คุณมั่นใจได้อย่างไรว่าคนรอบตัวคุณมีตัวตนอยู่จริง

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย เอาฮา, 9 พฤศจิกายน 2011.

  1. เทพเมรัย

    เทพเมรัย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    262
    ค่าพลัง:
    +80
    ทั้งๆที่พระพุทธเจ้า ล้วนกล่าวแต่ความจริงแท้ เพราะพระองค์เป็นผู้รู้

    เหตุใดพระองค์จึงสอนเรื่องกาลามสูตร

    สิ่งมีชีวิตชนิดแรกของจักรวาล (นับจากเกิดบิ๊กแบ๊ง) คือ อนุภาคมูลฐาน ที่ถูกครองด้วยจิตทันที เมื่อมีการระเบิดออกมา มันวิวัฒไปเป็นอนุภาคที่ใหญ่ขึ้น ซับซ้อนขึ้นไปเรื่อยๆ ภายใต้กรอบของมิติเวลา ลูกหลานของมันคือ ไฮโดรเจน และธาตุอื่นๆมากมาย ในจักรวาลนี้

    ถ้าหลังจากบิ๊กแบ๊ง ไม่มีผู้ใดเข้าใจได้ เพราะเมื่อไม่มีแม้กระทั่งเวลา แล้วสมองเราจะไปรู้อะไรได้ (อวิชชา) เมื่อเริ่มมีเวลา สังขารจึงปรากฏ นั่นคือลำดับของสิ่งมีชีวิตในจักรวาลนี้
     
  2. ปกรณ์

    ปกรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    404
    ค่าพลัง:
    +3,761
    ....ทุกอย่างก็เป็นของมันอยู่อย่างนั้น.....
    จิตต่างหากที่ไปปรุงแต่ง....ดีไม่ดี มืดสว่าง นรกสวรรค์ นอกโลกในโลก ....อะไรต่อมิอะไร..จิปาถะ...ปรุงว่ามีอยู่ไม่พอ...แถม..แต่งเติมรายละเอียดสีสัน..ในความมีนั้นอีกด้วย....ให้ซับซ้อนเข้าไปอีก....ว่ากันจริงๆ...ก็น่าจะเป็นอย่างที่ จขกท.ว่านะ...มันไม่มีอะไรจริงๆ มันเป็นของมันอย่างนั้น.....^^
     
  3. นายเบทร์

    นายเบทร์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    882
    ค่าพลัง:
    +91
    อ่าวหลังบิกแบงมีเวลาแล้วไม่ใช่เหรอ มีจักรวาลแล้วนิ
     
  4. dewvader

    dewvader Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    77
    ค่าพลัง:
    +88
    สิ่งที่ยังไม่เห็นจริงไ่รู้จริงยังไม่สามารถสรุปได้หรอก ทางปฏิบัติเพื่อให้ถึงมีอยู่ มีเน็ตก็หาเอาว่าวิธีปฏิบัติทำไง ต่อให้มีคนมาบอกคุณซักเป็นพันคนคุณก็ยังต้องสงสัยอยู่ดี มันเสียเวลา ไม่ได้อะไร
     
  5. เอาฮา

    เอาฮา สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    116
    ค่าพลัง:
    +19
    ในความฝันเราก็เจ็บอยู่ดี เราจะไม่เจ็บก็ต่อเมื่อเรารู้ตัวว่ากำลังฝัน
     
  6. mamboo

    mamboo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,129
    ค่าพลัง:
    +1,973
    เปล่าเลย..

    คุณคงเป็นสมาชิกสมัครเข้ามาใหม่ หรือเปล่า ?? ><

    ในความฝันเราเจ็บ เพราะเราคิดว่า การถูกตบมันเจ็บ แต่เราจะไม่เจ็บ ถ้าเราบอกกับตัวเองว่า มันไม่เจ็บ มันไม่เกี่ยวกับว่า เรารู้ตัวหรือเปล่าว่าเราฝัน

    -----

    แนะนำนะ...

    การศึกษาความฝัน เป็นทางลัด ที่รวดเร็ว ในการศึกษาเรื่อง โลกหลากมิติ แต่จะไม่ได้เห็นของจริง(เพราะความฝัน เกิดขึ้นจากการปรุงแต่งของจิต) แต่อย่างน้อยๆ คุณจะได้เข้าใจโครงสร้างของสรรพสิ่งมากขึ้น จากการศึกษาความฝัน และมันจะช่วยให้เรา ต่อยอดศึกษาเรื่องความจริงของสรรพสิ่งต่อไป(อย่างมีสติ)
     
  7. mamboo

    mamboo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,129
    ค่าพลัง:
    +1,973
    mamboo ลองสังเกตุดู (อันนี้ไม่ได้อ่านจากตำราไหนเลยนะคะ บางทีคำศัพท์ก็ไม่ตรงกับตำรา เพราะว่าคิดคำศัพท์ตามที่เห็น และจะไม่ละเอียดเหมือนในตำรา เพราะอันนี้เราเขียนจากการสังเกตุของเราเอง)

    เราลอง สังเกตุดู แล้ว

    การทำงานของ จิต แบ่งเป็น 3 ส่วน "หลักๆ" คือ ทำหน้าที่ สร้างโลก ทำหน้าที่ในส่วนของ ข้อมูล และทำหน้าที่เป็น ตัวรู้


    นี่แบบไม่ได้ตั้งใจนะ.. มันคล้ายกับ monitor harddisk แล้วก็ user (ส่วน processor นั้น มันก็คงมี แต่เรายังแยกมันไม่ออก)

    เพราะอะไรถึงว่าอย่างนั้น...

    (เราเคยอ่านในตำราแบบ อ่านผ่านๆนะ มันมีหลายส่วนมากกว่านี้ มีส่วนย่อย แต่ว่า 3 ส่วนนี้ เราสังเกตุเอาเอง จากการศึกษาเรื่องพวกนี้แหละ)

    1 คือ จิตของเรา มันจะสร้างโลก จากข้อมูลที่อยู่ในกล่องข้อมูลของมัน (ข้อมูลนี้ ได้รับมาจากไหนและเก็บไว้ที่ไหน จะเป็นเรื่องที่ละเอียดและแตกเป็นส่วนย่อยอีกมาก)

    ถ้ามันไม่มีข้อมูล มันก็ไม่สร้าง เวลาที่มันไม่สร้าง ถ้ามันทำงานกับกายเนื้อ เราจะเห็นภาพเป็นสีดำ แต่ถ้ามันไม่ได้ทำงานกับกายเนื้อ มันจะเป็นแสงสีขาวๆ (เวลาที่เราหลับตา เราจะมองไม่เห็นอะไร จะเป็นสีดำๆใช่ไหม แต่เวลาที่เราไม่ได้อยู่ในกายเนื้อ ถ้าเราไม่สร้างภาพไม่สร้างโลก มันจะเป็นสีขาวๆเป็นแสงขาวๆ)

    และมันจะมี "ตัวรู้" ตัวนี้แหละ ไปรู้ ไปเห็น ไปสัมผัส

    มันก็คงจะมี processor ด้วย เราคิดว่า ก็คือตัวที่ ทำให้ข้อมูลเปลี่ยนเป็นภาพเป็นสัมผัสนั่นแหละ คือ processor

    มันทำงานแบบนี้ จริงๆ ><

    พอคุณศึกษาเรื่องนี้มากๆ คุณจะเริ่มแยกไม่ออกแระว่า อันไหนของจริงของปลอม.. เพราะอะไร เดี๋ยวจะเล่าต่อในภายหลัง อิอิ ^^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤศจิกายน 2011
  8. mamboo

    mamboo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,129
    ค่าพลัง:
    +1,973
    ถ้าคุณมีสติรู้ตัวในฝันบ่อยๆ ชอบทดลองความฝัน มีประสบการณ์เห็นกายทิพย์ตัวเอง และมองเห็นมิติอื่นๆ เราว่า มันจะช่วยให้คุณเข้าใจเรื่อง นรก สวรรค์ มากขึ้นนะ

    เมื่อก่อน เราก็สงสัยว่า ทำไมสวรรค์ของฝรั่งกับคนไทย มันไม่เหมือนกัน ><

    ทำไม เวลาฝันต้องเป็นโลก (โลกความฝันอ่ะ) แต่ถ้าไม่ฝัน ก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไร จะเป็นแสงสีขาวๆเฉยๆ

    ทำไมบางคน ชอบเห็นนรกมีกะทะทองแดง แต่ฝรั่งไม่เห็น เห็นแต่ซาตาน

    แล้วทำไมพระพุทธเจ้า ไม่ฝัน

    สติ คืออะไร ?? จริงๆแล้ว สติมันมี level ด้วยนะ มันไม่ใช่แค่ คำว่า "สติ" คำเดียว แต่มันเป็นเหมือน เสียงสูงต่ำ มันมี level ด้วย

    ยิ่ง level สูงเท่าไหร่ ยิ่งคุณมีสติมากเท่าไหร่ มันก็จะมีการปรุงแต่งน้อยลง และมันจะเห็นของจริงได้มากขึ้น

    แต่ถ้ามีสติน้อย level ต่ำๆ จะมีการปรุงแต่งมาก สิ่งที่เห็นที่สัมผัส มักจะไม่ใช่ของจริง

    จิตนี้ มีกำลังมาก.. มากแค่ไหน ก็มากถึงขั้นว่า สร้างโลกความฝันขึ้นมาได้เลย โลกหนึ่ง และเป็นสิ่งที่อัศจรรย์มาก มันควบคุมการทำงานของร่างกายเราด้วย ของเซลต่างๆของเรา ของอวัยวะของเรา มันมีระดับความลึกของมัน ถ้าเราติดต่อในระดับที่มันลึกๆได้ เราจะควบคุมอวัยวะของเราได้ แต่สมองของเราติดต่อกับมันไม่ได้ (ถูกห้ามไว้โดยธรรมชาติ) นอกจากผู้ที่ฝึกสติมากๆถึงจะควบคุมมันได้

    พระพุทธเจ้าเวลานอน แค่ร่างกายพักผ่อน แต่พระองค์ ไม่ฝัน เพราะ.. ความฝันเกิดขึ้นจากการปรุงแต่งของจิต

    ดังนั้น สิ่งที่พระพุทธเจ้า ได้ไปพบไปเห็น จึงเป็นของจริง ไม่ใช่สิ่งที่จิตปรุงแต่งขึ้นมา
     
  9. รักหมดใจ

    รักหมดใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    114
    ค่าพลัง:
    +290
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. ยมยักษ์

    ยมยักษ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2011
    โพสต์:
    974
    ค่าพลัง:
    +35
    ถือว่าเป็นความคิดส่วนตัวของแต่ละคนนะ แต่ขอเอาฮา เพราะยากที่จะหาคำตอบ

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=m1YxBKXjULE&feature=related]Mib final - YouTube[/ame]
     
  11. mamboo

    mamboo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,129
    ค่าพลัง:
    +1,973
    เมื่อก่อนที่ mamboo ยังไม่เข้ามาศึกษาเรื่องพวกนี้ เวลาอ่านหนังสือเจอคำว่า "พระพุทธเจ้า ตรัสรู้แบบ รู้แจ้งแทงตลอด" mamboo จะชอบคิดว่า ชาวพุทธคิดคำนี้ขึ้นมา เพื่อยกย่องศาสดาของตน

    จนวันหนึ่ง พอ mamboo ได้เข้ามาศึกษาเรื่องพวกนี้ จึงได้เข้าใจว่า...

    อืม... คำว่า "รู้แจ้งแทงตลอด" ไม่ใช่คำที่ คิดขึ้นมาเพื่อยกย่องพระองค์ แต่.. พระองค์ ตรัสรู้ แบบ รู้แจ้งแทงตลอดจริงๆ!

    และสิ่งที่รู้นั้น พระองค์รู้ได้ด้วย "ปัญญา" ล้วนๆ ไม่ได้นั่งๆนอนๆคิดขึ้นมาเอง แต่เป็นความรู้ที่เกิดขึ้นเองด้วยสติปัญญาของพระองค์เอง

    ถ้าคุณเป็นคนขี้สงสัย.. คุณก็มาถูกทางแล้ว.. พระพุทธศาสนา มีสิ่งให้เรียนรู้มากมาย.. คุณไม่จำเป็นต้องไปนั่งอ่านตำราแล้วเลือกว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อ

    คุณแค่.. ปฏิบัติ หาคำตอบ รู้เห็นด้วยตนเอง แล้วคุณจะแปลกใจมิน้อย ที่.. สิ่งที่คุณไปรู้ ไปเห็น ด้วยตัวเอง มันดัน.. ไปตรงกับที่พระพุทธเจ้าท่านได้บอกไว้ (โดยที่เรายังไม่เคยอ่านเรื่องนี้ด้วยซ้ำ ><)

    ไม่เชื่อก็ลองดู ^^ แรกๆจะรู้สึกว่า สนุกดี ตอนหลังจะรู้สึกว่า "ล้ำลึกมากๆ" และตอนสุดท้าย ก็เริ่ม หมดข้อสงสัยในธรรมะของพระองค์ และตอนสุดท้ายจริงๆ ก็ต้องขึ้น status ใน Facebook ว่า.. "ถ้าไม่มีพระพุทธเจ้า มันจะมีใครคิดได้ไหม ว่า ทุกข์ เกิดขึ้นจาก ความอยาก, ความรัก, โลภ, โกรธ, หลง"
     
  12. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    อุปาทานขันธ์ 5 เป็นทุกข์
    เจริญในธรรม ครับ
     
  13. ยมยักษ์

    ยมยักษ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2011
    โพสต์:
    974
    ค่าพลัง:
    +35
    สาธุถือว่าคำตอบ พูดได้ดีทีเดียว
     
  14. AFIKLIFI๋

    AFIKLIFI๋ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    869
    ค่าพลัง:
    +78
    เราเคยคิดเช่นนั้นเหมือนกันว่า เราและเอกภพนี้
    เกิดจากการทดลองของตัวอะไรหรือเปล่าบางครั้ง
    มีระเบิดบางครั้งมีโรคร้ายชนิดใหม่ ทำเพื่อรักษา
    ตัวเองหรือเปล่าและคอยดูวิวัฒนาการของสิ่งที่
    พวกเขาทดลอง อะไรประมาณนี้
     
  15. AFIKLIFI๋

    AFIKLIFI๋ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    869
    ค่าพลัง:
    +78
    เห้นมีหลายคนบอกว่าสิ่งที่เรารับรู้มันเกิดจาก
    เรารับรู้มันเองจากตัวรู้ สิ่งที่เห็นจริงๆนั้นไม่มี
    แต่เรากำลังสงสัยว่า หากมันไม่มีแล้วตัวรู้ที่ว่า
    มันจะรับมาจากไหนได้ล่ะ หรือว่ามันมีการเกิด
    เหตุการ์ต่างๆอยู่แล้ว หากเราไม่รู้ก็ไม่ได้แปลว่า
    มันไม่มี อย่างเอกภพ-จักวาล จริงๆแล้วมันก็มี
    อยู่ของมัน ขอบเอกภพ-จักวาลมันจะมีไม่มีเราก็
    ยังไม่รู้เพราะไม่เห็นแต่วันนึงหากเราไปเห็นว่ามัน
    มีอยู่จริงๆ เราควรเชื่อใช่ไหมว่ามันมี หรือว่าต้องทำ
    ตัวอย่างไรกับการมีและไม่มีสิ่งเหล่านี้
     
  16. COME&Z

    COME&Z เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,144
    ค่าพลัง:
    +234
    อ่านทู้นี้แล้วนึกถึงปรากฏการณ์อย่างนึง
    คิดว่าหลายๆคนก็คงจะเคยเป็นกันนะ
    แบบว่า แบบว่า ที่เราหาของซักอย่างไม่เจอ ทั้งๆที่มันอยู่ตรงหน้าเราอ่ะ แล้วซักพักนึง พอเรานึกขึ้นได้ มันก็โผล่มาอยู่ตรงหน้าเราซะอย่างงั้นแหล่ะ!! ทั้งๆที่ก็หาตรงนั้นหลายทีแล้วก็ไม่เห็น แล้วจู่ๆก็เจอมันอยู่ตรงนั้น ซะงั้น...=_=!
     
  17. เรอเน่

    เรอเน่ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    167
    ค่าพลัง:
    +8
    เพื่อนผมก็เคยพูดทำนองนี้ครับ เช่น อยู่ดีๆ ของในบ้านที่มีก็หายไป อยู่ดีๆ ก็กลับมาวางอยู่ที่เดิม ฟังแล้ว งงมั้ยฮะ?
    ผมฟังเอง ผมงงเองครับ 55+
     
  18. Maria Amari

    Maria Amari สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2011
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +14
    ถ้าหากอยากรู้คำตอบ ถามพระพุทธเจ้าค่ะ ท่านรู้แจ้งเห็นจริง ลองไปศึกษาดู เรื่อยๆ จะพบเห็นความจริงและกลไก ไม่ต้องไปพึ่งหนังสือชาติไหน แน่นอนค่ะ มีครบ และท่านไม่ใช่ผู้โกหกแน่นอนมีแต่ชี้แนวทางความเป็นจริง ขอให้ศึกษาไปอย่างมีสตินะค่ะ และ ตัวของผู้ตอบด้วย ^-^ สู้ๆค่ะ
     
  19. jibakun

    jibakun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2011
    โพสต์:
    350
    ค่าพลัง:
    +204
    ชอบรูปนี้สวยดี
    จิตคนเรานี่ช่างปรุงแต่งซะจริง
    :cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...