** ฉันทะ ** วัตถุมงคล หลวงปู่ดู่ วัดสะแก อยุธยา **

ชอบเหมือนกันหรอคับพี่ yohtls สบายดีนะคับพี่ สถานการณ์น้ำที่บ้านเป็นอย่างไรบ้างคับ

 

King of the Kings (บทความโดย ดร.วิษณุ เครืองาม)
บทความ (part of it)


ในฐานะที่ทำงานอยู่ในทำเนียบรัฐบาลโดยหน้าที่ต่างๆกันถึง 15 ปี ผมขอยืนยันว่าพระองค์ทรงมีมาตรฐานเดียวโดยตลอด จะต่างกันก็ที่โอกาส เช่น คณะรัฐมนตรีบางคณะเข้ามาในช่วงที่ทรงพระประชวร บางคณะมีราชการงานเมืองต้องเข้าเฝ้าฯ ขอ พระราชทานมหากรุณาบ่อยหรือห่างตามเหตุการณ์

ในการมีพระราชดำริ พระราชดำรัส และการทรงงานใดๆ ไม่มีเลยสักเรื่องที่จะแสดงว่าทรงรับเอาประโยชน์ส่วนพระองค์แม้พสกนิกรจะเต็มใจถวาย

สมัย จอมพลถนอมเป็นนายกฯ คราวหนึ่งประจวบโอกาสครองราชย์ครอบ 25 ปี (พ.ศ. 2514) รัฐบาลจะสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์และถาวรวัตถุใหญ่โต “ ที่สุดในประเทศ ” ถวาย รับสั่งว่า “สิ้นเปลืองและไม่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน สร้างถนนกันรถติดดีกว่า” นี่คือที่มาของ “ถนนรัชดาภิเษก”

สมัยคุณ บรรหารเป็นนายกฯ เคยกราบบังคมทูลว่า จะสร้างทาวเวอร์หรือหอคอยสูงใหญ่ข้างสะพานพระราม 9 ใช้เป็นหอดูวิว หอโทรคมนาคม และเฉลิมพระเกียรติ รับสั่งว่า “เทคโนโลยีสมัยนี้ไม่ต้องสร้างหอโทรคมนาคมและเปลืองเงินเปล่าๆ ”

นายกฯคนหนึ่งเคยกราบบังคมทูลถามว่า ที่ พระอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพรฯ หน้าทำเนียบรัฐบาลนั้น ตอนพลบค่ำคนมักมาจุดประทัดแก้บน บางทีก็ยิง ปืนสนั่นหวั่นไหว ดังรบกวนมาถึงสวนจิตรฯ หรือไม่ รับสั่งว่า “อยู่ที่หลักการว่าทำอย่างนั้นผิดกฎหมายไหม ถ้าผิดก็ต้องห้าม แต่ถ้าเป็นเสรีภาพก็ต้องปล่อยไป รำคาญหนวกหูก็ต้องทน อย่าใช้มาตรฐานสวนจิตรฯ หรือทำเนียบรัฐบาลมาตัดสิน ”

สมัยนายกฯทักษิณ เคยกราบบังคมทูลว่า
เมื่อประทับรักษาพระองค์ที่วังไกลกังวลอย่างนี้ รัฐบาลจะขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้สำนักพระราชวังปรับปรุงวังไกลกังวล ให้สะดวกสบายสมกับที่จะใช้เป็นที่ประทับยาวนาน รวมทั้งจะปรับปรุงโรงพยาบาลหัวหินให้ทันสมัยพร้อมทุกประการ
รับ สั่งว่า การปรับปรุงโรงพยาบาลเป็นประโยชน์แก่ทุกคนถ้ามีงบก็ควรทำ แต่การปรับปรุงวังไกลกังวลเป็นเรื่องพระสำราญ “ แค่นี้ก็พออยู่พอเพียงแล้ว ”


รัฐบาลหลายคณะ เคยออกกฎหมายที่มุ่งจะเฉลิมพระเกียรติเช่นมีคำว่า “ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ”
มี พระราชกระแสให้รัฐบาลนำกลับไปปรับปรุงเพราะ“ ไม่อาจทรงสถาปนาพระองค์เองได้ ” เช่นเดียวกับที่ใน พ.ศ. 2512 ไม่ทรงลงพระปรมาภิไธย ในร่างพระราชบัญญัติยศทหารซึ่งถวายพระยศ ทางทหารเป็น จอมพล จนร่างพระราชบัญญัตินั้นตกไปเองในที่สุด

รัชกาล นี้ทรงลงพระปรมาภิไธยตรากฎหมายมาแล้ว ทั้งที่เป็นพระราชบัญญัติ พระราชกำหนด พระราชกฤษฎีกานับหมื่นฉบับ ทรงวินิจฉัยฎีกานักโทษ ฎีการ้องทุกข์ขอพระราชทานความเป็นธรรมอีกหลายพันราย บางรายขอพระราชทานยืมเงิน บางรายขอความเป็นธรรมเรื่องแต่งตั้งโยกย้าย

ราย หนึ่งพ่อตาย ลูกชายบวชหน้าไฟให้พ่อ อยู่มาก็ไม่ยอมสึก แม่มีลูกชายคนเดียวทำหนังสือถวายฎีกาว่าเดือดร้อนหนัก ขอพระมหากรุณาให้ลูกสึกมาช่วยเลี้ยงแม่เถิด โปรดให้ตรวจสอบแล้วมีพระราชกระแสว่า แท้จริงแม่ไม่ได้อยากให้ลูกสึก แต่ปัญหาคือแม่ลำบากยากจน จึงโปรดให้กรมประชาสงเคราะห์เข้าไปช่วยดูแล สอนอาชีพให้และหาเครื่องมือทำมาหากินไปให้แม่ ลงท้ายแม่ก็ทำมาหากินได้ ส่วนลูกก็อยู่ไปจนเป็นสมภาร


พระ บาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัวฯ ทรงสงเคราะห์ทั้งส่วนรวมและพระองค์เองเพื่อจะได้มีพระอนามัยดี ทรงงานเพื่อส่วนรวมต่อไป จึงทรงดนตรี ทรงพระราชนิพนธ์หนังสือ ทรงเล่นคอมพิวเตอร์ ทรงฉายภาพ ทรงกีฬา ทรงวาดรูป ปั้นรูป ทรงงานไม้งานช่าง จะทรงจับงานด้านใดก็ทรงทำได้ดี


ที่คนไม่ใคร่ทราบคือ ทรงสนพระราชหฤทัยเป็นพิเศษในเรื่องภาษาไทย การศึกษา ระบบสิ่งแวดล้อม การสาธารณสุข และพุทธศาสนา ส่วนที่ทรงพระปรีชาทางดิน น้ำ ระบบระบายน้ำ และการแก้ปัญหาจราจรนั้นเป็นที่ทราบทั่วไปอยู่แล้ว


เมื่อครั้งยังเป็นเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ผมเคยได้รับพระมหากรุณาพระราชทานคำแนะนำเรื่องการใช้ถ้อยคำภาษาไทยหลายหน
ครั้งหนึ่งได้ถวาย “ รายชื่อ ” บุคคลให้ทรงแต่งตั้ง รับสั่งถามว่า ตั้งกี่คน ผมกราบบังคมทูลว่าคนเดียว ตรัสว่าคนเดียวเรียกว่า “ ชื่อ ” ถ้า “ ราย ชื่อ ” ต้องหลายคน


อีกคราวหนึ่ง มีหนังสือกราบบังคมทูลว่า“ ทูลเกล้าทูลกระหม่อมมาเพื่อทรงพิจารณา ” ทรงพระสรวลตรัสว่า “ ถ้าทูลเกล้าทูลกระหม่อมก็อยู่บน กระหม่อมยังไม่ถึงฉัน ถ้าจะให้ถึงฉัน ต้องทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายมาเพื่อทรงพิจารณา ”

ในทางพระพุทธศาสนาก็ปรากฎว่าทรงรอบรู้ทั้งในทางปฎิบัติและปริยัติ ทรงรู้จักพระเป็นอันมาก เมื่อตรัสถึงเหตุการณ์ครั้งใดจะทรงย้อนไปถึงเรื่องราวครั้งเก่าก่อน เช่น“ ครั้งสมเด็จพระสังฆราชยังเป็นพระญาณวราภรณ์ ” “ ครั้นเจ้าคุณประยุทธยังเป็นพระราชวรมุนี ”
และเคยตรัสเล่าเรื่องราวความเป็นอัคร ศาสนูปถัมภก ว่า ต้องทรงอุปถัมภ์ และคุ้มครองทุกศาสนา โดยไม่เลือกปฎิบัติ ทรงเล่าพระราชทานว่า ครั้งหนึ่งควีนจากประเทศหนึ่งทูลถามว่า พุทธศาสนาไม่มีพระเจ้าแล้วชาวพุทธนับถืออะไรกัน เหตุใดไม่ยกพระพุทธเจ้าเป็น god เสียเลย
ได้ทรงตอบว่า พุทธศาสนานับถือ “ ธรรม ” เรานับถือธรรมยิ่งกว่าพระพุทธเจ้าเสียอีก เพราะธรรมเป็นเครื่องคุ้มครองโลก และได้ตรัสเล่าต่อไปว่า แม้ศาสนาอื่นก็ยังต้องทรงอุปถัมภ์ ฉะนั้นในฝ่ายพุทธศาสนาขอให้ทุกคนวางใจเถิดว่า จะเป็น เถรวาท มหายาน รามัญนิกาย มหานิกาย ธรรมยุต ก็ต้องทรงคุ้มครองและพระราชทานความเป็นธรรมเสมอกัน


รัชกาลที่ 5 นั้น อะไรที่ไม่เคยมีและไม่มีคนไทยคนใดนึกว่าชีวิตนี้จะมี แต่ก็ทรงบันดาลหรือวางรากฐานให้มีขึ้นเป็นขึ้นทั่วถ้วน เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล รถไฟ ไปรษณีย์ เลิกทาส จนคนรุ่นก่อนหน้านั้นต้องคิดว่าเหลือเชื่อ
แต่ รัชกาลที่ 9 นั้น อะไรที่ควรจะมี ควรจะคิดออก ควรจะทำเป็นนานแล้ว แต่ผู้มีอำนาจหน้าที่ไม่ใคร่คิดไม่ใคร่ทำ ก็ทรงบันดาลหรือวางรากฐานให้มีให้เป็นขึ้น เช่น เขื่อน ฝาย ประตูระบายน้ำ ถนน สะพาน การสงเคราะห์คนเป็นโรคเรื้อน คนประสบภัยธรรมชาติ การแก้ปัญหาจราจร การเพิ่มผลผลิตการเกษตร การแก้ปัญหาความยากจน ปัญหาพลังงาน


สมัยผมเป็นเลขาธิการ ครม. ต้องทูลเกล้าฯถวายเอกสารใส่ซองขนาดใหญ่สีขาว เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย รับสั่งต่อไป หน้าซองไม่ต้องเขียนเลขที่หนังสือ จะได้หมุนเวียนกลับลงมาใช้หลายหน ไม่ต้องทิ้ง แม้แต่เรืองเล็กๆ ก็ควรประหยัด เวลาร่างกฎหมายโปรดให้ถวายปะหน้า 2 แผ่น เผื่อว่าทรงลงพระปรมาภิไธยแล้วหมึกซึมเลอะ จะได้ประหยัดเวลาไม่ต้องรอถวายใหม่ เวลาตั้งรัฐมนตรีใหม่จะต้องเข้า เฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฎิญาณ จะตรัสว่าให้รีบมาจะได้รีบไปทำงานไม่ต้องห่วงว่าติดเสาร์อาทิตย์ ประเทศไทยพระเจ้าแผ่นดินไม่มีวันหยุดราชการ

พระมหากรุณาธิคุณปานนี้จะหาได้จากที่ไหนอีก เจ้าประคุณเอ๋ย!

ปี 2538 สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีสวรรคต ลองคิดดูว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จะทรงวิปโยคขนาดไหน เสด็จไปทรงสดับพระพิธีธรรมที่พระที่นั่งดุสิตฯ ทุกราตรี แต่ทราบกันบ้างหรือไม่ว่าพอพระสวดจบ เสด็จลงมาประทับที่พระที่นั่งราชกรัณยสภาใกล้ๆกัน พระราชทานคำแนะนำการแก้ปัญหาจราจรแทบทุกคืน

ปี 2553 อยู่ระหว่างประชวรประทับในโรงพยาบาล พระราชกรณียกิจอื่นภายนอกโรงพยาบาลทรงงดเสียเกือบสิ้น แต่การเสด็จไปเปิดประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ ทอดพระเนตรโครงการแก้ปัญหาน้ำท่วมและเปิดสะพานระบายการจราจรเพื่อพสกนิกรของ พระองค์ เป็นเรื่องที่ทรงถือเป็นกิจสำคัญ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเป็นยอดแห่งผู้อดทน อดกลั้น ในการประกอบพระราชกรณียกิจนั้นย่อมมีทั้งร้อนทั้งหนาวยาวนานและน่าเหนื่อย หนัก ดูเอาจากการพระราชทานปริญญาบัตรเถิด แม้แต่ที่ต้องทรงอดกลั้นด้วยขันติบารมีในคำจ้วงจาบหรือระคายเคืองเบื้องพระ ยุคลบาทอีกไม่รู้เท่าไร อย่าลืมว่า พระชนมพรรษา83 แล้ว ทรงงานมา 64 ปีแล้ว

ดะไลลามะเคยพูดว่า “ใครอย่ามาชมตัวท่านเลยว่าเป็นยอดคน ไปดูที่พระเจ้าแผ่นดินเมืองไทยเถิด ”

ผม เคยไปเฝ้าฯ เจ้าชายจิกมี กษัตริย์หนุ่มแห่งภูฎาน ตรัสว่า “กษัตริย์ของท่านเป็นแบบอย่างของข้าพเจ้าในการจะครองราชย์ให้คนรัก ”

สุลต่านบรูไนที่ เป็นผู้แทนกษัตริย์25 ประเทศ ถวายพระพรในคราวฉลองการครองราชย์สมบัติครบ 60 ปี เมื่อ พ.ศ. 2549 เคยทูลว่า การครองราชย์นานถึง 60 ปีเป็นเพียงตัวเลข สำคัญอยู่ที่ว่า 60 ปีนั้นได้ทำอะไร
“ เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า ฝ่าพระบาททรงทำทุกอย่างตลอด 60 ปี ให้เป็นประโยชน์ต่อชาวไทย ชาวเอเซีย และชาวโลก วาระนี้จึงทรงเป็นความภาคภูมิใจของบรรดาพระราชามหากษัตริย์ทั้งปวงโดยทั่วกัน ”

เมื่อวันเฉลิมพระชนมพรรษาปี 2552 มีพระราชดำรัสตอนหนึ่งว่า
“ความสุขความสวัสดีของ พระองค์จะมีได้ก็ด้วยการที่บ้านเมืองมีความเรียบร้อย”

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พระองค์นี้มีแต่ทรงให้พวกเรามาตลอด แต่พระราชดำรัสนี้มีนัยเป็นทั้งสิ่งที่ “ ทรงหวัง ” “ ทรงบอกให้รู้ ” และ ” ทรงขอ ” ซึ่งน่าจะทรงประสงค์ยิ่งกว่าคำถวายพระพร“ทรงพระเจริญ ”
ไหนว่า ธ ประสงค์ใด จงสฤษดิ์ดังหวังวรหฤทัย แล้ว เรื่องอย่างนี้เราคนไทยจะพร้อมใจกันจัดถวายได้ไหมครับ

 

นั่งสมาธิเกิดปิติได้ อ่านบทความนี้ก็เกิดปิติได้เหมือนกัน

 

เอาไป 100000 Like เลยนิวส์

 

อ่านแล้วรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมาก ที่เกิดเป็นคนไทย และมีในหลวงที่ทำเพื่อประชาชน คิดเพื่อประชาชน เพื่อความสงบสุขของประชาชนอย่างแท้จริง

ขอทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนานครับ

 

ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป

[VDO]http://www.youtube.com/v/QCqa2JIipBA?version=3&feature=player_detailpage">
name="allowFullScreen" value="true"><EMBED type="text/html; charset=UTF-8" src="<a href=" target="_blank" href="http://www.youtube.com" www.youtube.com http:>http://www.youtube.com/v/QCqa2JIipBA?version=3&feature=player_detailpage" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="360">[/VDO]

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนานตลอดไป



ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ

ข้าพระพุทธเจ้ามหาหงษ์​

 

คลายเครียดๆคับ.....

พอดีมาบ้านพี่โจ ตกกะจัย เอ้!!! นี่มันอะราย ขอบรรยายด้วยภาพคับ

 

น้ำยังมาไม่ถึงครับ อีก 2-3 วันก็น่าจะรู้แล้วครับว่าจะท่วมแค่ไหน ตอนนี้เตรียมพร้อมไว้แล้วครับ

 

55555555555++++++++

 

อีกอย่างครับ ต้องตรวจบัตรผ่านด้วยป่าวครับ....อิ อิ...

บริษัทผมท่วมแล้ว ตอนนี้นอนรอร้ำอยู่ ที่ท่าน้ำนนท์ครับ ถ้ามาก็ 1.5-2 เมตร ครับ เพราะต่ำว่าถนน บริษัทผมแถว คัลสินค้า 7 และโลตัส ที่ทางไปสุพรรณก็ท่วมไปแล้ว ตกงานไม่มีเงินอีกเป็นเดือนครับ 5555 บททดสอบย่อยก่อน สอบใหญ่....

 

เป็นกำลังใจให้นะครับ ขอบารมีหลวงปู่คุ้มครองครับ

 

แจ้งที่อยู่ในการส่งพระครับ

----------------
สวัสดีครับ คุณฉันทะ ผมขออนุโมทนาในบุญกุศลกับท่านและเพื่อนสมาชิกทุกท่านที่มีส่วนร่วม
ในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยครั้งนี้ด้วยครับ ขอแจ้งที่อยู่เพื่อจัดส่งวัตถุมงคลครับ (๐๘๑)๘๑๔-๐๐๓๙
นายวิรัช เกียรติกังวาฬไกล
๖๒ ซอยเพชรเกษม ๑ ถนนเพชรเกษม
แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่
กรุงเทพมหานคร ๑๐๖๐๐

 

เสือนิวส์..ก็ช่างไปค้นหามาเนอะ..

ว่าอันที่จริง..จะไปโทษพวก ผู้วางแผนเขาก็ไม่ได้

ก็เขาพวกนักการเมืองทั้งนั้น..

ธรรมชาตินักการเมือง ก็ต้องถูกฝึกให้พูดโกหก ซ่อนเร้น ฝึกให้เป็นคนทุศีล เป็นปกตินิสัยอยู่แล้ว..

จะให้พวกเขา พูดอะไรที่เป็นความจริง พูดมีคำสัตย์ เรื่องอย่างนี้อาจดูเป็นเรื่องง่ายสำหรับเราๆท่านๆ

แต่กลับไม่ใช่เรื่องง่ายๆ..สำหรับนักการเมืองเขาเลยหนา..

ต้องฝึกหัดกันยากที่เดียว.. เห็นใจพวกเขาหน่อย..ธรรมชาติเขาเป็นอย่างนั้นจนเคยชิน

จะไปว่าเขาอย่างเดียวได้อย่างไร..

ท่านอาจจะเห็นว่า...หากพูดความจริงไป เตือนภัยก่อนล่วงหน้า ช่าวบ้านจะตื่นตระหนก ตกใจ

ไหนจะต้องเปลืองค่าใช้จ่าย ซื้อข้าวของมาป้องกันบ้านตัวเองอีก

ไหนจะอดตาหลับขับตานอน มาเฝ้าดูน้ำอีก..

สู้โกหกว่าไม่ท่วมแน่นอน แล้วให้ท่านนอนใจ..หลับให้สบายดีฟ่า..

ตื่นขึ้นมาชักตาตั้งเลย..แพร๊บเดียว 2 ชม. ถึงเอวแล้ว...

เอาตระหนกๆ..กันซึ่งๆหน้า แบบ "ช๊อก" กันเลยดีฟ่า..

ท่าหวังดีกับพวกเราขนาดนี้..ยังจะว่าพวก ฯ พณฯ ท่านอีก..



ตนเป็นที่พึ่งแหงตน ตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท เป็นดีที่สุด

 

สาธุ สาธุ ว่าเเต่บ้านพี่เป็นอย่างไงบ้าง Mega project ที่จะเอาพลาสติกห่อบ้าน เหมือนห่อรถ ล้มเลิกเเล้วหรือยังคับ ฮิ้วๆๆ

 

เอามาฝาก.....คับ....เพื่อพี่ๆท่านใดจำเป็นคับ

รองศาสตราจารย์ ดร.ทวิช จิตรสมบูรณ์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาวิศวกรรมเค<WBR>รื่องกล มทส. (...เจ้าของความคิดประดิษฐ์เรือน้ำใ<WBR>จปีบทอง ) และนายธีทัต ดลวิชัย สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล ฯ ได้คิดค้นวิธีการ รถลอยน้ำด้วยตาข่ายและผ้าใบ ซึ่งเป็นวิธีการในการใช้ตาข่ายแ<WBR>ละผ้าใบคลุมรถ เพื่อให้รถยนต์ลอยขึ้นจากน้ำ โดยได้ทำการทดสอบและสร้างต้นแบบ<WBR>เพื่อให้ประชาชนที่สนใจนำไปจัดท<WBR>ำเองได้ ใช้วัสดุที่หาได้ง่าย และใช้งานจริงได้ทันที

วิธีการ..... [ame="http://www.youtube.com/watch?v=iM2zZYbHt34&feature=player_embedded"]รถลอยน้ำหนีน้ำท่วม จาก มทส - YouTube[/ame]

 

ลองวิเคราะห์บริเวณบ้านพักของตนเอง กับความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมครับ

รูปภาพของ Chotography Photocast | Facebook

 

ลองวิเคราะห์บริเวณบ้านพักของตนเอง กับความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมครับ

รูปภาพของ Chotography Photocast | Facebook

 

**เซ้งๆ..เล่าให้ฟัง..**

หนึ่งเดือนมานี้ แสนเหน็ดเหนื่อยกับเรื่องน้ำท่วมมากมาย จากวัดสะแก ไปยังที่อื่นๆ..จบลงที่บ้านพ่อแม่ ญาติพี่น้องทั้งหมด ที่มีพื้นเพอยู่ในย่านนนทบุรีเป็นหลัก โดนกันไปทั่วหน้า..

สิ่งที่เห็นจากการเข้าไปช่วยเหลือขนย้ายผู้ประสบภัยเกือบทุกที่ จะมีปัญหาเหมือนกันหมด โดยเฉพาะที่บางบัวทอง คนสับสนอลหม่านเป็นพันเป็นหมื่น แต่ไม่เคยได้เห็นหน้า เจ้าหน้าที่ตำรวจสักนายเดียวในท้องที่เกิดเหตุนั้นๆ..ไม่รู้ไปมุดหัวอยู่ที่ไหนกันหมด ชาวบ้านต่างบ่น ด่า ประณามกันทั่ว

ในพื้นที่จริง..ความยากลำบากในการเข้าไปช่วยเหลือนอกจากปัญหาจากน้ำแล้ว ปัญหาที่สำคัญพอๆกันก็คือ ปัญหาจราจร มั่วกันไปหมด จนคนที่จะเข้าไปช่วยเหลือ แม้แต่ทหารพร้อมรถยีเอ็มซี ทั้งกำลังพล จำนวนมากที่จะเข้าไปช่วยเหลือผู้คน ก็เข้ากันไม่ได้ ติดกันยาวเหยียดนับได้ 5-6 ช.ม. ในระยะทางเพียง 1 กม. ด้วยปัญหาหญ้าปากคอก เพียงแค่ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสักคนมาช่วยจัดระบบจราจร

มันน่าโมโหและน่าเจ็บใจมาก..ไปถึงปากทางแล้ว ก็เข้าไม่ได้ ผู้คนจำนวนนับหมื่นนับแสบรอการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ทหารก็แสนรวดเร็วเข้าพื้นที่ทันที แต่ทั้งหมดทำงานไม่ได้เลย..ติดเพียงแค่ไอ้พวกใส่เกียร์ว่าง ละทิ้งหน้าที่ เพียงไม่กี่คน

ติดไม่ขยับอยู่ 2-3 ชม. ทนไม่ไหว เดินลุยน้ำกับน้องนิวส์เข้าไปสักกิโลกว่าๆ..หาสาเหตุรถติด...ไร้สาระจริงๆ.ไม่มีสาเหตุใดเลย..

ส่วนใหญ่ก็จอดคุยกัน..รถเล็กทั้งรถชาวบ้าน รถมูลนิธิโหลดเตี้ย รู้ทั้งรู้น้ำข้างหน้ายิ่งลึกขึ้นไปเรื่อยๆ ก็จะขับเข้าไป (ไม่รู้พวกมันจะเข้าไปดูความฉิบหายของคนแล้วมันสบายใจขึ้นหรือไง ) ผลสุดท้ายก็ติด ไปไม่ได้ คราวนี้ทำไงล่ะ ถนนอีกด้านน้ำก็ลึก จะกลับเลนนั้นก็กลับไม่ได้ สุดท้ายก็กลับรถ ขับสวนมาเลนเดิมนั้นแหละ คราวนี้ก็ล็อกเป็นวงแหวน ถนนขาเข้าไปช่วยเหลือ น้ำท่วมก็ท่วมด้านข้าง เหลือเพียงช่องจราจรเดียว แล้วมันจะมากันได้อย่างไร

ปัญหาที่เกิดขึ้นไร้สาระมากๆ.นี่ถ้ามี จนท.ตำรวจสักคน ตั้งด่านด้านหน้าคอยสกัด รถเล็กไม่ให้เข้าไปยุ่ง ให้เหลือเพียงรถสูง รถที่จะเข้าไปช่วยเหลือ ปัญหาทุกอย่างก็จบ การช่วยเลือก็ทำกันได้รวดเร็ว..เห็นรถทหารจอดต่อคิวกันยาวเหยียด ทั้งเรือที่ขนมา ทั้งกำลังพล ทั้งอาหารของหน่วยงานที่จะเข้ามาช่วยเหลือ จอดนิ่งไม่ขยับ ต่อคิวกันยาวเหยียด เห็นแล้วสลดใจจริงๆ..เรื่องใหญ่มากมาย ติดขัดด้วยเรื่องเล็กกระติ๋วเดียว

ผมเข้าไปช่วยเหลือโดยนำรถ 6 ล้อติดเฮียบ คันที่นำไปวัดสะแก พร้อมเรือ Speed Boat ไปตั้งแต่ตอนเที่ยง ที่สุดก็ช่วยใครไม่ได้ หลังจากจอดแช่อยู่นานที่ปากทาง ที่สุดก็ต้องกลับเสียเที่ยวปล่าว

ที่สุดตัดสินใจเข้าไปช่วยอีกที่ ต้องเข้าไปช่วยเหลือพี่ชายที่ติดอยู่ให้ได้ เลือกเอาเวลาเที่ยงคืน ณ ที่เดิมปากทาง คราวนี้ทหารตั้งด่าน สกัดรถเล็กไม่ให้เข้า จึงได้พูดคุยกับผู้การที่หน้าด่าน ทราบว่าตั้งแต่กลางวันแจ้งไปยัง สน. ท้องที่แล้ว บอกจะส่งกำลังมา รอเป็นวันก็ไม่เห็นมาสักคน ที่สุดเลยตัดสินใจต้องตั้งด่านเอง (ไม่รอพวกมันแล้ว) งั้นทำงานไม่ได้เลย..บอกตามตรง..น้ำท่วมคราวนี้ ประทับใจทหารมากๆ..เหน็ดเหนื่อยแสนสาหัสทุกนาย ...ไม่เคยได้เห็นสัมภาษณ์ออกทีวี มีแต่พวกผู้ว่า อบจ. อบต. เสนอออกกันจริง ในพื้นที่จริง ไม่มีใครเคยเห็นหน้าสักคน ไม่รู้ไปมุดอยู่ที่ไหน ..ได้ข่าวว่าวันนี้ ตำรวจพรึ๊บ..เต็มแยกบางพลูบางบัวทอง..เพราะนายมาเยอะ ตั้งแต่ผบ.สูงสุด ไปตรวจการ..เรื่องเสนอหน้าอย่างนี้ล่ะ..ถนัดนัก

วิ่งเรือไปตอนเที่ยงคืน ดึกสงัด เหมือนเมืองร้าง บางจุด บางหมู่บ้านก็โดนตัดไฟหมด น่าแปลก ผมกับคุณตุ้ย คุณนิวส์ ยังพูดกัน ดึกดื่นขนาดนี้ มีกลุ่มคนบางกลุ่ม กลุ่มละ 3-4 คน ออกมาทำอะไรกัน มีของพะลุงพะลังบนเรือ บ้างก็เป็นถังพลาสติกบ้าง กล่องโฟมบ้าง เข็นลอยน้ำกันมา ก็นึกแปลกใจ หากจะหนีภัยน้ำออกมา ทำไมไม่ออกมาตอนกลางวัน ออกมาทำไมดึกๆอย่างนี้ เขาหมดเวลาการช่วยเหลือแล้ว หรือว่าจะออกมาขออาหาร ยิ่งไม่น่าเป็นไปได้ หน่วยช่วยเหลือก็ไม่มีใครอยู่แล้ว.ดูยังไงๆก็ไม่มีเหตุผล..คิดได้อย่างเดียวน่าจะเป็นพวกโจรย่องเบา..

เช่นเคย.ไม่มีตำรวจนักนายเดียว ขับเรือลาดตระเวน เห็นใครแปลกหน้าก็ควรเข้าไปซักถามต้องสงสัย รับรองจับได้ง่ายกว่าภาวะปกติอีก เพราะโจรจะหนี ก็หนีไม่ได้ กว่าจะก้าวได้แต่ละเมตรช่างยากเย็น นี่ก็ 3-4 วันแล้ว ยังไม่เห็น จนท. ออกตรวจตราสักนายเดียว มิน่าโจรขโมยมันถึงได้ชุกชุมซ้ำเติมผู้เดือดร้อน..ได้ใจนัก

มีเรื่องเล่าเยอะแยะ..บางเรื่องเห็นแล้วสะทกสะท้อนใจ จิตใจความเป็นมนุษย์..มันช่างเห็นแก่ได้ เอาเปรียบเพื่อนมนุษย์ หากินบนความทุกข์ยากลำบากของผู้อื่น..เอน็จอนาจใจจริงๆ..อีกแปร๊ยบเดียวพวกคนเหล่านี้ ตายไปก็ต้องไปลงนรก

เรือวิ่งไปเพียง 100 เมตร คิด 100 บาท เมตรละบาท..เหมาลำ 1,500 มันทำกันลงคอได้อย่างไรหนอ..คนเขากำลังทุกข์ยากขนาดนั้น จิตใจคนพวกนี้ต่ำมากๆ..

คนจนที่หากินบนความทุกข์ยากคนอื่นยังพอทำเนา แต่คนรวยนี่ซิ !!...โดยเฉพาะพวกร้านวัสดุก่อสร้าง..ไปอยู่ 4 ร้าน มีเพียงร้านเดียวพยายามขายราคาเก่า (เพราะเป็นของสต๊อกต้นทุนเก่า) ผมถามไม่ขึ้นราคาเหรอ เห็นร้านอื่นๆก็ขึ้น เขาบอกไม่หรอก ช่วยๆกันไป

แต่อีก 3 ร้านที่เข้าไป ขูดรีดราคาขึ้นไป 3-4 เท่าตัว (เช่นอิฐบล๊อกจากเดิมก้อนละ 4 บาท ขึ้นไป 15-20 บาท ทั้งๆที่เป็นของในสต๊อกต้นทุนเก่า) โดยเฉพาะร้านแถบเมืองนนท์ ท่าอิฐ ถามเจ้าของร้าน คำตอบสั้นๆคือ " ร้านอื่นเขาก็ขายกันแบบนี้ "..ไอ้นิสัยผมมันปากหมา เห็นอะไรที่ไม่ถูกต้อง เอาเปรียบคนอื่นแล้วทนไม่ค่อยได้ ก็เลยพูดต่อหน้ามันไปเลยว่า

" เฮีย..เห็นเหมือนผมมั๊ย..พวกร้านวัสดุก่อสร้าง ส่วนใหญ่ก็คนรวยๆกันทั้งนั้น ร้านค้าก็ออกจะใหญ่โต ผมว่าพวกเจ้าของร้านนี่..มีเงินกัน..ไม่น่าจะต่ำกว่าคนละร้อยล้านน่ะ..แต่มาเอาเปรียบชาวบ้านบนกองทุกข์ผู้อื่นอย่างนี้ ถึงได้กำไรเพิ่ม ก็ไม่น่าจะได้เพิ่มสักเท่าไร ไม่กี่หมืนกี่แสนบาทหรอก น้อยนิดเดียวเมื่อเทียบกับที่พวกเฮียๆมี.. ผมล่ะสงสัยจริงๆ ภาพการขูดรีดเช่นนี้..เขาทำกันไปอย่างไร.. มันจะไม่ติดตาพวกเขาไปจนวันตายเหรอ ถึงมีเงินสักกี่ร้อยล้าน ก่อนตายหากคิดถึงวันนี้ วันที่เป็นแผลในใจติดตัวไปตลอดชีวิต พระท่านว่าก่อนตายหากแว๊บหนึ่งคิดเรื่องชั่วๆ เรื่องเอาเปรียบชาวบ้านนี่..ก่อนจะดับจิต.. เขาว่าต้องไปลงนรกน่ะ..ไม่รู้พวกร้านวัสดุก่อสร้างนี้ เขาไม่กลัวกันบ้างเหรอ มันจะคุ้มค่าเหรอกับที่เขาทำกัน "

ผมพูดเสร็จ..มองดูหน้ามัน..เห็นมันทำหน้ามึนๆ เนอะ..(ใครว่ะ ? ไม่ซื้อของอั้ว..ยังมาขู่อั๊วลงนรกอีก..มึน..)

ฮิ..ฮิ..ด่ามันต่อหน้าเลย..พูดเสร็จก็ชิ่งหนี..

น้ำท่วมคราวนี้..ให้ข่าวกันมั่วไปหมด..โดยเฉพาะรัฐมนตรีคนหนึ่ง ไม่ค่อยจะรู้เรื่องอะไรเท่าไร แต่พูดที่ไรวุ่นวายทุกที

คุณหญิงบ้านเลขที 111 ให้ข่าวพูดจ้อหน้าทีวี..มีแต่พูดเน้นไปมาจนน่ารำคาญว่า มวลน้ำมหาศาล 15,000 ล้าน ลบ.เมตร (คิว) จ่อกรุงเทพฯมาตั้งแต่วันที่ 14 รัฐบาลเก่ง รัฐบาลดี ที่เอาไว้อยู่จนบัดนี้ นักการเมืองทุกคนให้สัมภาษณ์ก็มีแต่ออกแนวมวลน้ำมหาศาล พูดอีกนัยหนึ่งก็คือ รัฐบาลเอาไม่ไหวเพราะน้ำมากนั่นเอง..พูดที่ไรก็เห็นลิ้นไก่..มีแต่เป็นไปเพื่อการหาเสียง หาข้อแก้ตัวทั้งสิ้น

ตอนนี้เป็นไงหน้าแตกกันถ้วนหน้า เมื่อนักวิชาการ นักปฏิบัติที่รู้จริง เริ่มมาให้ข้อมูลว่ามวลน้ำไม่ได้มากมายขนาดนั้น เมื่อหักไปอยู่ทีทุ่งส่วนหนึ่ง จริงๆที่จ่อลงมามีแค่ 5-6 พันล้านเท่านั้น หากจัดระบบระบายดีๆ เอาอยู่แน่..


ยิ่งตอนนี้เริ่มสบายใจขึ้นแล้ว เมื่อลัดทะบาน เห็นว่าเอาไม่อยู่แน่ เริ่มยอมให้ท่านอาจารย์ ปราโมทย์ ไม้กลัด , ท่านอุเทน จากเดิมท่านนั่งเป็นที่ปรึกษาผู้ว่า กทม. ตอนนี้ยอมให้มาช่วยที่ 1111 แล้ว ตัวจริงเสียงจริง รู้จริง ผ่านประสบการณ์อย่างโชกโชนมาช่วย เชื่อว่าการคำนวณมวลน้ำที่แท้จริง ไม่พูดส่งๆแบบ Over เข้าไว้ การจัดระบบการระบายน้ำคงได้ผล ไม่ขัดแข้งขัดขา หรือทำไปบนพื้นฐานไม่รู้จริงกันเสียที..ที่สุดเรื่องความทุกข์ยากของพสกนิกร ก็ไม่พ้นคนที่เชื่อใจได้ ข้าฯรองพระบาทอีกเช่นเคย..เรื่อง "น้ำ" ใครเล่าจะเก่งจริง รู้จริง เกินพระองค์ท่าน และทีมงานเก่าของพระองค์

แต่ไม่ว่าจะว่ากันอย่างไร..การเตรียมตัวป้องกันบ้านตัวเอง ทำเท่าที่ทำได้ แบบไม่เครียดสบายๆ ตั้งอยู่บนความไม่ประมาทไว้ก่อน แต่ลึกๆ..ส่วนตัวผมก็ยังเชื่อมั่นอยู่ว่า "น้ำไม่น่าจะท่วมถึงกรุงเทพฯชั้นในน่ะ"

น้ำเป็นสิ่งบริสุทธิ์จากธรรมชาติ มองอีกแง่มุมหนึ่ง หวังว่าความบริสุทธิ์ของ "น้ำ" คงจะช่วยล้างอาถรรพ์บ้านเมือง ล้างเลือด ล้างสี ให้หมดสิ้นลงจนได้...

อาจจะหลงเหลืออยู่บ้าง ก็กับไอ้พวกเพี้ยนๆบ้าการเมืองเข้าสายเลือด จนถึงวันนี้บ้านเมืองจะฉิบหายวายวอดแล้ว มันยังไม่รู้เหนือรู้ใต้ วันๆในสถานีของตนเอง ยังพูดแต่เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่เลย.มันบ้าได้ใจ บ้าเข้าสายเลือด ในทางการแพทย์ถือเป็นพวกโรคจิตชนิดหนึ่งที่เดียว..คิดแล้วเซ้งไอ้คนพวกนี้ซะจริงๆ..

 

ขอเป็นกำลังใจให้พี่ๆ ทุกคนที่ร่วมช่วยเหลือผู้ประสบภัยทุกๆท่านนะครับ

 

บอกตามตรง..น้ำท่วมคราวนี้ ประทับใจทหารมากๆ..เหน็ดเหนื่อยแสนสาหัสทุกนาย ...ไม่เคยได้เห็นสัมภาษณ์ออกทีวี มีแต่พวกผู้ว่า อบจ. อบต. เสนอออกกันจริง
#####ทหารทำงานเพื่องาน ปฏิบัติหน้าที่เพื่อหน้าที่ ครับคุณพี่โจ มีทหารหลายนายบ้านตัวเองก็ถูกน้ำท่วม แต่ก็ต้องออกไปปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยครั้งนี้ ถึงแม้น้ำจะท่วมสูงมากแค่ใหนคลุมพื้นที่กว้างสักเท่าใด แต่ผมรับรองได้ว่าน้ำไม่ท่วมหัวใจของทหารครับคุณพี่โจ#####