Mamaa full center เปิดจักระ เชื่อม กาย ใจ จิต วิญญาณ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ปราณ, 8 มิถุนายน 2011.

  1. sman

    sman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +127
    น่าจะใช้เพราะทุกครั้งที่มีการปรับสมดุลย์ร่างกาย จะบอกว่าไม่ยึดติด ปลดปล่อย ว่าง ทำใจให้สบาย อะไรจะออกก็ให้ออกมาอย่าเก็บไว้(สงสัยอันท้ายนี้ละครับ)
     
  2. sman

    sman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +127
    เห็นคำว่าไม่มีเงื่อนไข ทำให้นึกถึงตอนเรียน พลังยูเรอัส กับ อ.กิติชัย ท่านสอนคำว่า รักไม่มีเงือนไข และบอกว่านี้คือพื้นฐานเลย และต้องสำนึกอยู่ตลอดเวลา ขอบคุณมากครับ อาจารย์ กิติชัย
     
  3. ดาวทะเลทราย

    ดาวทะเลทราย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    3,424
    ค่าพลัง:
    +13,166


    เอาความหลัง มา บอกเล่า.....

    " รักไม่มีเงื่อนไข"

    สมัยก่อน มี คนพูดกัน มาก
    โดย เฉพาะ รุ่น ก่อนหน้าผม เค้า ชอบนำมาพุดกัน บ่อย

    จนฟัง แล้ว ( คิดในใจว่า เวอร์ หรือเปล่า )

    ผม เอง ก็ มักจะบอกว่า

    "รักไม่มีเงื่อนไข"

    ยาก เกินไป ที่ ข้าฯเจ้า จะเข้าใจ ได้

    ข้าฯเจ้า..... ให้ ได้ ด้วยความปรารถนาดี แก่ทุกคน เท่านั้น

    ........

    คุย กันเรื่องความหลัง......55

     
  4. sman

    sman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +127
    "รักไม่มีเงื่อนไข"

    ยาก เกินไป ที่ ข้าฯเจ้า จะเข้าใจ ได้


    ถูกต้องแล้วครับ เข้าใจยากมากกับคำคำนี้ ถึงอ.ท่าน ย้ำบ่อยมาก แล้ววันนึงจะเข้าใจ เมื่อฝึกภาคปฎิบัติมากๆ
     
  5. wacaholic

    wacaholic เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    502
    ค่าพลัง:
    +214
    18/8/2011 1.19 #33

    กุญแจปลดพันธนาการ

    ศาสนาแต่ละศาสนา เป็นทั้งศิลป์ เป็นทั้งปรัชญา และเป็นทั้งแนวทาง เป็นหลักที่

    ศาสดาให้ไว้ใช้ในการดำเนินชีวิต โดยมุ่งหวังให้คนทุกคนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน นั่น

    เป็นสาเหตุที่แต่ละศาสนามีแนวทางการสอนที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่สุดท้ายก็

    กลับ ไปบรรจบรวมเป็นหนึ่งเดียวกันเหมือนเดิม ที่เป็นเช่นนี้เพราะว่าลึกๆแล้ว

    จิตใจของมนุษย์ผู้ที่รู้ว่ารู้ นั้นแอบซ่อนความเป็นอนัตตา ยึดมั่นถือมั่นว่าตนเก่งอยู่

    ไม่ยอมรับฟังความคิดผู้อื่นจริงๆ เพราะมีอนัตตาตัวตนมากั้นไว้บางๆ คอยคิดแต่

    จะค้นหาเส้นชัยของคนอื่น แต่กลับไม่พยายามค้นหาเส้นชัยของตัวเอง จึงได้แต่

    คอยพูด คอยบอกกับคนอื่นว่าเป็นผู้ที่หลงทางนะ ทำอย่างนี้เนี่ยผิด

    ทำตามเราเนี่ยถูกอะไรประมาณนี้ ก็เรียกได้ว่าใช้ความพอใจส่วนตัวมาตัดสินคนอื่นคงไม่ผิดนัก

    นั่นก็แปลว่าเป็นการบังคับขืนใจคนอื่นหรือไม่?

    ซึึ่งจริงๆแล้วความพอใจของแต่ละคน จะเอาอะไรมาวัดให้เท่ากัน เป็นไปไม่ได้แน่นอนจริงมั้ยครับ?

    หากมีคนมาบอกว่าคุณหลงทางอยู่ และกำลังทำในสิ่งที่ผิด คุณจะเชื่อมั้ย ในเมื่อคุณคิดว่าคุณถูก? แล้วคุณจะทำอะไรต่อไป? ทำตามหมากที่เขาวาง หรือ ทำตามใจตัวเอง?

    ผมแค่อยากบอกว่า จุดหมายของแต่ละคน อยู่คนละแห่ง ไม่ได้อยู่ที่เดียวกัน คำว่า หลง จึงใช้มาวัดกันไม่ได้ ให้ลองบอกคนที่ว่าเราหลงทาง ช่วยเป็นผุ้นำทางแทน พอถึงที่หมายกลับไม่ใช่จุดที่เราต้องการเราก็ต้องบอกว่าเค้าหลงเช่นเดียวกัน ทั้งๆที่เค้าบอกว่านี่แหละเป็นจุดหมายของเค้า จะมาหาว่าเขาหลงได้ยังไงกัน......

    อย่าไปใจสนเลย ว่าใครเป็นอะไร สนว่าเราเป็นอะไร ตั้งสติตามดูจิต รู้ทันจิตไปให้หมดทุกเรื่อง ปัญญาจริง ที่เกิดจากการรู้แจ้งก็จะมาเอง หากไม่รู้ทันจะคบแต่บัณฑิต จะไม่คบคนพาลก็ไม่เป็นไร

    ถามตนเองบ่อยๆ รู้มากพอที่จะตัดสินแยกประเภทหรือยัง รู้มาจริงตรงกับสัจจะธรรมชาติ รู้มาจากลมปากคนอื่นที่เลื่อมใส รู้มาจากการศึกษาค้นคว้าตำราเล่มใด ถูกต้องตามสัจจะหรือไม่ ใคร่ครวญไตร่ตรองดูตัวเองซ้ำๆ อันไหนทำแล้วมีคุณ ทำแล้วให้โทษ
     
  6. sman

    sman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +127
    อย่าไปใจสนเลย ว่าใครเป็นอะไร สนว่าเราเป็นอะไร ตั้งสติตามดูจิต รู้ทันจิตไปให้หมดทุกเรื่อง ปัญญาจริง ที่เกิดจากการรู้แจ้งก็จะมาเอง หากไม่รู้ทันจะคบแต่บัณฑิต จะไม่คบคนพาลก็ไม่เป็นไร

    ถามตนเองบ่อยๆ รู้มากพอที่จะตัดสินแยกประเภทหรือยัง รู้มาจริงตรงกับสัจจะธรรมชาติ รู้มาจากลมปากคนอื่นที่เลื่อมใส รู้มาจากการศึกษาค้นคว้าตำราเล่มใด ถูกต้องตามสัจจะหรือไม่ ใคร่ครวญไตร่ตรองดูตัวเองซ้ำๆ อันไหนทำแล้วมีคุณ ทำแล้วให้โทษ<!-- google_ad_section_end -->

    เห็นด้วยครับ เหมือนกับที่ม่าม้าบอก ว่า พลังต้องเกิดที่ตัวเรา แล้วให้พลังล้นออกจากตัวเรามาให้มากที่สุด เพือที่จะใช้พลังนั้นช่วยตนเอง และผู้อื่นครับ
     
  7. ดาวทะเลทราย

    ดาวทะเลทราย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    3,424
    ค่าพลัง:
    +13,166


    ระยะนี้ ลุงสมาน ออกจะแนวปรัชฌา มากหน่อย....55

    แต่ ก็ โอเค นะ

    การนำมา พูด ถกเถียงกัน ด้วยเหตุผล
    ก็อาจได้ความรุ้ใหม่ จาก ข้อมูลเดิม ที่ เราตกหล่นไป

    แต่จำเป็น ต้อง ใช้เฉพาะ ข้อมูล ที่ สังเคราะห์มาแล้ว
    ข้อมูล ที่จำเค้ามา ท่องตำรามา
    เหล่านี้ อย่าเพิ่งนำเข้ามา ถก กัน
    เพราะ ถือว่า เป็นข้อมูลที่ ยังไม่ได้สังเคราะห์
    หรือ ยังไม่ได้พิสูจน์

    ดี ไหม ครับ....55


    ..........

    ตัวอย่าง.....

    เหมือนกับที่ม่าม้าบอก ว่า
    " พลังต้องเกิดที่ตัวเรา แล้วให้พลังล้นออกจากตัวเรามาให้มากที่สุด เพือที่จะใช้พลังนั้นช่วยตนเอง และผู้อื่น "


    คำพูดนี้ หากย้อนกลับไป ในสมัยที่ ยังฝึกกันอยุ่ใหม่ๆ
    คง ต้องโต้เถียง กัน ให้ยุ่งไปหมด

    ด้วยว่า
    สมัยฝึกกันใหม่ๆ เราก็ ใช้ พลังในตัว กันเป็นส่วนใหญ่
    พอ ฝึกไปได้สักพัก (ได้ความถี่ ระดับคลาสสิค ถึงกลาง )
    ก็ เริ่่ม รับพลัง เข้าตัว แล้วจึง ส่งออกไป

    นานๆเข้า ชักรู้มาก (ความถี่ระดับกลางๆ)
    ขอพลังจากท่าน..... ให้ตัวเรา และ คนป่วย

    พอรู้มากเข้า ... ( เอาเซฟตี้ ไว้ก่อน)
    ขอให้ท่านช่วยรักษา เลย (ได้ความถึ่ในย่านสุง ถึงสูงมาก)
    ตัวเรา ไม่ต้องเข้าไปยุ่ง (ค่อนข้างปลอดภัยมาก)

    หลังๆ พวกเรา ก็ใช้วิธีนี้ กันมากเข้า ๆ

    จนมา สังเกตดู
    ในหลายๆ กรณี รักษาโรค ธรรมดาๆ
    ก็ หาย ไม่มีอะไรน่าสงสัย

    แต่สังเกตได้ว่า โรคภัยไข้เจ็บ ที่ เป็นเนื้อเป็นหนัง
    ต้องตัด ต้องผ่า ต้องจัด ปรับแต่ง สร้างใหม่
    พวกนี้ กลับต้องใช้พลังแบบ เก่า ( คลาสสิค )
    จึง จะเห็นผล ชัดเจน

    ใช้พลังละเอียดๆ กับเนื้อหนังมังสา เห็นผลช้า

    จริงไหม คุณลุง......

    ........

    ตัวอย่างนี้...
    ถ้า จำจากตำรา ที่ เค้า พูดกันมา
    ก็ คง ต้องถกเถียง เอาเป็นเอาตาย กัน ละมั้ง

    แต่ ด้วยการนำ ผลจากการปฏิบัติ และใช้งานจริง
    มา ประกอบ
    ก็ จะได้ คำตอบ ที่ ถูกต้อง
    .......

    อย่าเพิ่ง เชื่อผม นะ ลองกันดูก่อน......55​
     
  8. sman

    sman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +127
    ขอบคุณครับพีดาว ถ้า จำจากตำรา ที่ เค้า พูดกันมา ก็ คง ต้องถกเถียง เอาเป็นเอาตายกัน ละมั้ง นั้นและครับพีดาว เป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ไม่อย่างพูด ไม่อย่างแนะนำอะไร เพราะตัวเรายังอยู่ในขบวนการศึกษา บางครั้งสิ่งที่คนอื่นทำก็ถูกระดับหนึ่ง เราทำก็ถูกระดับหนึ่ง สรุปถูกทังนั้น แต่ต่างที่ระดับเท่านั้นเอง ทำให้เข้าใจบรรดาครูที่สอนเรื่องพลัง บางครั้งต้องปล่อยให้ผู้เรียนได้พบกับตนเองถึงจะเข้าใจ ซึงตอนนี้ ผมว่าผมกำลังทำข้อสอบอยู่ หนึ่งเรื่องครับ
    คือในระดับอาการของพลังลบ นั้นมีหลายระดับมาก บางครั้ง เราใช้องค์ความรู้ที่มีอยู่นำมาใช้ในภาคปฎิบัติได้บางเรื่องเท่านั้น เช่นในการรักษาคนๆหนึ่งนั้น บางครั้งรักษาทางจิตก็หายได้ในขณะนั้น แต่สักพักก็เป็นใหม่ เพราะอาการทางจิตบางครั้งไปกระทบกับทางกาย จึงต้องมาแก้ที่กายด้วย แต่บางครั้งที่อาการยังไม่ฝังที่กาย ก็หายได้ โดยร้องขอเบื้องบนรักษาให้ แต่ในระยะหลังนี้ เจอแต่อาการที่แสดงมาทางกายสักส่วนใหญ่ จึงใช้การแก้อาการ ด้วยการรับพลังพร้อมกับให้พลังไหลออกทางกาย ไปสู่กายคนที่เราแก้อาการโดยการ กด นวด คลึง ดัด ดึง ในส่วนที่กายติตขัด บางครั้งเจออาการที่เราเข้าไปไม่ถึงต้องโทรหามาม่า ให้มาม่าส่งพลังมาทางโทรของเราและเราส่งต่อไปที่คนไข้อีกทีได้ผลสองต่อคือ ปรับพลังในตัวเราและรักษาคนไข้ด้วยครับ เป็นการเรียนรู้ทางโทรศัพท์อีกวิธีครับ
     
  9. wacaholic

    wacaholic เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    502
    ค่าพลัง:
    +214
    นำมาฝากทุกๆท่านครับ

    เป้าหมายแห่งการเกิด แก่ เจ็บ ตาย
    คือ โจทย์ที่ต้องแก้สมการให้ทันเวลา

    เขา ส่งทุกข์ เรา แก้ปม
    เขา ส่งสุข เรา รู้ทัน

    หน้าที่เรา เพียง บ่มจิตให้พิสุทธิ์
    จึงจะเปี่ยมพลัง พร้อมใช้งาน

    หน้าที่เรา เพียง บ่มปัญญาให้เฉียบคม
    จึงสามารถต่อกร แก้ปมและรู้ทัน

    หน้าที่เรา เพียง บ่มเมตตาให้เปี่ยมล้น
    เพื่อสื่อสาร ถ่ายทอด สิ่งดีงามแก่กันและกัน

    หน้าที่เรา เพียงบ่มขันติให้เข้มแข็ง
    เพื่อให้อดทนต่อการเปลี่ยนแปลงในทุกสรรพสิ่ง

    จิต ปัญญา เมตตา ขันติ
    คือ หน้าที่ประจำชีวิต ที่ต้องเรียนและฝึกฝน

    ศาสตร์และศิลป์ สอดประสานเป็นจังหวะ
    ตามครรลองการหมุนไปของโลกภายนอกและภายใน

    ใครแก้ปัญหาโจทย์ได้ดี รางวัลก็ตามมาอย่างคุ้มค่า
    ใครแก้ไม่ได้ ให้เพื่อนช่วย รอโอกาสต่อไป
    ประคับประคองกันและกัน

    เพื่อโบนัสของชีวิต ที่เราจะได้พร้อมๆกัน
    คือ บรมสุข บรมโชค ในเขตแดนนิพพาน
    อันถาวร จีรัง เที่ยง และ เป็นของจริง

    จิตหนึ่งจิต

    สติ คือ วินัย โพลงไสวไร้มลทิน
    เพ่งชัดที่ธาตุรู้ เพียงเฝ้าดูเป็นอาจิณ อนิจจังทั้งสิ้น
    ความหลงดิ้นก็จางคลาย รู้หนึ่งให้ซึ้งจิต เย็นสนิทธรรมหนึ่งนัย
    อุเบกขาทั้งหลาย ก็แค่ลายอนิจจัง รู้เฉยที่เกิด - ดับ หมดความลับเลิกรักชัง
    รู้เฉยกับทั้งยัง รู้ผัสสะเวทนา ( สุข - ทุกข์ - ไม่สุข - ไม่ทุกข์ )
    ทุกสิ่ง คือ เกลียวคลื่น จงรู้ตื่นจากมายา
    สิ้นทุกข์ สิ้นโศกา อนัตตาธรรมทั้งปวง สุญญตาธรรมทั้งปวง
    เพิกถอนความยึดมั่น สัตว์สังขารความคิดลวง รู้ตื่นก็โชติช่วง พ้นสิ่งลวงในทันที
    หน้าที่ปัจจุบัน จงฝ่าฟันด้วยขันตี

    อิทธิบาททั้ง 4 จงยินดีอย่ามัวเมา

    1. พอใจที่จะทำ 2. เข้มแข็งทำไม่ซบเซา 3. ตั้งจิตตั้งใจเจ้า 4. และเข้าใจใช้ปัญญา

    นี้แหละ ....... ธรรมแห่งความสำเร็จ ทั้ง โลก และ ธรรม
    เป็นสิ่ง ๆ หนึ่งที่พึ่งได้ ได้พึ่งจริง อย่าไป ไขว่คว้าพิธีกรรมใด ๆ เลย
     
  10. ปราณ

    ปราณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    132
    ค่าพลัง:
    +835


    สอบถามค่ะก่อนวันที่11.11.11ควร<WBR>จะมีการจัดงานที่อนุเสาวรีย์ไหม<WBR>คะ(ประมาณปลายเดือนกันยา)...ร่ว<WBR>มด้วยช่วยกันแสดงความคิดเห็นได้ในกระทู้นี้หรือในเฟสบุ๊คหม่าม๊าตามลิงค์ค่ะ:cool:




    Mamaa Full Center : เปิดจักระ เชื่อม กาย ใจ จิต วิญญาณ และ สื่อสาร | Facebook
    <WBR>






     
  11. ปราณ

    ปราณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    132
    ค่าพลัง:
    +835




    ขอบคุณพี่ดาวและทุกท่านที่มาให้ความรู้และแลกเปลี่ยนข้อมูลที่มีประโยชน์มากค่ะ...ขอนิดค่ะ "ความรักที่ไม่มีเงื่อนไข" ดูได้จากหม่าม๊าค่ะ...หม่าม๊าให้ความรักและเมตตาโดยไม่รุ้สึกว่าต้องชอบหรือไม่ชอบ หรือตัดสินใคร ให้กับทุกคนโดยไม่หวังสิ่งใด..เพียงเพื่อให้ทุกคนมีความสุขค่ะ(deejai)



    Mamaa Full Center : เปิดจักระ เชื่อม กาย ใจ จิต วิญญาณ และ สื่อสาร | Facebook
     
  12. ดาวทะเลทราย

    ดาวทะเลทราย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    3,424
    ค่าพลัง:
    +13,166

    อย่างที่ทราบ กันอยู่ นั่นแหละ

    นักปฏิบัติ ต้องใช้ทั้งทฤษฏี และบทสรุป จากการทดลอง
    มาประกอบกัน
    ทดลองทดสอบ จน แน่ใจ จึงจะ

    ซ.ต.พ.

    ...........

    อาจจะช้า หน่อย แต่ ชัวร์


    ............

    ข้อสอบ ของคุณสมาน คงสอบผ่านได้ แน่นอน

    ส่วนได้ คะแน เท่าไหร่ ทำเอาเองนะ
    ไม่ เอาใจ ช่วย หรอก...55

    ขำ ขำ อย่าคิดมาก...
     
  13. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    พี่ปราณรอบนี้ผมอยากไปทุกวันเลยเดือนกันยาผมไม่ว่างวันที่ 25 วันเดียว
     
  14. sman

    sman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +127
    ผมยก 2มือครับ เห็นด้วยครับ
     
  15. ปราณ

    ปราณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    132
    ค่าพลัง:
    +835


    เห็นด้วยกับข้อความไหนคะ หรือทิ้งไว้ให้ถอดรหัส อิอิ
    (deejai)
     
  16. ปราณ

    ปราณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    132
    ค่าพลัง:
    +835
    ท่านที่อยู่เชียงใหม่พบปะหม่าม๊าได้ในวันเสาร์ที่27สิงหาคมนี้นะคะ
    หรือติดตามข่าวสารหม่าม๊าได้ที่เฟสบุ๊ค


    สอบถามค่ะก่อนวันที่11.11.11ควร<WBR>จะมีการจัดงานที่อนุเสาวรีย์ไหม<WBR>คะ(ประมาณปลายเดือนกันยา)...ร่ว<WBR>มด้วยช่วยกันแสดงความคิดเห็นได้ในกระทู้นี้หรือในเฟสบุ๊คหม่าม๊าตามลิงค์ค่ะ:cool:




    Mamaa Full Center : เปิดจักระ เชื่อม กาย ใจ จิต วิญญาณ และ สื่อสาร | Facebook
    <WBR>
     
  17. sman

    sman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +127
    ถูกต้องครับ มีคนที่เห็นเหมือนผม 1ท่านแล้ว ตั้งแต่เริ่มทำงานกับมาม๊า ได้เห็นการทำงานแบบจิตอาษา และทำให้เข้าใจ คำว่ารักไม่มีเงือนไขครับ บางครั้งที่เราได้ยินคนที่โทรเข้ามาคุยกับมาม๊า บางครั้งเราฟังแล้วรู้สึกหงุดหงิดมาก กับคำถาม แต่มาม๊ากับฟังอย่างตั้งใจ และตอบ แบบต้องการช่วย และก้ไขให้อย่างเต็มใจ เราเห็นแล้วรู้สึกเลยว่าเราต้องฝึกอีกมาก ยังมีเหตุการณ์ อีกหลายเหตุที่ มาม๊าแสดงออกมาเพื่อสอนเรา โดยไม่ได้พูดออกมาตรงๆ
    ดั่งนั้น ใครที่ต้องการคุยกับมาม๊าสามารถโทรได้ครับไม่ต้องกลัวว่ามาม๊าจะดุหรือว่าเอาครับ ถามตรงประเด็นเลยครับถ้ามีปัญหา
     
  18. ดาวทะเลทราย

    ดาวทะเลทราย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    3,424
    ค่าพลัง:
    +13,166


    เห็นด้วย ครับ

    .......55........
     
  19. ปราณ

    ปราณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    132
    ค่าพลัง:
    +835
    บทความของคุณLigki Palika ที่ลงในเฟสบุ๊ค


    ‎........กฏของจักรวาล คือ วัฏจักรไหลวน ความเป็นวงกลม, ความไม่เที่ยงแท้ ,ทุกอย่างอยู่กับความเป็นไปไม่ไ<WBR>ด้ และความเป็นไปได้ ความต่อเนื่อง ความไม่มีที่สิ้นสุด และความปราศเงื่อนไข ทั้งหมดมีโครงข่ายอันเดียวกันกั<WBR>บจิตวิญญาณมนุษย์

    มิติและทิศทางการไหลวนวงกลมพลัง<WBR>งานในจักรวาลสัมพันธ์กับจักระทั<WBR>้ง ๗ เรือนกายมนุษย์

    เชิงคณิตศาสตร์หนึ่งวงกลม จากจุดเริ่มต้น ถึงจุดจบ นับเป็น 1 คาบเวลา
    ...
    มีหลักของเหตุและผลที่แน่นอน ไม่ป็นอย่างอื่นไปได้ เช่น
    เมื่อใส่ A ย่อมได้ผลของ A ในความเป็นไปภายใต้กฏ (ใส่ A ได้ผลออกมา B นั้นเป็นไปไม่ได้)
    อุปมาว่า เราได้รับผลส้ม เพราะว่าได้ปลูกต้นส้มไว้ในสวนข<WBR>องเรา

    สิ่งที่จิตใจมนุษย์ คิดและทำสิ่งใด ผลที่ได้รับออกมาก็ได้สิ่งนั้น ช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับเจตนา และเวลา

    เพราะในจักรวาล มีหลายความถี่ หลายคลื่นสั่นสะเทือน จึงเกิดมีเป็นมิติ ภพภูมิขึ้นมา

    .......แต่ละภพภูมิ เวลาก็ต่างกัน โลกภพภูมิที่มนุษย์อาศัยอยู่ที่<WBR>ช่วงความถี่ ความละเอียดในการสั่นสะเทือนระด<WBR>ับเฉพาะค่านึง คิดพูดและกระทำทางใจทางกาย ผลที่เกิดขึ้นย้อนมาแต่ละกรรมจึ<WBR>งช้าเร็วไม่เท่ากัน จึงเป็นเรื่องมิติของ "เวลา"

    .......เป็นพลังที่สถิตย์อยู่กร<WBR>ะทำการรักษาผดุงภาวะสมดุลย์ของม<WBR>วลชีวิตตั้งแต่ระดับหน่วยที่ย่อ<WBR>ยเล็กสุด จนถึงหน่วยที่ใหญ่สุดในสากลจักร<WBR>วาล

    ........สิ่งที่เป็นผล วนรอบย้อนกลับมา ซึ่งผลนั้นอยู่ให้ดู ชื่นชมหรือไม่พอใจกับผลนั้น จะนานช้าหรือเร็ววัน กฏธรรมชาติของจักรวาลก็จัดสรรให<WBR>้อย่างพอดีกับเวลาและครบครันไม่<WBR>ตกหล่น

    ........กฏจักรวาลดังกล่าว ปฏิบัติโดย ไม่เลือกรักชังใคร ไม่เลือกชาติเผ่าพันธ์ ไม่เลือกหญิง/ชาย ไม่เลือกว่าคนนั้นเป็นพุทธ,คริส<WBR>ต์,อิสลาม..ฯลฯ ไม่เลือกฐานะว่ารวยหรือจน สิ่งใดก็ตามที่อยู่ภายใต้มาตรฐา<WBR>นกฏนี้เท่าเทียมกันหมดทั่วทั้งจ<WBR>ักรวาล

    ........บางภพภูมิ เพียงการคิดที่เกิดมิติการกระทำ<WBR>ทางใจ ก็เนรมิตเกิดมี เกิดเป็นสิ่งต่างๆขึ้น ได้เร็วพลัน อย่างนั้นก็มี ก็เกิดจากภพภูมินั้นมีคลื่นความ<WBR>ถี่ คลื่นสั่นสะเทือน ธาตุที่ละเอียดมากกว่าโลกมนุษย์<WBR> เป็นเรื่องของ เวลา

    ........แต่กระนั้นทุกภพภูมิมีช<WBR>่วงคลื่นความถี่ แรงสั่นสะเทือน มิติของการกระทำทางใจ สร้างแรงดึงดูดและผลักดัน โดย คตินิมิต แรงสืบต่อ(สันตติ) ห้วงกาลเวลาแห่งความถือมั่นยึดม<WBR>ั่น(อุปาทาน) อาศัยภาพเนรมิตจากลักษณะความทรง<WBR>จำ(สัญญา) คติความเชื่อนรกสวรรค์ จากถิ่นฐานขนบธรรมเนียมประเพณี ศาสนา วัฒนธรรม ที่เคยอยู่อาศัยเดิม ที่ประทับความรู้สึก(เวทนา)เป็น<WBR>รอยจำอยู่ในจิตใจ


    :วงกลมและรอยต่อช่องว่าง อาศัยการศึกษาโดยความเงียบสงบทา<WBR>งจิตใจ:

    พึงใส่ใจ ศึกษา ระลึกรู้ถึงภาวะความเป็นวงกลม หมายถึง วัฏจักรวงกลม
    ความที่คนเราเกิด แก่ เจ็บ ตาย วงรอบความเป็นวงกลมของชีวิต
    แต่ละวันที่ผ่านไป ตื่นนอน ไปจนหลับ ชีวิตประจำวันที่เป็นวงกลม
    อารมณ์ ความนึกคิด ที่มีเกิดขึ้น และดับลงไป แล้วเกิดขึ้นมารอบใหม่


    หรือบางหนบางขณะ

    ใส่ใจในการระลึกรู้ ช่องว่าง เพื่อเกิดความรู้ตัวทั่วพร้อมหย<WBR>ั่งลงในท่ามกลาง
    รอยต่อช่องว่างระหว่างความนึกคิ<WBR>ดนึงที่ดับไป ก่อนที่ความนึกอันใหม่จะเกิด

    รอยต่อช่องว่างระหว่างลมหายใจที<WBR>่เข้ามา ก่อนลมหายใจกำลังจะออกไป
    รอยต่อช่องว่างระหว่างลมหายใจที<WBR>่ออกไปแล้ว ก่อนลมหายใจกำลังจะเข้ามา


    ชีวิตหลังความตาย (After Life)

    ............"ทุกภพภูมิมีช่วงคลื่น<WBR>ความถี่ แรงสั่นสะเทือน มิติของการกระทำทางใจ สร้างแรงดึงดูดและผลักดัน โดยอาศัยใช้ภาพเนรมิตจากลักษณะค<WBR>วามทรงจำ คติความเชื่อนรกสวรรค์ ถิ่นฐานขนบธรรมเนียมประเพณี ศาสนา วัฒนธรรม ที่เคยอยู่อาศัยเดิม ที่ประทับความรู้สึกเป็นรอยจำอย<WBR>ู่ในจิตใจ"

    รากศัพท์ภาษาบาลีและความหมายภาษ<WBR>าไทย
    ๑.ความทรงจำหรือจำได้หมายรู้ ศัพท์ภาษาบาลี เรียกว่า สัญญา
    ๒.ความรู้สึก ศัพท์ภาษาบาลี เรียกว่า เวทนา
    ทั้วสองคือ เวทนาและสัญญา มาจากประสบการณ์ชีวิตผ่านสัมผัส<WBR>ทวาร ๖ (ผัสสะ๖ : ตา หู จมูก ลิ้น กายและใจ)



    ชีวิตหลังความตาย (After Life) :
    .........มโนคติ ความเชื่อเรื่องชีวิตหลังความตา<WBR>ยในโลกที่คุณทุกคนอาศัยอยู่ปัจจ<WBR>ุบัน มีหลายเผ่าพันธุ์ หลายศาสนาอย่างน้อย ๕-๖ ศาสนา และหลากหลายวัฒนธรรมความเชื่อนร<WBR>ก-สวรรค์ สร้างรูปลักษณ์จากคติความเชื่อ แรงบันดาลใจผ่านภาพวาดงานศิลปกร<WBR>รม รวมทั้งบันทึกตัวอักษร

    .........สวรรค์และนรก ดินแดนในอุดมคติชีวิตหลังความตา<WBR>ย ณ ที่ใดที่นึง ในอดีตโบราณจนถึงปัจุบันวันนี้ ของชาวไอยคุปต์ ,ชาวสุเมเรียน, ชนเผ่ามายา ,ชาวเผ่าอารยัน, ชาวเนวีเจียน, ชาวไวกิ้ง, คริสเตียน, อิสลามชน, พุทธศาสนิกแต่ละประเทศ, ชาวฮินดู, ชาวศาสนาเชน, ชาวศาสนาซิกส์ ฯลฯ
    ............. ตามแต่ว่ามนุษย์คนนั้นจะเกิดที่<WBR>ใด คนนั้นมักจะใช้ขนบธรรมเนียมประเ<WBR>พณี คติความเชื่อที่นั้นเป็นเกณฑ์คื<WBR>อสิ่งที่คิดว่าถูกต้องใช่ที่สุด<WBR> โดยมีพื้นฐานสะสมบ่มไว้ในความทร<WBR>งจำตั้งแต่คนนั้นเกิดลืมตาดูโลก<WBR>นี้
    .........บางคนก็มีความเปลี่ยนแ<WBR>ปลงไป เมื่อคิดว่าเจอสิ่งที่ใช่มากกว่<WBR>าศรัทธาความเชื่อของเดิมก่อนหน้<WBR>า


    ทั้งนี้ทั้งนั้น...
    กฏจักรวาลครอบคลุม ไร้ข้อจำกัด ไร้ขอบเขตเงื่อนไข และเป็นจริง
    ความจริงในเรื่องที่เป็นเหตุเป็<WBR>นผล เมื่อทำดีย่อมได้รับดี และเมื่อทำสิ่งไม่ดี ผลตอบกลับมาก็จะเป็นสิ่งไม่ดี
    ดังที่กล่าวเบื้องต้นว่า "เมื่อการกระทำใส่ค่า A ย่อมได้รับผลเป็น A (เป็น B ไม่ได้)"

    เมื่อมีความทุกข์ทนทรมาน หากจะได้รับเมื่อใดที่ใด ก็รู้สึกไม่ดี มีความทุกข์
    กลไกจิตวิญญาณมนุษย์นั้นก็แปลคว<WBR>ามรู้สึกนั้นเป็น นรก สิ่งไม่ดี สิ่งชั่วร้าย แปลจากสัญญาณภาพที่อยู่ในมโนคติ<WBR>ความเชื่อ

    เมื่อมีความสุขใจสบายกายหากจะได<WBR>้รับเมื่อใดที่ใด ก็รู้สึกดีมีสุข
    กลไกจิตวิญญาณมนุษย์นั้นก็แปลคว<WBR>ามรู้สึกนั้นเป็น สวรรค์ สิ่งดี สิ่งงดงาม แปลเป็นจากสัญญาณภาพที่อยู่ในมโ<WBR>นคติความเชื่อ

    แต่สุข ทุกข์ จากผลที่ได้รับดังกล่าวมาแล้ว เป็นคลื่นความถี่ของจิตใจ
    คลื่นความถี่ ความละเอียดของจิตใจที่หยาบจากค<WBR>วามทุกข์ทน ก็แน่นทึบ อึดอัด เร่าร้อน

    คลื่นความถี่ ความละเอียดของจิตใจที่ละเอียดจ<WBR>ากความสุข ก็โปร่งเบา สดใส สงบเย็น
    ทั้งสองด้านของความรู้สึก เวลาที่ได้รับก็ไม่ยั่งยืนคงทน

    แต่ละผลที่ได้รับจากการกระทำนั้<WBR>นๆก็ผันแปรไปตามน้ำหนักการกระทำ<WBR>ทางกายใจ
    ซึ่งการกระทำและผลที่ได้รับทางจ<WBR>ิตใจ จิตใต้สำนึกมีการทำงานจดบันทึกไ<WBR>ว้ตลอดช่วงชีวิต

    .........เมื่อปิดฉากละครชีวิต ละสังขาร วิญญาณหลุดออกจากร่าง พบแสงสว่างผ่านทางเดินท่อคล้ายอ<WBR>ุโมงค์แล้ว หลังจากนั้นสิ่งที่จดบึนทึกในชี<WBR>วิตก็ถูกจิตใต้สำนึกฉายออกมา ให้สำนึกรู้คล้ายวีดิโอย้อนกลับ<WBR>ผ่านประสบการณ์แต่ละช่วง

    ผลที่จิตวิญญาณได้รับในครั้งนี้<WBR> นั้นจะเป็นการเรียนรู้ประสบการณ<WBR>์จากกระบวนการชีวิตทั้งหมดที่ผ่<WBR>านมา
    ผลที่จิตวิญญาณได้รับในครั้งนี้<WBR> นั้นจะเป็นคลื่นความสั่นสะเทือน<WBR> คลื่นความถี่ของจิต

    .........สิ่งใดที่เกิดขึ้นในจิ<WBR>ตวิญญาณขณะนั้น สิ่งนั้นก็จะดึงดูดภพภูมิใหม่ที<WBR>่มีช่วงคลื่นความละเอียดความถี่<WBR>ชนิดเดียวกันเข้ามาตามมโนคติ กรรม และแรงกระทำสืบต่อเนื่องตามธรรม<WBR>ชาติ ซึ่งนี้เป็นกฎธรรมชาติ กฎแรงดึงดูดของจักรวาล สิ่งเดียวกันย่อมดึงดูดเข้าหากั<WBR>น โดยไม่ว่าจะมีลัทธิศาสนาใดในโลก<WBR>หรือไม่มีก็ตาม กฎนี้ก็ยังคงดำเนินอยู่ และอยู่ตลอดไป

    มายาย่อมดึงดูดเคลื่อนเข้าหามาย<WBR>า
    ความจริงย่อมดึงดูดเคลื่อนเข้าห<WBR>าความจริง
    ..............................<WBR>................


    .........การซอยจำแนกแยกช่วงควา<WBR>มถี่ คลื่นความละเอียดของจิตก็จะไปลง<WBR>กับเรื่องชั้นต่างๆของภพภูมิสวร<WBR>รค์และนรกชั้นต่างๆ ตามมโนคติความเชื่อพุทธศาสนิกชน<WBR> บางลัทธิศาสนา ไม่มีความเชื่อเกี่ยวกับชีวิตหล<WBR>ังความตาย บ้างมีความเชื่อว่า เป็นดินแดนแห่งความสงบสุขอันเป็<WBR>นนิรันดร

    .........ทั้งหมดทุกความเชื่อลั<WBR>ทธิศาสนา ตั้งแต่อดีตยาวไกล จนมาถึงปัจจุบัน ล่วงเลยไปอนาคตข้างหน้าไม่มีที่<WBR>สิ้นสุด จะยังมีอยู่เพื่อการรังสรรค์แด่<WBR>จิตวิญญาณ เพื่อการแสวงหาและการค้นพบความจ<WBR>ริง สิ่งสูงสุด เพื่อเติมส่วนที่ขาดหายไปให้เต็<WBR>มบริบูรณ์ ได้มีการอุทิศตัวไปสู่คุณธรรมสู<WBR>งสุดของความดีงามของชีวิตและจิต<WBR>วิญญาณ
    การเติมเต็มเส้นทางด้านจิตวิญญา<WBR>ณ

    .........การเติมเต็มเส้นทางด้า<WBR>นจิตวิญญาณ เพื่อเดินไปตามเส้นทางที่สุขสกา<WBR>ว ประดุจแสงสว่างที่เปล่งจ้าออกมา<WBR>บนเส้นทางสีทอง

    ......... สิ่งที่มนุษย์เราพึงเรียนรู้เบื<WBR>้องต้นว่า ทำไมเราเป็นอย่างนี้และมาอยู่ที<WBR>่นี่ได้อย่างไร เพื่อค้นหาสิ่งใด? มันเป็นผลที่ไหลมาจากการกระทำ ด้วยการกระทำต่างที่มาจากเส้นทา<WBR>งเลือก หรือหากมีสิ่งใดดลบันดาล ?
    ...
    .........กฎธรรมชาติ สิ่งสูงสุด มีพลังการสรรสร้าง และหมุนวนให้เกิดมีพลังชีวิต ที่แยกย่อยไปสู่สิ่งที่เล็กที่ส<WBR>ุดของโครงสร้างเอกภพ ทุกๆส่วนมีพลังอานุภาพของสิ่งสู<WBR>งสุดสถิตอยู่ โครงสร้างทุกสิ่งทุกอย่างหมุนไป<WBR>ด้วยพลังความรักที่ปราศจากเงื่อ<WBR>นไข ดำเนินไปอย่างมีความต่อเนื่อง สอดคล้องสมดุล
    .........การกระทำของสิ่งใดสิ่ง<WBR>หนี่ง ย่อมส่งผลกระทบไปหาทุกส่วนของโค<WBR>รงสร้างจักรวาลเอกภพ เพราะทุกอย่างมีความเกี่ยวเนื่อ<WBR>ง เกี่ยวพันร้อยรัดกันเป็นหนึ่งเด<WBR>ียวกัน



    .........พลังธรรมชาติของสิ่งสู<WBR>งสุดให้โอกาสทุกจิตวิญญาณมนุษย์<WBR> เรียนรู้ ผ่านกระบวนการชีวิตที่แสนเปราะบ<WBR>าง มีการเกิด มีการตาย ผ่านการกระทำและรับผลจากความดีง<WBR>าม ผ่านการกระทำและรับผลจากสิ่งชั่<WBR>วร้าย ให้โอกาสได้ละเล่น และเป็นทุกบทบาทแสดงของละครชีวิ<WBR>ตโรงใหญ่ เป็นราชา เป็นผู้สูงศักดิ์ เป็นยาจก เป็นสตรี เป็นบุรุษ ทุกจิตวิญญาณได้เกิดเป็นมาแล้วท<WBR>ุกฐานะที่มีในโลก ผ่านความมั่งมี ผ่านความยากไร้ ผ่านถิ่นอุดมสมบูรณ์ ผ่านถิ่นอัตคัดขัดสน จากชีวิตหนึ่งสู่อีกชีวิตหนึ่ง เปลี่ยนผ่านรองเท้าแห่งชีวิตคู่<WBR>แล้วคู่เล่า ซึ่งเป็นการเดินทางที่แสนยาวนาน<WBR>ของแต่ละจิตวิญญาณ ได้รับการเรียนรู้จากเส้นทางเลื<WBR>อก และผ่านประสบการณ์ที่เป็นทั้งสุ<WBR>ขทุกข์มาแสนมากมาย

    .........มนุษย์ทุกคนได้เคยเป็น<WBR>เคยเล่นมาแล้วทุกบทบาทในละครชีว<WBR>ิตโรงใหญ่ ได้มีโอกาสบ่มเพาะเรียนรู้จากกา<WBR>รกระทำยอมรับผลการกระทำ ภายใต้กฎธรรมชาติ สิ่งสูงสุด ที่มิเคยพิพากษาจิตวิญญาณใด มิได้ให้รางวัลหรือคำตำหนิใด ในการกระทำไม่ว่าดีงามหรือเลวร้<WBR>ายสักปานใด

    ......... สิ่งสูงสุด กฎจักรวาลธรรมชาติที่มีอยู่รักแ<WBR>ละให้มนุษย์ทุกคนดุจบิดามารดารั<WBR>กบุตร ที่ให้โอกาสบุตรได้เรียนรู้ชีวิ<WBR>ตเองผ่านเส้นทางเลือก การกระทำและการรับผลของการกระทำ<WBR> ผ่านครรลองการรักษาสมดุลยภาพของ<WBR>กฎจักรวาลธรรมชาติ สิ่งสูงสุด อย่างเสมอภาคเท่าเทียมกันทุกจิต<WBR>วิญญาณ
    .........การกระทำ และผลของการกระทำ เป็นดุจ เส้นโลหิต เนื้อหนัง ของมนุษย์
    .........ชีวิต บทบาทของชีวิตมนุษย์และฐานะในโล<WBR>กนี้ เป็นดุจ เสื้อผ้า รองเท้า ของจิตวิญญาณ
    .........ชีวิต ความรู้สึกนึกคิด และอารมณ์ มีวัฎจักร มีลักษณาการความเป็นวงกลม มีไหลต่อเนื่องกัน มีความไม่เที่ยงแท้เป็นลักษณะเฉ<WBR>พาะตัว



    .........การสั่งสมคุณธรรมและเร<WBR>ียนรู้ทางจิตวิญญาณ มีลำดับเหมือนการก้าวขึ้นบันไดท<WBR>ีละก้าวที่ละขั้น ผ่านโรงละครชีวิตแต่ละครั้ง ได้มีโอกาสเล่นบทต่างๆ ผ่านการบ่มเพาะเรียนรู้จากความร<WBR>ักและการให้ ที่ปราศจากเงื่อนไข ความอ่อนน้อมถ่อมตนไม่ถือเราถือ<WBR>เขา และเรียนรู้เข้าใจในความเป็นไปข<WBR>องกฎธรรมชาติโดยลำดับ เรียนรู้ที่จะค้นหาความสันติ สงบที่เป็นจุดพักผ่อนของจิตวิญญ<WBR>าณผ่านการทำสมาธิภาวนา ทำสิ่งต่างๆในชีวิตด้วยความจริง<WBR>ใจ ด้วยอุดมการณ์ที่มุ่งมั่นไปสู่ส<WBR>ิ่งที่ดีงาม แต่ก็ไม่ควรละเลยกับบทบาทของตนใ<WBR>นโรงละคร และทั้งนี้ก็ไม่ควรยึดติดกับบทบ<WBR>าทจนเกินไปเช่นกัน

    .........การเข้าสู่ภายในด้วยสม<WBR>าธิภาวนา ก่อให้เกิดความสงบ สันติสุขภายใน และยังจะทำให้คุณสำรวมรู้จักการ<WBR>พินิจพิเคราะห์ ผ่านล่วงเข้าไปยังจิตใต้สำนึก ซึ่งเป็นที่ ที่ยังไม่เคยถูกคุณสำรวจมาก่อนห<WBR>น้า ค้นพบปมและสะสางปมภายในจิตใจคุณ<WBR>เอง ที่ถูกมัดแน่นไว้จากประสบการณ์ช<WBR>ีวิตที่ผ่านมา ที่มีความขัดเคืองใจ ทุกข์ใจ กระทบกระเทือนใจ เป็นแผลใจกับสิ่งนั้นๆ ให้โอกาสจิตวิญญาณได้กลับไปเรีย<WBR>นรู้ประสบการณ์ทั้งทุกข์และสุข ตามหนทางกระบวนการสะสางอย่างถูก<WBR>ต้องด้วยความเคารพต่อตนเองและเค<WBR>ารพต่อสิ่งที่กระทำดุจเดียวกัน ให้มันเหมือนเกิดขึ้นอีกครั้ง ปล่อยวางผ่านมุมมองความเข้าใจภา<WBR>ยใต้กฎจักรวาล ธรรมชาติ สิ่งสูงสุด

    .........เพราะว่า จิตวิญญาณจะยังถ่ายถอนคืนสู่ควา<WBR>มเป็นอิสระไม่ได้ เป็นสิ่งสูงสุดไม่ได้ ตราบใดที่ยังมีปมมัดแน่นด้วยตัว<WBR>มันเองอยู่ภายในที่จิตใต้สำนึก จากความไม่รู้ ความไม่เข้าใจกฎจักรวาลของธรรมช<WBR>าติ สิ่งสูงสุด ด้วยว่าจิตวิญญาณอิสระนั้นเป็น สิ่ง ที่ไม่มีมิติ เป็นอนันต์ ไร้ขอบเขต ไร้ชื่อ ไร้กาลเวลา ไม่มีผู้สร้างและไม่มีผู้ทำลาย สิ่ง สิ่งนี้ ไม่มีความเกิดแก่เจ็บตาย

    .........คุณสามารถเลือกที่จะเร<WBR>ียนรู้สิ่งต่างๆเพื่อนำมาประยุก<WBR>ต์ปฏิบัติร่วมกับ พระสูตรที่ดีหรือบทธรรมที่ดี จากศาสนาใดหรือศาสนาที่คุณนับถื<WBR>ออยู่ก็ได้ ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่คุณได้เรีย<WBR>นรู้มีความเข้าใจจากพื้นฐานกฎจั<WBR>กรวาล ธรรมชาติ สิ่งสูงสุด และได้ดำเนินอยู่นั้นแล้ว ก็จะเพิ่มพูนศักยภาพของคุณให้เด<WBR>ินอยู่บนเส้นทางแห่งการเติมเต็ม<WBR>ทางด้านจิตวิญญาณ เส้นทางสีทอง
     
  20. weruwan

    weruwan เวฬุวัน ว.มุจลินทร์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    106
    ค่าพลัง:
    +537

    เห็นด้วยแลท่าน
    งานกุศลงดงามยิ่งนักในเบื้องต้นในท่ามกลางในที่สุด
    แต่เราหารู้ไม่ว่า
    จักได้ไปขอความเมตตาต่อท่านหม่าม้าได้ไหม

    แต่ก็ขออนุโมทนาสาธุการด้วยแลท่าน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 สิงหาคม 2011

แชร์หน้านี้

Loading...