อะไรเป็นมูลเหตุให้คุณเชื่อพุทธศาสนา

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย ขอนไม้แห้ง, 11 กันยายน 2011.

  1. ขอนไม้แห้ง

    ขอนไม้แห้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    228
    ค่าพลัง:
    +1,618
    คุณเชื่อตามเพราะเขาว่ามา หรือคุณเชื่อเพราะประจักษ์ในใจตัวเอง
    อะไรคือสิ่งพิสูจน์ว่าคำสอนของพุทธศาสนาคือคำสอนที่ถูกต้อง
    และสามารถยึดเป็นสรณะได้
     
  2. แจ๊กซ์69

    แจ๊กซ์69 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    3,142
    ค่าพลัง:
    +1,960
    ผม

    ตอนแรกเชื่อตามเพราะเขาว่ามา

    ตอนที่สองเชื่อเพราะประจักษ์ในใจตัวเอง

    ตอนที่สาม อริยะสัจ4 ,มรรคมีองค์แปด เป็นความจริงอันประเสริฐ



     
  3. mamboo

    mamboo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,129
    ค่าพลัง:
    +1,973
    เมื่อก่อน ไม่เชื่อเลยค่ะ

    ตอนหลัง มาเชื่อ เพราะมันเหมือน.. เราเดินทางอ้อม แล้วมาบรรจบกับทางธรรม (แต่เราอ้อมซะไกลเชียว --')

    mamboo เริ่มจากการชอบ วิทยาศาสตร์ แล้วก็มา UFO ต่อมาก็มาศึกษาเรื่อง จิตวิญญาณ

    จนตอนนี้ รู้สึกว่า อะไรๆก็ตรงกับที่พระพุทธเจ้าสอนไว้หมดเลย ><

    จะให้ยกตัวอย่างไหมคะ??

    (แต่มันจะยาวมากๆ)

    ขอยกตัวอย่าง เรื่องเดียว เรื่อง การตัดกิเลส รัก โลภ โกรธ หลง

    เมื่อก่อน ไม่รู้เลยว่า ทำไมต้องตัดกิเลส

    mamboo ศึกษาเรื่อง จิตวิญญาณ โลกความเป็นจริงของสรรพสิ่ง.. จนได้รู้ว่า ที่พวกเรา มองเห็นสิ่งต่างๆ มันเป็นที่ ความเชื่อ

    เราเข้าใจว่า เราเป็นคน พอเราฝัน หรือเวลาที่เราถอดจิต เราก็ฝันว่าเราเป็นคน (ทั้งๆที่จริงๆแล้ว เราไม่ใช่คน ><)

    เวลาเราตายไป เราชอบไปเนรมิต นรกสวรรค์ มีความเจ็บปวด มีบ้าน มีวิมาน คือ.. ที่เป็นแบบนั้น เพราะยังมีกิเลสอ่ะค่ะ

    มันเป็นภาพลวงตาหมดเลย

    เราจะสามารถ มองเห็นความจริงของสรรพสิ่งได้ ก็ต่อเมื่อ เรามีกำลังจิตสูง มีสติอยู่ตลอดเวลา ไม่หลงในตัวตน ไม่หลงในกิเลส

    อันนี้เป็น 1 ในเรื่องที่ ศึกษาไปมา แล้วมาตรงกับที่พระพุทธเจ้าบอกไว้ คือ ต้องตัดกิเลส จึงจะมองเห็น ความจริง

    ดวงจิตของเราพวก มีการทำงาน มีโครงสร้างที่ซับซ้อนมากๆ จากการศึกษาทดลองของ mamboo มันมี หน่วยความจำ ส่วนที่ทำหน้าที่ควบคุมอวัยวะของร่างกาย ส่วนที่ทำหน้าที่บันทึกข้อมูลทุกชนิด(ความทรงจำ ความรู้สึก จิตสำนึก) มีส่วนที่เป็นตัวรู้(เพื่อไปรับรู้) มีส่วนที่ทำหน้าที่สร้างภาพ สร้างเสียง (สร้างโลกๆหนึ่งขึ้นมา ตามการหลงของจิต และตามความเชื่อของจิต)

    อันนี้พูดแบบ หยาบๆ พอศึกษาไปมา mamboo ว่า มันก็มาตรงกับที่พระพุทธเจ้าบอกไว้ เยอะมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!! เรื่อง จิต เจตสิก ขันธ์ 5 และอีก ฯลฯ

    ยกตัวอย่างเท่านี้ก่อนนะคะ มีอีกหลายเรื่อง จนตอนนี้ mamboo เข้าใจแล้วว่า พระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้ได้อย่างไร และสิ่งที่ท่านสั่งสอนเรา มันเป็นทางที่ถูกต้องแล้ว

    เช่น เรื่อง ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน.. mamboo จะบอกให้เลยว่า ไม่มีหรอก สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่จะมาช่วยเรา แม้แต่พระพุทธเจ้า ก็ช่วยเราไม่ได้ ช่วยได้แค่ ชี้นำทางให้เรา แนะแนวทางให้เรา ชีวิตนี้ เราเป็นแบบนี้ เจอสิ่งดีหรือไม่ดี เป็นที่บุญกรรมของเรา ล้วนๆ ไม่มีใครมาช่วยเราได้

    เรื่องจิตก่อนตาย และ เรื่องวัฏสงสาร

    mamboo ศึกษาเรื่องโลกของจิตวิญญาณ จนได้รู้ว่า ทุกๆสิ่ง ทุกๆอย่าง มันได้ เกิดขึ้นแล้ว

    เราเกิดมาแล้ว และเราก็ ตายไปแล้ว

    พวกคุณอาจจะยังไม่เข้าใจเรื่องนี้ (ตอนแรก mamboo ก็ไม่เข้าใจ) ในโลกของจิตวิญญาณ มันไม่มีกาลเวลา แต่พอจิตเข้ามาอยู่ในร่างกายมนุษย์แล้ว มันทำงานตอบสนองกับ function การทำงานของ สมอง

    เราคิดอะไรเป็นเส้นตรง มองอะไรเป็นเส้นตรง เราควบคุมมันไม่ได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว อดีต ปัจจุบัน อนาคต มันกำลังเกิดขึ้น พร้อมๆกัน.. มันตั้งอยู่ มีอยู่ พร้อมๆกัน

    เมื่อวานนี้ กำลังเกิดขึ้น วันนี้กำลังเกิดขึ้น พรุ่งนี้ก็กำลังเกิดขึ้น เพียงแต่เราไม่สามารถถอดจิตและย้อนกลับไปทีเมื่อวานหรือวันพรุ่งนี้ได้ (จริงๆเราทำได้ ถ้ามีกำลังสติ และ ไม่หลง)

    พวกเรา .. เกิดมาแล้ว.. และ ตายไปแล้ว..

    พอเราออกจากร่างกายนี้ เราก็ไปร่างกายอื่น ตามบุญกรรมของเรา

    มันเป็นการ ทำซ้ำ วนเวียนซ้ำๆ บางคนกลับมาเกิดที่ร่างเก่าก็มี เกิดซ้ำๆ วนๆ เวียนๆ

    และมีเพียงหนทางเดียวที่จะหลุดออกจาก วงเวียน การทำซ้ำ คือ การทำสมาธิ ทำจิตให้ว่าง ตัดกิเลสรักโลภโกรธหลง ไม่หลงและยึดติดในตัวตน ไม่ยินดียินร้าย ไม่พอใจในการทำดี ไม่พอใจในการทำร้าย.. สิ่งเหล่านี้ ล้วนเป็น การหลง (มันเป็นบ่อเกิดให้เรา ต้องกลับมาเกิด ซ้ำๆ วนเวียน ทำซ้ำๆเหตุการณ์เดิม)

    เล่าแล้วก็จะยาวนะคะ อันนี้เอาแบบคร่าวๆ วิธีที่จะหลุดพ้นได้ พระพุทธเจ้าท่านก็ได้สอนไว้หมดแล้ว.. ให้เบื่อหน่ายในการเกิด และตัดกิเลส ไม่ยึดติดกับสิ่งใดๆ ต้องมีสติ ไม่หลง แล้วจะหลุดพ้นจากการทำซ้ำ (หรือ วัฏสงสาร) นี้ได้

    แค่นี้ก่อน เดี๋ยวยาว อิอิ ^^
     
  4. lionking2512

    lionking2512 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,525
    ค่าพลัง:
    +7,632
    เชื่อเพราะเคยทุกข์ จึงหันเข้าหาอริยสัจสี่ ความทุกข์ที่เคยมี จึงบรรเทาเบาบางลงไปได้เป็นลำดับ

    ดังนั้นจึงเกิด ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา เป็นลำดับ
     
  5. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    การเชื่อของคนเรามันมีลำดับ ต่ำสุดคือเมื่อเราไม่มีความรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ
    เลย เราจะเลือกเชื่อคนที่ดูมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนั้น นี่คือการเชื่อคนโดยดู
    จากว่าคนไหนน่าเชื่อถือมากกว่ากัน โดยหลักแล้วก็ดูจากการพูดนั่นแหละ
    ใครพูดจาได้น่าฟังเป็นเหตุเป็นผลมากกว่า พูดไม่ตะกุกตะกักก็เชื่อคนนั้น การ
    เชื่อในระดับที่ต่ำที่สุดไม่ใช่การเชื่อสิ่งที่พูดแต่เชื่อเพราะวิธีการพูดของผู้พูด สูง
    ขึ้นมาเมื่อเรามีความรู้และได้ศึกษามาบ้างแล้วเราก็สามารถตัดสินใจได้บ้างว่าอัน
    ไหนคำพูดของใครน่าเชื่อถือ คำพูดของใครไม่น่าเชื่อถือ แต่ก็ยังไม่มีข้อสรุปทั้ง
    หมด แต่มีสิ่งที่พอจะแน่ใจได้บ้างเท่านั้น ถ้ามีคนซัก 100 คนบอกว่าเราคิด
    ผิดเราก็จะลังเลมาก ความเชื่อในระดับสูงสุดคือการรู้เห็นเป็นประสบการณ์ของ
    ตัวเอง เมื่อเกิดขึ้นแล้วมันจะไม่เหลือความสงสัยเลย และสังเกตว่าคนที่รู้จริง
    เกี่ยวกับเรื่องไหน มักจะไม่พูดเกี่ยวกับเรื่องนั้น เพราะการพูดเรื่องเดิมซ้ำๆ
    มันแค่แสดงว่าคนนั้นไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องที่พูดเลย อย่างที่ว่าของจริงนิ่งเป็น
    ไบ้ และคนที่รู้เห็นเป็นประสบการณ์ของตัวเองหรือความเชื่อระดับสูงสุดต่อให้
    คนทั้งโลกบอกว่าคุณคิดผิดก็ไม่ได้มีผลอะไรเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กันยายน 2011
  6. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ....................จริงจริงมันเริ่มจาก เมื่อไหร่ ก็ไม่รู้ครับด้วยเมืองไทยมีวัดมัวัฒนธรรมที่เกี่ยวเนื่องกับพุทธศาสนา เด็ก เด็กผู้ใหญ่ก็พาไปวัด ตักบาตร ทำบุญ พลังแห่งวัฒนธรรมเหล่านี้ทั้งสิ่งก่อสร้าง ทั้งวัด ทั้งพระพุทธรูป(ตรงนี้ชี้ให้เห็นว่า พระพุทธรูปนั้นมีอิทธิพลต่อเด็ก หรือ คนที่ยังไม่มีสรณะที่แท้จริงเป็นจุดเริ่มต้นแห่งศรัทธา ที่ดี ได้ แก่เด็ก เยาชน).........เมื่อโตมาศึกษาพุทธประวัติ อริยสาวก ชาดก ต่างต่าง แค่นี้ก็เริ่มเห็นต้นทาง เพราะ จำได้ว่าการที่เจ้าชายสิทธัทธะ ทรงเห็น นิมิต เกิด แก่ เจ็บ ตาย นั้น ผมที่ยังเป็นเด็ก ก็สามารถคล้อยตามตรงนั้นได้.......ทั้งหมดคือจุดเร่มต้นครับ({)
     
  7. KBLS

    KBLS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    300
    ค่าพลัง:
    +280
    เชื่อในหลักคำสอนที่เป็นแก่นแท้ของศาสนาพุทธ เพราะมีเหตุผล
    ปฎิบัติแล้วก็ได้ตามนั้น ส่วนบางเรื่องก็รับรู้เฉยๆ แต่ไม่ได้ลบหลู่ค่ะ
     
  8. noawarat

    noawarat Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    87
    ค่าพลัง:
    +38
    ขอแสดงความคิดเห็นด้วยคนนะ สิ่งที่ทำให้ดิฉันเชื่อ ก็มีหลายเหตุหลายปัจจัยคือ
    ๑. อย่างแรกศึกษาด้วยตนเองอะไรที่เราอยากรู้ก็จะทำการศึกษาด้วยตนเอง ไม่ว่าจะมาจาก หนังสือตำรับตำรา หรือจากคำบอกเล่าจากผู้เฒ่าผู้แก่ที่มีประสบการณ์มาก่อน
    ๒. เมื่อศึกษาแล้ว รู้แล้ว ก็จะพิสูจน์ ด้วยการสังเกตุจากสิ่งแวดล้อม จากคนรอบข้างและก็จากตัวเราเอง ว่าสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่อกฏแห่งกรรม ใครทำกรรมอย่างไรก็จะได้รับอย่างนั้น ซึ่งอันนี้ประสบมาด้วยตัวเองจึงเชื่อแบบไม่มีข้อสงสัย และเรื่องของวิญญาณ เรื่องของการกลับชาติมาเกิด เรื่องของเทวดา เรื่องของสวรรค์ เรื่องของคำสอนขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น เป็นเรื่องละเอียดมากๆ เราต้องเข้าไปศึกษาได้ด้วยการนั่งสมาธิเพื่อยกระดับจิตใจให้ละเอียดมีความว่างตามธรรมชาติ ถ้าทำได้เมื่อนั้นสิ่งที่คุณอยากรู้อยากเห็นว่าเป็นจริงหรือไม ก็จะไม่ใช่เรื่องยาก
    ๓. เมื่อศึกษาแล้ว พิสูจน์แล้ว เห็นแจ้งแห่งคำสอนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ก็ทำให้เราเกิดความศรัทธา เครพกราบไหว้และยึดเป็นสรณะตราบจนตัวตาย อย่างไม่ต้องสงสัยอะไรอีกเลย
    มีคำสอนขององค์พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ว่า อย่าเชื่อเพราะเขาพูดมา อย่าเชื่อเพราะเขาเป็นคนน่านับถือ อย่าเชื่อเพราะมองเห็น อย่าเชื่อเพราะได้ยิน และอย่าเชื่อเพราะเขาบอกให้เชื่อ แต่จงเชื่อเพราะเราเข้าถึงแห่งสัจจธรรมนั้นจริงๆ ดั่งคำตรัสของพระพุทธเจ้าตรัสว่า ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นจะเห็นเรา
     
  9. ฮาทณัฐพล

    ฮาทณัฐพล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +253
    ปฎิบัติครับผม:cool:
     
  10. yokine

    yokine เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2007
    โพสต์:
    494
    ค่าพลัง:
    +602
    ของผมอาจจะแปลกๆเพี้ยนๆสักหน่อยนะครับ -*- คือเริ่มเชื่อ เพราะเคยเจอวิญญาณแบบจังๆต่อหน้าต่อตาตัวเป็นๆ >< เลยคิดไปว่าหากขนาดว่าวิญญานยังมีจริง สิ่งที่กล่าวไว้ในพระพุทธศาสนาซึ่งก็คือเรื่องบาปบุญคุณโทษไม่แคล้ว จะไม่มีจริงไปได้อย่างไร

    ต่อมาที่ยึดถือเป็นสรณะนั้น ก็เพราะเคยประสบทุกข์มา วันนึงเดินไปเดินมาเจอซีดีธรรมะเลยลองเปิดฟัง ก็กลายเป็นว่า คำถามที่เคยสงสัยทั้งหลายแหล่ ซึ่งก็คือเหตุที่มาแห่งทุกข์ทั้งหลาย เริ่มได้รับคำตอบอย่างรู้สึกว่ามีเหตุ มีผล เมื่อความจริงปรากฏ ก็เริ่มรู้ต้นเหตุของปัญหาที่แท้จริง เหมือนรู้ว่าไฟนั้นติดขึ้นมาได้อย่างไรและวิธีการที่จะดับไฟนั้น ควรดับอย่างไร แม้ถึงวิธีการที่จะให้ไฟนั้นไม่ติดขึ้นมาอีกต้องทำอย่างไร ธรรมะสอนให้ผมอยู่กับทุกข์ได้อย่างสันติ ดังนั้นผมจึงเชื่อเพราะประจักษ์แก่ใจของตนเอง

    ส่วนสิ่งที่จะพิสูจน์ว่าคำสอนในพระพุทธศาสนานั้นถูกต้องหรือไม่สมควรแก่การยึดถือเป็นสรณะหรือไม่ ส่วนตัวคิดว่าไม่มีนะครับ เพราะผมคิดว่าสิ่งใดที่จริงแท้ มันก็จริงแท้อยู่เช่นนั้นเองไม่ว่าใครจะมองอย่างไร หรือตัดสินแบบไหน ผมว่ามันขึ้นอยู่กับว่าใครจะเห็น หรือไม่เห็นเท่านั้นเองครับ -*- งงมั๊ยครับตอบเองงงเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กันยายน 2011
  11. wawa99

    wawa99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    153
    ค่าพลัง:
    +645
    เชื่อ... จึงลงมือปฎิบัติ ทั้งทาน ศีล สมาธิ แต่... ยังไม่มีสิ่งใดทำให้รู้สึกเชื่อสนิทใจ

    เริ่มลังเล... เพราะเกิดข้อสงสัย

    ทำไม... คนชั่วได้ดี คนดีต้องตาย โดนเอาเปรียบมากมาย
    ทำไม... สิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่แสดงปาฎิหารย์ให้รู้ไปเลย ว่ามีจริง โดยไม่ต้องอ้างเรื่องกรรม คนชั่วจะได้เกรงกลัวทำดีมากขึ้น ไม่ทำชั่วสร้างกรรมให้ตัวเองเพิ่มขึ้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กันยายน 2011
  12. lionking2512

    lionking2512 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,525
    ค่าพลัง:
    +7,632
    wawa99

    ปลูกต้นไม้ยังต้องใช้เวลารอเก็บเกี่ยวผล มีไหมปลูกเสร็จแล้วเก็บเกี่ยวผลได้เลย

    อิทธิพล แพ้ อิทธิฤทธิ์ แพ้ บุญฤทธิ์ แพ้ วิบากกรรม

    คนเรามากี่ภพกี่ชาติแล้ว สร้างบุญ บาป มาเท่าใด

    บุญ และ บาป ให้ผลต่างกรรม ต่างวาระกัน

    แต่ที่เที่ยงแท้นั้น ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว คือสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้

    ผมเชื่อและศรัทธาในองค์สมณะโคดม และขอยืนยันว่าสิ่งที่พระองค์สอนนั้นเป็นสัจจะ และอยู่เหนือกาลเวลา
     
  13. jamwattana

    jamwattana สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +1
    ตอนนั้นเรียนอยู่ปี 2 เรียนวิชาพุทธศาสนา อาจารย์สอนเป็นหญิง
    ท่านถามว่าถ้าความดีเปรียบเหมือนสีขาว ความชั่วเหมือนสีดำ
    พุทธศาสนาเปรียบเหมือนสีอะไร
    ตอนนั้นคิดในใจว่าสีขาวแน่นอน เพื่อน ๆ ก็ตอบประมาณนี้
    อาจารย์เฉลยว่า...พุทธศาสนาเปรียบเหมือนความใสไม่มีสี
    ตอนนั้นงงมาก ๆ ว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น
    เลยเริ่มสนใจศึกษาหาคำตอบตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
    กราบขอบคุุณอาจารย์มาก ๆ เลยครับ
     
  14. ไอ้นอกโลก

    ไอ้นอกโลก Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    572
    ค่าพลัง:
    +72
    เหตุเพราะถึงเวลาที่เหมาะสม ทุกอย่างเป็นไปตามกาลฮะ...
     
  15. wawa99

    wawa99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    153
    ค่าพลัง:
    +645
    ขอบคุณค่ะ พยายามปล่อยวางละค่ะ แต่สมัยนี้คนชั่วเยอะจัด
     
  16. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,459
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,011
    ผมไม่ขอตอบอะไรเเล้วกัน เพียงเเต่อยากให้ทุกคนที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ให้ download หนังสือ ชีวิตเป็นอย่างนี้ ที่อยู่ใต้ comment ของผมไปอ่านกันดูครับ อยากให้อ่านกันให้จบเลยครับ สําหรับผม หนังสือเล่มนี้คือ เเก่นเเท้ เเก่นหลักของพระพุทธศาสนาจริง ยังไงลอง download ไปอ่านกันดูครับ สําหรับคนที่ยังไม่ได้อ่าน ก็เชิญได้เลยครับ อนุโมทนาครับ
     
  17. ...คนสู้กรรม...

    ...คนสู้กรรม... เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    360
    ค่าพลัง:
    +967
    หากเราไม่ยึดติด เราก็จะไม่มีอะไรที่ติดค้างในใจ ปล่อยวางไม่สงสัย ศรัทธาไปตามสภาวะ ปล่อยใจไหลดิ่งสู่ห้วงธรรม ทุกๆคำอยากรู้ต้องลองเอง ^^
     

แชร์หน้านี้

Loading...