ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=sy7SO6lP5Co]Above & Beyond presents OceanLab - Miracle (album lyrics inc.) - YouTube[/ame]

Don't they know that there's something going on
What they're harming with their indecision
But who will be left standing when I'm gone?
There'll be nothing left but a vision

It's too easy to turn a blind eye to the light
It's too easy to bow your head and pray
There are some times when you should try to find your voice
This is one voice that you must find today

Are you hoping for a miracle



as the ice caps melt away?
No use hoping for a miracle
There's a price we'll have to pay

It's too easy to turn a blind eye to the light
It's too easy to bow your head and pray
There are some times when you should try to find your voice
This is one voice that you must find today

Are you hoping for a miracle
as the ice caps melt away?
No use hoping for a mïracle

 

เป็นธรรมดานะครับคุณเรอเน่ ใครจะมาเข้าใจเรื่องนี้ได้ง่ายๆ
ผ้าปิดตาของแต่ละคนมีความทึบตันหรือโปร่งบางไม่เท่ากัน
เราอาจดูเป็นตัวประหลาดในสายตาคนอื่นเอาได้ง่ายๆนะครับ
เรียกว่าเป็นความจริงที่คนอื่นๆยังไม่รู้ไม่เข้าใจจะดีกว่า..

มีเพื่อนบางคนก็ยังมาชวนให้เล่นหุ้น..เพื่อสร้างความมั่งคั่งร่ำรวยเนี่ยล่ะ
ทั้งๆที่เราก็เคยเล่าให้ฟังแล้วว่าการเงินในตลาดหุ้นเหล่านี้ มันไม่ใช่สาระของชีวิตเลย
และมันก็ใกล้จะถึงจุดที่ต้องเปลี่ยนแปลงระบบพวกนี้แล้วด้วย
ก็เลยเป็นเรื่องยากจะสื่อสารให้เข้าใจกัน..และก็ดูเขาไม่ใส่ใจด้วย

ทุกวันนี้ หลายๆคนล้วนถูกกระแสสังคมพัดพาไปไหนต่อไหนก็ไม่รู้นะครับ
มนุษย์ก็ตกเป็นเหยื่อของการการค้าขายและการบริโภคกันไปหมด

เพราะฝ่ายนั้น..(-) เค้ารู้ว่ามีเวลาเหลือน้อยมากแล้ว
หากเขาครอบครองเป็นเจ้าของโลกใบนี้ไม่ได้ ก็ต้องใช้วิธีสุดท้าย ก็คือ "ทำลายทิ้ง"
โดยอาศัยการค้าและการบริโภคนี่แหละ ที่ทำให้เกิดการถลุงใช้ทรัพยากรโลกครั้งมโหฬารอย่างที่เป็นอยู่
จนโลกเกิดความบอบช้ำจากการขุดเจาะทำลาย และก็เสียสมดุลไปมากแล้วน่ะครับ

มีผู้บริโภคที่ตกเป็นเหยื่อของแผนการนี้จำนวนมากมายทั่วโลก เพราะความไม่รู้
ด้วยแนวความเชื่อของสังคมรูปแบบนี้ โลกถึงกระท่อนกระแท่น เซซัดไปมาอย่างที่เห็นนี่แหละ
ทั้งน้ำหลาก อดหยาก ขาดแคลน สงคราม แก่งแย่งชิงดีชิงเด่น ปล้นกัน ทะเลาะเบาะแว้งกันไปสารพัด

และเราคงต้องช่วยกันปฎิรูปใหม่ด้วย "ความรักที่มอบให้โลก"
สำนึกถึงบุณคุณของโลกและจักรวาลอย่างจริงจังซะทีนะครับ..มันถึงเวลาแล้วจริงๆ
ถ้าสามารถหันไปใช้พลังงานใหม่ๆที่มันสอดคล้องยิ่งกว่านี้ และไม่ส่งผลกระทบใดๆต่อโลกได้ น่าจะดีครับ
หรือไปปั่นจักรยานเล่นกัน แบบในเพลง Rain Drops keep falling on my head...มนุษย์คงจะมีความสุขสดชื่นกันมากๆ

 

เพิ่งเห็นว่าข้อความข้างบนนั้น ก็โพสเวลา 09:00 PM พอดีเลย
ไม่ได้ตั้งใจอ่ะครับ .... วันนี้เลข 9 มาแรง

 

ตอนแรกหลังจากที่รู้สึกเจ็บที่ดวงตา ก็เลยตั้งใจไว้ค่ะว่าจะไม่ฝึกจ้องพระอาทิตย์ ในช่วงที่ไม่ปลอดภัยอีก(ตอนแรกทำบ่อยกลัวว่าจะไม่ได้ฝึกค่ะ ใจมันเรียกร้องจัง อิอิ) แต่พอทราบว่าแม่พระธรณีต้องการความช่วยเหลือมากๆขนาดนี้ ทำให้สำนึกได้ค่ะว่าสิ่งใดสำคัญกว่า ก็เลยเอาอีกแล้วฝึกตอนเกือบห้าโมงเย็นซึ่งพระอาทิตย์ยังมีรังสีที่ค่อนข้างแรงอยู่ แต่ก็เชื่อเสมอว่าท่านไม่ทำร้ายเราอย่างแน่นอน เลยมีความสุขมากที่วันนี้ได้ส่งพลังความรักให้แม่ไกอาแล้วค่ะ (ใครไม่ได้ทำคงไม่ทราบว่ามันสวยงามขนาดไหน สำหรับความรู้สึกในใจเราน่ะค่ะ) คุณ mead คะ ตอนแรกที่อ่าน ที่คุณบอกน่ะค่ะว่า กลุ่มฝ่ายไม่ดีเค้าจะทำลายระบบทิ้งน่ะค่ะ ก็วิตกเหมือนกัน ว่าจะเตือนพี่ชายดีมั๊ยเพราะพี่ชายนำเงินเกินครึ่งของเค้าเข้าอยู่ในระบบหุ้นน่ะค่ะ เพราะเค้าเห็นว่าเป็นลงทุนระยะยาวที่ดี แต่ถ้าบอกพี่ชายเค้าต้องว่าเราบ้าแน่ๆ เลยเรื่องพวกนี้คนอื่นๆเค้าคงยากที่จะทำความเข้าใจ แต่ก็นั่นแหละค่ะ อย่าไปกลัวเลยเนอะ ขนาดข้อความต่างมิติเค้าก็บอกว่าประเทศที่ด้อยโอกาสก็จะได้รับโอกาสที่เท่าเทียมกันหมด ทุกคนจะได้รับโอกาสนั้น คงไม่ต้องห่วงดีกว่า ย้งงัยถ้ามีอะไรเปลี่ยนมันก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีอยู่แล้วคิดอย่างนี้ ค่อยมีความสุขและโล่งใจขึ้นมาหน่อยค่ะ สู้สู้ กันต่อไปค่ะ

 

เพ่งดวงอาทิตย์ยามเย็น บางครั้งทัศนวิสัยก็ถูกบดบัง
ห้าโมงเย็นนี่แสงยังแรงและจ้าอยู่เลย สายตาเราจะทำงานหนักเกินไป
หกโมงเย็นไปแล้วดีกว่านะครับ หลับตากำหนดนึกภาพดวงอาทิตย์เอาก็ได้
(ถ้ามองไม่เห็นจริงๆ) หรือใช้เทคนิคอื่นๆส่งพลังให้ไกอาในขณะทำสมาธิก็ได้ครับ

เรื่องพี่ชายคุณ tangOAH ก็ไม่น่าวิตกหรอกครับ ให้เค้าเล่นหุ้นไปตามปกติเถอะครับ (การเปลี่ยนแปลงใหม่ จะมาถึงก่อนการทำลาย) ถึงเวลานั้นสัญญาณต่างๆมันน่าจะค่อยปรากฎขึ้นเอง ทั้งระบบธนาคาร ระบบการเมืองมีเงินติดตัวไว้บ้างในช่วงนั้นก็พอครับ เพราะมันก็อาจเกิดความสับสนอยู่พักนึงเช่น ไฟฟ้าดับ น้ำปะปาไม่ไหล ร้านค้าต่างๆหยุดชะงักลงชั่วคราว..เล็กๆน้อยๆ แล้วมันจะกลับมาตั้งหลักกันในรูปแบบใหม่ๆแล้ว หลายอย่างก็คงจะเปลี่ยนแปลงไปหมด อย่าที่เราพอจะรับทราบจากข้อมูลไปบ้างแล้วน่ะครับ..

มาอ่านข้อความต่างมิติกันต่อดีกว่าครับ

 

SaLuSa to me: Open Up Your Heart [ตอนที่1]
ผู้สื่อสาร : Laura Tyco
วันที่ : 5 กันยายน 2011
ที่มา : http://galacticlauratyco.blogspot.com/2011/09/salusa-to-me-open-up-your-heart-5th.html#more



ลอร่า : สวัสดียามบ่ายค่ะ SaLuSa นี่คือคำถามแรกของเราค่ะ...

"มีอยู่คำถามหนึ่งที่ผมกังวลใจอย่างมากเลยครับก็คือ ร่างกายของผมบนโลกใบนี้จะต้อง"ตาย"
เพื่อการส่องสว่างหรือเพื่อเตรียมความพร้อมการสำหรับการเลื่อนระดับหรือไม่ครับ?

ผมสามารถฝึกฝนและสร้างระเบียบอย่างไรได้บ้างกับชีวิต?
หากวิงวอนเรียกหาเทวดาประจำตัวผมหรือและเทพแห่งแสงสว่างล่ะ? และผมจะทำอย่างไรที่จะสามารถบรรลุผลได้
ผมไม่สามารถแม้แต่จะบรรลุถึงความสงบสุขสักนาทีหรือสองนาที
และไม่สามารถทำให้ใจของผมเงียบสงบลงได้แม้แต่สักช่วงเวลาหนึ่งเลย?

อยากขอให้คุณช่วยบอกผมในเรื่องนี้ และให้คำแนะนำถึงสิ่งที่ผมควรทำ คืออย่างไรครับ?
เพื่อช่วยปรับปรุงจิตใจ สภาพจิตวิญญาณ และในด้านกายภาพของผม
และผมจะสามารถช่วยเหลือคนที่รักของผมและคนรอบข้างของผมอย่างไรดีครับ? "

.
SaLuSa : ที่เราเคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ถึงการเลื่อนระดับ
ว่าไม่จำเป็นที่จะต้องมีการตายของร่างกายคุณเกิดขึ้นในขณะนี้

ซึ่งมันเป็นหนึ่งในโอกาสที่หาได้ยากของมนุษย์
ที่คุณได้รับการอนุญาติให้เลื่อนระดับขึ้นไปพร้อมๆกับร่างกายของพวกคุณได้โดยตรง

แม้ว่ามันมีความจำเป็นสำหรับร่างกายคุณ ที่จะปรับเปลี่ยนจากสิ่งที่เป็นอยู่ในขณะนี้
อย่างไรก็ตาม การปรับเปลี่ยนร่างกายของคุณจะเกิดขึ้นหนึ่งจังหวะตามเวลาที่กำหนด
ด้วยพลังงานที่ส่งเข้ามาสู่จักรวาลอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ยังจะมีเหล่าคุรุผู้รู้แจ้งอีกเป็นจำนวนมาก
ที่จะคอยช่วยเหลือสนับสนุนในการเยียวยาร่างกายของคุณให้มีความสะดวกและคล่องตัวยิ่งขึ้น
พร้อมกับช่วยพัฒนา DNA ของคุณให้ก้าวหน้าขึ้นไป เพื่อกายที่โปร่งเบาของคุณจะได้มีความพร้อม
ร่างของคุณก็จะถูกดำเนินการกระตุ้นให้เปลี่ยนจากธาตุคาร์บอนไปสู่ร่างกายที่เป็นผลึกแก้วคริสตัลในที่สุด

แม้ว่าเราจะได้เริ่มทำงานนี้กับคุณบางคนไปแล้วก็ตาม
การบำบัดและฟื้นฟูอย่างกว้างขวางนี้ จะเกิดขึ้นหลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูล
เราวางแผนการจัดการที่ดีไว้แล้วทุกๆขั้นตอน ในสิ่งที่จำเป็นทั้งหลาย
พี่น้องจากโลกภายในของคุณ ก็จะมาช่วยจัดการเรื่องที่ดีเหล่านี้ เช่นกัน

เราจะช่วยเหลือคุณในสิ่งที่จำเป็นของการเปลี่ยนผ่านตามขั้นตอนต่างๆ
หากคุณต้องการเริ่มต้นการทำงานกับตัวเอง ในตอนนี้
เราก็ได้เตรียมคำตอบเหล่านี้ไว้ให้แล้วในข้อความก่อนหน้านี้
ฉันอยากจะแนะนำให้คุณอ่านข้อความทั้งหมดจาก Mike Quinsey
คุณจะพบรายละเอียดสำคัญในข้อความเหล่านั้นเป็นจำนวนมาก

 

SaLuSa to me:Open Up Your Heart [ตอนที่ 2]
ผู้สื่อสาร : Laura Tyco
วันที่ : 5 กันยายน 2011
ที่มา : http://galacticlauratyco.blogspot.com/2011/09/salusa-to-me-open-up-your-heart-5th.html#more


และฉันเองอยากจะแนะนำเรื่องการไหลเวียนเวียนของแสงสว่าง
ภายในแขนขาและกระดูกสันหลังสำหรับคุณเพิ่มเติม
ที่จะช่วยในการรักษาฟื้นฟูสภาพร่างกาย รวมทั้งเรื่องอารมณ์และจิตใจของคุณไปพร้อมๆกัน
และวิธีการนี้เอง ที่ตัวตนอันสูงส่งได้อนุญาติให้มีการทำงานร่วมกับร่างกายของคุณโดยตรง
ทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับเรื่องนี้ก็คือ คุณสามารถเพ่งการจดจ่อไปสู่ร่างกายและจิตใจ
ผ่านประสาทสัมผัสในร่างกายของคุณที่จะช่วยให้ตัวตนอันสูงส่งของคุณ
นำแสงสว่างผ่านทะลุทะลวงร่างกายของคุณเข้าไปดำเนินการรักษาสุขภาพร่างกาย
และอัพเกรดรหัส DNA ของคุณไปด้วย


เรื่องเกี่ยวกับการค้นหาความสงบสุขภายในนี้ เป็นสิ่งที่ยากที่สุดสำหรับคุณ เพื่อนรัก
ใจที่ไม่เคยหยุดนิ่ง มักจะวางแผนล่วงหน้าหรือทบทวนอดีตที่ผ่านมาอยู่เสมอ
มันไม่ยินยอมเลยแม่แต่จะคงอยู่นิ่งๆ ในห้วงเวลาแห่งปัจจุบัน
คุณมีมันอยู่ทั้งหมด ที่เลือกให้มันเข้ามารบกวนแทรกแทรง จากที่อื่นๆและจากมิติอื่นๆอยู่ตลอดเวลา
บุคลิกภาพของชีวิตในอดีตของคุณมันจะขึ้นมาปรากฎให้เห็น เหมือนการติดตามของภูตผึปีศาจ
มันจะไม่จบ คุณที่รัก ตราบเท่าที่คุณยังคงอยู่ในความเป็นทวิภาวะ

อย่างไรก็ตาม มันก็มีระยะห่างจากเสียงพูดภายในของผู้วิพากษ์วิจารณ์ เหล่านั้น
มันเป็นการไหลเวียนของกระแสคำพูดและมโนภาพอันมหาศาล
เช่นเดียวกับวิทยุหรือโทรทัศน์ของคุณนั่นล่ะ ที่มันได้ถูกจัดวางไว้ด้านหน้าของสมองของคุณ

วิธีการที่จะสร้างระยะห่างให้เกิดขึ้นได้ก็คือ การที่คุณยึดเหนี่ยวแสงสว่างที่อยู่ทางด้านหลังเอาไว้
และโฟกัส (แสงสว่าง) ไปจนถึงฝ่าเท้าของคุณที่ฝังรากลึกลงในพระแม่ธรณี ลงไปสู่ภายในร่างกายคุณอย่างทั่วถึง

ที่คุณจะต้องทำการเชื่อมต่อสมองส่วนหนึ่งของคุณ
ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังส่วนล่างของศรีษะของคุณ (สมองส่วนท้ายทอยที่อยู่ตรงหว่างคิ้ว - Mead)

ส่วนนี้จะเชื่อมต่อกันระหว่างพลังงานระดับที่สูงขึ้นกับกระดูกสันหลังของคุณเอง
ที่จะเป็นเส้นทางเดินของพลังที่ถูกต้องลงไปสู่พระแม่ธรณี ผ่านทางกระดูกสันหลังของคุณ

ยิ่งคุณฝึกฝนให้มากขึ้นเท่าไหร่ คุณจะพบกับความเข้มแข็งและสันติสุขจากภายใน ท่านที่รัก
บางครั้งคุณจะสังเกตเห็นได้ถึงเรื่อง อายุของผู้คนบนความเร็วที่ต่างกัน
ซึ่งเกี่ยวข้องกับสุขภาพและความบริสุทธิ์ของร่างกายของพวกเขาเอง
ยิ่งตัวตนที่สูงส่งของคุณสามารถผสมผสานรวมกับร่างกายของคุณได้มากเท่าไหร่
กระบวนการเสื่อมสภาพที่ช้าลงก็จะเกิดขึ้น

ผู้รู้แจ้งจากดาวเคราะห์ของคุณได้เรียนรู้ที่จะเลื่อนระดับขึ้นไปด้วยตนเอง
จากความช่วยเหลือจากตัวตนที่สูงส่งของเขาเช่นกัน
และบางส่วนของพวกเขาก็ยังคงดำรงอยู่ ในหลายหลายโรงเรียนที่น่าพิศวงเหล่านั้น
พร้อมกับความรู้อันเก่าแก่ที่ได้รับการรักษาไว้อย่างเหมาะสม
เพื่อเผ่าพันธ์ของคุณ จะสามารถกลับคืนได้ตามเวลาชีวิตของพวกเขา
ความรู้เหล่านี้ ได้ถูกค้นพบในทิเบต ในอียิปต์ ในแอตแลนติส หรือสุเมเรียน เป็นตัวอย่าง
ซึ่งพวกเขาสามารถเข้าถึงความรู้ที่จะเป็นอมตะได้แล้ว

เนื่องจากการเลื่อนระดับอันเกี่ยวข้องกับผู้คนจำนวนมาก กำลังจะเกิดขึ้น ณ. สิ้นปี 2012 นี้
บรรดาผู้ที่มีความตั้งใจและบรรดาผู้ที่มีการสั่นสะเทือนสูง ผู้ใดก็ตาม จะได้รับอนุญาตให้เลื่อนระดับขึ้นไป
ทั้งหมดจะถูกขนส่งโดยพลังงานระดับสูง และพลังงานจากพี่ๆและน้องๆของคุณ รวมถึงพลังงานของพระแม่โลกด้วย

 

ขอบคุณค่ะคุณ mead ที่กรุณาใส่ใจช่วยตอบมาค่ะ ซึ้งใจกับทีมงานทุกๆคนเลยค่ะ
จะพยายามทำให้ดีที่สุดค่ะ

 

เมื่อเร็วๆนี้ มีข่าวดีเกิดขึ้นข่าวนึงครับ !
เกี่ยวกับความสนใจในการรับฟังข้อความต่างมิติฯจากทั่วโลก
ที่ห้องประชุมใหญ่ขององค์การสหประชาชาติ [UN] กรุงนิวยอร์ค

เมื่อ 19 สิงหาคม 2011 ที่ผ่านมา
นาย James Tyberonnได้รับเชิญไปสื่อข้อความต่างมิติที่ "องค์การสหประชาชาติ"
นำข้อความจากท่าน Archangel Metatron ไปบรรยายถึง 3 ชั่วโมง
ที่บรรยายก็มีเรื่อง โลกขององค์การสหประชาชาติ Enlightenment and Transformation
พลังแห่งความรัก-ทางสายกลาง ระบบเศรษกิจใหม่-สงครามความขัดแย้ง
รวมถึงความเปลี่ยนแปลงและเรื่องการเลื่อนระดับขึ้นของโลกในปี 2012 ด้วย
พอบรรยายเสร็จ ก็มีบางประเทศรวมทั้งรัสเซียได้เชิ้อเชิญให้ไปบรรยายต่อที่มอสโก ทันที่

เป็นเรื่องที่น่าจะส่งผลดีๆตามมาสำหรับโลกใบนี้ครับ




http://funfactory.spruz.com/blog.htm?a=&cat_id=&month=9&year=2011

 

ข้อความต่างมิตินี่ ว่าไปก็มีหลายสิ่งที่ตรงกับพระคำภีร์ไบเบิ้ลหลายเรื่องทีเดียวครับ
ขออนุญาติขยายความให้อ่านกันอีกหน่อย ต่อจากหน้าที่แล้ว
เพราะเราจะเห็นความสอดคล้องกันกับข้อความต่างมิติที่เราอ่านกันด้วยครับ

ซึ่งนอกจากเรื่องที่จะมีเรื่องการ"ประกาศข่าวดี" ก่อนที่แผ่นดินโลกใหม่จะมาถึง
ที่เราจะรับรู้กันได้ทั่วโลก..(หรือการประกาศข่าวเผยตัวของมนุษย์ต่างมิตินี่ล่ะ)

และก็ยังมึที่กล่าวว่า"โลกทั้งโลกอยู่ในอำนาจชั่วร้าย"
"มันคือผู้ชักนำทั้งโลกให้หลงผิด" (โยฮัน 5:19 วิวรณ์ 12:9)

ซึ่งก็คือ พลังด้านมืดและกลุ่มคนผู้มีอำนาจที่อยู่เบื้องหลังผู้นำและผู้ทรงอิทธิพลทั้งหลาย (ฟรีเมสัน-อีลูมานิติ)

พระเยซูตรัสอีกว่า
"ผู้ปกครองโลกจะถูกขับไล่"
"ผู้นั้นจะไม่มีอำนาจเหนือเรา"
และ"ผู้ปกครองโลกนี้จะถูกพิพากษา"

"เราไม่ได้ต่อสู้กับกับมนุษย์ที่มีเลือดเนื้อ แต่ต่อสู่กับการปกครองผู้มีอำนาจ
ผู้ปกครองโลกแห่งความมืดนี้ และต่อสู่กับพวกกายวิญญาณชั่ว"


ในหนังสือวิวรณ์ซึ่งเป็นเล่มสุดท้ายของคำภีร์ไบเบิ้ล
เล่าว่าพระเยซูได้เอาชนะพญามารและปีศาจพรรคของพวกมันแล้ว
และท่านยังกล่าวถึงผลเสียหายร้ายแรงที่เกิดขึ้นเมื่อพวกนั้นถูกขับไล่ลงจากสวรรค์ โดยกล่าวว่า

แผ่นดินโลก..จะเกิดวิบัติเพราะพญามารได้ลงมายังพวกเจ้าแล้ว
และโกรธยิ่งนัก เพราะมันรู้ว่าเวลาของมันมีน้อย


เหมือนกับโจรที่จนตรอกหลังชนฝาที่หลายคนมักคิดว่า"ถ้าครอบครองไม่ได้ก็ต้องทำลาย"
พญามารและปีศาจพรรคของพวกมันก็ตั้งใจที่จะทำให้โลกและผู้คนที่อาศัยอยู่บนพื้นโลก
พินาศไปพร้อมกับมัน มันจึงใช้องค์ประกอบพื้นฐานอย่างนึงของสังคมมนุษย์
ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของมัน นั่นคือระบบการค้าโลก
พญามารใช้ระบบการค้าเพื่อส่งเสริมการบริโภคอย่างบ้าคลั่ง
ซึ่งนำไปสู่การล้างพลาญทรัพยากรธรรมชาติ และทำลายสิ่งแวดล้อมทั่วทุกมุมโลก
(วิวรณ์ 11:18.18:11-17)


คำภีร์ไบเบิ้ลเปิดโปงไว้อย่างชัดเจน ว่าใครคือจอบบงการที่ควบคุมผู้นำที่เป็นมนุษย์
และชาติมหาอำนาจในโลกมาจนถึงทุกวันนี้ ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่
แต่มนุษย์จะทนอยู่ภายใต้การปกครองของพญามารได้อีกนานเท่าไหร่?

แม้ว่าโลกทั้งโลกจะตกอยู่ในอำนาจของมัน แต่ก็มีหลายล้านคนที่ไม่ถูกชักนำให้หลงไป
ทั้งที่ซาตานพยายามทำทุกวิถึทางเพื่อครอบงำพวกเขา
แต่พวกเขามองเห็นความจริงและก็รู้กลอุบายของพญามาร พร้อมกับมีความหวัง
จากถ้อยคำของเปาโลที่ว่า"ในไม่ช้า พระเจ้าผู้ทรงประทานสันติสุขจะทรงบดขยี้ซาตานลงใต้เท้าพวกท่าน"


และชัยชนะอันแท้จริงได้เกิดขึ้นบนสวรรค์แล้วราวปี ค.ศ.1914 หรือไม่นานหลังจากนั้น ตามที่เค้าศึกษากัน
ซึ่งก็น่าจะเป็นสัญญาณการเริ่มปฎิบัติการของลำดับชั้นทางจิตวิญญาณเพื่อแปรเปลี่ยนโลกใหม่...ที่เริ่มต้นส่งพลังมาสู่โลก



"และในไม่ช้าพญามารจะถึงจุดจบ
ภายใต้การปกครองด้วยความรักของพระคริสต์
มนุษย์ที่ชอบธรรมจะเปลี่ยนแผ่นดินโลกให้เป็นอุทยาน
ความรุนแรง ความเกลียดชัง ความโลภจะหมดสิ้นไปตลอดกาล"


ซึ่งอันนี้ก็น่าจะเกิดจากการเปิดโปงความจริง การเผยข้อมูลที่โลกควรจะได้รับรู้
รวมไปถึงการบดขยี้ด้วยพลังแห่งความรัก ด้วยแรงสั่นสะเทือนระดับสูงๆ
ก่อนที่แผนการทำลายโลกของผู้มีอำนาจฝ่ายมืด จะสำฤทธิ์ผล

แม้ว่าอาจจะต้อง "ช๊อค" ตื่นเต้นตกใจกันสักพัก แต่เชื่อว่ามนุษย์จะยอมรับได้ในที่สุด
เมื่อความมืดมิดของโลกจะหมดสิ้นไปในปลายปี 2012...เพื่อเริ่มเข้าสู่ยุคทอง

เรื่องนี้เอามาให้อ่านกันเพื่อเทียบเคียงข้อมูล
และติดตามสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงนี้ด้วยกันเท่านั้นน่ะครับ

 

แล้วก็ข้อความของแมทธิวประจำเดือนกันยายน ก็มาแล้วนะครับ
ไม่ทราบว่าจะเป็นคุณ โซ่ หรือว่าคุณ mead ครับ
ที่จะรับหน้าที่แปลข้อความนี้ไป..

อันที่จริงผมก็ยังไม่ได้อ่านหรอกนะครับ
เดี๋ยวขอไปอ่านข้อความทั้งสองที่ว่านี้ก่อนนะครับ

.................................................

 

ข้อความจากแมทธิวชุดนี้น่าแปลครับ
น้องโซ่พอมีเวลารึป่าวเนี่ย... (ถามดูก่อน)
ว่าจะแปลข้อความจากสภา 9 ต่อ (the Pleiadian High Council-SanJAsKa)
และช่วงนี้ต้องกลับไปเร่งส่งแบบอยู่เหมือนกันครับ
เดี๋ยวคนอ่านจะรอนานน่ะ

 

(deejai) อดใจรออยู่ทุกๆวัน กับข้อความมาใหม่ตลอดเวลาเลยเนี้ย

 

ส่วนข้อความชุดนี้ของท่านเมตาตรอน
ที่ไปสื่อสารสดที่สหประชาชาติ เดี๋ยวผมขอแปลเองนะครับ

อ่านแล้วตื่นเต้นครับ..เพราะมันเหมือนฝัน
คือ..สิ่งที่พวกเราอ่านมาตลอด ติดตามกันมาตลอดนี้
มันเริ่มเป็นที่ยอมรับกันในระดับโลกแล้ว
และมันก็น่าจะเป็นความจริง จริงๆซะด้วย

เพราะฉะนั้น ที่ผมตื่นเต้นก็คือ
พวกเราที่ติดตามอ่านอยู่นี้แหละ
ก็คือกลุ่มคนกลุ่มต้นๆที่ได้รับรู้เรื่องนี้

และอีกไม่นาน..เมื่อการเปิดเผยตัวอย่างเป็นทางการของพวกเขามาถึง
อะไรจะเกิดขึ้นบ้าง? พวกเราก็คงจะดีใจกันใช่ไหมครับ
เพราะว่ารอมานานแล้ว..แต่ก็คงจะรออีกไม่นานเท่าไหร่แล้ว
เพราะมันใกล้ความจริงเข้ามาทุกทีแล้ว

แม้ว่าคนอื่นๆที่ไม่เคยรับรู้ และ ไม่ยอมรับเรื่องพวกนี้มาก่อนเลย
จะต่อต้าน จะขัดขวาง และจะช็อกมากแค่ไหนก็ตาม
แต่ยังไงๆเสีย..ผมว่ามันก็ต้องเกิดขึ้นแน่นอน

เพราะฉะนั้น กระทู้ใดๆที่มีเนื้อหาไปในทางลบ
ก็ปล่อยให้เขาทำไปเถอะนะครับ อย่าไปขวางเขาเลย
เพราะว่าเดี๋ยวพวกเขาก้คงจะทำไปได้อีกไม่นานหรอก
เพราะว่าเมื่อความจริงถูกเปิดเผยแล้ว ใครจะมาเถียงได้ จริงไหมครับ

แต่พวกเราอาจจะช่วยเข้าไปอ่าน และ อธิบายสิ่งที่เรารู้มาได้หนะนะครับ
เพราะนั่นคือสิ่งที่สมควรทำแล้ว และท่านๆทั้งหลายก็บอกให้เราทำเช่นนั้นด้วย

เพราะฉะนั้น ใครที่คิดว่าตัวเอง "มีแรงบันดาลใจ"
ให้อยากทำสิ่งที่ผมกล่าวมานี้ ก็ทำไปเถอะนะครับ
เพราะว่านั่นอาจจะเป็นหน้าที่หนึ่งของท่านเองก็ได้

ผมใช้คำว่า "แรงบันดาลใจ" นะครับ
เพราะมันเป็นข้อความจากภายในของเราเอง
เราควรจะลองฟังมันหน่อยนะครับ

..................................................

 

นับเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น และน่าดีใจจริงๆ ด้วยนะคะคุณ mead
ที่ผ่าน ๆ มา ด้วยความที่ตามอ่านกระทู้เหล่านี้มาเกือบปี
จนรู้สึกยิ่งอ่านยิ่งตื่นเต้น รู้สึกถึงใจเนื้อหาที่โดนใจ มาโดยตลอด
จะเรียกว่าอะไรดีนะคะ น่าจะเป็น การได้รับการเติมเต็มทางจิตวิญญาณ
ใช่ค่ะ ขอใช้คำนี้ดีกว่า บอกใครไม่ได้ชัดเจน แต่รับรู้...
เต็มตื้นอยู่ภายใน เข้มข้นมากขึ้น ๆ .....

"Can not explain that clearly,
just feel and realise it inside...Deeply..!"

ในแต่ละหัวข้อ ที่ทีมแปลทุกๆ ท่าน
เลือกสรรแปลออกมา ถ้าไม่ติดตามอ่านตลอด
ก็อาจจะดูเหมือนเป็นแค่จินตนาการต่างดาว
ผสมกับการท่องมิติลี้ลับ อะไรประมาณนั้น...
แรกๆอ่านเอาสนุก เพราะชอบเรื่องแปลกๆ อยู่แล้ว
แต่อ่านไปอ่านมา เริ่มสงสัย เอ๊ ตกลงเราเป็นใคร
มาจากใหน ทำไมยิ่งอ่านยิ่งอินน์... อ่านได้ 3 เวลา
ทั้งหลังและก่อนอาหาร แถมก่อนนอนอีกหลายรอบ...
กว่าจะรู้ตัว อ้าวเราเสพติดข้อมูลซะแล้ว แต่ไม่เป็นไร
ถ้าข้อมูลเหล่านี้ ช่วยเติมเต็มพลังบวกให้เราได้
เราก็จะอ่านทุกวัน...

บัดนั้นมาจนบัดนนี้ ก็เลยกลายเป็นแฟนพันธุ์แท้ คุณชยุตย์
คุณ mead, ทีมแปล,มหาเทพเมตตราตรอน และทุกๆท่าน
ไปโดยปริยาย

จริงๆแล้วเมื่อก่อน เวลาอ่านจบแต่ละหัวข้อ
ก็จะรู้สึกถึงพลังงานที่ไหลผ่านร่างกาย
และรูสึกอิ่มอยู่ข้างใจ จนเกิดเป็นแรงบันดาลใจ
อยากถ่ายทอดให้คนอื่นตลอดเวลา...

แต่พอเวลาบอกไปแล้ว ส่วนใหญ่ก็จะถูกมอง
ว่าเหลวไหลบ้างล่ะ เพ้อฝัน บ้างล่ะ อ่านนิยายต่างดาวมากไปบ้างล่ะ จนบางทีแอบคิดว่า แหม เอาเหอะ ถ้าเรื่องราวต่างๆ
ได้รับการเปิดเผยเป็นทางการเมื่อไหร่ แล้วจะเสียดายเวลา
ที่ปิดกั้นข้อมูลดีดีมาตลอด มาถึงวันนี้
ทุกอย่างก็เริ่มชัดเจน เหมือนกระจกทวิภพ ที่ใสวิ้งขึ้นๆ..ตามลำดับ
ยังไงยังงั้น
ตอนนี้ ก็มีบางคนแอบมาถามๆ ความเป็นมาเป็นไปเหมือนกันนะคะ
ฮิ ฮิ... แต่แหม ว่าจะอุบให้แซ่ดเชียว ทีเมื่อก่อนบอกเท่าไหร่ ๆก็ไม่สนใจซะงั้น ....ตอนนี้ขอเล่นตัวมั่ง หุ หุ

ก็ว่าไป แต่เอาเข้าจริงก็ยังเป็นคนหนึ่งที่ได้รับแรงบันดาลใจ
จากทีมแปลทุกๆคน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คำพูดที่เฉียบคม กินใจ
จากชาวแสงสว่างเบื้องบนทุกท่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านมหาเทพเมตราตรอน ท่านติสก์ดีค่ะ ชอบอ่าน บางทีอ่านท่านได้ทีละหลายๆรอบ (คนแปลก็แปลได้สุดยอดด้วยค่ะ)
อ่านที่ไรก็อิ่มใจ มีแรงบันดาลใจ ในการเล่า
อธิบาย ถ่ายทอด อยู่ตลอดเวลา
นับจากบัดนั้น มาจนถึง ณ บัดนี้ เลยทีเดียวเชียว

ว่าแล้วก็ดีใจกับตัวเอง และสมาชิกทุกๆคนในห้องนี้นะเนี่ย
ที่ได้รับเรื่องราวดีดี จากพี่ๆทีมแปล
ที่คอยจุดประกายแห่งแสงสว่างมาตลอด
ตอนนี้รู้สึกห้องจะสว่างมากขึ้นๆ และกำลังส่องสว่าง
ออกไปข้างนอกแล้วนะคะเนี่ย

ว่าแต่ สมาชิกกำลังรออ่านเรื่องต่อๆไปอยู่นะคะ
พี่ๆ ทีมแปลอย่ามัวแต่เกี่ยงกันอยู่ล่ะ แฟนๆ รออยู่ค่ะ
เอาใจช่วยนะคะ สู้ ๆ ค่ะ....

 

ขอบคุณมากนะคะคุณmead
ช่วงนี้เป็นช่วงที่มีความรู้สึกว่าอะไรๆก็ยิ่งใหญ่ไปหมดเลย

อ้อ มีใครพอรู้จัก Eckhart Tolle มั้ยคะ
เค้าเป็นอาจารย์ด้าน spiritual, metaphysics น่ะคะ
เค้าได้เขียนหนังสือเรื่อ A new earth
พอรู้คร่าวๆว่าเกี่ยวกับโลกอนาคตจิตวิญญาณจะเชื่อมโยงความรู้เกี่ยวกับศาสนา
เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และได้เรียนรู้เกี่ยวกับความรู้ที่แท้จริงของจักรวาล

อยากทราบว่าเค้ามีความเห็นในเรื่องนี้อย่างไรบ้างน่ะค่ะ

 

คนนี้เค้าเขียนหนังสือเรื่อง Power Of Now ที่โด่งดังด้วย
ส่วนเรื่องอื่นๆคงต้องไปค้นดูน่ะครับ
เราอยู่ในยุคที่กระแส metaphysic กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก
เพราะเนื้อหามีความร่วมสมัยและให้คำตอบที่สอดคล้องกับความรู้ทางวิทยาศาสตร์ด้วย
เหตุที่หลายๆคนสามารถเข้าถึงข้อมูลการรับรู้ทางจิตวิญญาณได้มากขึ้นในช่วง10-20 ปีมานี้
เป็นไปได้ว่าพลังงาน Golden Ray ที่เพิ่มระดับเข้ามาในขณะนี้นะครับ
เพื่อช่วยเในการเข้าถึงการขยายตัวของจิตสำนึก
และผู้ที่ปฎิบัติอย่างสม่ำเสมอสารมารถเปิดสวิทซ์ของตนเองได้ง่ายขึ้น
การสื่อสารข้อมูลจึงทำผ่านตนเองและคนอื่นได้มากขึ้นทุกวันนะครับ

 

ข้อมูลดีมากเลยครับ ขอบคุณมากครับ