่ที่คุณแน่ใจว่ารสชาดมันจะอร่อยสำหรับคุณ
หรือปรุงสุกบนเตาโดยไม่ใช้ไมโครเวฟ

 

เกมที่ 5

หยิบสมุดบันทึกเล่มสวยของคุณออกมา แล้วเขียนที่บนหัวกระดาษว่า
“ฉันสร้างปัญหาเรื่องนี้ขึ้นมาในชีวิตฉันได้อย่างไร”

นี่เป็นโอกาสอันดีที่คุณจะได้รับผิดชอบกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตคุณ
คุณต้องตอบคำถามอย่างอิสระ ปราศจากการตำหนิและการตกเป็นเหยื่อของเหตุการณ์

ตรวจสอบว่าอะไรที่ทำให้คุณตัดสินใจเลือกกระทำ
ความคิดของคุณในขณะนั้น มุมมองของคุณ
สิ่งต่างๆที่คุณพูดหรือแสดงออกมาในขณะนั้น

จากนั้นในอีกหน้ากระดาษ ขอให้คุณเขียนบนหัวกระดาษว่า
“ฉันสามารถทำอะไรกับเรื่องนี้ได้บ้าง”

นี่คือช่วงเวลาที่คุณจะได้กำหนดอนาคตของตัวเองด้วยมือของคุณเอง
ใส่พลังความคิดที่เป็นบวกและผลลัพธ์ที่คุณต้องการ
วางแผนราวกับคุณกำลังเขียนแผนที่ขุมทรัพย์ของตัวเอง
แล้วทำสิ่งที่คุณเขียนอย่างมุ่งมั่น

ถ้าระหว่างที่คุณกำลังทำตามแผนการที่ว่านี้แล้วพบว่ามันกลับมาเป็นปัญหาของคุณอีกครั้ง
จงจำไว้ว่าคุณมุ่งมั่นที่ผลลัพธ์ของมันเท่านั้น
คุณไม่ได้ตำหนิตนเองอีกแล้วตั้งคำถามเดิมอีกครั้งเพื่อกลับไปสู่การกระทำอีกครั้ง

ระหว่างทางของการเอาจริงเอาจัง
คุณต้องหมั่นแสดงความยินดีกับตัวเองที่คุณได้มีโอกาสกลับมากุมชีวิตคุณอย่างมีสติอีกครั้ง

และจงฉลองความสำเร็จของคุณบ่อยๆ
แม้จะเป็นความสำเร็จเล็กๆ เพราะยิ่งคุณฉลองความสำเร็จคุณบ่อยแค่ไหน
ยิ่งมีแนวโน้มที่คุณจะมีโอกาสฉลองความสำเร็จที่ใหญ่ขึ้นๆ

 

ขอบคุณคุณผู้อ่านทุกท่านค่ะ ขอบคุณคุณ SU_RA ค่ะสำหรับคำนิยม ขอน้อมรับ

ดิฉันยังคงรอคอยกลุ่มผู้จะทดลองเรื่องพลังแห่งการเชื่อมต่อความคิดมุ่งมั่นไปในทิศทางเดียวกัน
กลุ่มที่เราจะสร้างมีหัวข้อต่อไปนี้ค่ะ

กลุ่มทดลองเงินล้าน
กลุ่มทดลองรูปรางที่สมส่วน น้ำหนักตัวที่เหมาะสม
กลุ่มทดลองสุขภาพดี แข็งแรงสมบูรณ์
กลุ่มทดลองงานการทีรุ่งโรจน์

ลองมาร่วมเชื่อมต่อความคิดกันนะคะ พลังความคิดคนคนเดียว อาจไม่มากพอในช่วงเริ่มต้น
ถ้าเป็นพลังของคนจำนวนมาก จะเร่งให้เร็วขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ท่านสามารถลงชื่อร่วมเป็นผู้ทดลองได้ในกระทู้
หรือจะส่ง PM มาที่ดิฉันหรือคุณ threeam คุณ kindred
หรือท่านอาจจะส่งเมล์มาที่ sheisacat@hotmail.com

พวกเราหวังว่าปณิธานที่เราต้องการสร้างพลังบวกเพื่อความสำเร็จโดยเริ่มจากกลุ่มเล็กๆ
ที่มีความปรารถนาดีจริงใจต่อกัน แล้วสร้างคลื่นแห่งความคิดบวกที่ดีต่อกันในวงกว้างขึ้น

 

ดิฉัชอบคำพูดตรงนี้มากและอยากหยิบประเด็นนี้ขึ้นมาชวนพูดคุยกัน
คุณ threeam ใช้คำพูดที่ตรงไปตรงมาเพื่อให้ตรงประเด็นโดยไม่จำต้องประดิษฐ์คำพูดสวยหรู

นี่ละค่ะ หัวใจสำคัญของกฏแห่งแรงดึงดูด ทุกอย่างอยู่ที่ใจ
ไม่ใช้กระบี่ ใช่ว่าไม่มีกระบี่

ทุกอย่างสำเร็จโดยไม่จำเป็นต้องลงความพยายามอย่างหนักเพื่อให้เข้าถึง
พลังแห่งแรงดึงดูด

กฏของพลังแหงแรงดึงดูด เรียบง่าย สั้นกระชับและต้องเบิกบาน

กระบี่อยู่ที่ใจจริงๆ

ขอบคุณสำหรับข้อความที่กระตุ้นให้เรานึกถึงเรื่องสำคัญด้วยถ้อยคำเรียบง่ายๆเช่นนี้

วันพรุ่งนี้ดิฉันจะใส่สายรัดข้อมือสีชมพู เพื่อเตือนตัวเองทุกครั้งที่มีโอกาส

กระบี่อยู่ที่ใจ

 

ชอบเรื่องราวที่ 3 Am นำมาเล่าสู่กันฟัง
มันดูมีชีวิตชีวา และ จับต้องได้
มันเป็นจริงได้

แรกเลย ความเชื่อเดิมที่มันฝังแน่นอยู่ มันอาจคลายออกยาก
ยิ่งอยากเปลี่ยน ยิ่งเปลี่ยนยาก

แต่หากวางมันไว้ที่เดิม
แล้วหันมาสำรวจความรู้สึก และอารมณ์ที่มีผลกระทบต่อความคิดนั้นๆ
หากมันส่งเสริมเราไปในแง่ที่ดี รู้สึกสบายใจ ไม่ติดขัด ก็เชื่อต่อไป

แต่ถ้าหากมันทำให้เรารู้สึกไม่เต็มอิ่ม เหมือนจิ๊กซอร์บางตัวหล่นหายไป
เราก็ควรต้องหันกลับมาทบทวนแล้ว คิดเสียใหม่
คิดในเส้นทางที่แตกต่างออกไป เลือกใหม่

ความเชื่อในทิศทางที่ไม่เป็นประโยชน์ จะถูกผลักออกไปเอง
อย่างเป็นธรรมชาติ เมื่อเรารู้สึกถึงมันอย่างจริงๆ

ไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้
ไม่มีอะไรที่มันจะถูกต้อง หรือผิด ทั้งหมด

มันมี เพียงแค่ทางเลือก....ว่าเราจะเลือกอะไร เท่านั้นเอง

กระบี่ ที่อยู่ที่ใจ ใครจะเป็นคนใช้ ถ้าไม่ใช้คุณ
และควรจะใช้อย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ทางที่สวยงามและเพียบพร้อมสมบูรณ์มีอยู่แล้ว
ความกลัว และความกังวล เป็นเพียงแค่อิฐบล๊อค ที่มาเกะกะขวางไว้เท่านั้น
คุณจะเขี่ยอิฐบล๊อคเหล่านี้ทิ้งไป
หรือคุณจะเก็บเอาไว้สร้างกำแพงอุปสรรคขึ้นมาบดบังเส้นทางนี้
ล้วนแล้วแต่อยู่ที่คุณทั้งสิ้น


มาร่วมกันเลือก และดึงดูดสิ่งที่พวกคุณปรารถนา
พวกเราทุกคนทำได้ค่ะ

 

เทคนิคการสับสวิตช์ เมื่อมีความกลัวหรือความกังวลกำลังครอบงำเราอยู่

ลองถามตัวเองว่าในแต่ละวัน คุณใช้เวลาในการคิดถึงสิ่งต่างๆในแง่บวกหรือแง่ลบมากกว่ากัน
โดยทั่วไปคนเรามักใช้เวลาในการพูดคุยหรือครุ่นคิดถึงเรื่องต่างๆ แต่ในแง่ลบมากกว่าบวก
ราวกับเป็นงานอดิเรก

แต่คุณไม่ต้องตกใจ ทุกอย่างมีทางแก้ไข
คุณสามารถปลดปล่อยความคิดแง่ลบได้ด้วยการโปรแกรมจิตคุณ

วิธีการปลดปล่อยการยึดติดกับอารมณ์ที่เกี่ยวกับปัญหาหรือความกังวลของคุณ
จงแทนที่ความคิดลบนั้นด้วยบางสิ่งที่เชื่อมโยงคุณกับความฝันของคุณ
หรือบางสิ่งที่จะดึงคุณออกจากความคิดลบๆนั้นช่น

ใส่สายรัดข้อมือสักหนึ่งเดือน
เพื่อเตือนใจคุณให้ระลึกถึงเป้าหมายทุกครั้งที่ความคิดลบกำลังครอบงำคุณ

เขียนสิ่งที่คุณรู้สึกดีเกี่ยวกับตัวเองสัก 10 ข้อ
แล้วเลือกข้อดีมาสักหนึ่งข้อที่คุณรู้สึกว่ามีพลังดึงดูด เช่น "ขาฉันเรียวสวยที่สุด"
(คุณอาจเขีนอะไรที่ฟังดูมีคุณค่ามากกว่านี้ก็ได้ แต่ขอให้คุณรู้สึกว่านี่คิอสิ่งที่ดีที่สุดในตัวคุณ)
แล้วทุกครั้งที่เกิดวามกังวล จงแทนที่มันด้วยข้อความนั้นๆ
ทำสักหนึ่งเดือนคุณก็จะสามารถปลดปล่อยความวิตกกังวลนั้นได้ตลอดไป
เช่นเมื่อมีคนขับรถปาดหน้า
คุณอาจจะรู้สึกโกรธขึ้นมาแวบหนึ่ง
คุณอาจจะบอกตัวเองซ้ำๆว่า "ขาฉันเรียวสวยที่สุด" แม้มันจะไม่เกี่ยวกัน
คุณอาจต้องบอกตัวเองเป็นพันๆครั้งต่อวัน
เพื่อให้คุณตั้งมั่นกับความคิดบวกต่อตนเอง

จดรายการสิ่งใหม่ๆที่เกิดขึ้นกับคุณ
แล้วคุณรู้สึกดีกับมันมากๆในสมุดเล่มสวยของคุณ
อ่านทบทวนบ่อยๆว่าหลังจากคุณตั้งใจมั่นกับความคิดแง่บวกของตัวเองในเวลาหนึ่งเดือน
สิ่งดีๆ เกิดขึ้นกับคุณมากเพียงใด
แล้วจากนั้นรอดูเหอะ
ความสำเร็จจะเริ่มหลั่งไหลมาสู่คุณมากขึ้นๆ

ผู้เขียนขอเล่าเหตุการณ์เมื่อสองสามวันก่อนที่ผู้เขียนได้ขี่จักยานออกกำลังกาย
ซึ่งออกไปไกลบ้านเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร
ปรากฏว่ายางรถจักรยานเกิดมีปัญหา

ผู้เขียนพยยามฝืนขี่หาร้านจักรยานยนต์
แต่เนื่องจากเป็นช่วงที่ร้านเริ่มปิดเนื่องจากใกล้เทศกาลสงกรานต์
จึงไม่สามารถหาร้านซ่อมได้

ผู้เขียนจึงตัดสินใจเข้าร้านซ่อมล้อรถยนต์
อธิบายให้ฟังและขอให้เขาช่วยดู
ช่างคนที่ดูแลร้านขณะนั้นกุลีกุจอมาช่วยและแก้ไขจนเสร็จ
เมื่อผู้เขียนถามราคาค่าซ่อม เขาบอกว่าไม่เป็นไร ไม่คิดเงิน
ทั้งที่เขาใช้เวลาซ่อมมากกว่าครึ่งชั่วโมง

ผู้เขียนจึงได้แต่ขอบคุณเขาอย่างซาบซึ้งและหัวใจพองโต
ด้วยความรู้สึกอิ่มเอิบกับน้ำใจงดงามของช่าง
สิ่งที่ผู้เขียนได้ตอบแทนช่างคนนั้นในวันนั้นคือ
ผู้เขียนทำความดีให้กับคนอื่นต่อไปเพื่อตอบแทนเขา

แล้วก็จดบันทึกลงสมุดเล่มสวยของตนเองถึงความรู้สึกอิ่มเอมใจ เบิกบาน
ที่รู้สึกดีทุกครั้งที่นึกถึง

ผู้เขียนเชื่อว่า เรื่องที่แม้เพียงเล็กน้อยแต่ส่งผลต่ออารมณ์ที่เบิกบาน
ย่อมเปิดประตูกว้างขึ้นๆเพื่อให้สิ่งที่ผู้เขียนปรารถนาสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว

รักษาอารมณ์ของคุณให้ยึดมั่นกับพลังความคิดบวกเพื่อต้อนรับสิ่งดีๆที่จะเข้ามา

 

There's a Place for us

ยังคงมีดินแดนของเราเสมอ ณ โลกภายนอกนั่น
ดินแดนที่เหนือกว่าคำอธิษฐานที่เคยขอ
ยิ่งกว่าที่เคยฝันถึง
หากเจ้าละทิ้งเพียงเพราะรู้สึกอึดอัด
เพียงเพราะความกลัวกำลังจับหัวใจ
จงหลับตาลงเถิด จับมือข้าให้มั่น

เราจะเป็นใหญ่เหนือสิ่งอื่นใดในอาณาจักรแห่งนี้
ถ้าเราเชื่อมั่นพอ
มันจารไว้ในดวงดาวที่พราวแสงบนฟากฟ้าแล้วนั่นไง
อาณาจักรแห่งสองเราจะมีศรัทธาและความรักเติมเต็มเรา
เพียงเราเป็นเราก็เพียงพอ
ยังมีดินแดนแห่งสองเรา

เมื่อใดที่ผืนน้ำจรดผืนฟ้า
เมื่อดวงใจเจ้าเสรีและความหวังได้คืนกลับมา
มือที่แยกหลุดจากกันกลับประสานคืน
เราจะได้พบสิ่งที่เฝ้ารอ
สิ่งที่เราเกิดมาเพื่อมัน

เราจะเป็นใหญ่เหนือสิ่งอื่นใดในอาณาจักรแห่งนี้
ถ้าเราเชื่อมั่น
มันจารไว้ในดวงดาวที่พราวแสงบนฟากฟ้า
อาณาจักรแห่งสองเราจะมีศรัทธาและความรักเติมเต็มเรา
เพียงเราเป็นเราก็เพียงพอ
ยังมีดินแดนแห่งสองเรา
จงรอเถิด จงรอเถิด

 

วันหยุด มาชวนดูหนังสั้นค่ะ ลองโหลดไปชมกันนะคะ ชมบ่อยได้เท่าที่คุณต้องการ

 

เข้ามาซึมซับ พลังงานด้านบวกครับ

ขอบคุณ จขกท. และเพื่อนๆจิตวิญญาณแห่งแสงสว่างทุกๆท่าน ที่เข้ามาอ่าน เข้ามาแชร์ครับ

ขออนุญาติเล่าแรงบันดาลใจ ที่เกิดจากการคุยกับตนเอง เผื่อว่าจะมีประโยชน์กับผู้อ่านครับ
เพราะเราต่างคือหนึ่งเดียวกัน

ผมครุ่นคิดถึงคำว่าความปราถนา กับอิสระแห่งความปราถนา

จากวันสบายๆที่ว่างจากทุกอย่าง แล้วหลับตาลง ส่งแรงเบาๆไปที่ฐานซักฐานหนึ่ง ผมมองไปที่ฐานของความคิดที่กลางหน้าผาก

ผมตั้งแรงปราถนาถึงมิติที่จิตวิญญาณของผมต้องการมีประสบการณ์อย่างที่เคย
มิติแห่งความรัก ความสงบ ความอุดมสมบูรณ์

ความคิดที่เป็นส่วนหนึ่งของเราได้พรั่งพรูเข้ามา ผมในฐานะผู้ที่มองดูความคิดเหล่านี้ พยายามเลือกความคิดที่ต้องการ และพยายามสลัดความคิดที่ไม่พึงปราถนา เช่น ความกังวลต่างๆ ความกลัดกลุ้มต่างๆ ความฝันที่ไม่เข้าใจในค่ำคืนที่ผ่านมา
ผมกลับมาจดจ้องถึงภาพเหตุการณ์ที่พึงประสงค์ ทั้งเรื่อง ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง หน้าที่การงาน ชีวิตความเป็นอยู่ที่ต้องการ

เมื่อผมกำลังมีความสุขกับภาพที่เห็นเหล่านี้
ผมก็เลือกมาซักเรื่องนึง ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ในเร็ววัน

ผมหันกลับมานึกถึงเรื่องการงาน นึกถึงรายได้ที่ต้องการได้รับ นึกถึงภาพเหตุการณ์แห่งความสำเร็จ

ผมจ้องมองอย่างมีความสุขกับภาพที่เห็น ในตอนนี้ผมเป็นทั้งผู้ที่จ้องดู และผู้ที่แสดงอยู่ในเหตุการณ์นั้น

แต่เมื่อจ้องมองมันอยู่ ความรู้สึกด้านอื่นก็เข้ามารบกวนจิตใจ ทั้งเรื่องสิ่งที่กังวลที่ยังข้างคา สิ่งที่เป็นเงื่อนไขที่เข้ามาบล๊อกว่า มันเป็นไปไม่ได้

ผมพยายามกำจัดความคิดนี้ออกไป แล้วกลับมาจ้องกับภาพเดิมที่ต้องการ
แล้วผมก็เป็นผู้ดูอยู่ดังเดิม จนคิดว่าคราวนี้หละ เราจะจ้องมองภาพนี้ให้ลึกลงไปอีกที

แต่แล้วเงื่อนไขเดิมๆก็แว่ปเข้ามาแหย่เบาๆว่า แล้วจะทำยังไงดีหละกับภาพที่เห็น จะไปถึงจุดนั้นได้อย่างไรหละ

ผมพยายามไม่สนใจ หันกลับมาที่ภาพๆเดิมอีกแหละ แต่คุณเชื่อมั๊ย ยิ่งพยายามหลีก เราก็ยิ่งไม่พ้น เพราะมันก็คือส่วนหนึ่งของเราเช่นกัน

แล้วคำๆนึงก็แว่ปเข้ามาว่า เงื่อนไขเหล่านี้ มีให้เรียนรู้คำว่า ไม่มีเงื่อนไข ไม่มีข้อจำกัด

ตอนนี้ผมละจากภาพที่ผมต้องการ แล้วหันกลับมาใส่ใจถึงเงื่อนไขที่ผมพยายามหลีก

ผมได้พบว่า เมื่อผมใส่ความรัก ความสนใจไปที่มัน ไม่หลีก ไม่หลบมันหละ ไม่รีบ ไม่ร้อน ที่จะวิ่งไปหาความคิดที่ต้องการเพียงอย่างเดียว

ผมกลับได้พบว่า เมื่อเราเติมความรักเข้าไป สนใจมันจริงๆ กลับได้พบคำตอบบางอย่าง

คำตอบนั้นกลับตอบโจทย์เรื่องจุดมุ่งหมายที่เราต้องการจะไป นั่นคือ ความรักที่เราใส่เข้าไปในการทำงาน นอกเราเราจะมองแค่ตัวเลข ภาพแห่งความสำเร็จที่เรานิยามไว้แล้ว แต่เราลืมมองรายละเอียดในการทำงาน เช่น แรงบันดาลใจที่เราเคยทำงานด้วยความสุข ทำด้วยความรัก ต่อให้ช้างมาฉุดเราก็ไม่อยากลุกจากโต๊ะทำงาน รู้สึกมีความสุขที่ลูกค้ามีฟีดแบ๊คที่ดีกลับมา

ผมขอบคุณ เจ้าเงื่อนไขที่ผมพยายามหลีกด้วยความซาบซึ้ง

คราวนี้ผมกลับมาจดจ่อกับภาพเดิมๆ โดยเติมรายละเอียดลงไปด้วยว่า เราทำงานอย่างมีความสุข เราจะเข้าไปแก้ไขตรงจุดนี้ เราจะเข้าไปเปลี่ยน wording บางคำของงานที่ทำ ลูกค้ามีความสุข

ผมจ้องมองดูจี๊กซอว์แห่งความสุขนี้อีกครั้ง
ไม่มีเงื่อนไขเดิมๆเข้ามาอีกแล้ว

ผมจ้องมองภาพนี้อีกครั้ง แล้วความคิดนึงก็แว่ปเข้ามาว่า เพิ่ม volume หน่อยซิ
หมายถึงว่า ไอ้เจ้าภาพความสุขเหล่านี้ มันเบาไป ลองเพิ่มความเข้มดูหน่อย ขยายความรู้สึกมันออกมาหน่อย ผมได้เพิ่มขนาดความสุขที่มีต่อภาพนี้เข้าไปอีก จนรู้สึกว่า หัวใจมันพองโต อิ่มเอมเต็มที่

เอาละ ตอนนี้ตัวผมที่จ้องมอง กับภาพที่เห็น เริ่มเป็นเนื้อเดียวกันแล้ว
แต่เอ.. มันยังขาดอะไรอีกนะ มีความคิดแว่ปมาอีกว่า เพราะเราคิดว่า มันเป็นเรื่องอนาคตงัย จิตวิญญาณมีเวลาที่ไหน มันง่ายที่จะคิดถึงอดีต เนื่องจากมีประสบการณ์มาแล้ว

ผมมองต่อว่า เจ้าความรู้สึก มันก็ไม่เคยเลือกหรอกนะว่า อดีต อนาคต มันก็ไม่เคยเลือก

เอาละ ผมกลับมาดูภาพเดิมๆอีก ด้วยใจพองโต

ผมรู้สึกว่า ระยะห่างระหว่างผู้ดู กับผมในภาพ เริ่มกระชั้นเข้ามามากขึ้นในความรู้สึก

ผมนึกไปถึงความรู้สึกถึง การจับรางวัลแล้วได้ตั๋วเครื่องบินอีกครั้ง ในตอนนั้นผมมีความเครียดอย่างมาก กลัวจะจับไม่ได้ เพราะยังเรียนหนังสืออยู่ จะหาเงินไปซื้อตั๋วคงไม่ไหว แต่ผมอยากไปมากจริงๆ ผมคิดถึงภาพที่ผมจะได้ไปอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แต่ก็เครียดกลัวไม่ได้ไป จนผมรู้สึกว่า ผมทำใจได้แล้ว ความเครียดที่จะไม่ได้ไปไม่มีอีกต่อไป สุดท้ายแล้ว คนจับฉลากรอบสุดท้ายเหลืออยู่ 2 คน แต่ตั๋วมีใบเดียว คุณเชื่อมั๊ย เพื่อนรุ่นพี่ที่ผมนับถือท่านนึง เค้ายื่นตั๋วนั้นมาให้ผม ความรู้สึกในตอนนั้น ผมไม่รู้จะขอบคุณเค้ายังไง ในตอนนั้น ผมทราบอีกอย่างนึงว่า ถึงผมจะไม่ได้ไป แต่ผมไม่รู้สึกผิดหวังเลย ผมได้บอกกับรุ่นพี่ว่า ไม่เป็นไรครับ พี่ไปเถอะ แต่เค้าก็ยืนยันว่า ไม่ไปเพราะเหตุผลบางประการ ผมก็เลยต้องรับตั๋วมา และได้เดินทางไปเที่ยวในครั้งนั้น

ผมกลับมาจ้องกับภาพเดิมนี้อีก ในตอนนี้ผมกับภาพได้รวมเป็นเนื้อเดียวกันแล้ว ไม่มีความปราถนาว่าอยากได้อีกต่อไป ผมเข้าใจแล้วถึงคำว่า อิสระแห่งความปราถนา

ผมขอบคุณถึงเงื่อนไข เพื่อให้ทราบถึงคำว่า ไร้เงื่อนไข
ผมขอบคุณถึงความปราถนา เพื่อให้ทราบถึงคำว่า อิสระแห่งความปราถนา
ผมขอบคุณการไม่สนใจ การหลีกหนี เพื่อให้ทราบถึงคำว่า ความสนใจ การเผชิญหน้า

และก็ขอบคุณบทความดีๆ ที่ทำให้ผมเกิดแรงบันดาลใจขึ้นอีกครั้ง

(f)

 

ขอบคุณทุก ๆ ข้อความที่ทำให้อ่านแล้วมีความสุข

 

Il Divo: I Believe In You Lyrics

Lonely, the path you have chosen
A restless road, no turning back
One day you will find your light again
Don't you know
Don't let go be strong

Follow your heart
Let your love lead through the darkness
Back to a place you once knew
I believe, I believe, I believe in you
Follow your dreams
Be yourself, an angel of kindness
There's nothing that you cannot do
I believe, I believe, I believe in you

Tout seul tu t'en iras tout seul - All alone, you will go on your way all alone
Cœur ouvert a l'univers - Heart open to the universe
Poursuis ta quête - Pursue your quest
Sans regarder derrière - Without looking back
N'attends pas - Don't wait
Que le jour se lève - For the day to awaken

Suis ton étoile - Follow your star
Va jusqu'où ton rêve t'emporte - Go wherever your dream takes you
Un jour tu le toucheras - One day you will touch it
Si tu crois - If you believe
Si tu crois - If you believe
Si tu crois en toi - If you believe in yourself

Suis ta lumière - Follow your light
N'éteins pas la flamme que tu portes - Don't extinguish the flame that you carry
Au fonds de toi souviens toi - At your lowest, always remember
Que je crois - That I believe
Que je crois - That I believe
Que je crois en toi - That I believe in you

Someday I'll find you
Someday you'll find me too
And when I hold you close
I know that it's true

Follow your heart
Let your love lead through the darkness
Back to a place you once knew
I believe, I believe, I believe in you
Follow your dreams
Be yourself an angel of kindness
There's nothing that you cannot do
I believe, I believe, I believe in you

I believe, I believe, I believe in you (x2)

_____________________________


โดดเดี่ยว กับหนทางที่เธอเลือกมา
กับเส้นทางเหนื่อยล้า ไร้ทางหันกลับ
วันหนึ่ง เธอจะพบแสงสว่างอีกครั้ง รู้ไหม
อย่าหยุดยั้ง เข้มแข็งไว้

ให้ใจเธอคลำทาง
ให้รักเธอนำฝ่าความมืดมน
กลับสู่ดินแดนที่เธอเคยคุ้น
เราเชื่อ เราเชื่อ เราเชื่อในตัวเธอ
ตามฝันของเธอ
เป็นตัวเธอ เทพแห่งความดีงาม
ไม่มีอะไรที่เธอทำไม่ได้
เราเชื่อ เราเชื่อ เราเชื่อในตัวเธอ

เดียวดาย เธอต้องเดินลำพัง
จงเปิดหัวใจเธอต่อหน้าจักรวาล
ทำให้โลกเป็นได้ดั่งที่เธอเพรียกร้อง
โดยไม่หันหลังกลับไป
อย่าเอาแต่รอถึงวันเบิกบาน

บินตามดาวประจำตัวเธอ
ไปตามแต่ฝันจะพาเธอไป
วันหนึ่งเธอจะสัมผัสได้
หากเธอเชื่อ หากเธอเชื่อ หากเธอเชื่อในตัวเธอเอง

ตามทางแสงเธอ
อย่าดับไฟโชนแสงที่เธอสร้างขึ้นมา
ณ จุดต่ำสุดของชีวิต ระลึกไว้เสมอว่า
เราเชื่อ เราเชื่อ เราเชื่อในตัวเธอ

วันหนึ่งเราจะหาเธอเจอ
วันหนึ่งเธอจะหาเราเจอเช่นกัน
แล้วเมื่อเราผองได้ใกล้กัน
เราก็จะได้รู้ว่ามันเป็นจริง

ตามหัวใจเธอไป
ให้รักนำทางผ่านความมืดมน
กลับสู่ดินแดนที่เธอคุ้นเคย
เราเชื่อ เราเชื่อ เราเชื่อในตัวเธอ
ตามความฝันของเธอไป
เป็นตัวเอง เทพแห่งความดีงาม
ไม่มีอะไรที่เธอทำไม่ได้
เราเชื่อ เราเชื่อ เราเชื่อในตัวเธอ

 

ขอบคุณคุณเซลมากค่ะ สำหรับวิธีการและประสบการณ์ที่ดี อ่านแล้วได้อะไรเยอะมาก
เคยอ่านเจอและเคยลองทำ วิธีการย่นย่อเวลา แต่ไม่รู้ว่าที่ได้เพราะการย่นย่อเวลาหรือมันถึงเวลา ไม่ทราบ

แต่อยากให้คุณผู้อ่านลองนำวิธีการหลายๆวิธีในนี้ลองปรับใช้ดู เราไม่สามารถบอกได้หรอกว่าวิธีไหนถูกกว่าวิธีใดแล้วปาฏิหาริย์ที่คุณจะพบ อาจจะไม่เหมือนคนอื่น

แต่สิ่งที่พวกเราทุกคนมีเหมือนกันคือ ความเชื่ออย่างเต็มเปี่ยม ความมุ่งมั่น และจินตนาการ

คุณ threeam เอาเนื้อเพลงมาหยอดอีกแล้ว แต่ครั้งนี้ไม่ตกหลุมค่ะ ต้องรบกวนแปลเนื้อหาของบทเพลงไพเราะนี้ให้พวกเราฟังบ้างนะคะ

ตอนหน้าเราจะพูดกันถึงเรื่อง เงินค่ะ คุณผู้อ่านที่ปรารถนาจะร่วมอุดมการณ์กับเรา อย่าลืมส่งชื่อมานะคะ เราขอรับเพียงกลุ่มเล็กๆที่คิดเหมือนกัน มีความฝันเดียวกันค่ะ

จนกว่าจะพบกันอีกครั้งนะคะ

 

ขอบคุณทุกท่านที่แบ่งปัน ทุกความรู้สึกที่ถ่ายทอดออกมา อ่านแล้วก็อมยิ้ม และซึ้ง อบอุ่นอยู่ในใจ เหมือนกับว่าไม่ได้ก้าวเดินอยู่ตามลำพังอีกแล้ว หนทางที่เลือกเดินตอนนี้มันดูสดใสมากขึ้น*-* ขอบคุณอีกครั้งค่ะ