1 พุทธันดร มันนานขนาดใหนครับ มากกว่า กัปป์ อสงไขย ใหม

1 พุทธันดร มันกี่ ล้าน ปีครับ มีหน่วยวัดที่แน่นอน ใหม

 

รู้สึกว่า พุทธันดร คือช่วงเวลาระหว่างพระพุทธเจ้าองค์นี้กับองค์ที่จะมาเกิดข้างหน้านะครับ
ถ้าผิดพลาด ผู้รู้ช่วยชี้แนะด้วยครับ

 

อ้อ เจอแล้วครับ



Reference: http://larndham.net/cgi-bin/kratoo.pl/009806.htm




<TABLE width="100%" bgColor=#e4f3f3 border=0><TBODY><TR><TD colSpan=2>ความคิดเห็นที่ 1 : (ขุนแผน)

สุ จิ ุปุ ลิ
====
เคยทราบมาว่า พุทธันดร เป็นหน่วยของเวลาระยะระหว่างพระพุทธเจ้าองค์หนึ่งกับพระพุทธเจ้าองค์ถัดไป (เช่น ในกัปป์ปัจจุบันมีพระพุทธเจ้ามาตรัสแล้ว ๔ ยังเหลืออีก ๑ พระองค์ คือ พระศรีอารยเมตตรัย) จึงเห็นว่า ระยะเวลา ๑ พุทธันดรสั้นกว่า ๑ กัปป์ (๒๐๐๐ มหายุค) หนึ่งกัปป์เท่ากับวันหนึ่ง คืนหนึ่งของมหาพรหม (ผู้แรกที่ส่องญานเห็นอักขระ นะโมพุทธายะ จากดอกบัว ๕ ดอก เมื่อครั้งปฐมกัปป์ แลพยากรณ์ทันทีว่า ชะรอยในภัทรกัปป์นี้จะมีพระพุทธเจ้ามาตรัส ๕ พระองค์--ตามฝ่ายมหายาน) ในความคิดเห็นข้าพเจ้า หน่วยที่สูงสุด คือ นิพพาน กล่าวได้ว่า ๑ นิพพาน นานไม่มีกำหนดแลฯ ​

</TD></TR><TR><TD colSpan=2> จากคุณ : ขุนแผน [ 15 ก.ย. 2546 / 14:47:17 น. ] [size=-1]
[/size]</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ขอตอบจากความเข้าใจของผมจากคำสอนของหลวงพ่อมหาวีระ หลวงพ่อสด หลวงพี่เล็ก และหลวงพี่สมปองนะครับ

พุทธันดรไม่มีหน่วยวัดที่แน่นอนครับ
อาจจะนานกว่ากัปหรืออาจจะสั้นกว่ากัปก็ได้ครับ
แต่ผมคิดว่าไม่น่าจะนานกว่าหนึ่งอสงไขยนะครับ

เพราะหนึ่งพุทธันดรคือระยะเวลาระหว่างพระพุทธศาสนาของพระพุทธเจ้าแต่ละองค์ครับ
หากนับภายในกัปนี้ซึ่งเป็นภัทรกัป แปลว่าเป็นกัปที่ความเจริญมาก
จะมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาตรัสรู้ ๕ พระองค์ หนึ่งพุทธันดรก็จะสั้นกว่าหนึ่งกัปครับ
หากนับช่วงพุทธันดรระหว่างองค์สมเด็จพระกกุสันโธกับองค์ก่อนองค์ท่าน พุทธันดรนั้นยาวนานประมาณ ๙๑ กัปครับ
แต่ผมว่าโอกาสที่ทั้งหนึ่งอสงไขยจะไม่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาตรัสรู้เลยนั้น มีน้อยมากๆครับ เพราะหนึ่งอสงไขยนั้น เท่ากับ สิบยกกำลังหนึ่งร้อยสี่สิบ กัปครับ

คนที่เกิดมาในชาตินี้และไม่ปรารถนาพระโพธิญาณก็พึงสังวรณ์ไว้นะครับว่า
กว่าจะเกิดมาในกัปนี้ได้ เราต้องรอกันมานานถึง ๙๑ กัป ซึ่งเป็นสุญญกัปหรืออันตรายกัป
ที่เราไม่สามารถที่จะบรรลุมรรคผลเองได้ นอกจากว่าจะปรารถนาพระปัจเจกโพธิญาณนะครับ
เราโชคดีมากที่ได้เกิดมาในกัปนี้เพราะว่าเป็นภัทรกัปที่มีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ ถึง ๕ พระองค์ด้วยกัน ซึ่งหาได้ยากครับ
จริงๆเราโชคดียิ่งกว่านั้นอีกครับ เพราะกัปหน้าก็จะเป็นภัทรกัปอีกเช่นกันครับ
คือกัปนี้กับกัปหน้าต่อกัน จะมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาตรัสรู้ถึง ๑๐ องค์ด้วยกันครับ

แต่อย่างนี้ก็ถือว่าเป็นคราวซวยของคนที่ไม่รักษาศีลให้ได้อย่างน้อยศีล ๕ นะครับ
เพราะหากไม่รักษาศีล ๕ ให้มั่นคงในชาตินี้แล้ว ตายจากชาตินี้อาจจะหนีนรกไม่พ้นครับ
หากหนีนรกไม่พ้นในชาตินี้นี่คราวนี้ถือว่าซวยมากครับ
เพราะกว่าจะพ้นนรกขึ้นมา ก็คงเลยกัปนี้ไปแล้วครับ
ดีไม่ดีอาจจะใช้เวลา ๑๐ กัป หรือต้องรอพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาตรัสอีก ๓๐ องค์ หรืออาจจะนานกว่านั้นอีก ถึงจะพ้นโทษขึ้นมาเจอพระพุทธศาสนาอีก
แล้วต่อจากภัทรกัปที่ติดกัน ๒ กัปอย่างนี้ ก็ไม่รู้อีกนานเท่าไหร่ที่จะมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาตรัสอีกนะครับ

ดังนั้นหากใครที่คิดว่ากำลังใจไม่ดี ไม่สามารถตัดกิเลสเป็นสมุจเฉทปหานได้ในชาตินี้ละก้อ
อย่างน้อยที่สุด พยายามรักษาศีล ๕ ให้ได้โดยน้ำใสใจจริงนะครับ
พยายามหนีนรกให้ได้ครับ

 

ขอบคุณครับและ ค้นเจอ มาแล้ว


( ๑ อันตรกัป เท่ากับระยะเวลาที่อายุของมนุษย์ ไขลงจากอสงไขยปีจนถึง ๑๐ ปี แล้ว
ไขขึ้นจาก ๑๐ ปี จนถึงอสงไขยปีอีก ครบ ๑ คู่ เรียกว่า ๑ อันตรกัป อสงไขยปีเท่ากับ
เลข ๑ ตามด้วยเลขศูนย์ ๑๔๐ ตัว )

ดังนั้น ๑ มหากัป จึงเท่ากับ ๒๕๖ อันตรกัป

นับตั้งแต่จักรวาลถูกทำลาย จนกระทั่งเกิดใหม่ และพินาศอีกครั้งจึงเป็น
เวลา ๔ อสงไขยกัป หรือ ๒๕๖ อันตรกัป นับเป็น ๑ มหากัป

ส่วนคำว่า " กัป " หมายถึงเวลาที่ยาวนานนับประมาณไม่ได้ เปรียบเหมือน
มีภูเขาแท่งศิลาทึบ กว้าง ยาว สูง อย่างละ ๑ โยชน์ ( ประมาณ ๑๖ กิโลเมตร )
ครบร้อยทิพย์ปี มีเทวดาเอาผ้าทิพย์ที่บางเบาราวกับควันไฟมาลูบภูเขานี้ ๑ ครั้ง
เมื่อใดภูเขาสึกกร่อนจนเรียบเสมอพื้นดิน เรียกว่า ๑ กัป

คำว่า " กัป " กับ " มหากัป " ต่างกันดังที่กล่าว

ในมหากัปหนึ่งๆจะมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเกิดขึ้น ๑ พระองค์
๒ พระองค์ ๓ พระองค์บ้าง แต่ไม่เกิน ๕ พระองค์ มหากัปที่ไม่
มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเกิดขึ้นเลยก็มีเรียกว่า สุญกัป

มหากัปของเรานี้จะมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเกิดขึ้น ๕ พระองค์
เรียกว่า ภัทรกัป ซึ่งเป็นกัปที่เจริญที่สุด

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงอุบัติขึ้นแล้วคือ

๑. สมเด็จพระกกุสันธะพุทธเจ้า
๒. สมเด็จพระโกนาคมนะพุทธเจ้า
๓. สมเด็จพระกัสสปะพุทธเจ้า
๔. สมเด็จพระสมณโคดมพุทธเจ้า
และจักเสด็จอบัติตรัสเป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นองค์สุดท้าย
ในภัทรกัปนี้ ทรงพระนามว่า
๕.สมเด็จพระศรีอริยเมตไตรยพุทธเจ้า


ตอนนี้เราอยู่ในช่วงที่เรียกว่า กัปไขยลง คือทุก ๑๐๐ ปี อายุมนุษย์จะลด
ลง ๑ ปี อายุของพวกเราจะลดลงเรื่อยจนไปถึง ๑๐ ปี แล้วสูงขึ้นเรื่อยๆ
ใหม่ จนกระทั่งอายุมนุษย์มีกำหนด ๘ หมื่นปี สตรีมี่อายุ ๕๐๐ ปี จึงมี
ครอบครัว

เวลานั้นมีความทุกข์เรื่องโรคภัยไข้เจ็บอยู่เพียง ๓ อย่าง คือ ความหิว
ความง่วง และความแก่ ผู้คนยังทำความดีเพิ่มขึ้น อายุยิ่งทวีตาม จนกระ
ทั่งอายุอสงไขยปี

ในสมัยมนุษย์มีอายุอสงไขยปี มองเห็นความแก่ความตายได้ยาก ความ
เจ็บไม่มี เลยทำให้เกิดความประมาท ทิฎฐิมานะก็เกิดอีก เวียนเป็นวัฎฎ
จักรของมนุษย์ในยุคต้นกัปใหม่ เมื่อมีกิเลสเกิด อายุมนุษย์ก็เริ่มลดลงกระ
ทั่งเหลือ ๘ หมื่นปี เมื่อนั้นพระศรีอริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้าจะเสด็จ
มาอุบัติขึ้นในโลก อันเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ที่ ๕ องค์สุดท้ายใน
ภัทรกัปนี้

.......ช่วงระยะเวลาระหว่างพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งไปยัง
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าอีกพระองค์หนึ่งเรียกว่า หนึ่งพุทธธันดร

 

ตอบคุณโมฆฯ

ตอบดีมากครับ อธิบายนัยสำคัญ (significance) ได้ด้วย สาธุ อนุโมทามิ

เออ! คุณโมฆฯ ตัวจริงเขาอัธยาศัยดีนะ เป็นกันเอง เจอที่บ้านอนุสาวรีย์ครั้งเดียว ถามอะไรก็ตอบเล่ายาว สนุกดีคุยไปได้เรื่อย ๆ ไม่เบื่อ

 

1 พุทธันดร ช่วงที่ว่างจากพระพุทธเจ้า อาจ จะไม่ถึงกัลป์ หรือ อาจจะ เป็น ร้อย กัลป์ ก็ได้ ตามที่ได้อธอบายโดยละเอียดแล้วตามกระทู้ข้างบน แต่ละช่วงมีเวลาห่างไม่เท่ากัน ถือว่าโชคดีมากที่เกิดมาในพุทธศาสนา และได้ปฏิบัติธรรม

 

ขอบคุณครับ
วันนั้นนี่จริงๆผมทำผิดหลายอย่างเลยครับ
เลยมีผู้ใหญ่ที่ท่านหวังดีได้ตักเตือนมาครับ
ตอนที่คุยกับคุณนั้น หลวงพี่เล็กท่านกำลังพูดอยู่ นอกจากว่าจะบาปมากแล้วที่พูดแข่งกับท่าน ทำเป็นอวดรู้ ก็ยังถือว่าเป็นการเสียมารยาททางโลกอีกด้วยครับ
คนที่เขาจะฟังธรรมก็ฟังไม่สะดวก อันนี้ก็บาปอีก

 

Thank you for this thread krubb!