ชี้เป้า : ข้อความที่มนุษย์ค่อนโลกมองข้าม submittal message

ขออภัยที่ต้องตั้งกระทู้ใหม่นะครับ
ข้อความนี้ถูกส่งต่อๆ เกือบสองร้อยปีแล้ว แต่ก็ยังไม่มีใครในที่นี้มองเห็น หรือไม่ก็มองข้ามมันไป แม้กระทั่งตัวเราเอง

ไม่ว่าจะด้วยเหตุบังเอิญหรือตั้งใจ 1 เดือนที่แล้ว เราถูกส่งไปทำงานที่ Barcelona Spain แบบกระทันหัน เหตุนี้เองก็เลยมีโอกาสได้ศึกษาวและเรียนรู้งานของท่าน Antoni Gaudí ด้วยเหตุบังเอิญ

เข้าเรื่องเลยละกัน ท่าน Antoni Gaudí ได้ใช้เมือง Barcelona ฝากข้อความถึงมนุษย์โลกผ่านผลงานการสร้างสรรค์ของเขาแทบจะทุกจุดของเมือง และสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในผลงานของ Gaudí ก็คือ



Sagrada Família

ประตูสู่มิติใหม่

ที่เห็นเป็นยอดแหลม ๆ นั้นแหล่ะครับ Sagrada Família ผมไม่สามารถที่จะไส่รูปที่ถ่ายจากระยะใกล้ๆ ได้เพราะว่ามันมองเห็นเพียงแค่บางส่วนของโบสถ์เท่านั้นเอง (ลองคิดดูสิว่ามันใหญ่ขนาดไหน)

โบสถ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ที่ใช้เวลาก่อสร้างยาวนานถึง 130 ปี และยังไม่แล้วเสร็จในปัจจุปัน โดยเริ่มสร้างตั้งแต่ปี 1882 เป็นต้นมา

สถาปัตยกรรมนของ Sagrada Família อ้างอิงถึงการก่อกำเนิดและเชื่อมต่อกับธรรมชาติทุกชนิด
ทุกชิ้นส่วนของโบสถ์แห่งนี้มีที่มาของมันทั้งสิ้น

เช่น

 

โพสไปแล้วมานั่งอ่านดู มันงงๆ ขอย้อนไปสักนิดนึงละกันนะครับ


ประวัติของ Sagrada Família (ข้อมูลจาก Wiki)

ซากราดาฟามีเลีย (คาตาลัน: Temple Expiatori de la Sagrada Família; สเปน: Templo Expiatorio de la Sagrada Familia หรือ Sagrada Familia) เป็นสถาปัตยกรรมประจำเมืองบาร์เซโลนาในประเทศสเปนที่ออกแบบโดยอันตอนี เกาดี สถาปนิกชาวคาตาลัน เป็นผลงานที่เรียกว่า โมเดิร์นนิสโม เป็นงานศิลปะเฉพาะถิ่นและเป็นอาร์ตนูโวที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
งานชิ้นนี้เริ่มสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2425 มีกำหนดก่อสร้างหอคอยทั้งหมด 18 หอคอย นับตั้งแต่ปีเริ่มสร้างจนถึงปัจจุบันสร้างเสร็จไปแล้วแค่ 8 หอคอย งานคืบหน้าไปประมาณร้อยละ 50 สถาปนิกผู้ออกแบบถูกรถรางทับเสียชีวิตไปเมื่อ พ.ศ. 2469 โดยศพของเขาได้ถูกฝังไว้ในซากราดาฟามีเลียด้วย
แม้เกาดีจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่ผู้ร่วมงานของเขายังคงสานต่อโครงการโดยอาศัยรูปถ่าย ภาพร่าง และแบบจำลองที่เกาดีทำไว้แต่แล้วในปี พ.ศ. 2479 โครงการก็ต้องหยุดชะงักเพราะสงครามกลางเมืองในสเปนห้องใต้ดินและแบบจำลองอย่างละเอียดก็ถูกเผาทำลาย แต่เมื่อสิ้นสุดสงครามทีมงานก็กลับมาทำงานกันต่อ โดยอาศัยภาพร่าง ภาพถ่ายและแบบจำลองอื่น ๆ ที่รอดพ้นจากการถูกทำลาย ภายหลังได้นำคอมพิวเตอร์มาใช้ออกแบบ แต่ถึงจะใช้เทคโนโลยีมากมายมาช่วย กว่าโครงการนี้จะเสร็จก็อีกยาวไกลถึงปี พ.ศ. 2569
ลักษณะเด่นของอาคารแห่งนี้จะสังเกตได้ถึงสีที่ตัดกันของหินด้านหน้าและด้านหลังอย่างชัดเจน และพบรูปแบบการก่อสร้างที่แตกต่างกันระหว่างแบบเก่าและแบบที่สร้างต่อขึ้นไหม่ในปัจจุบัน

นี่คือข้อมูลจาก Wiki

แต่ในความเป็นจริงๆ แล้ว

วิหารนี้เริ่มสร้างเมื่อวันที่ 19 มีนาคม ค.ศ. 1882 เพื่อฝังพระศพ
ของพระคริสต์ ตามความเชื่อของนิกายคาทอลิก เมื่อเริ่ม
ก่อสร้างนั้น มี ฟรานซิสโก เดอร์ พอลล่า เดล วิลยาร์ เป็น
ผู้ออกแบบ และควบคุมการก่อสร้าง โดยตั้งใจว่าจะสร้างเป็น
แบบโกธิคตามแบบฉบับวิหารอื่นๆ แต่ทว่าฟรานซิสทำไป
ได้ปีเดียวก็เลิก จึงเปลี่ยนตัวให้อันโตนิโอ เกาดี้ มาทำแทน

นั่นคือที่มาของ เกาดี้ และ Sagrada Família

 

เกาดี้ ออกแบบให้วิหารนี้โดยมีหอระฆัง 18 หอ โดยให้
ความหมายของ 12 หอ แรกแทนสาวกทั้ง 12 คนของ
พระเยซู ส่วนที่เหลือ อีก 4 หอนั้น ให้เป็นตัวแทนของ ผู้เผยแพร่คำสั่งสอนของพระองค์ และ 2 หอสุดท้ายนั้นอยู่ด้านหน้าสุดเพื่อสดุดีพระแม่มารี และพระเยซู......
ตอนที่เกาดี้สิ้นชีวิตไปนั้นเขาได้สร้างหอระฆังเสร็จ แค่หนึ่งหอ แต่ตอนนี้สานต่อจนได้ถึง 4 หอแล้ว



รูปจากโปสการ์ด คอมพิวเตอร์กราฟฟิตจำลองรูปเมื่อสร้างเสร็จแล้ว

 

ย้อนกลับไปที่ ข้อความแรก

สถาปัตยกรรมของ gaudi ทุกชิ้นมีแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติและเกี่ยวข้องกับมนุษย์โลก ตัวอย่างเช่น

 

รูปทั้งหมดผมใช้โทรศัพท์ถ่ายไม่ได้เรียงรูปมาให้นะและมีบางรูปที่ดึงมาจากเวปอื่นๆ บ้าง

 

ผ่านมาถึงตรงนี้แล้วใครยังมองไม่เห็น message ที่ซ่อนอยู่ ก็ขอให้ใช้ความพยายามอีกสักนิดเถอะครับ

 

แผนที่ message ที่ถูกส่งผ่านผลงานของเกาดี้ถึงชาวโลก





Antonio Gaudí - YouTube