" สวัสดี " กำลังหายไปจากสังคมไทย

สวัสดี เป็นคำทักทายของคนไทย มักจะใช้เมื่อมีการพบปะเจอหน้า
หรือเมื่อต้องการบอกลา ก็กล่าวคำว่า สวัสดี ได้เช่นกัน

ความหมายของคำว่าสวัสดี

สวัสดิ์ หมายถึง ความดี ความงาม ความเจริญรุ่งเรือง และความปลอดภัย
สวัสดีจึงหมายถึง ขอความดีงามจงมี (แก่ท่าน)

สังคมไทยทุกวันนี้เป็นสังคมที่รีบเร่ง แม้แต่การกล่าวคำว่า สวัสดี ก็รีบเร่ง
คำว่าสวัสดี จึงเริ่มที่จะหายไปจากสังคมไทย เหลือเพียงแต่คำว่า..

​

หวัดดีครับ
หวัดดีค่ะ

หากแปลตามความหมายแล้ว บอกได้เลยว่าคงไม่ดีอย่างแน่นอน

เพราะ "หวัด" ไม่ดีหรอกครับ เพราะเป็นแล้วจะไม่สบาย

สวัสดีครับ
​

 

ผู้ที่ริเริ่มใช้คำว่า "สวัสดี" คือ พระยาอุปกิตศิลปสาร (นิ่ม กาญจนาชีวะ)

โดยพิจารณามาจากศัพท์ "โสตถิ" ในภาษาบาลี หรือ "สวัสติ" ในภาษาสันสกฤต

โดยได้เริ่มใช้เป็นครั้งแรก ณ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ขณะที่พระยาอุปกิตศิลปสาร (นิ่ม กาญจนาชีวะ) เป็นอาจารย์อยู่ที่นั่น

หลังจากนั้น ในปี พ.ศ. 2486 จอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในสมัยนั้น

เห็นชอบให้ใช้คำว่า "สวัสดี" เป็นคำทักทายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม เป็นต้นมา<SUP id=cite_ref-1 class=reference>[</SUP>

 

ที่โรงเรียนของติง สวัสดีกันทุกเช้าเลยค่ะ ^^

 

ดีใจจังที่ยังมีคนเห็นความสำคัญของคำว่า "สวัสดี" เพราะตัวเราเองเวลาทักทายกับใคร ๆ ก็จะพูดเต็มคำ แม้แต่เวลารับโทรศัพท์ก็จะพูดว่า "สวัสดีค่ะ" ไม่เคยพูดว่าฮัลโหลก่อนเลย แต่ก็จะโดนแซวว่าเป็นครูภาษาไทยมาเองบ้างล่ะ เชยบ้างล่ะ หัวโบราณบ้างล่ะ สารพัดจะโดนค่อนขอด แต่เราก็ไม่เสียใจหรอก ยังคงยืนหยัดที่จะทักว่า สวัสดีค่ะ เหมือนเดิม ช่วยกันอนุรักษ์และใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องนะคะ

 

^^ เวลาติงรับโทรศัพท์ ติงก็จะทักทายว่า
"สวัสดีค่ะ....."
มีความสุข และมีความภาคภูมิใจ ที่ได้กล่าวคำว่าสวัสดี เชื่อว่าคำนี้เป็นคำอันเป็นมงคล ที่เราควรให้กับผู้ที่พูดกับเรา

 

สวัสดีอยู่บ่อยๆค่ะ

 

เข้ามาพนมมืองามๆ แล้วอยากจะบอกกับเพื่อนๆพี่ว่า สวัสดีครับ อิอิ

 

สวัสดี

สวัสดีค่ะ
ขอน้อมรับด้วยความยินดีที่มีคนนำเรื่องดีๆของสวัสดีมาลง พร้อมทั้งขอบคุณด้วยใจจริงค่ะ
ภาษาไทยงดงามมากแต่ยังมีคนมองไม่เห็นอีกมากมายนะคะ ตัดคำ เติมคำ แปลงคำ พูดปนกับภาษาอื่นแบบคนไทยแปลไม่ออก นี่เราเองคนไทยคนนั้น หรือเราไม่เก่งเองน่ะแหละนะคะ ต้องเอามาคิดนานมากกว่าจะนึกได้ว่าเขาพูดว่าอย่างนี้ แปลว่าอย่างนี้ เหนื่อยจังคนไม่รู้แบบเรานี่ฯลฯ
มีคนเคยเรียนภาษาไทยกับเราแล้วกลับมาต่อว่า ว่าทำไมคนไทยที่ห้องอาหารไทย เขาพูดคำว่า ครับ เป็น คับ ค่ะนั่นสิ ทำไมใครตอบเราได้มั่งนะคะ
อีกรายนึงไปเมืองไทยมีเรื่องกับคุณตำรวจ หรือต้องพูดกับตำรวจ เมื่อสื่อสารยากในเรื่องชื่อของเขา เขาก็เลยสะกดตัวอักษรเป็นภาษาไทยให้อย่างถูกต้อง ถูกต่อว่าอีกว่า ทำไมไม่พูดภาษาไทย เขาก็บอกว่า พูดได้นิดเดียวนี่ละครับ คุณตำรวจก็ไม่ยอมเชื่อ เรียกว่าเราสอนดีเกินตอนให้สะกดคำเขียน แต่อย่างอื่นไม่ทันได้เรียนมากไปเที่ยวในเมืองไทยก่อนน่ะค่ะ
ส่วนที่ทำงานมีคนทักเราเป็นภาษาไทย สวัสดีครับ พร้อมกับพนมมือ
เราทำงานกับผู้คนที่ไม่ใช่ชาวไทยน่ะค่ะ
ขอบคุณกับมงคลชีวิตที่คุณนำมาลงนะคะ สวัสดีค่ะ

 

สวัสดี พร้อมยกมือไหว้ เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของคนไทย แสดงถึงมีความอ่อนน้อม และสัมมาคารวะ
ความอ่อนน้อมมีสัมมาคารวะ ผู้ใหญ่เห็นก็รัก ใครเห็นก็ชื่นชม เป็นรื่องจริงค่ะ

 

สวัสดีด้วยคนครับ ^____^

 

แสดงว่า ก่อนหน้านั้น สมัย อยุธยา หรือ รัตนโกสินทร์ ตอนต้น ก็ยังไม่มีคำทักทายอย่างเป็นทางการสินะครับ เช่น เรียกก็เรียกชื่อกัน หรือ เห้อย เป็นอย่างไรบ้าง ว่าอย่างไร ไปไหน อะไรประมาณนี้มั้ง

 

สวัสดีครับ ^^