ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    อย่าไปเชื่อมั่นในเทคโนโลยีและหลักวิทยาศาสตร์จนลืมตัว !!!

    [​IMG]


    [​IMG]

    เตือนโลก รับมือเผชิญ พายุสุริยะโจมตีครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์

    Mthai news : นักวิทยาศาสตร์ได้มีการเปิดเผยว่า ดวงอาทิตย์ได้ปะทุขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 11-12 ปี กินพื้นที่ขนาดมหึมา โดยจะปล่อยรังสีทำลายล้าง เกิดพายุสุริยะครั้งใหญ่ที่จะโจมตี คลื่นและระบบไฟฟ้า รวมทั้งตลาดหุ้นต่างๆเกิดความปั่นป่วน สัญญาณการสื่อสารต่างๆจะล้มเหลวใช้การไม่ได้ โดยจะใช้ระยะเวลาในการเกิดนานถึง สัปดาห์หรือยาวนานที่สุดอาจนานนับเดือนเลยทีเดียว

    นอกจากนี้ ระบบดาวเทียมสื่อสาร ยังทำให้เครื่องบินไม่สามารถให้บริการบินได้ และทำให้หลายพื้นที่เกิดภาวะไฟฟ้าดับ เครื่อข่ายโทรศัพท์มีปัญหา สร้างความเสียหายแก่มนุษยชนอย่างมหาศาล


    [​IMG]

    ในภาพดวงอาทิตย์ จะเห็นว่ามีพื้นที่ตรงกลางของดวงอาทิตย์ เกิดเป็นสีขาวกินพื้นที่กว้างใหญ่ พายุสุริยะครั้งร้ายแรงกำลังจะเกิดขึ้น โดย กลุ่มนักดาราศาสตร์ก็ได้ออกมาเตือนว่า เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นนี้ มีความร้ายแรงเท่ากับพายุแคทรีนาถล่มสหรัฐที่เคยเกิดขึ้น

    ทั้งนี้ พายุสุริยะ จะปล่อยปะทุพลังงานออกมาภายหลังการส่งคลื่นลำแสงเอ็กซ์เรย์และรังสีอัลตร้า ไวโอเลต เข้าสู่โลกภายในเวลาไม่กี่นาที จากนั้นอีกประมาณ 1-2 วัน โดยพายุจะขับปล่อยพลาสม่าอานุภาพแรงที่สามารรถชนปะทะกับสนามแม่เหล็กโลกด้วย พลาสม่าดังกล่าวจะก่อให้เกิดรังสีที่สามารถกระทบต่อคลื่นไฟฟ้าและสายไฟฟ้า

    เซอร์ จอห์น เบดดิงตัน ที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลอังกฤษ ยอมรับว่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นนี้เราไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่เราต้องให้ความสำคัญกับมัน เพื่อเป็นการเตรียมตัวพร้อมที่จะรับมือกับหายนะที่จะเกิดขึ้น หากมันเป็นไปได้จริงๆ

    อย่างไรก็ตาม พายุสุริยะ เคยเกิดขึ้นทุก ๆ 11-12 ปี จากตัวอย่างในปี 1859 ผลกระทบของมันทำให้เกิดปัญหาในพื้นที่แถบยุโรป และอเมริกา เช่น ระบบโทรเลขลัดวงจร แต่ผลกระทบจะมากน้อยแตกต่างกันไป ซึ่งนักวิทยาศาสตร์หลายคนเชื่อว่า ในอนาคต มันจะเกิดขึ้นถี่และรุนแรงขึ้นเรื่อยๆระหว่างปี ค.ศ. 2012-2013 มวลมนุษย์จะได้รับผลกระทบจากพายุสุริยะคือ ต้องใช้ชีวิตแบบไม่มีไฟฟ้าใช้ ต้องใช้ชีวิตแบบพึ่งพาตนเองนานนับเดือน สร้างความลำบากได้ไม่น้อยทีเดียว

    โดย Mthai news

    ที่มา http://news.mthai.com/headline-news/104209.html
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2012
  2. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ชาวกรุงเก่าผวาเก็บของหนีน้ำหลังเขื่อนระบายน้ำ </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>วันนี้( 7 ก.พ. )ชาวบ้านใน.อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ต้องเก็บสิ่งของที่เอาไว้ใต้ถุนบ้านหนีน้ำที่เอ่อล้นท่วม

    หลังจากเขื่อนต่างๆระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อน นายชัย ทิพย์เกสร อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28 ม.9 ต.หัวเวียง กล่าวว่า ตนเองพร้อมกับเพื่อนบ้านต้องช่วยกันเก็บข้าวของที่เก็บเอาไว้ใต้ถุนบ้านให้สูงพ้นจากน้ำแม่น้ำน้อย ที่เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นใต้ถุนบ้าน. ปกติในเดือนมกราคมน้ำจะต้องแห้งขอดคลอง มาปีนี้น้ำมาไวกว่าทุกปีมาก ใน ต.หัวเวียงเมื่อปีที่ผ่านมา ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 4 เมตร ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมจนถึงเดือนธันวาคม นานกว่า4 เดือน เพิ่งจะทำความสาดบ้านซ่อมแซมบ้านที่ถูกน้ำท่วมได้ไม่ทันเท่าไรน้ำมาท่วมอีกแล้วคงต้องทำใจรับสภาพที่มันเกิดขึ้น


    ด้านนายลำยอง สัญญศาล อายุ71 ปี ชาวบ้าน ม.1 ต.บางนมโค กล่าวว่า ต้องใช้สะพานเดินเข้าออกบ้านหลังจากที่น้ำเพิ่งจะลดระดับลงไปได้1เดือนต้องนำไม้สะพานที่เพิ่งจะรื้อออกไปกลับมาสร้างใหม่อีกครั้ง ตั้งแต่เกิดมา มีปีนี้ที่น้ำเอ่อล้นเข้าท่วมใต้ถุนบ้านแล้ว ปกติน้ำจะมาในช่วงเดือนตุลาคมหรือพฤศจิกายน ตนคงต้องทำใจ.

    <!-- /.content --><!-- START: Facebook Share -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>เขื่อนสิริกิติ์เร่งพร่องน้ำช่วยชาวนา </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>นายธนรัชต์ ภุมมะกสิกร ผู้อำนวยการเขื่อนสิริกิติ์ เปิดเผยว่า เขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์

    ได้พร่องน้ำระบายน้ำลงท้ายเขื่อน เพื่อรอรับน้ำใหม่ที่จะมาในช่วงฤดูฝน ซึ่งใกล้จะมาถึงไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยสัปดาห์นี้ได้ปล่อยน้ำเป็นวันละกว่า 49 ล้านลูกบาศก์เมตรลงท้ายเขื่อน ซึ่งได้กระแสไฟฟ้าต้นทุนต่ำสู่ระบบ ช่วยเหลือเกษตรกรที่ทำนาปรังในภาคกลาง หลังจากหลายๆ จังหวัดประสบกับอุทกภัย ส่งผลให้นาข้าวเสียหายผลิตผลนาข้าวลดลง ดังนั้นเมื่อสถานการณ์คลี่คลายลงชาวนาจึงเร่งทำนาปรังกันกว่า 8 ล้านไร่ โดยปัจจุบันเขื่อนสิริกิติ์เก็บกักน้ำไว้ถึงร้อยละ 84 มีน้ำใช้งานถึง 7 พันกว่าล้านลูกบาศก์เมตร สำหรับระดับน้ำเหนือเขื่อน ขณะนี้อยู่ที่ 153.69 เมตร เหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ 7,478.68 ล้านลูกบาศก์เมตร (78.64%) ปริมาณน้ำพร้อมใช้งาน 4,628.68 ล้านลูกบาศก์เมตร (69.50%) สามารถรับน้ำได้อีก 2,031.32 ล้านลูกบาศก์เมตร ( 21.36%)

    สำหรับการระบายน้ำเพื่อการเกษตร ในวันนี้ ( 6 กุมภาพันธ์ 55) ได้ปล่อยน้ำประมาณ 49 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน

    ซึ่งขณะนี้ได้เดินเครื่องเต็มอัตราอยู่จำนวน 4 เครื่อง โดยได้รับการประสานจากคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทานให้ระบายน้ำเพิ่มขึ้น เพื่อพร่องน้ำตามนโยบายของนายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งการเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนสิริกิติ์ สามารถช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วมภาคกลางและกรุงเทพฯ ได้ระดับหนึ่งแต่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทั้งระบบ เพราะยังมีปัจจัยระดับน้ำฝนที่ตกในลุ่มน้ำยม ลุ่มน้ำวัง และพื้นที่ท้ายเขื่อนด้วย ซึ่งผู้เกี่ยวข้องต้องวางแผนอย่างรัดกุม



    ทั้งนี้ การระบายน้ำจะปรับตามการประสานงานกับคณะกรรมการบริหารน้ำและชลประทาน จะมีการประสานมาเป็นระยะๆ

    ก่อนถึงต้นเดือนพฤษภาคม 2555 ที่เข้าช่วงฤดูฝน จะต้องเหลือน้ำในเขื่อนสิริกิติ์ 45% ของน้ำในเขื่อน พร้อมกันนี้ทางเขื่อนสิริกิติ์ยังเตรียมข้อมูลการบริหารจัดการน้ำ ก่อนที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่ติดตามการบริหารจัดการต้นน้ำในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2555 ด้วย




    ที่มา : สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> น่าน-ประกาศภัยแล้ง 15 อำเภอ </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>วันนี้ 7 ( ก.พ.)นายพงษ์ศักดิ์ วังเสมอ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เปิดเผยว่า

    ขณะนี้จังหวัดน่านได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบพิบัติฉุกเฉินภัยแล้งแล้วทั้งจังหวัด รวม 15 อำเภอ 93 ตำบล 775 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภค จำนวน 216,051 คน ใน 53,183 ครัวเรือน และคาดว่ามีพื้นที่เกษตรกรรมเสียหายจำนวนกว่า 132,259 ไร่ สัตว์เลี้ยงอาทิ โค กระบือได้รับผลกระทบ 1,450 ตัว คิดเป็นมูลค่าความเสียหายเบื้องต้น 59,900,000 บาท ทั้งนี้ได้จัดสรรเงินทดรองราชการในอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด วงเงิน 50 ล้านบาท ให้กับนายอำเภอทุกอำเภอในพื้นที่จังหวีดน่าน เพื่อให้เกิดความรวดเร็วในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งในพื้นที่

    สำหรับพื้นที่ที่ประสบภัยแล้งรุนแรงได้แก่ อำเภอสองแคว,อำเภอท่าวังผา,เมืองน่าน,ปัว และเชียงกลาง และตามลำดับ

    ส่วนสถานการณ์น้ำพบว่าปริมาณน้ำในแม่น้ำน่านและแม่น้ำสาขาต่างๆมีปริมาณลดน้อยลง จนบางจุดสามารถเดินข้ามผ่านได้ขณะที่ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำต่างๆก็ลดระดับลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้แต่ละอำเภอเร่งสำรวจเส้นทางน้ำที่ตื้นเขิน ต้องมีการขุดลอกเส้นทางน้ำและให้ดูแลเรื่องน้ำเพื่อการเกษตร โดยเฉพาะพื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทานในส่วนของน้ำอุปโภค บริโภคได้ให้จังหวัดทหารบกและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ออกแจกจ่ายน้ำ เพื่อการอุปโภคบริโภคให้แก่ราษฎรเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน.<!-- /.content --><!-- START: Facebook Share -->

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>เหยื่อธรณีพิโรธฟิลิปปินส์เพิ่มเป็น 43 ศพ </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>วันนี้ (7 ก.พ.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองดูมากูเต้ ประเทศฟิลิปปินส์ว่า

    ความคืบหน้าของเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง 6.7 ริคเตอร์ นอกชายฝั่งเกาะเนกรอส กับ เกาะเซบู ทางตอนกลางของประเทศฟิลิปปินส์เมื่อช่วงเที่ยงวันจันทร์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เมืองกุยฮุลงัน บนเกาะเนกรอส ซึ่งได้รับความเสียหายมากที่สุด แถลงตัวเลขผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการ 43 ศพแล้ว แต่ก็ยังมีอีกหลายสิบคนที่เชื่อว่าอาจได้รับบาดเจ็บ หรือ ยังสูญหาย บนพื้นที่เขาสูง เนื่องจากเส้นทางถูกตัดขาด เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังเข้าไปไม่ถึง เจ้าหน้าที่ต้องการเครื่องมืออุปกรณ์หนักในการขุดค้นใต้ซากปรักหักพัง เพราะที่มีอยู่ในขณะนี้คือ พลั่วและมือเปล่าเท่านั้น

    สำหรับเมืองกุยฮุลงัน อยู่ห่างจากเมืองดูมากูเต้ ขึ้นไปทางเหนือ 90 กม. เป็นเมืองหลวงของจังหวัดเนกรอส โอเรียนเต็ล

    ส่วนสำนักงานตรวจวัดแผ่นดินไหวของฟิลิปปินส์แจ้งว่า ตรวจวัดแรงสั่นสะเทือนตามหลังแผ่นดินไหว หรือ อาฟเตอร์ช็อก ได้มากกว่า 700 ครั้ง ในช่วง 20 ชั่วโมงหลังเกิดแผ่นดินไหวครั้งแรก ซึ่งทางสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.8 ริคเตอร์

    ขณะเดียวกัน ที่กรุงมะนิลา สำนักงานวิบัติภัยแห่งชาติ แจ้งตัวเลขผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการที่ 15 ศพ สูญหาย 29 คน และ บาดเจ็บ 52 คน แต่ก็ยอมรับว่า ยังต้องตรวจสอบรายงานความเสียหายเพิ่มเติมอีก จากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น

    สำหรับเมืองเซบูของฟิลิปปินส์ ถือว่าเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ มีประชากร 2.3 ล้านคน

    เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของฟิลิปปินส์ด้วย ห่างจากจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวเพียง 50 กม.เท่านั้น ทำให้อาคารบ้านเรือนสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต


    <!-- /.content --><!-- START: Facebook Share -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>หนาวจัด!อังกฤษระงับ200เที่ยวบิน </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>6 ก.พ. 55 เว็บไซต์แท็บลอยด์ เดลี่เมล ของอังกฤษ รายงานว่า อังกฤษเผชิญหิมะตกหนัก และอากาศเย็นจัดถึงจุดเยือกแข็ง ขณะที่อีกหลายส่วนของสหราชอาณาจักร จะเผชิญกับความหนาวเย็นในยามค่ำคืนต่อไปจนถึงวันพฤหัสบดี ที่อาจจะเกิดอันตรายต่อการเดินทาง <!-- inside news --><!-- Insidenews -->

    อุณหภูมิในพื้นที่ทางตะวันออก , ตะวันออกเฉียงใต้ของอิงแลนด์และสก็อตแลนด์ อยู่ระหว่าง 0 - ลบ 16 องศาเซลเซียส

    หิมะที่ตกหนากว่า 6 นิ้ว เป็นอุปสรรคต่อการจราจรในหลายส่วนของประเทศ รถยนต์ราว 100 คัน ติดอยู่บนถนนหมายเลขเอ็ม 40 นานนับชั่วโมง ก่อนจะเคลื่อนตัวได้อย่างช้า หลังจากรถกำจัดหิมะเข้าไปช่วยเคลียร์หิมะออกจากถนน ส่วนถนนหมายเลข เอ็ม 45 เต็ม ไปด้วยรถที่ต่อกันเป็นทางยาว เที่ยวบินหลายร้อยเที่ยวถูกยกเลิก การบริการรถไฟและรถไฟฟ้าถูกรบกวนอย่างหนัก


    สำนักงานพยากรณ์อากาศของอังกฤษ รายงานว่า เกิดหิมะตกหนักในสก็อตแลนด์ , ตอนเหนือของอิงแลนด์ และแถบมิดแลนด์

    ก่อนจะไปตกที่ลอนดอน และอีสต์ แองเกลีย พร้อมประกาศเตือนในระดับสีเหลือง ให้ประชาชนระมัดระวังถนนที่น้ำแข็งจับ ขณะที่พื้นที่ส่วนใหญ่ของอิงแลนด์ ถูกเตือนภัยในระดับที่ 3 ที่มีความเป็นไปได้ 100 เปอร์เซ็นต์ว่า จะเผชิญอากาศหนาวจัดรุนแรงและน้ำแข็งจับ


    เจ้าของรถคันหนึ่ง เปิดเผยต่อสำนักข่าว BBC ว่า ต้องติดอยู่บนถนนนานถึง 7 ชั่วโมงครึ่ง

    และต้องขับรถไปจอดไว้ข้างถนน เจ้าของรถอีกคันหนึ่ง ได้แสดงความไม่พอใจที่ไม่ได้รับทราบข่าวสารจากทางการ ผู้ขับขี่ยวดยานหลายคน ไม่ได้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ที่เลวร้ายขนาดนี้มาก่อน สถานการณ์ยิ่งอันตราย เมื่อพบว่า มีรถบรรทุกขนาดใหญ่จอดกีดขวางถนน ในอีสต์ซัสเซ็กซ์


    สำนักงานควบคุมการจราจรบนทางหลวง ระบุว่า ได้กำจัดหิมะออกจากถนนแล้ว

    แต่อุณหภูมิระดับจุดเยือกแข็งยังแผ่ปกคลุมในหลายพื้นที่ ทางเจ้าหน้าที่ได้เร่งกำจัดหิมะและนำเกลือไปโรยตามถนนหลายแห่งตลอด 24 ชั่วโมง และได้เตือนให้ผู้ขับขี่ระมัดระวังบริเวณที่เป็นเนิน , ทางโค้ง และบริเวณที่ต้นไม้ยื่นออกมา ซึ่งจะเสี่ยงให้เกิดอุบัติเหตุ


    การให้บริการรถไฟฟ้าต้องถูกระงับ หรือไม่ก็ถูกรบกวนให้ล่าช้า สายเซ็นทรัลต้องหยุดกลางคัน


    และปล่อยให้ผู้โดยสารต้องลงเดินตามรางรถไฟไปยังสถานีต่อไป ส่วนสนามบินฮีทโธรว์ ต้องยกเลิกเที่ยวบินครั้งที่ 3 ในวันเดียว เพราะสภาพอากาศเลวร้ายสุดขีด สายการบิน BAA ของสเปน ประกาศระงับเที่ยวบิน 30 เปอร์เซ็นต์ ที่สนามบินฮีทโธรว์ หรือประมาณ 200 เที่ยว ทำให้นักเดินทางราว 18,000 คน ต้องยกเลิกหรือหาเที่ยวบินใหม่ ซึ่งต่างจากสายการบินอื่นของยุโรปที่ยังคงให้บริการเที่ยวบินปกติ โดยเที่ยวบินในเมืองมิวนิคของเยอรมนี ไม่ได้ถูกยกเลิก แม้ว่าอุณหภูมิจะลบ 27 องศาเซลเซียส มาตั้งแต่วันศุกร์


    BAA ได้ติดต่อไปยังนายเอ็ดเวิร์ด ลิสเตอร์ หัวหน้าคณะทำงานของนายบอริส จอห์นสัน นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน เพื่อชี้แจงเหตุผลที่ต้องยกเลิกเที่ยวบินบางส่วน ที่สร้างความไม่พอใจให้กับนักเดินทางอย่างมาก โดยอ้างเหตุผลหลักว่าเพราะหมอกลงจัด ส่วนสนามบินแก็ตวิคยังอยู่ระหว่างรอการตัดสินใจว่า จะมีการยกเลิกเที่วบินหรือไม่


    สนามบินเพรสต์วิคและเอดินเบอะระ ในสก็อตแลนด์ ยังคงให้บริการเที่ยวบินปกติ ขณะที่ไอร์แลนด์ ต้องยกเลิกเที่ยวบินจำนวนมากเมื่อวานนี้ และคาดว่าจะต่อเนื่องจนถึงวันนี้ สายการบินแอร์ ลิงกัส ยกเลิกเที่ยวบิน 22 เที่ยว ระหว่างไอร์แลนด์และสหราชอาณาจักร


    ด้านผู้บริหารสนามบินในยุโรปอื่น ๆ ต่างมั่นใจว่าจะรับมือกับหิมะที่ตกหนักและน้ำแข็งจับเช่นที่เยอรมนีไม่มีการยกเลิกเที่ยวบิน

    นอกจากสนามบินในมิวนิคแล้ว สนามบินในเบอร์ลิน แฟรงค์เฟิร์ต โคโลญจน์ ดุสเซนดอร์ฟ และสตุ๊ทการ์ท ก็ยังให้บริการปกติเช่นกัน เนื่องจากสนามบินส่วนใหญ่ในยุโรป มีเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูงในการกำจัดหิมะดีกว่าสนามบินฮีทโธรว์ เพราะมีการลงทุนจำนวนมหาศาลไปกับการซื้อเครื่องจักรและเครื่องมือกำจัดหิมะมาสต็อคไว้จำนวนมาก


    สวิตเซอร์แลนด์ , นอร์เวย์ , ฝรั่งเศส , เดนมาร์คและเบลเยียม

    ซึ่งเผชิญหน้ากับอากาศหนาวที่มาจากไซบีเรียและอุณหภูมิลดต่ำกว่าศูนย์องศาเซลเซียส ยังคงให้บริการเที่ยวบินปกติ หน่วยงานรับแจ้งเหตุฉุกเฉินของอังกฤษ ทั้ง AA และ RAC ต่างเตือนให้ประชาชนอยู่ในบ้านเพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรที่ติดขัด ซึ่ง AA ได้รับโทรศัพท์ร้องเรียนมากกว่า 15,000 สาย เมื่อวันอาทิตย์ มากกว่าเมื่อวันเสาร์ถึง 2 เท่า


    กระทรวงขนส่ง ระบุว่า มีกรวดที่ใช้ในการโรยหิมะมากถึง 2.4 ล้านตัน มากกว่าเมื่อปีที่แล้วถึง 1 ล้านตัน และจะไม่ขาดแคลนเหมือนที่แล้ว ๆ มา


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    MThai News : สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า เกิดปรากฏการ์ณหิมะตกในหลายเมืองของลิเบีย แอฟริกาเหนือ
    ทั้งนี้ อาคารบ้านเรือนในเมือง Gharyan ซึ่งห่างจากกรุงทริโปลิ ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 70 กิโลเมตร ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะหนาทึบตั้งแต่เมื่อวานนี้ ทำให้การจราจรทั้งทางบกและอากาศต้องชะงักงัน ส่งผลให้สนามบินต้องปิดให้บริการชั่วคราว นับเป็นปรากฎการณ์ไม่ค่อยได้เห็นมาก่อน
    อย่างไรก็ตามสำนักอุตุนิยมวิทยาลิเบีย คาดว่าสภาพอากาศจะหนาวจัดต่อเนื่องไปจนถึงวันศุกร์นี้
    Mthai News
    [​IMG]
    เกาะติดทุกข่าวเด่น ประเด็นร้อน ในรอบวันกับ Mthainews บน facebook คลิ๊กเลย
    ติดต่อทีมข่าว MThai News : news@mthai.com
    <IFRAME height=270 src="http://www.dailymotion.com/embed/video/xoelr0" frameBorder=0 width=480></IFRAME>
    [ame="http://www.dailymotion.com/video/xoelr0_raw-video-rare-snowfall-in-libya_news"]Raw Video: Rare Snowfall in Libya - Video Dailymotion@@AMEPARAM@@http://www.dailymotion.com/swf/video@@AMEPARAM@@video[/ame] by associatedpressแท็ก : ลิเบีย, หิมะตก


    [​IMG]
    MThai News : สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่าคณะนักวิจัยนานาชาติเผยการค้นพบ ซากฟอสซิลของสัตว์หลายชนิดที่วนอุทยานแห่งชาติอีโตชา ทางตอนเหนือของประเทศนามิเบีย ในแอฟริกา จากการตรวจสอบพบว่า เป็นซากสัตว์เก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยมีการค้นพบในโลก มีอายุระหว่าง 760-550 ล้านปี ซึ่งซากฟอสซิลที่เคยพบมานั้นมีอายุระหว่าง 650-600 ล้านปีเท่านั้น
    ทั้งนี้ นักวิจัยพบซากฟอสซิลสัตว์ขนาดเล็ก มีลักษณะเหมือนฟองน้ำ รูปทรงคล้ายแจกัน ซึ่งพกวเขาเรียกมันว่า โอตาเวีย แอนติคิว ซึ่งการค้นพบครั้งนี้ยังหมายถึงว่าซากฟอสซิลเหล่านี้คือบรรพบุรุษของมนุษย์เรานั่นเอง
    ด้านนายโทนี่ ฟราฟ นักธรณีวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยเซนต์แอนดรูว์ ในสกอตแลนด์ หนึ่งในทีมวิจัยกล่าวว่า ฟอสซิลที่พบชุดนี้เป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า สัตว์อาจถือกำเนิดบนโลกมาตั้งแต่ 760 ล้านปีก่อน ตรงกับสมมุติฐานของนักพันธุกรรมวิทยาที่ใช้ นาฬิกาโมเลกุล หาอายุของพืชและสัตว์ ด้วยการจำแนกอัตราความแตกต่างทางพันธุกรรม
    Mthai News
    [​IMG]
    เกาะติดทุกข่าวเด่น ประเด็นร้อน ในรอบวันกับ Mthainews บน facebook คลิ๊กเลย
    ติดต่อทีมข่าว MThai News : news@mthai.com
    [​IMG]
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กุมภาพันธ์ 2012
  4. ARUNN

    ARUNN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    230
    ค่าพลัง:
    +296
    ล่าสุึด คุณ interpoo ที่ฝันแม่นมากๆๆ

    7 กพ. ฝันอีกแล้วว่านิวซีแลนด์ อินโด แผ่นดินไหวโบสถ์ถล่ม เกิดสึนามิทางใต้ ใหญ่กว่าเดิม เป็นวันอาทิตย์

    หวังว่าไม่จริงนะ

    อยู่ในกระทู้ เรื่องจริงของฉัน... เสิชดูนะ

     
  5. k_isara 1

    k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
    8 ก.พ. 55

    13 เม.ย. 51 น้ำ กบ ปลั๊กไฟฟ้าสูงห้าเมตร
    น้ำ คือ น้ำ
    กบ คือ ผู้มีชื่อเสียง (หาดูคำแปลจากคำแปลทำนายฝัน)
    ปลั๊กไฟฟ้าสูงห้าเมตร (ย้ายตามความสูงของน้ำ)

    ดูเรื่อง เก่าๆ ที่เล่า
    น่าเศร้า ความสูง ห้าเมตร
    มาจริง คงจะ ปวดเฮด
    จะเมด อย่างไร กันดี?

    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน<!-- google_ad_section_end -->
    <HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1>Last edited by k_97; วันนี้ at 04:54 PM.
     
  6. nashkin

    nashkin สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +2
    มาดูว่านักวิทยาศาสตร์ฝรั่งเค้าวิเคราะห์สถาณการณ์กันยังไงบ้างคับ

    นักวิทยาศาสตร์รัสเซียคาดการณ์ว่าแอตแลนติคเหนือเป็นจุดเริ่มต้นที่อันตรายที่สุดที่จะเกิดในปี2012

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=qfX_7BAD7GM&sns=em]Тектонические разломы и климат Земли - YouTube[/ame]


    นักวิทยาศาสตร์รัสเซียคาดการณ์ว่าlithospheric platesจะเริ่มขยับในปี2012หลังจากโดนอัดสั่งสมมานาน จุดเกิดจะอยู่ตรงกลางระหว่างอเมริกาและยุโรป, ศาสตราจารย์วลาดิเมียร์ ตรีฟาโนฟ(Vladimir Trifonov) ผอ.สถาบันธรณีวิทยาศาสตร์แห่งรัสเซียกล่าวว่า "อย่างที่ทุกคนทราบ ว่าแผ่นเปลือกโลกมันหลับอยู่ร้อยปี หรือพันปี และมันจะตื่นเมื่อไหร่ก็ได้ ซึ่งจากผลวิจัยของสถาบันทำให้คาดการณ์ได้ว่า มันน่าจะตื่นในปี2012, รอยเลื่อนแอตแลนติคเหนือจะกระดกขึ้นก่อน หลังจากนั้นจะเกิดซึนามิยักษ์สูง60เมตร วิ่งด้วยความเร็วดั่งเครื่องบินพุ่งเข้าหาอเมริกาตะวันออก และเพียงไม่กี่นาทีคลืื่นจะซัดไปถึงเทือกเขาAppalachian แถบนิวยอร์ค บอสตัน แบลติมอร์ วอชิงตันดีซี จะหายเกลี้ยง, ยุโรปก็โดนกันถ้วนหน้า โดยเฉพาะ สเปน ฝรั่งเศส เยอรมันนี เนเธอร์แลนด์จะจมน้ำครบ รัสเซียก็โดน หนักๆจะเป็น คาลินินกราด และเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และมันจะลุกลามไปถึงแผ่นเปลือกโลกอื่นๆ ซึ่งจะส่งผลกระทบไปทั่วโลก"

    อันนี้ไม่ได้มาโพสท์ให้ตะหนกนะคับ ไม่มั่ว ไม่โม้ ไม่สร้างกระแส ให้เพื่อนรัสเซียนั่งแปลเป๊ะๆ, เพียงแต่เอามาให้ดูว่าฝรั่งแต่ละชาติเค้าวิจัย-วิเคราะห์อะไรกันบ้างเพื่อเป็นข้อมูลเฉยๆ (แต่กว่าจะเขียนกระทู้เล็กๆแค่นี้เสร็จแทบบ้า ไฟดับ เน็ตหาย ไอแพทแฮงค์ น้ำร้อนลวก เซ็ง)
    ขอบคุณครับ
    ป.ล : ขอบคุณข้อมูลดีๆจากกัลยาณมิตรทุกๆท่านครับโดยเฉพาะลุงk_97ครับ เลยอยากถามลุงว่าเมษาฯนี้ลุงเคลื่อนพลวันไหนอ่ะครับ? ผมจะได้ใช้ฤกษ์นั้นเคลื่อนพลของผมบ้างเพื่อความเป็นศิริมงคลแห่ะแห่ะ ขอบคุณครับ
     
  7. ANAN JANG

    ANAN JANG เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    544
    ค่าพลัง:
    +175
    ขอบคุณในข้อมูลครับ เพราะมีญาติอยู่นิวยอร์คซะด้วยย ><
     
  8. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    MThai News : เป็นกระแสที่ถูกวิจารณ์และพูดถึงเป็นอย่างมากในโลกออนไลน์ หลังสมาชิกเว็บพันทิพย์ที่ใช้ชื่อว่า SRJ ได้โพสรูปตัวเองในท่าจับนมพระพุทธรูป ที่ จ.อยุทธยา ซึ่งเขาโพสในห้องกล้องของเว็บไซต์
    หลังจากภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้สมาชิกในเว็บบอร์ดหลายคนต่างกล่าวตำหนิถึงความไม่เหมาะสม และเป็นการลบหลู่ศาสนา ซึ่งกระทู้ภาพดังกล่าวกลายเป็นกระทู้เดือดของพันทิพย์ จนถูกลบออกไป
    [​IMG]
    แต่หลังจากนั้น SRJ ได้นำภาพดังกล่าวมาโพสในเว็บไซต์ ที่เขาเองเป็นผู้ดูแล(Adminstrator) อยู่ด้วย โดยตั้งหัวข้อภาพว่า “ถ่ายรูปยังไง สร้างแรงกระทบได้แรงสุด ๆ มั่งหว่า” ทำให้มีผู้เข้ามาแสดงความเห็นเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่ต่างไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว บางความเห็นกล่าวว่า
    “ต้องการอะไรจากการกระทำแบบนั้น เรียกร้องความสนใจหรอ…….คุณถือว่าเป็นอันตรายต่อสังคมนะครับ…ไม่ใช่เพราะถ่ายรูปแล้วแสดงกริยาเช่นนนั้น แต่คุณเป็นอันตรายด้านความคิด ในอนาคตคุณอาจจะทำอะไรที่มันเลวร้ายและเป็นอันตรายมากกว่านี้อีก…สรุปต้องฆ่าทิ้งสถานเดียว”
    “คุณควรจะใช้ความคิดมากกว่าหน่อยนะ ทำอะไรลงไป คิดซะบ้างว่ามันเหมาะสมหรือไม่
    สมองมี อยากให้ใช้คิด ใช้ทำในเรื่องดี ๆ ไอ้เรื่องไม่ดี ๆ น่ะ คิดได้แต่ไม่ต้องทำหรอก
    มนุษย์กับสัตว์มันต่างกันตรงจิตสำนึกนี่ล่ะ”
    “ไม่เคารพความเชื่อคนอื่นไม่พอ นี่ไม่เคารพในสมบัติส่วนรวมของชาติอีกด้วย
    จะไม่รู้สึกสำนึกอะไรบ้างเลยหรือ?”
    อย่างไรก็ตาม SRJ ยังได้โพสแสดงความเห็นในกระทู้ดังกล่าวว่า
    “จากถ่ายรูปเล่นกับเศษอิฐเศษปูน กลายเป็นไปถ่ายรูปเล่นบนกบาลหลาย ๆ คนเลยวุ้ย”
    Mthai News
    [​IMG]
    เกาะติดทุกข่าวเด่น ประเด็นร้อน ในรอบวันกับ Mthainews บน facebook คลิ๊กเลย
    ติดต่อทีมข่าว MThai News : news@mthai.com
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    แท็ก : จับนมพระพุทธรูป, ถ่ายภาพจับนมพระพุทธรูป



    [​IMG]
    MThai News : สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ของวันจันทร์ที่ผ่านมา เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านของนายสือซาน คนเลี้ยงหมู ในมณฑลเหอหนาน ประเทศจีน ขณะที่เขาออกไปทำธุระข้างนอก เพลิงได้เผาทำลายเงินเก็บกว่า 130,000 หยวน (620,000 บาท) ที่เขาเก็บหอมรอมริบมากว่า 6 ปีวอดจนหมด
    โดยเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ เกิดจากการลืมถอดปลั๊กผ้าห่มไฟฟ้าส่งผลให้เกิดไฟช็อต นายสือเล่าว่า เงินดังกล่าว เป็นรายได้ทั้งหมดที่ได้มาจากการเลี้ยงหมู เขาเก็บเงินทั้งหมดโดยไม่เคยฝากธนาคาร ทั้งยังกินอยู่อย่างมัธยัสถ์ แม้แต่เสื้อผ้าใหม่ก็ยังไม่เคยซื้อ แต่ไฟไหม้ครั้งนี้ทำให้เขาไม่มีเงินพอจะไปซื้ออาหารหมูด้วยซ้ำ
    ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อนายสือนำซากเงินที่เหลือไปแลกกับธนาคารทางธนาคารยังปฏิเสธรับแลก เนื่องจากธนาคารถือว่าธนบัตรเหล่านี้ได้ถูกทำลายไปแล้ว
    Mthai News
    [​IMG]
    เกาะติดทุกข่าวเด่น ประเด็นร้อน ในรอบวันกับ Mthainews บน facebook คลิ๊กเลย
    ติดต่อทีมข่าว MThai News : news@mthai.com
    [​IMG]
    นายสือกับกล่อง ซากธนบัตรที่ถูกไฟไหม้
    [​IMG]
    [​IMG]



    [​IMG]
    เว็บไซต์เดลี่เมล์ได้เผยภาพสุดอัศจรรย์ของน้ำตกหูโข่ว น้ำตกขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2ของจีน ที่เปลี่ยนสภาพจากสายน้ำธรรมดากลายเป็นน้ำแข็ง ภายหลังจีนประสบกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นไม่ต่างจากแถบประเทศยุโรป
    โดยพื้นที่ดังกล่าวมีอุณหภูมิติดลบถึง 10องศาเซลเซียล ทั้งนี้มีการคาดการณ์ว่าปรากฎการณ์ดังกล่าวเป็นผลมาจากลมหนาวที่พัดผ่านทางตอนใต้ของจีนได้ผสานกับความชื้นในอากาศที่เพิ่มสูงขึ้นจึงทำให้สายน้ำเกาะกันเป็นน้ำแข็งอย่างรวดเร็วนั่นเอง
    อย่างไรก็ดีเมื่อภาพดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไปก็ทำให้มีนักท่องเที่ยวแห่ไปชมเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ละอองน้ำกระทบกับแสงแดดปรากฎเป็นสายรุ้งสีสวย สร้างความประทับใจได้เป็นอย่างดีทีเดียว.
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG] น้ำตกหูโข่ว ช่วงฤดูร้อน
     
  9. ANAN JANG

    ANAN JANG เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    544
    ค่าพลัง:
    +175
    จะว่าสวยก็สวยนะน้ำตก ++
     
  10. kountee

    kountee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    117
    ค่าพลัง:
    +166
    ฝนเลือดจะมาในไม่ช้าเป็นแน่คงเร็วๆนี้..เตรียมเข้าป่ากันเถอะ...คนป่วย....สังคมป่วย.....โลกป่วย...หายารักษาไม่มีเพราะมันรักษาไม่ได้...ส่วนผมพร้อมตายทุกลมหายใจเพราะตอนนี้ใจผม..รอบกายทางสังคม..ล้วนมีภัยต่างๆมากมายรอบกาย...บางทีมาไม่ทันตั้งตัว..ตั้งสติ..มาเงียบๆ..มันซัดเข้าเต็มๆ...สติผมหลุดเสมอมาตลอดที่ผ่านมาแต่เริ่มดีขึ้นมากมันเกี่ยวกับการเปลี่ยน DNA หรือไม่อันนี้ผมไม่ทราบแต่ที่รู้..สติผมเริ่มนิ่งมากขึ้น..คงเป็นเพราะมันเห็นความจริงหลายอย่างบนโลกที่ผู้อ่านไม่เห็นหน้าไม่รู้ใจผู้เขียน ผู้เขียนก็เช่นกันไม่เห็นไม่รู้ใจผู้อ่าน...

    กรรมมองไม่เห็นมันเลยไม่รู้ว่ามีจริง..ขอเวลาอีกนิดคงได้เห็นตัวกรรมเป็นยังไง
     
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    "เจอร์นีย์ 2"
    ภาพยนต์ที่สื่อถึงภัยพิบัติ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต?

    [​IMG]

    ถ้าท่านกำลังมองหาภาพยนต์ที่สื่อถึงเรื่องภัยพิบัติ ที่เหมาะสำหรับบุตรหลานของท่าน ก็ต้องภาพยนต์เรื่อง เจอร์นีย์ 2 นี่เลยครับ เพราะเป็นภาพยนต์ที่ดูสนุก ดูได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ได้ทั้งสาระและความบันเทิง อีกทั้งยังสื่อถึงภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตได้หลายอย่าง เช่น แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด(พูดถึงภูเขาทองคำซะด้วย) เกาะทั้งเกาะกำลังจมน้ำทะเล และพูดถึงสิ่งเหนือธรรมชาติต่างๆ ที่จะมาช่วยให้รอดจากภัยพิบัติ เช่นผึ้งยักษ์ เรือดำน้ำนอติลุต(อันนี้น่าจะเทียบได้กับยานอวกาศของมนุษย์ต่างดาว)

    ท่านสามารถสอนบุตรหลานของท่าน ให้ทราบถึงภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตนี้ว่าคล้ายกับสิ่งที่ได้ดูจากภาพยนต์เรื่องนี้ จะช่วยให้บุตรหลานของท่านตระหนักถึงเรื่องของภัยพิบัติได้เป็นอย่างดี และการช่วยเหลือซึ่งกันและกันเท่านั้น จึงจะสามารถทำให้เรารอดจากภัยพิบัติครั้งนี้ไปได้ เจอร์นีย์ 2 เรื่องนี้จึงเป็นภาพยนต์ที่เหมาะสำหรับตัวท่านและบุตรหลานของท่าน ในช่วงเวลาแห่งภัยพิบัติ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2012
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    การขายวิญญาณให้กับซาตานของคนในยุคปัจจุบันนี้

    [​IMG]

    ได้ยินว่า สมัยนี้มีการขายวิญญาณให้ซาตานได้ด้วย แบบว่าไปทำสัญญากับซาตาน ให้ซาตานช่วย ชึ่งซาตานก็ยินดีทำให้อยู่แล้ว พอสำเร็จ ซาตานก็เอาชีวิตไป บางคนก็ยอมขายวิญญาณให้ซาตาน เพื่อแลกกับความสุขชั่วคราวในโลกนี้ แต่ต้องพินาศนิรันดร์ในนรก

    โดยคุณ Always Waiting For You

    อันที่จริงเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ (ภายใต้ดวงอาทิตย์) จำได้ลาง ๆ ว่ามีวรรณกรรมอมตะทางตะวันตกเรื่องหนึ่ง พูดเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อน ที่ทราบเพราะตอนสมัยเรียนมีโอกาสได้อ่าน เป็นคล้ายนิยายสอนชีวิต

    สำหรับทางพระคัมภีร์แล้วก็สามารถเปรียบเทียบกับเรื่อง "มารผจญ" ในมัทธิวบทที่ 4 หากพระเยซูยอมทำตามสิ่งที่มารซาตานยื่นข้อเสนอให้ ก็เท่ากับการขายวิญญาณ เพราะต้องก้มกราบนมัสการมัน ดังนั้น เมื่อมองกลับมาในแง่ของชีวิตความเป็นจริง ชีวิตประจำวันเราก็มีโอกาสขายวิญญาณให้มารซาตานได้ ในแง่ของการเลือกความสุขในโลกนี้(โดยการรับสินบน และยอมทำตัวเป็นผีโม่แป้ง) ทั้งที่รู้ว่าผิดน้ำพระทัยพระเจ้า

    โดยคุณ ลางลาง


    หมายเหตุ

    สินบน คือ การให้สิ่งใดสิ่งหนึ่งซึ่งมักเป็นของที่รับรู้ทั่วไปว่ามีคุณค่าหรือมีมูลค่า กับบุคคล/กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเพื่อการจะทำ/ละเว้นการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อตนเอง โดยอาจไม่คำนึงถึงหลักความถูกต้อง จริยธรรม หลักปฏิบัติ หรือข้อกฎหมายที่มีอยู่
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กุมภาพันธ์ 2012
  13. kowmoo

    kowmoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    331
    ค่าพลัง:
    +1,896
    น้ำท่วมแล้วจ้า ทรงวาดน้ำมาเพียบเลย คลองสานน้ำก็ท่วม สมมุตว่าฝนไม่ตกจริง น้ำปล่อยจนเกือบแห้งจะทำไงโนะ จบรายงานจร้า
     
  14. ANAN JANG

    ANAN JANG เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    544
    ค่าพลัง:
    +175
    น้ำทะเลหนุนป่าวครับ++
     
  15. Aqua-ma-rine

    Aqua-ma-rine เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,242
    อ. ธนวัฒน์ ภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ บอกว่า ตอนนี้โลกอยู่ในยุคน้ำแข็งละลาย ที่จริงโลกมันมีวงจรอย่างนี้สลับกันตามปกติตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ แต่ยุคหลังปฏิวัติอุตสาหกรรม คนเราทั้งสูบ ดูด ขุด พลังงานฟอสซิลจากใต้ดิน ใต้ทะเล มาใช้มากเกิน ไอร้อนจากพลังงงานที่ถูกเผาไหม้ ก็ขึ้นไปรมบนชั้นบรรยากาศ นึกภาพหม้อดินที่มีผ้าปิดฝาหม้อนะ ยิ่งเพิ่มความร้อนให้โลกกว่าเก่า

    [​IMG]

    ร้อนต่อเนื่องนานไป น้ำแข็งขั้วโลกก็ละลาย ไหลลงทะเล ระดับน้ำทะเลก็สูงขึ้น แล้วพากันไหลไปขวางกระแสน้ำอุ่นทางทวีปยุโรป ทางนั้นก็เลยหนาวจัดอย่างที่ตอนนี้เป็นอยู่

    อ. เขียนถึงประเด็นโลกเคยพลิกกลับด้านมาแล้ว ทำให้โลกเจอภัยธรรมชาติอย่างหนักไว้เหมือนกัน

    http://palungjit.org/threads/ขั้วแม่เหล็กโลกพลิกด้าน.325673/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กุมภาพันธ์ 2012
  16. GoonS

    GoonS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    811
    ค่าพลัง:
    +2,682
    ไม่รู้จะคุยในไหนดีเลยคุยในนี้ พอดีอาจารผมพูดไว้อะคับผมเลยสงสัยว่าคนอื่นเห็นอย่างไร

    ว่าจริงหรือเปล่าเรื่องพายุสุริยะ จะทำให้คนที่เห็นๆกันมะวานยังดีๆอยู่ตื่นขึ้นมาเป็นคน
    ใจอมหิต อยู่ดีๆก็กลายเป็นคนชั่ว ประมาณว่าพายุสุริยะมันเป็นประจุบวก
    โดยปกติพลังงานบวกกับลบในโลกมันพอๆกัน เเต่สมัยนี้พลังงานลบมันมากขึ้น
    พอพายุสุริยะซึ่งเป็นประจุบวกพัดเข้ามา ก็จะเข้าสู่โลกมากกว่าเมื่อก่อนเพราะโลก
    มีพลังงานลบของสมช.มากกว่าอดีต เเละเป็นไงมาไงอีกไม่รู้จำไม่ค่อยได้ มันจะเปลี่ยน
    คนที่พลังงานบวกน้อยๆให้กลายเป็นคนชั่ว
     
  17. ANAN JANG

    ANAN JANG เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    544
    ค่าพลัง:
    +175
    ผมว่ามันเกี่ยวกับอารมณ์นะครับคล้ายๆกับอิทธิพลจากดวงจันทร์ (ต้องตั้งมั่นในพรหมวิหาร4อย่างเข้มแข็งซะละ^^)
     
  18. goldbell

    goldbell เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    183
    ค่าพลัง:
    +1,340
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>"ดร.สมิทธ" ชี้ปัจจัยเสี่ยงปี 2012 ไทย-ทั่วโลกเผชิญพิบัติภัยใหญ่ </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>นำข้อมูลความรู้ทางวิทยาศาสตร์ และประสบการณ์ทำงานเตือนพิบัติภัย มาประกาศเตือนผู้คนในสังคมไทยอยู่เสมอๆ ว่า ให้คอยเตรียมความพร้อม อย่าประสาทรับมือกับภัยธรรมชาติใหญ่ๆ สารพัดชนิดที่อาจเกิดขึ้นเหนือความคาดไหม

    เขาไม่ใช่ใครที่ไหน ชื่อนี้คนไทยคุ้นหูกันดี ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการมูลนิธิเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ

    ล่าสุด เมื่อวันที่ 9 ก.พ. ที่ผ่านมา ดร.สมิทธกล่าวในโอกาสเป็นวิทยากรบรรยายให้ความรู้แก่คณะผู้บริหาร ผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยมศึกษาจากทั่วประเทศ และผู้ที่สนใจทั่วไป เกี่ยวกับเรื่อง ภัยพิบัติสึนามิและการเกิดแผ่นดินไหวในประเทศไทย และประเทศใกล้เคียง ที่ห้องประชุมโรงแรมรอยัลภูเก็ต ซิตี้ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ว่า

    เหตุการณ์แผ่นดินไหวในหลายประเทศที่ผ่านมา แม้จะไม่ได้มีสาเหตุมาจากสภาวะโลกร้อน แต่ก็มีแนวโน้มที่ประเทศไทยจะต้องเผชิญกับปัญหานี้เช่นกัน

    เนื่องจากมีการพยากรณ์ว่าในระยะเวลาอันใกล้นี้จะเกิดการเคลื่อนตัวของ "เปลือกโลก" ในมหาสมุทรอินเดียและทะเลอันดามัน ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงก็อาจจะเกิดคลื่นสึนามิในบริเวณภาคใต้ฝั่งอันดามันของไทยขึ้นได้ ดังนั้นการจัดทำระบบเตือนภัยต่างๆ จึงต้องมีการเตรียมพร้อมไว้อย่างดีและประชาชนเองก็ต้องมีความตื่นตัวที่จะเตรียมตัวรับมือกับเหตุการณ์ที่อาจะเกิดขึ้น

    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิดในหลายประเทศนั้น แสดงให้เห็นว่าจุดจบของโลกใกล้เข้ามามากขึ้นทุกที ซึ่งมีสถาบันต่างๆ จากหลายประเทศคาดการณ์ว่าโอกาสที่จะเกิดการล่มสลายของโลกจะเร็วขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้

    นอกจากนี้เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ

    ซึ่งหากเกิดขึ้นใกล้กับประเทศไทยอาจจะทำให้รอยเลื่อนที่มีอยู่ในไทยจำนวน 13 แห่งโดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดรอยเลื่อนด่านเจดีย์สามองค์ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งมีเขื่อนศรีนครินทร์ตั้งอยู่บริเวณรอยเลื่อนดังกล่าว ก่อนเคยมีการเคลื่อนตัวจนทำให้เกิดแผ่นดินไหวขึ้นในอดีต ก็อาจจะได้รับผลกระทบและเกิดขึ้นซ้ำอีกได้

    ดร.สมิทธชี้ว่า สำหรับ "กรุงเทพมหานคร" เมืองหลวงของประเทศไทย มีโอกาสเกิดภัยพิบัติสูงมากเนื่องจาก กรุงเทพฯ ตั้งอยู่บริเวณดินที่มีเนื้อเหลวอ่อน ซึ่งมีการทรุดตัวอยู่ตลอดเวลาหากเกิดแผ่นดินไหวในพื้นที่ใกล้เคียงในระดับ 7-8 ริกเตอร์จะส่งผลกระทบต่อกรุงเทพฯ อย่างแน่นอน

    "ในปี ค.ศ.2012 นี้ (พ.ศ.2555) มีโอกาสสูงมากที่จะเกิดภัยพิบัติครั้งยิ่งใหญ่อาจทำให้เกิดการสูญเสีย และผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้อยากให้ประชาชนทุกคนดำเนินชีวิตอยู่บนความไม่ประมาท" ดร.สมิทธ กล่าว

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  19. ANAN JANG

    ANAN JANG เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    544
    ค่าพลัง:
    +175
    เขื่อนศรีนครินทร์ไม่ต้องเป็นห่วง ดูหลวงพี่เล็กให้ดีๆ ท่านบอกว่าถ้าท่านอพยพ ขอเชิญญาติโยมโกยได้เลย ^^
     
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    สัญญาณเตือนล่วงหน้าของพิบัติภัย เมื่อแกนโลกพลิกเปลี่ยนขั้ว(Pole Shift)

    [​IMG]

    [​IMG]

    มีสัญญาณให้สังเกตเห็นล่วงหน้าประมาณ ๒-๓ สัปดาห์ เบื้องต้นผู้คนทั่วไปสังเกตุเห็นความผิดปกติได้ทั้ง ๓ ระนาบ คือท้องฟ้า พื้นแผ่นดิน และทะเล มหาสมุทร

    ให้สังเกตเห็นสิ่งที่ผิดปกติที่มนุษย์ในรุ่นยุคปัจจุบันไม่เคยเห็นมาก่อน เมื่อสนามแม่เหล็กโลกเริ่มเปลี่ยนแปลงผันผวน แรงโน้มถ่วง ลาวา การเคลื่อนตัวของเปลือกโลก ก็ผันผวนผิดปกติ

    ท้องฟ้า

    ๑. ฟ้าจะคำรามติดต่อกันนานแทบทั้งวัน เพราะการปลดปล่อยประจุไฟฟ้าสถิตย์ในชั้นบรรยากาศที่สะสมมาเนื่องจากสนามแม่เหล็กโลกผันผวนหนัก

    ๒. กลางวันมืดหลายวัน เพราะมีแสงน้อย มีเมฆสีเทาเข้มปกคลุมบังดวงอาทิตย์เป็นเวลานานติดต่อกันหลายวัน

    ๓. เมื่อเข้าถึงเวลากลางคืน ๒ ทุ่ม ถึง ๓ ทุ่ม บางวันก็ยังไม่มืด ยังสว่างเหมือนเวลา๔-๕ โมงเย็นปกติ

    ๔. มองเห็นสิ่งแปลกปลอมบนท้องฟ้า จำพวกวัตถุบินได้ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

    พื้นแผ่นดิน

    ๕. มีสัตว์บางชนิดที่อาศัยใต้ดินลึก ที่มนุษย์ไม่เคยเห็นมาก่อนขึ้นมาให้เห็น รูปร่างหน้าตาสัตว์เหล่านี้ไม่มีในพจนานุกรมสัตว์โลกที่เคยอ่านกัน เพราะไอกำมะถัน ไอร้อนจากก๊าซใต้เปลือกโลกดันตัวขึ้นมา บ้างก็สัตว์บางตัวก็มีชีวิตได้ไม่นาน บ้างก็ขึ้นมาตาย

    ๖. มีแผ่นดินไหวเป็นระลอกใหญ่ ต่อเนื่องกันทุกมุมโลก

    ทะเลมหาสมุทร

    ๗. มีสัตว์บางชนิดที่อาศัยใต้ทะเลมหาสมุทรในระดับที่ลึกมาก ที่มนุษย์ไม่เคยเห็นมาก่อนขึ้นมาให้เห็น รูปร่างหน้าตาสัตว์เหล่านี้ไม่มีในพจนานุกรมสัตว์โลกที่เคยอ่านกัน เพราะไอกำมะถัน ไอร้อนจากก๊าซใต้เปลือกโลกดันตัวขึ้นมา บ้างก็สัตว์บางตัวก็มีชีวิตได้ไม่นาน บ้างก็ขึ้นมาตาย

    ๘. มีแผ่นดินไหวใต้ทะเลระดับที่รุนแรงจนมีซึนามิหลายประเทศในเวลาที่ใกล้เคียงกันหลายจุดในโลก

    แต่อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์เหล่านี้ที่จะเกิดขึ้น อาจจะยังนานอีกหลายปี หรือเป็นระยะเวลาอันใกล้ที่จะถึง ทุกอย่างในโลกล้วนมีความผันแปรไม่มีอะไรเที่ยงแท้ ผู้มีปัญญาควรไม่ประมาทในการใช้ชีวิต ควรศึกษาธรรมะ รักษาศีล ทำทาน มอบความรักเมตตาอารีย์เพื่อนมนุษย์ หมั่นละลดอัตตาตัวตน ดูแลรักษาธรรมชาติให้ดี เพราะสิ่งที่จะเกิดขึ้นดังกล่าว มนุษย์ยุคเราอาจได้เห็น และอยู่ในช่วงเวลาที่จะข้ามผ่านเหตุการณ์เหล่านี้ ด้วยกัน

    เหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นอนาคตโดยลำดับ

    -สงครามสู้รบกลางเมืองปะทะกันทางอุดมการณ์ทางการเมืองไทย
    -สงครามระหว่างประเทศมหาอำนาจแถบเอเชีย ที่ปะทุจากประเทศเล็ก
    และ/หรือ อุบัติเหตุความผิดพลาดจากการทดลอง ทางเทคโนโลยีชั้นสูงที่ควบคุมปฏิกิริยาการแตกตัวไม่ได้แถบยุโรป
    -แกนโลกพลิกเปลี่ยน Pole Shift

    แกนโลกพลิกเปลี่ยน Pole Shift

    โลกมนุษย์คล้ายผลส้มกลมๆ ห่อหุ้มด้วยชั้นบรรยากาศ ที่มองไปแล้วขอบฟ้าห่างเท่ากันรอบทิศ เมื่อจังหวะพลิกเปลี่ยนเป็นเวลากลางวันในเอเซีย จะรู้สึกพื้นที่ยืนอยู่เอียงไปราวๆ 10-15 องศา ท้องฟ้าด้านนึงจะกว้าง อีกด้านตรงข้ามจะแคบ จะสังเกตเห็นได้ชัด แล้วพลิกเอียงกลับระดับเดิม

    ถัดจากนั้นไม่ถึง 5 นาที แผ่นดินไหวรุนแรง ระดับความรุนแรงสูงสุดนี้ไม่เคยมีมาก่อน ศูนย์กลางของแผ่นดินไหว ไม่ได้อยู่แถบเอเชีย

    จังหวะการพลิกเอียงครั้งแรก ทำให้สร้างแรงน้ำในมหาสมุทร ไหลทะลักคืนสู่แผ่นผืนทวีปที่มีระดับความสูงมากกว่าตึก 10 ชั้น แถบพื้นที่ใกล้ทะเลแล้วลดหลั่นไป ตามระยะทางหลายสิบกิโลเมตร แต่เนื่องจากแผ่นดินไหวตามมา จึงทำให้คนตกใจลงมาจากตึกสูง ทำให้เจอกับคลื่นที่ไหลทะลักเข้ามา เขื่อนเก็บน้ำบางแห่งก็แตกมีน้ำทะลักท่วมเข้ามาเสริม

    คนที่รอดจะต้องข้ามผ่านความมืดอีกหลายวัน พร้อมกับความหิว ความตื่นตระหนก ความหวาดระแวง ความกลัว ความเสียใจเสียขวัญ ตาเปล่าสามารถเห็นวิญญาณและสัตว์ร้ายโลกวิญญาณได้บางขณะ บางคนต้องเสียสติจากความสูญเสียความพลัดพรากจากคนที่รัก และความตื่นกลัว... คนที่ครองสติได้ดี คอยดูแลและปลอบประโลมทุกข์โศก ให้แก่คนรอบข้าง ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มพวกที่มีอินทรีย์แก่กล้า ผ่านการเพาะบ่มประสบการณ์ธรรมะมามากแล้ว

    เกือบสัปดาห์ผ่านไป ชีวิตใหม่จึงเริ่มต้นพร้อมแสงสว่าง อากาศบรรยากาศใหม่พร้อมการเปลี่ยนแปลง เชิงชีวภาพของร่างกายคนและสัตว์ ให้อายุยืนยาวกว่ายุคก่อนหน้า ลมหายใจใหม่ ความหวังใหม่ บางเกาะทวีปเล็กที่ผุดขึ้นมาจากแผ่นน้ำใกล้ๆ กลางอ่าวไทย....

    เนื้อหาดังกล่าวมาจากผู้ที่เคยผ่านประสบการณ์ในอดีต ที่มีการเปลี่ยนผ่านในรอบอดีตมาครั้งสองครั้ง เป็นความรู้เพื่อบรรเทาความสูญเสีย และให้พลังในการล่วงรู้เพื่อข้ามผ่านเหตุการณ์อนาคตอย่างมีสติ แต่ปัจจุบันนี้สิ่งที่เกิดขึ้นมีเพียงในกายและจิต ของผู้อ่านเท่านั้น จึงควรฝึกฝนสังเกตตัวนี้ไปก่อน

    [​IMG]

    ภาพจารึกภัยพิบัติของชนพื้นเมืองชาวมายา และเรื่องราวต่างๆศึกษาหาได้จากตำนานของบรรพชนคนโบราณบันทึกไว้ใน เรือโนอาร์(ไบเบิ้ล), ตำนานการหนีน้ำของกิลกาเมซ(เมโส-โปเตเมีย), พระมนู(อินเดีย), ตำนานบันทึกของทวีปมู-รีมูเลีย ซึ่งเป็นช่วงยุคเวลาใกล้เคียงกันคือ ๑๐,๐๐๐-๑๓,๐๐๐ ปีล่วงมาแล้ว

    บทความของคุณ svt จากเว็บธรรมศาลา

    ที่มา http://www.dhammachak.net/board/viewtopic.php?t=475
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กุมภาพันธ์ 2012

แชร์หน้านี้

Loading...